Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wibul10 ที่ มีนาคม 12, 2018, 12:28:28
-
วันนี้ ไปรับรถ XC 60 R Design มาตอนเช้าครับ รูปรถ หลายคนก็คงเคยเห็นไปแล้ว เซลล์ ก็เอากุญแจ มาให้ ตามที่เห็นในรูปครับ กุญแจจะมี สามดอก สองดอก เป็นแบบ รีโมท ด้านนึงก็จะมี ปุ่มล๊อค เปิด และ เปิดท้าย ส่วนมุมอีกด้านก็จะมีปุ่มไซเรน ดังมาก ครับ ส่วนกุญแจ ดอกที่สามเป็นกุญแจกันน้ำ สำหรับ ไปวิ่งออกกำลังกาย หรือ ทำกิจกรรม Outdoor หาที่คล้องคอ ก็ใช้ได้เลยครับ กุญแจจะไม่มีปุ่มอะไรเลย ขนาดเล็กเท่า USB ทั้วไป
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0qVb.jpg)
มาที่ แผงตรงกลางก็จะมี ปุ่ม Start เราแค่หมุนไปตามเข็มนาฬิกา เครื่องยนต์ก็จะติด แต่แทบไม่ได้ยินเสียงเลยครับ สังเกตุจากหน้าปัท เอาครับ ส่วน P ก็คือเบรกมือ A ก็คือ Auto Break พอรถหยุดเรากดเบรกมันจะค้าง จะออกรถก็แค่เหยียบ คันเร่งรถมันก็จะปลดเบรกเลยครับ ส่วนตัว Drive Mode นี่ ใช้ไม่ถนัดเลยครับ เวลาขับจริง มันเล็กมาก เวลาจะเลือก ให้กดมันลงไปเลยครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0Qh9.jpg)
การแสดงผลหน้าจอทางกระจกค่อนข้างสว่างครับ เห็นชัดเจน และ ไม่กวนสายตาตอนกลางวัน
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0U5J.jpg)
หน้าจอแสดงผล ก็ค่อนข้างสวยงามและตอบสนองกับการขับขี่ดีครับ เมื่อลองขับออกนอกเมือง ก็ลองระบบต่างๆ พบว่า เวลาเราเปลี่ยนเลน และไม่เปิดไฟเลี้ยวพวงมาลัยรถมันจะสั่นเหมือนเตือนเรากำลังออกนอกเลนครับ ใช้ได้เลยทีเดียว ถ้าเราจะไม่ให้สั่นทุกครั้งที่เปลี่ยนเลน เราจะต้องเปิดไฟเลี้ยวครับ ส่วนระบบ Cruise Crontrol มีสองแบบ แบบ Adaptive และ Pilot Assist ทั้งสองระบบ อำนวยความสะดวกในการขับขี่มาก และปรับได้บนพวกมาลัยทั้งหมด ใครที่ขับทางไกลบ่อย ควรใช้จริงๆ โดยเฉพาะ Pilot Assist มันแทบจะขับให้เลยครับ พอเวลามีรถข้างหน้าขับช้า รถมันก็จะชะลอความเร็วให้เช่นกัน เพื่อรักษาระยะห่างไว้
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0EYf.jpg)
หน้าจอแสดงผลในส่วนการควบคุมแผงตรงกลาง ยอมรับ สับสน และไม่ค่อยชอบ ครับ หรืออาจจะใช้ Benz มาสักระยะจึงรู้สึกไม่ค่อยคุ้นกับมันครับ ข้อดีของมันคือ มันต่อWifi ที่บ้านได้ เพื่อ Update Software และ เวลาเราเอาโทรศัพท์ ต่อ มันสามารถทำเป็น Hotspot ให้ทุกคนในรถเล่นได้
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0RJD.jpg)
เครื่องเสียง บอกคำเดียว เสียงดีมากครับ แต่ผมว่าสูสีกับของเบนซ์ ตัว Brumester ต้องรอเซียนมาวิเคราะห์ แต่สำหรับการฟังเสียงตำแหน่งคนชับผมถือว่าดีมากครับ แต่รำคาญ Software Greynote ที่ติดรถมา เพราะเวลาที่มันเจอภาษาที่มันอ่านไม่ได้มันจะขึ้น Error ให้รำคาญ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0jMz.jpg)
วันนี้ได้มีโอกาศเอาไปลองระบบหลายๆ อย่าง ถือว่าดีมาก เครื่องเดินเรียบมาก วิ่ง 120 ก็เริ่มมีเสียงลมเข้านิดหน่อยแล้ว งานประกอบถือว่าดีมากครับ แต่สู้เบนซ์ไม่ได้ แรงออกตัว ผมว่าน่าจะสูสีกับ C Class Hybrid ดีเซลครับ เทียบกับโหมด S+ เลยครับ แต่ผมรู้สึกว่า Benz C ขับสนุกกว่า อาจเป็นเพราะรถเตี้ยกว่าครับ
เบาะหนังกลับ Nappa ให้ความรู้สึกดีมาก แต่ลึกๆ แอบกังวลเรื่องการดูแลรักษาครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St0buq.jpg)
กลับมาเพิ่ม ด้านหน้ารถจะมีกล้อง พร้อมกับกล้องใต้ไฟเลี้ยวตามรูป เวลาถอยจอดสามารถเลือกแบบรอบคัน หรือ เฉพาะกล้องหลังอย่างเดียวก็ได้ คุณภาพของกล้องก็ใช้ได้ครับ ชัด จอก็ใหญ่ดี เมื่อวานได้ลองระบบจอดอัตโนมัต แบบถอยจอดเข้าข้าง ค่อนข้างแม่นยำ เหมือนเบนซ์ครับ จอดได้ชิด และกะระยะได้แม่นยำ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St1jNn.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St1lUg.jpg)
ส่วนล้อ 19 นิ้ว ก็มีสัญลักษณ์ VOL ไม่แน่ใจว่า เป็น Runflat ไหม แต่รู้สึกถึงความแพง
ส่วนใต้มือจับ จะมีไฟ LED คอยให้ความสว่างตอนกลางคืน ระบบประตูก็เปิดได้เลย ไม่ต้องกดรีโมท
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St159V.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St1EjQ.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St1o8W.jpg)
ส่วนอัตราการกินน้ำมัน กับไฟฟ้า ผมไม่ค่อยใส่ใจครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/St1OvS.jpg)
นี่ก็ลองชาร์จไฟ ใช้แรงดัน 8 แอมป์ ครับ หน้าปัดบอก ว่าจะเต็มตอน เที่ยงคืน เริ่ม เวลา 19.00 ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง พออีกวันลองชาร์จ 6 แอมป์ ใช้เวลา 6 ชั่วโมงครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/12/StiQ30.jpg)
เที่ยงคืนเต็มอย่างรถแสดงผล
เช้ามาลองเอาไปขับแบบไฟฟ้า ไม่มีเสียงเลยครับ เรียบเงียบ หน้าปัทแสดงผลปริมาณแบทที่เหลือหมดไปหนึ่งล๊อคของแบท ใช้ระยะทางไปประมาณ 7-8 กิโลครับ ขับในเมืองน่าจะได้ 30-40 กิโลถ้าเทียบตามอัตราส่วน
เมื่อวานลองขับเพิ่มอีกที ใน Mode ไฟฟ้าล้วน แบทหมดครึ่งนึง ใช้ระยะทางไป 20 กม น่าจะพอสรุปได้ว่า แบทชาร์จเต็มน่าจะขับได้ระยะทางประมาณ 40 กม ขึ้นไป ถ้าขับทางไกล
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/14/S1eoFy.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/14/S1eAtD.jpg)
ส่วนกระจกข้างหากมีรถก็จะเตือน มีไฟตามรูปครับ ไฟมีสองสี สีเหลือกับแดง
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/13/Sw7JJv.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/13/Sw7ehE.jpg)
Head up Display เวลามีนำทางหน้าตา ก็จะเป็นแบบนี้ครับ สามารถปรับความสว่างกับ เลื่อนตำแหน่ง ขึ้นลงได้ประมาณ 1-2 นิ้ว
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/13/SwUraR.jpg)
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/14/S1esGJ.jpg)
ถ้าคุณขับเบนซ์ ผมบอกได้เลยว่า Volvo อัตราเร่ง ความสบาย สู้ได้ครับ ในราคาที่คุ้มค่า แต่งานประกอบกับคุณภาพวัสดุ สู้ไม่ได้ครับ แต่ไม่ใช่ขนาดขาดลอย ผมว่าในราคานี้ ถ้าไปซื้อ GLC ภาพลักษณ์น่าจะมาเป็นอันดับหนึ่งกับคนซื้อ Benz แต่ถ้ามองความคุ้มตอนนี้ผมยังเทไป VOLVO ครับ
-
ดูรูปไม่ได้เลยครับ
-
รูปไม่ขึ้นนะครับ
รุ่นใหม่นี้ เสียดายตรงไม่มี booster นะครับ ผมว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ดีเลย สำหรับเด็กๆ
-
รูปก็ดูได้นะครับ
น่าแปลกใจกำลังสี่ร้อยกว่าแรงม้า แค่สูสีกับ c คลาส เองหรือครับ
-
ภายในสวยดีครับ รอลุ้น XC40 ปลายเดือนเลย
-
ตอน จขกท โพสท์ครั้งแรก ก็ดูรูปไม่ได้ครับ
คอนนี้ปกติแล้วครับ รูปมาปกติ
-
ผมใช้ความรู้สึกของตัวเอง เมื่อขับ C300 Hybrid Diesel นะครับ รู้สึก ตีนต้นน่าจะกินกันไม่ลง ถ้า C300 ขับแบบ S+ กับ Volvo ขับแบบ Hybrid ถ้าขับแบบ โหมดแรงสุดจะแรงกว่านิดหน่อย แต่ต่างไม่เยอะ บางทีตัวเลข มันก็เท่านั้นครับ
ข้บไปยังหวังว่า คงไม่ต้องกลับไปศูนย์ เพราะปัญหา เพราะศูนย์ที่นี่ไม่ค่อยดี ในความรู้สึกผม เมื่อเทียบกับเบนซ์
เดี๋ยวจะมาเพิ่ม อีกนิดหน่อยครับ
-
ของผมรับรถปลายเดือน มี.ค. หรือ ต้น เม.ย. นี้ครับ ของผมจองสีดำ รุ่น R-Design เช่นกันครับ...เห็นรถเจ้าของกระทู้แล้ว อยากขับเร็วๆจัง ;D
-
รูปก็ดูได้นะครับ
น่าแปลกใจกำลังสี่ร้อยกว่าแรงม้า แค่สูสีกับ c คลาส เองหรือครับ
มันชนะกันไม่ขาดครับ จากความรู้สึกที่ลองเหยียบนะครับ แต่ Volvo แรงกว่าแน่ แต่ไม่ใช่ขนาด รู้สึกขาดลอย ตัว C300 Hybrid นี่ Mode S+ นี่แรงมากนะครับ คนเคยขับจะรู้ เหยียบหนัก ๆ ดูเหมือนล้อกับช่วงล่างเหมือนจะเอาไม่อยู่ด้วยซ้ำ
-
ว้าว เล่นตัว Top เลยนะครับ ยินดีด้วยครับ
รีโมทมีลูกเล่นเยอะ อยู่ นะครับ
ภายในนี่ผมให้ ดีมากๆ นะคนละ feel กับ X3 เลยน่ารัก ปุ่มน้อย ของที่บ้านตัว Diesel D4 moment รถนุ่ม กว่าของผมเยอะ เยอะเลย ล้อ 18 60 series ออกย้วยๆ หน่อย.
ที่ปรับเบาะ ขนาด diesel รุ่นล่างสุดด้วยค่าตัว 3 ล้าน ให้มาค่อนข้างครบ อย่างน้อยก็ให้ กล้องหลังละครับ 555 แค้นส่วนตัว
อัตราเร่งก็ไม่ขี้เหร่ ช้ากว่า X3 นิดหน่อย เชิงผู้ดีเลยครับ บุคลิกคล้าย NX, ม่านหลังไม่มี
ไฟ DRL T ปิดไม่ได้นะครับ
มี flap หม้อน้ำให้มาด้วย ผมว่าไม่จำเป็นกับบ้านเราเท่าไหร่
Adaptive cruise control ก็ใช้งานง่ายครับ แรกๆ ไม่คุ้น, lane control ก็ดีนะ ปรับได้ 5 ระดับ
Auto start stop ไม่สามารถสั่งให้ปิด ถาวรได้ ต้องมากด ที่จอ กลางทุกครั้งที่ สตาร์ท
ที่เสียเปรียบ x3 ก็เรื่องทัศนะวิสัยครับ กระจกหน้า มันแคบกว่า แต่ให้ระบบเตือนมาเยอะ อย่างกระจกมองข้างมีเตือนรถข้างในมุมอับ
คันเกียร์ เหมือนรถอื่นๆ และค่อนข้างหนืด ถึงแข็งครับ ส่วนตัวชอบไฟฟ้า ของ X3 มากกว่า อาจเพราะชิน ที่วางแก้วขนานแนวคันเกียร์ สไลด์ได้ยาวครับ
ช่องแอร์ใหญ่ดีครับ เครื่องเสียงก็ดีกว่า ถ้าตัว top นี่ ได้ B&W เลยครับ โดยรวมผมว่า น่าเล่นครับ กับราคานี้นะ ให้อุปกรณ์ความปลอดภัยเหนือคู่แข่งครับ
-
<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/PCT0mdCQknU" frameborder="0" allow="autoplay; encrypted-media" allowfullscreen></iframe>
<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/PCT0mdCQknU" frameborder="0" allow="autoplay; encrypted-media" allowfullscreen></iframe>
-
คันนี้ครบทุกอย่างจริงๆครับ อะไรที่รถรุ่นใหม่มี มีครบหมด
อยากสอบถามเรื่องการเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ ศูนย์ให้เปลี่ยนทุกกี่กม.ครับ?
แล้วเค้าเปลี่ยนของยี่ห้ออะไร เกรดไหนถึงสามารถอยู่ได้เกินหมื่นถึงสองหมื่นครับ?