Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: keanetona ที่ มกราคม 20, 2010, 20:45:53
-
เครดิตข่าว manager.co.th
แอปเปิลดัดหลังโนเกีย ขอศาลสั่งห้ามขายมือถือในมะกัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2553 10:03 น.
แอปเปิลสวนหมัดโนเกียด้วยการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้า ระหว่างประเทศของสหรัฐฯหรือ ITC (International Trade Commission) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามโนเกียนำเข้าโทรศัพท์มือถือมาจำหน่ายในสหรัฐฯ โนเกียออกปากพร้อมสู้ในชั้นศาล เป็นสัญญาณว่าศึกระหว่างแอปเปิลและโนเกียจะยืดเยื้อเป็นหนังชีวิตแบบไม่มี ใครยอมใคร
ความบาดหมางระหว่างโนเกีย ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลกจากฟินแลนด์ และแอปเปิล ค่ายผลไม้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แมคอินทอช เครื่องเล่นเพลงไอพ็อด และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแบรนด์ไอโฟนนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม โนเกียเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยการฟ้องว่าแอปเปิลละเมิดลิขสิทธิ์เทคโนโลยี จากนั้นแอปเปิลจึงฟ้องกลับว่าโนเกียก็ละเมิดเช่นกัน นำไปสู่การฟ้องที่มีข้อเรียกร้องหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด แอ ปเปิลเปิดฉากฟ้องต่อคณะกรรมการ ITC เพื่อขออำนาจในการ"แบน"สินค้าโนเกียในตลาดสหรัฐฯ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้โฆษกโนเกียออกมาประกาศว่าจะศึกษาคำฟ้องทันทีที่เรื่อง มาถึงโนเกีย และจะดำเนินการป้องกันตัวเองอย่างสุดความสามารถ
2 ยักษ์ตกลงกันไม่ได้
โฆษกโนเกียออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าจนถึงบัดนี้ แอปเปิลนั้นยังไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงซึ่งโนเกียกำหนดไว้กับผู้ผลิต โทรศัพท์มือถือที่ต้องการใช้เทคโนโลยีของโนเกีย และยังพยายามหาทางใช้งานเทคโนโลยีของโนเกียแบบฟรีๆตั้งแต่แอปเปิลเปิดตลาดไอ โฟนในปี 2007 เรื่อง นี้นักสังเกตการณ์ในสหรัฐฯมองว่าเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ITC ที่จะต้องเป็นตัวกลางเพื่อไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทนี้ส่งฟ้องกลับไปกลับมาผ่าน ITC
คดีแรก โนเกียฟ้องศาลสหรัฐฯว่าถูกแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตร 10 เทคโนโลยีซึ่งโนเกียอ้างว่าต้องใช้เงินทุนในการวิจัยและพัฒนาถึง 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้โทรศัพท์มือถือสามารถทำงานบนเครือข่าย GSM, 3G และ Wi-Fi ได้ เช่น เทคโนโลยีส่งถ่ายข้อมูลไร้สาย การเข้ารหัส ความปลอดภัย และการถอดรหัสข้อมูล
โนเกียระบุว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ GSM และ 3G เกือบทุกค่ายกว่า 40 บริษัท ซึ่งล้วนมีการทำข้อตกลงกับโนเกียทั้งสิ้น ขณะที่แอปเปิลไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ
มี การวิเคราะห์ว่าการฟ้องร้องนี้อาจทำให้แอปเปิลต้องจ่ายส่วนแบ่งให้โนเกียราว 1-2% ของยอดขายไอโฟนทุกเครื่อง คาดว่าจะมีมูลค่า 6-12 เหรียญสหรัฐต่อเครื่อง เมื่อคำนวณจากไอโฟน 34 ล้านเครื่องซึ่งแอปเปิลจำหน่ายได้แล้วในขณะนี้ เบ็ดเสร็จคิดเป็นเงินราว 204-408 ล้านเหรียญ
เมื่อมีเงินหลายร้อยล้านเหรียญและชื่อเสียงเป็นเดิมพัน แอปเปิลจึงตอบโต้โนเกียด้วยการฟ้องกลับว่าโนเกียก็ละเมิดสิทธิบัตรของแอ ปเปิลเช่นกันจำนวน 13 รายการ โดยในสำนวนฟ้องกลับนั้น แอปเปิลปฏิเสธว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรของโนเกีย แถมประณามการที่ค่ายโทรศัพท์มือถือต้องจ่ายเงินให้โนเกียนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม ไม่มีเหตุผล แบ่งแยก และไม่จำเป็น
ในเดือนธันวาคม โนเกียเปิดฉากฟ้องต่อ ITC อีกครั้ง ครั้งนี้รุกคืบขออำนาจศาลให้ออกคำสั่งห้ามแอปเปิลจำหน่ายไอโฟน ไอพ็อด และคอมพิวเตอร์แมคอินทอชในสหรัฐฯ โดยอ้างว่าเพราะผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของแอปเปิลนั้นละเมิดลิขสิทธิ์เทคโนโลยีของ โนเกีย เป็นเหตุให้แอปเปิลฟ้องกลับ และขอให้ ITC คุ้มครองด้วยการสั่งห้ามโนเกียจำหน่ายโทรศัพม์มือถือในสหรัฐฯเช่นกัน
คาดศึกนี้ยืดเยื้อ
ITC เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจเต็มที่ในการสั่งห้ามวางจำหน่ายสินค้าในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของแอปเปิลมากกว่าโนเกียในเชิงยอดขายที่มากกว่า อย่างไรก็ตาม ยัง ไม่มีการเปิดเผยกำหนดการพิจารณาคดีในขณะนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าศึกระหว่างแอปเปิลและโนเกียจะยืดเยื้อต่อไปอีกหลาย ปีจึงจะสามารถตกลงกันได้ และคดีที่เกิดขึ้นอาจจะจบลงในชั้นศาลมากกว่าการยอมเจรจาระหว่างบริษัท
ไม่ใช่แค่โนเกีย บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือรายอื่นๆอย่างอีริคสันและควอลคอมม์ ล้วนถือครองสิทธิบัตรเทคโนโลยีในการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น แต่ยังไม่มีรายใดออกมาผสมโรงฟ้องร้องแอปเปิลเพิ่มเติม
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย เนื่องจากอิทธิพลของไอโฟนที่สามารถเขย่าบัลลังก์โนเกียให้สั่นคลอนได้สำเร็จ ในทุกวันนี้ ซึ่ง แม้โนเกียจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเบอร์หนึ่ง แต่แอปเปิลนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่มีกำไรต่อเครื่องสูง ที่สุดในขณะนี้
ถ้าโนเกียแพ้อาจะไม่กระทบเท่าไหร่ แต่ถ้าแอปเปิลแพ้อาจเป็นเรื่อง ผมไม่ได้ใช้ไอโฟนและโนเกีย เลยงดออกความเห็น
"IE" ร้อนเป็นไฟที่ยุโรป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2553 09:59 น.
เป็นเรื่องเมื่อทางการฝรั่งเศส และเยอรมนีออกประกาศแนะนำผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer หรือ IE จนกว่าไมโครซอฟท์จะแก้ไขข้อบกพร่องได้ ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่ทำให้กูเกิลและบริษัทไอทีรายอื่นกว่า 20 แห่งในสหรัฐฯถูกเจาะระบบช่วงกลางเดือนธันวาคม จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าคำเตือนของหน่วยงานราชการของฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่แนะนำให้ผู้ใช้โปรแกรมเบราว์เซอร์ IE 6, 7 หรือ 8 เปลี่ยนไปใช้งานโปรแกรมอื่นนั้นส่งผลเสียต่อไมโครซอฟท์อย่างมาก โดยคำประกาศจาก 2 รัฐบาลนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ไมโครซอฟท์จะยืนยันว่าไม่พบความสูญเสียในกลุ่มผู้บริโภควงกว้าง ยกเว้นกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มผู้ใช้ IE 6
รัฐบาลเมืองน้ำหอมและเมืองเบียร์นั้นต้องการป้องกันไม่ให้ประวัติ ศาสตร์ซ้ำรอยสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าบริษัทไอทีรายใหญ่รวมถึงกูเกิลถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญไป โดยในช่วงแรก นักวิจัยด้านความปลอดภัยเชื่อว่าช่องโหว่ของเหตุการณ์นี้อยู่ที่รูรั่วในการ ประมวลผลไฟล์ Adobe PDF (ได้รับการแก้ไขแล้วในขณะนี้) แต่ล่าสุดบริษัท McAfee ระบุว่ารูรั่วในโปรแกรม IE นั้นถูกใช้ในการเจาะระบบ และไมโครซอฟท์ก็ยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้เบราว์เซอร์เบอร์ 1 ของโลกอย่าง IE ตกที่นั่งลำบากในที่สุด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ยอดการดาวน์โหลดโปรแกรมเบราว์เซอร์รายอื่นใน ยุโรปขยับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้ง Firefox Chrome และ Opera ซึ่งรายหลังระบุว่ามียอดการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นเท่าตัวในไม่กี่วันหลังจากคำ ประกาศของรัฐบาลถูกเผยแพร่ไป
อย่างไรก็ตาม IE ไม่ได้ถูกโจมตีอย่างเดียว แต่ยังได้รับการปกป้องจากสื่อมวลชนหลายราย เช่น Tony Bradley จาก Computerworld ซึ่งระบุว่ารูรั่วใน IE นั้นเป็นเพียง 1 ในหลายช่องโหว่ที่ถูกใช้ในการเจาะระบบกูเกิลและบริษัทไอทีอเมริกัน
ที่สำคัญ นักวิจัยด้านความปลอดภัยบางรายยังให้ความเห็นว่าการที่รัฐบาลฝรั่งเศสและ เยอรมนีประกาศให้ประชาชนในชาติเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมเบราว์เซอร์อื่นที่ไม่ใช่ IE นั้นเป็นการกระทำที่ผิดพลาด โดย Graham Cluley จากบริษัท Sophos ให้ความเห็นว่าอาจเกิดกรณีผู้ใช้บางรายไม่คุ้นเคยกับเบราว์เซอร์ตัวใหม่ ทำให้ปัญหาการช่วยเหลือหรือซัพพอร์ตเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง
ไมโครซอฟท์นั้นมีกำหนดการออกชุดแก้ไขข้อบกพร่องให้ลูกค้าดาวน์โหลดไปใช้งานในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเห็นจากไมโครซอฟท์ว่าชุดแก้ไขนี้จะครอบคลุมข้อบกพร่องใน IE นี้หรือไม่
สำหรับความคืบหน้ากรณีกูเกิลและบริษัทไอทีอเมริกันถูกโจมตี ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่าพนักงานในกูเกิลประเทศจีนทุกคนจะถูกดำเนินการ สอบสวนด้วย ซึ่งเป็นการขยายผลจากการสอบสวนเบื้องต้นที่พบว่าต้นตอการจู่โจมนั้นมาจาก ประเทศจีน ทำให้ข้อมูลสำคัญของกูเกิลถูกขโมย ที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตคือกูเกิลพบว่านักเจาะระบบมุ่งขโมยข้อมูลผู้ใช้ บริการอีเมล Gmail ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวอิสระในจีน ถึงขั้นกูเกิลฉุนขาดประกาศอาจหยุดให้บริการ Google.cn ในจีน ก่อนจะกลับลำและเดินหน้าหาช่องเจรจากับรัฐบาลจีนต่อไป
กูเกิลสอบสวนพนักงานในจีนที่มีอยู่ราว 200 คนด้วยการให้พนักงานหยุดงานเพื่อสแกนระบบและสืบหาเบาะแสอย่างละเอียด รายงานล่าสุดระบุว่าการสแกนระบบสิ้นสุดลงแล้ว และระบบของกูเกิลในจีนก็เริ่มใช้งานตามปกติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สำหรับ บริษัทไอทีอเมริกันอีก 20 รายที่ถูกโจมตีและมีต้นตอมาจากจีน รายงานระบุว่าทั้งหมดกำลังเร่งร่วมมือกันเพื่อหาทางแก้ไขและสืบหาเบาะแสการ เจาะระบบครั้งนี้ โดยไมโครซอฟท์นั้นยินยอมเปิดเผยข้อมูลใน IE ที่จำเป็นแก่ทุกบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อการโจรกรรม ซึ่งยังไม่มีรายใดออกมากล่าวถึงความคืบหน้าในขณะนี้
ผมใช้หมาไฟครับ เร็ว ลูกเล่นเยอะ ไม่รั่ว
-
หมาไฟก็ยังมีรั่วๆบ้างนะ ผมว่าโครมลงตัวที่สุดนะ กินสเปคต่ำด้วย
ส่วนไอ้ศึกของโนเกียกับแอปเปิ้ลผมว่ามันก็แค่งอนๆกันเท่านั้นแหละครับ เดี๋ยวพอ Android ขายดี ทั้งคู่ก็คงเลิกทะเลาะกันไปเอง
-
ผมก็เลิกใช้ Ie มานานแล้วอ่ะ ตอนนี้ใช้ Opera สะดวกกว่าอีก
-
ผมใช้ทั้งไอโฟนและโนเกียครับ
เดี๋ยวขอตัวไปเอามือถือทั้งสองเครื่อง แยกออกจากกระเป๋าใบเดียวกันก่อน
เดี๋ยวมันตีกันตาย
5555555^^
-
โนเกียแถลงข่าวว่าบริษัทได้ยื่นฟ้องต่อแอปเปิลฐานละเมิดสิทธิบัตรของทาง โนเกีย 10 ใบ
ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยี GSM, WCDMA, WiFi, การเข้ารหัสข้อมูล, และการเข้ารหัสเสียง
(ทุกอย่างที่คุณจะใช้ทำโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง) ทำให้ iPhone ทุกรุ่นเข้าข่ายการละเมิดที่โนเกียอ้าง
โนเกียระบุว่าบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์กว่า 40 บริษัทได้มีข้อตกลงกับทางโนเกียเพื่อใช้งานสิทธิบัตรเหล่านี้ แต่แอปเปิลนั้นไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ
โนเกียเพิ่งประกาศผลประกอบการติดลบ ส่วนแอปเปิลนั้นกำไรยังคงเป็นดาวรุ่งในไตรมาสที่ผ่านมา
เรื่องของ Nokia กับ Apple นั้นมันจากสิทธิบัตร
ทาNokia มีสิทธิบัตรเยอะมาก
และ Apple ไม่ได้จ่ายค่าสิทธิบัตรบางอย่างทำให้ Nokai ต้องฟ้อง
ส่วน Apple มีสิทธิบัตร Multi Touch
ทำให้ทั้ง Nokia Google(Andorid) Microsoft(Windows Mobile)
ทำมือถือที่ใช้ระบบ Multi touch ไม่ได้
-
เรื่องเว็บนี่ใช้ Firefox อยู่คับ บางทีมันก็ทำงานไม่ได้ดั่งใจเท่า IE นะ
ที่แน่ๆ ก็คือผมยังใช้ Plug-in Windows Media Player ใน Firefox ไม่ได้เลย
-
ใช้หมาไฟอยู่เหมือนกันคับ บางเว็บมันก็เอ๋อๆอยู่ แต่ก็ไม่เคยแฮ้งให้กวนใจ
IE ห่วยแตกมากกกกกกกกกกก ทั้งเอ๋อ ทั้งค้าง อยู่ๆก็ดับ แถมดูดไวรัสเก่งด้วย
-
ผมใช้ทั้งไอโฟนและโนเกียครับ
เดี๋ยวขอตัวไปเอามือถือทั้งสองเครื่อง แยกออกจากกระเป๋าใบเดียวกันก่อน
เดี๋ยวมันตีกันตาย
5555555^^
เอา iPhone มาฝากไว้กะผมก็ได้ครับ จะได้ไม่ตีกัน อิอิ
-
ใช้ Google Chrome อ่ะครับ ไวดี หน้าตาดีด้วย
-
ผมใช้Safari(Mac)ครับ..... เบื่อใช้IE แฮ้งค์บ่อยยิ่งกว่าพวกขี้เมาซะอีกอ่ะ
แต่Safariก็มีเอ๋อเป็นบางครั้งที่ใช้งานหนักๆ ส่วนFirefox(Mac)ทำงานเสมอต้นเสมอปลายดีครับ ไม่เร็ว แต่ก็ไม่อืด เพียงแค่เวลาเรียกใช้งานครั้งแรกต้องรอมันตื่นนานนิดหน่อยอ่ะ
เรื่องNokiaกับAppleผมว่า ก็หัวหมอพอกันทั้งคู่แหล่ะ.... ต่างฝ่ายต่างก็จิ๊กเทคโนโลยีของอีกฝ่ายไปใช้โดยไม่จ่ายตังค์ทั้งนั้นแหล่ะ แต่รู้สึกว่าเทคโนโลยีWi-Fiนี่เอามาจากMotorolaไม่ใช่เหรอ
-
ผมใช้Safari(Mac)ครับ..... เบื่อใช้IE แฮ้งค์บ่อยยิ่งกว่าพวกขี้เมาซะอีกอ่ะ
แต่Safariก็มีเอ๋อเป็นบางครั้งที่ใช้งานหนักๆ ส่วนFirefox(Mac)ทำงานเสมอต้นเสมอปลายดีครับ ไม่เร็ว แต่ก็ไม่อืด เพียงแค่เวลาเรียกใช้งานครั้งแรกต้องรอมันตื่นนานนิดหน่อยอ่ะ
เรื่องNokiaกับAppleผมว่า ก็หัวหมอพอกันทั้งคู่แหล่ะ.... ต่างฝ่ายต่างก็จิ๊กเทคโนโลยีของอีกฝ่ายไปใช้โดยไม่จ่ายตังค์ทั้งนั้นแหล่ะ แต่รู้สึกว่าเทคโนโลยีWi-Fiนี่เอามาจากMotorolaไม่ใช่เหรอ
ส่วนบลูทูธ ก็ของอีริคสันครับ
Firefox ในแม็คนี่ผมไม่ทราบว่าจะสามารถปรับแต่งregistry ได้เหมือนที่ทำได้ในPCรึเปล่า เพราะถ้าทำได้มันแรงไม่แพ้ซาฟารีในแม็คเลยนะครับ
-
มี Gang opera แล้ววุ้ย ใช้มาตั่งแต่ 4.2 โดนใจ เลิกมอง ff ie เลย
โชคดีเราใช้ LG คงไม่ตีกันแหง่มๆ แต่ห่วยอย่าบอกใครเลย
-
ผมใช้Safari(Mac)ครับ..... เบื่อใช้IE แฮ้งค์บ่อยยิ่งกว่าพวกขี้เมาซะอีกอ่ะ
แต่Safariก็มีเอ๋อเป็นบางครั้งที่ใช้งานหนักๆ ส่วนFirefox(Mac)ทำงานเสมอต้นเสมอปลายดีครับ ไม่เร็ว แต่ก็ไม่อืด เพียงแค่เวลาเรียกใช้งานครั้งแรกต้องรอมันตื่นนานนิดหน่อยอ่ะ
เรื่องNokiaกับAppleผมว่า ก็หัวหมอพอกันทั้งคู่แหล่ะ.... ต่างฝ่ายต่างก็จิ๊กเทคโนโลยีของอีกฝ่ายไปใช้โดยไม่จ่ายตังค์ทั้งนั้นแหล่ะ แต่รู้สึกว่าเทคโนโลยีWi-Fiนี่เอามาจากMotorolaไม่ใช่เหรอ
ส่วนบลูทูธ ก็ของอีริคสันครับ
Firefox ในแม็คนี่ผมไม่ทราบว่าจะสามารถปรับแต่งregistry ได้เหมือนที่ทำได้ในPCรึเปล่า เพราะถ้าทำได้มันแรงไม่แพ้ซาฟารีในแม็คเลยนะครับ
อ่าาา... ผมไม่รู้เหมือนกันครับ
ไว้เดี๋ยวลองดู ผมว่าน่าจะทำได้อยู่นะครับ
-
ผมใช้ทั้งไอโฟนและโนเกียครับ
เดี๋ยวขอตัวไปเอามือถือทั้งสองเครื่อง แยกออกจากกระเป๋าใบเดียวกันก่อน
เดี๋ยวมันตีกันตาย
5555555^^
เอา iPhone มาฝากไว้กะผมก็ได้ครับ จะได้ไม่ตีกัน อิอิ
เอางั้นเลยหรอครับ
^^555555
-
ใช้หมาไฟอยู่ครับ
Crash บ่อย แต่ไม่นรกเท่า IE จอมเอ๋อนั่น