Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kopy081 ที่ เมษายน 04, 2010, 20:27:41
-
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าควรจะให้มาทั้งสองอย่างนะ แต่ถ้าจะลดต้นทุน
ก็ควรจะเก็บมาตรวัดความร้อนเครื่องยนต์ไว้เพราะถ้าความร้อนเริ่มขึ้นผิดปกติจะได้ตรวจสอบได้ทัน
ไม่ใช่มีแค่ไฟเตือนเมื่อเครื่องร้อนไปแล้ว ส่วนจอแสดงอัตราใช้น้ำมัน รถสมัยก่อนไม่มีก็ไม่เห็นจะเป็นไร
รุ่นใหม่ๆมี บางเจ้าก็ไม่แม่นยำ บางเจ้าให้มาเป็นต่อ100กิโล ดูยากอีกตะหาก
จริงๆมีไปก็มีประโยชน์นะครับ แต่ผมว่ามันไม่จำเป็น
ถามท่านผู้รู้ว่ามาตรวัดความร้อนเครื่องยนต์นี่มันแพงมากหรอครับ หรือว่าเค้าตัดออกเพราะถ้ามีจะทำให้คอนโซลไม่สวย
-
อย่าว่าแต่วัดความร้อนเลยครับ
วัดโวลต์ก็ไม่น่าเอาออกไปเหมือนกัน
ขนาด corolla ตัวท็อป รุ่นก่อนๆเขายังใส่มาให้เลย
-
เค้าคงทำวิจัยมาแล้วล่ะ ว่าเป็นมาตรวัดที่คนใช้รถไม่ค่อยสนใจที่สุด
ส่วนจออัตราสิ้นเปลืองกลับเป็นสิ่งที่คนสนใจ (เพราะน้ำมันแพง ::))
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ เพราะดูจากคนรอบตัวน่ะ
-
ผมว่าน่าจะรวมไว้ในจอ MID ดีกว่าตัดนะ
-
ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่รับไม่ได้ ทำไมต้องตัดเข็มวัดความร้อนออก
ผมคิดว่า ใช้่รถใหม่ๆ ไม่เป็นไรหรอก แต่พอรถแก่ตัวไปน่ะ ต้องคอยแสกนเข็มพวกนี้บ่อยๆ หวาดเสียวๆนะ หุหุ
-
"ผมว่าน่าจะรวมไว้ในจอ MID ดีกว่าตัดนะ"<-- อันนี้เห็นด้วยมากๆเลยครับ ในเมื่อไม่อยากทำเป็นแบบ analog อย่างเก่า งั้นก็ทำเป็นตัวเลข digital แสดงทาง MID สิ (เช่น Water Temp : 82)
-
ผมก็ไม่ชอบครับ
และสงสัยจนถึงทุกวันนี้ว่า บริษัทรถทั้งหลาย จะเอาออกกันไปทำไมครับพี่?
ไม่เข้าใจอย่างแรง
อ้อ เรื่องมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง นั้น เป็นผลทางจิตวิทยาครับ
คนส่วนใหญ่ มองความประหยัดมากขึ้น
เขาเลยใส่มาให้ เพื่อให้คนซื้อรถ ได้ดู และคุมนิสัยตัวเองในการขับไปด้วย
-
ผมว่าน่าจะรวมไว้ในจอ MID ดีกว่าตัดนะ
แบบแลนเซอร์ไงครับ
-
ช่าย พ่อผมก็เป็นคนที่เวลาซื้อรถ ต้องดูมาตรวัดความร้อนเป็นอันดับแรกเลย
คันไหนไม่มี ไม่ซื้อ 5555+
-
อิอิ สวิฟท์ของเรามีสองอย่างเลย ;D
แต่วิ่งในเมืองก็ยังกิน 6-7 โล/ลิตรเหมือนเคย
-
วัดรอบเครื่อง + วัดความร้อน (แบบ Realtime ไม่ใช่ OverHeat แล้วถึงมีไฟเตือน) + วัด Batt.
จำเป็นมาก ๆ ครับ
ยิ่งรถรุ่นใหม่ ๆ ใช้ไฟฟ้าเยอะ ทำไมมันตัดวัด Batt. ออกก็ไม่รู้ Batt. เสียก็เป็นเรื่อง
บางยี่ห้อ (เพิ่งเปิดตัว) มันมีวัดอุณภูมิภายนอก (มีมาทำห..) ครับ แต่ไม่มีวัดความร้อนเครื่อง (ดูมัน)
ผมคนรุ่นเก่า คงติดอะไรเก่า ๆ รถรุ่นเก่า ๆ ที่เคยใช้เขามีให้หมดเลย
ทำไมรุ่นใหม่ตัดทิ้ง
ติดตรงนี้อ่ะครับ เลยไม่ตัดสินใจซื้อซะที...
-
วัดความร้อนแบบเข็มนั้นเอาเข้าจริงลองคิดแบบนี้
สมมติว่าเข็มชี้เกิน 100 คุณก็คงจอดข้างทาง
และถ้าไม่มีเข็ม ที่มีไฟที่สว่างขึ้นเมื่ออุณหภูมิน้ำเกิน 100 คุณก็จอดข้างทางเหมือนกัน
ประสบการณ์ผมกับเข็มรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ชี้อยู่แค่สามอย่างคือ เย็น ปกติ และเตรียมจอดข้างทาง
ขับบนทางด่วนที่ 110 หรือรถติดตับแตกกลางเมืองตอนกลางวัน เข็มมันก็อยู่ตรงกลางตลอดทั้งๆที่ความจริง
ดูมาตรวัด Water Temp อันที่ผมติดเพิ่มเองนั้น มันต่างกันถึง 20 องศา
ผมเลยไม่แปลกใจ และไม่แค้นเคืองอะไรถ้าเค้าจะตัดออก เพราะในใจผม ถ้าไม่คิดจะทำมาตรวัดให้แสดงผลตามจริง
ก็ไม่ต้องทำมาก็ได้
-
เคยมีคนบอกผมเหมือนกันว่าจริงๆแล้วมันก็ชี้ที่ขีดเดิมนั้นแหละตลอดเวลา ผมเองก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน คิดแต่ว่ามีเยอะๆดี ;D
จริงๆแล้วผมกลับแปลกใจด้วยซ้ำว่าทำไมเวลามันขึ้นไปที่ระดับร้อนผิดปกติแล้วทำไมบรรดาผู้ผลิตเค้าไม่ทำเสียงเตือนบ้างล่ะ นี่สิที่ผมอยากได้มากกว่า จะได้จอดทันเพราะบางทีเราขับๆไป เราก็ไม่ได้ดูมันตลอดเวลาด้วยสิ
-
วัดความร้อนแบบเข็มนั้นเอาเข้าจริงลองคิดแบบนี้
สมมติว่าเข็มชี้เกิน 100 คุณก็คงจอดข้างทาง
และถ้าไม่มีเข็ม ที่มีไฟที่สว่างขึ้นเมื่ออุณหภูมิน้ำเกิน 100 คุณก็จอดข้างทางเหมือนกัน
ประสบการณ์ผมกับเข็มรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ชี้อยู่แค่สามอย่างคือ เย็น ปกติ และเตรียมจอดข้างทาง
ขับบนทางด่วนที่ 110 หรือรถติดตับแตกกลางเมืองตอนกลางวัน เข็มมันก็อยู่ตรงกลางตลอดทั้งๆที่ความจริง
ดูมาตรวัด Water Temp อันที่ผมติดเพิ่มเองนั้น มันต่างกันถึง 20 องศา
ผมเลยไม่แปลกใจ และไม่แค้นเคืองอะไรถ้าเค้าจะตัดออก เพราะในใจผม ถ้าไม่คิดจะทำมาตรวัดให้แสดงผลตามจริง
ก็ไม่ต้องทำมาก็ได้
เป็นจริงดังนั้นเลยครับ เข็มมันไม่ linear ครับ
เคยมีคนบอกผมเหมือนกันว่าจริงๆแล้วมันก็ชี้ที่ขีดเดิมนั้นแหละตลอดเวลา ผมเองก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน คิดแต่ว่ามีเยอะๆดี ;D
จริงๆแล้วผมกลับแปลกใจด้วยซ้ำว่าทำไมเวลามันขึ้นไปที่ระดับร้อนผิดปกติแล้วทำไมบรรดาผู้ผลิตเค้าไม่ทำเสียงเตือนบ้างล่ะ นี่สิที่ผมอยากได้มากกว่า จะได้จอดทันเพราะบางทีเราขับๆไป เราก็ไม่ได้ดูมันตลอดเวลาด้วยสิ
เห็นด้วยครับที่จะทำเป็นเสียงเตือน+สัญญาณเตือนครับ
-
ใช่ครับเห็นด้วย
มันมี 3 แบบ เย็นช่วงตอนขับขี่แรกๆ
พอขับไปสักพักปลานกลางตลอดเป็รปกติเวลาใช้รถ
สุดท้ายหม้อน้ำมีปัญหาชี้ขีดแดง
มันไม่แสดงผลแบบ Real Time ตามอุณหภูมิที่น่าจะเกิดขึ้นขณะนั้น
-
วัดรอบเครื่อง + วัดความร้อน (แบบ Realtime ไม่ใช่ OverHeat แล้วถึงมีไฟเตือน) + วัด Batt.
จำเป็นมาก ๆ ครับ
ยิ่งรถรุ่นใหม่ ๆ ใช้ไฟฟ้าเยอะ ทำไมมันตัดวัด Batt. ออกก็ไม่รู้ Batt. เสียก็เป็นเรื่อง
เห็นด้วยตรงนี้มากๆ ครับ ตัว Volt meter จำเป็นมากๆ หรืออย่างน้อยก็น่าจะมีสัญญาณเตือนแบตอ่อน (เหมือนมือถือ) จะได้รู้ ไม่ใช่ให้มาสังเกตเอาเอง
-
ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ
เราต้องรู้จักตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำและเปลี่ยนวาล์วน้ำตามระยะเวลา มากกว่ามองวัดความร้อนนะครับ
ถ้าเราตรวจสอบดี คงเป็นการยากที่รถจะ heat ครับ
ดังนั้น ไม่วัดความร้อนมาก็ไม่ค่อยกระทบนะครับ
-
เคยมีคนบอกผมเหมือนกันว่าจริงๆแล้วมันก็ชี้ที่ขีดเดิมนั้นแหละตลอดเวลา ผมเองก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน คิดแต่ว่ามีเยอะๆดี ;D
จริงๆแล้วผมกลับแปลกใจด้วยซ้ำว่าทำไมเวลามันขึ้นไปที่ระดับร้อนผิดปกติแล้วทำไมบรรดาผู้ผลิตเค้าไม่ทำเสียงเตือนบ้างล่ะ นี่สิที่ผมอยากได้มากกว่า จะได้จอดทันเพราะบางทีเราขับๆไป เราก็ไม่ได้ดูมันตลอดเวลาด้วยสิ
ผมชอบไอเดียนี้แฮะ
-
นั่นดิ ชอบมาตรวัดความร้อนแบบเรียลไทม์มากกว่าครับ ไม่ร้อนแล้วถึงเตือน
-
ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ตัดเข็มความร้อนออกไป แล้วมาใช้เสียงเตือนแทน ถ้าเสียงเตือนเสียเราจะไม่รู้เลยว่ามันเสีย เพราะมันไม่แสดงอะไรออกมา ซึ่งอาจจะอันตราย แต่ถ้าเข็มเสีย เราจะเห็นว่ามันอาจจะไม่ขึ้น จะสามารถซ่อมแซมแก้ไขได้
แล้วอีกอย่างแบบเสียงเตือน มันจะเตือนที่ความร้อนเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แบบเครื่องร้อนจนใกล้พังแล้วถึงจะเตือนรึป่าว แต่แบบเข็มเราจะรู้ตลอดว่าความร้อนขึ้นเท่าไหร่ ณ ขณะนั้น