Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: sukhontha ที่ ธันวาคม 01, 2015, 13:31:17
-
ที่จริงแล้วผมเคยรีวิวไปแล้วพักหนึ่ง แต่ถอดออก เนื่องจากมีข้อมูลบางประเด็นที่ผิด....
เป็นการรีวิวการใช้งานที่ผ่านมา + ปัญหาที่พบ เผื่อบางท่านจะมีใจโลเล ไร้จุดยืนแบบผม
น่าจะค่อย ๆรีวิวหลังผ่านวันที่ 5 ไปแล้วครับ
-
รอไม่ไหวแล้วครับ
รีบมาไวๆ เพื่อรีวิวเร็วๆ นะครับ
-
วันหนึ่งประมาณปี 82 ผมกำลังเล่นบอลกับเพื่อน ๆ ถนนข้าง ๆสนาม เป็นทราย...มีรถกะบะคันหนึ่งวิ่งมาแล้วจอดคุยกับเพื่อนบนพื้นที่เป็นทราย.....เมื่อคุยธุระเสร็จ ก็ออกรถ แต่เขาขับรถไปไม่ได้หลายนาที รถตะกุยดิน อยู่อย่างนั้น ฉายารถคันนั้นก็คือ เจ้าม้ากระโดด (ขออนุญาตและขอบคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)
ผมเดินไปหาแล้วบอก...พี่ครับ ขับแบบนี้ไปไม่ได้หรอก ให้ผมเอาขึ้นให้ไหม? (รู้จักกัน) เขาลุกให้โดยดี...เขาหารู้ว่าผมไม่เคยขับรถมาก่อน (แต่ศึกษามาพอสมควร) เหยียบคลัชเข้าเกียร์ ปล่อยคลัชเบา ๆโยกรถให้ขยับตัว แล้วค่อย ๆเติมคันเร่งไม่ให้ล้อตะกุยทราย สองสามนาทีก็ไปได้จนหมดช่วงที่เป็นทราย...จอดให้เจ้าของเขารับช่วงต่อ และนี่คือประสบการณ์ขับรถคันแรกของผม...
-
จากนั้นอีกห้าหกปี ก็ยังไม่เคยจับรถยนต์ จนแต่งงาน.... พ่อของผบ.มีรถอยู่คันหนึ่งคือ เจ้าดัทสันช้างเหยียบ..ตอนนี้ได้ลองบ่อย ๆ เมื่อไปเยี่ยมพ่อตา ได้ขับทุกครั้ง...(นี่ก็ภาพตัวแทน ขอบคุณเจ้าของภาพครับ) ต่อมาก็ฝึกให้ผบ.ขับรถจนมีความชำนาญพอควร เขาเริ่มขับได้เร็วห้าหกสิบแล้ว เจ้ารถคันนี้พวงมาลัยมีช่วงฟรีค่อนข้างมาก วันหนึ่งเขาขับ ผมนั่งข้าง ๆ มองฟ้ามองต้นไม้ไปเรื่อย ....อยู่ ๆก็มีเสียง ว้าย ... ช่วยด้วย ผมหันมามองถนน ตายห่า รถกำลังจะลงถนน เจ้าตัวคนขับก็นั่งตัวแข็งอยู่อย่างนั้น ... ผมเอื้อมมือขวาจับพวงมาลัย แล้วตะโกน(จริง ๆ)บอก ปล่อยมือ เอาตีนออก หยาบหน่อย แต่พูดแบบนี้จริง ๆ แล้วดึงพวงมาลัยค่อย ๆจนกลับมาอยู่กลางถนนได้ รถกระตุกจนดับไป...เขาเดินกระย่องกระแย่งออกจากรถมือไม้สั่นไปหมด...จากนั้นมาไม่ขับรถอีกเลย... คอยเป็นเนวิเกเตอร์ กำกับ เส้นทางอย่างเดียวตลอดมาจนบัดนี้...และนี่คือคันที่สองที่ผมสัมผัส....ซึ่งทำให้สอนให้ผมขับรถได้ดี...
-
ตอนนี้ชักติดใจ....ขับรถก็ดีเหมือนกันแฮะ ปี92-93 ตัดสินใจปรึกษากับผบ. เราควรจะซื้อรถสักคัน ทำงานโคราช กลับบ้านที่ปทุมฯที ต้องนั่งรถทัวร์ ต่อรถเมล์ แล้วก็เดินเข้าบ้านมันลำบากจัง เขาบอกก็ดีจะได้สบาย ๆหน่อย เลือก กันอยู่นานสองนาน ตกลงใจที่เจ้า มังกรทอง...(นี่ก็เป็นภาพแทน ขอบคุณเจ้าของภาพครับ) ใช้มาถือว่าไม่ผิดหวัง ไม่เคยงอแง .....
-
2002 ดีแม็กประกาศเปิดตัว ความอยากมาอีกแล้ว..ขออนุญาต ผบ. เขาอนุมัติ จอง 4ประตูเกียร์ออโต้ ตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัว ขายมังกรไปขาดทุนราว ๆสองแสน (ภาพแทนเช่นกัน ขอบคุณเจ้าของภาพครับ) จากนั้นใช้ดีแม็กมา 8 ปี ไม่มีปัญหาอะเช่นกัน ...
-
ปลายปี 09 วันหนึ่งผบ.เข้ามาคุยด้วย..รถเราเข้าปีที่ 8 แล้วนะ คันที่แล้วก็ประมาณนี้...แล้วเราไม่ได้ใช้กระบะ ภาษีก็แพง เปลี่ยนเป็นรถ suv ดีไหม?....
ได้ยินแบบนั้นผมมีหรือจะปฏิเสธ....ตกลง...ว่าจะซื้อ
ข้อแม้ของ ผบ. ก็คือ เบาะต้องพับเรียบ ถ้าไปเที่ยว ปูผ้านวม นอนได้ทันที......ความยาวต้องนอนเหยียดขาได้สบาย ๆ.....สุดท้ายก็ได้เจ้า T31 มา (ตอนหลังถามว่าตั้งใจเอาคันนี้มาก่อนหรือเปล่า เขาก็ยอมรับว่าจองไว้แล้ว ไปดู ก็พอเป็นพิธี).....
-
คั่นครับ
ผมเกิดทันทุกรุ่น และได้ขับ และได้ใช้ทุกรุ่นที่รีวิวครับ
ตะก่อน ชอบมาก hilux hero แต่แอบชอบลูกสาวของเจ้าของรถมากกว่า เพราะออกหมวย สวยมาก
แอบมองทุกวัน
-
คั่นครับ
ผมเกิดทันทุกรุ่น และได้ขับ และได้ใช้ทุกรุ่นที่รีวิวครับ
ตะก่อน ชอบมาก hilux hero แต่แอบชอบลูกสาวของเจ้าของรถมากกว่า เพราะออกหมวย สวยมาก
แอบมองทุกวัน
...ขอบคุณครับ สำหรับความคิดเห็น ก็เจ้าตัว hiro นี่แหละ เพื่อนกันที่โคราชซื้อเวลานั่งไปไหนด้วยกัน เวลาเบรค หัวคะมำทุกที ถามเขาก็บอกว่าพยายามกดเบา ๆ มันก็ไหล ๆๆๆ กดลงอีกนิดหนึ่งมันก็หยุดปั๊กทุกที แก้ไม่ได้ (ดูเหมือนจะเป็นระบบypvs คันแรก) จนถึงไมตี้ฯ มันก็ยังแก้อาการนี้ไม่ได้ แถมเวลาปั๊กหยุดนี่ ถ้าถนนลื่นเสียหน่อยปัดอีกต่างหาก ทำให้ผมไม่กล้าซื้อ หันไปซื้อ มังกรฯ.....
ต่อครับ
สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูลรายละเอียดไปดูได้เลยตามนี้ครับ
http://www.headlightmag.com/%e0%b8%97%e0%b8%94%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a-nissan978/
-
....ต่อครับ....
ทำไม่ผมจึงบอกว่า โลเล ไร้จุดยืน...
1. ตั้งใจจะใช้แค่มอเตอร์ไซด์ ..ผมใช้ตั้งแต่ รถครอบครัว คันที่ใหญ่ที่สุดคือ เครื่อง v750 ...และจะไม่ซื้อรถยนต์...แล้วผมก็ไปซื้อรถกะบะ...
2. พอผมใช้ มังกรทอง....เออ ใช้ง่ายดี ดูแลไม่ยาก ปลอดภัยดี..ผมจะไม่ซื้อรถเบนซิน....และแล้ว ผมก็ซื้อ x-trail....
พอใช้เจ้าเอ็กซ์ ได้สองสามพันโล ผบ. บ่นจัง นี่มันไม่ใช่กินน้ำมัน มันแดกเลย ไม่ไหวแล้วนะ ดีแม็ก ยัง 3 บาท/กม. นี่เล่นหกเจ็ดบาท/กม(ผมใช้เพียว ลิตรละสี่สิบกว่าบาท) ...ทำยังไงดี..?
-
จากที่ ผบ.บนน้ำมันแพง ก็พบคำตอบที่ทำให้เป็นคนโลเลอีกครั้ง...
วันหนึ่ง ขณะที่เดินเข้าไปในโบรคเกอร์แห่งหนึ่ง ได้ยิน มาร์เกตติ้ง คุยกันถึงรถยี่ห้อหนี่ง ซึ่งผมไม่เคยได้ยิน และไม่เคยสนใจมาเลยจนถึงวันนั้น ..... เขาคุยกันว่า นี่ มันต้องคันนี้ รถดี ทำในสวีเดน..ราคามือสองนี่เละมาก ผมใช้มาห้าคัน ตอนนี้ยังใช้อยู่สองคัน ไม่สวยแต่วิ่งดีนะ....ฯลฯ
ผมเงี่ยหูฟัง เขาคุยกัน คิดว่าคงเป็น vovo แน่ ๆ แต่เปล่า...ได้ยิ่นแว่ว ๆ ซาบ หรือชาร์ป ....นั่งคิดในใจ รถยี่ห้อนี้มีหรือ?.....
กลับบ้าน เปิดเนตฯดู วันทูคาร์.. เฮ้ย มีจริง ๆ แสนห้าเอง .... ลองคุยกับผบ....ลองดูคันนี้เป็นยังไง? ราคาพอได้มันเล็ก ๆ อาจจะกินน้ำมันน้อยกว่า.. ผบ.เออ น่ารักดี ลองไปดูซิว่าเป็นอย่างไร ? สรุปว่าเขาอนุญาตแล้ว...
วันรุ่งขึ้นรีบวิ่งไปดู...........สภาพภายนอกภายในพอดูได้ ไม่ลองขับ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เอาผมเอาคันนี้....มัดจำ....โทรฯบอก ผบ. ว่าตกลงซื้อ เช้าวันรุ่งขึ้น นำเงินไปจ่ายส่วนที่เหลือ ขับรถกลับบ้าน...นี่คือความเจ็บปวดของการซื้อรถมือสอง โทษใครไม่ได้ เพราะไม่ศึกษา ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง.... แต่เป็นประสบการณ์ในการซื้อรถมือสอง.....
-
3. โลเลที่3 ผมจะไม่ใช้รถมือสอง จะใช้ป้ายแดง เจ็ดแปดปีเปลี่ยน ผมเปลี่ยนจุดยืนอีกแล้ว...
4. ผมสาบานไว้ในใจว่าจะไม่ใช้รถที่ติดแก๊สเด็ดขาด ไม่เคยศึกษา จากโฆษณาเป่าหูที่ผ่านมา ผมกลัวมาก ๆ แต่เจ้าคันนี้ติดแก๊ส?.....แถมเป็นระบบดูดอีกต่างหาก (รู้ตอนหลัง)
พอขับออกมาจากอู่ นึกในใจ ซื้อมาแสนห้า เต๊นท์บอก ซ่อมประมาณ สามหมื่นก็ฉิวแล้ว...มันใช่ไหม? พวงมาลัยดึงซ้าย พอลงหลุม ดังป็อกแป็ก... ตายกูจะบอก ผบ.อย่างไรดีวะ.... น่าจะซ่อมเยอะอยู่ ขับมาถึงบ้าน ดับเครื่องติดเครื่องไม่ได้ .....
ทำไงดี? คงต้องหาช่าง...(ตอนที่เขาคุยกัน บอกช่างเก่ง ๆ อยู่คลองสองลำลูกกานี่คนหนึ่ง) แต่ไปไม่ถูก....ตัดสินใจโทรไปถามมาร์เก็ตติ้งคนนั้น...เขาหัวเราะ จะซื้อทำไมไม่บอก ฯลฯ..แล้วบอกทางไปอู่ให้ วิ่งไปอู่ เออ มีรถเข้าซ่อมยี่ห้อเดียว(จริง ๆ)...เขาพาเด็กมาด้วยคนหนึ่ง (หลังจากสั่งงานแล้ว) ขับรถตามมา...
มาถึง เขาเข้าไปติดเครื่องขยุกขยิก แล้วมันก็ติด.....แล้วเขาก็บอก โทรมมาก คงหลายตัง ปั๊มติ๊กมันเสีย ใช้ได้แต่แก๊สอย่างเดียว เวลาติดก็ต้องกดจ่ายแก๊ส ฯลฯ แล้วก็บอก จะซื้อทำไมไม่ถามก่อน(อีกแล้ว)....แล้วเขาประเมิน ปีกนกต้องเปลี่ยน โซ่หน้าเครื่อง เปลี่ยน ชุดแก๊สหากเปลี่ยนเป็นหัวฉีดเสียก็ปลอดภัยขึ้น ประเมินเคร่า ๆ สี่หมื่น...
ผมก็ตกลง...เขาขับรถไป...ไปถึงอู่ โทรกลับมา บอก เกียร์สภาพไม่สมบูรณ์นัก อาจจะวิ่งได้ไม่เกินสองสามหมื่นโล ...เอาแล้วไง(สงสัยจะฟันกูแน่เลย) ผมบอกไม่ต้องทำเกียร์ ทำแค่นั้นก่อน...
-
หลังจากจอดทำได้สามสี่วันก็เสร็จ เบ็ดเสร็จรอบนี้หมดไป สี่หมื่นเจ็ด....เอาออกมาวิ่ง ...ดีแฮะแก๊สก็ถือว่าดีประหยัด ประมาณบาทเจ็ดสิบ/กม. ความแรง ณ ตอนนั้น มันก็เหนือทุกคันที่เคยขับมา ขับสนุกกว่า...โหมดสบอร์ต ก็สนุกพอประมาณ เนื่องจากเขาเซ็ทให้ลากรอบสูงกว่าธรรมดาอีกหน่อย ช่วงเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก
ช่วงนี้ผมศึกษาเรื่องแก๊ส lpg cng มากขึ้น จนเข้าใจระบบค่อนข้างละอียด จนได้ข้อสรุปว่า lpg ปลอดภัยสูงกว่า เบนซินหลายเท่า....ผมเปลี่ยนจุดยืนอีกครั้งแล้ว.....
-
....นับจากนั้น ผมจอดเจ้า เอ็กซ์ ขับคันนี้ได้หมื่นโล(ประมาณ) เอาแล้วไงรถวิ่ง ๆแล้วค่อย ๆ ช้าลง หน้าจอเตือนเกียร์พัง.... โทรหาช่าง เขาบอก ถอดขั้วแบตฯสักสองสามนาที เสียบใหม่ ค่อย ๆ วิ่ง อาจจะเกียร์ 1-2 พอไปได้ถึงอู่ หากเป็นอีกให้ทำอีก... ผมก็กัดฟันไปจนถึงอู่ แล้วก็ยกเกียร์ ถือโอกาสเปลี่ยนโช้ค เพิ่ม ..หลังจากนั้นผมใช้มาอีกสามหมื่นโล ก็ปล่อยออกไป..
ในขณะเดียวกัน ผมก็จับเจ้า เอ็กซ์ ดมแก๊สเสียเลย .....เป็นถังโดนัด ทำโดยอู่ซาบ....(ไว้ใจแล้วครับ)
-
ตอนนี้ ผบ. เลิกบ่น เจ้าเอ็กซ์ ก็เพราะ วิ่งปริมณฑล อยู่ประมาณ บาทเจ็ดสิบ/กม. เดินทาง บาทสี่สิบ/กม.....
และในช่วงนี้ผมซื้อ saab ถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 6 คัน ดังนี้ 900 2.3i สีดำ (ขายไปแล้ว) 9000 cd 2.3i ขายไปแล้ว 900 2.0i 3ประตูแดรคเก้นท์ ขายไปแล้วด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป .ส่วน 9000cse ..(ปลดระวาง ไม่ขาย) 93ss ตามด้วย คันสุดท้าย 95 2.3t.
สงสัยใช่ไหม?ทำไมซื้อขายเยอะ ผมกำลังค้นหาตัวเองว่าต้องการอะไร? ความเหมาะสมอยู่ที่ไหน? แล้วเงินล่ะ? บอกเลย ขายรถพวกนี้ แม้เป็นรถที่รักเจ้าของ แต่ขาดทุนไม่เกินสองสามหมื่น บางคัน เสมอตัว(ไม่รวมค่าปรับสภาพ)....
ตอนนี้ผมตั้งใจว่าจะใช้รถมือสองอย่างเดียวเท่านั้น.....ต่อไปจะเปลี่ยนจุดยืนอีกหรือเปล่า ไม่ทราบ
-
มาถึงตรงนี้ ผมบอกเลย ผมโชคดีมาก ป้ายแดงสามคัน ไม่เคยเคลมอะไร แม้กระทั่งเจ้าเอ็กซ์ กุมภาฯ 59 ครบ 6 ปี ยังของเดิมทุกชิ้น แม้กระทั่งแบตฯ ก็ยังเป็นลูกเดิมติดรถ (เป็นสถิติใหม่ที่คงจะลบยาก)
....มาถึงเจ้าคันที่ ทำให้ผมที่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ กลไกต่าง ๆ พอสมควรนี่ เป็นเด็ก ๆ ไปเลย....ใช่แล้ว เจ้า 93ss 2.0T คันนี้.....
-
ผมนั่งดู saab 93 ss 2.0T คันนี้ใน วันทูคาร์ อยู่ประมาณห้าหกเดือน...ราคาตั้งไว้ในเต๊นท์ ณ ขณะนั้น เจ็ดแสนแปดหมื่นหกพัน.....ในขณะที่รถที่ผมชอบมาก ๆ คือมีเอ็ม ซีรีส์ 5 ปีเดียวกัน อยู่ประมาณหนึ่งล้าน.....
(......รถในฝันของผม คือ มัสแตง.....รถสปอร์ตคันแรกที่ผมเจอ (ราว ๆ ปี 84) หลังจากนั้นก็ไปชอบ เจ้าพอร์ช 911 อัลฟ่าฯ 156 ส่วนฝั่งยุ่น ก็ชอบ ซูบารุ กับซีวิค 3ประตู ส่วนอีโว ไม่ชอบ ...ส่วนพวกแลมโบ บูกาติ ฯลฯ อยากแค่ลอง....)
ณ ตอนนั้นยังใช้ 900 สีดำอยู่ และแล้ววันหนึ่งขณะนั่งดูรูป ผบ.เดินมาเจอ..เอ๊ะ รถอะไร บอกซาบไง มีแบบนี้ด้วยหรือ? ไม่เคยเห็น สวยดี ผมก็เลยบอก มันแพงไปนะ เห็นตั้งขายมาตั้งนานแล้วยังอยู่...
ผบ.บอก ไปดูซิว่าสวยดีไหม?....ผมมีหรือจะปฏิเสธ..เช้าวันรุ่งขึ้นรีบบึ่งไปทันที เป็นครั้งแรกที่ไปซอยลาซาล...
-
รู้สึกคุ้นๆกับรีวิวรุ่นนี้ เคยอ่านเมื่อนนานพอควรแล้วในเว็ปไหนจำไม่ได้ 555
-
saab 93 ss 2.0T เป็นรถที่เล็งๆไว้เหมือนกัน แต่ยังไม่กล้าสักที
alfa 156 อีกคัน
ตอนนี้ขอดูไปก่อน
-
รู้สึกคุ้นๆกับรีวิวรุ่นนี้ เคยอ่านเมื่อนนานพอควรแล้วในเว็ปไหนจำไม่ได้ 555
...รีวิวที่นี่แหละ ผมเอง แต่ข้อมูลเลอะและมั่วมาก เลยถอดออก....(อายเขา)..
saab 93 ss 2.0T เป็นรถที่เล็งๆไว้เหมือนกัน แต่ยังไม่กล้าสักที
alfa 156 อีกคัน
ตอนนี้ขอดูไปก่อน
สำหรับผม 156 เมื่อศึกษาไป ก็รู้ว่า ผมไม่เหมาะสมกับเขา...ตอนนี้ตัดออกไปแล้ว....
-
สุดท้าย ผบ. ไปต่อรองราคาเอง...จบ จ่ายเงิน ขับรถกลับ เขาต่อทะเบียนให้พร้อม... ได้มา จัดการเปลี่ยนยาง วิ่งสักพัก อาการช่วงล่างที่หนืด ๆ ค่อย ๆหายไป แต่สิ่งที่ไม่หายก็คือ หน้าไวมาก พวกมาลัยสะบัดตามล้อที่ลงหลุม จัดการตั้ง 0ใหม่ ก็เรียบร้อย....ใช้งานมาพักหนึ่ง
......มาแล้ว หน้าจอ info แจ้งเตือน ท่านเจ้าของรถโปรดทราบ ขณะนี้ ระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติมีปัญหา กรุณาเข้าศูนย์เพื่อแก้ไข....(ประมาณนั้น)
คิดในใจมันมาแล้ว หาในเนตฯ มีเรื่องนี้เยอะทีเดียว แต่ไม่มีคำตอบ? ช่วงนี้ พอติดเครื่องก็ลบคำเตือนไป คิดไปว่าเป็นที่จุดไหนประมวลผลว่าการจะปรับไฟหน้า มัตต้องเกี่ยวกับช่วงล่าง ถ้าน้ำหนักลงด้านหลังมากไปหน้าจะเชิด มันจะกดไฟลง ฯ ประมาณนี้ จัดการขึ้นตะเข้ แล้วหา แล้วก็เจอว่าขาเกี่ยวคอนแทค ล็อคหลุด แล้วหมุนตีกลับขึ้นไปด้านบน พอปลดลง ใส่ คำเตือนก็หายไป....(รถรุ่นใหม่ ๆ ที่มีระบบพวกนี้ ระวังไว้บ้าง พอเก่า ๆ ไป เจอแน่ ๆ) ของคันนี้มี 2 ตัวที่ ปีกหน้าซ้าย กับปีกหลังซ้าย..(ภาพที่แจ้งไม่ถ่ายไว้)
-
หมดเรื่องไฟหน้า ก็ถึงเวลาที่ผมจะอับวิทยุ เปลี่ยนจาก icm1 เป็น icm2 อยากจะข้ามไป icm3 แต่ราคาแรงเหลือเกิน....ปัญหาก็เกิดอีก....
ขณะที่ถอด ผมไม่ยกขั้วแบตฯ คิดว่าเล็กน้อย...ว่าแล้วก็จัดการถอดช่องแอร์บน คลายสกรูออก ถอดชุดคอนโทรลแอร์ออก ขณะที่กำลังขยับชุดคอนโทรล มีแสงสว่างแว้บ ๆ บนหน้าจอ info คิดว่าไม่มีอะไร ใส่วิทยุตัวใหม่เข้าไปประกอบคอนโทรลแอร์...วิทยุดังปกติ..ใช้ได้
เสียบกุญแจเข้าไปแชะเงียบ ไม่ปลดล็อคคอที่พวงมาลัย....เอาแล้วไง...อะไรก็ไม่ได้ทำแล้วมันเป็นห่าอะไร ทำไมไฟไม่ขึ้นหน้าปัด..ไม่ปลดล็อค ...ถอด...ใส่ ชุดนี้อีกหลายรอบก็เหมือนเดิม สงสัยจะแย่....นอนก่ายหน้าผากสองสามวัน...คิดไม่ออกว่าจะเริ่มตรงไหน? ขืนบอกผบ. โดนแน่ ๆ...
ตัดสินใจลองตรวจฟิวส์...ชุดในเก๋ง ยูเรกา.....ฟิวส์ 10 แอมป์ฯ ขาดไป 1 ตัว เดาว่า คงเป็นการทำลายตัวเอง เนื่องจากมีคนงัดรถ...(ที่ไม่คิดว่าไฟลัดวงจร เพราะมีสมาชิกท่านหนึ่งโทรมาถามว่าแก้อย่างไร เขาถอดและเป็นแบบเดียวกัน ก็ขาดฟิวส์ตัวเดียวกัน).....ทุกอย่างกลับมาปกติเหมือนเดิม (ชุดฟิวส์อยู่ด้านข้างของเก๊ะหน้ารถ)
-
ยังไม่จบแค่นั้น ผมซื้อแอมปฯชุดหนึ่ง พร้อมลำโพง กะอัปเกรดให้เข้ากับหูฟังเราเสียหน่อย ...แต่แล้ว ล้มเหลวตามฟอร์ม..เสียเงินฟรี
ระบบเสียงเป็นดิจิตอล ผมซื้อมาเป็นอนาล็อค..บ้านเราไม่มีชุดเอนเตอร์เทนเม้นท์ชนิดที่เป็นดิจิตอล ที่ส่งคำสั่งด้วยใยแก้วนำแสง.....(ในภาพ ปลั๊กสีดำเป็นปลั๊กสำหรับแอมป์ มีไฟบวก กราวด์ สัญญาณ ขวา สัญญาณซ้ายครบ...ส่วนเส้นสีส้มสองเส้นที่มัดรวมกันต่างหาก นั่นเป็นสายใยแก้ว อิน และเอาท์ ) ทำไงดี อยากได้ sub เล็ก ๆสักตัว....วิ่งไปหาซื้ออแดปเตอร์แปลงสัญญาณ จากดิจิตอล เป็นอนาล็อค.... มาต่อ แล้วมันก็เงียบ...เอาไปทดลองที่หน้าแอมป์ใต้เบาะผู้โดยสาร มันก็ใช้ได้....
นั่งเข้าเนตฯ จนเจอว่า ต้องใช้ เทคฯ2 เปิดระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ก่อน แล้วถึงจะต่อแอมป์ได้..เอาเข้าไป...มาถึงตรงนี้ผมถอดใจไม่ทำแล้ว เสียเงินฟรี....
-
ส่วนแรงบันดาล และรายละเอีดยรถก็นี่เลยครับ ของผม แตกต่างเล็กน้อย ตรงม้า 195 ม้า กับออฟชั้น http://www.headlightmag.com/%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-saab-9302/
ถามว่าทำไมผมไม่ใช้แอมป์ที่เขาเตรียมให้ แล้วใช้เทคฯ 2 เปิดใช้ เพราะผมดูกำลังขับ300 วัตต์ แล้วใส่ไปไม่ได้ดีกว่าเท่าไร ลำโพงที่ให้ก็เป็น 6*9 เลย ยกเลิก....
ขี่มาอีกห้าหกเดือนเอาอีกแล้ว...หน้าจอแจ้งอีกแล้ว....ท่านเจ้าของรถโปรดทราบ ระบบเกียร์รถของท่านมีปัญหา ให้เข้าซ่อมแซมโดยด่วน....
-
ผมเป็นคนที่ไม่จนปัญญา จะไม่เข้าอู่ หรือ 0 จัดการขึ้นตะเข้อีกครั้ง จะเข้าไปดูใต้เกียร กะว่าจะลองขยับสายไฟ หรือสายเซ็นเซอร์เผื่อมันจะหาย....
พอขึ้นเสร็จ เดินกลับไปเปิดกุญแจ.....คำเตือนหายไป.....ผมถึงบางอ้อ....เดือนที่แล้วถ่ายน้ำมันเกียร์ไป แล้วเขาใช้ตะเข้ ไม่ขึ้นฮ้อย.. น้ำมันเกียรเกินไปประมาณครึ่งลิตรถ่ายออก หาย....
ยังไม่หมด ....ไปถ่ายน้ำมันเครื่อง เด็กถอดกรองเป่า วิ่งกลับบ้าน เสียงรถร้อง ว้อ ๆๆ วิ่งไม่ออก ดับอีกต่างหาก...ถึงบ้าน ...สำรวจ เสียงมันมากว่าท่อเวคกั้มหลุด...สุดท้ายก็เจอ..
ท่อไอดีเข้าปากโบขาด ไปซื้อมาพันห้า ใช้ไปอีกหมื่นโล ไปถ่ายน้ำมันเครื่อง...วิ่งกลับออกมา อาการเดิม สรุปเด็กเป่ากรองมันแย่ มันยกครอบกรองแล้วบิดขึ้น ในขณะที่ท่อเป็นพีวีซี บาง ๆ มันก็ไม่เหลือซิครับ ตอนนี้แก้เป็นแบบนี้...คงช่วยได้ (ถ้าใครใช้แล้วเป็นแบบผม ทำเถอะครับ คุ้ม...
-
ทำไมผมบอกว่าความรู้ที่ผมมี มาใช้กับเจ้าคันนี้ไม่ได้ ผมเป็นเด็ก ๆ ไปเลย.....ดูระบบควบคุมรถทั้งคันเป็นดิจิตอล ควบคุมจากชุดควบคุมตรงกลางคอนโซลด้านหลังคอนโทรลแอร์...เจ้าตัวนี้ประมวลผลรอบคัน แล้วถึงจะส่งคำสั่งไปเปิดระบบต่าง ๆ ...ภาพต่อไปนี้ ระบบในการทำงาน ของมัน
-
มาถึงวันนี้ saab 93ss ที่ใช้วิ่ง 2 ปี สี่หมื่นโล ความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดจากคนทั้งนั้น.... สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ มันเป็นรถที่ขับสนุก มุดดี คล่องตัว แรงดี
ตอนนี้ให้ลูกชายใช้อยู่ กุมภา 59 ก็ครบปีที่เขาใช้ ดูแล้วเขาชอบพอควร ด้วยความเชื่อมั่นว่ามันจะคุ้มครองเขาได้ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัย มันไม่เคยละเลย ไม่ว่า หลอดไฟเบรคขาด หลอดไฟท้ายขาด ฯลฯ ดังนั้น ไฟเบรคข้างเดียว หรือไฟท้ายข้างเดียวไม่มีให้เห็น....
สิ่งที่เหนื่อยก็คือ เชื้อเพลิง วิ่งในที่รถติด แล้วกดหนัก ๆ กินระเบิด..ต่ำสิบ.วิ่งทางไกล100-120 อยู่แถว ๆ 16 โลลิตร...เดี๋ยวเบิก ๆ....
ผมเองก็ยังใช้วิธีการมโน...ในการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา เพราะมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม...
หลาย ๆท่านสงสัยว่าทำไมกล้าใช้ ไม่กลัวเรื่องซ่อมหรือ ลองดูภาพนี้ซิครับ คันนี้รุ่นนี้...ยังมีอะไหล่ ตอนนี้กำลังซ่อมใหญ่ ....แล้วเชื่อไหม? ว่าสีเดิมตั้งแต่ออกรถ...
-
....2 ปี กับ 40000 โล ยังไม่มีอะไรให้หนักใจ แม้ต้องศึกษากับมันเพิ่มขึ้นอีกก็ตาม
การทำงานโดยสรุป ทั้งหมดเป็น ดิจิตอล ส่งสัญญาณ เป็น บัสทั้งคัน p bus ควบคุมเกี่ยวกับเครื่องยนต์ i bus เกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวรถรวมถึงอิมโมฯ 0 bus เกี่ยวกับความบันเทิง... กล่อง ecu อยู่เหนือเครื่อง ตัวเล็ก ๆ (มือบังพอดี) ส่วนนิ้วชี้ นั่นเป็นเพรสเชอร์คอนโทรลตัวที่สอง (ตัวที่ 1 ควบคุมเพรชเชอร์ที่เทอร์โบชาร์ท) ทั้งสองตัว เป็นโซลินอยล์ เหมือนกัน..
-
...กุมภาฯ 58 จะต้องยกให้ลูกชายใช้ saab 93ss (คันข้างบน) ตัวเราเองก็คงต้องหาคันใหม่....
ในใจขอลองรุ่นที่ไม่ชอบที่สุดของ saab ก็แล้วกัน ว่าจะเป็นเช่นไร ผบ. เชียร์ เทียน่า.. แต่ผมปฏิเสธ เก๋งใช้เองขอเลือกเอง ฟันธงว่าเป็น saab 95 มีชอยส์ให้เลือกคือ ปีก่อน 02 ปี 02 และ หลัง02 ........ซึ่งจะต้องตัดสินใจ
ข้อแตกต่าง....ก่อน 02 มีเครื่อง 2.0 และ 2.3 เกียร์มีสี่เกียร์ บอดี้สมองเกียร์ ทำด้วยอลูมิเนียม....
ปี 02 .....แตกต่างที่กันชนหน้าหลัง ใหม่ สวยกว่า เกียร์เป็น 5 เกียร์ แต่บอดี้สมองเกียร์ ทำจากไฟเบอร์ เมื่อใช้ไปนาน ๆมักจะเปราะและแตกง่าย ซ่อมไม่ได้ แถมแพงอีกต่างหาก....
หลังปี 02 เพิ่ม พาเดิลชิพ เข้ามา.....
ง่าย ๆ ก็คือ ก่อนปี 01 ถึกกว่า แต่ขี้เหร่กว่า....ขณะที่กำลังเลือก มีผู้เสนอเข้ามา ปี 02 ช่างที่ผมซ่อมประจำ รับประกันว่าเนียบจริง ๆ ไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ...ขณะที่ผมกำลัง(สามวัน)ใคร่ครวญ...เอาก็เอา หากสมองเกียร์เสีย ยกมือสองใส่เอา...ขอดูรถ ช่างบอก ไปแล้วครับ ....
ลองเปิดดูในเนตฯ ไปดูตัวจริง สองสามคัน ไม่ชอบสักคัน กำลังรอหามีประกาศขายออกมาสีน้ำเงิน เป็นรถบ้าน คันนี้ผมเคยเห็นตัวจริงมาแล้ว แต่ต้องซ่อมเครื่องแน่นอน ต่อรองราคา และตกลง โดยไม่ต้องไปดูรถ...(ประมาทมาก)
วันรุ่งขึ้นออกแคชเชียร์เช็ค วิ่งไปจ่ายเงิน ขับรถกลับ...ในภาพคือมาจอดข้างอู่เพื่อจองคิวเข้าปรับสภาพใหญ่.....
-
ทำงานสักสัปดาห์ ก็พร้อมตามภาพ ในขณะที่ตัวรถ ก็เพิ่มระบบแก๊สเข้าไป....ทั้งที่คันนี้เชื้อเพลิงมัลติ..รองรับถึง อี 85 แล้ว
-
นี่คือความไร้จุดยืนต่อมาจำไม่ได้แล้วว่ากี่เปลี่ยน....คือผมแอนตี้เครื่อง95 มากที่สุด เพราะ เปราะ พังง่าย กินน้ำมันเครื่อง(บ้าง) อะไหล่แพง.....ฯลฯ แต่ผมก็กลืนน้ำลายตัวเอง....
จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ใช้มาหมื่นกว่าโล เออ มันก็ดีนี่ แล้วที่เห็นพัง ๆ เพราะอะไร ? ได้คำตอบในใจคือไม่บันยะบันยังในการขับ และการเพิ่มม้ามั่นแหละ ดังนั้นผมจะไม่เพิ่มอะไรอีกแล้วแค่นี้พอ......
-
สำหรับท่านที่ต้องการทราบมิติ ฯลฯ ไปดูของเก่า ๆ ของคุณ จิมมี่เลยครับ แน่นอนกว่าhttp://www.headlightmag.com/%e0%b8%97%e0%b8%94%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a-saab-9300/
...พอเริ่มใช้งานคันนี้ มันออกไปทางผู้ใหญ่มากกว่า 93 เยอะ...เบาะวางไว้สูงกว่า 93 แล้วผมก็เห็นสิ่งที่ผมเพิ่งเคยเห็นคือ เสาบีมีช่องแอร์ด้วย สรุปว่าที่นั่งตอนหลังมีช่องแอร์ที่คอนโซลกลาง และที่เสาบีด้วย.. และรวมถึงเป่าเท้าด้วย
-
ส่วนมุมมองเวลานั่งขับก็สบายกว่า 93 ....เนื่องจากคันนี้ เป็น 2.3t จึงมีวัดบูสต์ด้วย
-
มาถึงวันนี้ โหมดทั่วไปก็งั้น ๆ พอ ๆ กับ 93ss แม้คันssแค่195 ม้า แต่หนักแค่ตันครึ่ง ส่วนคันนี้ ตันเจ็ดกับ 220 ม้า จึงออกอืดพอ ๆ กัน แต่พอกดโหมดสปอร์ตที่หัวเกียร์ นี่มันกระฉับกระเฉ๋งเป็นคนละคันจริง ๆ ไม่ใช่เปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขึ้น แต่เป็นการเพิ่มความเร็วในการเปิดลิ้นมากกว่า ไม่มีแล็ค ..ผมใช้โหมดสปอร์ต จนติด...ขับเมื่อไรก็กดเข้าโหมดทันที ถึงตอนนี้ยังคิดว่าไปรังเกียจมันทำไม น่าจะซื้อเสียตั้งนานแล้ว ขับดี สนุกก็ได้...ยังไม่เคยมีไฟเตือนให้เห็นสักอย่าง...
-
ถ้าจะเปรียบเทียบการใช้งาน คนละแบบ เวลาขับเจ้าเอ็กซ์ ก็นุ่มนวล เรียบร้อยไปเรื่อย ๆ ตามใจ ผบ. พอขับคนเดียวก็ 95 ผมขับไม่เร็ว แต่ออกตัวเร็ว 120 ก็เลิกกดต่อ....
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วิ่งไปปากช่องตอนหกโมงเช้า ขับ95 ไป110 เรื่อย ๆ แถว วังน้อย อยู่ ๆ มีรถแวน แซงแว้บผ่านไป มองดูแล้ว มันวอลโว่นี่นา แล้วมันรุ่นไหน? วันนั้นกดตามทันที...กดไป สัก 170 ก็ทัน รู้ว่าเป็น v60 ผมตามเขาไปเรื่อย ๆ (อาจจะไม่สุภาพนัก) เขาช้าก็ช้า เขาเร็วก็เร็ว ลองดูกำลัง บอกเลยว่ากำลังดีมาก เวลาเขากดหนี ผมต้องใช้สี่พันรอบจึงตามทัน...เล่นดมก้นเขาอยู่อย่างนั้นจนถึงสระบุรี (140-180) ก็จากกันไป ถ้าหากการกระทำครั้งนี้รบกวนเจ้าของรถ (หากเข้ามาอ่านเจอ) ก็ขอโทษอย่างมาก แต่v60สีขาวคันนั้นสวยจริง ๆ.... และนั่นคือเร็วที่สุดที่ผมขับแล้วครับ...
-
ส่วนคันนี้ 9000cse ซึ่งปลดระวาง คันนี้ได้มา ปรับสภาพเสร็จ พี่ชายนำไปใช้ 2 ปี วิ่งสองแสนโล...ณ ขณะนี้ ช่วงล่างไม่ดี ลูกปืนล้อหน้าขวาหอน..แอร์ไม่เย็น เขาเลิกใช้ เอามาเก็บไว้ตรงนี้ สงสารเหมือนกัน แต่หวังว่าวันหนึ่งจะปรับสภาพใหม่ (ไม่ขาย) และทำหลังคากันแดดให้....
-
บทสรุป....
ทั้ง 3 คันที่ประจำการอยู่ ชอบทั้งนั้น ความเหมาะสมของการใช้งานคนละอย่างกัน หากลูกเลิกใช้ 93ss ผมก็คงไม่ขาย....
ผมเอง อาจจะโชคดี ทั้งที่ใช้รถมือสอง หรือมือหนึ่ง ไม่เคยใช้บริการรถสไลด์ ไม่ประสบปัญหาที่ยาก ๆจนเกินปัญญาที่จะแก้ไข
และที่โชคดียิ่งกว่า คือได้ใช้รถที่หลาย ๆ คนอยากใช้อยากลอง แต่ไม่กล้า แค่จด ๆจ้อง ๆ หรือบางคนเข้ามาแล้ว มาเจอเน่า ๆ....แล้วร้อง กูเข็ดแล้ว....
อัตราการรับประทานน้ำมัน........เจ้าเอ็กซ์ ปริมณฑล 7-8 กม./ลิตร เดินทาง 11-12 กม./ลิตร 90-120
93 2.0T ปริมณฑล 8-9 กม./ลิตร เดินทาง 14-16 กม./ลิตร 100-120
95 2.3 t ปริมณฑล 7-8 กม./ลิตร เดินทาง 12-14 กม./ลิตร 100-120
****saab 95 เวลากด ๆ ซดระเบิด ปกติ 95 ใช้ lpg จากลำลูกกา ไป-กลับ เขาใหญ่ 32- 35 ลิตร แต่วันที่กดตาม v60 ไปถึงทับกวาง เหลือแก๊ส ตุ่มเดียว..ใช้ไปราว ๆ 30ลิตร....****
ปิดท้ายกับภาพคันที่ปลดประจำการ 9000 cse ล้อกริฟฟิน....
ขอบคุณที่ทนอ่านครับ.........
-
ขอเข้ามายกมือถาม หน่อยครับ
ตัว 9000 CSE ทำไมถึงยังไม่ปรับสภาพละครับ
อยากทราบเหตุผล
อีกอย่างคืออะไหล่จำพวกช่วงล่าง (ลูกหมาก ลูกปืนล้อ) ของใหม่รอนานไหมครับ
-
ขอเข้ามายกมือถาม หน่อยครับ
ตัว 9000 CSE ทำไมถึงยังไม่ปรับสภาพละครับ
อยากทราบเหตุผล
อีกอย่างคืออะไหล่จำพวกช่วงล่าง (ลูกหมาก ลูกปืนล้อ) ของใหม่รอนานไหมครับ
ที่จอดอยู่ก็อยากปรับเช่นกัน ช่วงล่าง ยี่สิบปี ไม่เคยเปลี่ยน(ดูแล้ว เหล็กกันโคลงหลัง นี่บูชเหลือแค่เหล็ก) ประเมินเคร่า ๆ สามหมื่น ทำสีอีกสองหมื่น ....
เมื่อของบกับ ผบ.(ผูับังคับบัญชาที่บ้าน) บอกว่า ไม่อนุมัติ เพราะแค่จะก็บไว้ เหตุผลไม่พอ แล้วคนขับ มีคนเดียว นับวันก็แก่ตัวลงไป? พอซ่อมมา ก็จอดอีก ถามหน่อย สองคัน ยังหาเวลาขับไม่ค่อยได้ แล้วอีกคัน มันจะยุ่งยิ่งกว่า ถ้าจะเก็บก็ เก็บอย่างนี้แหละ....(กฎิกาของบ้าน ทรัพย์สิน ผมให้เขาเก็บ เขารอบคอบกว่า ผมสุรุ่ยสุร่ายเกินไป รับค่าใช้จ่ายรายเดือน หากจะใช้จ่ายอะไร คุยกันด้วยเหตุ ผล อนุมัติทำได้....ไม่เห็นด้วย อด... )
ส่วนคำถาม ..อะไหล่ รอนานไหม?...ตอบ ไม่เคยรอ มีรองรับ วิ่งเข้าไป เปลี่ยนได้แทบทุกชิ้น ยกเว้นบางสิ่งที่เลิกผลิตไปแล้วและหายากมาก ๆ เช่น csp (แคร้งชาร์ปเซนเซอร์) ของปี 93 นี่ ยังกับเพชร เจ้าของรถมักจะหาแล้วเก็บสำรองไว้ ส่วนของรุ่นอื่นไม่มีปัญหา หาได้อีกเป็นสิบปี แต่ราคาถีบตัวขึ้นเรื่อย ๆ ....แต่ก็มีทางเลือกคือใช้มือสองแทน ราคาย่อมเยากว่า แต่ทนแค่ไหน เสี่ยงดวงเอา
เครื่องยกหัวตัด 9000 2.3เทอร์โบ แพงที่สุด ค่าเฉลี่ย แสนสี่ จองตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่น.....
900 ,93 2.0เทอร์โบ รองลงมา ค่าเฉลี่ย แสน
95 ถูกสุด ยกหัว แปดหมื่นถึงแสน..
93ss ในไทยมีใช้น้อย แต่เมืองนอกมีเยอะ คิดว่าน่าจะพอ ๆ กับ 95....
ราคารถมันเด็ก ๆ เมื่อเทียบม้า/ม้ากับแบรนด์อื่น นี่แหละ บางท่านจึง ซื้อมาแต่งเล่น 300ม้านี่ง่าย ๆ ด้อยอย่างเดียว หน้าตาไม่สวย...ครับ
-
ผมเคยเข้าไปนั่งอ่านใน saab-scot อยู่พักนึง น่าจะตั้งแต่สมัยก่อนน้ำท่วม กทม.
มี SAAB ประมาณ 2 รุ่น ในลิสต์ที่ผมเคยอยากขับ เคยนั่งแล้วคือ 9-5 แต่เป็นตัว 2002+ ที่ 5 สปีด และ
อีกคันคือ 900S ตัวแรก (แสนห้าของคุณ sukhontha) เคยนั่งสองคัน คันนึงเดิม อีกคันวาง 3S-GTE
เครื่องญี่ปุ่นแรงจริง แต่ฟีลมันก็ไม่ใช่รถเดิมๆ มันขาดความเป็นของแท้ไป
ที่บ้านตกลงซื้อ T31.1 ด้วยเหตุผลใกล้เคียงกันกับคุณ sukhontha ยกเว้นเรื่องพับราบนี่ไม่ได้คิด
ตอนแรกไม่รู้ ผมดึงๆ อ๊ะ พับ มีช่องเก็บรองเท้าอีก พ่อ+แม่ แฮปปี้เลย โดยเฉพาะแม่ที่ขับเป็นหลัก สลับกับมาร์ชผมบ้าง
สำคัญคือ ผมทำงานในเมือง รถติด ไปโน่นไปนี่บ่อย บ้านผมหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ติดแก็ส กลัว ถ้าเอาเจ้าเอ็กซ์มาขับในเมือง
ค่าน้ำมันวันละสองร้อย มาร์ชร้อยยี่สิบ สองร้อยบาทนี่คือขับได้อย่างน้อยๆ ถึงสระบุรี ไปกลับสวน เจ้าเอกซ์พันสอง มาร์ชแปดร้อยไม่เกิน
ไว้ถ้าอนาคตจีนกลับมาทำ แล้วออโต้เทคนิคเอา SAAB มาทำตลาดจริงจังอีก อนาคตผมอาจจะได้เป็นอีกคนใน scot ครับ
โดยเฉพาะ 900S Draken สภาพดีๆ ทุกวันนี้มันก็ยังสวยอยู่ทั้งที่อายุร่วมยี่สิบปีแล้ว สภาพนิ้งๆ นี่ยังดูดีกว่า C-Seg ตัวใหม่ๆ อีก
-
ผมเคยเข้าไปนั่งอ่านใน saab-scot อยู่พักนึง น่าจะตั้งแต่สมัยก่อนน้ำท่วม กทม.
มี SAAB ประมาณ 2 รุ่น ในลิสต์ที่ผมเคยอยากขับ เคยนั่งแล้วคือ 9-5 แต่เป็นตัว 2002+ ที่ 5 สปีด และ
อีกคันคือ 900S ตัวแรก (แสนห้าของคุณ sukhontha) เคยนั่งสองคัน คันนึงเดิม อีกคันวาง 3S-GTE
เครื่องญี่ปุ่นแรงจริง แต่ฟีลมันก็ไม่ใช่รถเดิมๆ มันขาดความเป็นของแท้ไป
ที่บ้านตกลงซื้อ T31.1 ด้วยเหตุผลใกล้เคียงกันกับคุณ sukhontha ยกเว้นเรื่องพับราบนี่ไม่ได้คิด
ตอนแรกไม่รู้ ผมดึงๆ อ๊ะ พับ มีช่องเก็บรองเท้าอีก พ่อ+แม่ แฮปปี้เลย โดยเฉพาะแม่ที่ขับเป็นหลัก สลับกับมาร์ชผมบ้าง
สำคัญคือ ผมทำงานในเมือง รถติด ไปโน่นไปนี่บ่อย บ้านผมหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ติดแก็ส กลัว ถ้าเอาเจ้าเอ็กซ์มาขับในเมือง
ค่าน้ำมันวันละสองร้อย มาร์ชร้อยยี่สิบ สองร้อยบาทนี่คือขับได้อย่างน้อยๆ ถึงสระบุรี ไปกลับสวน เจ้าเอกซ์พันสอง มาร์ชแปดร้อยไม่เกิน
ไว้ถ้าอนาคตจีนกลับมาทำ แล้วออโต้เทคนิคเอา SAAB มาทำตลาดจริงจังอีก อนาคตผมอาจจะได้เป็นอีกคนใน scot ครับ
โดยเฉพาะ 900S Draken สภาพดีๆ ทุกวันนี้มันก็ยังสวยอยู่ทั้งที่อายุร่วมยี่สิบปีแล้ว สภาพนิ้งๆ นี่ยังดูดีกว่า C-Seg ตัวใหม่ๆ อีก
สวัสดีครับคุณแมว...เดี๋ยวนี้ เอ็กซ์ดอทเน็ท ตายไปเลย แวะเข้าไปเงียบฉี่...
ส่วน 900 ถ้าเป็น 2.0 i 2.3i ไม่ได้เรื่องจริง ๆ แต่ถ้า 2.0t แรงจริงๆนะครับ( ยิ่งหากไปเจอ900คันไหนยัด2.3t ของ 95 แทน 2.3i นั่น แรงเข้าไปใหญ่) ติพวกบูชปีก ห้าหกหมื่นโลเริ่มมีเสียงแล้ว ....เมื่อก่อนเวลาขายเขาขายทั้งแขนอลูมิเนี่ยม ข้างละแปดพัน ปัจจุบันพี่ไทยอัดบูชเองแล้ว เหลือข้างละประมาณสองพัน (หลังผมเลิกใช้)
-
สวัสดีครับคุณแมว...เดี๋ยวนี้ เอ็กซ์ดอทเน็ท ตายไปเลย แวะเข้าไปเงียบฉี่...
ส่วน 900 ถ้าเป็น 2.0 i 2.3i ไม่ได้เรื่องจริง ๆ แต่ถ้า 2.0t แรงจริงๆนะครับ( ยิ่งหากไปเจอ900คันไหนยัด2.3t ของ 95 แทน 2.3i นั่น แรงเข้าไปใหญ่) ติพวกบูชปีก ห้าหกหมื่นโลเริ่มมีเสียงแล้ว ....เมื่อก่อนเวลาขายเขาขายทั้งแขนอลูมิเนี่ยม ข้างละแปดพัน ปัจจุบันพี่ไทยอัดบูชเองแล้ว เหลือข้างละประมาณสองพัน (หลังผมเลิกใช้)
ยังมีโครงการเผารถเพื่อนสมาชิกเอาแม็ก 19" อยู่ครับ ฮ่าๆ ต้านภัยหนาว เผารถเอาแม็ก แจกผ้าห่ม ;D
คลับดอทเน็ตเพิ่งเอาโดเมนกลับมาใช้ ผมนั่งเขียนคอนเทนต์รออยู่ เดี๋ยวถ้าแชมป์หรือโม่เขาปรับข้างในได้ คงจะทำเป็นเว็บรวมกะบอร์ดบวกไกด์สนุกๆ คุยกันครับ มีตติ้งคลับครั้งสุดท้ายตั้งแต่ธันวาที่แล้ว หลังจากไปดราม่ากะนิสสันตอนเปิดตัว T32
ไว้ถ้าจะอยากเป็นสมาชิกซาบผมอาจจะรบกวนให้ชี้ทางสว่างนะครับ :)
-
ขอบคุณครับที่ ตอบ คำถามให้
รถที่ออกมาจากสแกนดิเนเวียน่าใช้ทุกค่ายครับ Volvo เองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาจริงเครื่องก็แรงด้วยแต่คนไม่ค่อยทราบไปรู้กันเฉพาะรหัสM
SAAB ที่เห็นแล้วตรึงตามากๆเคยเห็นครั้งนึงที่ ชลบุรีเส้น 36 มุ่งหน้าไปจันทบุรีคือ 9-5 WAGON อยากจะเปิดกระจกเรียกคุยขอถ่ายรูปรถ
ตัว 900 convertible เคยเห็นครั้งนึงที่อุบล จำได้ว่าเป็นรถทะเบียนลาว สีดำสวยมาก แม็กซ์ลายสามก้าน คือสวยจบไม่ต้องเปลี่ยนรึแต่งเติมอะไรเพิ่ม
-
ขอบคุณครับที่ ตอบ คำถามให้
รถที่ออกมาจากสแกนดิเนเวียน่าใช้ทุกค่ายครับ Volvo เองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาจริงเครื่องก็แรงด้วยแต่คนไม่ค่อยทราบไปรู้กันเฉพาะรหัสM
SAAB ที่เห็นแล้วตรึงตามากๆเคยเห็นครั้งนึงที่ ชลบุรีเส้น 36 มุ่งหน้าไปจันทบุรีคือ 9-5 WAGON อยากจะเปิดกระจกเรียกคุยขอถ่ายรูปรถ
ตัว 900 convertible เคยเห็นครั้งนึงที่อุบล จำได้ว่าเป็นรถทะเบียนลาว สีดำสวยมาก แม็กซ์ลายสามก้าน คือสวยจบไม่ต้องเปลี่ยนรึแต่งเติมอะไรเพิ่ม
ยินดีครับ
เปิดประทุน cabriolet ในไทยมีหลายคันเหมือนกัน ตั้งแต่ 900 เทอร์โบ เอ็กซ์ (แมงสาบ) 900 และ 93 ปีหลัง ๆ เห็น 07 คันเดียว และคันที่ผลิตปีสุดท้าย 11 อีกคันหนึ่ง รวม ๆ เท่าที่รู้ ประมาณ15 คัน....เรื่องพวกนี้ถ้าเป็นคุณโตโต้ (สมาชิกเวปนี้แหละ) จะรู้กว้างกว่าผมมาก
ที่ชลฯ วากอน ผมรู้จักสองท่าน...ของท่าน....เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้าง นั่น เมื่อก่อนแรงมาก กล่องเป็นเมปจูน.น่าจะใกล้ ๆ300 ม้า...แต่ตอนหลังเปลี่ยนกล่องเป็น เชื้อเพลิงมัลติ 0- 85 ดรอปม้าลงมาเหลือ220 ม้า.. เจ้าขอโทรมาบ่นเครียดหลายรอบ ไม่แรงเท่าเดิม...จะทำไงดี...
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
ผมชอบยี่ห้อนี้ก็ตรงที่ เอาเทคโนโลยีความล้ำสมัยจากอากาศยานมาใช้ในรถก่อนยี่ห้ออื่นๆ ความปลอดภัยก็สูงมาก
-
ขอบคุณคร๊าบ
-
สนุกดีครับ ชีวิตการใช้รถพี่นี่สนุกสนานดีเนาะ 5555 แต่เดี๋ยวนะ X-Trail 6 ปีเดิมแม้แต่แบตเลยเหรอครับ
-
สนุกดีครับ ชีวิตการใช้รถพี่นี่สนุกสนานดีเนาะ 5555 แต่เดี๋ยวนะ X-Trail 6 ปีเดิมแม้แต่แบตเลยเหรอครับ
...ถูกต้องครับ ไม่สบายใจนัก เลยเปลี่ยนไปเมื่อกลางเดือนธันวา 58 ที่ผ่านมา..ร้านแบตฯบอกแบตฯผิดปกติ...ทนไปไม่ควรเกิน 3 ปี...ของเราทนว่าผิดปกติเสียอีก...
-
ขอบคุณมากครับ อ่านสนุกดีเ เพลินเลย
-
เพิ่งจะมีโอกาศได้อ่านรีวิวครับ
คุณ sukhonta นี่คล้ายพี่ชายผม ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง
คือ ใช้Saab 9 5, 93ss
ผมเองถ้าเจอค่าซ่อมรถ และราคาอะไหลรถแบบนี้ ซ่อมบ่อยขนาดนี้ ผมยอมแพ้แน่ ผมยอมขับรถโลวเทคดีกว่า
ดีที่ว่าพี่ชายผมเขาชอบจริง พอมีปัญหาให้ผมหาอะไหล่ให้ ผมก็มักจะบ่นอกว่าเปลี่ยนรถเถอะ จนตอนนี้ผมไม่บ่นแล้ว เพราะผมจะปัดให้แกไปเข้าอู่หาให้ดีกว่า ยอมแพงหน่อยแต่ผมไม่ปวดหัว ล่าสุด ระบบแอร์ หลายครั้งหมดไปร่วมสามหมื่น กับการไล่ไฟและกล่องคุมแอร์ตัวนึง คือถ้าแปลงเป็นแอร์ญี่ปุ่นคงจบเย็นสบายไปนานละ
อู่ก็ยังใช้อู่เดียวกันอีก โลกกลมจริงครับ
ถ้าบอกว่าโลเล ผมว่าไม่นะ เพราะแบบนี้แหละ มีจุดยืนในซาบแล้วครับ
นับถือในPassion ครับ
-
เพิ่งจะมีโอกาศได้อ่านรีวิวครับ
คุณ sukhonta นี่คล้ายพี่ชายผม ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง
คือ ใช้Saab 9 5, 93ss
ผมเองถ้าเจอค่าซ่อมรถ และราคาอะไหลรถแบบนี้ ซ่อมบ่อยขนาดนี้ ผมยอมแพ้แน่ ผมยอมขับรถโลวเทคดีกว่า
ดีที่ว่าพี่ชายผมเขาชอบจริง พอมีปัญหาให้ผมหาอะไหล่ให้ ผมก็มักจะบ่นอกว่าเปลี่ยนรถเถอะ จนตอนนี้ผมไม่บ่นแล้ว เพราะผมจะปัดให้แกไปเข้าอู่หาให้ดีกว่า ยอมแพงหน่อยแต่ผมไม่ปวดหัว ล่าสุด ระบบแอร์ หลายครั้งหมดไปร่วมสามหมื่น กับการไล่ไฟและกล่องคุมแอร์ตัวนึง คือถ้าแปลงเป็นแอร์ญี่ปุ่นคงจบเย็นสบายไปนานละ
อู่ก็ยังใช้อู่เดียวกันอีก โลกกลมจริงครับ
ถ้าบอกว่าโลเล ผมว่าไม่นะ เพราะแบบนี้แหละ มีจุดยืนในซาบแล้วครับ
นับถือในPassion ครับ
ขอบคุณครับ สำหรับความเห็น
ผมเองคิดว่าจุดยืนเปลี่ยนไปเยอะนะ
แรกเลย ผมต้องใหม่เสมอ ....ใช้ไม่เกินแปด-สิบปีขาย รถมือสองผมไม่มอง...
แล้วต่อมา ผมตั้งใจจะไม่ซื้อรถใหม่แล้ว จะซื้อแต่มือสอง....ทำใจไม่ได้กับการขายต่อ.... เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ
ผมใช้ซาบ อาจจะเป็นเก๋งยี่ห้อเดียวที่ผมเลือกใช้ ลองขับคันอื่นแล้ว มันก็ไม่ตอบสนองอารมณ์ตัวเอง ...สัปดาห์ที่แล้วเปลี่ยนเฟิร์มแวร์เป็น เสตจ 3 ..300ม้า(ไม่เต็ม).ค่าทำ สามพัน ผมว่าไม่แพงนะ
ค่าใช้จ่ายในการดูแล ผมก็ว่าไม่มากนะครับ ของผมไม่จุกจิกสักคัน ส่วน 93ss มันเตือน เพราะผิดปกติ แต่ผมมักจะแก้ไขเอง ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไร
รถรุ่นใหม่ ๆ ไม่ว่าฝั่งไหน อีกสักสี่ห้าปี คงจะเจอแบบเดียวกันครับ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ อ่านบทความของพี่แล้ว ช่วยเปิดโลกทัศน์ของผมเลย ตัวผมเองก็มีรถในฝันที่สมัยป้ายแดง เกินกำลังจะเอื้อมหลายคัน พอเริ่มเก็บเงินได้ก็มากลัวโน่นกลัวนี่ไม่กล้าใช้ เพราะคำบอกเล่าของคนโน้นคนนี้