Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: V221 ที่ สิงหาคม 12, 2011, 16:28:39
-
ขออนุญาคิรีวิวรถตัวเอง3คันที่ผ่านมาในชีวิตโดยเป็นประสบการณ์ที่ได้ใช้รถยนต์ขนาดใหญ่ของค่ายตราดาว ในอดีตตอนหนุ่มๆก็มีโอกาสได้ขับW126 หลายๆคันที่คุณพ่อครอบครองไว้แต่ก็ไม่ได้ชอบมากมายเพราะความชอบของวัยรุ่นก็จะไปอยู่ที่BMWของตัวเองซะมากกว่าเพราะเป็นรถที่ขับสนุกกว่ามากมาย แต่เมื่อแต่งงานมีครอบครัวก็เปลี่ยนทัศนคติมาชอบรถที่ขับสบายๆแต่มั่นคงจึงได้ตัดสินใจย้ายค่ายจากใบพัดสีฟ้ามาเป็นตราดาวตามคุณพ่อเช่นกัน S Classคันแรกที่มีโอกาสได้ครอบครองเป็นรุ่นเครื่องยนต์เล็กที่สุดคือ S280 ตัวถังสั้น ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับอาเสี่ยบ้านเราในปลายทศวรรษที่90เป็นอย่างมาก
-
เครื่องยนต์มีกำลัง193แรงม้าแต่แรงบิดไม่ค่อยมากนักเพียง270นิวตัน-เมตร ระบบพวงมาลัยแบบลูกปืนหมุนวนซึ่งตอบสนองไม่ไวเหมือนแร็คแอนด์พีเนียนเพราะเน้นขับสบายๆ
-
รุ่นที่ผมใช้เป็นเกียร์ออโต4จังหวะแบบไฮโดรลิคจึงทำให้อออกตัวค่อนข้างอืด 0-100กม./ขม.ปาเข้าไป11วิ :P
-
นับว่าเป็นรถที่ใหญ่และหนักมากมาย น้ำหนักตัวเปล่าเกือบๆ2ตัน :P
-
เครื่องยนต์เป็นบล็อคเดียวกันกับW124 E280 ที่ผมขายไปเมื่อได้คันนี้มาแทน เป็นเครื่องยนต์6สูบเรียง24วาล์วแปรผันด้านไอดี รหัสM104 แต่124จะเป็นฝาครอบวาล์วสีขาว รุ่นนี้จะใช้ระบบหัวฉีดแบบMotronicพร้อมระบบจุดระเบิดแบบDirect Ignitionที่ใช้คอยล์จุดระเบิดอีเล็คทรอนิคส์1ชุดต่อ2สูบ
-
เบาะนั่งหนานุ่ม ใหญ่โตมโหฬาร สมกับเป็นรถระดับผู้นำ โดยคันที่ผมใช้เป็นระบบคู่หน้าปรับไฟฟ้าทั้งหมดเเต่ไม่มีตำแหน่งความจำ เบาะปรับได้ทุกสรีระโดยสามารถปรับที่รองนั่งให้ยาวหรือสั้นเท่าใดก็ได้ซึ่งคุณสมบัตินี้มีต่อมาในS Classรุ่นถัดไปทั้งW220จนถึงW221โฉมปัจจุบันเช่นกัน เบาะนวดแผ่นหลังก็มีให้เหมือนกันสำหรับS Classทุกรุ่น
-
คันที่ผมใช้เป็นปี95ซึ่งไมล์เป็นDigitalแล้ว ส่วนก้านCruise Controlด้านซ้ายของวงพวงมาลัยที่แสนจะใหญ่โตก็เป็นมาตรฐานเหมือนBenzทุกรุ่นจนถึงปัจจุบันไม่เคยเปลี่ยน คือโยกขึ้น-เพิ่มความเร็ว กดลง-ลดความเร็ว ดึงเข้า-ทำงานและResume ดันออก-ยกเลิก
-
คันนี้เป็นรถนำเข้าธนบุรีแบบLow Optionสุดๆ มีเพียงกระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับเก็บได้พร้อมทั้งม่านหลังไฟฟ้า แอร์ด้านหน้าเป็นแบบจอแยก วิทยุเทปพร้อมตู้CD6แผ่นBeckerด้านท้ายรถ เสียงธรรมดาๆมาก
-
เพลทด้านหน้า
-
VIN Code
-
พัดลมไฟฟ้าด้านหน้า2ตัว ทำงานทีนึงดังสนั่น การทำงานจะสั่งการโดยสวิทช์แรงดันน้ำยาแอร์หรือECT Sensorวัดอุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ
-
หน้าตาเจ้าECTที่เป็นปลั๊กสีดำเล็กๆเหนือวาล์วน้ำ
-
ฝาครอบวาล์ว
-
ระบบเบรคเป็นระบบABS 4เซ็นเซอร์ การทำงานตอบสนองค่อนข้างดี การจับตัวเป็นไปตามน้ำหนักเท้าได้ดี แต่ยังไม่มีระบบBA( Brake Assist )
-
ตัวรถเป็นสีทรายทองยอดฮิตของเสี่ยๆในสมัยนั้น
-
ถึงจะเป็นตัวสั้นก็ยาวไม่ใช่เล่น
-
โคมไฟหน้าสามารถปรับความสูงได้
-
ปุ่มปรับเบาะนวดด้านหน้า
-
ตู้CD ติดรถเดิมๆ
-
ที่ท้าวเเขนด้านหลังเปิดออกมาเก็บของได้เล็กๆน้อยๆ
-
กระจกที่ประตูเป็นแบบ2ชั้นทุกบานซึ่งใช้มาจนถึงรุ่นปัจจุบัน แต่รุ่นนี้กระจกหนักมากทำให้ทุกคันต้องประสบปัญหาเฟืองหรือรางกระจกแตก เปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีก หลังๆช่างไทยเลยโมดิฟายทำเฟืองทองเหลืองตัดปัญหาได้เด็ดขาดไป
-
สวิทช์ใต้ช่องลมแอร์4ตัวจากซ้ายไปขวา ไล่ฝ้ากระจกหลัง กรองCharcoal ปุ่มล็อคประตู สวิทช์ไฟHazard
-
รถรุ่นนี้ยังใช้ระบบช่วยการทรงตัวรุ่นแรกๆที่เรียกว่าระบบETS (Electronic Traction System)ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นระบบESP
-
สำหรับท่านที่ยังไม่คุ้นเคยกับการดูปีผลิตของMercedes Benzให้ดูง่ายๆที่กระจกจะมีเลขตัวล่างสุดแสดงหน่วยสุดท้ายของปี คศ. ในรูปเป็นเลข5คือผลิตปี1995ครับ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงคันนี้วิ่งในเมืองป้วนเปี้ยนแถวๆ6กว่าๆ ทางไกลไม่เกิน130อยู่ที่10โลลิตรครับ
-
Versionต่อมาก็คือW220 S280 สีทองเช่นกันแต่เฉดสีจะต่างกัน
-
รถคันนี้เป็นรถประกอบในไทย ปี2002 เป็นS280 ช่วงสั้นตัวสุดท้าย
-
Optionก็พื้นๆเพราะเป็นรถMB Thailand จะมีมากหน่อยก็คือเบาะหน้านวดแบบMulticontourและเบาะหลังปรับเลื่อนเอนนอนไฟฟ้าได้
-
;)
-
จริงๆแล้วMercedes Benzก็ได้ใส่Technologyใหม่ๆในS Classทุกรุ่น น่าเสียดายที่ผู้ใช้งานไม่ได้ทราบถึงระบบElectronicควบคุมต่างๆซึ่งในW140ก็มีอยู่แล้ว สืบเนื่องต่อมาจนถึงในรุ่นW220ก็มีเช่นกัน ดังในรูปภาพ จอแสดงผลแอร์สามารถเปลี่ยนเป็นEngineering Modeสำหรับตรวจสอบค่าSensorต่างๆในรถได้มากมาย
-
W220 ได้นำเอาจอหน้าปัดแบบOptitronมาใช้
-
หน้าปัดสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆได้เช่นอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
-
ปริมาณเชื้อเพลิงที่เหลือและระยะทางที่สามารถเเล่นต่อไปได้
-
เครื่องยนต์ได้เปลี่ยนจากแถวเรียง6สูบทวินเเคมมาเป็นวี6ซิงเกิลแคมแต่มีหัวเทียนเพิ่มจาก1เป็น2หัวต่อสูบเพื่อให้ไอเสียสะอาดกว่าเดิม
-
ล้อขนาด225/60R16 ลาย7ก้าน จานเบรคด้านหน้าเเบบเจาะรู หยุดได้ชะงัดกว่าW140ค่อนข้างมาก
-
รูชัดๆ
-
ข้อเสียก็คือจานเบรคหน้าสึกเร็วมากๆ แต่พอเป็นรุ่นW221กลับเป็นปกติทั้งๆที่จานเจาะรูเหมือนกัน
-
Bodyมีขนาดที่เล็กและเพรียวกว่าW140มาก
-
กระจก2ชั้นเช่นเดิม
-
สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากขนาดที่กระทัดรัดก็คือการออกแบบภายในที่ดูโล่งขึ้นแต่ความหรูหราจากพื้นผิววัสดุก็น้อยลงเช่นกัน
-
นวัตกรรมใหม่ที่Mercedes Benzภาคภูมิใจคือระบบช่วงล่างแบบถุงลมหรือAirmatic DC(Dual Control) แต่เป็นฝันร้ายของผู้ซื้อชาวไทยเพราะพังง่ายเหลือเกิน รถผมขับเองถนอมๆยังดีกว่าคนอื่นๆที่มักเสียที่ไม่กี่หมื่นโลตลอด สิ่งที่ได้มาคือความนุ่มนวลยากที่จะหารถใดเหมือนและสามารถปรับความสูงและเเข็งอ่อนของช่วงล่างได้ด้วย
-
ขอพักก่อนแล้วจะมาต่อนะครับ
-
เมื่อรถยกขึ้นจะมีข้อความบอกบนหน้าปัด
-
เงื่อนไขการยกและการยกเลิกเมื่อความเร็วสูงเกิน120กม./ชม.จะลดความสูงลงเพื่อให้เกาะถนนดีขึ้น
-
เบาะคู่หน้าบางลงกว่าW140
-
ย้ายปุ่มควบคุมกระจกมองหลังด้านข้างมาไว้ที่ประตูรวมกันกับปุ่มควบคุมMemoryเบาะ
-
สวิทช์ไฟหน้าแบบอัตโนมัติBi-Xenonที่มีน้ำร้อนล้างโคมไฟหน้า
-
สวิทช์ควบคุมกระจกทั้ง4บานและปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย
-
วิทยุAudio20ยี่ห้อBeckerเจ้าเก่าแต่CD Changerท้ายรถเปลี่ยนเป็นยี่ห้อAlpine
-
ฝาปิดคอนโซลกลางสำหรับใส่ของและใส่โทรศัพท์ติดรถ(ถ้ามี)
-
ก้านCruise Controlที่มีสวิทช์Speed Limitให้มาด้วย
-
ก้านปรับระดับพวงมาลัยสามารถทำได้ทั้งสูง ต่ำ เข้าและออก
-
เกียร์ไฟฟ้า5สปีดรุ่น722.6พร้อมFunction Tiptronic
-
พวงมาลัยแบบMulti-functionที่ยังวงใหญ่เหมือนเดิม
-
แอร์แบคมี10ลูกทั้งด้านหน้า
-
ที่นั่งด้านหลังก็มีมาให้เต็มพิกัด
-
Side Airbagหน้า
-
Side Airbagที่นั่งด้านหลัง
-
ในส่วนInformationคงไม่ต้องสาธยายมากเพราะรายละเอียดมีมากมายครับ
-
สวิทช์ไฟเก๋งพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านหลังซึ่งมีให้ตั้งแต่W140อยู่แล้ว
-
คันนี้มีแอร์ตู้หลังแยกอืสระซ้ายขวามาให้ด้วยครับ
-
ช่องลมแอร์เสาBและสวิทช์ควบคุมเบาะหลังโดยที่นั่งด้านหลังซ้ายสามารถกดเปลี่ยนเพื่อควบคุมเบาะหน้าซ้ายตามใจชอบเพื่อเพิ่มพื้นที่วางเท้าหรือไม่ให้บดบังทัศนวิสัยได้ด้วย
-
แผงประตูบางลงกว่ารุ่นW140
-
ที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนนอนได้ตามรูปพร้อมสวิทช์ลูกล้อปรับระบบนวดหลัง
-
เป็นS Classรุ่นแรกที่นำระบบเตือนเมื่อครบกำหนดเข้า0บริการแบบAssystมาใช้โดยเป็นรุ่นแรกๆซึ่งจะมีเพียงService AและBแต่ในรุ่นถัดมาจะแบ่งละเอียดไปจนถึงService Hขึ้นอยู่กับการใช้งาน
-
Benz ความสะดวกนี้สุดยอดได้โล่จริงๆ ไม่มีปัญญาออก
-
รีวิวได้ดีมากครับ คุณวี ถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีอะไรขาดหรือเพิ่มเติม ผมขอเอาของรถผมมาแทรกได้ไหมครับ ว่าจะทำ แต่ติดงานแล้วตอนทำจริงๆ user review ถือว่าไม่ได้ทำง่ายๆ เลย :D
-
ละเอียดมากๆ ดูรูปเพลินเลยครับ อยากได้มั่ง หุหุ
-
ผมชอบโฉมที่สองมากๆเลยครับ น่าขับจริงๆ
-
แอบแปลกใจนิดๆ แต่จะบอกว่า
W140 ของญาติผมก็มีปุ่มปรับโช้คมาให้แล้วนะครับ
แถมยังมีเบาะเป่าลม เบาะหลังปรับไฟฟ้า(ปรับทั้งแถวยาวๆ เลย) ตรงที่ปรับเบาะหลังฝั่งซ้ายจะมีสวิตช์ที่เปลี่ยนเป็นปรับเบาะคนนั่งด้านหน้าได้ด้วย
แต่มันไม่ใช่รถที่บ้านผมน่ะ รถญาติใกล้ๆ เลยใช้ไม่เป็น ไม่ได้มีเวลาศึกษา ว่าออปชั่นดังกล่าวมานั้น สเป็คใน นอก หรือสั่งพิเศษอย่างไร-*-
-
ตั้งแต่ w140 มาถึง w221 คุณวียังไม่ได้ปล่อยออกสักคนเลยหรอครับ
ดีจังเลยได้ใช้รถที่ดีที่สุดของ mercedes-benz ในแต่ละยุค ;D
w140 ยังอมตะไม่เสื่อมเลย ขอบคุณที่ทำมาให้อ่านครับ
รอติดตามชม w221 ต่อ ;D
-
รีวิวได้ละเอยดดีจริงครับ
แต่ละรุ่นมีความแตกต่างชัดเจน
หายข้องใจเลยว่าว่าทำไม W140 ยังมีให้เห็นอยู่เต็มถนนทุกวันนี้
-
รีวิวได้ดีมากครับ คุณวี ถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีอะไรขาดหรือเพิ่มเติม ผมขอเอาของรถผมมาแทรกได้ไหมครับ ว่าจะทำ แต่ติดงานแล้วตอนทำจริงๆ user review ถือว่าไม่ได้ทำง่ายๆ เลย :D
ด้วยความยินดีครับ
แอบแปลกใจนิดๆ แต่จะบอกว่า
W140 ของญาติผมก็มีปุ่มปรับโช้คมาให้แล้วนะครับ
แถมยังมีเบาะเป่าลม เบาะหลังปรับไฟฟ้า(ปรับทั้งแถวยาวๆ เลย) ตรงที่ปรับเบาะหลังฝั่งซ้ายจะมีสวิตช์ที่เปลี่ยนเป็นปรับเบาะคนนั่งด้านหน้าได้ด้วย
แต่มันไม่ใช่รถที่บ้านผมน่ะ รถญาติใกล้ๆ เลยใช้ไม่เป็น ไม่ได้มีเวลาศึกษา ว่าออปชั่นดังกล่าวมานั้น สเป็คใน นอก หรือสั่งพิเศษอย่างไร-*-
เบาะหลังปรับได้ถ้าเป็นรถนำเข้าโดยเกรย์เช่นS280 Optionมากๆก็มีครับหรือเป็นรถธนบุรีช่วงยาวพวกS320LหรือS500Lก็จะมีเช่นกันครับ ส่วนโช้คไฟฟ้าที่บอกมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถเกรย์ครับที่มีOption HydropnuematicหรือHydraulic Balanceดังในรูปครับ
-
ซึ่งระบบHydropnuematicดังกล่าวก็มีใช้ในW220เช่นกันแต่เรียกชื่อใหม่เป็นระบบABC(Active Body Control)ที่ทำงานได้เร็วกว่าระบบAirmaticและสามารถชดเชยอาการตัวรถโยกเนื่องจากการถ่ายน้ำหนักขณะเข้าโค้งได้ด้วยแต่Option ABCผมเคยเห็นแต่ในรถเกรย์ที่SECนำเข้ามาหรือS600เท่านั้นครับ
-
ตั้งแต่ w140 มาถึง w221 คุณวียังไม่ได้ปล่อยออกสักคนเลยหรอครับ
ดีจังเลยได้ใช้รถที่ดีที่สุดของ mercedes-benz ในแต่ละยุค ;D
w140 ยังอมตะไม่เสื่อมเลย ขอบคุณที่ทำมาให้อ่านครับ
รอติดตามชม w221 ต่อ ;D
ปล่อยไปหมดแล้วครับW140อยู่กับเพื่อนขณะนี้ซึ่งเค้าชอบมากครับ
รีวิวได้ละเอยดดีจริงครับ
แต่ละรุ่นมีความแตกต่างชัดเจน
หายข้องใจเลยว่าว่าทำไม W140 ยังมีให้เห็นอยู่เต็มถนนทุกวันนี้
W140ก็ไม่ธรรมดานะครับ ลองดูในรูปก็ได้ว่าEngineering Modeก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
-
W140ในรูปข้างบนเป็นรถคุณพ่อผมเองครับ เป็นรถเกรย์S500Lเครื่องMotronic เกียร์ไฟฟ้าถจังหวะ Optionเพียบ มีทั้งเครื่องเสียงBOSE Parktronic เบรคระบบBA ช่วงล่างHydropnuematic เพื่อนอีกคนก็ใช้อยู่และบอกเสมอว่าHappyสุดๆครับ
ส่วนระบบABCก็เป็นไปตามรูปนี้ครับ
-
หัวโช้คระบบABCจะไม่มีสายลมเหมือนAirmaticเสียบอยู่เพราะเป็นระบบHydraulicแทนที่จะใช้ลมครับ
-
รูปหัวโช้คระบบAirmaticครับ
-
ด้วยขนาดBodyที่เล็กลงกว่าW140ค่อนข้างมากในทุกมิติทำให้W220ออกตัวได้เร็วกว่าค่อนข้างมากแต่ก็ทำให้เสียภาพลักษณ์ในด้านความหรูหราไปพอสมควร
-
S280 W220 ใช้เครื่องยนต์รหัสM112 ซึ่งเป็นเครื่องSingle Camที่เป็นระบบ3วาล์วต่อสูบให้แรงม้าและแรงบิดที่ไม่มากกว่าเครื่องM104ในW140 แต่ก็เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาต่อให้เป็นเครื่องยนต์รหัสM272 6สูบ 24วาล์วซึ่งใช้อยู่ในMercedes Benz W221และรุ่นอื่นๆในปัจจุบัน
-
ความเร็วสูงสุดที่เคยทำไว้สำหรับS280 W220คือ209กม./ชม. จากนั้นไปก็ไหลไม่ค่อยออกแล้วครับ
-
Optionสำหรับรถผมก็ไม่มีอะไรมากมาย มีเพิ่มเติมจากW140คือParktronicหน้า หลัง Sensorเตือนเมื่อรถถูกยกตามรูป
-
สิ่งที่แตกต่างไปจากW140คือมีการนำระบบไฟAmbient Lightingมาช่วยเพิ่มบรรยากาศยามค่ำคืนให้รื่นรมย์มากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นต้นแบบสำหรับรถรุ่นต่อๆมาเช่นกัน
-
บรรยากาศที่นั่งด้านหลัง
-
สิ่งที่แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับW140คือFeelingในการขับขี่ แน่นอนว่ารถเล็กกว่า เบากว่า คล่องตัวกว่า ช่วงล่างแบบถุงลมซับเเรงสะเทือนในความเร็วต่ำได้ดีกว่าแต่หลายๆท่านก็ไม่ชอบเพราะที่ความเร็วสูงๆจะรู้สึกได้ว่าช่วงล่างจะนุ่มๆเหมือนอยู่บนหมอนมากกว่าอยู่บนถนน
-
อัตราสิ้นเปลืองเมื่อเดินทางไกลเป็นไปตามรูปที่ประมาณ10กิโลเมตร/ลิตร
-
สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงวิ่งชานเมืองผสมกับรถติดในเมืองประมาณ60/40อยู่ที่ประมาณ7กิโลเมตร/ลิตรตามภาพประกอบ
-
lหรับค่าซ่อมบำรุงตอนหมดWarrantyก็โหดๆตามสไตล์MBครับ Airmaticเบิกห้างต้นละ5หมื่น ใช้ไป2ปีหมดประกันอะไหล่ก็พังทีนึง ตอนหลังๆไปหาอะไหล่Bilsteinวัดโสมเหมือนกันเด๊ะต้นละหมื่นแก่ๆมาใช้สบายกระเป๋ากว่า รุ่นนี้ปั๊มประตูดูดและCentral Lockรวมกันไม่เหมือนW140ที่แยกกันเป็น2ตัว อายุปั๊มจะนานกว่าแต่เสียทีนึงก็ซ่อมเอาเพราะเบิกห้างตัวละ8หมื่น
-
ของเบิกห้างก็เป็นยี่ห้อBilsteinดังรูป
-
อีกตัวที่ชอบเดี้ยงกันคือคันเกียร์ไฟฟ้าที่ไม่สามารถขยับได้เพราะSolenoid Valveเสีย ตอนแรกๆผมก็เสียค่าโง่ไปแบบนี้ หลังๆทราบว่าช่างไทยก็ซ่อมกันได้แล้วครับ
-
หลังจากใช้งานมาเป็นระยะเวลา4ปีทุกๆวันเหมือนๆกับW140ก็ได้เวลาอำลาจากกันไปหาของใหม่ที่ซิงๆกว่า
-
รอชม S-class ตัวใหม่อยู่นะครับ ใกล้จะถึงละ
-
ถือว่าเป็นบุญก้นมากนะครับ ได้นั่ง MB S-Class 3 gen เนี่ย น่าอิจฉามากครับ
รถที่เอามา review ตอนนี้ยังใช้อยู่มั้ยครับ?
-
รอ W221 ต่อครับ อ่านแล้วเพลินดีครับสั้นๆ แต่บรรยายได้ด้วยรูปเลย เพลินดีจริงๆครับ
ส่วนตัวเคยนั่ง S500 W140ของญาติ นุ่มสบายจริงๆครับ แล้วก็W221เคยนั่งของลูกค้าสั้นๆ 55
แต่ยังไม่เคยได้นั่งW220เลยครับ ...จะรออ่านต่อนะครับบบ :D
-
เคยนั่ง W220 ของลูกค้าที่ทำงานครับ เปิดเข้าไป กลิ่นเบาะหนังหอมมากเป็นเอกลักษณ์ Benz จริงๆ
แถมได้ลองช่วงล่างรุ่นนี้ เพราะขับผ่านลานจอดรถที่เป็นหลุมบ่อเต็มไปหมด แต่รถกลับเคลื่อนที่ไปอย่างนิ่มนวล
ไม่มีอาการกระเด้งกระดอนเลย ประทับใจมาก
เอกสิทธิ์สำหรับ s-class ไปเจอลูกค้าท่านนี้ทีไร ได้ที่จอดรถ VIP ตลอดเวลา 555+
-
เคยนั่ง S500 W140
เขาเอากุญแจมาให้ยืมขับ แต่ผมให้พ่อขับ
รู้สึกว่านุ่มนวล สบายๆๆๆๆมาก และก็ดึงดุดสายตาคนด้วย ;D
-
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมแชร์ความเห็นกันนะครับ มาต่อกันหลังจากที่ได้ใช้งานเจ้าW220 Gold Eagleมาเป็นระยะเวลาพอสมควรจึงได้เมียงมองหาพาหนะคันใหม่ซึ่งที่เล็งๆไว้ก็ไม่พ้นW221และBMW Series7 F01จึงได้ไปลองขับและลองนั่งรถรุ่นดังกล่าวทั้ง2ยี่ห้อ จากการได้ทดลองขับรถทั้งคู่ได้ข้อสรุปสำหรับความเห็นส่วนตัวดังนี้ ด้านสมรรถนะการขับขี่F01ดีกว่าแน่นอนซึ่งจะรู้สึกได้ว่าตัวรถจะมีอาการโยนตัวน้อยมากๆเมื่อเทียบกับW221ซึ่งคงจะมาจากเหตุผลที่W221ยังคงใช้ระบบAirmaticอยู่ในรุ่นมาตรฐานต่างกับF10ซึ่งติดตั้งระบบDynamic Driveที่มีคุณลักษณะเช่นเดียวกับระบบActive Body Controlที่เป็นอุปกรณ์พิเศษในS Class ด้านระบบEntertainmentจอของF10ใหญ่กว่า คมชัดกว่าแน่นอน เบาะนั่งและพื้นที่ด้านหน้าF01กระชับกว่าแต่อึดอัดกว่า เบาะนั่งด้านหลังจะกล้ายกับด้านหน้าแต่จุดด้อยของF10คือHead roomค่อนข้างเสียเปรียบW221ค่อนข้างมาก ผมสูง177ซม.นั่งเบาะหลังแล้วรู้สึกหลังคาใกล้ศีรษะมากเกินไป และการใช้Ambient LightในW221นับว่าดูเท่มากด้วยเส้นLEDที่วิ่งไปตามแนวConsoleและประตู หลังจากชั่งใจอยู่พอสมควรจึงตัดสินใจที่จะลงเอยกับW221ด้วยความต้องการรถที่นั่งสบายและโปร่งมากกว่ารถที่เน้นสมรรถนะสูงๆแต่อึดอัดกว่า จากประสบการณ์การใช้S Class 2 Generations ที่ใช้เครื่อง6สูบขนาดเล้กพบว่าการออกตัวค่อนข้างอืดและรับทานน้ำมันเชื้อเพลิงค่อนข้างมากจึงได้หารือกับช่างซ่อมBenzขาประจำและได้คำแนะนำว่าน่าจะคบกับW221 S320CDIเครื่องยนต์ดีเซล6สูบพ่วงหอย 3000CC. รหัสOM642น่าจะเหมาะสมกว่าS300เครื่องยนต์เบนซิน3000CC. แบบNA รหัสM272 6สูบเช่นกันเพราะทั้งคู่ใช้เกียร์7สปีดแบบ722.9แต่S300ก็ยังออกตัวแบบไม่ดึงเหมือนS320CDI อีกทั้งเครื่องOM642ได้รับคำชมเรื่องเสียงที่ไม่ดังและไม่สั่นสะเทือนให้รำคาญด้วย จึงเป็นที่มาของW221สีFlint Greyคันนี้
-
S320 CDI คันที่ใช้อยู่นี้เป็นรถประกอบในไทยหรือCKD ที่เป็นBody Long Wheel Base ที่มีออปชั่นไม่มากมาย หลักๆก็มี โคมไฟหน้าBi-Xenonพร้อมระบบCornering Light หลังคาSun roof ระบบกล้องNight View ส่วนอื่นๆก็มาตรฐานเช่นม่านหลังไฟฟ้าพร้อมม่านประตูหลังที่เป็นระบบไฟฟ้าแล้ว เบาะหลังปรับแยกได้พร้อมระบบนวดหลัง จอCOMMANDพร้อมDVD 6แผ่นและPCMCIA Media Slot
-
เป็นที่แน่นอนว่าMercedes ได้พบว่าลูกค้ามีความรู้สึกว่ารถธงของMercedes Benzขาดความหรูหรานั่งสบายที่ควรเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นในขณะที่คู่แข่งสำคัญเช่นBMWได้พัฒนารถในระดับเดียวกันอย่างE66และF01ให้ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าแบบE38และทำให้ได้คำชมจากลูกค้าในด้านความสะดวกสบายในการนั่ง Mercedesจึงได้พัฒนารถธงคันใหม่ให้มีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมในทุกๆมิติ โดยมีความยาวให้เลือก2แบบตั้งแต่ 5076ถึง5206 มม. ซึ่งยาวกว่ารุ่นเดิมระหว่าง33-43 มม.ตามลำดับ นอกจากนั้นช่วงล้อก็เพิ่มจากเดิม70/80มม. เป็น3035/3165มม. นอกจากนั้นทำให้ตัวรถกว้างกว่ารุ่นเดิม16มม.และสูงกว่ารุ่นเดิม29มม.เช่นกัน ซึ่งส่งผลทำให้ห้องโดยสารโอ่โถงสบายเหมือนที่นั่งชั้นFirst Class ในบ้านเราเท่าที่ทราบมีแต่รุ่นช่วงล้อยาวเท่านั้น ซึ่งถ้าพิจารณาดูจากขนาดห้องโดยสารจะเห็นว่าใหญ่โตมาก Head Roomเหนือเบาะนั่งสูงถึงเกือบๆ1เมตร!
-
มีการนำอลูมิเนียมมาใช้เป็นชิ้นส่วนตัวถังต่างๆเพื่อลดน้ำหนักเช่นฝากระโปรงหน้าและบังโคลนหน้าที่แม่เหล็กดูดไม่ติด
-
เช่นเดียวกับประตูบานหน้า
-
บานหลังเช่นกัน
-
ไม่เว้นแม้กระทั่งฝากระโปรงท้าย
-
คงเหลือเพียงเสาหลังคาและบังโคลนหลังเท่านั้นที่เป็นเหล็ก
-
หลังคาซันรูฟทำด้วยแก้วมีแผ่นบังแสงภายในสามารถเลื่อนเปิดปิดด้วยมือ
-
เลื่อนเปิดรับลมได้ด้วยไฟฟ้า
-
หรือจะกระดกขึ้นก็ได้
-
เครื่องยนต์ดีเซล6สูบ 3000CC. 219แรงม้า แรงบิดสูงสุด540นิวตัน-เมตร
-
นับเป็นเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ที่มีจำนวนวาล์วถึง4วาล์วต่อสูบ มุมวี72องศา กำลังอัด18ต่อ1 ตัวเครื่องและฝาสูบเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ป้อนเชื้อเพลิงด้วยระบบCDI พ่วงระบบอัดอากาศเเบเทอร์โบชาร์จแปรผันVariable Nozzle 1ลูก
-
แรงดึงไม่ต้องพูดถึง ทันใจแน่นอน จะเสียความรู้สึกบ้างตอนกดคันเร่งไฟฟ้าเร็วๆแล้วต้องรออึดใจให้มันคิดถึงจะพุ่งออกไป บางครั้งทำให้เสียจังหวะเหมือนกัน แต่พิษสงดูจากรูปเอาเองที่ความเร็ว180ยังชิวๆ
-
อัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเครื่องเบนซินมาก ประหยัดกว่าเกือบ40%
-
หน้าปัดระบบจอคอม อ่านง่าย ชัดเจน เมื่อกดปุ่มNight Viewก็จะเปลี่ยนสภาพไปตามรูป
-
เทียบกับหน้าปัดยามปกติ
-
สิ่งที่Mercedesทำให้แตกต่างไปจากเดิมๆคือภายในห้องโดยสารจะไม่มีการใช้ปุ่มสวิทช์ที่เป็นวัสดุพลาสติกเลยสักชิ้นและมีการหุ้มด้วยไม้หรือโลหะในทุกๆจุด ทั้งนี้เพื่อให้ดูหรูหรา
-
สิทช์ต่างๆก็ใช้โลหะ
-
เช่นเดียวกับมือจับต่างๆ
-
ในห้องโดยสารจะมีไฟAmbient Lightเดินรอบทั้งหมด
-
สิ่งที่เปลี่ยนไปคือประตูดูดไม่ใช้ระบบปั๊มลมอีกต่อไปแต่ใช้ระบบไฟฟ้าแทน การดูดจะไม่นิ่มนวลเหมือนเก่าแต่ดูดเร็วมากกว่า
-
ความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้นคือนอกจากม่านหลังไฟฟ้าแล้วยังมีม่านประตูด้านหลังแบบไฟฟ้าซึ่งสามารถบังคับได้จากคนขับหรือประตูด้านหลังทั้งซ้ายและขวาเช่นกัน
-
พื้นที่ด้านหลังเหลือเฟือครับ
-
ด้านหน้าก็เช่นกันพร้อมระบบเลื่อนเบาะและพวงมาลัยแบบEasy Exitด้านคนขับมาให้ คนที่คิดว่าจะสวีทกับแฟนที่นั่งด้านหน้าคงจะแอบผิดหวังเพราะที่เท้าแขนตรงกลางใหญ่โตมากๆ :P
-
ดูความกว้างที่เท้าแขนด้านหน้าตรงกลางเอาเองครับ ขนาดเบาะใหญ่ๆแล้วยังเหลือบาน
-
180 ที่ 2700 รอบป่าวอ่า โหยน่าิอิจฉา
-
ตรงกลางเป็นที่วางแป้นกดโทรศัพท์และCommand Dialพร้อมทั้งที่วางแก้วหรือขวดน้ำ
-
180 ที่ 2700 รอบป่าวอ่า โหยน่าิอิจฉา
ถูกต้องแล้วครับ เคยวิ่งไปถึง240และยังไปได้อีกแต่ใจไม่ไปด้วยเลยยกดีกว่าครับ
-
พระเจ้าจอร์ท 180 รอบเครื่องยังชิลๆ เจ๋งสุดยอด รีวิว ก็ละเอียดมากครับ ขอบคุณมากครับ
-
หวังว่าตอนคุณวีเปลี่ยนรถ ผมจะมีตังค์พอรับคันนี้มาใช้ต่อนะครับ อิอิ
-
รีบมาชมรีวิวคุณV221 ต้องขอชื่นชมจริงๆค่ะ ทำรีวิวได้สุดยอดเลยค่ะ
ถ้าดิฉันเป็นคุณครูจะให้10คะแนนเต็มเลยทีเดียว :o
-
ขอบคุณครับ สำหรับ ที่สุดของกระทู้ User's Review ;D
-
ยามเดินทางไกลเครื่องดีเซลตัวนี้จะประหยัดมากๆ จากรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเช่นเดียวกับเครื่องเบนซินวี8 5000ซีซ๊ 300แรงม้าที่วางอยู่ในS500 W140ดังรูป
-
ไฟหน้าคันนี้ไม่มีระบบILSแต่มีระบบCornering Lightมาให้โดยในภาพแรกไฟCorneringยังไม่เปิด
-
รูปต่อมาไฟCorneringด้านขวาทำงานเมื่อเปิดไฟเลี้ยวขวาหรือหมุนพวงมาลัยเกิน15องศาเพื่อให้มองเห็นมุมโค้งด้านข้างชัดเจนยิ่งขึ้น
-
สำหรับระบบEntertainmentก็มีเครื่องเล่นDVD 6แผ่นพร้อมจอLCDขนาด8นิ้วตรงกลางมาให้
-
จอสามารถปรับหมุนซ้าย ขวา ได้แต่ขึ้นลงไม่ได้
-
จอกลางจะเป็นจุดแสดงผลและตั้งค่าต่างๆในตัวรถเช่นเบาะนวดด้านหน้าผ่านCommand
-
การตั้งค่าระบบแอร์ทั้งด้นหน้าและด้านหลัง
-
ระบบเสียง คันนี้เป็นระบบธรรมดาที่มีSub Wooferด้านท้าย1ดอกแต่ไม่มีระบบLogic 7 DTS 5.1
-
เครื่องเล่นDVDสามารถต่อเชื่อมฟังเพลงMP3ผ่านช่องSlotแบบPCMCIAหรือเรียกว่าPC Cardซึ่งในรุ่นใหม่จะเป็นช่องเสียบSD Card
-
การวางตำแหน่งปุ่มควบคุมแบบเรียบๆแต่ใช้วัสดุที่ดูมีราคาเช่นที่ได้ชี้แจงไปก่อนหน้า
-
ปุ่มควบคุมแอร์เรียงใต้นาฬิกาที่ดูเหมือนอนาล็อคแต่เป็นระบบDigital
-
แอร์หลังสามารถปรับได้เหมือนด้านหน้า
-
พวงมาลัยวงใหญ่เทอะทะเหมือนรุ่นก่อนหน้า
-
คันเกียร์7สปีดแบบDirect Silectอยู่ด้านขวาของพวงมาลัย วิธีการใช้ก็ง่ายๆคือ เดินหน้าโยกขึ้นบน เกียร์ว่างกดลงล่าง ถอยหลังกดลงสุด เข้าเกียร์Pกดปุ่มเข้าพาวงพวงมาลัย
-
โปรแกรมเกียร์มี3รูปแบบคือC Comfort S Sport M Manual ซึ่งความแข็งของช่วงล่างจะเปลี่ยนไปตามโปรแกรมดังกล่าวเช่นกัน Paddle Shiftจะซ่อนอยู่ด้านหลังวงพวงมาลัยโดยข้างซ้ายสำหรับลดเกียร์
-
ด้านขวาสำหรับเพิ่มเกียร์
-
จานเบรคมีขนาดค่อนข้างใหญ่สำหรับรถยนต์นั่งทั่วไปโดยจานเบรคหน้าเป็นแบบเจาะรู การทำงานของแป้นเบรคถือว่าดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถเก๋งทุกยี่ห้อ การทำงานหน่วงความเร็วเป็นไปตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไป แรงGเบรคดีจนกระทั่งต้องคอยมองกระจกหลังเมื่อเบรคกระทันหันด้วยความกลัวว่ารถคันหลังจะชนท้ายเอา ล้อติดรถเป็นขนาด255/45R18ทั้ง4เส้น
-
แต่ด้วยความรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบล้อลายติดรถจึงไปถอยล้อS600 W221มาใส่โดยเป็นขนาด255/45R18สำหรับล้อหน้าและ275/45R18สำหรับล้อหลัง ความกว้างกระทะล้อหน้า8.5นิ้ว หลัง9.5นิ้ว
-
การเข้าออกประตูนับว่าเป็นสิ่งที่Mercedes Benzทำได้ดีกว่าBMWเสมอๆ ซึ่งW221ก็เป็นเช่นนั้น เบาะหลังสามารถเลื่อนเอนนอนได้แยกซ้ายและขวาดังรูป
-
สำหรับคันนี้ไม่มีชุดEntertainmentหลังจึงไม่มีระบบCommandด้านหลังมาให้แต่มีสวิทช์ปรับเบาะนวดซ้าย ขวา ให้แทน
-
ล้ออะไหล่เป็นแบบFull Size
-
ฝากระโปรงท้ายคันนี้ไม่มีระบบไฟฟ้าเวลาเปิดจึงเด้งเองเหมือนรุ่นอื่นๆที่คุณJIMMY บ่นไว้ว่าระวังจะเสยคางเอา ยังดีที่การเด้งยังช้าๆไม่เร็วเหมือนพวกW211 ภายในพื้นที่กว้างขวางคิดว่าท่านผู้การลงไปนอนได้สบายๆ
-
การตั้งค่าต่างๆทำได้มากมาย คงบรรยายได้ไม่หมดในกระทู้นี้ ยกตัวอย่างนิดหน่อยคงจะพอนะครับ
-
แน่นอนว่าเมื่อเป็นระบบช่วงล่างแบบAirmaticจึงสามารถยกสูงได้เหมือนเช่นรุ่นW220
-
เนื่องจากจอหน้าปัดเป็นแบบคอมจึงนำเอาไฟเตือนParktronicด้านหน้ามารวมไว้ที่นี่ และระบบเบรคเป็นแบบไฟฟ้าพร้อมระบบช่วยเพิ่มแรงเบรคแบบBAจึงสามารถกดแป้นเบรคย้ำเพื่อให้รถจอดเมื่อรถติดได้โดยหน้าจอจะเเสดงสถานะHOLDดังภาพ
-
ไฟLocating Light
-
โดยมีไฟส่องทางจากไฟเลี้ยวช่วยให้สว่างขึ้น
-
จากการใช้งานทุกวันพอจะสรุปได้ดังนี้ครับ การขับขี่เป็นไปแบบนุ่มนวลสบายๆตามสไตล์Benzโดยอาการโยนตัวน้อยลงกว่ารุ่นW220ค่อนข้างมาก เบรคดีมากๆและไม่กินผ้าเบรคหรือจานเบรคเหมือนW220อีกต่อไป อุปกรณ์ต่างๆมีอายุการใช้งานทนทานกว่าW220อย่างชัดเจน การออกแบบภายในใช้วัสดุที่ดูมีราคาและหรูหราตามแบบฉบับW140ที่เคยทำได้ดี
-
ความประทับใจที่มีต่อW221คันปัจจุบันคือภายในโอ่โถง Headroomเหลือเฟือ การเข้าออกสะดวกสบาย เบาะนั่งรับกับสรีระทุกคนได้อย่างดีทุกตำแหน่ง แรงดึงดีตั้งแต่ออกตัว เบรคสุดยอดแล้วสำหรับรถเก๋ง เครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงมากเมื่อเทียบกับขนาดที่ใหญ่โต
-
รึวิวต่อไปครับ
-
ต่อด้วยW212 AMG
-
W212คันที่กำลังจะมาเป็นเกียร์7Gด้วยครับ จะได้เทียบความรู้สึกกับ722.6 5สปีด
-
สุดยอดรีวิวแห่งปี รออ่านอยู่ครับ ;D
-
เห็นพี่วี รีวิวแล้วไม่รู้จะเสริมยังไงเลยครับ แต่ก็จะลองเสนอ user review ในมุมมองของผมให้นะครับ เชื่อแน่ว่าไม่ดีเท่าของพี่วีแน่ๆ แต่คงขอค่อยๆ ทำเพราะยังไม่ค่อยมีเวลาเลย
-
รุ่นที่ผมใช้เป็นรุ่น w221 ตัว Minor MY2011 เข้าใจว่าพี่วีก็มีรุ่นนี้เหมือนกัน แต่ของผมเป็นตัว S350 เบนซิน ก่อนที่จะไปพูดถึงคันนี้ขอพูดถึงคันก่อนหน้าก่อนนะครับ โดยที่คันก่อนหน้าผมใช้ BMW 730LD F01 มาก่อน
-
เป็น MY2010 ใช้งานมาได้ปีกว่าๆ ก็เป็นอันต้องลาจาก เพราะเจอปัญหาบางประการ จริงๆ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบรถ BMW มาก ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมีรถว่าถ้าจะซื้อรถจะซื้อ BMW เท่านั้น พอมีโอกาสเลยได้เป็นเจ้าของสองคันคือ คันนี้กับ Z4
-
ปัญหาที่เจอใน 730Ld ก็จะเป็นปัญหาด้านความรู้สึกซะมากกว่า รู้สึกว่า วัสดุภายในไม่ดีอย่างที่คาด และ เจอกับปัญหาการประกอบบางอย่าง เช่นประตูปิดไม่ได้เมื่อจอดรถบนทางลาด อันนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ประตูมันหนักมาก เมือรถไม่ได้ระดับมันเลยตก ทำให้ต้องออกแรงยกขึ้นเล็กน้อย ประตูถึงจะปิดได้ ซึ่งไม่น่าจะเจอในรถราคาหลายๆ ล้านบาท
รูปแสดงให้เห็นถึงวัสดุภายใน ต้องขอโทษด้วยสำหรับรูป คันนี้ไม่ค่อยได้มีถ่ายไว้ และวันที่ถ่ายนี้ถ่ายตอนไปเที่ยวตจว พอดี
-
ขอสรุปคร่าวๆ โดยการเปรียบเทียบระหว่าง W221 กับ F01 เลยแล้วกันนะครับ ก่อนที่จะไปดูตัว W221
สำหรับผม
1. เบาะหน้า Benz นั่งสบายกว่า BMW เพราะรู้สึกว่าเบาะ Benz จะหนาและนุ่มกว่า อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับวัสดุหนังที่หุ้มเบาะด้วย
2. เบาะหลัง BMW นั่งสบายกว่า เพราะผมว่า หมอรองศรีษะของ BMW จะพอดีกับตำแหน่งของหัวเรามากกว่า
3. การจัดวางปุ่มบนพวกมาลัย หรือ ก้านบังคับ ข้างคอพวงมาลัย BMW ทำได้ดีกว่า ของ Benz มี 4 ก้าน ดูมากไปหน่อย และปุ่ม Multifunction ของ BMW มีตัวกลิ้งๆ ทำให้ปรับค่าได้ง่ายและเร็วกว่า Benz ที่เป็นกดอย่างเดียว และก้านไฟเลี้ยว ของ BMW รู้สึกว่าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
4. สมรรถนะ เอาความรู้สึกล้วนๆ ผมว่า BMW ดึงตัวตอนต้นๆ ดีกว่า แต่กับ Benz ตอนออกตัวจะหนืดๆ แต่พอสัก 2000 รอบขึ้น จะไหลลื่นดีกว่า โดยที่ตัวเลขจากโรงงาน 0-100 BMW ให้ไว้ที่ 8 วิ แต่กับ Benz ให้ไว้ที่ 7.1 วิ ขับจริงๆ ผมชอบแนวการเร่งของ Benz มากกว่า
5. อัตราสิ้นเปลือง BMW ประหยัดกว่า ใช้งานตามเส้นทางที่ผมใช้ประจำจะอยู่ประมาณ 10.3 l/km เทียบกับ Benz ที่อยู่ประมาณ 12 กว่า l/km ก็ถือว่าไม่แย่มากนักสำหรับ เครื่องดีเซล เมื่อเทียบกับเบนซิน เครื่อง Benz ก็ถือว่าประหยัดได้ดีทีเดียว เพราะถ้าคิดว่าเป็นเครื่อง 3500 cc น่าจะกินกว่านี้ แต่ตัวเลขนี้ผมขอลองขับไปอีกสักพักจะมาอัพเดทอีกที
-
ทำแล้วเริ่มเหนือยแล้ว นับถือคนทำ User Review จริงๆ ครับ ทำไม่ใช่ง่ายเลย เดี๋ยวขอออกไปเที่ยวข้างนอกก่อน แล้วถ้ากลับมาไม่ดึกจะกลับมาต่อ ก่อนไปทิ้งรูปล้อไว้ให้ดูก่อน ;D
-
great stories
very thank you krub :D
-
สุดยอดมากเลยครับ รายละเอียดของรถเยอะดีจริงๆ รออ่านของคุณ Gamo ต่อนะครับ :)
ผมเคยนั่ง W220 S500 ของญาติที่อเมริกา ขนาดใส่ล้อ 20 นิ้ว ยังนุ่มและเงียบมากๆ วิ่ง 70 mph ถ้าไม่มองหน้าปัดนึกว่าวิ่งแค่ 40
แต่ที่ผมไม่ค่อยประทับใจคือวัสดุบางจุดเป็นพลาสติกแข็ง และเบาะรองนั่งด้านหน้าบางไปหน่อยครับ
ปล. ตอนแรกอาผมสนใจ W140 S280 อยู่ ว่าจะมาสอบถามข้อมูลในบอร์ดนี้ แต่ไปๆ มาๆ เขาเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นซะแล้ว ผมเลยอดมีบุญได้ขับ Benz เลย :D
-
สุดยอด uservoice แห่งปีครับ รอชมของคุณ Gamo ต่อครับ
-
ในนี้ผมชอบ รีวิวนี้มากที่สุดครับ ละเอียดยิบเลย ข้อมูลบาน ส่วนตัวผมชอบรุ่น w220 ที่สุดครับ
-
ในนี้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ;D ;D ;D
-
เดี๋ยว ส อา จะมาต่อนะครับ ช่วงนี้อยู่ไม่ค่อยเป็นที่ไม่ค่อยสะดวกในการ อัพรูปเลย ใครมีอะไรทิ้งคำถามไว้ได้ครับ จะคอยมาตอบครับ
-
ชีวิตนี้จะได้ซื้อมาขับบ้างไหมเนี่ย
555555
รถสวยๆทั้งนั่น ;D
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
แต่ละคัน สุดยอดดดดด user voice เขย่า headlightmag เลยนะครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
สุดยอดครับ เชื่อว่าเป็นรถในฝันของหลายๆคนเลยครับ แถมเขียนรีวิวดีขนาดนี้ ยิ่งอยากได้เข้าไปใหญ่ ::)
-
อ่านรีวิวนี้จบเชื่อว่ามีหลายคนต้องนอนฝันแน่นอน 555
-
User's Voice Review History of S-Class
-
.. ขอแก้แป๊ปนะครับ
-
รถแต่ละคันที่มีสุดยอดมากจริงๆครับ แอบอิจฉาเล็กๆ :D
-
ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่สละเวลามานั่งทำกระทู้มาให้เราได้ดูกัน
ได้ความรู้เพิ่มเติมด้วยเช่นเดียวกันครับ
-
เป็นรีวิวที่อ่านได้เพลินมากๆครับ ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป
ข้อมูลแน่นสุดๆ และที่สำคัญคือผมชอบทั้ง 3 รุ่นเลยครับ
:D
-
มาต่อนะครับ จากภายในก่อนแล้วกันครับ เพราะเชื่อว่ารถรุ่นนี้ตามถนนมีเยอะมาก เพื่อนๆ คงเคยได้เห็นกันมามากแล้ว รูปนี้เพื่อเป็นการเปรียบเทียบกับ BMW ที่ผมลงไว้ก่อนหน้า จะเห็นได้ว่า Benz ออกแบบเน้นไปในทางหรูหรา โดยที่ทาง BMW จะเน้นไปในทางทันสมัยกว่า ของ BMW จะมีเครื่องเล่น DVD ของ MB มีเหมือนกันแต่จะอยู่ใต้เบาะนั่งหลัง ไว้จะถ่ายรูปมาให้ดูอีกทีครับ
การเปิดปิดแอร์หลัง MB ทำได้อยากกว่า ก็อย่างที่เคยกล่าวครับ ระบบต่างๆ บน BMW F01 ดูจะใช้งานง่ายกว่าของ W221 มากกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะผมคุ้นกับ BMW มากกว่าก็ไม่รู้นะครับ การเปิดปิดแอร์หลังใช้ ปุ่มโยกขึ้น โยกลง ปรับได้อิสระทั้งซ้ายและขวา ระบบแอร์หลังเลือกปรับจากจอ Comand หน้าได้เหมือนกันครับ
-
ต่อมาเป็นหน้าปัดด้านหน้าโดยรวมนะครับ โดยทั่วๆ ไป ก็ไม่ต่างจากตัวก่อน Minor มากนัก ถ้าเทียบกับรถของพี่วี ก็จะเห็นได้ว่า ทุกอย่างแทบจะเหมือนกัน มีแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็ตรงพวงมาลัย ผมเลือกเบาะเป็นสีน้ำตาลแดง และลายไม้เป็นสีดำ เพื่อจะไม่ให้มันดูแก่เกินไปนัก สีเบาะนี้ทาง MB เรียกว่า สี Chestnut Brown และหุ้มหนังแบบ Passion ที่จะมีผิวสัมผัสนิ่มกว่าหนังปรกตินิดหน่อย และเลือก package การหุ้มหนังเป็นแบบ exclusive โดยจะทำการหุ้มหนังที่ตัวคอนโซลด้านล่าง และที่แผงประตูด้วย จะเห็นว่ามีรอยตะเข็บยาวเป็นแนวตลอดรอบคันรถ อันนี้เพราะผิดหวังกับวัสดุภายใน BMW เลย ตอนเลือก MB เลยระวังตรงนี้เป็นพิเศษ
-
เครื่องเสียงภายในรถ หน้าหลัง ตกเป็นหน้าที่ของ Harman/Kardon รู้สึกจะลำโพง 14 ตัว คุณภาพเสียง ก็ไม่ได้ดีมากนัก โดย MB มีชุดเครื่องเสียง Bang and Olufsen BeoSound ให้เลือกด้วย แต่ผมไปลองฟังมา เสียงดีขึ้นนิดหน่อย เชื่อว่าถ้าออกมาวิ่งตามถนน แทบจะบอกความแตกต่างไม่ได้ โดยถ้าจะเอาชุดเครื่องเสียง Bang and Olufsen BeoSound ต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 15000 ปอนด์ ยังไม่รวมภาษี ก็ถือว่าหนักเอาเรื่อง
-
แผงหน้าปัดด้านบนหุ้มหนัง MB ใจดีเย็บขอบแบบ contrast stitching ให้ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบ คุณภาพงานถือว่าสอบผ่าน
-
ตามมาชม ;D
-
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมและแสดงความเห็นครับ ขอขอบคุณคุณJIMMYที่ทำให้ผู้อ่านที่ติดตามผลงานของท่านได้มีโอกาสReviewแบบมือสมัครเล่นบ้างครับ เมื่อได้ลองทำดูจะทราบเลยครับว่ากว่าจะเป็นบทความแบบมืออาชีพของคุณJIMMYออกมาได้นับว่าต้องใช้ความอุตสาหะเป็นอย่างยิ่ง ขอแสดงความนับถือคุณJIMMYจากใจเลยครับ
-
รถคุณGamoสีเดียวกับเจ้าIridium Silver Bluetecของคุณพ่อผมที่เพิ่งถอยมาไม่กี่เดือนเลยครับ
-
ต่างกันที่ล้อคันนี้ไม่ใช่AMG
-
ภายในก็คนละสีและเครื่องเสียงคันนี้เป็นB&O
-
แจ่มเลยครับคุณวี เฉพาะเครื่องเสียง B&O ก็ออกรถเล็กๆ ได้คันนึงแล้ว ตัว Tweeter ของ B&O สวยมากเลยนะครับ ต้องรบกวนคุณวี ถ่ายมาลงให้เพื่อนๆ ดูแล้วหล่ะครับ :)
ว่ากันแต่เครื่องเสียงติดรถ ผมชอบ Bose ใน Porsche มากกว่า Harman Kardon ใน Benz อีกนะครับ โดยส่วนตัวคิดว่า Bose เสียงดีกว่า แต่ B&O นี่กินขาดแน่ๆ ครับ
-
แจ่มเลยครับคุณวี เฉพาะเครื่องเสียง B&O ก็ออกรถเล็กๆ ได้คันนึงแล้ว ตัว Tweeter ของ B&O สวยมากเลยนะครับ ต้องรบกวนคุณวี ถ่ายมาลงให้เพื่อนๆ ดูแล้วหล่ะครับ :)
ว่ากันแต่เครื่องเสียงติดรถ ผมชอบ Bose ใน Porsche มากกว่า Harman Kardon ใน Benz อีกนะครับ โดยส่วนตัวคิดว่า Bose เสียงดีกว่า แต่ B&O นี่กินขาดแน่ๆ ครับ
ได้เลยครับ รูปนี้เป็นTweeterที่เสาAด้านหน้ารถครับ
-
ที่เสาBก็เหมือนๆกัน มีไฟเรืองเเสงทุกดอกครับ
-
ขอบคุณมากๆคร๊าบสำหรับรีวิว
โดยเฉพาะปลาวาฬน้อย ผมชอบมากๆ
ตอนปี 1 สมัยมันออกมาไม่นาน ชอบมันมากๆ
จ๊าก B&O...... BOSE ที่บ้านถอยห่างเปิดทางให้ทันที ;D
-
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิว
รถสวยงามทุกคันครับ :)
-
เขามาชาบูพี่วีอีกทีครับ พี่วีเป็นพี่ที่ผมนับถือมากๆเลยครับ เวลาผมมีปัญหาอะไรพี่วีก็แนะนำให้ผมตลอดเวลา แก้ปัญหาได้หายด้วยครับผม
ขอบคุณสำหรับ Review The history of the Mercedes-Benz S-class นะครับผม ผมรู้แล้วแหละครับว่าเจ้าตัว W221 S320CDI ของคุณวี Options เหมือนคันที่บ้านผมไม่มีผิดเลยครับ ปัญหาหนักสุดก็เจ้า Command ราคา 350,000กว่าบาทเสียนี่แหละครับ ซึ่งผมก็เสียเป็นเพื่อนคุณวีไปแล้วแหละครับ555+
ปล.คุณ Gamo ครับสนใจ Co Review เจ้า Porsche Cayenne ไหมครับผม ตอนนี้ผมเก็บ Data ได้จำนวนนึงแล้วแหละครับแต่ยังไม่แน่ใจในระบบไฟฟ้าบางอย่างอะครับ 555+
-
สุดยอดมากครับผม....ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ....
-
เขามาชาบูพี่วีอีกทีครับ พี่วีเป็นพี่ที่ผมนับถือมากๆเลยครับ เวลาผมมีปัญหาอะไรพี่วีก็แนะนำให้ผมตลอดเวลา แก้ปัญหาได้หายด้วยครับผม
ขอบคุณสำหรับ Review The history of the Mercedes-Benz S-class นะครับผม ผมรู้แล้วแหละครับว่าเจ้าตัว W221 S320CDI ของคุณวี Options เหมือนคันที่บ้านผมไม่มีผิดเลยครับ ปัญหาหนักสุดก็เจ้า Command ราคา 350,000กว่าบาทเสียนี่แหละครับ ซึ่งผมก็เสียเป็นเพื่อนคุณวีไปแล้วแหละครับ555+
ปล.คุณ Gamo ครับสนใจ Co Review เจ้า Porsche Cayenne ไหมครับผม ตอนนี้ผมเก็บ Data ได้จำนวนนึงแล้วแหละครับแต่ยังไม่แน่ใจในระบบไฟฟ้าบางอย่างอะครับ 555+
เปิดก่อนเลยครับ คุณ Varit เดี๋ยวผมตามมาร่วมทีหลังครับ :P เจอแค่เบนซ์คันเดียวยังทำไม่เสร็จเลย อาจจะมาร่วมแทรกๆ แล้วกันนะครับ
-
อภิมหารีวิว จริงๆ :o :o :o :o
-
ขอต่อนะครับ คุณ Yinglek มาทีหลังแต่รีวิวเสร็จไปแล้ว แซงทางโค้งจริงๆ
อันนี้เป็น Rear Seat Entertainment ครับ ก็ประกอบไปด้วย จอสองจอ เครื่องเล่น DVD และก็ระบบเสียง Harman/Kardon :) ที่เห็นเป็นช่องอยู่ข้างๆ จอ เป็นช่องเสียบสาย AV ใช่ต่อพวกเกมส์ หรือว่าเครื่องเล่นพกพาได้ครับ
-
ทั้งสองจอ รวมไปถึงจอ Comand หน้าสามารถแยกดูคนละ source ได้ และเพื่อไม่ได้เสียงที่ออกมาตีกัน MB เลยให้ หูฟังแบบไร้สายมาด้วย 3 ชุด
-
ตามมาให้กำลังใจค่ะ เข้าใจเลยว่าคิดจะทำรีวิวมันไม่ง่ายเลยแหละค่ะ ;D
มาขอเป็นผู้ชมบ้างนะค่ะ
-
การควบคุมจอหลัง ทำได้ผ่านรีโมท MB ให้มา 3 ชุดเช่นกัน แต่ละตัวสามารถควบคุมได้ทั้งสามจอในรถ จริงๆ ให้มาอันเดียวก็น่าจะพอ ตัวรีโมทมีที่เก็บในที่ท้าวแขนหลัง
-
ตามมาให้กำลังใจค่ะ เข้าใจเลยว่าคิดจะทำรีวิวมันไม่ง่ายเลยแหละค่ะ ;D
มาขอเป็นผู้ชมบ้างนะค่ะ
จะชมอย่าลืมจ่ายค่าตั๋วเน้อ ;D
วันนี้คงพอแค่นี้หล่ะครับไว้ เดี๋ยวมาต่อ กว่าจะเสร็จ รุ่นใหม่คงออกพอดี 555
เห็นภายในรถคุณ Yinglek แล้วรู้สึกสีน้ำตาลแดงของผมจะเห่ยๆ ยังไงไม่รู้จิ ::)
-
ด้วยความยินดีครับน้องโบ๊ท ถ้าคุณพ่อจะส่งFrontไปซ่อมก็มายืมFrontตัวสำรองชองผมได้ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
ภายในรถคุณGamoสวยและFull optionจริงๆครับ
-
ด้วยความยินดีครับน้องโบ๊ท ถ้าคุณพ่อจะส่งFrontไปซ่อมก็มายืมFrontตัวสำรองชองผมได้ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
ภายในรถคุณGamoสวยและFull optionจริงๆครับ
สุดยอดแห่งน้ำใจเลยครับพี่วี ผมไม่แปลกใจเลยที่พี่จะเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต นับถือพี่มากครับ ทั้งความรู้ความสามารถและจิตใจครับ :)
-
ด้วยความยินดีครับน้องโบ๊ท ถ้าคุณพ่อจะส่งFrontไปซ่อมก็มายืมFrontตัวสำรองชองผมได้ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
ภายในรถคุณGamoสวยและFull optionจริงๆครับ
โอ้ว ขอบคุณมากๆเลยครับคุณวี ผมละเกรงใจพี่มากๆเลยครับผม
แต่พอดีคงใช้แบบที่ติด Front Pioneer เพิ่ม ไปจนขายเลยอะครับ 555 เพราะซ่อมก็แพงใช้ได้อยู่อะครับผม
ได้พี่หนุ่มที่พี่วีช่วยแนะนำอะแหละครับผม ^^
-
เข้ามาดูคนรวยเค้าคุยกันอีกรอบ อิอิ
-
กระทู้นี้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านเลยแหะ
-
อยากใช้S-Class ตัวใหม่จัง คุณพ่อท่านใช้ S 500 ตัวใหม่เป๊ะมากเลยครับ
ส่วนผมใช้ C-Class ธรรมดา แหะๆ
รีวิวละเอียดมากชอบๆๆ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยนะคร้าฟ
-
อยากใช้S-Class ตัวใหม่จัง คุณพ่อท่านใช้ S 500 ตัวใหม่เป๊ะมากเลยครับ
ส่วนผมใช้ C-Class ธรรมดา แหะๆ
รีวิวละเอียดมากชอบๆๆ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยนะคร้าฟ
โอ้ว.. ผมใช้รถรุ่นเดียวกับพ่อคุณ DOMOJET สงสัยจะใช้รถสูงกว่าวัยไปจริงๆ :-\
-
อยากใช้S-Class ตัวใหม่จัง คุณพ่อท่านใช้ S 500 ตัวใหม่เป๊ะมากเลยครับ
ส่วนผมใช้ C-Class ธรรมดา แหะๆ
รีวิวละเอียดมากชอบๆๆ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยนะคร้าฟ
โอ้ว.. ผมใช้รถรุ่นเดียวกับพ่อคุณ DOMOJET สงสัยจะใช้รถสูงกว่าวัยไปจริงๆ :-\
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับผมยังอยากใช้เลยอยากเอาโฉมที่แล้วมาแต่งผมว่าปลาวาฬน่ะสุดๆแล้ว
-
ขอบคุณมากครับ ผมชอบ W140 มาตลอดเลย อยากได้มานานแ้ว แต่ไม่อยากซื้อมือสอง ตอนนี้คุณพ่อใช้ W221 อยู่ เป็นเครื่องตัวเดียวกันเลยครับ แต่เป็น Facelft แล้ว เลยเป็น S350
นุ่มมากทีเดียว แต่ของผม ทำไมไม่ค่อยประหยัดเท่าไหร่ก้อไม่รู้ งง
และส่วนตัวไม่ค่อยชอบรุ่นตาถั่วเท่าไหร่ครับ (W220)
-
เอ่อ ขอโทษนะครับ ตาถั่วคือBenz C Class รหัสตัวถังW203ครับ ถ้าเป็นW220จะเรียกกันว่ารุ่นตาเหยี่ยวครับ
-
ไม่เคยเห็นข้างใน s class พึ่งมาเห้น ขอบคุณมากครับที่รีวิวให้ดู
-
มาช้าไปหน่อยครับ เพิ่งมาเจอกระทู้นี้ :(
อยากทราบว่าคุณวีไปเปลี่ยนล้อS320 CDIเป็นS600 ซื้อล้อแม็กจากร้านไหนหรอครับ(หรือว่าซื้อจากศูนย์) อยากทราบเป็นความรู้ครับ ขอบคุณมากครับ
-
ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตอบครับ ล้อผมซื้อต่อจากเพื่อนที่เคยซื้อกับร้านล้อแม็กอีกทีนึงครับ ล้อนี้มาจากCLครับ