Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: ☺????☺ ที่ มีนาคม 09, 2010, 20:14:12
-
ไม่เท้าความนะครับ เพราะเกิดยังไม่ทันอายุรถเลย 555+ อายุรถที่จะรีวิว 20ปีแล้ววววว
อายุมากการบำรุงรักษาเยอะตามกลาเวลา ตอนนี้โดนปลดประจำการ แล้วว เนื่องจากตายกลางทางบ่อยมากๆๆ - -* + ช่วงนี้ผมปิดเทอม รถก็จอดเฉยๆๆ เลยจัดรีวิว มั่วๆๆมาให้ดู 55+
เล่าประวัติ ตระกูล st คราวๆๆก่อนนะครับ
CORONA STรุ่น 2.0 ช่วงแรกแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ 2.0 GL เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ 2.0 GL AUTO เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ใช้เครื่องยนต์รหัส 3S-F แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว คาร์บูเรเตอร์ ความจุ 1,998 ซีซี
กำลังสูงสุด 113 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
เมื่อไมเนอร์เชนจ์แล้วเครื่องยนต์แบ่งเป็น 1.6 (คาบูเรเตอร์)ใช้ล้อขนาด(PCD 4รู100 ออฟเซต +38)กับ 2.0 (คาบูเรเตอร์)เหมือนเดิม
โดยตัดรุ่น 2.0 GL AUTO (คาบูเรเตอร์)ออกไป และเพิ่มรุ่น 2.0 GLi AUTO (หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI)
ปล. ถ้าข้อมูลผิดขออภัยด้วยนะคร๊าบบ - -*
-
ตัวที่รีวิวให้ดูคือ st 171 โฉมที่เรียกว่าหน้ายิ้ม รุ่น GL ครับ :ซื้อมามือ2ครับ
หยิบกุญแจแล้วไปเลยย
กุญแจ ไม่มีรีโมท คลาสสิกสมัยนิยม มีแต่ ตราโตโยต้า เท่านั้น - -* ไปติดที่ล็อกเกียร์เพื่ม
-
เดินดูรอบๆๆรถกันก่อนดีกว่าครับ พึ่งล้างใหม่ๆๆเลยจัดปายย ^^
ตามสโลแกน ครับ "ความงามที่ไร้เหลี่ยม" จิงๆๆ มองมุมไหนก็ สวย(ใช่ซิรถแกนี้ - -*)
-
ด้านหลัง กับ ไฟทับทิม (เรียกถูกใช่ม่ะ- -*) อันใหญ่ๆๆ คาดท้ายรถ แปะด้วย คำ
ว่า"corona" ติด สปอยเรอตามสมันยินม ตอนนู้นนนน - -*
-
โชว์หน้าเต็มๆๆกะเค้าหน่อย ครับ คาดเล้นสีดำรอบตัวรถ ^^ ไม่แน่นใจว่า คาดทุกรุ่นหรือเปล่า นะครับ-*-
-
ลืมบอกครับ เจ้าตัวนี้ ทำสีมา 2รอบแล้ววว ตอนแรกสุดสีขาวออกห้าง เจ้าของคนที่แล้วจับไปใส่สีแดง เลือดหมูมา - -* พอพ่อผมซื้อมาใช้ๆไปนานเลยจับไปทำสีใหม่กลับออกมา ทองสมใจเลยยเค้าล่ะ - - ที่จับประตูมือ โครเมียม ตามสัมน นิดๆๆ^^
ถ้าจำไม่ผิดมันรุ่นหน้ายิ้มมี 5 รุ่นย่อยคือ 2.0GLI A/T 2.0GLIiM/T 2.0GL M/T 1.6GL
-
ภาพสวยๆๆเนียนๆๆๆ ทายคับคันที่อยู่ข้างหลังนี้ยี้ห้ออาราย รางวัลไม่มีอ่ะ 55+
-
เค้าไปดูในรถเลยดีกว่า - 0 - ภาพข้างนอกหมดล่ะ(นอกนั้นไม่สวยแล้วอ่ะ 55+)
แว๊บบบเปิดประตู
ปล.ทำใจนะครับ - - ข้างในไม่สวยเน้นประหยัด ++ เลยมั่วสีซะ
-
คอนโซนหน้าครับ ยังคงสโลแกน ความงานไร้เหลี่ยม จริงๆๆ 555+ ตามเนื้องานครับ
นาฬิกาดิจิตรอน ล้ำสมันสุดๆๆ 555+ แอร์มิือ ไ่ม่มีระบบAC นะครับ วิทยุเปลี่ยนใหม่
ของเดิมมันเล่นเทป มันไม่ตามสมัน อยากใส่ CD~ กะเขาบ้าง 555+ แต่ในที่สุด ก็ฟังแต่ จส100 555+ นานๆๆทีเปิดCD ฟัง 555+ แอบใส่แอมป์ไว้ สวิกเขียวๆๆทิ้งไว้ก่อน??
-
มาถึงคอนโซนกลางครับ มีที่ใส่ของได้นิดหน่อย อย่าใส่เยอะนะครับ เบรคมือมันพาดกลางที่เก็บของเลยใส่ไม่ได้เยอะ 55+
หลัง มีพักแขนให้นนิดหน่อย
-
เปิดเค้ามา ยัด CD ได้หลายแผ่นอยู่ :P
ปล.นี้ทำความสะอาดแล้วนะนี้ไม่งั้น รกมากกก 555+
สามารใส่ขวดน้ำ 600 มล.ได้ 2ขวดมั้ง นะ - -*
-
มองข้างบน ฟิ้ววว มีไฟส่องแผนที่ด้วยยย ที่บังแดด มีกระจกข้างคนขับ อันเดียว
-
แอบซิ่งครับ ของเดิม ไม่ใส่อยากซิ่ง- -* จัดปาย momo ไม่รู้แท้หรือปลอด 55+
พ่อซื้อมา ผมก็ดูไม่เป็น :P ปล่อยเลยตามเลย 55+
-
หน้าปัด สะอาดตาครับ ^^ สีขาวดูง่ายดี^^ ไมล์วิ่งมาแล้ว เกือบ สามแสนน
วิ่งมา 20 ปี แล้ววว วิ่ง กรุงเทพ-พิษณุโล ,พิษณุโลก-กรุงเทพ จนนับมิได้ (เกี่ยวไหม ??- -*) 55+
จากซ้ายไปขวานะครับ เข็มน้ำมัน เข็มความเร็ว วัดรอบ ความน้ำร้อน ครับ^^
-
ประตูด้านคนขับครับบบ ข้างล่างมีช่องใส่ของ ใส่หนังสือได้เล่น ถึง 2เล่ม ไม่สามรถใส่ขวดหน้าได้ แม้แต่ขนาดเดียว - * - ติดลำโพง ตามสมัยนู้นน สงสัยฮิตเปิดดังๆๆ หรือไงกัน - -* ที่เปิดประตูดูแปลกๆๆดี^^
-
ที่เก็บของด้านข้างคนขับ ครับ จุของได้เยอะมากๆๆ ตอนกลางคืน มีไฟส่องให้ด้วย
แต่ลืมถ่ายมาให้ดู - -* ขอโทษ คร๊าบบบ T^T
-
กระจกไฟฟ้า ข้างคนขับออโต้ ข้างเดียว -..- เซ็นทันล็อก แต่กระจกมองข้างแบบมือ เน้อๆๆๆ
อายุรถเริ่มเยอะ ปัญหากระจกไฟฟ้าเริ่มมากขึ้นตามตัว กระจกไฟฟ้าทุกด้าน จะขึ้นยาก ชอบตกร่อง ต้องค่อยจับมันให้เข้าร่องเวลากดขึ้น ไม่งั้นขึ้นไม่สุด เลยไม่อยากเปิดล่ะเซง - -*
-
เปิดประตูหลังบางครับ ^^ ปุ่มเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า ฝั่งในประตูเลยยย ไม่มีที่เก็บของ อีกตามเคยยย - *-
-
เบาะหลังกึ่งผ้ากึ่งหนังครับ 2 ลาย 555+(ตังไม่ค่อยมีเลยทำตามงบครับT^T )เอาไว้ซักวันจะทำให้เหมือนข้างหน้า 55+ ทำไปก็ไม่รู้ให้ใครนั่งเพราะขับคนเดียวอีกล่ะ พ่อบอกงั้น - -* งัดที่พิงแขนมานั่งก็โอเคอยู่ครับ ^^ พท. หลังจากงัดที่พิงแขนมาวางแก้ว น้ำได้ 2แก้วครับ
-
เปิดท้ายรถครับ พท.เก็บของมีไม่มาก เพราะติดแก๊สหลายปี เพราน้ำมันแพงสู้ไม่ไหว $_$ เดียวตัวเบา มีลำโพงคู่หนังซ้ายขาว เอาให้ดัง 555+
-
ดิสเบรคหน้า ดรัมเบรคหลังครับ แมค์เดิมๆๆไม่อยู่ตั้งแต่เจ้าของเดิม แล้วว
เลยใส่ ของมิตซู แลนเซอร์ ซีเดีย ตัวไมเนอร์ปายยย
รัดด้วย bridgestone 185/65R14 ครับ
ล้อหน้า
-
ล้อหลังครับ ดรัมเบรค bfgoodrich 185/65R14 เหมือนเดิมครับ
-
ข้อมูลทางเทคนิค
ครับ พูดนำก่อนล่ะกัน - -*
ตัวนี้ไมเนอร์จากหน้ายักษ์
CORONA ST 191ประมาณปี '87-'89 (หน้ายักษ์)
รุ่น 2.0 ช่วงแรกแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ 2.0 GL เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ 2.0 GL AUTO เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ใช้ เครื่องยนต์เหมือนกัน รหัส 3S-F (คาบูเรเตอร์) แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว คาร์บูเรเตอร์ กระบอกสูบและช่วงชักเท่ากันที่ 86.0 มม.1,998 ซีซี อัตราส่วนการอัด 9.3:1 กำลังสูงสุด 113 แรงม้า(PS) ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
CORONA ST 171ประมาณปี '91-'93 (หน้ายิ้ม)
รุ่นสูงสุด 2.0 GLi เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์รหัส 3S-FE (หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI) อัตราส่วนการอัด 9.8:1
กำลังสูงสุด 128 แรงม้า(PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.3 กก.-ม.ที่ 4,400 รอบ/นาที พร้อมล้อแมกซ์ขอบ 14 นิ้ว
(PCD 5รู100 ออฟเซต +38 กว้าง 5.5 นิ้ว)และยางขนาด 195/60/14
ทุกรุ่น ใช้ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน โดยมีเพาเวอร์ในรุ่น 2.0 ระบบช่วงล่างแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หน้า-หลัง ดิสก์เบรกหน้าพร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัม ยกเว้นรุ่น 2.0 GLi เป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเรียบง่าย ฝากระโปรงหน้าแบบเรียบ ขนานกับกระจังหน้าซี่นอน กันชนหน้าเว้นช่องดักลม 2 ชั้น มุมซ้าย-ขวา ติดตั้งไฟเลี้ยว ด้านข้างติดตั้งคิ้วยางกันกระแทก (ยกเว้นรุ่น XL) กันชนหลังแบบเต็ม ป้ายทะเบียนติดตั้งระหว่างไฟท้ายที่แบ่งเป็นช่องย่อยๆ
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง = 60 ลิตร
มิติตัวถังยาว 4,480 มม. กว้าง 1,690 มม. สูง 1,370 มม. ระยะห่างฐานล้อ 2,525 มม
ปล. รูปที่โชว์เป็น 1.6 GL ครับ^^
-
จบแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบ
สรุปเลยย
ถ้า สนใจรถยนต์รุ่นนี้และมีเงินพอ ควรเลือกรุ่นสูงสุดที่ปรับโฉมแล้ว คือ 2.0 GLi AUTO ปี 1991 ขึ้นมา เพราะจะได้เครื่องยนต์แรงกว่าและอุปกรณ์มาตรฐานแบบครบครัน แต่ถ้าเท้าไม่หนัก และพอใจกับสมรรถนะและอุปกรณ์ของรุ่น 1.6 ก็สามารถประหยัดเงินได้อีกหลายหมื่นบาท เพียงแต่ซื้อมาแล้ว ไม่ควรแต่งต่อ เพราะถ้าทำเช่นนั้น ควรขยับไปซื้อรุ่น 2.0 แบบครั้งเดียวจบไม่ต้องเหนื่อยดีกว่า
จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ คือ ความไม่จุกจิกในการดูแล ทนทานทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง อะไหล่มีมาก ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แท็กซี่มิเตอร์บางคันแตะหลักล้านกิโลเมตรไปแล้วก็มี รูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบๆ ไม่หวือหวา จึงยังดูไม่ล้าสมัยแม้จะลงตลาดมาถึง 20 ปีแล้วก็ตาม
อะไหล่เป็นอีกจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ เพราะนอกจากในศูนย์บริการแล้ว ยังมีอะไหล่เชียงกง และอะไหล่เทียบและเทียมให้เลือกมีมากในราคาไม่แพงโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ แท็กซี่มิเตอร์รุ่นนี้เริ่มหมดอายุและต่อทะเบียนไม่ได้แล้ว อะไหล่ก็พอมีในเชียงกง
ถ้าใช้กันมานานจนเครื่องยนต์หมดอายุ ก็สามารถเปลี่ยนได้ด้วยหลายทางเลือก เช่น เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดิมรหัส 3S-FE 128 แรงม้า (PS) หรือขยับเพิ่มความแรงขึ้นมาอีกนิดด้วยบล็อก 3S-GE 170 แรงม้า (PS) และแรงสุดด้วย 3S-GTE เทอร์โบ 245 แรงม้า (PS) สามารถวางได้โดยดัดแปลงไม่มาก เพราะเป็นบล็อก S เหมือนกัน
จากกำลัง ของเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี หัวฉีด 128 แรงม้า กับตัวถังหนักประมาณ 1 ตัน จึงมีความคล่องตัวในทุกช่วงความเร็วพอสมควร ระบบช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ หนึบและนุ่มนวลในความเร็ว ต่ำ-ปานกลาง แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงจัดๆ อาจรู้สึกว่านิ่มไปเล็กน้อย
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ ^^ ติชมได้ครับ^^
เครติดข้อมูล
www.coronathailand.com
-
รุ่นหน้ายักษ์ใช้รหัสว่า ST191 ครับ ถ้าหน้ายิ้มจะเป็นST171
ที่บ้านผมเคยใช้เมื่อหลายปีมาแล้วเป็นรถที่เครื่อง+ช่วงล่างดีมากๆ
พ่อผมขับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วิ่ง220 ยังนิ่งมากครับ
เครื่อง2.0คาบูนี่วิ่ง200สบายๆเลยครับ
;D ;D
-
ก็เงี้ยรถเก่าต้องทำใจเอาครับ ขอบคุณครับสำหรับรีวิวนะครับ
-
เห็นแต่รหัสนี่ไม่กระดิกเลยครับ ใส่ยี่ห้อโตโยต้าไว้สักนิดเผื่อคนไม่ทราบอย่างผมด้วยก็ขอบคุณครับ
ข้อมูลรีวิวเป็นประโยชน์ดีครับ คนที่หามือสองรุ่นนี้ก็ต้องลองมาอ่านดูซักหน่อยครับ จะเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ;D ;D ;D
-
;D ขอทายว่ารถที่เห็นไกลๆลิบนั่น เป็น ซีตรอง BX16 แหงมๆคับน้อง
-
ตอนเด็กๆ เเม่ใช้รุ่นนี้ครับ
รับส่งพวกผมไปโรงเรียน อิอิอิ
ขอบคุณมากครับ