Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wangleehom ที่ พฤษภาคม 15, 2018, 08:54:51
-
ระหว่าง e 350e กับ e 220d
อันไหนน่าซื้อกว่ากันครับ
เข้าใจว่า e 220d รถใหม่ เหลือแค่บางสี บางศูนย์เท่านั้นสำหรับรถใหม่
เพราะปัจจุบันเป็น e 350e ไปหมดแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยขยันชาร์จไฟเท่าไร -''-
-
ถ้ายังหารถได้ก็ไป 220d เถอะครับ สบายใจหายห่วงกว่าเยอะ ขายต่อก็ราคาดีกว่าแบบเทียบไม่ติด
สำหรับผมใครจะว่าหัวโบราณก็ช่างถึงนาทีนี้ก็ยังไม่เอาไฮบริดแน่นอนโดยเฉพาะไฮบริดจากฝั่งยุโรป
-
ไม่ค่อยชาร์จเอง ไม่ต้องการพลังจากแบตเตอรี่ E220d สบายใจกว่า แม้จะมีระบบไฟฟ้าไม่แพ้กันก็ตาม
-
เชียร์ 220d ครับ แต่รถค้างนานต่อรองดีๆ+ตัดสินใจแล้วรีบหารถ
ตอนผมออกก็หารถป่วนพอสมควร ขนาดทิ้งระยะไม่นานเท่าไหร่นะครับ
ปล.อยากทราบว่าสนใจสีอะไรครับ ของผมสีน้ำตาลหารถกันพัลวันทีเดียว
-
ถ้าหา e220d ได้จัดเลยครับ อนาคตปวดหัวน้อยกว่าแน่ๆ แต่ที่ผมใช้อยู่ก็มีเรื่องปวดหัวเล็กน้อยๆ บ้างตามประสารถระบบไฟฟ้าเยอะ พวกพวงมาลัยไม่ยอมปรับ แผงประตูด้านในหลุด กระจกไฟฟ้าไม่ขึ้น มีเอ๋อๆ บ้างครับ เทียบกับ w204 อีกคันที่แทบไม่มีอะไรป่วยเลย แต่อย่างว่าอุปกรณ์น้อยกว่ากันมากๆ
-
เลี่ยง Hybrid ไว้ก่อนเป็นดีครับ
ราคามือสอง รถ Hybrid ตกแรงด้วยครับ
ถ้าเป็นผมคงใช้รถน้ำมันไปจนกว่าจะมีรถที่ใช้ไฟฟ้าแบบเต็มตัวออกมาสักพักใหญ่ๆ
-
ไฮบริดเห็นมีแต่คนบ่นกันเยอะ
ดีเซลดีกว่าครับ 8)
-
เชียร์ 220d ครับ แต่รถค้างนานต่อรองดีๆ+ตัดสินใจแล้วรีบหารถ
ตอนผมออกก็หารถป่วนพอสมควร ขนาดทิ้งระยะไม่นานเท่าไหร่นะครับ
ปล.อยากทราบว่าสนใจสีอะไรครับ ของผมสีน้ำตาลหารถกันพัลวันทีเดียว
รบกวนแนะนำ ได้มั้ยครับ ศูนย์ไหน
หายากเลยครับ
-
220d ยังมีรถอยู่อีกหรอ เขาผลิตใหม่หรือครับ
-
220d รถน่าจะหมดนานแล้วนะครับ ยังหาได้อยู่เหรอ amazing มาก
-
E220d มีสต็อคเหลือจาก scg ที่ไม่ซื้อแล้วครับ
-
ถ้าซื้อไว้ใช้นานๆ ไม่คิดเรื่องขายต่อ ผมเลือก E350e นะครับ
ถึงผมจะไม่ค่อยชาร์จ แต่รถมันก็ประหยัดน้ำมันกว่าเบนซินเพียวๆ พอสมควร ยุคนี้มันต้องไป hybrid แล้วครับ อัตราเร่งก็ดีกว่าเห็นๆ
อีก 5-10 ปี ถ้าจะขายรถ ถามจริง คิดว่ามันจะขายไม่ได้เหรอ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นรถ Benz แทบทุกรุ่น ก็เป็ฯ hybrid หมดแล้ว
ซ่อมยากเหรอ ผมก็ไม่ห่วงอีก เพราะปริมาณรถ hybrid มันเยอะขึ้นทุกปี จะกลัวอะไรครับ ยิ่งตอนนี้เป็นทั้ง C, E 350e ยิ่งบ่งบอกว่ามันการตลาดชัดเจน แน่นอนกว่าช่วง blutech 300hybrid ที่แป็ปๆ Benz ก็ยุติการขาย อันนั้นบอกตรงๆ ว่าน่าเกลียดมากๆ
-
ถ้าซื้อไว้ใช้นานๆ ไม่คิดเรื่องขายต่อ ผมเลือก E350e นะครับ
ถึงผมจะไม่ค่อยชาร์จ แต่รถมันก็ประหยัดน้ำมันกว่าเบนซินเพียวๆ พอสมควร ยุคนี้มันต้องไป hybrid แล้วครับ อัตราเร่งก็ดีกว่าเห็นๆ
อีก 5-10 ปี ถ้าจะขายรถ ถามจริง คิดว่ามันจะขายไม่ได้เหรอ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นรถ Benz แทบทุกรุ่น ก็เป็ฯ hybrid หมดแล้ว
ซ่อมยากเหรอ ผมก็ไม่ห่วงอีก เพราะปริมาณรถ hybrid มันเยอะขึ้นทุกปี จะกลัวอะไรครับ ยิ่งตอนนี้เป็นทั้ง C, E 350e ยิ่งบ่งบอกว่ามันการตลาดชัดเจน แน่นอนกว่าช่วง blutech 300hybrid ที่แป็ปๆ Benz ก็ยุติการขาย อันนั้นบอกตรงๆ ว่าน่าเกลียดมากๆ
คิดอีกทีก็จริง
ตัวที่เจ็บสุดคือ Bluetech Hybrid นี่แหละ
ระบบออกมาแก้ขัด ครึ่งๆกลางๆ
ออกมาไม่ทันไร ก๋็โดนทิ้งไว้กลางทาง
-
เชียร์ 220d ครับ แต่รถค้างนานต่อรองดีๆ+ตัดสินใจแล้วรีบหารถ
ตอนผมออกก็หารถป่วนพอสมควร ขนาดทิ้งระยะไม่นานเท่าไหร่นะครับ
ปล.อยากทราบว่าสนใจสีอะไรครับ ของผมสีน้ำตาลหารถกันพัลวันทีเดียว
รบกวนแนะนำ ได้มั้ยครับ ศูนย์ไหน
หายากเลยครับ
ซื้อจากราชครูตรงพญาไทครับ แต่ตัวรถเอามาจากสต๊อกของพันทวีครับ
ตอนนี้คงหายากหน่อย แต่ถ้าจะเอาซะอย่างเดี๋ยวเซลล์หาวิธีจัดการกันเองล่ะครับ
-
เชียร์ 220d ครับ แต่รถค้างนานต่อรองดีๆ+ตัดสินใจแล้วรีบหารถ
ตอนผมออกก็หารถป่วนพอสมควร ขนาดทิ้งระยะไม่นานเท่าไหร่นะครับ
ปล.อยากทราบว่าสนใจสีอะไรครับ ของผมสีน้ำตาลหารถกันพัลวันทีเดียว
รบกวนแนะนำ ได้มั้ยครับ ศูนย์ไหน
หายากเลยครับ
ซื้อจากราชครูตรงพญาไทครับ แต่ตัวรถเอามาจากสต๊อกของพันทวีครับ
ตอนนี้คงหายากหน่อย แต่ถ้าจะเอาซะอย่างเดี๋ยวเซลล์หาวิธีจัดการกันเองล่ะครับ
ขอบคุณครับ
-
E220d มีสต็อคเหลือจาก scg ที่ไม่ซื้อแล้วครับ
เคยเจอ ผบห ในเครือนี้ เห็น E 350e ไปแล้วเหมือนกัน ถ้าดูไม่ผิดนะครับ
-
ถ้าเป็นรถคันเดียวในบ้านผมไม่เอา e350e หรือ Plug-in แน่นอน
ขับไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเหนือ แม่ฮ่องสอน น่าน ก็คงไม่กล้า กลัวรถตายกลางทาง ยานแม่ตามมาไม่ถึง
แต่ถ้ามีคันนี้เป็นคันที่ 2 3 4 ในบ้าน ก็จัดเลย เพราะมีรถสำรอง รถอาจนอนอยู่ศูนย์มากกว่าโรงรถก็ไม่เป็นไร มีรถสำรองซะอย่าง
แต่จะใช้ plug-in เฉพาะในเมือง กรุงเทพ+ปริมาณฑล เท่านั้น
-
จำได้ว่าเคยถามเซลล์เรื่องประกันแบตไฮบริดของ C350e เซลล์ตอบว่า 150,000 กม. หรือ 10 ปีครับ
จริงๆ 150,000 กม.นี่บางคนขับ 5 ปีก็เกินแล้วนะครับ
การประกันแบตแบบนี้เดาว่า E350e ก็น่าจะเหมือนกัน :'(
-
ก็ คำตอบมันก็อยู่ในคำถามแล้วหละครับ
E220ดีเซล ยาวไป ยาวไป
ปล. ยุคตัวบลูเทคไฮบริทที่เลิกผลิตไปแล้ว เป็นตัวปัญหาจริงๆ คนใช้บ่นกันเต็ม
ปล2. ใช้ C350e อยู่ทุกวัน 2 หมื่นโล ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะ 8)
-
ก็ คำตอบมันก็อยู่ในคำถามแล้วหละครับ
E220ดีเซล ยาวไป ยาวไป
ปล. ยุคตัวบลูเทคไฮบริทที่เลิกผลิตไปแล้ว เป็นตัวปัญหาจริงๆ คนใช้บ่นกันเต็ม
ปล2. ใช้ C350e อยู่ทุกวัน 2 หมื่นโล ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะ 8)
ผมใช้ 4 หมื่นโล เข้าปีที่ 3 ก้อยังไม่มีปัญหาเช่นกันครับ
ยังว่านอนสอนง่ายอยู่
-
ในฐานะที่ใช้มาแล้วสำหรับรุ่นไฟฟ้า C350E และเปลี่ยน E220d
จากการใช้งานจริงๆ C350E ไม่ได้ประหยัดเลยจริงๆ กับภาวะการขับขี่แบบรถติด ๆ แบต 100 % วิ่งได้มากสุด 19 -21 KM หากเปลี่ยนใช้ระบบน้ำมัน ซดยังกะเททิ้ง แถมปัญหามหาศาลที่ตามมา กับไฟฟ้า เข้าศูนย์นับครั้งไม่ถ้วน กับการใช้คันนี้ และปัญหาด้านล้อ
พอเปลี่ยนมาเป็น E220D ชีวิตดีขึ้นยังกับฟ้ากะเหว หากเทียบกับการซดน้ำมัน ประหยัดมากพอดู ขับต่างจังหวัด เหยียบๆ ได้ประมาณ 600 UP - 750 KM ต่อการเติมน้ำมัน 1 ถัง และเข้าศูนย์แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน
และฟังจากช่างรับรถ แจ้งว่า ตอนนี้ E350e ก็เริ่มเจอปัญหาจุกจิกบ้างแล้ว
หากหาได้นะ
-
คำตอบอยู่ในคำถามแล้วครับ 220d
-
มีรถจริงหรอครับเนี่ย ผมหาตอนมอเตอโชวไม่ได้ เสร็จ 520dไปแล้ว