Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Nawin ที่ มีนาคม 10, 2011, 02:13:25
-
(http://upic.me/i/wj/bbkj1.jpg) (http://upic.me/show/21596827)
สวัสดีครับคุณผู้อ่าน Headlightmag ทุกท่านนะครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวชิ้นแรกของผมนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ :D
Generation 1 นั้นทำตลาดในปี 1961 ใช้ชื่อ Pubilca 700 รหัส UP10
ใช้เครื่องยนต์ สูบนอน 2 สูบ 700 cc. ระบายความร้อนด้วย อากาศ รหัส 1U
ต่อมา มาในปี 1962 มีการเพิ่มรุ่น Deluxe โดยเพิ่มเบาะหน้าพับได้ วิทยุ และ แถบโครเมี่ยม ขายควบคู่กับรุ่น Standard
(http://upic.me/i/qp/th_up10voor.jpg) (http://upic.me/show/21590327)(http://upic.me/i/d3/elsb1.jpg) (http://upic.me/show/21590343)
Generation 2 นั้นทำตลาดในปี 1966 ใช้ชื่อ Publica 800 รหัส UP20
ใช้เครื่องยนต์ สูบนอน 2 สูบ คาร์บูเรเตอร์คู่ 800 cc. ระบายความร้อนด้วย อากาศ รหัส 2U
(http://upic.me/i/yb/tuy91.jpg) (http://upic.me/show/21590371) (http://upic.me/i/vj/2f8i1.jpg) (http://upic.me/show/21590374)
Generation 3 นั้นทำตลาดในปี 1969 ใช้ชื่อ Publica 1000 รหัส UP30/KP30
ใน Model นี้ รุ่น Standard ใช้เครื่องยนต์ 2U และรุ่น TOP ใช้เครื่องยนต์ 2K 1000 cc. 4สูบระบายความร้อนด้วยน้ำ
ในปี 1973 ได้มี Minor Change และได้ทำตลาดรุ่น Van รหัส KP36
(http://upic.me/i/dv/zcgi2.jpg) (http://upic.me/show/21590390) (http://upic.me/i/bx/ojsy1.jpg) (http://upic.me/show/21590391)
Generation 4 นั้นทำตลาดในปี 1973 ใช้ชื่อ Publica Starlet รหัส KP47
ชื่อ Starlet เริ่มใช้ใน Model นี้ ครับ ใช้เครื่องยนต์ 2K เหมือนเดิม
(http://upic.me/i/9i/ujwk1.jpg) (http://upic.me/show/21590417)
Generation 5 ก็ใช้ชื่อ Publica Starlet รหัส KP51
(http://upic.me/i/gw/hvdd1.jpg) (http://upic.me/show/21590478)
Generation 6 นั้นทำตลาดในปี 1978 ใช้ชื่อ Starlet รหัส KP60
มีเครื่องยนต์ 3 แบบ คือ 2K 1000cc. 3K 1200cc. และ 4K 1300cc.
(http://upic.me/i/uq/snsj1.jpg) (http://upic.me/show/21590531) (http://upic.me/i/b6/nugi2.jpg) (http://upic.me/show/21590530)
Generation 7 นั้นทำตลาดในปี 1985 ใช้ชื่อ Starlet รหัส EP/NP70
มีเครื่องยนต์ 3 แบบ คือ 1E 1000cc. 2E 1300cc. และ 1N 1500cc. Diesel
ในรุ่นนี้ จะมี รุ่น 1.3S เป็นตัว TOP โดยมี เหล็กกันโคลง, Spoiler และ ภายในสปอร์ต
ส่วนตัวTurbo จะมี 2 รุ่น คือ Turbo S และ Turbo R ใช้เครื่องยนต์ 2E-TELU
แตกต่างกันคือ Turbo R Option น้อยกว่า และไม่มีชุดสปอยเลอร์
รุ่น แรก มีไฟ Spot Light ที่กันชน
รุ่น Minor จะย้ายไฟมาที่กระจัง และเพิ่ม Spoiler บริเวณที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
(http://upic.me/i/4z/h71k3.jpg) (http://upic.me/show/21590627) (http://upic.me/i/v7/oule1.jpg) (http://upic.me/show/21590628) (http://upic.me/i/bp/65va2.jpg) (http://upic.me/show/21590629)
Generation 8 ทำตลาดในปี 1990 ใช้ชื่อ Starlet รหัส EP/NP80
มีเครื่องยนต์ 2 แบบ คือ 4E 1300cc. และ 1N 1500cc. Diesel
ส่วนตัวTurbo จะใช้ชื่อว่า GT Turbo เครื่องยนต์ 4E-FTE ฝาขาว
มี Minor Change ไปใช้ไฟตากลม และเปลี่ยนไฟท้ายใหม่
มี ญาติ ฝาแฝด คือ Sera
(http://upic.me/i/tf/emzc2.jpg) (http://upic.me/show/21590683) (http://upic.me/i/5a/na7m1.jpg) (http://upic.me/show/21590684)
Generation 9 ในปี 1996 ใช้ชื่อ Starlet Glanza รหัส EP90
ใช้เครื่องยนต์ 4E-FE
ตัว Turbo ใช้ชื่อว่า GT Turbo เครื่องยนต์ 4E-FTE ฝาดำ
ตัว Minor ต่างกันที่ กันชนหน้า และ ไฟท้าย
มีญาติ ฝาแฝด คือ Paseo
(http://upic.me/i/q2/ludq1.jpg) (http://upic.me/show/21590716) (http://upic.me/i/lz/t50f2.jpg) (http://upic.me/show/21590715)
Generation 10 ทำคลาดในปี 1996 ใช้ชื่อ Vitz / Yaris รหัส NCP10
มีเครื่องยนต์ 4 แบบ คือ 1.0 VVTI 1.3 VVTI 1.4D4D Turbo และ 1.5 VVTI
Minor Change ปี 2003 ครับ
บ้านเราไม่ได้จำหน่ายฮ๊ะ ^^
(http://upic.me/i/l5/4qf21.jpg) (http://upic.me/show/21590736)
Generation 11 ทำตลาดในปี 2005 ใช้ชื่อ Vitz / Yaris รหัส NCP91
เครื่อง 1.5VVTI 1nz 1.5vvti
(http://upic.me/i/ea/ui611.jpg) (http://upic.me/show/21590773)
_____________________________
(http://upic.me/i/f7/150310_147625265284366_100001106814935_244732_8173936_n.jpg) (http://upic.me/show/21597166)
ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อนตอนผมอายุ 3 ขวบ ถ้าจำไม่ผิด กำลังเล่นปีนประตูบ้านอยู่ ก็เห็นพ่อขับรถเข้ามาจอดในบ้าน แล้วแม่ก็บอกว่า "พ่อๆ เค้าขอขับคันเล็กนะ ^^" รถคันนี้เป็นรถมือ 3 เหตุผลที่พ่อเลือกคันนี้เพราะ ตอนนั้นพ่อกำลังหา astina pop up อยู่ เพราะคิดจะเอามาทำแท็กซี่ขับช่วงเสาร์ - อาทิตย์ ประมาณว่า จ - ศ ทำงานการไฟฟ้าปกติส-อ ขับแท็กซี่ (ขยันเกินไปและ) แต่แล้วก๋มีคนที่ทำงานแผนงเดียวกัน เสนอขายในราคา 2แสน (ประมาณ) พ่อก็เลยตกลงปลงใจกับเจ้านี้ นี้เอง ! หลังจากที่ขาย KE30 ไป ที่บ้านก็เหลือรถอยู่แค่คันเดียว เวลาไปไหนก็ต้องเอาคันนี้ไปไหนก็ต้องเอาคันนี้ไป ไม่ว่าจะเป็น พัทลุง เชียงใหม่ เกาะช้าง ดอยสุเทพ ดอยตุง ดอยอินทนนท์ ก็ไปคันนี้แหละ ถึงจะเตรียมของไปเยอะจนใส่ท้ายรถไม่พอ ก็เอามายัดใส่ในห้องโดยสารจนแถบจะนั่งไม่พอกับจำนวนสมาชิก 4 คน แต่ตอนนั้นตัวยังเล็กๆกันอยู่ จำไม่ได้ว่านั่งสบายหรือป่าว จำได้อย่างเดียวว่า เจ้านี้หน่ะ ไปไหนไปกันจริงๆ ถึกทนและไม่จุกจิก ถึงแรงจะมีไม่มาก แต่ก็ไปจนถึงสูงสุดแดนสยามจนได้แหละ ก็สมัยนั้นเครื่องยังแ่น่นหนิ ถ้าเป็น ณ.จุดๆนี้แหละก็ สตาร์ททีควันจะท่วมบ้านเอา เพราะเครื่องมันก็หลวมหมดแล้ว ตามอายุรถ
(http://upic.me/i/us/100_3935.jpg) (http://upic.me/show/21597167)
สำหรับรถคันนี้ได้เปลี่ยนกันชนหน้า กระจังหน้า และฝากระโปรง เป็นของรุ่น Turbo - S minor change ในภาษาเซียงกงเรียกกันว่า "กันชนตาข่าย กับ กระจังไฟตัดหมอก"
(http://upic.me/i/k1/33590_139226202790939_100001106814935_204762_4834770_n.jpg) (http://upic.me/show/21597092)
มันเก๋เก๋ก็ต้องเนี้ยแหละครับ ไฟตัดหมอกตำแหน่งไม่เหมือนชาวบ้าน มันทำหน้าที่ผ่าหมอกออกไปให้รถคันที่สวนมาเห็นว่า "ตรงนี้มีรถสวนมานะค๊ะ ระวัง !!" มันทำหน้าที่ของมันได้ดีและเหมาะสมในญี่ปุ่น แล้วในประเทศไทยหล่ะ ?? หมอกก็ไม่มี ไม่เห็นจำเป็นต้องเปิดหรอก ปกติก็ไม่ได้เปิดอยู่แล้วเพราะรถคันนี้วิ่งเฉพาะกลางวัน (แอร์ก็ไม่เย็น) เรียกได้ว่าตั้งแต่ซื้อมาใส่ก็แทบจะไม่ได้ใช้งานจริงเลย แต่เก๋ดีเลยเอามาใส่ ^^
(http://upic.me/i/6x/100_3957.jpg) (http://upic.me/show/21596912)
เบาะนั่งด้านหน้าทำได้ไม่ค่อยดีนัก สำหรับเบาะรองนั่งกำลังดีกับประชาชนหุ่นมาตราฐาน แต่พนักพิงห่วยแตกยั่งกะไม่ได้ออกแบบให้คนนั้ง พิงแล้วเกิดอาการปวดหลัง เบาะรถเมล์อีซูซุครีม-แดงยังนั่งสบายกว่าอีก ! (เรื่องจริง) ไม่เป็นไรๆ ไว้ค่อยหา Recaroหมอนตันมาใส่โน๊ะ
(http://upic.me/i/to/100_3974.jpg) (http://upic.me/show/21596919)
เบาะนั่งด้านหลังก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก ทำไงได้หล่ะ รถก็คันตี๊ดเดียวเอง เบาะรองนั่งสั้นและเตี้ย เวลานั่งต้องชันเข่าพอสมควร พนักพิงพิงแล้วไม่ปวดหลัง ทำได้ดีกว่าด้านหน้า เพราะ เป็นเบาะตรงๆ ไม่งอไร้สาระเหมือนเบาะหน้า แต่ไม่มีที่จับบนหลังคา จึงไม่สามารถจะคว้าหรือจับอะไรตรงไหนหากเกิดเหตุการณ์รถบิน และไม่มีพนักพิงศรีษะด้านหลัง เพราะฉนั้น ถ้าโดนชนด้านหลังอย่างรุนแรงก็คอหักตายอย่างเดียวเชียวแหละ ไม่เป็นไรๆ เด๋วค่อยเอาเบาะหลังออกแล้วใส่โรบาร์แทนดีมั้ย จะได้เหมือนรถซิ่ง
(http://upic.me/i/4w/100_3965.jpg) (http://upic.me/show/21596915)
( ปลาตพะเพียนโพยหวย กับ เครื่องรางของขลังไม่ต้องไปสนใจครับ ไม่ได้ทำให้รถแรงขึ้น )
แผงคอนโซลหน้าเรียบๆตามยุคสมัย ใช้งานง่ายแหละสะดวก เพราะ รถคับแคบจับอะไรก็ถึงหมดแหละ ปัจจุบันก็พยายามรักษาความคลาสสิคเอาไว้ด้วยวิทยุหมุนคลื่น แต่กว่าจะหาคลื่นได้ก็....นะ ถ้าเป็นคนอื่นคงถอดทิ้งหมดแล้วแหละ สำหรับเก๊ะใส่ของก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะ20ปีที่แล้ว สาวญี่ปุ่นคงไม่มีของอะไรเยอะแยะมากมาย เหมือนสมัยนี้หรอก พกไรบ้าบอเต็มไปหมด ถ้าจะใส่ข้าวของเครื่องสำอางก็เอาตะกร้าเก๋ๆไว้ใส่ของด้วยก็ดี(แบบแม่ผมเอง) พวงมาลัยอัปปรีเปลี่ยนมาใหม่จากเจ้าของคนที่ 2 (รถคันนี้เป็นรถมือ3) ไม่สวยเอาซะเลย ไม่เป็นไรค่อยหา nardi มาใส่ (ไม่อยากจะเม้าท์หรอกนะ เจ้าของคนที่2 ทำไรเละเทะไปหมด สายฟงสายไฟไปให้ร้านไหนเดินก็ไม่รู้ เดินมั่วและกระจุยกระจายมาก เรียกได้ว่าสายขาดเส้นเดียวไฟช็อตดับได้ทั้งคัน - -" )
(http://upic.me/i/4d/64935_139225436124349_100001106814935_204757_8014149_n.jpg) (http://upic.me/show/21597291)
หน้าตาของวิทยุหมุนคลื่น ที่กว่าจะหาคลื่นได้ >:( คุณภาพเสียงก็ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก เพราะวิทยุเครื่องนี้มีแค่ลำโพงโบราณๆ 1ตัวเท่านั้น !! เรียกได้ว่า เพลงจากลำโพงโทรศัพท์ยังเสียงดีกว่าอีก แต่ไม่เป็นไร เราเก็บไว้เก๋ๆ ไม่ได้เก็บไว้ใช้งานจริง ( แล้วก็วิทยุเทปก็ใช้ไม่ได้แล้วด้วย ใส่เทปฟังเพลง อุ๊ยคำคนแก่ ก็ไม่หมุนแล้ว และลำโพง4ตัวก็พังหมดทุกตัวแล้ว >:( )
เรียกได้ว่าดังทั้งคนยกเว้นวิทยุจริงๆ
(http://upic.me/i/zq/100_3958.jpg) (http://upic.me/show/21597226)
สภาพห้องโดยสารตอนกลางคืน แสงสีเขียวตามยุคสมัยสีสบายตา แต่ถ้าเป็นตัวนอกจะเป็นแสงสีส้ม
-
เครื่องยนต์รหัส 2E 12 VALVE คาร์บูเรเตอร์สุดแสนโบราณกาล
กำลัง 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 98 Nm ที่ 3600 รอบต่อนาที
Bore x Stroke : 73.0 mm x 77.4 mm
ขนาดกระบอกสูบ 1,295 cc
(http://upic.me/i/mw/100_3987.jpg) (http://upic.me/show/21602166)
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนก ด้านหลังเป็นคานแข็ง
ในอนาคตก็คงต้องปรับปรุงกันอีกเยอะพอสมควร เพื่อให้รองรับกับเครื่องยนต์ 135 แรงม้า
ข้อดี
1.ทน
2.บำรุงรักษาง่าย
3.ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ข้อเสีย
1.ไม่เกาะถนน
2.ยวบยาบและกระด่าง
3.เป็นปัญหาเฉพาะคัน เนื่องจากรถคันนี้ไม่เคยเปลี่ยนโช๊คและสปริงเลย จึงเกิดอาการหย่นยาน ตามการเวลา
4.กว่าจปรับปรุงให้เกาะถนนได้เท่าเทียมหรือมากกว่ารถรุ่นใหม่ ต้องใช้จำนวนเงินมิใช่น้อย แล้วแต่ยี่ห้อตามความพึ่งพอใจของคุณ แล้วก็ต้องแลกมาซึ่งความแข็งกระด่างกว่าเดิม ทำให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกสบายเท่าที่ควร
(http://upic.me/i/ja/150310_147625268617699_100001106814935_244733_7279241_n.jpg) (http://upic.me/show/21591680)
แม่ : เนี้ย ! วันนี้ขับกลับจากที่ทำงานนะ มันมีรถ Civic แบบวัยรุ่น - -" มาขับจี้ๆๆ แล้วมันก็มาเบิ้ลเครื่องข้างๆรถแม่
ผม : ท้าแข่งอ่ะดิ แล้วแม่ทำไงต่ออ่ะ
แม่ : มันก็เร่งเครื่องขึ้นมีตีคู่สักพักแล้วมันก็ไป
พ่อ : มันเห็นรถนึกว่าวัยรุ่นขับอ่ะดิ พอมันเห็น อ่าวว !! คนแก่ขับนี้หว่า เลยหนีไปเลย
เป็นหนึ่งประโยคที่เคยพูดคุยกันในครอบครัวเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
ข้อดี
1.ขนาดเล็ก กระทัดรัด เบา ขับง่าย
2.แปลก ถ้าทำให้งามๆก็จะน่ามอง
3.ไม่จุกจิก
4.เขาว่ากันว่าขับสนุกเพราะรถเบา 8ร้อยกว่ากิโลเอง เรียกได้ว่า ไม่แรงแต่แซงพลิ้วแล้วกันโน๊ะ ;D
5.อะไหล่ราคาไม่แพงและหาง่ายตามแบบฉับบโตโยต้า
6.ราคาไม่ตก คนจะขายขาดทุนน้อย หรืออาจจะไม่ขาดทุนเลย
ข้อเสีย
1.ขนาดเล็ก อึดอัดขับแคบ
2.นั่งไม่สบาย
3.เก่าตามอายุ
4.การเก็บเสียงก็ตามอายุรถอีกแหละ
5.อะไหล่ตัวถังหาไม่ง่าย และ แพง
6.ดังทั้งคันยกเว้นวิทยุ :'(
7.ช่วงล่างเดิมๆมีร่อน หาของ Turbo หรือ ของราคาแพงอย่าง Tein gab หรือไรก็แล้วแต่ ก็จะดีขึ้นเยอะ
8.แอร์เย็นไม่ทัน
9.ราคาไม่ตก คนจะซื้อเขาเรียกว่า"แพง"
10.สิ่งที่ควรจะมีบ้างอย่างกลับไม่มี เช่น
กระจกไฟฟ้า (มีก็ดีนะ ที่ญี่ปุ่นยังมีเลย)
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ( เหมือนกัน)
พวงมาลัยเพาเวอร์ (อันนี้จำเป็นแต่ดันไม่มี จำเป็นนะโว้ย อีฉันหมุนพวงมาลัยไม่ไหว )
ปัดน้ำฝนหลัง ( จำเป็นมากๆสำหรับรถท้ายตัด แต่ไม่มีให้ซะงั้น ที่ญี่ปุ่นยังมีเลย งกอีกแล้ว )
เหตุผลที่คุณซื้อรุ่นนี้ :)
1.ชอบและใจรัก
2.ชอบของแปลก
3.ชอบรถเล็กราคาไม่แพง(แต่แพงนะ)
4.เหตุผลส่วนตัวของคุณโน๊ะ :D
เหตุผลที่คุณควรมองข้าม :(
1.ในราคา1แสน - 2.5 แสน คุณยังสามารถหา AE92 AE101 CIVIC EX PREMERA SUNNY ตละกูล B และอีกมากมายที่ดีกว่านี้เยอะ ฉนั้นใครที่ซื้อรุ่นนี้มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะเนี้ย ต้อง..........ใจรักด้วย
2.คุณไม่มีเวลา
3.คุณควรจะมีรถในบ้านอย่างน้อย1คัน
4.เหตุผลส่วนตัวของคุณอีกนั้นแหละครับ ;D
(http://upic.me/i/lo/64935_139225432791016_100001106814935_204756_2924991_n.jpg) (http://upic.me/show/21591982)
ขอขอบคุณ คุณล็อคอิน slimant จาก Racingweb สำหรับประวัติรถยนต์รุ่นนี้ครับ
;D ;D จากที่บอกว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมนะครับ เป็นแค่รีวิวเล็กๆเบาๆขำๆนะครับ และจะเจอรีวิวเต็มในอีก2ปีข้างหน้านะครับ เพราะตอนนี้ยังออกถนนใหญ่ไม่ได้ เลยไม่รู้ว่า ฟิลลิ่งของรถมันเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่สบายใจ ขอประทานโทษ ณ จุดๆนี้ด้วยครับ
ขอขอบคุณครับที่อ่านจนจบ :)
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
สำนวนชวนสงสัย?
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
สำนวนชวนสงสัย?
จริงหรอครับ ขอโทษทีครับ ปกติเป็นคนพูดมากว่าอ่ะเขียนอ่ัคะรับ แหะๆ :D
-
สวยดีครับ ทุกอย่างดูคลาสสิคไปหมด โดยเฉพาะวิทยุหมุนคลื่น
และสิ่งที่ผมสะดุดตาที่สุดคือ ไฟตัดหมอก
-
สวยดีครับ ทุกอย่างดูคลาสสิคไปหมด โดยเฉพาะวิทยุหมุนคลื่น
และสิ่งที่ผมสะดุดตาที่สุดคือ ไฟตัดหมอก
ของแต่งชิ้นแรกเลยครับ ที่เก็บเงินซื้อด้วยตัวเอง ราคาแพงมิใช่น้อย
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รถสวยดีนะครับ ไฟตัดหมอกเท่ดี ถ้าแต่งแบบเรทโทรคงจะเท่ไม่น้อย
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รถสวยดีนะครับ ไฟตัดหมอกเท่ดี ถ้าแต่งแบบเรทโทรคงจะเท่ไม่น้อย
ขอบคุณครับ :D
-
อ่านแล้วครับ สนุกดี
ครั้งแรกทำได้ดีมากๆ อนาคตไกลแน่ๆ
-
อ่านแล้วครับ สนุกดี
ครั้งแรกทำได้ดีมากๆ อนาคตไกลแน่ๆ
ขอบคุณครับ :D
-
ดูจากรูปก็รู้เลยครับว่ามันร้อนมาก ๆ ถ่ายเมื่อวาน (น่าจะเป็นหัวค่ำ) วันนี้ขึ้นมาโพสละ ;D ;D
ขอบคุณสำหรับรีวิว เป็นกำลังใจให้ครับ :) :)
-
ดูจากรูปก็รู้เลยครับว่ามันร้อนมาก ๆ ถ่ายเมื่อวาน (น่าจะเป็นหัวค่ำ) วันนี้ขึ้นมาโพสละ ;D ;D
ขอบคุณสำหรับรีวิว เป็นกำลังใจให้ครับ :) :)
ขอบคุณมากครับ ถ่ายรูปตอนหัวค่ำ แต่เอาขึ้นเว็บเมื่อคืนตอนตี3ครับ แต่วันนี้คอยแก้พวกคำตกหลนกำกวมอ่ะครับ :D
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รถสวยจริงๆครับ+รักษาดีมากๆด้วยครับ ยิ่งไฟตัดหมอกนี้เป็นอะไรที่แบบว่ามชอบสุดๆเลยไฟแบบนี้ รวมถึงมาตราวัดความเร็วที่ดูแล้วผมว่ามันไม่ล้าสมัยเลยนะครับมันเดูเหมือนมาตราวัดความเร็วที่เรียบง่าย+อ่านง่าย แถมดูแล้วยังเท่อีกตั้งหาก โดยความคิดของผมรถคันนี้ดูเหมือนจะเป็นรถที่ดูแล้วไม่ล้าสมัยเลยครับแต่ดูแล้วกับเป้นรถที่Classic แต่แฝงด้วยความสปอร์ตเล็กๆ ;D
-
ขอบคุณครับ รถเท่ดีจัง ลองหาเครื่องเซียงกงแรงพอประมาณที่วางตัวนี้ได้ดูครับ(ตัว turbo ก็ได้นะ)ผมว่าจะครบสูตรเลยหละ ทำช่วงล่างกับเบรกด้วยครับ อมตะครับรุ่นนี้สุดยอดดด
-
ขอบคุณมากครับ :D
-
รถคุณสภาพดีจัง
ผมไปเจอคันนี้ในเวป http://www.taladrod.com/w20/Search/CarDet3.aspx?cib=544023 (http://www.taladrod.com/w20/Search/CarDet3.aspx?cib=544023)
ผมแทบอยากจะขาย KE 36 ไปซื้อเลย
ผมชอบจริงๆนะ ไม่ได้โม้
-
ทำดีนะครับ ไม่ธรรมดาเลยสำหรับครั้งแรก ยังไงก็ขอบคุณมากครับ สีสวยดีอ่าา
-
ขอบคุณมากครับสำหรับ Review รถดูดีมากครับ ;D
-
ชอบรีวิวนี้ครับ
ผมชอบรถรุ่นนี้เป็นการส่วนตัว ตอนเด็กเคยอยากได้
ตอนนี้ได้แค่ซื้อ Model 1:43 มาจอดไว้บนหัวเตียงแค่นั้นเลย เป็นตัว Turbo 3 ประตู
-
รถสวยมากครับ ถ้าได้แก้มเทอร์โบตัวนอก ที่ไฟมุมอยู่หน้ากับคาดเอว ล่ะแจ่มเลยครับ
-
รถคุณสภาพดีจัง
ผมไปเจอคันนี้ในเวป http://www.taladrod.com/w20/Search/CarDet3.aspx?cib=544023 (http://www.taladrod.com/w20/Search/CarDet3.aspx?cib=544023)
ผมแทบอยากจะขาย KE 36 ไปซื้อเลย
ผมชอบจริงๆนะ ไม่ได้โม้
ขอบคุณมาครับ แต่คันนี้เว็บสภาพดีนะ แต่ราคาแพงใช้ได้เลยครับกับรถปี87
-
ขอบคุณมาครับ ทุกความคิดเห็น :D
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
สำนวนชวนสงสัย?
จริงหรอครับ ขอโทษทีครับ ปกติเป็นคนพูดมากว่าอ่ะเขียนอ่ัคะรับ แหะๆ :D
รีวิวละเอียดดีครับ และทำให้รู้ว่า รุ่นนี้เป็นต้นกำเนิดของยาริสนี่เอง
อ่อ.. เป็นภาษาพูด ผมอ่านแล้วก็เลยแปลก ๆ
-
7 ปีผ่านไปหลังจากที่เขียนรีวิว รถคันนี้ก็ถูกปรับปรุงซ่อมแซมมาเรื่อยๆให้ใช้งานได้ตามปกติสุข
[img width= height= alt=fLUwVZ.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/09/22/fLUwVZ.jpg[/img]
เครื่องยนต์
เครื่องเดิมรหัส 2E จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ ถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องรหัส 4EFE หัวฉีด ขนาดความจุ 1331cc 88 แรงม้า ชนเกียร์ 2E เดิม (อัตราทดจัดกว่าเกียร์ของเครื่อง 4EFE เล็กน้อย)
พร้อมพวงมาลัยเพาร์เวอร์ คอมแอร์เดิมใช้น้ำยาแอร์ 12R คอมแอร์ใหม่เปลี่ยนเป็นน้ำยา 134A
อัตราเร่งพอเพียงกับการใช้งานทั่วไป ด้วยน้ำหนักรถที่เบาพอสมควร ช่วงเกียร์ 1 2 3 ถือว่าแอบซิ่งได้เล็กน้อยถ้ารอบเครื่องอยู่ในช่วงกำลังของเครื่องยนต์พอดี พูดง่ายๆว่าไม่ได้แรงเหนือใคร
อาศัยเล่นเกียร์ช่วยบวกกับความเบาของรถ ทำให้ขับใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวใช้ได้ วิ่งไปกับ Eco car MT 3 สูบได้ เร่งหนีรถ SUV เครื่อง 1.5 4AT จี้ตูดได้
เบรค
เดิมหม้อลมเบรค 1 ชั้น จานเบรคหน้า 1 ชั้น ไม่มีคลีบระบายความร้อน ให้ฟิลลิ่งเบรคที่ค่อนข้างบื้อทื้อ ต้องใช้แรงกดเบรคเยอะเหมือนเอาเท้าลงไปหนีบเบรคเอง และร้อนเร็ว ถูกเปลี่ยนหม้อลมเบรคเป็นแบบ 1 ชั่น
เหมือนเดิมแต่มีขนาดใหญ่ขึ้น จานเบรคหน้า 2 ชั้น มีครีบระบายความร้อน จาก Starlet Ep82 turbo ปรับตั้งดรัมเบรคหลังใหม่ ให้ฟิลลิ่งที่ดีกว่าเดิมชัดเจน ใช้งานทั่วไปไว้ใจได้มากกว่าเดิม คุมน้ำหนักเบรคง่ายไม่ต้องออกแรงกดเยอะ
แต่ถ้าเทียบกับรถสมัยใหม่ก็ยังถือว่ายังต้องใช้แรงกดเบรคเยอะกว่าอยู่ดี คนไม่เคยขับรถเก่ามาก่อนมาเหยียบเบรคคันนี้มีเหวอ
แนวทางการแก้ไขปรับปรุง เปลี่ยนผ้าเบรคคู่หน้าเป็นของมียี่ห้อก็น่าจะเบรคได้ดีขึ้นโดยที่ใช้งบไม่สูงมาก หรือถ้าต้องการให้ดีขึ้นอีกก็เปลี่ยนดรัมหลังเป็นดิส แล้วใช้ผ้าเบรคดีๆ 4 ล้อไปเลย แต่มีแนวโน้มว่าเบรคมือจะใช้ไม่ได้เหมือนเดิม
[img width= height= alt=fL5O2n.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/09/22/fL5O2n.jpg[/img]
ท่อไอเสีย
เปลี่ยนข้ออ่อนกับท่อพักกลาง ใช้ของเครื่อง 4E เปลี่ยนท่อพักท้าย Apexi อัตราเร่งไม่ได้แรงขึ้น แต่รู้สึกเหมือนแรงบิดมาไวขึ้นเร่งน้อย จับความรู้จากการใช้งานในเมือง เหยียบแตะๆช่วงรอบ 1500 - 3000
มีกำลังขึ้น เปลี่ยนเกียร์แล้วเหมือนอยู่ในช่วงรอบกำลังพอดี จากเดิมที่รู้สึกว่ารอบห้อย ต้องเหยียบคันเร่งเพิ่ม ทำให้ใช้งานในเมืองได้ดีขึ้น เร่งไม่เหนื่อย
ช่วงล่าง
ช่วงล่างหน้า Macpherson strut ไม่มีซับเฟรมแนวขวาง สเปคไทยไม่มีเหล็กกันโคลงมาให้ แต่มีรูยึดที่ปีกนก ช่วงล่างหลัง คานแข็ง โช้คสปริงเดิมถูกเปลี่ยนเป็น โช้ค Kayaba new sr special สปริงโหลด Tein
ฟิลลิ่งช่วงล่าง ใช้งานในเมือง ถือว่าตึงตังใช้ได้ ให้นึกถึง Mazda 2 Sky ยาง 55 แล้วบวกความตึงตังโครมครามขึ้นไปอีกประมาณนึง วิ่งผ่านทางขรุขระหรือเนินหลังเต่าโช้คจะยุบตัวไม่มาก แต่ไม่เด้งแบบรถซิ่ง เหินคอสะพานได้อย่างมั่นใจ โช้คยุบทีเดียวอยู่สมค่ากับความตึงตัง ( 2 sky diesel ที่ว่าโช้คสปริงแข็งๆเจอคอสะพานชันๆ ขับมาไม่เร็วยังมีโช้คหน้ายันแล้วเด้งต่อ ) การเข้าโค้งถือว่าให้ความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ตัวรถเอียงตัวน้อยลง เล่นโค้งได้สนุกสนานพอได้ เกาะถนนได้ตามรูปแบบของช่วงล่าง การใช้งานความเร็วเดินทาง ถ้าถนนเรียบ ตัวรถก็วิ่งไปแบบนิ่งๆปกติ แต่ด้วยน้ำหนักรถที่ค่อนข้างเบาบวกกับโช้คสปริงที่ค่อนข้างแข็ง ทำให้ตัวรถนั้นถูกดีดไปตามสภาพพื้นถนน เช่น ทางด่วนโทล์เวย์ เป็นต้น เรียกได้ว่าถนนเป็นคลื่นยังไงรถก็วิ่งไปแบบนั้น
แนวทางการปรับปรุงแก้ไข เปลี่ยนลูกยางช่วงล่างและเบ้าโช้คใหม่หมดหน้าหลัง เพื่อให้เงียบและนุ่มนวลขึ้นเล็กน้อย และลองใส่ค้ำปีกนกล่างหน้า ค้ำโช้คหน้า ค้ำโช้คหลังเพิ่ม เพื่อตัวถังแน่นหนาขึ้นน่าจะให้ฟิลลิ่งการเข้าโค้งที่ดียิ่งขึ้น
ฟิลลิ่งพวงมาลัย ใช้งานในเมือง มีน้ำหนักที่ค่อนข้างหนักแบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฮโดลิค ให้นึกถึง Swift ใหม่ที่ว่าหนักแล้วบวกความหนักขึ้นไปอีก ใครชินกับน้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้ามาลองขับคันนี้สักพัก
อาจมีปวดหัวไหล่ได้ ความไวพวงมาลัยช่วง 90 องศาแรงจะไวใกล้เคียง 2 Sky และ Swift แต่หลัง จากนั้นไปจะค่อนข้างเนือย แต่ถ้าเพิ่มความเร็วเกิน 20 ขึ้นไป ด้วยความที่ใช้โช้คสปริงที่แข็ง ทำให้ตัวรถตอบสนอง
พวงมาลัยค่อนข้างไว หักเลี้ยวใน 2 Sky เท่าไหร่ มาหักเลี้ยวในคันนี้ตัวรถรถจะเลี้ยวไปไวมากกว่า พวงมาลัยจะสั่นแบบรับรู้ทุกสภาพพื้นถนน ไม่มีการกลั่นกรองใดๆ ใช้งานความเร็วเดินทาง ความเร็วไม่เกิน 110 พวงมาลัยจะไม่เบาโหวงแบบ March แต่ก็ไม่ฝืดตรงกลางแบบ2 Sky และ Swift แต่จะรู้สึกว่ามีน้ำหนักดึงอยู่ตรงกลาง ถ้าเอานิ้วเกี่ยวแล้วปล่อยพวงมาลัยจะกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิม แต่ถ้าความเร็วสูงกว่านั้นต้องใช้สมาธิมาก พวงมาลัยจะเบาจนน่ากลัว
[img width= height= alt=fLbUH0.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/09/23/fLbUH0.jpg[/img]
พวงมาลัยถูกเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยหุ้มหนัง Nardi ฝาแตรตรงกลางสามารถถอดออกได้ ถ้าหาฝาแตรกลมๆมาใส่ก็จะกลายเป็นพวงมาลัยซิ่ง หัวเกียร์ยูริเทนเดินตะเข็บหนัง TRD วิทยุ FM AM แบบโบราณยังใช้งาน
ได้ตามปกติ เสียงเหมือนฟังวิทยุจากโทรโข่ง วิทยุเทปถูกเปลี่ยนเป็นวิทยุ CD แต่พังแล้ว
เบาะรองนั่งด้านหน้า ยาวใกล้เคียง Mazda 2 sky พนักพิงหลังมีขนาดเล็ก เตี้ย และมีลักษณะงอแปลกๆ เวลานั่งจะเหมือนถูกดันช่วงกลางหลังอยู่ตลอดเวลาทำให้นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่แปลกที่นั่งนานๆก็ไม่เมื่อยเท่าไหร่ ตำแหน่งนั่งขับจะสูงกว่าพวก AE90 AE101 เล็กน้อยและสูงกว่า Civic 3door ด้วยเสาหลังคาที่บางทำให้ทัศนะวิสัยโปร่ง มองเห็นรอบด้าน กะยะรอบคันได้ง่ายไปหมด ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถที่ชอบตำแหน่งนั่งต่ำๆจะไม่ค่อยชอบ แต่มือใหม่น่าจะชอบ
เบาะรองนั่งด้านหลัง ยาวใกล้เคียง Mazda 2 sky แต่พนักพิงหลังจะมีมุมเอนมากกว่า ตำแหน่งนั่งจะสูงกว่าและสอดเท้าเข้าไปใต้เบาะได้ไม่ติดโครงกลางรถแบบ Mazda 2 sky ทำให้นั่งสบายและมีทัศนะวิสัยด้านข้างที่ดีกว่า ถ้าไม่นับพื้นที่ในห้องโดยสารที่เล็กกว่า
กระจกมองข้างมีขนาดค่อนข้างเล็กและมุมมองที่แคบ การเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัยควรไปแค่เลนเดียวและต้องดูรถคันข้างๆดีๆและหันคอไปดูด้วยในบางที ถ้าเปลี่ยนรวดเดียว 3 เลนมีโอกาสฟาดกับรถเลนที่ 3 ได้
[img width= height= alt=fLjR1S.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/09/23/fLjR1S.jpg[/img]
ในงบประมาณ 50000 - 120000 บาท คุณมาสารถหารถอะไรได้บ้าง
1. Corolla AE101 คุณก็จะได้รถที่ใช้งานได้สะดวกสบายกว่า ห้องเครื่องใหญ่ มีตัวเลือกในการวางเครื่องแรงๆได้มากกว่า ตัวถังที่แน่นหนากว่า พื้นฐานช่วงล่างที่ดีกว่า อะไหล่ตัวถังหาง่ายกว่า รูปทรงทันสมัยสวยงาม แต่มันก็คือรถ 4 ประตูบ้านๆธรรมดา
2. Civic 3door คุณก็จะได้ข้อดีเหมือน AE101 และ รูปทรงที่สวยเซ็กซี่ สวยได้ในล้อฝาครอบและบงบอกถึงความเป็นวัยรุ่นวัยแรงมากกว่า AE101 และ Ep71
แต่ถ้าคุณไม่ได้ชอบ 2 คันที่ว่ามาและคุณเลือกที่จะตกลงปลงใจกับรูปทรงกลางเก่ากลางใหม่ จะ Retro ก็ไม่ใช่ จะ 90s ก็ไม่เชิงของ Starlet EP71 ก็ยังสามารถซื้อหามาขับได้ แม้ว่าข้อดีจะน้อยกว่ารถในราคาระดับ
เดียวกัน แต่คุณก็จะได้ความแปลกบนท้องถนน อะไหล่รุ่น Turbo จะหายากและมีราคาแพง แต่ถ้าเป็นอ่ะไหล่รุ่นธรรมดาแบบสเปคบ้านเราก็ถือว่าหาไม่ยากเท่าไหร่ มีเข้ามาเรื่อยๆ อาจจะหาไม่ง่ายแบบ Corolla หรือ Civic แต่ก็จัดว่าหาง่ายอยู่ในยุคอินเตอร์เน็ตเข้าถึง
การซื้อมือสองขอแนะนำให้ซื้อรถที่มีสภาพดี ไม่เน้นว่าต้องแต่งเยอะ แต่ขอให้สภาพสมบูรณ์ครบถ้วน
[img width= height= alt=fLlbbe.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/09/23/fLlbbe.jpg[/img]
ทิศทางการปรับปรุงรถคันนี้ถ้าต้องใช้เงินในชีวิตจริงอาจไม่หาของแต่งจากตัว Turbo เพิ่ม แต่เน้นเก็บสีใหม่ให้เนียน ใส่ล้อขอบ 15 สวยๆเช่น Enkei Pr01 หรือ Gramlight 5 ก้านสีทองใหม่ หรือใส่ล้อกล้วยขอบ 14 ลายยอดฮิต เช็คเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์พร้อมงาน หรืออาจวางเครื่องยนต์ 4EFTE turbo โมให้ได้สัก 200 ม้า แต่ถ้าไม่คำนึงถึงเรื่องเงิน แค่คิดถึงสเตปที่อยากทำ คงจะเอาชุดแต่ง Turbo ออกหมด ใส่กันชนหน้า-หลัง ฝากกระโปรงตัวธรรมดา ใส่ล้อ BBS รังผึ้ง วางเครื่อง 2ZZGE 6MT หรือไม่ก็ขายซื้อ Civic coupe วาง K24 turbo