Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: RockYou ที่ พฤศจิกายน 09, 2011, 16:37:54
-
คือผมสนใจทั้ง Honda city กับ Ford fiesta คับ
เรื่องเครื่องยนต์ การขับขี่ ช่วงล่าง ออพชั่นต่างๆ ผมศึกษามาเรียบร้อยแล้ว (พอใจทั้ง 2 คัน)
=> แต่เรื่องพวกอะไหล่ ศูนย์บริการ ปัญหาต่างๆ ที่ผมยังไม่ทราบน่ะคับ ห่วงเรื่องนี้พอสมควร
(คือ 2 เรื่องนี้ก็สำคัญสำหรับผมพอสมควรเพราะไม่อยากเสียเงินกับอะไหล่แพงๆ หรือรถจุกจิก)
เลยอยากจะถามเพื่อนๆชาว HLM ว่าทั้ง 2 คันนี้ จุกจิกมั้ย อะไหล่แพงมั้ย ศูนย์บริการเปนยังไง
(จริงๆผมแอบชอบ Ford Fiesta มากกว่านิดๆ แต่ก็ได้ยินคำเล่าลือของ ford ที่ไม่ค่อยดีน่ะคับ ไม่รู้จริงมั้ย?)
ขอบคุณคับ
-
Fiesta รุ่นเครื่อง1.6ไม่ได้ภาษีคืนนะครับนะครับได้แต่ 1.4
-
ถ้าพอใจทั้งสองคันก็ ซิตี้เหอะ ตัดหลายๆอย่างที่กังวลออกได้เยอะ
-
Fiesta 1 เสียงครับ
เรื่องศูนย์บริการ ผมว่าก็โอนะครับ
น้องใช้ Focus มา 4 ปี เจอปัญหาหนักๆ 2 ครั้ง
เข้าศูนย์ออกมาก็โอเคครับ
เปลี่ยนใหม่ก็ยังจะใช้ Focus Minor ผมล่ะเชื่อเลย
เหมือนเดิมเปลี่ยนนิดเดียวเอง จะเปลี่ยนทำไมเนี่ย
-
(ความเห็นส่วนตัว)
อ่านดูเห็นว่าศึกษาตัวรถมาหมดแล้ว แต่มีปัญหากังวลเรื่อง อะไหล่ ศูนย์บริการ ปัญหาต่างๆ
ถ้ามีช้อยส์เหลือแค่ 2 คันนี้จริงๆ .... ผมเลือก Honda City ครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
=> แต่เรื่องพวกอะไหล่ ศูนย์บริการ ปัญหาต่างๆ ที่ผมยังไม่ทราบน่ะคับ ห่วงเรื่องนี้พอสมควร
(คือ 2 เรื่องนี้ก็สำคัญสำหรับผมพอสมควรเพราะไม่อยากเสียเงินกับอะไหล่แพงๆ หรือรถจุกจิก)
-
คันแรกของชีวิต คงเป็น ชิ๊ตติ้ ได้เงินคืน ตามนโยบาย แต่ ปัญหารถไม่ทันใช้แน่ๆ 10 เดือนจากนี้ไป
ต้องการรถเร็ว ต้องเฟียสต้าแล้วหละ
ค่าบำรุง ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด
เฟียสต้าผมของเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มา2รอบแล้ว นี่ก็วิ่งเกือบ4หมื่นแล้ว 4หมื่น5ก็เข้าอีกครั้งเป็นรอบที่3
ใช้งานทุกวัน ช่วงล่างหนึบสุดๆ ดีมาก พวงมาลัยก็แม่นยำ เทียบกับมาสด้า2อีกคันของแฟนคนละเรื่อง เฟียสต้ามั่นใจกว่าเยอะ
ดูตามตาราง
-
คันแรกของชีวิต คงเป็น ชิ๊ตติ้ ได้เงินคืน ตามนโยบาย แต่ ปัญหารถไม่ทันใช้แน่ๆ 10 เดือนจากนี้ไป
ต้องการรถเร็ว ต้องเฟียสต้าแล้วหละ
ค่าบำรุง ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด
เฟียสต้าผมของเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มา2รอบแล้ว นี่ก็วิ่งเกือบ4หมื่นแล้ว 4หมื่น5ก็เข้าอีกครั้งเป็นรอบที่3
ใช้งานทุกวัน ช่วงล่างหนึบสุดๆ ดีมาก พวงมาลัยก็แม่นยำ เทียบกับมาสด้า2อีกคันของแฟนคนละเรื่อง เฟียสต้ามั่นใจกว่าเยอะ
ดูตามตาราง
ก็ไม่แพงอย่างที่คิดนะคับ
-
ถ้าพอใจทั้งสองคันก็ ซิตี้เหอะ ตัดหลายๆอย่างที่กังวลออกได้เยอะ
ถ้าพอใจทั้งสองคันก็ Fiestaเหอะ ตัดหลายๆอย่างที่กังวลออกได้เยอะ อิอิ
คือว่า เรื่องอะหลั่ยนะครับ มันไม่มีวันแพงได้หรอกครับ ไอ้รถระดับนี้น่ะ
เคยได้ยินไหม๊ครับ "ราคาอะหลั่ย แปรผันตามราคารถ"
ดังนั้น รถถูก..เอ้ย! รถไม่แพง อะหลั่ยก็ไม่แพงซักเท่าไหร่หรอกครับ
ทีนี้ เรื่องศูนย์งี่เง่านะครับ คนเราเข้าอยู่ไม่กี่ศูนย์หรอกครับ
รถผมใช้มา กี่คันๆก็เข้าศูนย์ของมันอยู่ศูนย์เดียว
Mitsu - Mitsu สาทร
VW - VWวิภาวดี
MB - ธนบุรี(ลุมภินี)
BMW - Millennium Auto
ETC. (สังเกตได้ว่าคนละทิศละทาง)
เพราะอะไร ก็เพราะเราชอบ + ไม่มีปัญหาไงครับ
ฮอนด้า ต่อให้ได้ยินว่าดี + ศูนย์เยอะแค่ไหน ก็ต้องมีศูนย์ที่ไม่ดี/งี่เง่า/ไม่เก่ง/มีปัญหา
แนะนำ ให้หาจากคลับของรถคันนั้นๆว่าอู่ไหนดี แล้วไปใช้ที่นั่นเลยครับ
ทำไม เชียร์Fiesta คือถ้าเคยอ่านเวลาผมเม้นท์ ผมเป็นคนไม่ชอบใช้รถ Class นี้นะ เอาจริงๆ
แต่เห็นหลายๆคน บอกผมว่า "เฮ้ย จะว่าระดับนี้ห่วย ลอง Fiesta แล้วยัง หา?"
เหมือนกัน Fiesta มันเป็นทางสว่างเอามาเทียบรถระดับ Premium ยังไงไม่รู้
ดังนั้น
ลองสิครับ จัดไป แฟนเพื่อนซื้อมาคันนึง เลยไปลอง ก็โอเคกว่าซิตี้นะครับ(ขออภัยคุณจิมที่พาดพิงรถที่ใช้)
ก็ลองดูแล้วก็ใช้ได้ ผมว่า สมรรถนะดีที่สุดใน Classนี้(1.4) นะครับ
แต่ถ้าสน 1.6 ก็ลองดู SWIFT ไว้อีกตัวครับ
-
ถ้าเรื่องได้เงินคือเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจจะซื้อรถด้วยแล้วhondaคับ
แต่ถ้าเรื่องเงินคืนไม่ใช่เรื่องใหญ่เน้นสมรรถนะรถ ford 1.6 คับผม
-
ผมเลือก city ครับ แต่ก็ได้ช้า
แต่ถ้าเป็น Fiesta ผมไม่แนะนำให้เอาเครื่อง 1.4 เพราะทั้งอืดและกินน้ำมัน อัพมาเล่น 1.6 ดีกว่าคับ ทั้งประหยัดและไม่อืดด้วย แต่ก็นะ ไม่ได้ลดแสนนึง
:-\ :-\
-
เพื่อตัดปัญหากวนใจจจจจจจจจจจจจ ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ฮอนด้า น่าจะมีแนวโน้ม ของปัญหาน้อยกว่านะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ ลังเล กับสองรุ่นนี้มากกกก
แต่มาจบที่ Honda City ตรงที่ การตอบสนองแบบทันทีทันใด ในการขับขี่ ได้ทันใจกว่า เฟียสต้า แบบสัมผัสได้
เพราะมันให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า ขณะที่ต้องตัดสินใจ ขณะขับขี่
ง่ายๆ มันตอบสนอง แบบสั่งได้มากกว่าครับ
-
คนญี่ปุ่น ที่ผมรู้จักเค้าว่า สวีฟ สวย สมราคา
เค้าไม่ค่อยพูดนะ แต่ก็พูดเรื่องรถกะผมนี่แหละ
ถ้าไม่ติดใจเรื่องขายต่อหรือ บลาๆๆๆๆ
สวีฟเหอะครับ สวยจริงๆ
;)
-
City ครับ
-
บ้านผมมีทั้ง 2 คันนี้น่ะครับ
เลือกยากเหมือนกัน 2 รุ่นนี้
แต่สำหรับผมคิดว่า Fiesta (1.6) น่าจะดีกว่าน่ะครับ :)
-
เพื่อตัดปัญหากวนใจจจจจจจจจจจจจ ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ฮอนด้า น่าจะมีแนวโน้ม ของปัญหาน้อยกว่านะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ ลังเล กับสองรุ่นนี้มากกกก
แต่มาจบที่ Honda City ตรงที่ การตอบสนองแบบทันทีทันใด ในการขับขี่ ได้ทันใจกว่า เฟียสต้า แบบสัมผัสได้
เพราะมันให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า ขณะที่ต้องตัดสินใจ ขณะขับขี่
ง่ายๆ มันตอบสนอง แบบสั่งได้มากกว่าครับ
เห็นด้วยคับ ผมชอบรถอัตราเร่งดีๆซะด้วย
-
โดยส่วนตัวผมยังไม่เคยขับ City นะครับ ส่วน Fiesta หลานสาวใช้อยู่เลยเคยได้ลองขับ
City ผมว่าคงใกล้เคียง Civic ซึ่งเคยขับมาผมว่าเกียร์มันแปลกๆ การเกาะผมว่าพอใช้งานได้ดีถ้าคุณไม่ได้แยกรายละเอียดเทียบประสิทธิภาพมากนักหากขับใช้งานสบายๆผมว่าก็คงจะดี
ส่วน Fiesta นี่ผมชอบนะ มันหนึบดี แข็งแน่นและหนึบ เจอลูกระนาดผมว่า ok รู้ว่าขับรถ กำลังดี Handling ผมว่า Fiesta น่าจะดีมากเพราะปล่อยมือนานเป็นนาทีบนทางตรงมันก็ตรงไปของมันเลย เกียร์ดีครับแต่มีเสียงให้กังวลใจบ้างเวลาเข้าเปลี่ยนเกียร์กับจังหวะเบรคซ฿งนั่นอาจเพราะผมไม่คุ้นกับผมมาก่อนหรือเปล่า? ความเร็วกับการทำงานของสมองกลเกียร์ผมว่าถ้าคุณขับคนเดียวก็ OK แต่ถ้ามีคนใช้ด้วยอย่างผมซึ่งหลานขับมาก่อนและเป็นรถเขารู้สึกว่าคันเร่งดูจะขาดๆเกินๆไปในจังหวะต้นๆ ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ถ้ารถมันดันคุ้นกับความเร็วของคนขับก่อนหน้า ผมต้องเหยียบลงพอควรในหลายๆจังหวะ ความเร็วทำได้ดีกว่าเพราะขับคู่ไปกับญาติก็ปรากฎว่า Fiesta ทำได้ดีกว่า แต่นั่นอาจเพราะผมขับและชำนาญมากกว่าญาติที่ขับ City ระบบตำแหน่งไฟเลี้ยง ขอทางและที่ปัดน้ำฝนผมชอบใจเพราะผมคุ้นกับรถที่คันไฟเลี้ยวซ้าย และปัดน้ำฝนขวา ปุ่มเปิดไฟหน้าก็แยกมาเหมือนยุโรป เครื่องเสียงเบสอาจแปลกไปนิดที่โดยรวมคุณภาพดีครับ การประหยัดน้ำมันผมว่าขึ้นกับสถานการณ์และการใช้งานครับ
Fiesta จะติดตรงที่ช่วงแรกที่ออกมาใหม่ๆ ประตูมันแปลกๆต้องเอาเข้าไปทำซึ่งดีขึ้นแต่ยังแก้ไม่ได้ต้องออกแรงมากหน่อยสำหรับรถรุ่นใหม่จนเสียงปิดอาจทำให้เราตกใจ, เกียร์ก็ตามที่กล่าวแต่ใช้งานได้สบายมาก การทรงตัวความหนึบขับแบบรถแข่งได้อยู่สำหรับจังหวะหมุนเลี้ยงพวงมาลัยที่หักและชักหมุนเร็วๆไม่โคลงเท่ากับ Civic และ Accord แต่ที่ต้องระวังคือ ผมไม่รู้ว่าเด็กปั๊มเข้าใจผิดกันรึเปล่าในต่างจังหวัดเพราะถ้าผมไม่ไปเติมน้ำมันให้ เขาจะเติม Gasohal 91 ให้ ซ฿งเครื่องกระตุกและเร่งไม่ค่อยขึ้น อีกอย่างคือเสียงเครื่องดังเหมือนเครื่อง Tdi ดีเซลเลย แต่พอผมไปเติมให้ เบนซิน 91 นิ่งเงียบ เร่งสบาย Gasohal 95 น่าจะไม่มีปัญหาและเบนซิน 95 ถ้ามีเครื่องยิ่งน่าปรูดปราด ซึ่งคุณก็อ่านดูในคู่มือรถได้ โดยรวมผมว่า Fiesta นั้น Ok นะครับ ส่วน City คุณต้องลองถามคนที่เคยขับ
-
เรื่องความคุ้นเคยรถในการขับ Fiesta ในหลายๆจุด ไม่ต้องกะเอาผมเป็นที่ตั้งนะครับเพราะปรกติผมขับ BMW 5 Series F10 525 d และ Audi Q5 Quattro ถ้าจะเอาเรื่องความคุ้นเคยในการขับอยากให้เปรียบเรื่องการทรงตัวของรถที่ผมมองว่าทรงตัวได้ดีมากสำหรับ Ford Fiesta Hatchback
-
เลือกยากเหมือนกันนะครับ อยากได้ทั้งคู่เลย
แต่ผมแอบปันใจให้ city ครับ เนื่องจากตอบโจทย์ผมได้ดีในหลายๆด้าน
-
เฟียสต้า เจ้าตัวนี้ ขึ้นชื่อเรื่องช่วงล่างอยู่แล้วครับ
เครื่อง+เกียรทันสมัย ภายในดูล้ำสมัย
ซิตี้ ผมว่าเครื่อง 1.5 ของมันก็ล้ำ แรง และประหยัดสุดในพิกัดแล้ว
ถึงจะดูพื้นๆ ไม่ล้ำเหมือนข้างบน แต่ก็มีความเรียบง่าย
ซ่อมง่าย ไม่จุกจิก
ช่วงล่างสู้เจ้าข้างบนไม่ได้หรอก แต่ใช้ทั่วๆไปก็พึงพาได้อยู่
ศูนย์บริการยังเป็นปัญหาอยู่สำหรับเฟียสต้า
อู่นอกที่ไว้ใจได้ รวมถึงอู่สี อู่ตัวถัง อาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย
แต่โดยรวมๆแล้ว ทั้ง2คัน ก็เป็นรถที่น่าใช้ทั้งคู่
"ชอบหน้าตาคันไหน บ้านใกล้ศูนย์ไหน ก็จิ้มไปที่คันนั้นครับ"
-
รถแพง=อะไหล่แพง
รถถูก=อะไหล่ถูก ---->มันไม่เสมอไปนะคร้าบบ ดูอย่าง Proton รถทู้กถูกแต่อะไหล่แพ้งแพง - -"
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
Honda เคยใช้และแฟนใช้ อะไหล่ไม่แพง ศูนย์ค่อนข้างเยอะ ศูนย์ดีๆหายังหาได้อยู่ Cityใหม่เท่าที่ศึกษาในคลับ เครื่องแรงและความจุกจิกไม่เท่า Civic FD
แถมได้คืนภาษี แต่รุ่นเกียร์ออโต้ได้ข่าวว่าจมน้ำไปแล้ว (รุ่นเกียร์ธรรมดารอดมาอยู่)
Ford ผมไม่เคยใช้ ไม่รูเรื่อง อะไหล่แนะนำให้เทียบราคาดูก่อน แต่รูปลักษณ์สวยล้ำมากทั้งนอกทั้งใน และการขับขี่ดีกว่า City แน่ๆๆ ล้านเปอร์เซนต์ ที่อังกิดเชิดชู Fiesta มากมายครับ
สุดท้ายอยากให้ศึกษาหาข้อมูลทั้งจากโชว์รูม(ใจลูกค้าไหม?,ใกล้บ้านไหม?,ชื่อเสียเยอะไหม?) หาตามเว็บคลับ อ่านรีวิวของคุณจิมมี่ และไปลองขับ ให้ถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจ
-
ถ้าดูเรื่องความสามรถของรถผมให้ Fiesta มากกว่า City นะคับ แต่เรื่อง ศูนย์นี้คงต้องยกให้ City ไป
อาจจะเป็นเพราะ เป็นที่รู้จักมากกว่า ส่วนเรื่องปัญหาของ Ford นั้นเท่าที่อ่านจากคลับต่างๆ จะมีปัญหาเรื่อง
เสา B (เสากลางด้านคนขับ) จะมีปัญหาเรื่องเสียเข็ดขันที่จะดังนิดหน่อย เท่าที่อ่านก็เอาเข้าศูนย์แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
(รู้สึกจะเป็นล็อดแรกที่เป็นนะคับ) ส่วนตอนนี้เท่าที่อ่านก็ไม่ได้มีแล้ว
ลองชั่งใจดูคับว่าชอบแบบไหน ถ้าเอา Ford ก็เล่นตัว 1.6 ดีกว่าคับ (ที่อ่านในฟูลรีวิวของพี่จิมก็มีไว้ชัดเจนเรื่องการกินน้ำมัน)
แต่ถ้าจะเอา City ก็ได้ 1 แสน แทบได้เรื่องศูนย์ที่มีมากกว่า (แต่ในอนาคต Ford ก็คงมากเหมือนกันมั่ง)
ปล.ลองอ่านดูใน ฟูลรีวิวของพี่จิมก็ได้คับน่าจะช่วยตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย
-
เพื่อตัดปัญหากวนใจจจจจจจจจจจจจ ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ฮอนด้า น่าจะมีแนวโน้ม ของปัญหาน้อยกว่านะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ ลังเล กับสองรุ่นนี้มากกกก
แต่มาจบที่ Honda City ตรงที่ การตอบสนองแบบทันทีทันใด ในการขับขี่ ได้ทันใจกว่า เฟียสต้า แบบสัมผัสได้
เพราะมันให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า ขณะที่ต้องตัดสินใจ ขณะขับขี่
ง่ายๆ มันตอบสนอง แบบสั่งได้มากกว่าครับ
เห็นด้วยคับ ผมชอบรถอัตราเร่งดีๆซะด้วย
ถ้าเรื่องอัตราเร่ง รถน้อยฮอนด้าน้อยยยยยยคันมากครับ ที่จะมีอัตราเร่งไม่ดี (ยกเว้น CR-V 2.0 GEN2 ไว้คัน ไม่อืดนะครับ แต่แค่ไม่ปรี๊ดดดด)
ผมเป็นคนนึงครับ ที่ชอบเทคโนโลยีของฟอร์ด พวกอุปกรณ์ภายในต่างๆ ชอบมากกก แต่ผมรู้สึกว่า เฟียสต้า มันคับแคบเกินไป
ขับแล้วมันไม่ผ่อนคลายแบบซิตี้ และเกียร์ของเฟียสต้าเปลี่ยนเกียร์รอบสูงเกินไป และการตอบสนองของเกียร์ ที่มาแนวนุ่ม
มันเลยอาจรู้สึกว่า ไม่มีแรงดึง หรือแรงกระชากแบบฮอนด้า ซึ่งผมชอบรถที่มีแรงดึง มันให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ
ช่วงล่างไม่เลวครับ เกาะเหนี่ยวแบบไว้ใจได้ แบบไม่ต้องทำไรเพิ่ม ถ้าขับปกติ หรือเปรี้ยวปาดบ้าง ในความเร็วขับขี่ปกติ
ผมว่ามันขับสนุกมากกกกคันนึงเลยนะ ให้อัตราเร่งสะใจ กับพวงมาลัยแม่นยำ แต่มันจะแสดงอาการเบาๆบ้าง เมื่อวิ่งความเร็วเกินกว่า 160+
แต่ถ้าทางเรียบดี ยิงยาว 190 ก็ไม่มีปัญหา(แต่น้อยมากกกกกที่ถนนจะเรียบแบบนั้น)
ข้อเสีย เท่าที่เจอ มีเรื่องนึง คือเสียงการทำงานของช่วงล่าง มันโครงคราม มากกกกกก เหมือนรถจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
นอกนั้น ไม่มีไรแย่นะ ขับมาสองปี ยังไม่มีไรเสียหาย ให้รำคาญใจครับ เพลงยังดัง มาตรวัดยังสวยดี ระบบไฟยังทำงานปกติ
หลอดไฟยังไม่มีดวงไหนขาด ถือว่าผมประทับใจนะ
-
ถ้าห่วงเรื่องอะไหล่
คะแนนเทไปทาง City แน่นอนงานนี้.......
เรื่องอื่นๆ ก็น่าจะตัดสินใจได้เองครับ เพราะศึกษาข้อมูลมาแล้วนี่เนาะ ;D
-
fiesta +1เสียงครับ
แต่ต้อง 1.6 ดังที่ท่านอื่นๆว่ามาแหละครับ ;D
-
ถ้าให้เลือกจริงๆ ก็ City ครับ น่าจะตัดเรื่องกวนใจไปได้หลาย
Fiesta ขับมาก็ดี แต่ผมไม่ค่อยชอบคันเร่ง กับการเก็บงานภายในที่ไม่เรียบร้อย แต่ก็ยังดีกว่า 2 มากๆ
ชอบมีงานฉีดพลาสติกห่วยๆ มีคมเต็มไปหมด งานไม่เนียบเลยครับ
-
ตัวเลือกมันอยู่ที่ไปลองแล้วจะได้อะไรมากกว่าครับ ตอนนี้ยังคงตัดสินไม่ได้หรอก ส่วนตัวก็เลือกมาแล้วคือ เฟียสต้า
-
เอาง่ายๆนะครับ ตอนซื้อรถ คิดว่าตัวไหนที่ใช่ และชอบกว่าเอาตัวนั้นเลยครับ อย่าลังเล ไม่งั้นจะเสียใจภายหลังว่า ทำไมไม่เอาของที่เราชอบหว่า อย่างในกรณีของคุณคือชอบFiestaมากกว่าใช่ไหมครับ เป็นผมจะเอาแบบไม่ลังเลเลย เพราะใจเอียงมาทงนี้แล้ว เช่น แบบเพื่อนผมชอบiPhone4มากๆ แต่เห็นว่า Galaxy S2 ดีกว่า ก็เลยซื้อ พอใช้ๆซักพักก็เสียดายว่าทำไมไม่ซื้อของที่เราชอบหว่า = =" เป็นผมก็จะเอาFiestaครับ แต่งขึ้นกว่า สวย ดุ กว่า แรงกว่า ช่วงล่างดีกว่า แต่ศูนย์ฟอร์ดนี่หาดีๆเข้าหน่อยนะครับ และอีกอย่างตอนนี้ฮอนด้าคงต้องฟื้นตัวอีกนาน ถ้าซื้อFiesta คงจะได้เร็วๆนี้ยิ่งตัว Sport+ ใกล้ออกแล้ว รอดูดีกว่าครับ มีเพิ่มนิดๆหน่อยๆ ถ้าจะเอาFiesta ต้องเครื่อง1.6เท่านั้นครับ และสำหรับผม ผมจะเลือก5ประตูครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลดค่าภาษี แต่เชื่อว่าเซลล์ฟอร์ดน่าจะจัดเต็มนะครับ เพราะ ค่ายอื่นเขาได้ลดกันหมดเลย ยกเว้นตัว 1.4 ลองหาเซลล์หลายๆคนดูครับ อ่อ แล้วก็ถ้าจะได้ลดเยอะๆก็ควรบอกเขาเป็นจ่ายสด นะครับ จะได้ลดเยอะกว่า ยิ่งถ้าไม่เอาของแถมเลยนี่ จะได้ส่วนลดเงินสดสูงอยู่นะครับ
-
Fiesta อีกเสียง
เร่งแซงช่วง0-80อาจอืด(ผมกดปุ่มช่วยข้ึนทางชันแล้วรถจะเร่งแซงดีข้ึน)
แต่80-140ไหลดีมากขับทางไกลสบาย พวงมาลัยเซตมาดี ช่วงล่างดี
140-160 รถเร่ิมเบาๆตามประสารถเล็ก
170+ ไม่เคยลองกับfiesta
-
เป็นผมก็เลือกไม่ถูก สวยไปคนละแบบ
ที่เหลือ คงไม่ต่างอะไรกันมาก ราคามันใกล้กันขนาดนี้
ศูนย์ผมว่าแล้วแต่ดวง เจอดีก็ดีไป
แต่ผมเองยังไม่มีรถเป็นของตัวเองเหมือนกัน
กำลังคิดอยู่ว่า รถคันแรก จะซื้อใหม่ โดยผ่อนไปเรื่อยๆ
หรือว่าจะซื้อมือสอง จ่ายทีเดียวเลย
คิดๆอยู่...ใครมีประสบการ ออกความคิดเห็นหน่อยสิ
-
สำหรับเฟียสต้า ผมขอพูดถึงตัว 1.6 เท่านั้นนะครับ เพราะผมใช้อยู่ และตัว 1.4 ไม่แนะนำเลยครับ นี่คือ ผมเชียร์เฟียสต้า 1.6 นะครับ
City มีดีตรงที่กว้างกว่า และนั่งสบายกว่า Fiesta ครับ เบาะหลังนี่ชัดเจน อันนี้ผมยอมรับ ว่า Fiesta แคบ
City ได้เงินคืน 100000 บาทเต็มๆ แต่กว่าจะได้รถ ก็รอกันเหงือกแห้ง Fiesta 1.6 ไม่ได้เงินแสน แต่รถได้เร็วชัวร์ๆ
อัตราเร่ง ผมว่าใกล้เคียงกัน ทั้งสองคันนี้ผมคิดว่า น่าจะแรงที่สุดใน segment ทั้งคู่ครับ ไหลเรื่อยๆ ถึง 160 top speedแตะ 200 ทั้งคู่
สำหรับ Fiesta ผมเคยปิดแอร์กดถึง 195 ช่วงที่พ้น 170 ไปแล้ว ก็จะขึ้นช้าแล้วครับ
ช่วงล่าง Fiesta ได้เปรียบมากครับ หนึบเกินราคาจริงๆ แต่ City ก็ถือว่าดีใช้ได้ ดีกว่า Vios ก็แล้วกันอะ
Feeling การขับ เฟียสต้าดีกว่า เสียงเครื่องก็เพราะกว่า อันนี้แล้วแต่คนคิด อัตราทดเกียร์ ชิดกว่า เพราะเป็น 6 speed ให้ฟีลคล้ายรถเกียร์ MT
ราคาอะไหล่ พอๆกันครับ เพราะเป็นรถระดับเดียวกัน ไม่ไช่ว่า Ford แพงกว่า Honda นะครับ
Fiesta ขับนอกเมือง อาจจะประหยัดกว่า แต่ถ้าขับในเมือง City จะประหยัดกว่า ส่วนเฟียสต้า ซด
เรื่องศูนย์บริการ ของ Honda ชัวร์กว่า แต่ Ford ก็มี ดีไม่ดีปะปนไป แต่พอเจอไม่ดี ก็ไม่ดีจนน่ากลัว
ล่าสุด ผมนำรถไปเชค 15000 ที่ศูนย์ ฟอร์ด เอก สีลม (EK Silom) เพราะเคยเห็นพี่จิมมี่แนะนำอยู่ ก็ดีครับ
-
เป็นผมจะเลือก Fiesta 1.6 ครับ เหตุผลคือ มีระบบ ESP เคยเจอกับตัวเองแล้วครับ ถ้าไม่มีระบบนี้ผมอาจจะไม่รอดกลับมาแล้วก็ได้
แล้วชอบช่วงล่างครับ เคยลองขับแล้ว ทำให้นึกถึงช่วงล่างของ Benz w202 ของพ่อครับ ความรู้สึกส่วนตัว
แต่ศูนย์ปริการของ ford (ฉะเชิงเทรา) แมวมากครับ จากประสบการณ์ตรง
รถดีที่คนมองข้าม เพราะเข้าไปศูนย์ ford ที่ไร เข้าเต็นท์มือ 2 ยังประทับใจกว่าอีก
-
ถ้าคุณเป็นคนที่ขับรถคนเดียวบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารคนเดียว เบาะหลังแทบไม่มีคนใช้เลย ผมเชียร์เฟียสต้าครับ
แต่ถ้าเป็นรถคันแรก และรถคันเดียวในบ้าน ที่ต้องการใช้โดยสารเบาะหลังด้วย ไปซิตี้สถานเดียวครับ
ตัวผมเองเวลาเลือกซื้อรถ มักจะมองถึงการใช้งานเป็นหลัก
ก่อนออกซิตี้ ผมก็ไปลองเฟียสต้ามาเหมือนกัน ยอมรับว่าประทับใจในหลายๆด้าน แต่ที่ทำให้ผมตัดสินใจว่ามันคงไม่เหมาะกับผม ก็ตอนที่ผมลองไปนั่งเบาะหลังนี่แหละครับ มันอึดอัดและไม่ค่อยสบาย Jazz ผมยังนั่งแล้วสบายกว่าเลย
สุดท้ายเลยไปจบที่ซิตี้ ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของแฟนผมพอดี 5555 โน้มน้าวไปเฟียสต้าไม่สำเร็จ
สำหรับซิตี้ เท่าที่ผมได้ลองมา เรื่องอัตราเร่ง หรือการทรงตัว ผมว่ามันก็โอเคนะ แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นคนขับรถไม่เร็วด้วยล่ะมั๊ง แต่ที่ชอบที่สุดคือ คุณแม่ผมนั่งหลังแล้วท่านสบายมากกว่า Jazz นี่แหละ
-
City จองตอนนี้ ยังไม่รู้จะได้รถตอนไหนเลยครับ
ถ้ารีบใช้คงต้องตัดออกไปจากตัวเลือกล่ะครับ
ส่วนค่าบำรุงรักษาเนี่ย
ตอนนี้ผมเริ่มอิจฉารถเก๋งเล็กๆแล้วครับ
กระบะคอมมอลเรลนี่ค่าบำรุงรักษาแพงกว่าเก๋งเยอะเลยครับ
รถเก๋งหันมาใช้โซ่ แต่รถกระบะกลับมาใช้สายพาน
-
ศูนย์ไม่ดี มันเหลือน้อยแล้ว โดนนำมาเผยแพร่ทางเนตทางคลับ ศูนย์ไหนห่วย
แต่ส่วนใหญ่มันอยู่ กิริยามารยาท ของพนักงานมากกว่า ถ้าเจอ จัดหนักสักชุดให้ซะเลย ประจาร ให้เจ็บ
อย่าห่วงเลย เรืองศูนย์บริการ ผมห่วงเรื่องมีช่างที่มีความสามารถมากกว่า
-
CITY ดูอบอุ่น อเนกประสงค์ และซิ่ง
FIESTA ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เฟิร์ม และซิ่ง
-
จบที่ตัวถังแข็งแกร่ง และ ESP
จบที่ Fiesta เท่านั้นค่ะ
เบาๆ
-
ตอนนี้ผมใช้ fiesta 1.6 ซื้อด้วยเหตุผลที่ว่าชอบไม่เหมือนใคร ซึ่งตอนออกมาใหม่ๆ นี่โดนครับโดน โดนญาติพี่น้องด่ากันระนาวเลย ออก ford ทำไมว่ะอะไหร่แมร่งแพงค่าดูแลรักษาก็แพง ผมก็เลนต้องยอมก้มหน้ารับคำต่อว่าพวกนั้นแต่โดยดีไม่เถียงแต่อย่ามาขอบขับนะตรูไม่ให้เดี่ยวเอาไปชนอะไหล่ยิ่งๆแพงๆอยู่
แต่หลังจากนั้นผมก็ได้เอาเข้า 0 Check ระยะ 9 เดือน (9 เดือนนะครับเพราะว่าตามคู่มือเขาระบุมาอย่างนั้น ถ้าเป็นค่ายหลังๆจะประมาณ 6 เดือน ) ก็ตกใจกับราคาเลยครับ พันกว่าบาทเอง ก็เท่าๆกับรถเพื่อนเลยหนิหว่่า (เพื่อนก็ใช้ น้องตี้ นะครับ) เลยเออก็ไม่แพงหนิหว่าและขณะนั่งรอเลยดูรายการอะไหล่แต่ละอย่างเจอรายการนึงเข้าไปถึงกับตกใจรอบ 2 เลยครับ เกียร์ powreshift เห้ยๆๆ มันลูกเป็น แสนเลยหรอ เลยพอเข้าในว่าที่เขาว่าอะไหล่ ford มันแพงเป็นแบบนี้นี่เอง แต่ผมเข้าใจนะครับ เพราะว่าอะไหล่อย่างอื่นของ ford มันดันไม่แพงเลยบ้างอย่างแพงกว่าบางอย่างถูกกว่าเจ้าตลาด ซึ่งส่วนตัวผมว่าราคามันกลางๆ ไม่ได้แพงแล้วก็ไม่ได้ถูก แต่ค่าบำรุงรักษาอาจจะถูกกว่าน้องตี้ เนื่องจากช่วยการเข้าตรวจตามระยะของ fiesta มันกว้างกว่า ตี้เยอะพอสมควร เอาง่ายๆ ตี้ 6 เดือน 10000 กม. แต่ต้า 9 เดือน 15000 กม.มันเลยทำให้ราคาค่าบำรุงตามระยะถูกกว่า ส่วนเรื่องงานประกอบผมว่าทั้ง 2 รุ่นก็ยังมีจุดให้ติกันได้อีกพอสมควรเลยครับ
ส่วนเรือง 0 ผมนั้นได้เคยเข้า 2 0 คือ 0 พระราม 2 (0 ที่ซื้อรถ และเข้าเช็คระยะ และแก้ไขปัญหา 1 ครั้ง ) และ 0 พระราม 4 (เข้าไปแก้ไบปัญหา 2 อย่าง 2 ครั้ง) ผลที่ได้ออกมาดีครับผมว่า OK แต่ติดที่ว่าทำงานช้าไปหน่อยทั้ง 2 ที่เลย แต่ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะว่าเราต้องเข้าใจเข้าด้วยครับเรื่องปัญหามันไม่ได้หาเจอกันง่าย แต่ผมว่าที่พระราม2 บริการดีกว่าพระราม4นิดนึงตรองที่มีมุมให้ลูกค้าได้ทำการผ่อนคลายช่วงรอรับรถไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นวด internet และ กาแฟสด (ตอนเอารถไปเข้าที่ 0 พระราม2 เอา ipad ไปด้วย เขาก็ให้ต่อ internet ใช้ได้ฟรี คิดในใจว่า เออดีว่ะ แถมถามเราว่าล้างรถด้วยไหมบอกว่าไม่ล้างครับ พนักงานเอาไปล้าง ตอนแรกคิดว่าโดนเก็บเงินแล้วแต่แล้วก็ไม่เก็บ ได้ล้ารถฟรีด้วยแต่ออกแนวเคืองนิดๆ เพราะว่าต้องมาเสียเวลาลงยาเคลือบกระจกใหม่)
ที่กล่าวมานี่เป็เรื่องจริงของผมเองนะครับ ผมอาจจะโชคดีเจอ 0 ดีด้วยล่ะครับ