Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Satanic za' ที่ กันยายน 25, 2011, 23:18:55
-
สวัสดีคร้าบ
หลังจากที่สัญญาเอาไว้นานแล้วว่าถ้ามีเวลา จะทำข้อเปรียบเทียบระหว่างเฟียสต้ากับซิตี้มาให้อ่านกัน ผมขอแยกเป็นข้อดี(สำหรับตัวผมเองเท่านั้น ขออนุญาตไม่เอาไปอ้างอิงถึงผู้ใด) และข้อเสีย(นี่ก็เช่นกัน) และข้อแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้นะครับ
ขอบอกไว้ก่อนว่า รถที่ผมใช้ประจำจะเป็นเฟียสต้านะครับ ส่วนซิตี้ผมเพิ่งได้เอามาใช้จริงๆจังๆก็ช่วงนี้ ที่เหลือก็จะขับอยู่ที่ กทม เป็นระยะทางสั้นๆมากกว่า เพราะฉะนั้นข้อมูลที่ผมให้จะเยอะไปทางเฟียสต้ามากกว่าซิตี้ และเสียงวิจารณ์ทั้งหมด ผมพยายามพูดอย่างเป็นกลางในฐานะที่ผมมีรถทั้ง 2 คันอยู่ในมือเป็นของตัวเอง ดังนั้น ผมคิดว่า น่าจะมีแฟนๆเฟียสต้าอาจจะไม่พอใจที่ผมวิจารณ์เฟียสต้าตรงๆ และแฟนๆซิตี้ก็อาจจะไม่พอใจที่ผมวิจารณ์ซิตี้ตรงๆเช่นกัน ข้อมูลนี้ผมตั้งใจทำให้กับคนที่อยากรุ้ว่ามันมีอะไรแตกต่างกันบ้างระหว่าง 2 รุ่นนี้ หากใครเห็นแย้ง ก็สามารถทำรีวิว voice user แบบที่ผมทำ มาให้เพื่อนๆอ่านได้เช่นกันนะครับ
-
สำหรับรุ่นที่ผมจะเอามาเทียบกันนั้น เฟียสต้าเป็นรุ่น sport ตัว 1.6 5 Dr. ไม่ได้ติดชุดแต่งใดๆ(หมายถึงพวกสเกิต)
ส่วนซิตี้นั้น เป็นรุ่นทอปเหมือนกัน 4ประตู (จะบอกทำไม 555) ติดสเกิร์ตรอบคันจ้า เปลี่ยนเบาะด้านในเป็นเบาะหนังครับ
สำหรับวันที่ออกรถทั้ง 2 คันนี้ เจ้าเฟียสต้า ลืมตาดูโลกเมื่อ 17 กย 2010 ส่วนซิตี้ 20 ตค 2010 จ้า
-
เริ่มกันที่หน้ารถไล่ไปเลยละกันครับ
เมื่อเปิดฝากระโปรงขึ้นมา โอ้ คุณพระ รกมากๆสำหรับเจ้าเฟียสต้า แน่นแบบรกๆ -_- ท่ออะไรก็ไม่รู้ระโยงระยางเต็มไปหมด ช่างต่างกับซิตี้เสียนี่กระไร มีฝาครอบเครื่องเรียบร้อย ห้องเครื่องจัดเป็นสัดส่วนสวยงามกว่ากันมาก แล้วห้องเครื่องของซิตี้จะค่อนข้างโล่ง เวลาจะถอดจะทำความสะอาดอะไรจะง่ายกว่าเฟียสต้ามาก
เฟียสต้าท่อเยอะ เวลาทำความสะอาดหรือทำอะไร ขอเตือนเลยนะครับ ระวังให้ดี จะไปโดนท่อต่างๆทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย อิอิ
-
มาต่อกันที่ช่องสำหรับใส่แบตเตอร์รี่ ก็ไม่รุ้ฮอนด้าจะกั๊กไปไหน แบตลูกแค่นี้ใส่ไฟฉายเปิด ชม เดียวก็หมด(ประชด) แต่ลูกเล็กจริงๆ เวลากลางคืนเปิดไฟหน้า แล้วคอมเพรสเซอร์ทำงานทีนี่ไฟตกให้เห็นกันเลยทีเดียว (ลองเข้าไปอ่านในคลับได้ ถ้าไม่เชื่อผม) แต่ก็ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงอะไร ส่วนของเฟียสต้าจะลูกใหญ่ขึ้นมาหน่อย แถมถาดวางแบตยังรองรับให้ใส่ลูกใหญ่กว่านี้ได้อีก ถือว่าฟอร์ดทำการบ้านมาดีกว่า ณ จุดนี้ (ยังไงเหลือก็ดีกว่าขาด)
-
ต่อกันที่แผ่นกันความร้อนบริเวณฝากระโปรงหน้า ฮอนด้ามาแนวขี้งกอีกแล้ว ติดมาให้หย่อมนึง ให้มันเต็มๆแผ่นเลยก็ได้ อีน้องเอ๊ยยย
ของฟอร์ดจัดมาให้เต็มๆบานเลยครับ กันร้อนใช้ได้ วัสดุไม่ถึงกับน่าเกลียด แต่ผมมองว่าจุดนี้น่าจะให้มาเต็มๆบานครับ
-
ลงไปที่ใต้สะดือกันบ้าง เอ๊ยยย ลงไปที่ใต้ห้องเครื่องกันบ้าง ฟอร์ดไม่ยอมให้แผ่นกันหินมา เซ็งเป็ดเลย แต่ฮอนด้าจัดมาให้ครับ เต็มๆ ถือว่าจุดนี้ฮอนด้าชนะใจผมไปเลย อิอิ
-
หน้าเครื่องไม่รุ้จะไปวิจารณ์อะไรมันละ เข้ามาในรถกันบ้างมาถึงส่วนของคอนโซล คอนโซลเฟียสต้าจะค่อนข้างลึก เนื่องจากกระจกมีความลาดเอียงมาก ส่วนซิตี้จะดูแล้วไม่ลึกเท่าเฟียสต้า จุดนี้ไม่มีผลกับการใช้งาน แต่จะมีผลเวลาทำความสะอาดนึงหน่อย ของเฟียสต้าจะทำความสะอาดยากนิดนึง ใครแขนสั้นแล้วล่ะก็ ต้องต่อแขนกันเลยทีเดียว
ที่ปัดน้ำฝน ของทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่เหมือนกัน ซิตี้จะเป็นก้านพลาสติก(เหมือนรถทั่วไป) แต่ของเฟียสต้าตัวก้านจะเป็นยางทั้งอัน เวลาปัดผมรู้สึกว่าของซิตี้จะปัดสะอาดกว่า อาจจะเป็นเพราะยางของเฟียสต้าผมต้องตากแดดทุกวันเลยทำให้เรื่มเสื่อมก่อนซิตี้ (ซิตี้จอดในร่ม) ส่วนราคาของยางทั้ง 2 ตัวผมไม่ทราบ แต่คิดว่าเฟียสต้าน่าจะแพงกว่า
-
เข้ามาถึงที่บังแดดกันบ้าง เอิ่ม ของซิตี้นี่เล็กไปหน่อยนะ ปิดได้แค่หน้าผากเท่านั้นแหละ เวลาแดดส่อง 5555 ของเฟียสต้าจะค่อนข้างใหญ่กว่าพอตัว แต่จุดนี้หาซื้อมาเปลี่ยนกันได้ ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ปล ขออภัย ไม่มีรูปของเฟียสต้า
-
ไฟส่องห้องโดยสาร เฟียสต้าไม่มีมาให้ มีมาให้แต่ไฟส่องแผนที่ด้านหน้า ถ้ามีคนนั่งหลังขอบอกว่าเลิกคุย มืดมว๊ากกกก คลำถูกคลำผิดกันเลยทีเดียว แต่ซิตี้ให้มาทั้งไฟส่องแผนที่ด้านหน้า และไฟเก๋ง จุดนี้ขอบอกว่าเฟียสต้าสอบไม่ผ่านอย่างแรง ไม่ indy เลยอะ
**เฟียสต้านี่ผมบอกตรงๆเลยนะครับ เหมือนรถที่ทำมาให้นั่งแค่ 2 คนหน้าจริงๆนะ ไฟส่องด้านหลังก็ไม่มี สคัพเพลทก็มีให้แค่คู่หน้า**
ขออภัย ไม่มีรูปของซิตี้
-
หน้าปัทม์ ซิตี้หน้าปัดจะเป็น 3 วง มีแบ่งเป็นความเร็ว รอบเครื่อง และเกน้ำมัน ส่วนเฟียสต้าหน้าตาจะแปลกๆเหมือนยกทรงหรืออะไรซักอย่าง (ถ้าเป็นยกทรงก็เป็นของเด็กๆ คัพเล็กๆ 5555) จะมีหน้าปัทม์อยู่ 2 วง คือ ความเร็ว และรอบเครื่อง ส่วนตรงกลางจะเป็นเกน้ำมัน และทั้ง 2 รุ่น จะมีหน้าจอแสดงผลฟังก์ชันของรถมัน (ขอข้ามละกัน) ณ จุดนี้หน้าจอของซิตี้จะใหญ่กว่า เฟียสต้าจะเป็นจอแสดงผลเล็กๆ 2 บรรทัดได้มั้ง แต่มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างครบกว่าซิตี้ ถ้าจำไม่ผิดซิตี้จะมี 4 อย่างให้ดู คือ ไมล์รวม trip อัตรากินน้ำมัน อะไรประมาณนี้ หน้าจอเฟียสต้า จะมีบอก อุณหภูมิ trip ไมล์รวม อัตรากินน้ำมัน ความเร็วที่วิ่งเฉลี่ย อะไรประมาณเนี้ย
***ปล ขอถามครับ ซิตี้สามารถ reset อัตรากินน้ำมันเฉลี่ยให้เป็น 0 เพื่อเริ่มจับใหม่ได้ไหมอะครับ หรือทำได้เฉพาะ trip**
-
ง่วงแว้ว พรุ่งนี้มาต่อจ้า อิอิ
ติดไว้ก่อนนะ
-
เป๊ง..... หมดยกที่หนึง :o
-
Hahaha ฮาตรงยกทรงคัพเล็กๆ :D นี่ถ้ามีผ้าลูกไม้ตรงขอบๆวงหน้าปัดซักหน่อยนิอาจมีเผลอ ;D
-
ปูเสื่อรอครับ ;D
ว่าแต่ไอ้เจ้าแผ่นกันหินมันคือตรงไหนอะครับ :P
-
ของ CITY อัตราสิ้นเปลืองเป็น เฉลี่ยต่อ Trip ครับ
สำหรับเรียลไทม์ให้ดูขีด 0----20----40 km/l ข้างบนครับ
-
มาต่อแล้วจ้า
@ 5thAvenue ใช่หรอครับ ล่าสุดผมเพิ่งไปเติมน้ำมันเมื่อวาน AVG บอกว่า 14.8 กม/ลิตร แต่ที่เติมจริงๆหารออกมาแล้วได้แค่ 11.897 กิโล/ลิตรเองครับ
ผมว่าเหมือนมันเอาอัตรากินน้ำมันเฉลี่ยของก่อนหน้ามารวมด้วยอะครับ ไม่ทราบต้องรีเซ็ทยังไงพอทราบไหมอะครับ
@edward เปลี่ยนรูปให้แล้วจ้า
-
หน้าจอแสดงผลวิทยุ จุดนี้ซิตี้ก็จะเป็นรถญี่ปุ่นทั่วไป เป็นจอแสดงผลขนาด 1 บรรทัด แสดงผลได้แต่ภาษาอังกฤษ หน้าจอเป็นสีส้มครับ
ส่วนของเฟียสต้า จะเป็นหน้าจอ 5 หรือ 6 บรรทัดไม่แน่ใจ รวมถึงแสดงผลได้หลายๆอย่างนอกจากเพลง ยังแสดงผลเกี่ยวกับฟังก์ชันแปลกๆของเจ้าเฟียสต้าได้ด้วย ผมขอพูดในหัวข้อถัดไปละกันครับ
ส่วนตัวแล้ว ผมชอบของเฟียสต้ามากกว่า เพราะมันเป็นจอหลายบรรทัด เวลาเปลี่ยนเพลงมันเห็นได้หลายเพลงดี รวมถึงเวลาใช้ฟังก์ชันโทรศัพท์หรืออะไรอื่นๆด้วยครับ
-
คอนโซล เฟียสต้าใครๆก็บอกว่าเลียบแบบมาจากโนเกียแน่ๆ 5555 เหมือนจริงๆครับ แต่ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์การออกแบบคอนโซลเค้าก็บอกเลยนะ ว่าแรงบันดาลใจมากจากโนเมีย เอ้ย โนเกียครับ ลักษณะคอนโซลเฟียสต้าจเป็น slope มา ทำให้มันกิน area ห้องโดยสารเยอะ ส่วนคอนโซลซิตี้ ก็เป็นดีไซน์ตามแบบฉบับของญี่ปุ่นครับ ลักษณะจะตัดตรง ไม่ยื่นเข้ามาในตัวรถมาก ทำให้มันไม่เสีย area ห้องโดยสารเยอะ จึงทำให้มันกว้างกว่าเฟียสต้า
-
ไล่มาถึงช่องสำหรับเก็บของฝั่งคนนั่ง การเก็บของใกล้เคียงกันครับ ต่างกันไม่มาก
แต่ขอติฟอร์ดนิดนึง สีวัสดุที่ใช้ดู low มาก ไม่เชื่อลองดูจากรูปครับ เหมือนพวกลิ้นชักถูกๆจากเทสโกโลตัสเลย 5555 แต่จริงๆแล้ววัสดุน่าจะเป็นพลาสติกเกรดเดียวกัน (แต่คุณสมบัติโพลิเมอร์อาจจะต่างกัน ซิตี้จะออกแข็ง เฟียสต้าจะหยุ่นเหนียว)
-
อ้อ อีกนิดครับ ปกติผมเป็นคนที่ชอบถอดรองเท้าขับรถ ปกติผมถอดแล้วจะเอายัดไว้ใต้เบาะ แต่ซิตี้ไม่สามารถเอาไว้ได้ เพราะมันเป็นถังน้ำมัน ทำให้ตอนถอดต้องทำการจัดวางดีๆเพื่อป้องกันไม่ให้มันเข้าไปอุดอยู่ใต้เบรค มั๊ยงั้นล่ะงานเข้า ผมถึงได้บอกเสมอๆว่า เฟียสต้าไม่ได้ดีกว่าซิตี้ครับ เพียงแต่มันเหมะกับ life style ผมมากกว่าครับ
อีกเรื่องครับ เรื่องความเป็นระเบียบของใต้คอนโซล ซิตี้ก็ทำได้ดีกว่า ช่วงแกนพวงมาลัยของซิตี้มีการใส่ Cover ปิดไว้ แต่ของเฟียสต้าเปิดโล่งซะงั้น แต่รับรถมาครั้งแรก แล้วกำลังเลี้ยว มันมาสะกิดเท้าซ้าย ตกใจมาก นึกว่ามีงูอยู่ในรถ ก้มไปเจอแต่งูเกา 5555
ปล ไม่มีรูปซิตี้นะครับ แต่เอารูปเฟียสต้ามาให้ดู แหม่ ทำให้มันเรียบร้อยหน่อยก็ไม่ล่ายยย
-
มาถึงการวางตำแหน่งของคันเร่งและเบรค
ผมชอบของเฟียสต้ามากกว่ามากๆ ขับทางไกลสบายกว่ากันเยอะ เนื่องจากซิตี้นั้นทำการเซ็ตตำแหน่งของเบรคอยู่ประมาณเป้าผมอะ ทำให้เวลาผมเบรคผมก็ต้องมานั่งเบียดไข่ตั่วเอง ทั้งปวดทั้งเมื่อย กลับไปบ้านเอายาหม่องทาถูๆแทบไม่ทัน 5555 ตำแหน่งของคันเร่งก็เช่นกันจะเหลื่อมมาทางซ้าย ทำให้เวลาขับทางไกลจะต้องเกร็งข้อเท้า ไม่เหมือนเฟียสต้าจะอยู่ติดประตู ทำให้เราสามารถเอาขาไปพิงที่ประตูได้ ขับทางไกลสบายขากว่าเยอะเลย ส่วนเรื่องการเซ็ตเบรคกับคันเร่งไว้พูดในหัวข้อการขับขี่นะครับ
-
ที่เก็บของกระจุกกระจิกระหว่างเบาะคนนั่งกับคนขับ
ซิตี้จะมามีช่องเก็บของเยอะตรงช่วงกลางๆคอนโซล ซึ่งมันจะเว้าเข้าไปสามารถเก็บของได้เยอะครับ ของเฟียสต้า ไม่มี จะมีช่องเก็บของเล็กๆ 2 ช่อง และที่วางแก้วใบใหญ่ๆ (ใส่แก้วกาแฟได้สบาย) ตรงนี้ผมว่าซิตี้น่าจะทำให้เก็บของได้เพิ่มอีกนิด ผมว่าเบรคมือมันกิน area เยอะไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงช่องเก็บของ ผมชอบที่เก็บของที่นึงของเฟียสต้า คือใต้เบาะคนนั่ง สามารถเก็บพวกรองเท้าหรือของเล็กๆน้อยๆที่น้ำหนักไม่เกิน 1 กก ได้ แต่ของซิตี้ทำไม่ได้ เนื่องจากใต้เบาะจะเป็นถังน้ำมัน
-
ประตู เรามาพูดถึงประตูกันบ้าง ประตูของเฟียสต้าหนากว่าพอควร ทำให้มันบีบ area ภายในห้องสารจนทำให้มันดูแคบครับ แต่ผมชอบแบบของเฟียสต้ามากกว่าครับ เพราะตอนที่ผมขับรถผมมันจะชอบขับด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ 555 เมื่อขับด้วยมือขวา ผมเลยชอบเอาศอกไปพาดกับตรงประตู ซึ่งเฟียสต้ามันจะหนา แต่ของซิตี้มันจะบางทำให้พาดแล้วชอบวืด (บางคนถามว่า แล้วทำไมไม่จับตรงตำแหน่งล่างๆของพวงมาลัย ผมติดจากการขับรถคันเก่ามาครับ ผมชอบเอามือไปไว้ในตำแหน่ง 0 องศา ตรงก้านไฟเลี้ยว เพราะจะได้ทำการเปิดไฟเลี้ยวหรือตบไฟสูงได้อย่างสะดวก ถึงแม้จะใช้กับเฟียสต้าไม่ได้ก็ตาม เพราะมันอยู่ฝั่งซ้าย)
นอกจากนั้น เฟียสต้า ยังสามารถใส่ขวดน้ำขนาด 1.25 ลิตรเอาไว้ที่ประตูได้ด้วย ไม่รุ้ว่ารุ่นไหนทำได้บ้าง แต่ซิตี้ทำไม่ได้แน่นอน นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ area ห้องโดยสารแคบ เพราะมันตีโป่งส่วนของพลาสติกเข้ามาใน area รถเยอะ
-
อีกเรื่องครับ ขอบ่นหน่อย เรื่องของตำแหน่งที่ใช้กดเลื่อนกระจกขึ้นลงตรงคนขับ เหมือนออกแบบมาให้คนแขนกุดหรือยังไงก็ไม่ทราบ โค ตะ ระ จะผิดหลักสรีระมนุษย์เลยครับ
-
เบาะของตัวรถ เอาเบาะหน้าก่อนละกัน
สำหรับเบาะ ผมของพูดถึงแต่ของเฟียสต้าแล้วกันครับ สำหรับเบาะหน้า เพราะซิตี้ผมเอาไปเปลี่ยนเป็นเบาะหนังมา ผมไม่รู้เรื่องของสรีระมันมาเหมือนเบาะโรงงานหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะเหมือน เพราะรู้สึกเอาเบาะเก่าไปหุ้มหนังเฉยๆ
ตัวเบาะนั้น ของเฟียสต้า จะเป็นลักษณะ เบาะโอบ ลำตัว เบาะแบบนี้ต้องแล้วแต่คนชอบครับ ผม แฟนผม พ่อ แม่ และน้องผมชอบเบาะแบบนี้กันทุกคน เนื่องจากทุกๆคนจะค่อนข้างร่างเล็ก (ยกเว้นผม อยู่ในระยะอืด 555) เวลานั่งเบาะมันจะไม่กดลำตัวเท่าไหร่ แต่คิดว่าคนที่มีน้ำหนักเยอะๆ คนอ้วน น่าจะไม่ชอบ เพราะหลังจะไม่ลงล๊อคของเบาะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ ตัวปรับเบาะ ปรับค่อนข้างยากเพราะเป็นแบบหมุน ผมชอบแบบของซิตี้มากกว่าปรับง่ายและเร็ว แต่แบบหมุนมีข้อดีอย่างนึงคือมันสามารถปรับองศาได้ค่อนข้างละเอียดครับ
ปล เอาเบาะซิตี้มาให้ดูเปรียบเทียบ อิอิ
-
จัดมาที่เบาะหลัง
คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เบาะหลังเฟียสต้า ต้องจัดว่าเป็นเบาะหลังที่แทบจะแย่ที่สุดใน segment แล้วมั้ง อาจจะไม่ถึงกับนั่งไม่ได้ แต่บอกเลยว่าถ้าต้องนั่งนานๆมันไม่สนุกแน่ นอกจากที่ leg room จะน้อยแล้ว เบาะก็ยังชัน และไม่สามารถปรับเอนได้อีกต่างหาก จนทำให้รู้สึกว่าอึดอัดมากๆถ้าคนตัวใหญ่ไปนั่ง
ผิดกับซิตี้ ผมขอยกให้ซิตี้เป็นเบาะหลังน่าจะดีที่สุดใน segment นอกจากจะกว้างแล้ว leg room head room นั้นเหลือเฟือมากๆ เรียกว่า เอายีราฟมานั่งได้เลยทีเดียว (อันนี้เว่อละ) แถมมันยังปรับเบาะเอนได้อีกต่างหาก แหล่มจริงๆ ขอบอกว่านั่งสบายมากๆครับ สำหรับเบาะของซิตี้
อ่อ เบาะหลังซิตี้ มีมือจับให้ด้วยนะครับ ส่วนเฟียสต้าไม่มี อันนี้ น่าด่าจริงๆ เหอๆ
-
ส่วนของด้านหลัง ไม่พูดนะครับ เนื่องจากมันเป็นรถ 4 กับ 5 ประตู เทียส่วนของด้านหลัง ไม่พูดนะครับ เนื่องจากมันเป็นรถ 4 กับ 5 ประตู เทียบกันไม่ได้แน่นอน แต่ขอบอกว่าทั้ง 2 รุ่น สามารถจุของได้ค่อนข้างจุใจทั้งคู่บกันไม่ได้แน่นอน แต่ขอบอกว่าทั้ง 2 รุ่น สามารถจุของได้ค่อนข้างจุใจทั้งคู่
เอารูปมาให้ดูเพื่อยืนยันในความใหญ่ อิอิ
-
การเก็บเสียง ผมขอแบ่งเป็น 2 ช่วงแล้วกัน
สำหรับตอนสตาร์ทรถใหม่ๆ ตอนจอดนิ่งๆ ซิตี้เงียบมากครับ เงียบจนผมเคยบิดกุญแจซ้ำเลยทีเดียว เครื่องก็ค่อนข้างนิ่งมาก ไม่รู้สึกเลยว่ารถสั่นเวลาจอดรถนิ่งๆ ส่วนของเฟียสต้าน่ะหรอ ในรถยังได้ยินเสียงเครื่องครางเบาๆครับ ไม่เงียบเท่าซิตี้ แต่ไม่ได้ดังเป็นเรือเจ้าพระยา แต่ถ้าออกมาฟังข้างนอกล่ะก็ ตอนสตาร์ทใหม่ๆนี่เฟียสต้ามันดังเป็นเรือจริงๆนะ 5555 แต่พอเข้าสู่รอบเดินเบาก็ดังกว่าซิตี้เล็กน้อยเท่านั้นจ้า
แต่เมื่อเข้าสู่ความเร็วที่ 100-140 ผมว่าเฟียสต้าทำเรื่องการเก็บเสียงได้ดีกว่าครับ (รถผมติดกันสาดทั่งคู่นะ) เฟียสต้าจะได้ยินเสียงยางเป็นหลัก (ยางมันหน้ากว้างกว่าซิตี้) แต่ว่าเสียงลมได้ยินไม่มากครับ
แต่ของซิตี้ จะได้ยินทั้งเสียงยาง(ก่อนหน้านี้ใช้ good year อย่างเฮียเลย เปลี่ยนมาเป็นบริดสโตนแล้วค่อยแจ๋วหน่อย) เสียงลมค่อนข้างดังอยู่เหมือนกันครับ
-
เครื่องเสียง ผมไม่ขอบอกแล้วกันว่าคันไหนเสียงดีกว่า เพราะมันขึ้นอยู่กับรสนิยมแต่ละคนมากกว่า
นางสาวไทยบางคนก็ว่าสวย บางคนก็ว่าไม่สวย นานาจิตตังครับ
สำหรับเฟียสต้า ผมปรับใช้อยู่ในโหมด rock ปรับ EQ ดังนี้
Base +6 แล้วแต่แนวเพลง ขีดนับจาก center
เสียงกลาง +6 ขีดนับจาก center
แหลม + 7 สุดๆขีดนับจาก center
fader ปรับไปด้านหลัง 2 ขีด
Balance อยู่ขีดกลาง
ที่เหลือจำไม่ได้ละครับ 5555
ลักษณะเสียงที่ได้ เสียงใส เบสแน่นครับ เหมาะสำหรับคนชอบเบสหนักๆ ฟังเพลงแนวฮิปฮอป
(แต่มีคนบอกว่า เฟียสต้าเวลาเปิดเพลงดังๆแล้วข้างนอกได้ยินด้วย ผมก็รู้สึกว่างั้นเหมือนกันนะ)
แต่เสียงเบสเฟียสต้าอัดสุดๆแล้วก็ไม่หึ่งครับ
ส่วนของซิตี้ ผมปรับอยู่ในโหมด energy ครับ
เบส +4 (เปิดเต็ม +6 นี่ผมว่ามันบวมไปครับ)
แหลม+6
Rear +2
Balance 0
เสียงทีได้ค่อนข้างใสและเน้นไปทางเสียงกลาง แต่ไม่เหมาะที่จะเล่นเพลงเบสหนักๆ เพราะผมฟังแล้วเบสถ้าเปิดหนักๆมันจะหึ่งๆ เหมาะที่จะฟังเพลงแนว pop สบายๆทั่วไป หรือฟังเพลงฝรั่งสบายๆจะชิวมากกว่าเอามาฟังเพลงแนวฮิปฮอป
ส่วนตัวผมชอบฟังเพลงแนวเบสหนักๆ ก็เลยชอบของเฟียสต้ามากกว่า
เอาคลิปของซิตี้มาให้ฟังกันระหว่าง Base+4 กับ Base+6 ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เสียงไม่ได้เป็นแบบนี้ซะทีเดียวนะครับ มันมี error factor เนื่องจากวีดีโอที่อัดด้วย
วิดีโอ เบส4 เบส4 (http://www.youtube.com/watch?v=mQ4Spc_b94U#)
เบส 6 เบส6 (http://www.youtube.com/watch?v=anpLhbHsEyU#)
-
เอาล่ะ เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับรีวิวของส่วนต่างๆของตัวรถ ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าทั้งหมดนี้ ผมพูดด้วยความรู้สึกของตัวผมเอง ซึ่งมีรถอยู่ทั้ง 2 คัน และบางความเห็นของผม ผมบอกว่าดีก็เพราะว่มมันเป็น life style ของผม มันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ผมพูดก็ได้เมื่อท่านเป็นคนลอง ดังนั้น จะมาว่าผมว่าให้ข้อมูลมั่วหรือเอนเอียงไม่ได้นะครับ เพราะผมคิด อย่างที่ผมเขียน จริงๆ
ต่อมาจะมาพูดถึงการขับขี่กันบ้าง
เริ่มกันที่ฟิลลิ่งพวงมาลัยก่อน
ของเฟียสต้า จะค่อนข้างเบาที่ความเร็วต่ำหรือตอนจองอยู่นิ่งๆ พวงมาลัยมีระยะฟรีพองาม และมีเสียงกุกๆกักๆ บ้างในบางคัน ( 5555 ปัญหายอดฮิตของเฟียสต้าเลยครับ ใครเจอเอาไปเคลมได้เลย) พวงมาลัยจะหนักขึ้นตามความเร็วของรถ
ของซิตี้ จะเบาที่ความเร็วต่ำๆเช่นกัน แต่ผมรู้สึกว่าซิตี้จะมีระยะฟรีน้อยกว่าเฟียสต้า ทำให้เวลาเราขับในเมืองจะรู้สึกว่าซิตี้สามารถมุดได้ดีกว่า การตอบสนองจะค่อนข้างทันทีที่ทำการหักเลี้ยว ประกอบกับคันเร่งที่มันส์ และทันใจมากกว่าเฟียสต้ามากๆ ทำให้เจ้ารถคันนี้เหมาะกับการขับในเมืองมากๆ (มันถึงได้ชือว่า city ล่ะมั้ง)
แต่!!! ที่ความเร็วสูงๆ ผมว่าเฟียสต้าให้ความมั่นคง ให้ความนิ่งได้ดีกว่า ที่ความเร็วสูงๆผมกล้าที่จะปล่อยมือขับได้อย่างสบายๆ เพราะพวงมาลัยมันนิ่งมาก ส่วนของซิตี้ก็ให้ความรู้สึกนิ่ง แต่ไม่เท่าเฟียสต้า ถ้าพูดถึงวิ่งทางไกลแล้วล่ะก็ ผมยกให้เฟียสต้าฟิลลิ่งเหนือกว่าครับ
-
ถัดมาที่เกียร์
ผมขอพูดถึงเกียร์ของเฟียสต้าหลังจากทำการปรับปรุงแล้วนะครับ เกียร์ของเจ้านี่ทำงานค่อนข้างเรียบ นิ่ง ไม่รู้สึกถึงการตัดต่อของเกียร์สำหรับเคสที่เหยียบปกตินะครับ หลังจากเปลี่ยนเฟิร์มแวร์มา ทำให้ผมรู้สึกรักเฟียสต้าขึ้นอีกเป็นกอง(เหมือนได้รถใหม่) แต่บางคนก็บอกว่าอัตราเร่งลดลง อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าอยากทราบจริงๆคงต้องลองอัด 0-100 ดูล่ะครับ
ส่วนของซิตี้ การทำงานของเกียร์ก็เหมือนเกียร์ AT ทั่วๆไป แต่ของเจ้าซิตี้เป็นเกียร์ AT 5 spd นะครับ ซึ่งเหนือกว่าเจ้าอื่นๆอยู่ 1 เกียร์ (เจ้าอื่นส่วนใหญ่จะให้เกียร์ 4 spd)
สำหรับการทำงานของเกียร์ ผมชอบของเฟียสต้ามากกว่า ย้ำนะครับ ว่าเป็นเฟิร์มแวร์ตัวใหม่เท่านั้นนะครับ แบบเก่าผมไม่ชอบ(แต่บางคนไม่ชอบของใหม่ เพราะเค้าบอกว่าของเก่าแรงกว่าขับมันกว่า ก็นานาจิตตังครับ)
-
คันเร่ง
พูดถึงซิตี้ก่อนละกัน เพราะเรื่องนี้ซิตี้เหนือกว่าเห็นๆ
ซิตี้ คันเร่งตอบสนองค่อนข้างไว ไม่ต้องรอรอบ กดเป็นมาๆ เหมือนคนท้องเสียครับ ไม่ต้องเบ่งแรง เบ่งนิดๆก็กระจายเลยครับ(ใครกินข้างอยู่ต้องขออภัย 55555) คิกดาวได้ตอบสนองแทบจะทันที ให้ความรู้สึกในการเร่งแซงดีกว่า คันเร่งตอบสนองทันใจกว่า
ส่วนของเฟียสต้า ไม่ถึงกับน่าเกลียดแต่มันไม่ทันในเหมือนของซิตี้ เหมือนรถมันมึนๆกรูขอคิดแป๊บนึงสิฟระ อะไรประมาณนั้น แต่อย่าไปกดมันแรงนะถึงกับหงายเงิบได้เหมือนกัน ส่วนตอนเร่งแซงผมว่ามันไม่ทันใจเท่าไหร่ การคิดดาวน์ก็เหมือนจะมี 2 แบบให้เลือกใช้ แบบกดลงไปเต็มๆ มันจะลากรอบขึ้นไปสูงมากๆเหมือนเอาไว้ใช้ตอนอยากได้แรงในการขึ้นทางชันหรืออะไรทำนองนี้มากกว่าเร่งแซง ถ้าจะใช้กดเต็มเพื่อแซงต้องกะระยะดีๆนะครับเหมือนมันมาแต่ torqe แต่ม้ามันไม่มาด้วย แต่ถ้าอยากได้การคิกดาวน์เหมือนรถทั่วไปให้กดลงไปแค่ครึ่งควบลูก เย้ย ไม่ใช่ละ กดลงไปแค่ครึ่งเดียวครับ จะเหมือนกับการคิกดาวน์ของรถยี่ห้ออื่นๆ แต่กดแล้วมันจะไม่มาทันทีเหมือนซิตี้ ออกแนวเหมือนคนท้องผูกน่ะครับ ต้องออกแรงเบ่งนิดนึงถึงจะมาชุดใหญ่(ถ้ากินข้าวอยู่ ขออภัยอีกรอบ)
-
เบรก มาถึงเรื่องของเบรกกันบ้างครับ
ข้อแตกต่างของเบรก 2 คันนี้คือ เฟียสต้าหน้าจะเป็นดิส หลังเป็นดรัม ส่วนซิตี้เป็นดิส 4 ล้อครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบการเซ็ตเบรกของเฟียสต้ามากกว่า เพราะเซตไว้ค่อนข้างลึก ทำให้สามารถเลียเบรกเพื่อให้รถชะลอได้ง่ายกว่า
แต่ของซิตี้เซ็ตมาไว้ค่อนข้างตื้น แตะนิดๆแล้วมันก็จะรู้สึกจึ๊กๆ(เบรกมันจับไว) ทำให้บางครั้งจะรู้สึกหัวทิ่มๆบ้าง และอีกอย่าง ผมไม่ชอบตำแหน่งของเบรกของซิตี้เอาซะเลย มันจะค่อนมาทางซ้ายค่อนข้างเยอะ ทำให้เวลาขับในเมืองนี่เมื่อยข้อเท้าพอสมควร
พร้อมรูปประกอบอีกซักรูป
-
ช่วงล่าง
อันนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก เฟียสต้าเฟิร์มกว่าครับ สำหรับช่วงล่าง แต่ซิตี้ก็ไม่ได้ด้อยกว่าชนิดที่ว่าต่างกันเห็นๆ ที่ความเร็วต่ำๆ ช่วงล่างซิตี้ จะให้ความรู้สึกนุ่ม ไม่กระด้างมากจนกระเด้งกระดอนเหมือนแจ๊ส เหมือนเป็นรถบุคลิกนุ่ม+แข็งในเวลาเดียวกัน การเข้าโค้งถือว่าโอเคครับ ไม่ได้เหวี่ยงจนน่าเกลียด เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นผู้ใหญ่หรือคนเป็นไข่ดัน 5555+(อันหลังนี่แซวเล่นนะ ผมหมายถึงว่ามันมีบุคลิกนุ่มเข้ามาปนในความแข็งด้วย)
แต่เมื่อขับที่ความเร็วสูงๆจึงจะเห็นว่ามันต่างกับเฟียสต้า ช่วงล่างเฟียสต้าเหมือนจะดูดรถให้ติดถนนมากกว่า ปกติผมขับเส้นมอเตอร์เวย์ที่ความเร็ว 110-140 กม/ชม ถ้าผมขับเฟียสต้า ผมจะรูดยาวเลย ตั้งแต่สุวรรณภูมิไปจนถึงอมตะนคร แต่ถ้าขับซิตี้ เวลาขึ้นพวกสะพาน จั้มคอสะพานต่างๆ ยังไงก็ต้องแตะเบรก มั๊ยงั้นจะรู้สึกได้เลยว่าก้นเราลอยจากเบาะ แต่ของเฟียสต้าช่วงล่างจะออกแนวแข็งหน่อย หนึบ แต่ไม่นุ่มครับ
บอกได้คำเดียว ต้องลอง (นี่มันสโลแกนอัลติสนี่หว่า)
ปล ขอเพิ่มเนื้อหานิดนึงครับ
**คือ ปกติแล้ว ผมเป็นคนที่ขับรถไม่เร็วน่ะครับ ผมจึงบอกว่า ช่วงล่างมัน ต่างกันไม่มาก ต่อให้ผมเอารุ่นอื่นมารีวิว ผมก็คิดว่ามันน่าจะต่างกันไม่มากครับ
แต่สำหรับที่ความเร็วสูง ผมกล้าลองเข้าโค้งกับเฉพาะเฟียสต้า เนื่องจากมันมีระบบช่วยเหลืออะไรต่อมิอะไรมากกว่า บอกตรงๆว่าซิตี้ผมไม่กล้าลองเท่าไหร่ครับ เนื่องจากผมเคยก้นลอยตอนที่จั๊มคอสะพานนั่นแหละ ผมก็เลยกลัวไปเลย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าถึงกับตัวเย็น คิดว่าจะเสียการทรงตัวไปแล้ว ถ้าอยากรู้จริงๆเรื่องช่วงล่างคงต้องถามผู้เชี่ยวชาญดีกว่า ผมว่าหลายๆสำนักน่าจะมีวิจารณ์เกี่ยวกับช่วงล่างเอาไว้อยู่แล้วนะครับ
แต่สำหรับทางตรง ก้อย่างที่ผมเขียนรีวิวไว้ตามนั้นเลยครับ
**
-
เห็นด้วยเต็มๆว่าตำแหน่งการวางแป้นเหยียบของซิตี้และแน่นอนแจ๊สด้วยผิดหลักกายวิภาคแน่นอน
ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างฮอนด้าจะทำการบ้านมาผิดได้ขนาดนี้ ขับแล้วเมื่อยน่าดู
เบาะเฟียสต้าตัวหน้านี่คนอ้วนๆอย่างผมชอบมากครับ ฝั่งคนขับก็กระชับไม่ไหลไปมาเวลาเลี้ยว
นุ่มพอดีขับทางไกลไม่เมื่อยเลย ด้านผู้โดยสารหน้าก็หลับได้สนิทตลอดทางยาวๆ แต่ที่นั่งหลัง
หนังคนละม้วนเลย นรกชัดๆ เหมาะให้ว่าที่แม่ยายนั่งโดยจำเพาะ
ส่วนตัวผม ผมว่าซิตี้เหมาะมากถ้าเป็นคนนั่ง ส่วนเฟียสต้าต้องขับเองเลย ย้ำขับเองเท่านั้น
-
ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วเพลินดี
เรื่องคันเร่งเบียดไข่เนี่ย พอจะแก้ไขได้มั๊ยครับ พอดีสนใจตัวนี้เทียบกับวีออสอยู่
-
ส่วนของด้านหลัง ไม่พูดนะครับ เนื่องจากมันเป็นรถ 4 กับ 5 ประตู เทียส่วนของด้านหลัง ไม่พูดนะครับ เนื่องจากมันเป็นรถ 4 กับ 5 ประตู เทียบกันไม่ได้แน่นอน แต่ขอบอกว่าทั้ง 2 รุ่น สามารถจุของได้ค่อนข้างจุใจทั้งคู่บกันไม่ได้แน่นอน แต่ขอบอกว่าทั้ง 2 รุ่น สามารถจุของได้ค่อนข้างจุใจทั้งคู่
เอารูปมาให้ดูเพื่อยืนยันในความใหญ่ อิอิ
ผมเอารูป4ประตูของผม มาเทียบ ให้ครับ
-
มาถึงเรื่องของอัตรกินน้ำมัน
ผมขอไม่เอ่ยเป็นตัวเลขตรงๆละกัน ผมขอบอกแค่เป็นตัวเลขคร่าวๆนะครับ เพราะผมไม่ได้ทำการวิ่งทดสอบอะไรจริงจัง เป้นแค่การจับระยะทางการใช้งานเฉยๆครับ
น้ำมันที่ผมใช้ ผมทดสอบด้วย E20 ทั้งหมดนะครับ เพราะเติมแต่ E20 นานๆจะจัดแกสโซฮอล 95 ซะที อิอิ
สำหรับเฟียสต้า ผมวิ่งในอมตะนคร อัตรากินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 9-12 กม/ลิตร แล้วแต่ช่วงครับ แต่รู้สึกไดว่า ตั้งแต่อัพเกียร์มาแล้วมันกินน้อยลง
แต่เมื่อวิ่งทางไกล ถ้าขับที่ความเร็ว110-140 จะได้อยู่ที่ 15 กลางๆ ถึง 16 ปลายๆ แล้วแต่ช่วงเช่นกัน
แต่สถิติที่ผมวิ่งได้ดีสุดอยู่ที่ 20 กิโลลิตรจ้า ขออ้างอิงจากกระทู้เก่าที่รีวิวไว้ละกันเน้อ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13022.new.html#new (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13022.new.html#new)
ส่วนซิตี้ ผมวิ่งในอมตะ เหมือนจะได้เยอะกว่าครับ อยู่ที่ประมาณ 10กลางๆ-12 กม/ลิตร แล้วแต่ช่วงการขับขี่
ส่วนการวิ่งทางไกล ขับ 110-120 จะได้อยู่ที่ประมาณ 15 ปลายๆถึง 16 ต้นๆครับ
แต่ถ้าวิ่งเกิน 130 ขึ้นไปเมื่อไหร่ รู้สึกว่ากินเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
จากรูปที่ผมแนบมา ผมวิ่งจาก กทม มาเส้นมอเตอร์เวย์ เข้ามายังอมตะนคร 179.5 กิโล ล่อไปเกือบครึ่งถังละครับ (ตอนวิ่งมอเตอร์เวย์ขับ 130)
สรุปให้ละกันนะครับ
วิ่งในเมือง ซิตี้ประหยัดกว่า คงเป้นเพราะเครื่องที่เล็กกว่า(1500 cc)
วิ่งนอกเมือง เฟียสต้าประหยัดกว่า น่าจะเป็นเพราะเครื่องที่ใหญ่กว่า และ eff ของเกียร์ PS จึงทำให้ได้อัตรากินน้ำมันที่ดีกว่า (1600 cc)
ส่วนตัวอยากทราบจริงๆ ถ้าเอาเกียร์ PS มายัดในซิตี้ มันจะประหยัดขึ้นหรือเปล่า 5555
-
มาถึงฟังก์ชั่นเด่นๆของรถทั้ง 2 คันบ้างครับ
สำหรับจุดนี้ ผมขอพูดถึงที่เราได้ใช้งานกันจริงๆจังๆ อย่างเรื่อง ESP เหล็กโบรอน อะไรพวกนี้ผมขอไม่กล่าวถึงนะครับ หาอ่านเอาจากโบชัวร์กันเองน่าจะได้
Iณ จุดนี้ผมของออกตัวก่อนนะครับ ว่าส่วนใหญ่ผมจะใช้เฟียสต้ามากกว่า ทำให้จุดเด่นต่างๆของซิตี้ผมอาจจะบอกได้ไม่ครบมากนัก ถ้าใครมีอะไรเพิ่มเติม แนะนำกันได้นะครับผม
มาเริ่มกันก่อนเลยที่ เฟียสต้าครับ
1.ฟังก์ชั่น voice control น่าจะเป็นรถ B-segment เจ้าแรกที่นำระบบนี้มาใส่ไว้ในรถเล็ก ฟังก์ชั่นนี้เหมือนเป็นของเล่นสนุกๆมากกว่า ถามว่ามีประโยชน์มั๊ย ก็มีนะ บางคนอาจจะบอกว่า เอื้อมมือไปกดเอาเร็วกว่า จริงครับ แต่ไม่จริงเสมอไป
ในกรณีที่ผมกำลังเล่นเพลงใน Playlist ที่ 8 อยู่ แล้วผมต้องการเปลี่ยนมาเล่นใน Playlist ที่ 1 แทน ผมเชื่อว่าใช่พูดเร็วกว่ากดแน่ๆ ในกรณีที่กำลังขับรถอยู่
** Playlist คือ list รายการเพลงที่เราจัดเอาไว้ ปกติรถรุ่นอื่นๆ ถ้าต้องการให้มันเล่นเพลงไทย + ฝรั่ง (โดยที่เราแยกโฟลเดอร์เอาไว้) เราต้องทำการเอาเพลงไทยและฝรั่งมารวมกันใส่ในโฟลเดอร์เดียว เครื่องถึงจะอ่านเจอ แต่การทำเพลงลิส สมมติว่าผมมีเพลง ไทย สากล จีน บรรเลง เกาหลี ฮิปฮอป แยกเอาไว้ในโฟลเดอร์ แล้วผมอยากจะฟังเพลง ไทย + จีน และ ไทย + ฝรั่ง ผมก็ไม่ต้องเอามันมารวมๆกัน สามารถทำเพลลิสในวินแอมป์ แล้วเอามาใส่ในแฟลชไดรฟ์ได้เลย ***
ขอบอกว่าพอได้ใช้จริงๆ สนุกนะครับ สะดวกด้วยโดยเฉพาะฟังชันการโทรศัพท์ อยากโทรหาใครก็สั่งให้โทรไปหาได้เลย (เบอร์ต้องเมมไว้ในรถนะครับ ไม่ใช่ในโทรศัพท์) แต่ฟังก์ชันนี้ไม่เหมาะกับคนกิ๊กเยอะ ถ้าแฟนนั่งมาด้วยล่ะ งานเข้านะจ๊ะ 55555
ขอติหน่อยเรื่องของคำสั่ง pattern จริงๆน่าจะทำให้มันสั่งแบบเป็น shortcut ได้จะดีมาก แต่นี่อะไร ต้องมาสั่งให้มันเริ่มตั้งแต่แรก เช่น ถ้าเราเล่น FM อยู่ แล้วอยากเปลี่ยนไปเล่น usb ก็ต้องสั่ง External device>>usb>>playlist>plalist No? จริงๆน่าจะสั่งเริ่มที่ usb ได้เลย แต่ในเคสของการเปลี่ยนเพลง ถ้าเราเล่น device นั้นๆอยุ่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดตั้งแต่แรกนะครับ เช่น ฟัง usb อยู่ อยากเปลี่ยนเพลง สามารถสั่ง track ได้เลย ไม่ต้องมานั่ง external device >> บลาๆๆๆ ก็ได้จ้า
ตัวอย่างคำสั่งเสียง ขออ้างอิงจากกระทู้เก่าละกันเน้ออ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,10086.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,10086.0.html)
-
2.ฟังก์ชั่นช่วยเบรก
เวลาขึ้นทางชัน อันนี้ผมใช้ทุกวัน เส้นทางที่ผมต้องเดินทางไปทำงาน จะมีเส้นที่เลียบมอเตอร์เวย์ จะต้องขึ้นเนินระยะทางประมาณ 3 เมตร ชันประมาณ 35 องศา ที่สำคัญ เนินนั้นอยู่ตรงทางสามแยก แล้วจะชอบมีไอ้พวกขี้กลากชอบมาจี้ตูดรถผมเหมือนจะกดดันให้รีบๆไป ทั้งๆที่มันไปไม่ได้ จริงๆถ้าไม่มีฟังก์ชันนี้มันก็ไม่เป็นอะไรนะ เพียงแต่ผมรู้สึกว่ามันช่วยอำนวยความสะดวกให้ระดับนึง เวลาเราปล่อยเบรกอย่างน้อยยังมีเวลาคิดหรือตัดสินใจอะไรอีก 2-3 วิ ถ้าเป็นเบรกปกติ พอยกเท้าจากคันเร่ง ก็ต้องรีบไปเหยียบคันเร่งส่งเพื่อไม่ให้มันไหลถอยหลัง แล้วมันชอบมีไอ้พวกมอเตอร์ไซค์มดปลวกบางตัวชอบซอกแซกมาตัดหน้ารถผมทั้งๆที่อยู่บนเนินนั่นแหละ ค่อนข้างอันตรายเหมือนกัน ถ้ามีระบบเบรกนี้ ยกเท้าจากเบรกก็ไม่จำเป้นต้องเหยียบคันเร่งส่งมันทันที เพราะมันจะช่วงหน่วงให้ท่านอีก 3 วินาที หรือจนกว่าท่านจะแตะคันเร่ง เบรกก็จะเลิกทำงาน
-
3.ระบบพับกระจกออโต้
เพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันแปลกตรงไหน ผมว่าจริงๆมันน่าจะเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานของรถทุกคันได้แล้ว แต่ซิตี้มันตั้งออโต้ไม่ได้ครับ หรือผมทำไม่เป็นก็ไม่ทราบ ถ้ามันสามารถพับออโต้ได้ "หมายถึงว่าพับออโต้ ไม่ใช่พับไฟฟ้านะครับ"รบกวนบอกผมด้วยเน้อ แล้วผมดับเครื่องเสร็จทีไร ต้องคอยมานั่งกดปิดมันเองทุกที มันอาจจะไม่เดือดร้อนอะไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ มันต้องเสียบกุญแจ แล้วบิดไปที่ตำแหน่งเตรียมสตาร์ท เพื่อให้ไฟเลี้ยงก่อน จึงจะทำการพับกระจกได้ ซึ่งต่างจากของเฟียสต้ามันสามารถตั้งให้พับเก็บอัตโนมัตหรือไม่ก็ได้ แถมถ้าสมมติเราตั้งไว้ว่าให้มันไม่ต้องพับเก็บอัตโนมัติ แล้วเราเกิดลืมพับกระจกมัน เราสามารถกดปุ่มให้มันพับโดยที่ไม่ต้องเสียบกุญแจก็ได้
สำหรับของเฟียสต้า บางคนคิดว่า ถ้างั้น ถ้าเราเอากุญแจออก ใครจะกดพับๆกางๆเล่นก็ได้น่ะสิ
ไม่ครับ กระจกจะมีการตั้งค่าไว้ว่าให้พับเข้าๆๆๆออกๆๆๆได้ไม่เกินกี่ครั้ง ถ้าเกินนั้นมันจะไม่ทำงานครับ ต้องรอเวลาสักระยะนึง (อันนี้ผมลองมาด้วยตัวเองเลย ไม่ได้อ่านเจอที่ไหน ลองทำกันดูได้ครับ อิอิ)
-
4.ระบบตั้งเปิดประตู 4บาน หรือคนขับแค่บานเดียว
อันนี้ผมไม่รุ้ยี่ห้ออื่นทำได้หรือเปล่า แต่ของเฟียสต้าสามารถตั้งได้คับว่าจะให้ปลดล๊อคบานเดียวหรือปลดล๊อคทั้งหมด 4 บาน (ถ้าเราตั้งให้มันปลดล๊อคบานเดียว แล้วเกิดอยากให้ปลดล๊อคบานอื่นๆด้วย สามารถทำได้โดยการกดย้ำ 2 ครั้งที่ปุ่มปลดล๊อคที่รีโมทนะครับ) เพื่อป้องกันอันตรายสำหรับสาวๆที่ใช้รถคนเดียว เวลาปลดล๊อคให้มันปลดแค่บานคนขับบานเดียว ใครที่ซุ่มอยู่ไม่สามารถเปิดขึ้นทางบานอื่นๆได้
-
5.ระบบไฟเลี้ยว 1 จังหวะ หรือ 3 จังหวะ เวลาเราผลักไฟเลี้ยวเบาๆ (ไม่ถึงกับผลักให้ลงล๊อค) เราจะตั้งได้ว่าอยากให้มันกระพริบกี่ครั้ง ซึ่งเอาไว้ใช้เวลาแซงครับ
6.ไฟwelcome light อันนี้ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกมั้ง ฟังก์ชันนี้น่าจะเหมือนของ BMW หรืออะไรซักอย่าง ก็คือเวลากดปลดลอคแล้ว ไฟหรี่หน้า กับไฟเบรกจะติดเป็นเวลาประมาณ 30 60 วิ เพื่อส่องสว่างให้ในเวลากลางคืนจ้า
7. ระบบไฟส่องนำทางเข้าบ้าน อันนี้ เหมาะกับคนที่บ้านหลังใหญ่ ๆ หรือคนที่บ้านอย่ต่างจังหวัด ถ้าอยู่ กทม หรืออยู่ในเมืองคงไม่ได้ใช้หรอกครับ หลักการใช้ก็คือ หลังจากดับเครื่องหมดแล้ว ให้เราดึงไฟสูงเข้าหาตัว จะมีเสียง ตึ๊ง แล้วก็ให้เราปิดรถล๊อครถอะไรให้เรียบร้อย ไฟนี้จะติดอยู่เป็นเวลาพักนึงแล้วจะดับให้เองครับ
8.ที่ปัดน้ำฝนหลังทำงานอัตโนมัติ เวลาที่เราเข้าเกียร์ถอย อันนี้ผมก็ไม่รุ้เหมือนกันว่ารุ่นอื่นๆมีไหม พอดีซิตี้มันไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง และบ้านผมก็ใช้แต่ 4 dr มาตลอด การทำงานของมันคือ เวลาเราเปิดที่ปัดน้ำฝน (เปิดแต่ด้านหน้านะ) ถ้าเราเข้าเกียร์ถอย ที่ปัดด้านหลังมันจะทำงานให้เองอัตโนมัติจ้า แล้วเมื่อเราเข้าเกียร์อื่นๆ มันก็จะหยุดทำงานให้เองจ้า
ปล จัดรูปไฟส่องนำทางเข้าบ้านให้ดูจ้า
-
9.ระบบตัดการทำงานของไฟหน้าเวลาดับเครื่องแล้ว
สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาเรื่องชอบลืมปิดไฟหน้า(ถึงแม้จะมีเสียงเตือนก็ตามที) ของเฟียสต้าเวลาเราดับเครื่อง ไฟหน้าจะตัดการทำงานให้เองโดยอัตโนมัติแต่ยังติดไว้แค่ไฟหรี่ (แต่มันก็มีเสียงเตือนให้ด้วยนะ ทั้งเฟียสต้าและซิตี้) เผื่อถ้าคุณลืมปิด มันก็จะได้ไม่เปลืองแบตมากครับ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆแบบนี้มีนะ บางทีไม่ใช่ว่าลืมหรืออะไร เพื่อนผมนี่แหละครับ ตอนเช้าขับรถมาทำงาน ฝนตกหนักมากๆ ตอนขับก็เปิดไฟหน้าเอาไว้ พอจะลงจากรถก็รีบลืมปิดไฟหน้าซะงั้น ไอ้เสียงเตือนก็ไม่ได้ยินหรอกครับ เพราะฝนมันตกหนักมาก เลิกงานมาตอนเย็นถึงเห็นว่าเปิดไฟทิ้งไว้ แต่โชคดีที่แบตไม่หมด ถ้ามีระบบนี้ก็จะช่วยเซฟแบตได้เยอะเหมือนกัน
10.ระบบตัดการทำงานของรอบเครื่องที่ 3000 รอบเมื่อเข้าเกียร์ N หรือ P การทำงานของมันคือ เวลาเราเข้าเกียร์ P~ หรือ N ไว้ ถ้าเราเผลอไปเบิ้ลเครื่อง มันจะล๊อคไว้ที่ 3000 รอบเท่านั้น กันรอบมันสูงจัดน่ะครับ
11 กระจกมองข้าง เฟียสต้าให้กระจกมองข้างแบบสามารถมองมุมอับข้างรถได้ ถือว่าเอาใจใส่เรื่องนี้ดีครับ แต่กระจกบานเล็กไปหน่อย ตามหลักดีไซน์ คีเนติกเค้ามั้ง 5555
12 ไฟส่องเท้า
สั้นๆง่ายๆ เฟียสต้ามีให้ แต่ซิตี้ไม่มี อิอิ
แต่เฟียสต้าน่าจะทำ cover คลุมหลอดหน่อยนะ เล่นเปิดหลอดโชว์เพียวๆซะงั้น อย่าไปโดนมันเชียวล่ะ ถึงกับพอง
-
มาถึงฮอนด้าซิตี้กันบ้างนะจ๊ะ
1.ระบบปลดล๊อคเกียร์ P ตอนจอด อันนี้น่าจะเป็นเหมือนกันหมดสำหรับรถญี่ปุ่น แต่ไอ้เจ้าเฟียสต้านี่สิ ต้องทำฝาครอบอะไรก็ไม่รู้ ลำบากชะมัด ซิตี้สามารถเสียบกุญแจลงไปสำหรับปลดล๊อคได้เลย ไม่ต้องมานั่งเปิดฝา สบายแฮร์
บอกได้คำเดียวว่าจ๊าบกว่าเฟียสต้ามั่กๆ
-
2.เกียร์ Paddle shift
ขอบอกว่าใช้แล้วมันส์มาก ทำให้เวลาเร่งแซง จากที่ใช้คิกดาวน์ได้อย่างทันใจอยู๋แล้ว ถ้าใช้ paddle shift จะยิ่งมันขึ้นไปอีก รู้สึกสนุกมากๆสำหรับฟังก์ชันนี้ครับ อยากให้ฟอร์ดทำระบบ sss ทริปส์โทรนิคบ้าง อยากมันบ้างอะ อิอิ
-
3. ระบบเซนทรั่นล๊อค อันนี้ก็น่าจะเป็นมาตรฐานทั่วไปของรถญี่ปุ่น แต่ไม่รุ้เฟียสต้าทำไมถึงทำปุ่มแยกเอาไว้ตรงคอนโซลรู้สึกว่ามันแปลกๆไปหน่อย อีกอย่างนึงการทำงานของเซนทรั่นล๊อคในเฟียสต้าก็แปลกๆ เวลาคนขับเปิดประตู สวิชเซนทั่นล๊อคจะดับไป แต่ถ้าเป็นบานอื่น ไฟมันจะไม่ดับ แปลกไหมล่ะ แล้วไอ้บานที่เปิดออกไปแล้ว ระบบล๊อคก็จะไม่ทำงานแล้วนะครับ คนข้างนอกสามารถเปิดเข้ามาได้ (แต่อย่าลืมว่าไฟเซนทรั่นลอคยังติดอยู่) จริงๆน่าจะทำให้มันดับไป คิดว่าอนาคตน่าจะมีการแก้ไขล่ะมั้ง
ส่วนประตูของเฟียสต้าที่สามารถเปิดได้ตลอดเวลา ถามว่าดีมั๊ย มันก็ดีนะครับถ้ามองถึงความปลอดภัยเวลาตกน้ำ แต่ผมว่าอาจจะไม่เหมาะกับคนไทยเท่าไหร่ เวลามีเด็กขึ้นรถ ผมล่ะเสียวมันจะมือซนเปิดประตูตอนรถวิ่งจริงๆ ณ จุดนี้ผมชอบของซิตี้มากกว่าจ้า
4.เบาะหลังที่ปรับเอนได้ อันนี้ไม่ต้องพูดอไรมาก บอกได้คำเดียวว่าดีไซน์มาได้เยี่ยมครับ เบาะหลังนั่งสบาย กว้างขวางโอ่โถง แถมยังเอนเบาะได้อีกตะหาก ยี่ห้ออื่นๆสนใจเอาไปทำบ้างไหมครับ หึๆ
5.หลอดไฟ H4 หลายๆคนอาจจะงง ว่ามันคืออะไร มันเป็นชนิดของขั้วหลอดไฟหน้าครับ ของซิตี้จะใช้หลอดชนิดที่เรียกว่าหลอด H4 ซึ่งเป็นขั้วแบบ 3 ขา เวลาเราอยากเปลี่ยนหลอดไฟ เปลี่ยนครั้งเดียว เราได้มาทั้งไฟสูงและไฟต่ำเลยจ้า แต่ของเฟียสต้า ไฟต่ำจะเป็นขั้ว H7 มี 2 ขา ถ้าอยากเปลี่ยนไฟสูงด้วยต้องซื้ออีกหลอด คือ H11 พูดง่ายๆว่าเสียตัง 2 รอบนั่นเอง อิอิ
6.ที่ปิดฝาถังน้ำมัน อยากให้เฟียสต้าทำแบบซิตี้บ้างครับ คือ เวลาล๊อครถแล้วฝาถังก็จะล๊อคให้ด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจะดีมากๆเลย
7 กระจกมองข้าง บานใหญ่สะใจดีครับ
-
จบแล้วจ้า
ตรงไหนผิดพลาด รบกวนแจ้งด้วยนะครับ
หากมีตรงไหนที่คิดไม่ตรงกับผม เห็นแย้งได้นะครับ เพราะทั้งหมดนี้ คือ"ความเห็นส่วนตัวของผม"เท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงจากใคร
มาเพิ่มให้ครับ
ก่อนจะลาจากกันไป ขอสรุปให้ฟังแบบสั้นๆละกันเน้อ
ปล ทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้สรุปว่า "คันไหนดีกว่า" ผมจะขอสรุปว่า ผม"ชอบคันไหนมากกว่า" เพราะอะไรเท่านั้นนะครับ เพราะฉะนั้นจะเอาข้อมูลนี้ไปอ้างอิงไม่ได้ อยากรู้ต้องไปลองเองครับ ผมแค่เอามาแชร์ให้ฟังกัน
1.รูปลักษณ์ภายนอก
แล้วแต่คนมองครับ ผมมองว่า 5ประตูเฟียสต้าสวยสุด ถ้า 4ประตู ซิตี้สวยสุด(แต่ตอนนี้กำลังหลงรัก เฟียสต้า 4 ประตูสีม่วงอยู่ อิอิ)
2.เครื่องยนต์
ผมชอบในความเป็นระเบียบเรียบร้อยของซิตี้มากกว่าครับ แต่ของแผ่นกันความร้อนของเฟียสต้ามากกว่า
3.คอนโซล
ผมชอบของเฟียสต้ามากกว่า ผมไม่ค่อยชอบแนวคอนโซลสไตล์ญี่ปุ่นเท่าไหร่ อย่างวีออสกับมาสด้า2 นี่ไม่ชอบอย่างแรง ซิตี้พอใช้ได้ครับ
4.ฟิลลิ่งพวงมาลัย
ที่ความเร็วต่ำไม่ต่างกันมากนัก แต่ซืตี้เหมือนจะหนักกว่า เฟียสต้าเบาแต่หนืด โดยเฉพาะหลังเปลี่ยนแกนพวงมาลัยมาใหม่ รู้สึกหนืดและคมขึ้นมาก ไม่รุ้เป็นเพราะใช้อันเก่าจนหลวมแล้วชินมือหรือเปล่า จริงๆมันอาจจะเหมือนตอนออก
รถมาใหม่ๆก็ได้นะ 5555
แต่ที่ความเร็วสูง พวงมาลัยหนักทั้งคู่ แต่เฟียสต้าให้ความรู้สึกที่มั่นคงมากกว่า และหนืดกว่า แต่หนักพอๆกัน
5.เบาะ
ผมชอบเบาะหน้าของเฟียสต้า เพราะมันใหญ่ นั่งสบาย ไม่เมื่อยขา ส่วนของซิตี้ เบาะจะสั้นไปหน่อย รอบรับขอผมได้ไม่เต็ม ทำให้เวลาขับนานๆแล้วจะเมื่อย แต่ชอบที่ปรับเบาะของซิตี้ เพราะมันสะดวกดี แต่ของเฟียสต้าจะละเอียดกว่า
เพราะใช้หมุนเอา
ส่วนเบาะหลัง จบที่ซิตี้ครับ ใหญ่ โอ่โถง นั่งสบาย ปรับเอนได้ หลายๆคนอาจจะบอกว่า เบาะเฟียสต้านั่งทางไกลจะไม่เมื่อย แต่ผมเมื่อยตั้งแต่เริ่มนั่งละ 5555 เพราะผมตัวใหญ่ เข่าจะติดถ้าเบาะหน้าถอยมาเยอะ area ภายในดู
อึดอัดทำให้นั่งไม่สบายครับ แต่ไม่เคยนั่งทางไกลๆเหมือนกัน เพราะเป้นคนขับตลอด
6.ตำแหน่งคันเร่ง เบรค
เฟียสต้าดีกว่ามากครับ สบายกว่าทั้งขับในเมืองและทางไกล เห็นว่าซิตี้มันจะติดซุ้มล้อ ทำให้ต้องเขยิบมากลางๆ ผมมองว่าจุดนี้ควรแก้ไขอย่างแรงครับ
7.อัตราเร่ง
ซิตี้ขับสนุกกว่าทุกย่านความเร็ว ไม่ใช้เพราะแรงกว่า แต่เป็นเพราะเหมือนจะตอบสนองไวกว่า "กดเป็นมา" ครับ เหยียบปุ๊บ พุ่งปื้น เฟียสต้าออกแนวต้องรอพละกำลังกันนิดนึงกว่าจะแรงได้ แต่ถ้าอยากแรงจริงๆก็ต้องใช้เหยียบกัน
มิดๆ แต่ผมว่าในชีวิตจรืงคงไม่มีใครเหยียบปื้ดๆแบบนั้นเท่าไหร่
ปล ตอนผมขับเส้นมอเตอร์เวย์ ซิตี้ผมเหยียบตั้ง 150 เพราะมันเหยียบมันจริงๆครับ แต่ช่วงล่างหวิว 5555
8.ช่วงล่าง
ที่ความเร็วต่ำๆ ซิตี้จะให้ความรู้สึก นุ่ม + หนึบ แต่ไม่แน่นมาก ส่วนเฟียสต้าจะ แข็ง + หนึบ + แน่น(ลองเอาไปตกหลุมหนักๆดูได้ รับรองยางบวม เย้ยยย มะช๊ายย อิอิ เสียงมันจะต่างกันครับ)
ที่ความเร็วปานกลาง ให้ความรู้สึกไม่ต่างกันมากครับ แต่เฟียสต้าจะรู้สึกมันดูดถนนมากกว่า ซิตี้จะออกแนวโยกเยกๆตามคลื่นถนนนิดหน่อย
ที่ความเร็วสูง จะรู้สึกได้ว่าต่างกันครับ เฟียสต้าจะดูดถนน ไม่ค่อยโยก(บางคนบอกว่าเฟียสต้าหนักกว่า ไม่จริงนะครับ ลองไปดูตามสเปคได้เลย ต่างกันไม่เกิน 30 โล) น่าจะเป็นที่การ set ช่วงล่างมากกว่า ไม่ค่อยเหินลม แต่
ถ้าลมพัดแรงๆก็จะรู้สึกได้เหมือนกัน
ส่วนซิตี้ จะออกแนวโยกๆหวิวๆกว่าเฟียสต้าอยู่หน่อย รู้สึกรถไม่ดูดกับถนนมาก ยิ่งเวลาเจอคลื่นถนน จะรู้สึกเลยว่ารถโยกๆ แต่ไม่ถึงกับลอยจนจะบินนะ
ผมว่าช่วงล่างของ 2 ตัวนี้ จะเห้นต่างกันชัดๆ คือการขับแบบผิดปกติ เช่น เปลี่ยนเลนกระทันหันที่ความเร็วสุงๆๆ จั๊มคอสะพานแรงๆที่ความเร็วสูงๆ เข้าโค้งแรงๆที่ความเร็วสูงๆ
ผม ไม่เคยขับรถ B segment ทุกยี่ห้อ แต่นั่งมาแล้วทุกยี่ห้อ ดังนั้นผมจึงไม่อาจจะบอกได้ว่าเฟียสต้าเป็นรถที่มีช่วงล่างดีที่สุดในบรรดารถเล็ก แต่ถ้าเทียบกัน 2 ตัวนี้ ช่วงล่าง ยังไงก็ต้อง >>>เฟียสต้า "เท่านั้น"<<<<
9.เบรค
เบรคซิตี้ ผมว่ามันเซ็ตมาตื้นเกินไป ทำให้มันจับค่อนข้างไว ตอนเบรคเย็น มันจะเบรคแบบจึ๊กๆๆๆ เลย แต่พอเบรคร้อนเมื่อไหร่ จะรู้สึกว่าเหมือนมันจะเอารถไม่อยู่ครับ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเบรคของซิตี้ อย่างแรง
เฟียสต้า เนื่องจากเบรคเป็นดรัมเบรคหลัง ทำให้การจับของเบรคค่อนข้างดี เอาอยู่ทุกครั้ง เบรคเซ็ตมาดีครับ ลึก ทำให้เลียเบรคได้ง่าย ส่วนตัวแล้วชอบเบรคเฟียสต้า มากกว่า มากๆๆๆๆ
10.ช่องเก็บของ
พอๆกันครับ
11.ฟังก์ชั่น
ก็มีทั้งชอบและไม่ชอบปนๆกันไป
ส่วนตัวที่ชอบของเฟียสต้า ผมว่าเฟียสต้าใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆมากกว่า ลองอ่านดูจากในรีวิวอีกทีละกันครับ และส่วนที่ชอบมากๆคือ voice control ใช้โทรศัพท์ได้ดีมากๆๆ ใครได้ใช้แล้วจะรู้ครับ อิอิ
ส่วนที่ชอบของซิตี้ เหมือนจะเน้นที่ความสบายเป็นหลัก และชอบที่มี paddle shift ด้วยครับ
-
ขอบคุณครับ
-
ส่วนตัวผมมีประสบการณ์เเต่กับเฟียสต้า ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
เห็นด้วยกับเรื่องปุ่มเปิดปิดกระจก ผมไม่ชอบสุดเลยครับ
รองมาก็ห้องโดยสารหลังเคยมีโอกาสนั่ง 3 คน ผู้ใหญ่ 2 เด็กอ้วน 1 อึดอัดอะ
ผมขออนุญาตมาช่วยขยายความให้เพื่อนๆนะครับ
เดิมๆ เมื่อเรากดปลดล๊อค ประตูจะเปิดได้หมดทุกบาน
ให้เรากดปุ่มที่รีโมทล๊อคเเละปลดล๊อคค้างพร้อมกันไว้สัก 4-5 วินาที
เเล้วรถมันจะทักเรากลับมาโดยการกระพริบไฟ (น่าจะ 2-3ครั้ง)
รถก็จะเปิดได้เเค่ประตูบานคนขับได้คนเดียว ถ้าจะพาสาวๆมาขึ้นรถ คนขับกดปุ่มปลดล๊อคกลางคอนโซล 1 ที
กรณีอยากกลับไปเปิดได้ทั้ง 4 บานพาหญิงขึ้นมาพร้อมๆ กัน ก็กดรีโมทเเบบเดิมเหมือนกันครับ
รถก็จะเปิดพร้อมกันได้ทั้ง 4 บานปกติครับ
เรื่องการอัพเกียร์เหมือนกันครับ ผมรู้สึกดีกว่าเดิมมาก เเละมันประหยัดน้ำมันขึ้นมานิดนึงจริงๆ ขับสบายมาก
เหมือนได้รถใหม่จริงๆ
เรื่องเบรกผมค่อนข้างชอบครับ มันลึก เลี้ยงง่ายดี เเละได้มีโอกาสตื๊บ ABS ในระยะเร่ง 0-50 +/- (ไม่เเน่ใจ)
รถมีอาการนิ่งสนิทจริงๆ ระยะเบรกสั้นใช้ได้ เคยมีคนทดสอบว่า ปล่อยมือกระทืบ ABS ยังได้เลย รถไม่มีหมุน
คันเร่งเฟียสต้า เเรกๆ ผมกดวืด บ่อยมากๆๆ ต้องปรับตัวกับมันหน่อย ตอนนี้ชินครับ อยาก คิ๊กเมื่อไหร่ ผมก็คิ๊ก
เจ้านี่เหมือนต้องกด เเล้วปล่อยเเล้วกดหนักไปอีกที เเรงถึงจะมาครับ
เรื่องพวงมาลัยนี่ เพราะผมต้องหักถอยสุดเวลาจอดเข้าบ้าน เวลาหักสุดมันดังกึก เเละเบาๆเกินไป
จนในที่สุด มันก็กึกๆ กั้กๆ ฮ่ะ ๆ เวลาเลี้ยวตลอดเลย ฮ่ะๆๆ
ผมเคลมไปเเล้ว จาก (1ใน3 รายการที่เคลม) ข้อต่อพวงมาัลยอันใหม่
ผมมีความรู้สึกว่ามันหนืดกว่าเดิม ไม่โหวงๆเหมือนของเก่าติดรถ
ผมชอบของใหม่มากกว่า
ขออนุญาต เสนอความคิดเห็นเท่านี้ครับ :)
-
ส่วนตัวผมมีประสบการณ์เเต่กับเฟียสต้า ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
เห็นด้วยกับเรื่องปุ่มเปิดปิดกระจก ผมไม่ชอบสุดเลยครับ
รองมาก็ห้องโดยสารหลังเคยมีโอกาสนั่ง 3 คน ผู้ใหญ่ 2 เด็กอ้วน 1 อึดอัดอะ
ผมขออนุญาตมาช่วยขยายความให้เพื่อนๆนะครับ
เดิมๆ เมื่อเรากดปลดล๊อค ประตูจะเปิดได้หมดทุกบาน
ให้เรากดปุ่มที่รีโมทล๊อคเเละปลดล๊อคค้างพร้อมกันไว้สัก 4-5 วินาที
เเล้วรถมันจะทักเรากลับมาโดยการกระพริบไฟ (น่าจะ 2-3ครั้ง)
รถก็จะเปิดได้เเค่ประตูบานคนขับได้คนเดียว ถ้าจะพาสาวๆมาขึ้นรถ คนขับกดปุ่มปลดล๊อคกลางคอนโซล 1 ที
กรณีอยากกลับไปเปิดได้ทั้ง 4 บานพาหญิงขึ้นมาพร้อมๆ กัน ก็กดรีโมทเเบบเดิมเหมือนกันครับ
รถก็จะเปิดพร้อมกันได้ทั้ง 4 บานปกติครับ
เรื่องการอัพเกียร์เหมือนกันครับ ผมรู้สึกดีกว่าเดิมมาก เเละมันประหยัดน้ำมันขึ้นมานิดนึงจริงๆ ขับสบายมาก
เหมือนได้รถใหม่จริงๆ
เรื่องเบรกผมค่อนข้างชอบครับ มันลึก เลี้ยงง่ายดี เเละได้มีโอกาสตื๊บ ABS ในระยะเร่ง 0-50 +/- (ไม่เเน่ใจ)
รถมีอาการนิ่งสนิทจริงๆ ระยะเบรกสั้นใช้ได้ เคยมีคนทดสอบว่า ปล่อยมือกระทืบ ABS ยังได้เลย รถไม่มีหมุน
คันเร่งเฟียสต้า เเรกๆ ผมกดวืด บ่อยมากๆๆ ต้องปรับตัวกับมันหน่อย ตอนนี้ชินครับ อยาก คิ๊กเมื่อไหร่ ผมก็คิ๊ก
เจ้านี่เหมือนต้องกด เเล้วปล่อยเเล้วกดหนักไปอีกที เเรงถึงจะมาครับ
เรื่องพวงมาลัยนี่ เพราะผมต้องหักถอยสุดเวลาจอดเข้าบ้าน เวลาหักสุดมันดังกึก เเละเบาๆเกินไป
จนในที่สุด มันก็กึกๆ กั้กๆ ฮ่ะ ๆ เวลาเลี้ยวตลอดเลย ฮ่ะๆๆ
ผมเคลมไปเเล้ว จาก (1ใน3 รายการที่เคลม) ข้อต่อพวงมาัลยอันใหม่
ผมมีความรู้สึกว่ามันหนืดกว่าเดิม ไม่โหวงๆเหมือนของเก่าติดรถ
ผมชอบของใหม่มากกว่า
ขออนุญาต เสนอความคิดเห็นเท่านี้ครับ :)
อ้าว คิดเหมือนผมเลยครับ ผมคิดว่าผมรู้สึกไปเองซะอีก ตอนนี้รู้สึกพวงมาลัยหนึบๆหนืดๆกว่าเดิมอีกครับ ชอบมั่กๆ ที่ความเร็วต่ำ ส่วนความเร็วสูงไม่ต้องพูดถึง อิอิ
-
อ้าว คิดเหมือนผมเลยครับ ผมคิดว่าผมรู้สึกไปเองซะอีก ตอนนี้รู้สึกพวงมาลัยหนึบๆหนืดๆกว่าเดิมอีกครับ ชอบมั่กๆ ที่ความเร็วต่ำ ส่วนความเร็วสูงไม่ต้องพูดถึง อิอิ
ผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียวจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใครบอกเลย
T-T
-
ขอบคุณสำหรับ Review นะครับผม อ่านแล้วเพลินดีครับ ละเอียดมากกกครับ
(ละเอียดกว่า Review Cayenne ของผมเยอะเลยครับ คราวหน้าผมคงต้องทำการบ้านมาหนักกว่านี้แล้วแหละครับ555+)
ปล.ใจจริงอยากลองขับ Ford Fiesta บ้างอะครับ ดูแล้วขับในเมือง ต่างๆน่าจะคล่องแคล่วดีเลยทีเดียว ตอนไปยุโรปประมาณก่อนเมืองไทยออกประมาณ 1ปี ชอบมากเลยครับ
แต่ต่างประเทศเค้ามี TDCI ด้วยอะครับ น่าจะประหยัดน่าดูยิ่งจับกับ Powershift 6 Speed อีก 20โลลิตร สบายๆเลยครับเนี่ย
-
อ่านสนุก เขียนได้ดีมาก ๆ เลย ขอบคุณครับ อ่านแล้วอยากได้เฟียสต้าบ้าง รอลุ้นพรุ่งนี้ถ้าอนุโลมให้ 1600 อาจจะต้องมีไว้ใช้บ้างครับ
-
ละเอียดดีครับ วีดีโอ นี่ใช้ galaxy s ถ่ายหรือเปล่าครับ อิอิ ส่วนตัวชอบ fiesta สุดๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ พี่โป้ง ;D
-
ขอบคุณครับน้าโป้ง ;) ;) ;)
บอกตรงๆว่าโครตเกลียดที่ปรับที่นั่งเลยหมุนน่ะโอเคแต่เวลาเลื่อนเบาะไปหลังๆมันหมุนยากมากมือติดเสา B กับอีกอย่างที่ปรับกระจกของคนขับมันอยู่หลังไปมั้ยตั้งผิดที่อย่างแรง
-
ละเอียดดีครับ วีดีโอ นี่ใช้ galaxy s ถ่ายหรือเปล่าครับ อิอิ ส่วนตัวชอบ fiesta สุดๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ พี่โป้ง ;D
ป่าวจ้า อันนี้ผมใช้กล้องถ่ายรูป Fuji s200 EXR ถ่ายมาครับผม ^_^
-
อ่านง่าย อ่านสนุกดีครับ ขอบคุณมากครับ
Ps ชอบงูเกาฮิฮิ ;D
-
ดูแล้วน่าเอา มายำรวมกันนะ55 2คันท่าจะดีๆ
ระบบเปิดประตูได้ตลอดจากภายในเหมือนเบนซเลยครับ คนข้างในเปิดได้ตลอดทุกบาน ไม่ว่าล็อกหรือไม่ล็อก ผมว่าดีนะถ้าไม่มีเด็กๆ 55
fiesta ดูให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัย และ เทคโนโลยีช่วยต่าง แต่ ซิตี้ ให้ความสบายเป็นหลักมั้งเนี่ย ;D
-
ขอบคุณครับ
กำลังดูรถคันแรกให้แฟนพอดี เล็งสองคันนี้ไว้เลย
รีวิวด้วยคำพูดเปรียบเปรยมันส์ๆ ได้ใจวัยโจ๋จริงๆ อ่านแล้วยิ้มไปด้วยเลย :D
-
น่าจะมีคลปตอนสตาร์ทของทั้งสองรุ่นนี้มานะครับ แต่ก็ชอบมากกกรีวิวดีจริงๆๆๆ
-
ชอบรีวิวตัวนี้มาก อ่านแล้วก็ตลกดี ปล่อยมุขมาเป็นระยะ
-
เยี่ยมครับ ชอบๆอ่านเรื่อยๆสบายๆดี แต่เห็นด้วยเลยว่า fiesta ข้างหลังจะแคบไปไหนนั่งแล้วอยากลุกออกทันที แต่พอไปนั่ิงซิตี้แล้วรู้สึกว่า กว้างมากข้างหลังนี่กว้างพอๆกับ civic เลย
-
Fiesta มีช่องเก็บของใต้เบาะคนนั่ง
City ก็มีช่องเก็บของใต้เบาะแถวหลัง ไว้ใส่ร่ม หรือ รองเท้าได้ครับ
-
ละเอียดสุดๆเลยครับ
เรื่องที่เก็บของFiesta ผมเคยแงะไปเจอที่เก็บของใต้แผงวิทยุด้วยอ่ะ น่าเสียดายที่ฟอร์ดไทยกลับไม่ทำฝาเิปิด-ปิดให้ แต่กลับเอาแผ่นพลาสติกแปะไว้ซะงั้น =='
-
ขอบคุณน้าโป้งมากนะครับ บางอย่างของเฟียสต้าผมยังไม่รู้เลย เรื่องที่เปิดไฟสูงทิ้งไว้เแล้วดับเอง ขนาดใช้เกือบทุกวันนะ ผมยังไม่รู้เลย
แล้วรถพี่เป็นยังไงมั้งครับ ตอนนี้ ประกอบเข้าที่หรือยัง
-
ขอบคุณครับ
ได้ข้อมูลเยอะเลยครับ
;D ;D ;D
-
เบาะหนังสีดำด้ายแดงของซิตี้ สวย มวากกก... ;D
-
ขอบคุณน้าโป้งมากนะครับ บางอย่างของเฟียสต้าผมยังไม่รู้เลย เรื่องที่เปิดไฟสูงทิ้งไว้เแล้วดับเอง ขนาดใช้เกือบทุกวันนะ ผมยังไม่รู้เลย
แล้วรถพี่เป็นยังไงมั้งครับ ตอนนี้ ประกอบเข้าที่หรือยัง
พรุ่งนี้ไปรับรถคืนแล้วจ้า ดีใจมากๆ ความรู้สึกเหมือนได้รถใหม่
แต่อีกใจก็กลัวช่างจะประกอบไม่ดี แต่ผมย้ำกับ Ford hotline แล้ว ถ้า ชิ้น ไหน มี ร่อง รอย มี เสียง "ผมขอเคลมใหม่ทั้งหมดครับ"
-
เบาะหนังสีดำด้ายแดงของซิตี้ สวย มวากกก... ;D
ใครๆเค้าก็ว่างั้นครับ 5555
ขอบคุณมากครับ ลายนี้พ่อผมเป็นคนเลือกเองเลยนะ วัยรุ่นซะ อิอิ
อ่อ รวมถึงชุดแต่งภายนอกทั้งหมดด้วยครับ ขนาดเฟียสต้าผมยังไม่ได้แต่งซักบาท -_-''
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ;D
-
เรียนคุณเจ้าของกระทู้สุดหล่อ
อ่านแล้วเพลินดีครับ ดูมีความตั้งใจทำรีวิวดีครับ ขอชื่นชม และแสดงความเห็นในบางจุดครับ
- มีการให้ข้อสังเกตเรื่องแป้นเหยียบของ Honda ที่วางตำแหน่งแปลกๆ ด้วย ตรงนี้ทางฮอนด้าได้แก้ไขมาแล้วล่ะ แต่คงยังไม่ถูกใจผู้ใช้ ตัวเองเคยทดลองขับก็ไม่รู้สึกลำบากอะไรครับ อาจจะเพราะระยะสั้น คุณ จขกท. ลองมาขับสวิฟท์ผมสิ โคตรเมื่อยเลย น่าจะแย่กว่าซิตี้ด้วยซ้ำ
- แป้นเบรกฮอนด้ามันเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ตื้น และกะน้ำหนักยาก เบรคช่วงแรกจะจึ๊กๆ แต่พอเพิ่มน้ำหนักไป อัตราการหน่วงมันกลับไม่ดี เหมือนจะเบรกไม่อยู่ กะน้ำหนักเบรกยาก แต่ถ้ากระทืบลงไป โอเค อยู่แน่นอน
- มีการทำคลิปเครื่องเสียงเปรียบเทียบด้วย เก็ดีครับ ส่วนเรื่องเครื่องเสียง ของซิตี้ก็ดี สวยงาม แต่เฟียสต้าเสียงดีกว่า ออพชั่นครบครันกว่า
- การประกอบเฟียสต้าในหลายๆ จุด ยังดูก่งก๊ง ทั้งที่ไม่ใช่รถเอเชีย แกนพวงมาลัย, ดุมที่ปัดน้ำฝนหลัง, พลาสติกบังโคลนล้อหลัง, ช่องไฟตัวถัง, ยางบวม, เกียร์พฤติกรรมประหลาด จนล็อตหลังแก้ไขบางอย่างบ้างแล้ว
จะทำ User's Voice Suzuki Swift มั่ง คงอีกไม่นานเกินรอ ขอมีเวลาว่างก่อนครับ
-
มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ขอเสริม
เฟียสต้าตัวท๊อปมีเซนเซอร์ถอยหลังให้มาจากโรงงานเลยนะเออ ไม่ต้องติดเพิ่มด้วย
ส่วนซิตี้มีที่ท้าวแขนตรงกลางมาให้ แต่เฟียสต้าไม่มี ถ้าอยากได้ต้องติดเพิ่ม
-
อยากจะบอกว่าวันรับเฟียสต้ามาวันแรกตอนอยู่โชว์รูมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอกลับมาบ้านอีกวันสตาร์ทตอนเช้าวอร์มเครื่องนั่งอยู่ในรถ แม่เจ้า นี่กุได้TCDIมารึป่าว ต้องลงไปดูนอกรถเลยอะ เสียงเหมือนเครื่องดีเซลมาก5555 แต่พอออกรถไปซักพักก็เบาลง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เสียงดีขึ้นรึยังไม่ได้สังเกตุ หรือมันดังและชินไปเอง 55
ปล.เห็นด้วยกะเจ้าของรีวิวทุกประการครับ (ผมไม่แน่ใจเรื่องเฟิมแวร์เกียร์ว่ารถล็อตใหม่จะอัพมาจากโรงงานแล้วแต่ทำไมรถผมเพิ่งได้ช่วงวันแม่มันยังคงเปลี่ยนเกียร์ที่2500-3000 แล้วมีอาการกระตุกนิดๆอยู่เลย)
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ดูแล้วอ่านเพลินดีครับ+ละเอียดด้วยครับ
"เฟียสต้าไม่ได้ดีกว่าซิตี้ครับ เพียงแต่มันเหมาะกับ life style ผมมากกว่าครับ"<<<<กดLIKEให้ประโยคนี้เลยครับ
ยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมสำหรับเบาำะสีดำ ตะเข็บแดงมันสวยจริงๆครับดูดีมากครับ+ตุ๊กตาAngry birdดูแล้วกวนดีนะครับ... ;D
-
ซีตี้ ที่ผมเคยขับมา ทุกอย่างเช่นช่วงล่างและภายใน เยี่ยมมากครับ แต่ติดอยู่อย่างเดียว เรื่องระยะฟรีพวงมาลัยนี่แหละ ..
ผมว่าระยะฟรีมันเยอะไปอะ .... เยอะจนผมไม่ค่อยกล้าที่จะแซงใครเท่าไร ... ไม่ค่อยกล้าที่จะหักพวงมาลัยเท่าไร
ผมไม่รู้ว่าคันที่ผมขับมันผิดปรกติหรือเปล่า เพราะเห็นหลายคนบอก ซิตี้ พวงมาลัยคมที่สุดในรถขนาดเดียวกัน แต่ผมเทียบกับ กระบะ D-max ผมว่ากระบะผมมันคมกว่าเยอะเลย ...
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวที่ละเอียด และอ่านเพลินมากครับ ;D
ปล. 1 ใน 2 คันนี้คงเป็นรถคันแรกของผมแน่ๆ เมื่อผมได้เริ่มทำงานแล้ว ได้มาอ่านรีวิวเปรียบเทียบแล้วทำให้ได้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ ;)
-
ขอบคุณสำหรับ รีวิวส์...มันส์ๆ ครับ ส่วนตัวใช้ Jazz อยู่ เด้งยังกะเกวียนครับ แต่เอนกประสงค์ดี เอิ๊กๆๆๆ
-
มาเพิ่มเติมให้จ้า
ก่อนจะลาจากกันไป ขอสรุปให้ฟังแบบสั้นๆละกันเน้อ
ปล ทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้สรุปว่า "คันไหนดีกว่า" ผมจะขอสรุปว่า ผม"ชอบคันไหนมากกว่า" เพราะอะไรเท่านั้นนะครับ เพราะฉะนั้นจะเอาข้อมูลนี้ไปอ้างอิงไม่ได้ อยากรู้ต้องไปลองเองครับ ผมแค่เอามาแชร์ให้ฟังกัน
1.รูปลักษณ์ภายนอก
แล้วแต่คนมองครับ ผมมองว่า 5ประตูเฟียสต้าสวยสุด ถ้า 4ประตู ซิตี้สวยสุด(แต่ตอนนี้กำลังหลงรัก เฟียสต้า 4 ประตูสีม่วงอยู่ อิอิ)
2.เครื่องยนต์
ผมชอบในความเป็นระเบียบเรียบร้อยของซิตี้มากกว่าครับ แต่ของแผ่นกันความร้อนของเฟียสต้ามากกว่า
3.คอนโซล
ผมชอบของเฟียสต้ามากกว่า ผมไม่ค่อยชอบแนวคอนโซลสไตล์ญี่ปุ่นเท่าไหร่ อย่างวีออสกับมาสด้า2 นี่ไม่ชอบอย่างแรง ซิตี้พอใช้ได้ครับ
4.ฟิลลิ่งพวงมาลัย
ที่ความเร็วต่ำไม่ต่างกันมากนัก แต่ซืตี้เหมือนจะหนักกว่า เฟียสต้าเบาแต่หนืด โดยเฉพาะหลังเปลี่ยนแกนพวงมาลัยมาใหม่ รู้สึกหนืดและคมขึ้นมาก ไม่รุ้เป็นเพราะใช้อันเก่าจนหลวมแล้วชินมือหรือเปล่า จริงๆมันอาจจะเหมือนตอนออก
รถมาใหม่ๆก็ได้นะ 5555
แต่ที่ความเร็วสูง พวงมาลัยหนักทั้งคู่ แต่เฟียสต้าให้ความรู้สึกที่มั่นคงมากกว่า และหนืดกว่า แต่หนักพอๆกัน
5.เบาะ
ผมชอบเบาะหน้าของเฟียสต้า เพราะมันใหญ่ นั่งสบาย ไม่เมื่อยขา ส่วนของซิตี้ เบาะจะสั้นไปหน่อย รอบรับขอผมได้ไม่เต็ม ทำให้เวลาขับนานๆแล้วจะเมื่อย แต่ชอบที่ปรับเบาะของซิตี้ เพราะมันสะดวกดี แต่ของเฟียสต้าจะละเอียดกว่า
เพราะใช้หมุนเอา
ส่วนเบาะหลัง จบที่ซิตี้ครับ ใหญ่ โอ่โถง นั่งสบาย ปรับเอนได้ หลายๆคนอาจจะบอกว่า เบาะเฟียสต้านั่งทางไกลจะไม่เมื่อย แต่ผมเมื่อยตั้งแต่เริ่มนั่งละ 5555 เพราะผมตัวใหญ่ เข่าจะติดถ้าเบาะหน้าถอยมาเยอะ area ภายในดู
อึดอัดทำให้นั่งไม่สบายครับ แต่ไม่เคยนั่งทางไกลๆเหมือนกัน เพราะเป้นคนขับตลอด
6.ตำแหน่งคันเร่ง เบรค
เฟียสต้าดีกว่ามากครับ สบายกว่าทั้งขับในเมืองและทางไกล เห็นว่าซิตี้มันจะติดซุ้มล้อ ทำให้ต้องเขยิบมากลางๆ ผมมองว่าจุดนี้ควรแก้ไขอย่างแรงครับ
7.อัตราเร่ง
ซิตี้ขับสนุกกว่าทุกย่านความเร็ว ไม่ใช้เพราะแรงกว่า แต่เป็นเพราะเหมือนจะตอบสนองไวกว่า "กดเป็นมา" ครับ เหยียบปุ๊บ พุ่งปื้น เฟียสต้าออกแนวต้องรอพละกำลังกันนิดนึงกว่าจะแรงได้ แต่ถ้าอยากแรงจริงๆก็ต้องใช้เหยียบกัน
มิดๆ แต่ผมว่าในชีวิตจรืงคงไม่มีใครเหยียบปื้ดๆแบบนั้นเท่าไหร่
ปล ตอนผมขับเส้นมอเตอร์เวย์ ซิตี้ผมเหยียบตั้ง 150 เพราะมันเหยียบมันจริงๆครับ แต่ช่วงล่างหวิว 5555
8.ช่วงล่าง
ที่ความเร็วต่ำๆ ซิตี้จะให้ความรู้สึก นุ่ม + หนึบ แต่ไม่แน่นมาก ส่วนเฟียสต้าจะ แข็ง + หนึบ + แน่น(ลองเอาไปตกหลุมหนักๆดูได้ รับรองยางบวม เย้ยยย มะช๊ายย อิอิ เสียงมันจะต่างกันครับ)
ที่ความเร็วปานกลาง ให้ความรู้สึกไม่ต่างกันมากครับ แต่เฟียสต้าจะรู้สึกมันดูดถนนมากกว่า ซิตี้จะออกแนวโยกเยกๆตามคลื่นถนนนิดหน่อย
ที่ความเร็วสูง จะรู้สึกได้ว่าต่างกันครับ เฟียสต้าจะดูดถนน ไม่ค่อยโยก(บางคนบอกว่าเฟียสต้าหนักกว่า ไม่จริงนะครับ ลองไปดูตามสเปคได้เลย ต่างกันไม่เกิน 30 โล) น่าจะเป็นที่การ set ช่วงล่างมากกว่า ไม่ค่อยเหินลม แต่
ถ้าลมพัดแรงๆก็จะรู้สึกได้เหมือนกัน
ส่วนซิตี้ จะออกแนวโยกๆหวิวๆกว่าเฟียสต้าอยู่หน่อย รู้สึกรถไม่ดูดกับถนนมาก ยิ่งเวลาเจอคลื่นถนน จะรู้สึกเลยว่ารถโยกๆ แต่ไม่ถึงกับลอยจนจะบินนะ
ผมว่าช่วงล่างของ 2 ตัวนี้ จะเห้นต่างกันชัดๆ คือการขับแบบผิดปกติ เช่น เปลี่ยนเลนกระทันหันที่ความเร็วสุงๆๆ จั๊มคอสะพานแรงๆที่ความเร็วสูงๆ เข้าโค้งแรงๆที่ความเร็วสูงๆ
ผม ไม่เคยขับรถ B segment ทุกยี่ห้อ แต่นั่งมาแล้วทุกยี่ห้อ ดังนั้นผมจึงไม่อาจจะบอกได้ว่าเฟียสต้าเป็นรถที่มีช่วงล่างดีที่สุดในบรรดารถเล็ก แต่ถ้าเทียบกัน 2 ตัวนี้ ช่วงล่าง ยังไงก็ต้อง >>>เฟียสต้า "เท่านั้น"<<<<
9.เบรค
เบรคซิตี้ ผมว่ามันเซ็ตมาตื้นเกินไป ทำให้มันจับค่อนข้างไว ตอนเบรคเย็น มันจะเบรคแบบจึ๊กๆๆๆ เลย แต่พอเบรคร้อนเมื่อไหร่ จะรู้สึกว่าเหมือนมันจะเอารถไม่อยู่ครับ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเบรคของซิตี้ อย่างแรง
เฟียสต้า เนื่องจากเบรคเป็นดรัมเบรคหลัง ทำให้การจับของเบรคค่อนข้างดี เอาอยู่ทุกครั้ง เบรคเซ็ตมาดีครับ ลึก ทำให้เลียเบรคได้ง่าย ส่วนตัวแล้วชอบเบรคเฟียสต้า มากกว่า มากๆๆๆๆ
10.ช่องเก็บของ
พอๆกันครับ
11.ฟังก์ชั่น
ก็มีทั้งชอบและไม่ชอบปนๆกันไป
ส่วนตัวที่ชอบของเฟียสต้า ผมว่าเฟียสต้าใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆมากกว่า ลองอ่านดูจากในรีวิวอีกทีละกันครับ และส่วนที่ชอบมากๆคือ voice control ใช้โทรศัพท์ได้ดีมากๆๆ ใครได้ใช้แล้วจะรู้ครับ อิอิ
ส่วนที่ชอบของซิตี้ เหมือนจะเน้นที่ความสบายเป็นหลัก และชอบที่มี paddle shift ด้วยครับ
-
ซีตี้ ที่ผมเคยขับมา ทุกอย่างเช่นช่วงล่างและภายใน เยี่ยมมากครับ แต่ติดอยู่อย่างเดียว เรื่องระยะฟรีพวงมาลัยนี่แหละ ..
ผมว่าระยะฟรีมันเยอะไปอะ .... เยอะจนผมไม่ค่อยกล้าที่จะแซงใครเท่าไร ... ไม่ค่อยกล้าที่จะหักพวงมาลัยเท่าไร
ผมไม่รู้ว่าคันที่ผมขับมันผิดปรกติหรือเปล่า เพราะเห็นหลายคนบอก ซิตี้ พวงมาลัยคมที่สุดในรถขนาดเดียวกัน แต่ผมเทียบกับ กระบะ D-max ผมว่ากระบะผมมันคมกว่าเยอะเลย ...
รถ segment นี้ Mazda 2, Suzuki Swift, Ford Fiesta พวงมาลัยคมพอกันครับ แต่สวิฟท์จะให้น้ำหนักที่ความเร็วสูงดีกว่า แต่อีกสองยี่ห้อ ขับที่ความเร็วต่ำจะง่ายลื่นมือกว่า
ส่วน City พวงมาลัยดีใช้ได้ แต่ไม่เกาะกลุ่มครับ
-
เป็นรีวิวที่อ่านสนุกมากเลยครับ สุดยอดดด ;D
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ (ใจผมยังสรุปไม่ได้เลยว่าจะเอาคันไหนดี - - ")
-
ขอบคุณอีกทีนะครับ กำลังตัดสินใจหารถประจำตำแหน่งให้กับผู้ช่วยผู้จัดการอยู่พอดีเลยครับ
เจอ Review ของพี่แล้ว ได้เห็นถึงสิ่งที่เรามองข้ามไปอีกเยอะเลยครับ
รายละเอียดดีมากๆๆเลยครับ
ตอนนี้คงจะออก Ford Fiesta 1.6 5dr แน่นอนแล้วละครับ ยิ่งได้มาดู Review นี้อีกยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกเลยครับ แล้วก็ได้ข้อมูลมาอีกเยอะเลยครับ
ขอบคุณสำหรับ Review และน้ำใจงามๆอีกครั้งนะครับ ^^
-
ผมเป็นเจ้าของเฟียสต้า 1.6Sport เหมือนกัน เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ทุกข้อครับ
1.ส่วนเรื่องพวงมาลัย ผมได้ลองขับรถในคลาสนี้ครบหมดแล้ว ผมยืนยันว่า Suzuki Swift คือรถที่พวงมาลัยที่น้ำหนักดีที่สุดครับ
2.ส่วนเบรค เฟียสต้าจะเด่นที่สุดในกลุ่มครับ ส่วนความสบายในตอนหลัง ผมให้ City ครับ
3.ช่วงล่างความเร็วต่ำ ผมให้ Mazda2+City ความเร็วสูงผมให้ Fiesta แต่ยังไม่ลอง Swift ครับในความเร็วสูง
ความเห็นส่วนตัวจ้า
-
รีวิวได้สนุก และน่าติดตามมากครับ
ขอบคุณมากๆครับ วันหลังทำรีวิวดีๆมาให้อ่านอีกนะครับเป็นกำลังใจให้ครับ :-*