Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Tonaka ที่ มกราคม 04, 2013, 18:27:12
-
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ได้ดองรีวิวนี้ไว้นานเหลือเกินกว่าจะได้มาเขียนสักทีนะครับ (ดองไป 4 เดือน)
สำหรับรถคันนี้ พอดีผมต้องย้ายหอพักของมหาลัย มาเช่าบ้านอยู่ด้านนอกครับ พร้อมๆกับมีพี่บางคนจะกลับประเทศไทยหรือบางคนก็ย้ายบ้านเหมือนกัน ก็เลยจัดการเช่ารถทีเดียว 24 ชั่วโมง ย้ายกันที่เดียวเลย 5 บ้าน!
พอดีได้โอกาส ตอนจะมาเช่า ผมอยากขับเจ้า NV200 อยู่พอดี เพราะได้ยินเชื่อเสียงของมันพอสมควร พร้อมทั้งได้เห็นวิ่งอยู่เยอะแยะที่ญี่ปุ่น ผมก็เลยจัดการหารถจากบริษัทเช่ารถต่างๆ และแจ้งความจำนงไว้ว่าขอรถ Nissan NV200 เท่านั้น! และแล้วก็หาจนได้ โดยได้รถมาจาก Budget Rent-A-Car ครับ ในราคา 24 ชั่วโมง 8000 เยน
โดยสัมผัสแรกเมื่อได้นั่งมัน รู้สึกได้เลยว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นรถสำหรับขนของโดยแท้ แต่กระนั้น ฟิวลิ่งต่างๆ เส้นสายในการออกแบบก็ทำให้มันดูไม่ทื่อเกินไป
-
พอเอาไปนั่งภายใน ถึงแม้ว่าพลาสติกสีดำจะเห็นได้ทั่วไป เนื้อสัมผัสก็ดูแข็งๆ เงาๆ ด้าน แต่กระนั้น ตำแหน่งสวิทซ์ต่างๆ และช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ก็อยู่ในรัศมีที่เอื้อมถึงสบาย ส่วนตำแหน่งการนั่งนั้นก็จะรูปสึกสูงนิดๆ พอนั่งครั้งแรกจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่พอขับไปเรื่อยๆ กลับรู้สึกว่าทัศนวิสัย ดีกว่ารถทั่วไป เพราะไม่เพียงแค่ตำแหน่งนั่งจะสูง แต่กระจกหน้าและกระจกประตูที่ค่อยข้างใหญ่ ก็มีส่วนช่วยได้เยอะครับ
โดยรถรุ่นนี้จะเป็นรุ่น 1.6 DX เกียร์อัตโนมัติ และออฟชั่นที่ให้มาก็ได้แก่ กระจกคู่หน้าเปิด/ปิด ด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้างทั้งสองด้านเป็นการปรับแบบอัตโนมือครับ ส่วนเครื่องเสียง โดยปกติแล้ว รถเช่าหรือรถทั่วๆ ไปที่นี่ก็มักจะติดต้ังระบบนำทางมาอยู่แล้วครับ
ส่วนระบบความปลอดภัยของรถคันนี้ก็จะมี เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดสำหรับเบาะคู่หน้าเท่านั้น ส่วนด้านหลังไม่มีครับ มีถุงลมนิรภัยด้านคนขับมาให้ 1 ลูก และมีระบบเบรค ABS มาให้ครับ
-
เนื่องจากรถคันนี้มีที่นั่งเป็นแบบ 2+3 กล่าวคือ เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบมาตรฐานปรับสูง-ต่ำไม่ได้ และพนักพิงศีรษะเป็นชิ้นเดียวกับพนักพิงหลังเลย ส่วนที่นั่งด้านหลังเป็นแบบม้านั่งยาวให้มา 1 แถว ไม่มีเข็มขัดนิรภัย แต่มีราวเหล็กพาดผ่านด้านหลังเบาะคู่หน้าไว้ให้ครับ และสามารถถอดทั้งราว หรือเบาะหลังออกได้อย่างง่ายดาย หรือว่าจะพับเบาะหลังเก็บก็ทำได้ไม่ยาก
-
ส่วนด้านการขนนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถขนของย้ายบ้านทั้งหมดได้ภายในรอบเดียว แต่กระนั้นในการขนแต่ละเที่ยวก็จะได้ไม่น้อยเลย แม้ว่าจะพับเบาะหลังหรือไม่ก็ตาม
-
ในการใช้งาน ผมประทับใจในเรื่องการจะการเนื้อที่ในการใส่สมัภาระ ซึ่งนิสสันออกแบบได้ทีเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น ความสูงจากพื้นสู่ธรณีประตู หรือว่าความเรียบของพื้นห้องสัมภาระครับ
ในการขนในแต่ระเที่ยวเราก็ได้ทำการ "ยัด" ให้เต็มครับ ฮ่าๆๆๆ
ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น ทีวี(จอตู้) เครื่องซักผ้า เตียงพับ โต๊ะ ฯลฯ
ในส่วนการบุภายในของรถคันนี้จะมีการบุเพื่อปกปิดเนื้อเหล็ก ในส่วนเฉพาะบริเวณสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเท่านั้นครับ ส่วนที่เหลือ เปลือยครับ
-
ในเรื่องสมรรถณะนั้น เครื่องยนต์เป้นเครื่องเบนซินขับเคลื่อนล้อหน้า HR16DE ที่เราชาวไทยคุ้นเคยกันใน Nissan TIIDA 1.6 นี่เองครับ
ความอืดไม่ค่อยแสดงออกแม้ว่าจะขนหนัก ส่วนเรื่องการทำความเร็วไม่ขอตอบครับ เพราะไม่ได้ออกไฮท์เวย์เลย
ส่วนช่วงล่างของรถคันนี้ ด้านหน้าเป็นปีกนกพร้อมคอยสปริงค์ ด้านหลังเป็นคานแข็งพร้อมแหนบ ครับ
ตอนวิ่งรถเปล่าก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเด้ง เหมือนรถกระบะบ้านเราแต่อย่างใดครับ
-
ขอรวบรัดตัดความ
รถทั่วไปในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่หน้าปัดจะไม่ค่อยมีวัดรอบกันแล้วครับ อย่างเช่นเจ้า NV200 คันนี้เหมือนกัน ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยคุ้นเคยเหมือนกัน
แต่ถ้าจะถามว่าจำเป็นไหม สำหรับการใช้งานของคนที่นี่ก็คงไม่จำเป็นหรอกครับ เพระาที่นี่ใช้รถไม่ค่อยจะโหด และไม่ค่อยจะถนอมเท่าไหร่ ถ้าพังก็เปลี่ยนใหม่ เพราะบางที่มันไม่คุ้มที่จะซ่อมจริงๆ ครับ และใครขับรถใน 1 ปีได้หนึง 10000 กิโล ก็ถือว่ามากโขแล้วครับ 55555
ปล. โปรดติดตามรีวิวต่อไปเร็วๆนี้ Nissan March (K13) 12x : Made in Thailand
สวัสดี
-
ขนของได้เยอะจิงๆ :D
-
หน้าปัดเหมือน March มากครับ front นี่ใช่เลย โดยรวมตัวรถน่าขับมากครับ
ช่วงล่างหลัง มันก็คือเอา แหนบ มาเสียบเเทน สปริง(โช๊คเหมือนเดิม) นั่นเอง ส่วนคานก็แทนเพลารถขับหลัง ซึ่งจริงๆ คานก็หน้าตาเหมือนใน march ผมเลยครับ
-
ดีครับดี ขอบคุณครับ นานๆได้ดู review รถที่ไม่มีในเมืองไทย :)
-
ทำสีกันชน + แต่งโครเมี่ยม + ล้อแม็กสัก 15-16นิ้ว + ภายในสีเบจ กับออพชั่นนิดหน่อย แข่งกับ Freed ได้เลย ;D
-
พวกรถ Commercial หรือ Delivery ที่นู่นนี่มันโล้นเลี่ยนดีจริงๆ นะครับ แต่ก็ดูแล้วใช้งานง่ายดีจัง
ถ้ามาไทยคงโล้นๆ แบบนี้ไม่ได้มั้งครับ
ขอบคุณสำหรับ review
ถามนิดนึงครับ ที่นู่นขับรถยากไหมครับ
-
ขับยากไหม??
ถ้าในเรื่อง นิสัยของเพื่อนร่วมทางนี่ ถือว่าง่ายมากครับ อิอิ
แต่ต้องระวังเรื่อง สับสันนิดนึงครับ เพราะที่นี่เลี้ยวซ้ายต้องรอสัญญาณไฟ พร้อมรถตรงนะครับ ไม่ใช่ผ่านตลอด และต้องหยุดให้คนข้ามก่อนครับฅ
ส่วนบนไฮเวย์ ก็ขับ เร็ว 100-120 เหมือนบ้านเรา แต่ต้องระวังรถใหญ่ด้วยนะครับ เพราะรถใหญ่ก็เร็ว
ถนนผ่านชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งละเลนสวนกัน ส่วนไฮเวย์ส่วนใหญ่จะมีฝั่งละสองเลนครับ ถนนไม่ใหญ่เหมือนบ้านเรา
สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือ มืดครับ และถ้าวิ่งชุมชน แยกจะเยอะ
ค่าทางด่วน และไฮเวย์ มหาโหดดด ถ้าไม่มีบัตร ETC ก็เสียเปรียบครับ อย่างล่าสุดขับมาร์ช จากฟุกุโอกะ ไปกลับ ฮิโรชิม่า โดนค่าน้ำมันไป 9000 เยน ค่าเช่ารถ 10000 เยน แต่ค่าทาง 13000 เยน (หักส่วนลดวันหยุดเพราะใช้บัตร ETC แล้ว) วิ่งไป 900 กว่าโลครับผม
-
อยากอ่านพอดีเลยครับ 5555
ขนได้จุใจจอร์จจริงๆ ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีแล้วละ
หวังว่าเวอร์ 7 ที่นั่งกับ Evalia คงนั่งโอเคกว่านี้นะ
ปล.ค่าทางด่วนแพงได้ใจ