Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กรกฎาคม 15, 2016, 09:13:14
-
MG GS 2.0 Turbo X 4WD
1,310,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 20L4E DOHC 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว
TGI-TECH ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. Direct Injection พร้อม Turbocharged
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 88.0 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1
กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
ที่ 2,500 - 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sportronic
6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ปล่อย CO2 194g./km.
(http://upic.me/i/r0/mggs_1.jpg) (http://upic.me/show/58920282)
อัตราเร่ง 0-100 km/h (เกียร์ D)
#1 10.78 sec
#2 10.82 sec
#3 10.79 sec
#4 10.80 sec
อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 10.79 วินาที
----------------------------------------------------------------------------------------
อัตราเร่ง 80-120 km/h (เกียร์ D)
#1 7.79 sec
#2 7.74 sec
#3 7.78 sec
#4 7.73 sec
อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 7.76 sec
----------------------------------------------------------------------------------------
ความเร็วสูงสุด แต่ละเกียร์ (เกียร์ D)
เกียร์ 1 50 km/h @ 5,800 rpm
เกียร์ 2 95 km/h @ 5,900 rpm
เกียร์ 3 140 km/h @ 5,900 rpm
เกียร์ 4 194 km/h @ 5,900 rpm
เกียร์ 5 211 km/h @ 4,650 rpm
----------------------------------------------------------------------------------------
Top Speed อยู่ที่ 211 km/h @ 4,650 rpm (ที่เกียร์ 5)
----------------------------------------------------------------------------------------
(http://upic.me/i/9e/mggs_2.jpg) (http://upic.me/show/58920287)
ความเร็วมาตรวัด 100 km/h ความเร็ว GPS 97 km/h
ความเร็วมาตรวัด 110 km/h ความเร็ว GPS 107 km/h
----------------------------------------------------------------------------------------
ความเร็ว @ รอบเครื่องยนต์ (ที่เกียร์สูงสุด เกียร์ 6)
80 km/h @ 1,400 rpm
100 km/h @ 1,700 rpm
110 km/h @ 1,900 rpm
----------------------------------------------------------------------------------------
Fuel Consumption อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ระยะทางบน Trip Meter A 92.3 km.
เติมน้ำมัน Techron 95 แบบไม่เขย่ารถ 7.97 Litres
เฉลี่ยที่ความเร็ว 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง เปิดแอร์ นั่ง 2 คน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทำได้เฉลี่ย 11.58 km/l
----------------------------------------------------------------------------------------
ตารางเปรียบเทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน
(http://upic.me/i/f7/mggs_3.jpg) (http://upic.me/show/58920292)
----------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
ปล.1 มาตรฐานการทดสอบของเราในทุกๆคัน เป็นอย่างไร ?
การเทสต์ อัตราเร่ง - อัตราสิ้นเปลือง ตามมาตรฐานของ Headlightmag.com
เปิดแอร์ นั่ง 2 คน น้ำหนักรวมไม่เกิน 160 กิโลกรัม โดย J!MMY และ น้องตัวเล็ก
ในทีมอีก 1 คน ทดสอบในเส้นทางเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน ปั๊มน้ำมันเดียวกัน
ปล.2 เพื่อให้แน่ใจกับตัวเลขที่ออกมาว่าไม่ผิดเพี้ยน เราได้มีการ
เอารถ MG GS มาทดสอบถึง 2 คัน ผลปรากฎว่าตัวเลขได้พอๆกันทั้ง 2 คัน
ปล.3 ความเห็นจากคุณแพนเบื้องต้น ก่อนจะออกมาเป็น
บทความ Full Review ที่จะได้อ่านกัน
3 Likes
- ช่วงล่าง และ พวงมาลัย เจ๋งใกล้เคียง CX-5
- เบาะหลังสบาย เอนได้ และ เจ๋งกว่า CX-5
- ออพชั่นติดรถ เจ๋งกว่า CX-5 ที่ราคาเท่ากัน ถ้าไม่นับเรื่องถุงลม
3 Dislikes
- 218 แรงม้า วิ่งเหมือน X-Trail 171 ม้า (ต้น,เร่งแซง,checkout) ชนะเขาที่ท้อปสปีด..
- อัตราสิ้นเปลืองนั่นรถ 2.0 Turbo หรือ V6-V8 ??
- การกัดลายวัสดุพลาสติกน่าจะดูดีกว่านี้
การที่วิ่งไม่ออก อ้างเรื่องน้ำหนักไม่ได้แล้ว เพราะ GS หนักกว่า X-Trail แค่ 4 กิโลกรัม
ไอ้ 0-100 ที่ MG เคลมว่า 8.2 วิ นั่นเขาเขียนอยู่ว่าหมายถึงรุ่นขับหน้า และ น่าจะใช้
คนขับผอมๆคนเดียว ภายใต้ข้อกำหนดของ MG
-
กินจุ ไม่แรงสม 200 ม้าเลยนิ ???
-
อัตราเร่งแทบจะพอๆกับแค่cx5 2.0เองเหรือเนี่ย น่าผิดหวังกับตัวเลขแรงม้าบนกระดาษ
-
ไหนโฆษณาลงในโบชัว์ว่า 0-100 ใช้เวลา 7 วินาทีกว่า ขึ้โม้ดี
-
เห็นตัวเลขแล้วเพลีย............... :-\ :-\
-
4WD จะเอาความเร็วเท่า 2WD ก็คงไม่ใช่นะ
-
ไม่เด่นสักด้าน
-
กินน้ำมัน ความเร่งไม่ดี กำๆๆ > <
-
เคยดูคลิปอัตราเร่งสังเกตว่าช่วงออกตัวจะหน่วงมากๆ
คาดว่าคงเป็นเกียร์ที่ทำให้ตัวเลขออกมาช้าขนาดนี้
ส่วนเรื่องเปลืองนี่ไม่รู้จะว่าไง กินยังกับ SUV สมัยสิบปีก่อน
ตอนแรกนึกว่าจะมาเบียด CX-5 2.5 ได้ตามที่โฆษณาไว้จริงซะอีก
-
แรงม้าหลอกๆมาทุกรุ่นซินะ
-
แรงโม้รึนี้ :P
-
ในเมืองไม่กิน 7-8 โลลิตรเลยหรอเนี่ย
-
เป็นไปตามคาดเหมือน mg6 mg5
เรื่องเครื่องยนต์ยังห่างค่ายยุ่นอยู่หลายช่วงตัว...
-
แรงม้า กับ Spec ผมต้องคุณด้วย 0.7 ใช้ม่ะ ถึงจะเท่ากับความเป็นจริง
งั้นราคาก็คงต้อง คูณ 0.7 ด้วยซิครับ
จากตัวเลขในโบรชัวร์กับความเป็นจริง ทำให้ความน่าเชื่อถือของข้อมูลจาก M... ลดลงไปเยอะเลย
ไม่ดี กับความเชื่อถือของผู้บริโภคนะครับ ไม่แรงก็บอกไม่แรง แรงก็บอกแรงวิครับ อย่าโม้มากเกินไป
-
ดูตามตาราง ตัวเลขนี้ สู้ CX-5 2.5 ไม่ได้สักอยางยกเว้นราคา :P
ราคาก็สูสีกับ CX-5 2.0 อีก
สรุป CX-5 2.0 ดีกว่ามั๊ง ประหยัดน้ำมันกว่าด้วย
-
ซดโฮกเลยครับ ดูรอบเครื่องก้อไม่สูงมากมาย แต่ซดได้ใจเลย
-
สำหรับ GS นั้น คันแรกที่เรารับมาเป็นสีส้ม
ผมเอาไปขับ ถังแรกรับต่อมาจากจิมมี่ มีทำเทสต์อัตราเร่ง เทสต์ท้อปสปีด มีวิ่งในเมือง และขับมาเมก้าบางนา ถังแรกนั่น 5.2 กิโลเมตรต่อลิตรครับ หมูเอาไปขับในเมืองกับอัดเล่นบนทางด่วน ได้ 5 กว่าๆเหมือนกัน ในขณะที่ขับทางไกล รถไม่ติดมาก วิ่ง 110-120 และกดบางช่วง เร่งสนุกๆแค่บางช่วงสั้นๆ ยังได้แค่ 8.8 กิโลเมตรต่อลิตร
เรารู้สึกว่าเออมันกินจุไปป่ะวะ ดูแล้วไม่น่าใช่ เหตุผลข้อนี้ กับเรื่องช่วงล่างที่ดังและแข็ง ทำให้เราต้องขอยืมรถสีน้ำตาลอีกคันมาทดสอบ ซึ่งก็ได้ผลตามที่คุณรู้ คันส้ม 11.15 กิโลลิตร คันน้ำตาล 11.58 กิโลลิตร ไม่มีปาฏิหารย์ครับมันได้แค่ประมาณนี้ ส่วนอัตราเร่งคันสีน้ำตาลลองจับเวลาแล้วต่างกันไม่เกิน 0.2 วินาทีทั้งตอนออกตัวและเร่งแซง หาความต่างไม่ได้มากกว่านั้น เราก็ยึดตัวเลขคันส้มไว้สำหรับอัตราเร่ง
แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ คันส้มเวลาขับใช้งานปกติของหมู เคยได้ 5กิโลลิตรกว่าๆ พอมาเป็นคันสีน้ำตาล ขับเส้นทางเดียวกัน ตีนคนขับคนเดียวกัน คราวนี้กลับมีเลขระดับ 6-7 กิโลลิตรโผล่มาให้เห็น และไม่เจอ 5 กิโลลิตรเลยตลอดการทดสอบคันน้ำตาล
ถ้าใครยังหาว่าผมอคติกับ MG ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ..นี่คือพยายามทำให้เห็นแล้วว่าดันแค่ไหนผลมันก็ได้ตามที่กล่าวไป คงไม่มีการเอารถคันที่ 3 มาทดสอบ เพราะ 2 คันนี่ก็น่าจะเห็นภาพกันแล้วว่าอะไรคืออะไร ค่าน้ำมันวิ่งทดสอบ 2 คันรวมกันแตะหมื่นแล้วครับ ถ้าเว็บผมอคติกับ MG จริงอย่างที่ติ่งบนเฟซบุ๊คบางคนว่า ผมเอามาขับคันเดียว ด่าๆๆแล้วก็จบแล้วมั้ง ค่าน้ำมันเว็บออกเองแตะหมื่น เสียเวลาลองอีกสองอาทิตย์ จะไปเสียเวลาเสียเงินกับมันทำไมถ้าไม่ใช่ว่าผมต้องการค้นหาความจริง?
-
ดูคลิปนี้ทดสอบตัว 2WD วิ่งไว้ 8 วิจริงๆ ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=QrO_s1W7Z6w
แสดงว่าระบบ 4WD ของ MG นี่ทำให้เสียกำลังไปเยอะมาก
-
แรงม้าที่ล้อกี่ตัวนี่ ว่าแต่กินน้ำมันดุเดือดมากเลยอ่า
-
น่าผิดหวัง สรุปมีดีแค่ตัวเลขที่โชว์
-
:-X :-X :-X :'( :'( :'( :'(
-
https://www.youtube.com/watch?v=fZFEXkGonyA
หาเจอละครับ คลิปจากเว็บ carside นี่เอง
นับเวลาตั้งแต่ได้ยินเสียงกดคันเร่งมิดจนถึงรถเคลื่อนออก ผมว่ามีเกือบ 2 วิ
แล้วกว่าเทอร์โบจะมา กว่ารถจะพุ่งผมว่าเสียเวลาไป 3-4 วิ ไม่เหมือน CX-5 เครื่อง NA กดปุ๊บพุ่งออกไปปั๊บ
-
หลังจากดูตารางนี้ผมก็แอบปลื้มตัวเองเล็กน้อยที่กะว่าอัตราเร่ง มันพอๆ CX5 2.0 แฮะๆ พอๆกันจริงด้วย
ผมไม่ชอบคันเร่งมันเลย พวงมาลัยก็เบาเกิน แต่ช่วงล่างมันดูหนักแน่นดี เบาะหลังดีกว่า CX5
สำหรับ GS นั้น คันแรกที่เรารับมาเป็นสีส้ม
ผมเอาไปขับ ถังแรกรับต่อมาจากจิมมี่ มีทำเทสต์อัตราเร่ง เทสต์ท้อปสปีด มีวิ่งในเมือง และขับมาเมก้าบางนา ถังแรกนั่น 5.2 กิโลเมตรต่อลิตรครับ หมูเอาไปขับในเมืองกับอัดเล่นบนทางด่วน ได้ 5 กว่าๆเหมือนกัน ในขณะที่ขับทางไกล รถไม่ติดมาก วิ่ง 110-120 และกดบางช่วง เร่งสนุกๆแค่บางช่วงสั้นๆ ยังได้แค่ 8.8 กิโลเมตรต่อลิตร
เรารู้สึกว่าเออมันกินจุไปป่ะวะ ดูแล้วไม่น่าใช่ เหตุผลข้อนี้ กับเรื่องช่วงล่างที่ดังและแข็ง ทำให้เราต้องขอยืมรถสีน้ำตาลอีกคันมาทดสอบ ซึ่งก็ได้ผลตามที่คุณรู้ คันส้ม 11.15 กิโลลิตร คันน้ำตาล 11.58 กิโลลิตร ไม่มีปาฏิหารย์ครับมันได้แค่ประมาณนี้ ส่วนอัตราเร่งคันสีน้ำตาลลองจับเวลาแล้วต่างกันไม่เกิน 0.2 วินาทีทั้งตอนออกตัวและเร่งแซง หาความต่างไม่ได้มากกว่านั้น เราก็ยึดตัวเลขคันส้มไว้สำหรับอัตราเร่ง
แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ คันส้มเวลาขับใช้งานปกติของหมู เคยได้ 5กิโลลิตรกว่าๆ พอมาเป็นคันสีน้ำตาล ขับเส้นทางเดียวกัน ตีนคนขับคนเดียวกัน คราวนี้กลับมีเลขระดับ 6-7 กิโลลิตรโผล่มาให้เห็น และไม่เจอ 5 กิโลลิตรเลยตลอดการทดสอบคันน้ำตาล
ถ้าใครยังหาว่าผมอคติกับ MG ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ..นี่คือพยายามทำให้เห็นแล้วว่าดันแค่ไหนผลมันก็ได้ตามที่กล่าวไป คงไม่มีการเอารถคันที่ 3 มาทดสอบ เพราะ 2 คันนี่ก็น่าจะเห็นภาพกันแล้วว่าอะไรคืออะไร ค่าน้ำมันวิ่งทดสอบ 2 คันรวมกันแตะหมื่นแล้วครับ ถ้าเว็บผมอคติกับ MG จริงอย่างที่ติ่งบนเฟซบุ๊คบางคนว่า ผมเอามาขับคันเดียว ด่าๆๆแล้วก็จบแล้วมั้ง ค่าน้ำมันเว็บออกเองแตะหมื่น เสียเวลาลองอีกสองอาทิตย์ จะไปเสียเวลาเสียเงินกับมันทำไมถ้าไม่ใช่ว่าผมต้องการค้นหาความจริง?
ผมก็คิดว่าคุณแพนออกจะปราณี MG กว่าปรกติด้วยซ้ำ เพียงแต่ค่ายนี้ชอบทำ Advertorial จนคนที่ติดตามอาจจะชินกับมันเกินไปและมองว่าคนอื่นไม่กลาง
-
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 20L4E DOHC 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว
TGI-TECH ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. Direct Injection พร้อม Turbocharged
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 88.0 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1
กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
ที่ 2,500 - 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sportronic
6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ปล่อย CO2 194g./km.
*$* 2.0 Di-turbo ทำไม tune ให้รองรับ e85 ได้
แปลว่าค่ายอื่นๆ ใช้เป็นข้ออ้างที่ไม่ทำใช่ไหม?
หรือกลัวว่ายังไม่คุ้มทุน ที่จะทำ
ขอปรบมือให้ MG ที่กล้าจะแตกต่าง ให้รู้ว่า TURBO ก็ e85 ได้
เจ้าตลาดทั้งหลาย จะได้ยอม ให้ในสิ่งที่ควรจะให้ได้แล้ว
ไม่ใช่รอแต่ตัว MC คนจะใช้รถนะครับ ไม่ใช่ซื้อหุ้น มารอเกร็งกำไร ได้
MG ถือว่าพัฒนาไปในทางที่ดี ตั้งแต่ MG6 โดนด่ากระหน่ำ พอ MC ก็ปรับปรุง
MG3 ชมซะส่วนใหญ่ แค่เกียร
MG5 กลางๆ
MG GS ถือว่าดี
MG ติดอย่างเดียว การออกแบบภายใน กับวัสดุ ถ้าปรับปรุงในส่วนนี้ได้ ข้างหน้าคงสดใส
-
น่าจบมาไดโน่จริงๆ ว่าม้าจริงรึโม้
-
ทำไมต้องตามใคร?.....
ตัวเลขต่างๆแบบนี้ ผมก็ขอตามๆคนอื่นเขาไปดีกว่า
ไม่ตามใครสงสัยผมจะหลงทาง!
-
ผมคงคาดหวังกับมันมากไป
-
ขอบคุณสำหรับ รีวิว ครับ 8)
-
ตัวขับหน้าน้ำหนักเบากว่าขับสี่ 100 กิโลกรัม
การเทสต์ของเว็บเรา เปิดแอร์ น้ำหนักบรรทุก 150-160 น้ำมันเบนซิน 95
ถ้าเอาตัวขับหน้ามา แล้วลดน้ำหนักคนขับลงให้เหลือ 60 โล แล้วก็ทดสอบวันที่อากาศไม่ร้อน เอาเย็นๆแบบช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมว่าตัวขับหน้าก็มีสิทธิ์ลุ้น 8.xx ได้ แต่ตัวขับสี่ผมว่าคงไม่ได้
แต่เออ น่าคิดมั้ย สมมติว่าผมเอา CX-5 2.2 D ขับหน้ามาเจอกับ GS ขับหน้า เอาคนขับให้หนัก 60 โลเหมือนกัน อากาศเย็นเท่ากัน จะเป็นยังไง CX-5 2.2F FWD บรรทุก 150-160 โล อากาศปกติที่เราทดสอบมันก็ 8 ปลายอยู่แล้วด้วย
ดูน้ำหนักรถ ดูอัตราทดเกียร์ ดูม้าครับ
อย่าง MG3 ที่ว่าอืด อืดเพราะน้ำหนักเยอะ หลัง 100 ไปมันไม่อืดนะ ยิ่งลงเกียร์ 4 ไปวิ่งได้ไม่แพ้รถญี่ปุ่น
ส่วน MG5 มี 129 ม้า อืดเพราะน้ำหนักตัวมากกว่า Civic Turbo แต่หลัง 100 ไปไม่อืด ยิ่งวิ่ง 1.5 กม. ความเร็วเข้าเส้นพอๆกับ Mazda 3 2.0 ต่างกันบวกลบไม่เกิน 5 กม./ชม. เอารถสภาพดีๆมาลองวิ่งดูได้
MG6 อืดเพราะน้ำหนัก ก่อน 120 ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่รถมันต้องมีแรงบ้าง ไม่งั้น 1.5 กม. ทำความเร็ว 192 ไม่ได้ครับ 192 นี่เร็วน้องๆ Sylphy Turbo แล้วนะ รถ 1.8 มีโบก็จริง แต่ตัวหนักกว่า Teana นะ
MG GS ม้าเยอะกว่าเพื่อนร่วมคลาสไปไกลมากในสเป็ค 30-40 ตัวได้ น้ำหนักก็หนักกว่า X-Trail 2.5V 4WD แค่ 4 กก. ดังนั้นเอาน้ำหนักมาอ้างไม่ได้ ดูบนกระดาษเฉยๆไม่มีทางที่ X-Trail 2.5 ชนะ GS ได้สักกะนิด แต่คุณดูตัวเลขที่เราทดสอบมา แล้วลองชดเชย factor เรื่อง GPS ที่นิสสันค่อนข้างโม้มากกว่าไปด้วย คุณจะเห็นว่ายังไง X-Trail ก็ไล่ได้ถ้าไม่เกิน 120 แต่ถ้าเกิน 120 ผมเดาว่า MG จะทิ้งห่างไปอย่างช้าๆ ถ้าไม่มีที่ว่างเกิน 2 กิโลเมตร ยังไง GS ก็ขึ้นไม่มาก คนในนิสสันตามอ่านทะเบียนได้ครบทุกตัวแต่อ่านจังหวัดอาจจะไม่ชัด
ส่วน CX-5 ..ไม่ต้องสืบนะครับ ดูตัวเลขกันเอา เอาเรื่อง GPS มาอ้างไม่ได้ด้วยเพราะไมล์ค่อนข้างตรงพอกันทั้งคู่ และน้ำหนัก CX-5 ดีเซลขับสี่ก็หนักกว่า GS ครับ
คือถ้าสมมติ GS เปิดตัวมาแล้วบอกว่ามีแรงม้า 184 หรือ 195 ตัว ผมอาจจะเฉยๆครับ แต่พอ 218/350Nm/1.64 ตัน เกียร์ 1 หมด 50 เกียร์ 2 หมด 95 เกียร์ 3 หมด 140 ผมคาดหวังว่ามันจะดีกว่านี้ อย่างน้อยต้องชนะ X-Trail 2.5 แบบไร้ข้อกังขา
- - - - -
สมรรถนะและอัตราเร่ง ไม่ใช่ปัจจัยหลักของรถ SUV ก็จริง บางคนบอกว่าผมบ้าหรือเปล่า ใครเขาซื้อรถมา 0-100, 80-120 กัน เขาขับไปเรื่อยๆกันทั้งนั้น ถ้าขับเรื่อยๆไม่ต้องใช้ 218 ม้าหรอกมั้ง แล้วถ้าไม่ใช้ 0-100, 80-120 วัดจะเอาอะไรวัด? โอบิวัน เคนโนบี? ถ้าไม่สนอัตราเร่งก็อ่านๆข้ามไปดิคนอื่นเขามีหน้าที่ทดสอบกันตามแบบของเขา
- - - - - -
โอ้ย เขียนมาซะขนาดนี้ เอาให้จบเลยละกัน คือบางคนก็มองรถมันห่วยไปซะทุกอย่าง แต่ผมว่ารถคันนึงมีดีมีเสียแลกกันนะ ถ้าบอกผมก็บอกให้ทั้งสองด้าน
- ถึงแม้เกียร์จะยังไม่ดี แต่เวลาเล่นโหมด M มันส์ใช้ได้นะ ที่สำคัญคือตบแป้นลดเกียร์ 3 ครั้งติดๆกันเร็วๆ เกียร์ลงจาก 6 มา 3 ให้ด้วย! แต่ขาขึ้นเกียร์ตบซ้อนๆกันมันยังขึ้นให้แค่เกียร์เดียว อันขาขึ้นนี่ไม่ซีเรียส ส่วนการเลือกเกียร์ของรถในโหมด D เวลาขึ้นทางชัน ผมว่าดีกว่า MG6 Minorchange ภาพรวมออกมา เวลาขับแบบเน้นเรียบร้อย MG6 ดีกว่า แต่พอเล่น M Mode GS สนุกกว่า
- เบาะไฟฟ้าข้างคนนั่ง..แม้เว็บเรากับเว็บบริษัทของ MG จะบอกว่าข้างคนนั่งปรับ 4 ทิศ แต่ผมยืนยันว่ามันเป็น 6 ทิศ ถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย เออ ทำไม MG เขาไม่เขียนว่าเบาะคนนั่งปรับได้ 6 ทิศ อันนี้มันถือว่าดีนะครับ คู่แข่งบางคันราคาแพงกว่ายังให้ปรับมือหรือปรับ 4 ทิศเลย
- GS มี Smart key/Push Start มาให้ ถ้าคุณใช้งานระบบนี้ในรถญี่ปุ่นได้ ก็ใช้ GS ได้ เพราะมันง่ายพอกัน ใครยังมีปัญหาอีก ผมว่าไม่ใช่รถแล้วล่ะที่มีปัญหา
- มาตรวัดต่างๆใหญ่และหน้าตาคล้าย MG5 แต่มีจอ MID แบบ MG6 อ่านค่าไม่ยาก แต่ MID อาจต้องเพ่งบ้าง
- สวิตช์กระจกมองข้างสามารถกดพับได้โดยไม่ต้องเปิดคู่มือดู และอยู่ในตำแหน่งที่คาดเดาได้ง่ายขึ้น
- ระบบนำทางใช้งานง่าย Lexus คันละหลายล้านยังรู้สึกว่าใช้แล้วหงุดหงิดกว่าของ MG ..แน่นอนว่าใช้ง่ายกว่าของ Nissan
- เบาะหลังนั่งสบายกว่า CX-5, X-Trail Hybrid
- พวงมาลัยเซ็ตมาจบ ขนาดจิมมี่ที่คุณก็รู้ว่า sensitive เรื่องพวงมาลัยมากยังบอกเลยว่าปล่อยไว้แบบนี้ของมันแหละดีแล้ว
- ช่วงล่าง ผมให้ใกล้เคียงกับ CX-5 ต่างกันที่เวลาหักหลบแรงๆ ตัวรถ GS จะยวบกว่านิดเดียว และจังหวะคอสะพานท้าย GS จะดิ้นดีดกว่านิดๆ เวลาเล่นกันหนักๆบู๊ๆ ผมให้ GS ดีกว่า CR-V และดีกว่า X-Trail Hybrid และเบนซิน
- ถึงแม้ 218 ม้าจะวิ่งไม่ได้ตามคาดหวัง แต่ถ้าคุณมีงบ 1.4 ล้าน อยากได้รถที่ล้อหลังหมุนได้เวลาติดหล่ม อยากได้อุปกรณ์เยอะๆ และอยากได้อัตราเร่งที่สู้พวก 2.5/2.2D ราคาล้านหกได้ มันก็มีแต่ GS 4WD นี่ล่ะครับที่ทำได้
- และเติม E85 ได้ (อันที่จริงการเติม E85 ได้นี่ล่ะทำให้รถมันราคาถูกลง ลองเติมไม่ได้ดิราคาจะไปไกลกว่านี้)
..สงสัยเขียนซะขนาดนี้ยังต้องทำรีวิวอีกมั้ย แต่ก็คงทำแหละครับ
-
คนเทสยังยืมรถมาขับอีกคันได้ แต่ถ้าลูกค้าซื้อไปบอกว่ากินน้ำมัน ใครจะเชื่อ หรือใครจะคิดว่าขนาดนี้
แอบคิดถึงคันอื่นของยี่ห้ออื่นด้วยนะเนี่ย :-\
และจะบอกใครได้ ใครจะแก้ให้
-
ตายๆ แบบนี้ สาวกยิ่งน้อยอยู่ โดนเหยียบจมดินเลยงานนี้ ในทางกลับกัน ถ้ามัน MC แล้วปรับแก้ไขจนทำได้ดีกว่าค่ายอื่นดูดิ สาวกพี่ TO น้อง Hon หรือน้อง Sky จะเงียบกริบ....
-
ต้องดูกันอีกนานครับ สำหรับ ยี่ห้อนี้ ;D
-
ที่ทดสอบได้ตัวเลขดี 8-9 วินาที อาจเป็นเพราะว่าใช้อุปกรณ์ดิจิตอลเช่น race logic, vericom ฯลฯ วัด อุปกรณ์พวกนี้จะเริ่มจับเวลาตั้งแต่รถเริ่มเคลื่อนที่ โดยไม่เอาสภาวะคันเร่งหน่วงมาเป็นปัจจัย แต่ Headlightmag จะจับเวลาตั้งแต่กระแทกคันเร่งลงไป
รถบางคันเกียร์ตอบสนองช้า คันเร่งหน่วง เหยียบจมมิด รอบเครื่องกวาดไปแล้ว 3 พันรอบ แล้วรอไปเหอะ 1 - 1.5 วินาที รถถึงเริ่มเคลื่อนที่
ยังไงก็ตาม ผมว่า Headlightmag ทดสอบได้ตรงตามที่ใช้งานจริงที่สุด เพราะมันต้องนับตั้งแต่เหยียบคันเร่งลงไปเลย
เวลาที่คนเร่งเเซงในชีวิตประจำวันและเวลาคับขัน เขาก็ต้องกะระยะตั้งแต่เหยียบคันเร่งจมมิดเลย
ไม่ใช่ต้องมาเผื่อว่า เอ้า กรูจะเเซงแล้วนะ เหยียบคันเร่งล่วงหน้าไว้เลย 1.5 วินาที ในชีวิตจริงคนขับคงไม่อยากทำแบบนั้น เว้นแต่อยู่ในภาวะจำยอม ต้องปรับตัวเข้ากับรถเอง
ถ้ารถคันเน่งหน่วง เกียร์หน่วงก็ถือว่าเป็นข้อเสีย/จุดด้อย ของรถคันนั้นเองที่จะได้เวลาอัตราเร่ง 0-100 แย่
-
ดูคลิปนี้ทดสอบตัว 2WD วิ่งไว้ 8 วิจริงๆ ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=QrO_s1W7Z6w
แสดงว่าระบบ 4WD ของ MG นี่ทำให้เสียกำลังไปเยอะมาก
FYI คลิปนี้เป็นการทดสอบที่ทำโดย MG Thailand ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=nU67CA71FxU
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
-
เท่าที่อ่านดู HLM ก็พยายามช่วย MG พอสมควรครับ ยกข้อเด่นมาช่วย ข้อด้อยที่ถูกโจมตี
ผมชอบวลี น้องที่พูดในคลิปซิลฟี่มาก "รถกินน้ำมัน แก้ได้ด้วยเงิน" 555
MG GS ก็เหมือนกัน ราคามันก็พอๆ กับคู่แข่ง ดีกว่า CX 5 นิดเรื่องที่นั่งแถวหลัง
แต่ซดโฮกไปหน่อยนะครับ HLM เทสได้ 11 กม/ล แต่ถ้าใช้งานจริงในเมือง
ผมก็เดาๆ ไว้ตั้งแต่แรกว่า น่าจะลงได้ ถึง 5-6 กม/ล และการที่คันเร่งหน่วงเยอะ
จะทำให้การขับในเมือง เป้นอะไรที่น่าหงุดหงิดมาก ยกเว้นจะมีโหมดสปอร์ตมาช่วย
-
ดูคลิปนี้ทดสอบตัว 2WD วิ่งไว้ 8 วิจริงๆ ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=QrO_s1W7Z6w
แสดงว่าระบบ 4WD ของ MG นี่ทำให้เสียกำลังไปเยอะมาก
FYI คลิปนี้เป็นการทดสอบที่ทำโดย MG Thailand ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=nU67CA71FxU
เค้าน่าจะมีดอกจันว่า *ความเร็ว 8.2 วินาทีแต่มีการหน่วงคันเร่งเพื่อถนอมเกียร์ 2.5 วินาทีก่อนจับเวลา
-
ต้องลองจับเวลา 0-200km/h ครับ หรือลงควอเตอร์ไมล์ครับ ถ้าอยากรู้ใครแรงกว่า รถบางทีไม่ได้แซงกันช่วง 0-100 หรือ 80-120 พ้น120ไป อาจโดนยาวๆนะครับ
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
ห่างไกลคำว่าสูสีครับ ได้ 183 เท่า X-Trail 2.5
CX-5 2.5 ได้ 192
ถ้าจะเอาให้ได้ 192 GS ต้องมีผมขับแค่คนเดียว จะทำได้ เพราะลองมาแล้ว
แต่ตอนที่ได้ 183 มีผม หมู และบอม ซึ่งคันอื่นๆของเราส่วนมากเวลาลองก็จะมีคนในรถกัน 3-4 คน
เรียกได้ว่าเงื่อนไขเท่ากัน อย่าไปวัดกับ CX-5 2.5 เลยครับ แต่กับ X-Trail 2.5 นี่ได้ และอาจจะ
ขึ้นหน่อยๆด้วย
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
ห่างไกลคำว่าสูสีครับ ได้ 183 เท่า X-Trail 2.5
CX-5 2.5 ได้ 192
ถ้าจะเอาให้ได้ 192 GS ต้องมีผมขับแค่คนเดียว จะทำได้ เพราะลองมาแล้ว
แต่ตอนที่ได้ 183 มีผม หมู และบอม ซึ่งคันอื่นๆของเราส่วนมากเวลาลองก็จะมีคนในรถกัน 3-4 คน
เรียกได้ว่าเงื่อนไขเท่ากัน อย่าไปวัดกับ CX-5 2.5 เลยครับ แต่กับ X-Trail 2.5 นี่ได้ และอาจจะ
ขึ้นหน่อยๆด้วย
แปลว่า เจ้าเครื่องตัวนี้ ม้าลงพื้นคงไม่เท่าไหร่จริงๆ เพราะถ้าเทียบกับพวก MG5 กับ MG6 ที่พี่แพนเคยเทสนั้น 0-100 กับ 80-120 ด้อยกว่าชาวบ้าน แต่ดันไปเก็บชาวบ้านเขาช่วงปลาย หรืออาจจะต้องรอตัว 2WD เพราะตัวนี้ 4WD เทียบกับ CX5 2.5 2WD อาจจะไม่ตรงนัก
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
c200 คุณใช้เวลาที่วินาทีในการทำความเร็ว 0-200
ไม่เป็นไรผมหามาให้ละจากรีวิวคุณเองนั่นแหละ
Preve (S Mode) Prius (PWR Mode) City (S Mode) C200 Kom (S Mode)
>> 0-200 43.81 - - 37.89
Top Speed 218 189 195 242
สรุปว่าได้ประมาณ 37 วิ แล้ว civic ล่ะ ไปหาคลิปดูเอา น้าแจ่มลองเทสรถเดิมๆไว้ที่ 33 วินาที แล้วอย่างนี้หลัง180 civic ต้องตามตมฝุ่นยังไง
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
c200 คุณใช้เวลาที่วินาทีในการทำความเร็ว 0-200
ไม่เป็นไรผมหามาให้ละจากรีวิวคุณเองนั่นแหละ
Preve (S Mode) Prius (PWR Mode) City (S Mode) C200 Kom (S Mode)
>> 0-200 43.81 - - 37.89
Top Speed 218 189 195 242
สรุปว่าได้ประมาณ 37 วิ แล้ว civic ล่ะ ไปหาคลิปดูเอา น้าแจ่มลองเทสรถเดิมๆไว้ที่ 33 วินาที แล้วอย่างนี้หลัง180 civic ต้องตามตมฝุ่นยังไง
ผมไม่รู้นะว่า คลิปน้าแจ่มอะไรของคุณนั่นที่ว่าได้ 33 นี่คือ นั่งกี่คน แล้วผมไม่ทราบด้วยว่า civic rs 1.5t ที่ 100 km/h นี่ ความเร็วตาม GPS เท่าไหร่ แต่สำหรับ C200 W204 ที่ความเร็ว 100 GPS ได้ 98 และที่ 200 GPS ได้ 197 ส่วนตัวเลขที่คุณยกมาอ้างนั้น ผมเทสกันแบบที่พี่ๆ HLM เทสเลย คือ นั่ง 2 คน
ส่วน civic rs ที่ไปลองมาน่ะ ของลูกพี่ลูกน้องมาเอง ไว้จะถ่ายรูปมาให้นะครับ ลองกันแบบนั่ง 1 คนทั้งคู่ น้ำหนักพอๆกัน ผมไม่ได้ไปลองขับรถเขาด้วย ก็ลองกันแบบขำๆ ที่ความเร็ว 180 ผมก็นำเขาประมาณเกือบ 1 คันรถนะ แล้วที่ผมบอกว่าหลัง 180 รอกินฝุ่นนี่พูดผิดตรงไหนหว่า ก็ในเมื่อ civic rs มัน lock 207 ส่วน C200 ยังไหลชิวๆได้ถึง 210 หลัง 210 จะไปเนือยๆจนถึง 242 คุณกลับไปอ่านใหม่นะครับ ถ้าผมบอกว่า ที่ 180 C200 ผมทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นนี่จะบอกว่าผมโม้ก็ยินดี เพราะแบบนั้นมันโม้จริงๆ
กรุณาจับประเด็นผมให้ดีก่อนจะโพสต์ครับ
"พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว" ลองให้คนอื่นอ่านอีกที่ก็ได้ครับว่าประโยคนี้สรุปว่า มันหมายความที่ความเร็ว 180 C200 ทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นหรือยังไง??
-
ตัวเลขไม่ค่อยน่าประทับใจเลยแหะ โดยเฉพาะอัตรากินน้ำมัน :(
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
c200 คุณใช้เวลาที่วินาทีในการทำความเร็ว 0-200
ไม่เป็นไรผมหามาให้ละจากรีวิวคุณเองนั่นแหละ
Preve (S Mode) Prius (PWR Mode) City (S Mode) C200 Kom (S Mode)
>> 0-200 43.81 - - 37.89
Top Speed 218 189 195 242
สรุปว่าได้ประมาณ 37 วิ แล้ว civic ล่ะ ไปหาคลิปดูเอา น้าแจ่มลองเทสรถเดิมๆไว้ที่ 33 วินาที แล้วอย่างนี้หลัง180 civic ต้องตามตมฝุ่นยังไง
ผมไม่รู้นะว่า คลิปน้าแจ่มอะไรของคุณนั่นที่ว่าได้ 33 นี่คือ นั่งกี่คน แล้วผมไม่ทราบด้วยว่า civic rs 1.5t ที่ 100 km/h นี่ ความเร็วตาม GPS เท่าไหร่ แต่สำหรับ C200 W204 ที่ความเร็ว 100 GPS ได้ 98 และที่ 200 GPS ได้ 197 ส่วนตัวเลขที่คุณยกมาอ้างนั้น ผมเทสกันแบบที่พี่ๆ HLM เทสเลย คือ นั่ง 2 คน
ส่วน civic rs ที่ไปลองมาน่ะ ของลูกพี่ลูกน้องมาเอง ไว้จะถ่ายรูปมาให้นะครับ ลองกันแบบนั่ง 1 คนทั้งคู่ น้ำหนักพอๆกัน ผมไม่ได้ไปลองขับรถเขาด้วย ก็ลองกันแบบขำๆ ที่ความเร็ว 180 ผมก็นำเขาประมาณเกือบ 1 คันรถนะ แล้วที่ผมบอกว่าหลัง 180 รอกินฝุ่นนี่พูดผิดตรงไหนหว่า ก็ในเมื่อ civic rs มัน lock 207 ส่วน C200 ยังไหลชิวๆได้ถึง 210 หลัง 210 จะไปเนือยๆจนถึง 242 คุณกลับไปอ่านใหม่นะครับ ถ้าผมบอกว่า ที่ 180 C200 ผมทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นนี่จะบอกว่าผมโม้ก็ยินดี เพราะแบบนั้นมันโม้จริงๆ
กรุณาจับประเด็นผมให้ดีก่อนจะโพสต์ครับ
"พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว" ลองให้คนอื่นอ่านอีกที่ก็ได้ครับว่าประโยคนี้สรุปว่า มันหมายความที่ความเร็ว 180 C200 ทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นหรือยังไง??
https://www.youtube.com/watch?v=n0A99Gjt-I8 (https://www.youtube.com/watch?v=n0A99Gjt-I8)
แปะให้ก็ได้ถ้าขี้เกียจหา
ตีความใหม่ก็ได้ที่บอกว่า พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก แปลว่าออกตัวโดนซีวิคนำใช่มัย แล้วมาตีคู่ตอน 120 ใช่มั้ย
เอาแค่นี้ก่อน ถ้าตีคู่ซีวิคที่ 120 ได้ แปลว่าความเร็วหลังจากนั้นก็แซงซีวิคออกใช่มั้ย เอาเป็นว่าผมเชื่อละกัน
แต่ผมสงสัยถ้าไหลแซงซีวิคได้หลัง 120 ทำไมตัวเลข 0-200 กลับใช้เวลามากกว่าซีวิค ช่วยตอบข้อนี้หน่อย ก่อนค่อยไปหาว่าหลัง 180 โดนรึป่าว
ถามว่าพูดผิดตรงไหน ทำไมไม่บอกว่าที่ความเร็ว 207 เริ่มทิ้งห่างซีวิคเพราะโดนล็อคล่ะ มาบอกหลัง 180 โดนทิ้ง คุณกำลังสนใจอะไรกันแน่ อัตตราเร่งหรือท็อปสปีด
-
รบกวนคุณแพนและทีมงานนิดนึงครับ เรื้องข่วงล่าง
ที่บอกว่า. ช่วงล่าง." พอๆ." กับ cx5
จะรบกวน อธิบายในแง่ expression <>=
ก่อนหน้านี้เห็นอธิบายในรุปแบบ
Mazda3>>>civic>>>syphy
จึงอยากทราบความเห็นของhml ในข่วงล่าง
Cx5. Mggs.
หากอธิบายได้รบกวนด้วยครับเพื่อประกอบการพิจารณา
-
ผมว่ามันช้าเพราะคันเร่งมันหน่วงมากกว่า มันคล้ายๆกับ C200 W204 ที่บ้านเลย คือพอเหยียบลงไปแล้วมันคิดนาน แต่พอมันพุ่งไปแล้วนี่คือมายาวๆ เอาง่ายๆอย่าง civic rs 1.5t ถ้าดูตัวเลขที่พี่ๆเทสไว้ 0-100 8.7 กับ 80-120 6.2 เทียบกับ C200 ที่พี่ๆเคยเทสไว้ 0-100 9.7 กับ 80-120 7.7
ใครเห็นตัวเลข civic rs แล้วคิดว่า โห ตรูจะเอาไปเก็บ c200 ได้สบายๆแน่ๆ เผลอๆจะเก็บ c250 ด้วยซ้ำ แต่ลืมคิดไปว่านิสัย benz ชอบ set คันเร่งแบบหน่วงๆ ผมไปลองมาแล้วครับ ออกตัวพร้อมกัน civic rs นี่กระโจนไปก่อนเลย พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว
กับ gs ผมก็ว่ายังไง 1.5 km ก็น่าจะสูสีหรืออาจจะดีกว่า cx 5 2.5 นะ แน่ตอนเร่งแซงนี่แหละมันทำให้เสียจังหวะจริงๆคันเร่งแบบนี้
c200 คุณใช้เวลาที่วินาทีในการทำความเร็ว 0-200
ไม่เป็นไรผมหามาให้ละจากรีวิวคุณเองนั่นแหละ
Preve (S Mode) Prius (PWR Mode) City (S Mode) C200 Kom (S Mode)
>> 0-200 43.81 - - 37.89
Top Speed 218 189 195 242
สรุปว่าได้ประมาณ 37 วิ แล้ว civic ล่ะ ไปหาคลิปดูเอา น้าแจ่มลองเทสรถเดิมๆไว้ที่ 33 วินาที แล้วอย่างนี้หลัง180 civic ต้องตามตมฝุ่นยังไง
ผมไม่รู้นะว่า คลิปน้าแจ่มอะไรของคุณนั่นที่ว่าได้ 33 นี่คือ นั่งกี่คน แล้วผมไม่ทราบด้วยว่า civic rs 1.5t ที่ 100 km/h นี่ ความเร็วตาม GPS เท่าไหร่ แต่สำหรับ C200 W204 ที่ความเร็ว 100 GPS ได้ 98 และที่ 200 GPS ได้ 197 ส่วนตัวเลขที่คุณยกมาอ้างนั้น ผมเทสกันแบบที่พี่ๆ HLM เทสเลย คือ นั่ง 2 คน
ส่วน civic rs ที่ไปลองมาน่ะ ของลูกพี่ลูกน้องมาเอง ไว้จะถ่ายรูปมาให้นะครับ ลองกันแบบนั่ง 1 คนทั้งคู่ น้ำหนักพอๆกัน ผมไม่ได้ไปลองขับรถเขาด้วย ก็ลองกันแบบขำๆ ที่ความเร็ว 180 ผมก็นำเขาประมาณเกือบ 1 คันรถนะ แล้วที่ผมบอกว่าหลัง 180 รอกินฝุ่นนี่พูดผิดตรงไหนหว่า ก็ในเมื่อ civic rs มัน lock 207 ส่วน C200 ยังไหลชิวๆได้ถึง 210 หลัง 210 จะไปเนือยๆจนถึง 242 คุณกลับไปอ่านใหม่นะครับ ถ้าผมบอกว่า ที่ 180 C200 ผมทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นนี่จะบอกว่าผมโม้ก็ยินดี เพราะแบบนั้นมันโม้จริงๆ
กรุณาจับประเด็นผมให้ดีก่อนจะโพสต์ครับ
"พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก จนหลัง 180 นี่ rs รอกินฝุ่นอย่างเดียว" ลองให้คนอื่นอ่านอีกที่ก็ได้ครับว่าประโยคนี้สรุปว่า มันหมายความที่ความเร็ว 180 C200 ทิ้ง civic rs ไม่เห็นฝุ่นหรือยังไง??
https://www.youtube.com/watch?v=n0A99Gjt-I8 (https://www.youtube.com/watch?v=n0A99Gjt-I8)
แปะให้ก็ได้ถ้าขี้เกียจหา
ตีความใหม่ก็ได้ที่บอกว่า พอซัก 120 นี่ผมกลับมาตีคู่ได้ละแล้วค่อยๆเขยิบออก แปลว่าออกตัวโดนซีวิคนำใช่มัย แล้วมาตีคู่ตอน 120 ใช่มั้ย
เอาแค่นี้ก่อน ถ้าตีคู่ซีวิคที่ 120 ได้ แปลว่าความเร็วหลังจากนั้นก็แซงซีวิคออกใช่มั้ย เอาเป็นว่าผมเชื่อละกัน
แต่ผมสงสัยถ้าไหลแซงซีวิคได้หลัง 120 ทำไมตัวเลข 0-200 กลับใช้เวลามากกว่าซีวิค ช่วยตอบข้อนี้หน่อย ก่อนค่อยไปหาว่าหลัง 180 โดนรึป่าว
ถามว่าพูดผิดตรงไหน ทำไมไม่บอกว่าที่ความเร็ว 207 เริ่มทิ้งห่างซีวิคเพราะโดนล็อคล่ะ มาบอกหลัง 180 โดนทิ้ง คุณกำลังสนใจอะไรกันแน่ อัตตราเร่งหรือท็อปสปีด
ผมตอบให้นะ ตัวเลข 37.89 เป็นตัวเลขจากหน้าปัดรถ ในสถานะที่นั่ง 2 คน ในขณะที่คลิปน้าแจ่มที่ว่านั่น ผมถึงได้ถามว่านั่งกี่คนไงครับ 33 วินาทีจากหน้าปัด แล้วผมก็ให้ข้อมูลคุณด้วยว่า ที่ 200 C200 GPS ได้ 197 แล้วที่ 200 Civic RS ได้เท่าไหร่ล่ะ?
ไม่เป็นไร ผมเอาตัวเลขที่เมืองนอกเขาเทส 0-200 มาให้ดูในสภาวะควบคุมปัจจัย ความเร็วคิดตาม GPS มาให้ดู
http://www.automobile-catalog.com/car/2016/2297390/honda_civic_touring_sedan.html
http://www.automobile-catalog.com/car/2007/1549925/mercedes-benz_c_200_kompressor.html
สรุปว่า 0-200 ตาม GPS Civic ได้ 47.8 วินาที C200 ได้ 37.4 วินาที ต่อให้ 0-160 C200 kom ก็เร็วกว่า
ผมสรุปส่งท้ายให้นะว่าการเทสรถน่ะ อย่างแรก อย่าดูจากคลิป 2 คลิปแล้วเอาเวลามาเทียบกัน ตราบใดที่มันไม่ใช่สถาวะเดียวกันทั้งในแง่สภาวะอากาศ ถนน น้ำหนักตัวคนนั่ง อย่างที่ 2 กรุณาดูด้วยว่าความเพี้ยนของไมล์รถแต่ละคันมันเท่าไหร่ ตัวเลขที่ผมบอก 37.89 ผมจับจากไมล์รถ ซึ่งมันก็ค่อนข้างใกล้เคียง GPS ส่วน civic rs ผมเดานะว่า ที่ 207 ความเร็วจริงน่าจะแถวๆ 200 พอดี แปลว่าไมล์มันเพี้ยนกว่ากัน โอเคในแง่อัตราเร่งมันอาจไม่เห็นความต่าง แต่ความเร็วปลายมันเห็นแน่นอน
-
ผมแปะให้เหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=IThSMeEuV2E
ในคลิปเขาบอก 0-190 ใช้เวลาประมาณ 27 วิ แปลว่า ถ้ากดต่อถึง 200 ยังไงก็ไม่ถึง 33 วิ แบบนี้ผมเอามาเทียบกับ civic rs ได้มั้ยล่ะครับ
ในคลิปนี่เร็วกว่าชัดเจน ไมล์ก็เพี้ยนน้อยกว่าอีกห่างหาก
ความจริงในกระทู้นี้มันไม่ได้มีประเด็นอะไรเกี่ยวกับ civic rs เลยนะ ผมแค่เปรียบเทียบว่า ตัวเลขของ MG ที่มันออกมาดูช้ากว่าคู่แข่งมาก เพราะคันเร่งมันหน่วง ทั้งๆที่ความจริงเวลาเหยียบยาวๆมันไม่ได้แย่ เหมือน C200 ที่บ้าน แล้วผมก็ลองเทียบกับ civic rs ที่พึ่งไปลองกันมาแบบขำๆให้ดู
สรุปแล้วกันนะครับ ว่า 0-100 80-120 น่ะ จะ Civic RS หรือ C200 มันกินกันไม่ลงหรอก มันสูสีกันมากๆ เผลอๆ Civic จะดีกว่าด้วย เพราะคันเร่งไม่หน่วง แต่พอกดยาวๆก็อย่างที่บอกไป ประเด็นมันมีแค่นั้นครับ
-
รบกวนคุณแพนและทีมงานนิดนึงครับ เรื้องข่วงล่าง
ที่บอกว่า. ช่วงล่าง." พอๆ." กับ cx5
จะรบกวน อธิบายในแง่ expression <>=
ก่อนหน้านี้เห็นอธิบายในรุปแบบ
Mazda3>>>civic>>>syphy
จึงอยากทราบความเห็นของhml ในข่วงล่าง
Cx5. Mggs.
หากอธิบายได้รบกวนด้วยครับเพื่อประกอบการพิจารณา
ย่อมได้ครับ
FORCX5ER>MG GS>X-Trail>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
คุณอาจจะเห็น Forester ไม่ชัด พอดีมันคร่อมกับ CX-5 อยู่
ถ้าแยกเป็นลักษณะแต่ละด้าน ไม่เอาแบบภาพรวมก็ได้
ในแง่ความมั่นใจที่่ความเร็วสูง 140 หักเปลี่ยนเลนแรงๆ
CX5>MG GS>X-Trail>Forester>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
[โช้คของ Forester ตัวใหม่นุ่มกว่าโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์เลยยวบขึ้น, X-Trail Hybrid ท้ายออกแรงกว่าตัวธรรมดามาก]
ในแง่การวิ่งที่ความเร็วสูง แล้วเจอถนนไม่เรียบหรือคอสะพานชันๆ (แต่ไม่ได้หักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนแรงๆ)
Forester>CX5>X-Trail, X-Trail Hybrid, MG GS>>>CR-V
[Forester มีระยะโช้คกับความนุ่มที่ซับแรงดีดไว้ได้เยอะ X-Trail ธรรมดากับ Hybrid ไม่ต่างกันมาก GS คุมหน้าอยู่หมัดแต่หลังดีดนิดๆ]
ในแง่การเข้าโค้งด้วยความเร็ว 100 แรงจีดึงต่อเนื่อง
CX-5>GS>Forester>X-Trail,X-Trail Hybrid>>>CR-V
[Mazda กับ GS บาลานซ์มาได้เยี่ยม Forester ยางไม่ร้องแต่รถยวบ X-Trail รถไม่ยวบมากแต่มีอาการหน้าดื้อบางๆ ตัวไฮบริดเช่นกัน]
ในการเข้าโค้งแคบๆความเร็ว 60-70 ตามเขา ถนนไม่เรียบนัก
Forester>CX5-GS>>X-Trail>X-Trail Hybrid>>>>CR-V
[ขับสี่ตลอดเวลาได้เปรียบ โช้คขอบ Forester ซับแรงดีดไว้ทำให้รถไม่ดิ้น มาสด้าโช้คหลังมีอาการดีดเหมือน GS โค้งทางต่างระดับรู้สึกได้เลยว่าบางเสี้ยววินาทีล้อหลังจะลอยๆ ส่วน X-Trail ไม่ค่อยคล่องเท่าที่ควร เหมือนทำรถมาวิ่งทางตรงเร็วๆมากว่าเล่นตามภูเขา]
ความนุ่มนวลในการโดยสารที่ความเร็วต่ำ
Forester>X-Trail, X-Trail Hybrid>CR-V>>>CX-5, MG GS
[CX-5 กับ GS เป็นรถที่ถ้าผมเป็นผู้โดยสาร วิ่งบนถนนขรุขระ ผมรำคาญมากกว่าสนุก]
พูดง่ายๆคือ ฟีลช่วงล่าง GS นั้น แทบจะ CTRL+C, CTRL+V ของมาสด้ามาเลย ต่างกันเวลาเจอสะพานขาขึ้น การโยนตัวเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง และความกระด้างบางจุด ซึ่งไอ้ที่ต่าง..ก็ไม่ได้ต่างกันมาก บางคนต่อให้เป็นคนเล่นรถอาจไม่รู้สึกว่าต่างด้วยซ้ำครับ
หรืออย่างเคส Civic RS ที่ผมมองว่ายังไงก็ยังสู้ Ford/Mazda ไม่ได้..ถ้าขับบนทางตรงๆ หรือขับทางตรงเปลี่ยนเลนไปมา หรือขับบนสนามแข่งถนนเรียบเนี๊ยบๆ ไม่รู้สึกหรอกครับ ลองเข้าโค้งแรงๆแล้วเจอถนนวงในโค้งที่มันเป็นลอนหรือยกตัวขึ้นสิครับ ท้าย Civic ยังนิ่งสู้ Ford ไม่ได้ครับ..นี่เทียบกับทั้ง EcoBoost และ Saloon รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ด้วยนะครับ ตอนแรกขับรถทดสอบ Honda คันเดียว ตอนหลังได้จับรถของเพื่อน กับของคนอ่านที่สภาพมาสดๆสวยๆสองคัน อาการเดียวกัน รอ Tein ทำโช้คแต่งแล้วเอามาใส่น่าจะจบ เพราะอาการด้านท้ายเหมือนๆกับรถที่โช้คอ่อนกว่าสปริง..คล้ายๆสิ่งที่ Honda เป็นมาตลอดนั่นแหละ แค่ว่ารุ่นนี้มันค่อยๆดีขึ้น และหักแรงๆแล้วมันจะไม่จู่ๆกวาดออกทั้งลำแบบ FD (FD นี่ทั้งผมและเพื่อนเอาขวางลำกันมาแล้วทั้งนั้นครับถ้าทะเล่อทะล่าหักพวงมาลัยเวลาวิ่ง 120)
..ผมกำลังคิดว่าจะเลิกวิธีให้คะแนนช่วงล่างแบบ X>>Y>>Z
เหมือนเขียนไปแล้วสุดท้ายก็ต้องอธิบายอยู่ดี เหมือนเวลาให้คะแนนเป็นดาวๆ พอรวมกันเป็นภาพรวมแล้วดูไม่ค่อยออก
ขนาดลงคะแนนทำ Best Drive หัวข้อช่วงล่างผมยังต้องแยกเลยว่าคะแนนช่วงล่างด้านความมั่นใจ แยกออกจากเรื่องความนุ่มนวล
-
อัตราเร่งดี แต่กินจุจังเลย แรงม้าครบหรือป่าวเนี่ยครับ
-
พูดถึงช่วงล่างท้าย CIVIC ดูท่าจะเป็นปัญหาจริงๆ เห็นหลายเคสมาก ที่ดังๆก็คลิปพวกนี้ หมุนแบบไม่น่าหมุน
https://youtu.be/UT8yvYM-gm8 (https://youtu.be/UT8yvYM-gm8)
https://www.youtube.com/watch?v=QH9nkMhvG8o (https://www.youtube.com/watch?v=QH9nkMhvG8o)
-
รบกวนคุณแพนและทีมงานนิดนึงครับ เรื้องข่วงล่าง
ที่บอกว่า. ช่วงล่าง." พอๆ." กับ cx5
จะรบกวน อธิบายในแง่ expression <>=
ก่อนหน้านี้เห็นอธิบายในรุปแบบ
Mazda3>>>civic>>>syphy
จึงอยากทราบความเห็นของhml ในข่วงล่าง
Cx5. Mggs.
หากอธิบายได้รบกวนด้วยครับเพื่อประกอบการพิจารณา
ย่อมได้ครับ
FORCX5ER>MG GS>X-Trail>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
คุณอาจจะเห็น Forester ไม่ชัด พอดีมันคร่อมกับ CX-5 อยู่
ถ้าแยกเป็นลักษณะแต่ละด้าน ไม่เอาแบบภาพรวมก็ได้
ในแง่ความมั่นใจที่่ความเร็วสูง 140 หักเปลี่ยนเลนแรงๆ
CX5>MG GS>X-Trail>Forester>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
[โช้คของ Forester ตัวใหม่นุ่มกว่าโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์เลยยวบขึ้น, X-Trail Hybrid ท้ายออกแรงกว่าตัวธรรมดามาก]
ในแง่การวิ่งที่ความเร็วสูง แล้วเจอถนนไม่เรียบหรือคอสะพานชันๆ (แต่ไม่ได้หักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนแรงๆ)
Forester>CX5>X-Trail, X-Trail Hybrid, MG GS>>>CR-V
[Forester มีระยะโช้คกับความนุ่มที่ซับแรงดีดไว้ได้เยอะ X-Trail ธรรมดากับ Hybrid ไม่ต่างกันมาก GS คุมหน้าอยู่หมัดแต่หลังดีดนิดๆ]
ในแง่การเข้าโค้งด้วยความเร็ว 100 แรงจีดึงต่อเนื่อง
CX-5>GS>Forester>X-Trail,X-Trail Hybrid>>>CR-V
[Mazda กับ GS บาลานซ์มาได้เยี่ยม Forester ยางไม่ร้องแต่รถยวบ X-Trail รถไม่ยวบมากแต่มีอาการหน้าดื้อบางๆ ตัวไฮบริดเช่นกัน]
ในการเข้าโค้งแคบๆความเร็ว 60-70 ตามเขา ถนนไม่เรียบนัก
Forester>CX5-GS>>X-Trail>X-Trail Hybrid>>>>CR-V
[ขับสี่ตลอดเวลาได้เปรียบ โช้คขอบ Forester ซับแรงดีดไว้ทำให้รถไม่ดิ้น มาสด้าโช้คหลังมีอาการดีดเหมือน GS โค้งทางต่างระดับรู้สึกได้เลยว่าบางเสี้ยววินาทีล้อหลังจะลอยๆ ส่วน X-Trail ไม่ค่อยคล่องเท่าที่ควร เหมือนทำรถมาวิ่งทางตรงเร็วๆมากว่าเล่นตามภูเขา]
ความนุ่มนวลในการโดยสารที่ความเร็วต่ำ
Forester>X-Trail, X-Trail Hybrid>CR-V>>>CX-5, MG GS
[CX-5 กับ GS เป็นรถที่ถ้าผมเป็นผู้โดยสาร วิ่งบนถนนขรุขระ ผมรำคาญมากกว่าสนุก]
พูดง่ายๆคือ ฟีลช่วงล่าง GS นั้น แทบจะ CTRL+C, CTRL+V ของมาสด้ามาเลย ต่างกันเวลาเจอสะพานขาขึ้น การโยนตัวเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง และความกระด้างบางจุด ซึ่งไอ้ที่ต่าง..ก็ไม่ได้ต่างกันมาก บางคนต่อให้เป็นคนเล่นรถอาจไม่รู้สึกว่าต่างด้วยซ้ำครับ
หรืออย่างเคส Civic RS ที่ผมมองว่ายังไงก็ยังสู้ Ford/Mazda ไม่ได้..ถ้าขับบนทางตรงๆ หรือขับทางตรงเปลี่ยนเลนไปมา หรือขับบนสนามแข่งถนนเรียบเนี๊ยบๆ ไม่รู้สึกหรอกครับ ลองเข้าโค้งแรงๆแล้วเจอถนนวงในโค้งที่มันเป็นลอนหรือยกตัวขึ้นสิครับ ท้าย Civic ยังนิ่งสู้ Ford ไม่ได้ครับ..นี่เทียบกับทั้ง EcoBoost และ Saloon รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ด้วยนะครับ ตอนแรกขับรถทดสอบ Honda คันเดียว ตอนหลังได้จับรถของเพื่อน กับของคนอ่านที่สภาพมาสดๆสวยๆสองคัน อาการเดียวกัน รอ Tein ทำโช้คแต่งแล้วเอามาใส่น่าจะจบ เพราะอาการด้านท้ายเหมือนๆกับรถที่โช้คอ่อนกว่าสปริง..คล้ายๆสิ่งที่ Honda เป็นมาตลอดนั่นแหละ แค่ว่ารุ่นนี้มันค่อยๆดีขึ้น และหักแรงๆแล้วมันจะไม่จู่ๆกวาดออกทั้งลำแบบ FD (FD นี่ทั้งผมและเพื่อนเอาขวางลำกันมาแล้วทั้งนั้นครับถ้าทะเล่อทะล่าหักพวงมาลัยเวลาวิ่ง 120)
..ผมกำลังคิดว่าจะเลิกวิธีให้คะแนนช่วงล่างแบบ X>>Y>>Z
เหมือนเขียนไปแล้วสุดท้ายก็ต้องอธิบายอยู่ดี เหมือนเวลาให้คะแนนเป็นดาวๆ พอรวมกันเป็นภาพรวมแล้วดูไม่ค่อยออก
ขนาดลงคะแนนทำ Best Drive หัวข้อช่วงล่างผมยังต้องแยกเลยว่าคะแนนช่วงล่างด้านความมั่นใจ แยกออกจากเรื่องความนุ่มนวล
เขียนแบบนี้ดีแล้วครับพี่แพน ผมชอบ
เวลาอ่านจะได้เอาไปเทียบได้ถูกว่าคันไหนที่เราควรเลือกตามการใช้งาน
ขอบคุณครับ
-
รบกวนคุณแพนและทีมงานนิดนึงครับ เรื้องข่วงล่าง
ที่บอกว่า. ช่วงล่าง." พอๆ." กับ cx5
จะรบกวน อธิบายในแง่ expression <>=
ก่อนหน้านี้เห็นอธิบายในรุปแบบ
Mazda3>>>civic>>>syphy
จึงอยากทราบความเห็นของhml ในข่วงล่าง
Cx5. Mggs.
หากอธิบายได้รบกวนด้วยครับเพื่อประกอบการพิจารณา
ย่อมได้ครับ
FORCX5ER>MG GS>X-Trail>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
คุณอาจจะเห็น Forester ไม่ชัด พอดีมันคร่อมกับ CX-5 อยู่
ถ้าแยกเป็นลักษณะแต่ละด้าน ไม่เอาแบบภาพรวมก็ได้
ในแง่ความมั่นใจที่่ความเร็วสูง 140 หักเปลี่ยนเลนแรงๆ
CX5>MG GS>X-Trail>Forester>>X-Trail Hybrid>>>CR-V
[โช้คของ Forester ตัวใหม่นุ่มกว่าโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์เลยยวบขึ้น, X-Trail Hybrid ท้ายออกแรงกว่าตัวธรรมดามาก]
ในแง่การวิ่งที่ความเร็วสูง แล้วเจอถนนไม่เรียบหรือคอสะพานชันๆ (แต่ไม่ได้หักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนแรงๆ)
Forester>CX5>X-Trail, X-Trail Hybrid, MG GS>>>CR-V
[Forester มีระยะโช้คกับความนุ่มที่ซับแรงดีดไว้ได้เยอะ X-Trail ธรรมดากับ Hybrid ไม่ต่างกันมาก GS คุมหน้าอยู่หมัดแต่หลังดีดนิดๆ]
ในแง่การเข้าโค้งด้วยความเร็ว 100 แรงจีดึงต่อเนื่อง
CX-5>GS>Forester>X-Trail,X-Trail Hybrid>>>CR-V
[Mazda กับ GS บาลานซ์มาได้เยี่ยม Forester ยางไม่ร้องแต่รถยวบ X-Trail รถไม่ยวบมากแต่มีอาการหน้าดื้อบางๆ ตัวไฮบริดเช่นกัน]
ในการเข้าโค้งแคบๆความเร็ว 60-70 ตามเขา ถนนไม่เรียบนัก
Forester>CX5-GS>>X-Trail>X-Trail Hybrid>>>>CR-V
[ขับสี่ตลอดเวลาได้เปรียบ โช้คขอบ Forester ซับแรงดีดไว้ทำให้รถไม่ดิ้น มาสด้าโช้คหลังมีอาการดีดเหมือน GS โค้งทางต่างระดับรู้สึกได้เลยว่าบางเสี้ยววินาทีล้อหลังจะลอยๆ ส่วน X-Trail ไม่ค่อยคล่องเท่าที่ควร เหมือนทำรถมาวิ่งทางตรงเร็วๆมากว่าเล่นตามภูเขา]
ความนุ่มนวลในการโดยสารที่ความเร็วต่ำ
Forester>X-Trail, X-Trail Hybrid>CR-V>>>CX-5, MG GS
[CX-5 กับ GS เป็นรถที่ถ้าผมเป็นผู้โดยสาร วิ่งบนถนนขรุขระ ผมรำคาญมากกว่าสนุก]
พูดง่ายๆคือ ฟีลช่วงล่าง GS นั้น แทบจะ CTRL+C, CTRL+V ของมาสด้ามาเลย ต่างกันเวลาเจอสะพานขาขึ้น การโยนตัวเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง และความกระด้างบางจุด ซึ่งไอ้ที่ต่าง..ก็ไม่ได้ต่างกันมาก บางคนต่อให้เป็นคนเล่นรถอาจไม่รู้สึกว่าต่างด้วยซ้ำครับ
หรืออย่างเคส Civic RS ที่ผมมองว่ายังไงก็ยังสู้ Ford/Mazda ไม่ได้..ถ้าขับบนทางตรงๆ หรือขับทางตรงเปลี่ยนเลนไปมา หรือขับบนสนามแข่งถนนเรียบเนี๊ยบๆ ไม่รู้สึกหรอกครับ ลองเข้าโค้งแรงๆแล้วเจอถนนวงในโค้งที่มันเป็นลอนหรือยกตัวขึ้นสิครับ ท้าย Civic ยังนิ่งสู้ Ford ไม่ได้ครับ..นี่เทียบกับทั้ง EcoBoost และ Saloon รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ด้วยนะครับ ตอนแรกขับรถทดสอบ Honda คันเดียว ตอนหลังได้จับรถของเพื่อน กับของคนอ่านที่สภาพมาสดๆสวยๆสองคัน อาการเดียวกัน รอ Tein ทำโช้คแต่งแล้วเอามาใส่น่าจะจบ เพราะอาการด้านท้ายเหมือนๆกับรถที่โช้คอ่อนกว่าสปริง..คล้ายๆสิ่งที่ Honda เป็นมาตลอดนั่นแหละ แค่ว่ารุ่นนี้มันค่อยๆดีขึ้น และหักแรงๆแล้วมันจะไม่จู่ๆกวาดออกทั้งลำแบบ FD (FD นี่ทั้งผมและเพื่อนเอาขวางลำกันมาแล้วทั้งนั้นครับถ้าทะเล่อทะล่าหักพวงมาลัยเวลาวิ่ง 120)
..ผมกำลังคิดว่าจะเลิกวิธีให้คะแนนช่วงล่างแบบ X>>Y>>Z
เหมือนเขียนไปแล้วสุดท้ายก็ต้องอธิบายอยู่ดี เหมือนเวลาให้คะแนนเป็นดาวๆ พอรวมกันเป็นภาพรวมแล้วดูไม่ค่อยออก
ขนาดลงคะแนนทำ Best Drive หัวข้อช่วงล่างผมยังต้องแยกเลยว่าคะแนนช่วงล่างด้านความมั่นใจ แยกออกจากเรื่องความนุ่มนวล
ขอบคุณมากๆเลยครับคุณแพน🙏
สนใจค่ายMGครับ. แอบส่องๆสืบๆมาสักพัก
ไม่ได้มีเวลาไปเทสเลย
อ่านแล้วถือว่าน่าสนใจครับ
ขอบคุณและติดตามครับ
-
ผมแนะนำว่าคุณ Pegasus ลองไปขับที่ Driving Center ของเขาดูดีกว่า
บางอย่างที่ผมเขียนๆรีวิว ผมก็จะเขียนโดยเทียบกับยี่ห้ออื่นผ่านเกณฑ์และวิธีมองแบบผม
ซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนไปตามที่ผมแก่ลง ตอนเปิดเว็บใหม่ๆ อัตราเร่งมาก่อนเสมอ ตอนนี้
ผมอาจจะเริ่มบ้าอัตราเร่งน้อยลง แต่เริ่มชอบรถที่นั่งขับแล้วเหมือนใส่เสื้อสบายๆมากขึ้น
มีข้อจำกัดหลายอย่างที่เราคนทดสอบพยายามได้ แต่มันคงไม่เหมือนกับคนอ่านได้ลองขับเอง
แต่ถ้าคนทดสอบขับแล้วไม่เขียนอะไรเลย บอกตามโบรชัวร์แล้วก็ไล่คนอ่านไปลองเองตลอด..
ผมว่าผมคงไม่มีงานทำแล้วล่ะครับ
กับ GS ผมรู้สึกว่ามันกังวลใจเวลาจะเชียร์ให้ใครเล่น ไม่ใช่เพราะ MG ทำอะไรผิด แต่เหมือน
เวลาเราเป็นเจ้านาย เป็นหัวหน้าคน เวลามีเด็กใหม่มา เรากล้าให้งานชิ้นที่สำคัญสุดๆกับเขามั้ย?
แต่ถ้าเราอยู่กันมาสักพัก รู้นิสัยกันว่าเชื่อใจได้ ทีนี้ก็ไม่มีปัญหา นั่นคือในแง่การใช้งาน แต่ถ้าเป็น
ในแง่การขับขี่ สมมติให้ผมขับคันนี้ไปเชียงใหม่ เทียบกับ CR-V 2.4 ผมก็เลือก MG ต่อให้ค่า
น้ำมันมันจะบาน เพราะต่อให้ผมแก่ลง ชอบรถสบายขึ้น แต่ลึกๆแล้วผมยังชอบรถที่ขับเร็วๆ
ขับห่ามๆแล้วมั่นใจอยู่ดีครับ
SUV กลุ่มราคาไม่เกินล้านสี่นี่..สมมติผมมีเงินมากพอจะซื้อ ผมยังไม่รู้จะเลือกอะไรเลยเอาจริงๆ
ถ้าโดนเอาปืนจี้หัวให้รีบๆเลือก ผมอาจไปจบกับ X-Trail 2.04WD ที่มีถุงลมแค่ 2 ใบก็ได้
เพราะหลายอย่างมันโอเค เรื่องสบายมันโอเค แต่เรื่องบู๊มันยังไม่สุด ออพชั่นไม่สุด หรือผมจะไป
จบกับ Mazda อันนี้ถูกจริตมากเวลาซัดตึง แต่เวลาขับแบบปกติ มันยังสะเทือนไปนิด (นี่พูดถึง
2.0L) Forester เป็นรถที่ขับทางไกล 120-130 สบายสุดๆ แต่เวลาจะบู๊ อารมณ์มันไม่เล่นด้วย
ทั้งเกียร์ ทั้งเครื่อง ไม่ประทับใจ แต่ระบบขับสี่มันเกาะดีง..ส่วน MG นี่ได้เรี่ยวแรงสู้พวก 2.2/2.5
ได้ระดับนึง ออพชั่นมาครบ ติดที่เกียร์นี่ล่ะที่ยังไม่ประทับใจ ถ้าพูดถึงนิสัยของมันยังไม่เจ๋งเท่า
เกียร์ MG5 ซึ่งคันนั้นผมชูไฟเขียวให้ เกียร์น่าคบ ขับง่าย ไว ได้เรื่องได้ราว ช่วงล่าง MG เหมือน
Mazda เวลาซัด เวลาขับเร็ว ชีวิตมีสุข เวลาเจอถนนสะเทือนๆหรือขับช้าๆ..น่าเบื่อ
-
ผมแนะนำว่าคุณ Pegasus ลองไปขับที่ Driving Center ของเขาดูดีกว่า
บางอย่างที่ผมเขียนๆรีวิว ผมก็จะเขียนโดยเทียบกับยี่ห้ออื่นผ่านเกณฑ์และวิธีมองแบบผม
ซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนไปตามที่ผมแก่ลง ตอนเปิดเว็บใหม่ๆ อัตราเร่งมาก่อนเสมอ ตอนนี้
ผมอาจจะเริ่มบ้าอัตราเร่งน้อยลง แต่เริ่มชอบรถที่นั่งขับแล้วเหมือนใส่เสื้อสบายๆมากขึ้น
มีข้อจำกัดหลายอย่างที่เราคนทดสอบพยายามได้ แต่มันคงไม่เหมือนกับคนอ่านได้ลองขับเอง
แต่ถ้าคนทดสอบขับแล้วไม่เขียนอะไรเลย บอกตามโบรชัวร์แล้วก็ไล่คนอ่านไปลองเองตลอด..
ผมว่าผมคงไม่มีงานทำแล้วล่ะครับ
กับ GS ผมรู้สึกว่ามันกังวลใจเวลาจะเชียร์ให้ใครเล่น ไม่ใช่เพราะ MG ทำอะไรผิด แต่เหมือน
เวลาเราเป็นเจ้านาย เป็นหัวหน้าคน เวลามีเด็กใหม่มา เรากล้าให้งานชิ้นที่สำคัญสุดๆกับเขามั้ย?
แต่ถ้าเราอยู่กันมาสักพัก รู้นิสัยกันว่าเชื่อใจได้ ทีนี้ก็ไม่มีปัญหา นั่นคือในแง่การใช้งาน แต่ถ้าเป็น
ในแง่การขับขี่ สมมติให้ผมขับคันนี้ไปเชียงใหม่ เทียบกับ CR-V 2.4 ผมก็เลือก MG ต่อให้ค่า
น้ำมันมันจะบาน เพราะต่อให้ผมแก่ลง ชอบรถสบายขึ้น แต่ลึกๆแล้วผมยังชอบรถที่ขับเร็วๆ
ขับห่ามๆแล้วมั่นใจอยู่ดีครับ
SUV กลุ่มราคาไม่เกินล้านสี่นี่..สมมติผมมีเงินมากพอจะซื้อ ผมยังไม่รู้จะเลือกอะไรเลยเอาจริงๆ
ถ้าโดนเอาปืนจี้หัวให้รีบๆเลือก ผมอาจไปจบกับ X-Trail 2.04WD ที่มีถุงลมแค่ 2 ใบก็ได้
เพราะหลายอย่างมันโอเค เรื่องสบายมันโอเค แต่เรื่องบู๊มันยังไม่สุด ออพชั่นไม่สุด หรือผมจะไป
จบกับ Mazda อันนี้ถูกจริตมากเวลาซัดตึง แต่เวลาขับแบบปกติ มันยังสะเทือนไปนิด (นี่พูดถึง
2.0L) Forester เป็นรถที่ขับทางไกล 120-130 สบายสุดๆ แต่เวลาจะบู๊ อารมณ์มันไม่เล่นด้วย
ทั้งเกียร์ ทั้งเครื่อง ไม่ประทับใจ แต่ระบบขับสี่มันเกาะดีง..ส่วน MG นี่ได้เรี่ยวแรงสู้พวก 2.2/2.5
ได้ระดับนึง ออพชั่นมาครบ ติดที่เกียร์นี่ล่ะที่ยังไม่ประทับใจ ถ้าพูดถึงนิสัยของมันยังไม่เจ๋งเท่า
เกียร์ MG5 ซึ่งคันนั้นผมชูไฟเขียวให้ เกียร์น่าคบ ขับง่าย ไว ได้เรื่องได้ราว ช่วงล่าง MG เหมือน
Mazda เวลาซัด เวลาขับเร็ว ชีวิตมีสุข เวลาเจอถนนสะเทือนๆหรือขับช้าๆ..น่าเบื่อ
"เวลามีเด็กใหม่มา เรากล้าให้งานชิ้นที่สำคัญสุดๆกับเขามั้ย?"
แหม. คำคมคำนี้สะดุ้งเลยครับ..ชอบๆๆ
ที่แบงค์ผมก็เจออีกมุมเหมือนกันในการที่ปุ้ใหญ่เลือกให้ทำอะไรที่สำคัญๆ
มีบุคคลากรมีประสบการเก่งๆ มีเครื่องมือพร้อม. มีงบสนับสนับ พร้อมทุกอย่าง
ขาด แค่คนกล้าที่มีประสบการ..
ส่วนกล้าแต่grad bay ไม่มีใครเสี่ยง
ขอบคูนครับ
-
ผมแปะให้เหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=IThSMeEuV2E
ในคลิปเขาบอก 0-190 ใช้เวลาประมาณ 27 วิ แปลว่า ถ้ากดต่อถึง 200 ยังไงก็ไม่ถึง 33 วิ แบบนี้ผมเอามาเทียบกับ civic rs ได้มั้ยล่ะครับ
ในคลิปนี่เร็วกว่าชัดเจน ไมล์ก็เพี้ยนน้อยกว่าอีกห่างหาก
ความจริงในกระทู้นี้มันไม่ได้มีประเด็นอะไรเกี่ยวกับ civic rs เลยนะ ผมแค่เปรียบเทียบว่า ตัวเลขของ MG ที่มันออกมาดูช้ากว่าคู่แข่งมาก เพราะคันเร่งมันหน่วง ทั้งๆที่ความจริงเวลาเหยียบยาวๆมันไม่ได้แย่ เหมือน C200 ที่บ้าน แล้วผมก็ลองเทียบกับ civic rs ที่พึ่งไปลองกันมาแบบขำๆให้ดู
สรุปแล้วกันนะครับ ว่า 0-100 80-120 น่ะ จะ Civic RS หรือ C200 มันกินกันไม่ลงหรอก มันสูสีกันมากๆ เผลอๆ Civic จะดีกว่าด้วย เพราะคันเร่งไม่หน่วง แต่พอกดยาวๆก็อย่างที่บอกไป ประเด็นมันมีแค่นั้นครับ
ตัวเองพูดเองแท้ๆ สภาวะไม่เหมือนกันเอามาเทียบไม่ได้ คลิปที่เอามาน่ะ ประเทศอะไร ใช้น้ำมันอะไร ดูอุณหภูมิสิ 17.5 และผมก็ไม่สนด้วยว่าเรากำลังคุยกับเบนซ์ซุปเปอร์ชาจน์หรือเทอร์โบ จะ 5 เกียร์หรือ 7 เกียร์ ตัวไหนกันแน่ ตามปกติทั่วไปสเปครถเคลมอัตตราเร่งไว้ที่เท่าไหร่ ผมไม่เคยเห็นเมืองไทยทดสอบที่ไหนได้เท่าสเปคเท่าที่เคลมไว้เลย ซีวิคจะทำได้ 40 กว่าจริงหรือไม่ ที่ยกมาก็แค่ตัวเลขที่เขียนแปะอยู่ ถ้าคุณจะเชื่อตัวเลขที่เขียนไว้มากกว่าคลิปที่เห็นชัดๆก็เชิญ ถ้าคุณจิมมี่เขียนว่า 0-200 ได้10วิคุณก็เชื่ออย่างนั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นจะมี the clip ไว้ทำไมกัน คุณสนใจว่าเค้านั่งกี่คน ในคลิปก็เห็นอย่างน้อย 2 คนแล้ว และเอาจริงๆผมก็ลองเองกับมือตัวเองแล้วว่าได้กี่วิ ผมถึงกล้าบอกได้เลยว่าถ้าคุณยังทำตัวเลขได้แค่ 37 วิอย่าคิดว่าจะแซงซีวิคได้ในความเร็วไม่เกิน 200 เดี๋ยวจะหาว่าผมอวยแต่ซีวิค ผมเคยลองซีวิคกับ 420d ที่ตัวเลข320dแย่กว่าซีวิคแล้ว บอกได้เลยว่าซีวิคขึ้นไม่ได้ และถ้าไปลองกับ 20i ยิ่งไม่น่ารอด ไม่ต้องไปมองถึงช่วงล่านและระบบขับเคลื่อน
อย่ามาบอกว่าเกียร์หรือคันเร่งมันหน่วงอย่างโน้นอย่างนี้ เราไม่ได้วัดอัตตราเร่งแซง ไม่ได้วัด 0-100 แต่วัด 0-200 ตัวแปรเรื่องเกียร์คันเร่งหน่วงมีผลน้อยมาก ตัวรถและเครื่องยนตร์จะบอกเองว่าไปได้แค่ไหน อย่ามาบอกว่ารถช้าเพราะเกียร์หน่วง ลองดูตัวเลข mg5 mg6 สิในระดับเดียวกันปลายไปไกลกว่าคนอื่น ทั้งๆที่ตัวเลขอัตตราเร่งไม่ได้เด่น พิสูจน์ให้เห็นว่า เครื่องมีแรงของจริง พอมา gs ทำไมตัวเลขปลายได้พอๆชาวบ้านทั้งๆที่ม้าแยอะกว่าหลายตัว นำ้หนักก็ไม่ได้เกินหน้าคู่แข่งของมันมากนัก
-
ผมแปะให้เหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=IThSMeEuV2E
ในคลิปเขาบอก 0-190 ใช้เวลาประมาณ 27 วิ แปลว่า ถ้ากดต่อถึง 200 ยังไงก็ไม่ถึง 33 วิ แบบนี้ผมเอามาเทียบกับ civic rs ได้มั้ยล่ะครับ
ในคลิปนี่เร็วกว่าชัดเจน ไมล์ก็เพี้ยนน้อยกว่าอีกห่างหาก
ความจริงในกระทู้นี้มันไม่ได้มีประเด็นอะไรเกี่ยวกับ civic rs เลยนะ ผมแค่เปรียบเทียบว่า ตัวเลขของ MG ที่มันออกมาดูช้ากว่าคู่แข่งมาก เพราะคันเร่งมันหน่วง ทั้งๆที่ความจริงเวลาเหยียบยาวๆมันไม่ได้แย่ เหมือน C200 ที่บ้าน แล้วผมก็ลองเทียบกับ civic rs ที่พึ่งไปลองกันมาแบบขำๆให้ดู
สรุปแล้วกันนะครับ ว่า 0-100 80-120 น่ะ จะ Civic RS หรือ C200 มันกินกันไม่ลงหรอก มันสูสีกันมากๆ เผลอๆ Civic จะดีกว่าด้วย เพราะคันเร่งไม่หน่วง แต่พอกดยาวๆก็อย่างที่บอกไป ประเด็นมันมีแค่นั้นครับ
ตัวเองพูดเองแท้ๆ สภาวะไม่เหมือนกันเอามาเทียบไม่ได้ คลิปที่เอามาน่ะ ประเทศอะไร ใช้น้ำมันอะไร ดูอุณหภูมิสิ 17.5 และผมก็ไม่สนด้วยว่าเรากำลังคุยกับเบนซ์ซุปเปอร์ชาจน์หรือเทอร์โบ จะ 5 เกียร์หรือ 7 เกียร์ ตัวไหนกันแน่ ตามปกติทั่วไปสเปครถเคลมอัตตราเร่งไว้ที่เท่าไหร่ ผมไม่เคยเห็นเมืองไทยทดสอบที่ไหนได้เท่าสเปคเท่าที่เคลมไว้เลย ซีวิคจะทำได้ 40 กว่าจริงหรือไม่ ที่ยกมาก็แค่ตัวเลขที่เขียนแปะอยู่ ถ้าคุณจะเชื่อตัวเลขที่เขียนไว้มากกว่าคลิปที่เห็นชัดๆก็เชิญ ถ้าคุณจิมมี่เขียนว่า 0-200 ได้10วิคุณก็เชื่ออย่างนั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นจะมี the clip ไว้ทำไมกัน คุณสนใจว่าเค้านั่งกี่คน ในคลิปก็เห็นอย่างน้อย 2 คนแล้ว และเอาจริงๆผมก็ลองเองกับมือตัวเองแล้วว่าได้กี่วิ ผมถึงกล้าบอกได้เลยว่าถ้าคุณยังทำตัวเลขได้แค่ 37 วิอย่าคิดว่าจะแซงซีวิคได้ในความเร็วไม่เกิน 200 เดี๋ยวจะหาว่าผมอวยแต่ซีวิค ผมเคยลองซีวิคกับ 420d ที่ตัวเลข320dแย่กว่าซีวิคแล้ว บอกได้เลยว่าซีวิคขึ้นไม่ได้ และถ้าไปลองกับ 20i ยิ่งไม่น่ารอด ไม่ต้องไปมองถึงช่วงล่านและระบบขับเคลื่อน
อย่ามาบอกว่าเกียร์หรือคันเร่งมันหน่วงอย่างโน้นอย่างนี้ เราไม่ได้วัดอัตตราเร่งแซง ไม่ได้วัด 0-100 แต่วัด 0-200 ตัวแปรเรื่องเกียร์คันเร่งหน่วงมีผลน้อยมาก ตัวรถและเครื่องยนตร์จะบอกเองว่าไปได้แค่ไหน อย่ามาบอกว่ารถช้าเพราะเกียร์หน่วง ลองดูตัวเลข mg5 mg6 สิในระดับเดียวกันปลายไปไกลกว่าคนอื่น ทั้งๆที่ตัวเลขอัตตราเร่งไม่ได้เด่น พิสูจน์ให้เห็นว่า เครื่องมีแรงของจริง พอมา gs ทำไมตัวเลขปลายได้พอๆชาวบ้านทั้งๆที่ม้าแยอะกว่าหลายตัว นำ้หนักก็ไม่ได้เกินหน้าคู่แข่งของมันมากนัก
เอาที่สบายใจเลยครับ ผมขี้เกียจเถียงละ ผมอุตส่าบอดไปละว่า ปัจจัยต่างๆมันมีผล คุณจะเอา 37 วิของผมไปเทียบกับ 33 วิในคลิปนั้น ทั้งๆที่ปัจจัยทุกอย่างต่างกัน แล้วก็คิดเองเออเองว่า civic มันต้องแรงกว่าแน่นอน สรุปแรงกว่าก็แรงกว่าครับ ไม่ต้องไปสนใจอะไรที่เค้าเทสกัน ไมล์เพี้ยนกว่าก็อย่าไปสน คลิปที่เอามาผมก็พยายามบอกคุณตั้งแต่แรกว่า คลิป 2 คลิปน่ะมันเทียบกันไม่ได้ ก็เหมือนที่คุณเอา 37 วิ ของผมไปเทียบ 33 วิ ในวันเวลาที่ต่างกัน อุณหภูมิต่างกัน น้ำหนักคนต่างกัน ความลาดของถนนต่างกัน กระแสลมต่างกัน น้ำมันต่างกัน ที่สำคัญที่สุดไมล์เพี้ยนต่างกัน แล้วคุณก็มาบอก 33 วิเนี่บมันต้องเร็วกว่า 37 วิของผม ผมก็อุตส่าเอาตัวเลขที่เขาเทสมาตรฐานเดียวกันมาเทียบ คุณก็บอกไม่เชื่อ ผมบอกว่าผมไปเทสมากดคันเร่งพร้อมกัน คุณก็ไม่เชื่อ
งั้นเอาเป็นว่า C200 kom โดน civic rs ตั้งแต่ต้นยันปลายแบบไม่เห็นฝุ่นเลยแล้วกันครับ ผมไม่อยากตอบโต้แล้วครับ ดูเหมือนมันเลยการคุยกันที่เป็นเหตุเป็นผลไปละ
-
กลิ่นตุ่ยๆ
มาม่าโชยมาจนต้อง เลื่อนขึ้นไปดู ว่าไม่ใช่กระทู้มาสด้าใช่มั้ย
เด๋วนี้ มีMG มาร่วมวงด้วยดีใจจังไม่เหงาละ
-
กลิ่นตุ่ยๆ
มาม่าโชยมาจนต้อง เลื่อนขึ้นไปดู ว่าไม่ใช่กระทู้มาสด้าใช่มั้ย
เด๋วนี้ มีMG มาร่วมวงด้วยดีใจจังไม่เหงาละ
ไม่ค่อยเกท..มาสด้ามายังไงหรา เห็นพูดMGกัน
แต่มี2ท่าน แตกประเด็น c200 กับ civic rs. (เดี๋ยว2ท่านนีคงเกรงใจท่านสมาชิกอื่นที่สนใจMG และยกหัวข้อไปเองมั้งครับ)
-
เอาตรงๆ เลย
สมรรถนะแบบนี้ กินแบบนี้ แรงได้แค่นี้
หา X-Trail T30 2.5 4x4 ตัวแรกมือสองมาขับ
เหลือตังเติมน้ำมันอีกยี่สิบปีสบายๆ
-
กลิ่นตุ่ยๆ
มาม่าโชยมาจนต้อง เลื่อนขึ้นไปดู ว่าไม่ใช่กระทู้มาสด้าใช่มั้ย
เด๋วนี้ มีMG มาร่วมวงด้วยดีใจจังไม่เหงาละ
ไม่ค่อยเกท..มาสด้ามายังไงหรา เห็นพูดMGกัน
แต่มี2ท่าน แตกประเด็น c200 กับ civic rs. (เดี๋ยว2ท่านนีคงเกรงใจท่านสมาชิกอื่นที่สนใจMG และยกหัวข้อไปเองมั้งครับ)
ผมเกรงใจสมาชิกท่านอื่นจริงๆแหละครับ เอาเป็นว่าถ้าท่าน Alcatraz จะ Discuss เรื่องนี้ต่อ แยกกระทู้ใหม่ดีกว่า จะได้ให้เพื่อนสมาชิกท่านอื่นช่วยออกความเห็นด้วย มีข้อมูลอะไรก็มาแชร์กัน เพราะกระทู้นี้อย่างที่ผมบอกตอนแรก ผมต้องการจะสื่อแค่ว่า ตัวรถ MG GS สมรรถนะมันไม่ได้แย่ขนาดตัวเลขอัตราเร่งที่เห็น แต่ปัญหามันมาจากคันเร่งหน่วงมาก โอเคมันอาจจะไม่ดีเท่า CX5 2.5 แต่ต้องอย่าลืมว่า MG GS ตัวนี้เป็น 4WD ถ้าเป็นตัว 2WD ยังไงตัวเลขต้องดีกว่านี้แน่ๆ อย่างน้อยๆคือตัวเลขมันต้องดีกว่า X-trail 2.5 และ CR-V 2.4 แต่อัตราสิ้นเปลืองมันไม่ไหวจริงๆ กินพอๆกับพวก RX หรือ NX 200t เลย ทั้งๆที่พวกนั้นน้ำหนักรถหนักกว่ามาก
-
แรงม้าลงล้อคงน้อยนะผมว่า อย่างน้อยๆเทสจริงน่าจะได้ซัก8-9 วิ ค่อยสมกับแรงม้าหน่อย แต่อย่างว่ามันมีหลายปัจจัย ถ้าสมตืขับจริงแล้วรู้สึกว่ามันแรงผมก็ว่ามันน่าใช้ดีนะครับ เสียอย่างคือรูปลักษณ์ภายนอกที่ผมมองยังไงก็ดูไม่สวยเลย ไม่เหมือนMG6ที่ยังมีความสวยอยู่
-
น้าแจ่ม ชื่อนี้อาจจะไม่แจ่ม แต่การตลาดแจ่ม
คนยุคใหม่รู้จักเยอะ ยุคเก่าเรียก บ้านๆๆ
-
รถทดสอบเจอปัญหาเกียร์กระตุกเปล่าครับคุณแพน
-
ผิดหวังมากๆเบย
-
ไหนโฆษณาลงในโบชัว์ว่า 0-100 ใช้เวลา 7 วินาทีกว่า ขึ้โม้ดี
[/quote+1ครับ สงสัยทดสอบลงทางลาดแหง๋ๆ
-
วันนี้มีบูธมาตั้งแถวๆ ที่ทำงาน ตัวจริงดูสวยทั้งคัน ยกเว้นด้านหน้าที่ดูหลงยุคไปนิด แต่ด้านท้ายสวยเฉี่ยวทีเดียว
ส่วนเรื่องอัตราเร่ง ก็ตามนั้น ใครจะมาแก้ตัวให้รถอย่างนั้น อย่างนี้ พาลไปโทษน้ำหนักเจ้าของเว็บมั่ง คนจับเวลามั่ง เว็บนี้ก็บอกอยู่ว่า การทดลองนี้ใช้ "มาตราฐานของเว็บนี้" และใช้อย่างนี้กับทุกๆคันที่ผ่านมา คงไม่เป็นปัญหาของผู้เสพข่าวอย่างมีวิจารณญาณหรอกกระมั้งครับ