Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HappyCar ที่ พฤษภาคม 17, 2018, 00:37:32
-
ถ้าไม่มีธุรกิจส่วนตัว แล้วที่บ้านก็ไม่ได้รวยถึงขั้นซื้อรถหรูได้
ถ้าผมสมัครงานบริษัทเอกชน ทำจนเติบโตเป็น CEO, กรรมการ หรือ ผู้บริหารระดับสูง
เป็นไปได้มั้ยครับที่จะซื้อรถราคา 10-20 ล้าน up อย่าง Porsche, Bentley, Rolls Royce
พอดีตอนนี้กำลังจะเริ่มทำงานครับ ผมตั้งโจทย์ชีวิตไว้ว่า ผมอยากซื้อรถยี่ห้อดังกล่าวให้ได้ก่อนอายุ 30
ถ้าผมตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ พอเป็นไปได้มั้ยครับ หรือว่าผมต้องลองเสี่ยงเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวเองครับ?
รบกวนพี่ๆช่วยให้คำแนะนำด้วยนะครับ ผมค่อนข้างซีเรียสพอสมควร เนื่องจากผมให้คำสัญญากับพ่อแม่ไว้แล้ว
ว่าผมจะซื้อรถหรูให้ท่านได้ลองนั่งให้ได้ซักคันนึงในชีวิต เพราะตอนนี้พ่อแม่ของผมก็อายุ 60 แล้วครับ
ถ้าสมมุติต้องลองเสี่ยงที่จะเริ่มทำธุรกิจจริงๆ ผมก็ยอมที่จะทำครับ
-
เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ...
แต่บนพื้นฐานความเป็นจริง ...
การเติบโตตามสายงาน เป็นลำดับขั้น ... ใช้เวลานาน
และ การซื้อรถหรู ราคา ขนาดนั้น อาจจะไม่จำเป็นเมื่อเราอายุขนาดนั้น ...เพราะ ปัจจัยเปลี่ยน อายุเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ความคิดอาจจะเปลี่ยนเมื่อถึงจุดนั้นครับ
-
บอกตามตรงแอบยากครับในเมืองไทย ซื้อรถระดับนี้คุณต้องผ่อนเดือนละ 3-4 แสน ถ้าคุณเริ่มทำงานตอนอายุ 22 แล้วอยากซื้อตอนอายุ 30 = คุณมีเวลาไต่เต้า 8 ปี
ต่อให้เป็นงานเงินดีๆอย่าง Big4 จะเป็นระดับ Partner ได้อย่างเก่งก็ 40 ครับ
หรือต่อให้ Big3 Consulting firm อย่าง BCG Mckinsey พวกนี้รับแต่คนที่ Outstanding จริงๆ (เพื่อนๆผมสมัยมหาลัยที่ได้บริษัทพวกนี้ก็เป็น top5 คณะ ที่เด่นทั้งการเรียนและกิจกรรม)
เงินเดือนจบใหม่ก็ 70-100k แล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาและความสามารถครับกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้
ปล.ชื่นชมคนมีความฝัน เป็นกำลังใจให้ครับ ;)
-
ต้องถามตัวเองด้วยว่าต้องมีเงินเดือนเท่าไร จึงจะซื้อรถราคา 10-20 ล้าน ได้ สำหรับผมแล้วเงินเดือน 5 แสนบาทผมก็ไม่กล้าซื้อนะ เพราะรถยนต์ราคา 10-20 ล้าน ใช้ไปไม่กี่ปีราคาก็แทบไม่เหลือ เอาเงินไปซื้อบ้าน ซื้อที่ดินดีกว่า รถยนต์ใช้แค่ Benz E Class หรือ S Class ก็น่าจะพอได้แล้วนะ
-
ถ้าไม่ใช่กิจการของครอบครัว ไม่มีโอกาสแน่นอนครับ ที่จะได้ขึ้นตำแหน่งบริหารระดับสูงที่เงินเดือนมากพอจะเก็บเงินไปดาวน์รถคันละ 10 ล้านได้ ภายในอายุไม่เกิน 30 ปี ส่วนใหญ่แค่ระดับ manager ที่เห็นๆ มา อายุ 30 กลางๆ ขึ้นไปทั้งนั้นครับ ไม่ต้องพูดถึงระดับ director หรือ vp เลย ถ้าขึ้นมาจากระดับพนักงานธรรมดา อายุ 40 กลางๆ ขึ้นไปทั้งนั้น ซึ่งมีคนส่วนน้อยครับ ที่จะได้ขึ้นมาถึงระดับนี้ ถ้าไม่โดดเด่นจริงๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งระดับสูงเหล่านี้ เป็นของครอบครัวเจ้าของกิจการ หรือผู้ถือหุ้นทั้งนั้น
แต่ถ้าสมมุติว่าทำงานสายอาชีพเฉพาะทางบางสาย อาจพอมีโอกาสที่เงินเดือนจะทะลุแสน ตอนก่อน 30 ลองคิดเล่นๆ ง่ายๆ ว่ามีเงินเก็บที่เหลือจากสารพัดค่าใช้จ่ายแล้ว เดือนละ 50,000 ก็ต้องเก็บ 5 ปี ถึงจะมี 3 ล้าน ในกรณีที่ไม่มีการเบิกมาใช้อะไรเลย เอาไปดาวน์รถราคา 10 ล้าน เหลือผ่อน 7 ล้าน ระยะ 5 ปี สมมุติว่าดอกเบี้ย 0 เปอร์เซนต์ ก็เกือบๆ เดือนละ 120,000 บาท ค่าประกันชั้น 1 เฉลี่ยอย่างน้อยเดือนละ 10,000 ค่าน้ำมัน รถราคาขนาดนี้ ถ้าใช้ทุกวัน ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 แน่นอน ค่าซ่อมบำรุงอีก ค่าใช่จ่ายจากรถ ตีเป็นเลขกลมๆ ก็ตกราวๆ เดือนละ 150,000 บาท ซึ่งคุณต้องจ่ายมันไปอีก 5 ปี ถ้ารายรับรวมต่อเดือนต่ำกว่า 200,000 บาทเป็นอย่างน้อย เหนื่อยมากนะครับ
แล้วยังไม่ได้พูดถึงกรณีการอนุมัติของไฟแนนซ์อีกนะครับ จำพวกเปอร์เซนต์ของยอดผ่อนชำระ ต่อรายรับรวมทั้งเดือน หักนู่นนี่นั่น ถ้าเงินเดือนมากกว่ายอดผ่อนชำระไม่มาก ก็ไม่น่าจะผ่านด้วย
รถกลุ่มราคาขนาดนี้ ฐานลูกค้าที่ผู้ขายมองไว้ คือองค์กรที่ต้องการเสริมสร้างภาพลักษณ์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาระดับหนึ่งแล้ว กับพวกที่เกิดมาบนพื้นฐานครอบครัวที่มีฐานะครับ
ส่วนตัวผมแล้ว รถราคาขนาดนี้ มันไม่ใช่ของจำเป็นแล้วครับ มันคือของเล่น หรือสินค้าฟุ่มเฟือย ฉะนั้นแล้ว เวลาที่จะซื้อของพวกนี้ที่เหมาะสม คือเวลาที่มีเงินสดพร้อมในมือ และมีสิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิตพร้อมหมดแล้ว อย่าเพิ่งรีบเลยครับ เพิ่งจะเริ่มทำงาน ยังมีเวลาในชีวิตอีกเยอะครับ ผมว่าพ่อแม่ท่านไม่ภูมิใจหรอกครับ ที่ได้นั่งรถแพงๆ ในขณะที่ลูกต้องวิ่งหัวหกก้นขวิดหาเงินมาผ่อน ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าครับ
-
ถ้าคุณพอมีทุนอยู่บ้าง การลงทุนไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ หรือ หุ้น เป็นคำตอบที่ดีครับ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าตุณต้องเข้าใจการลงทุนแบบนั้นจริงๆ การลงทุนในหุ้นผลตอบแทนจะเป็นทวีคูณครับ เช่น ถ้าได้15%ต่อปี 4ปีจะได้2เท่าแล้ว แต่ช่วงนี้อาจยากหน่อย มันover price แต่ยังไงศึกษาเรื่องนี้ไว้ก่อนได้เปรียบ
แต่ถ้ามีธุระกิจ มันจะเหมือนติดปีกเลยครับเพราะให้คนอื่นช่วยหาเงินแทนเรา แต่ส่วนใหญกว่าจะประสบความสำเร็จมากๆได้ ต้องล้มแล้วลุกสักสองสามครั้ง ก่อนครับ
ผมเองก็คิดเรื่องรถพวกนี้อยู่ในหัวตลอด แต่คิดว่าต้องมีเงินสะสมก่อนซื้อรถประมาณ5-10เท่าครับ ซื้อพวกนี้ไม่ใช่มีแต่รถอย่างเดียวต้องมีตังค์ซ่อม และต้องมีองค์ประกอบสังคมอื่นๆด้วย
-
ถามว่าเรียนอะไรมา เป็นสาย generalist หรือ specialist ... ทั้งสองสาย ถ้าแจ๋วจริง การจะได้เงินเดือนสัก 5-6 แสน ตอนอายุ 30 "เป็นไปได้" ในชีวิตผมเจออยู่ 3-4 คน ในสาย generalist (ส่วนสาย specialist เพื่อนที่รู้จักไม่สนิทพอจะรู้รายได้มัน) ซึ่งเงินเดือนขนาดนี้พอจะซื้อได้ครับ แต่จะไม่มีเวินเหลือสำหรับอย่างอื่น ... คำถามคือ "สม" หรือเปล่า ใช้รถขนาดนี้ ถ้าอยู่บ้านอายุ 20 ปี ขนาด 50 ตารางวา ย่านนอกเมือง ... ผมว่ามันก็แปลกๆ ... การใช้รถระดับนี้มันไม่ใช่แค่มีเงินซื้อ
แต่งานที่ได้เยอะกว่าที่ผมว่ามาก็น่าจะพอมี ... แต่เรากำลังพูดถึง top 0.001% มั้ง
ส่วนถ้าจะทำธุรกิจ ก็ต้องถามว่ามีความรู้ ความสามารถ ความรัก ในอะไรเป็นพิเศษไหม ... ถ้าไม่มี แล้วไปบังคับตัวเองให้ทำธุรกิจ ผมว่าไปได้ไม่ไกล
"ยิ่งรีบ ยิ่งช้า" ครับ
-
;) ถ้ามีทุน ลองมองธุรกิจซื้อมาขายไป เป็นคนกลางครับ จะไวมาก
จากที่ผมเป็นคนซื้อของในโรงงาน แค่สั่งของจากตัวแทน แล้วเค้าก็ไปวิ่งหามาให้ จ่ายตังจบ วินๆ
ถ้าจะก้าวไปจากตำแหน่งในบริษัท ขอบอกเลยครับ ยากถึงยากมาก
จะต้องโดดเด่นจริงๆ หรือไม่ก็ตำแหน่งมันว่าง ภาษานี่ก็หลักๆเลย สำคุญสุดๆ
อย่างน้อยสมัยนี้ต้องได้ภาษาจีน แล้วโลกจะเปิดกว้างเลย
หรือหารายได้จาก connection ในบริษัทนี่แหละครับ
คุยๆกันไปถูกใจความสามารถเรา เราก็จะได้รายได้อีกทางนึง
แต่ขอบอกเลย คุณต้องเสียสละมากๆ แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรเลย ;)
ผมนี่ร่างแทบสลาย
ยกตัวอย่างไมโครซอฟจ้างเด็กอายุ ไม่ถึง20 ไปคุม server ใหญ่
มันก็จะต้องเก่งประมาณนั้นอ่ะครับ พูดในด้านของทำงานบริษัทกินเงินเดือนน้ะครับ
สู้ๆครับ ฝันให้ไกลไปให้ถึง คำนี้ช่วยผมมาเยอะละ
-
สนใจเดินสายราชการชั้นผู้ใหญ่มั้ยครับ ;D
-
บอกตรงๆว่า ยากมากครับ ผมเริ่มจาก ศูนย์ ทำงานตั้งแต่ 18 เงินเดือน 5พัน
พอมา 24 เริ่มเป็น ฟรีแลนซ์ ในสายงาน 3D animation รายได้เฉลี่ยปีละ 3 ล้าน
ได้อยู่ 5 6 ปี กลับไปเป็นพนักงาน ออฟฟิต เงินเดือน 2 แสน ตอนนี้ 40 ทรัพย์สินยังแค่
30 กว่าเองครับ ตอนนั้นซื้อได้แค่ เฟอรารี่ 2ล้อ (ไม่ได้เล่นหุ้น มีซื้อกองทุนบ้าง
ไม่ไใช่ประเด็น เพราะรวมๆกำไรมาแค่ ไม่กี่ล้านครับ)
เพื่อนผมอีกคน ทำงานพร้อมๆกัน ไปเปิดโรงสกรีนเล็กๆ ตอนนี้ก็ขยาย ตามกำลังทุน
ยังมีไม่ถึง 20
ผมมองว่า ถ้าไม่ได้จับธุรกิจ แตกต่างจริงๆ หรือได้หุ้นเจ๋งๆ ก็ยากครับ
ถ้าลองแล้วโชคดีแบบพวก อายุน้อยร้อยล้าน ก็ไม่แน่ และผมก็ดีใจด้วย
แต่เส้นเลือดในสมองอาจจะแตกก่อน
ลองอย่างนี้มั้ยครับ ถ้าคุณพ่อยังไม่มีรถใช้
หรือ รถไม่หรูพอ ก็จัดรถยุโรปให้ซักคันก่อน หรือเช่ามาใช้ตามโอกาสต่างๆ
เพราะตอนที่ผมมีรายได้ดีๆ พ่อผมยังไม่มีรถขับ
ผมก็ซื้อรถให้ท่านก่อนแต่ก็แค่รถ ญี่ปุ่นธรรมดา แล้วก็ให้ อั่งเปาท่าน บางปีก็ ล้าน บางปีก็ 5 แสน
หลังๆรายรับน้อยลง ก็เหลือแค่ 2 แสน พ่อผมเพิ่งเสียไปเมื่อต้นปี ผมก็ยังดีใจ
ที่ยังทำให้ช่วงนึงของชีวิตพ่อผม ได้พักผ่อนบ้าง
จากพนักงาน ออฟฟิตธรรมดาคนหนึ่ง
-
ถึงได้ ซึ่งยากมากในอายุ 30 ปร
ก็จะคุ้มหรือเปล่าที่จะให้พ่อแม่นั่งรถดีๆ แต่แทบไม่เห็นหน้าลูกกลับบ้าน รถมันไม่ได้มีความหมายขนาดนั้นนะครับ
-
เป็นไปได้ครับ ถ้าถูกล๊อตเตอรี่ชุดใหญ่สัก 30 ล้าน ความฝันนี้มีมาเดือนละ 2 ครั้ง จากนี้ไปจนอายุ 30 ปี ผมว่าคุณพี่มีลุ้น แต่ขอให้รอบคอบเรื่องหลักฐานเวลาซื้อด้วย จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
แต่จะบอกให้ว่าผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว ไม่ได้ถูกล๊อตเตอรี่นะ แต่พอดีบ้านรวย เลยมีโอกาสใช้รถที่คุณสนใจ ตอนใช้มันก็สนุกดี แฮปปี้มาก แต่พอขายไปได้กลับดีใจยิ่งกว่า ยิ่งพอนึกย้อนกลับไปยังเสียดายว่าไม่น่าซื้อเลย เอาเงินไปทำอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ได้ตั้งเยอะ ;)
-
เวลาจะทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปครับ
เราฝันอย่างงั้นได้ครับ แต่ก็ต้องแลกอะไรบางอย่างไปเหมือนกัน รวมไปถึงปัจจัยต่างๆ กับสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ล้วนต่อส่งผมกระทบทางตรงไม่ก็ทางอ้อม
บางครั้งลองคิดดีๆ. ว่านั้นคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆรึเปล่า. มันคือความหมายของชีวิตเรารึเปล่า ถ้าเรามีความสุขกับชีวิตของเรา. ผมว่ามันก็เพียงพอแล้ว สำหรับการเป็นมนุษย์
โอกาสมันมีเข้ามาเสมอ. คุณเก่งด้านไหน. สนใจด้านไหน. ศึกษาให้เข้าใจ และเป็นเลิศในด้านนั้นๆครับ อย่ากลัวที่จะตัดสินใจ ในเมื่อมีความฝันเราก็ต้องสู้กับมัน
ไหนๆเห็นว่ากำลังจะเริ่มต้นทำงาน ลองคิดแบบที่ผมคิดกับการทำงานของผมทุกวัน. คือ Day 1 Thinking ทุกๆวันคือวันแรกเสมอ วันแรกจะมีสิ่งใหม่ๆ อะไรใหม่ๆ. ให้ลอง. ให้เปลี่ยน. สร้างสรรค์อยู่เสมอครับ
-
เพื่ออารายยยย ล่ะคร้าบบบ
ถึงเราจะซีเรียสที่ไปให้คำมั่นสัญญากับพ่อแม่
แต่ท่านคงขำๆ มากกว่า แล้วถ้าเราทุ่มเงินทั้งหมด
ที่มีไปซื้อรถราคาหลักสิบล้านด้วยเหตุผลที่ว่าด้วยเรื่อง
คำมั่นสัญญาน่ะ ท่านคงเครียด... 555
ผมว่าถ้าเอาแค่ฟินๆ นะ เช่าขับดีกว่า
เอาเงินไปจัดทริป พาท่านเที่ยว ตปท แล้วเช่าชับที่นั่น
น่าจะฟินกว่า ไม่ต้องเป็นเจ้าของรถให้มันเป็นภาระกังวลใจหรอกฮะ
-
เป็นไปได้นะ แต่ถ้าภายในอายุ 30 จะต้องเหนื่อยหน่อยแหละครับ
กลับกัน ฝั่งเจ้าของธุรกิจเองก็ไม่ได้มีจำนวนเยอะนักที่จะซื้อรถพวกนี้อย่างสบายใจครับ
-
น่าจะยากมากๆครับ ถ้าทำงานในบ้านเราไปสมัครงานเอกชน ก่อนอายุ30มีเงินแตะ10ล้านนี่คนเหล่านั้นมีไม่ถึง1% แน่ๆ ตามหลักแทบไม่มีCEO อายุต่ำกว่า30เลยครับ ถ้าไม่ใช่เจ้าของธุรกิจเอง ถ้าอยากทำได้จริงๆต้องทำงานต่างประเทศครับแบบนี้โอกาส10ล้านน่าจะเป็นไปได้ไม่ยาก
-
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ครับ ขอแค่คุณมีเป้าหมายชัดเจนและมุ่งมั่นพยายามเต็มที่(ให้ถูกลู่ด้วยนะ) มันสามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น
กลับมาที่คำถามคุณ ถ้าคุณอยากได้รถราคา 10-20 ล้านแต่ไม่อยากทำธุรกิจส่วนตัว อาจจะเลือกเป็นพวก CEO หรือผู้บริหารระดับสูง ถามว่าเป็นไปได้ไม๊ ก็เป็นไปได้ครับ แต่ถ้าเป็นบริษัทของไทยอันนี้ยาก ต้องเป็นระดับ CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเท่านั้นครับ ผมมีคนรู้จักท่านนึงเป็นอดีต CEO ของ cisco รายได้ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน ก็เห็นแกซื้อ porsche มาขับได้
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ต้องถามคุณว่าต่อให้ในวันนั้นคุณได้รถในฝันของคุณมาจริงๆ แต่คุณไม่มีเวลาขับมันเพราะต้องทำงานเกือบ 24 ชม. บินบ่อยยิ่งกว่านักบินกับแอร์โฮสเตทเสียอีก แถมสุขภาพคุณก็ย่ำแย่จากความเครียด ความกดดัน และพักผ่อนน้อย คุณยอมรับเรื่องนี้ได้ไม๊ และอันนี้ผมไม่ได้พูดเกินจริงเลยเพราะท่านเป็นคนแชร์ให้ผมฟังเองว่าในชีวิตการทำงานท่านเจออะไรบ้าง จริงๆต้องบอกว่าปัญหาเรื่องสุขภาพทำเอาท่านเกือบตาย เพราะท่านเคยวูบหมดสติถึง 3 ครั้ง และครั้งที่ 3 วูบระหว่างขับรถด้วย
ก็ลองคิดลึกๆดูครับว่า สุดท้ายแล้วการที่คุณทุ่มเมทำงานอย่างหนักเพียงเพื่อหวังแค่รถในฝัน สุดท้ายต่อให้คุณได้มันมาแต่ถ้าคุณไม่มีเวลาขับหรือสุขภาพคุณไม่เอื้ออำนวยแล้ว มันคุ้มไม๊ อันนี้ผมไม่ได้จะบอกว่าคุณทำไม่ได้นะครับ จริงๆชื่นชมคุณเลยแหละที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่หลายๆคนไม่กล้าแม้แต่จะฝันด้วยซ้ำ ผมเองก็เป็นเหมือนคุณแหละครับ มีรถในฝันที่อยากได้เหมือนกันและกำลังพยายามเต็มที่เพื่อคว้ามัน(แต่ปัจจุบันความฝันมันไปไกลกว่าแค่เรื่องรถแล้ว) แต่สุดท้ายแล้วผมมองว่ามันเปล่าประโยชน์ถ้าวันนั้นเราไม่มีเวลาขับมันหรือสุขภาพเราไม่เอื้ออำนวยอีกต่อไป
แต่ถ้าอยากได้รถในฝันก่อนอายุ 30 จริง มีอีกทางนึงที่เร็วที่สุด ง่ายที่สุด และลงทุนน้อยสุด คือทำธุรกิจเครือข่ายครับ แต่ช้าก่อน!!! ผมบอกว่าทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่ไปทำขายตรงนะครับ ดังนั้นเลือกบริษัทดีๆ พิจารณาให้รอบคอบสุดๆ ดูว่าเค้าเน้นสอนให้เราไปขายสินค้า หรือเน้นสอนให้เราเป็นผู้นำและพัฒนาศักยภาพของตัวเราเอง ค่อยๆดู ใจเย็นๆ อย่าโลภ พิจารณาจากหลายๆอย่างครับ ธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริงจะไม่ได้แค่ให้เงินคุณ แต่จะทำให้คุณมีอิสรภาพทางการเงินได้เลย ลองดูครับ
สุดท้ายแนะนำเคล็ดลับอย่างนึง ถ้าคุณมีความฝันที่คุณอยากได้มันจริงๆ จงคิดถึงมันไว้ กอดมันไว้ให้แน่น อย่าปล่อยมือจากความฝันเด็ดขาดแม้ว่าในวันนั้นคุณจะหมดหนทางแล้วก็ตาม ตราบใดที่คุณยังคงมีศรัทราและยังไม่ทิ้งความฝันของตัวเอง สักวันจักรวาลจะนำหนทางที่จะนำคุณไปคว้าความฝันมาให้กับคุณ สู้ๆครับ
-
ไม่แนะนำให้เริ่มต้นจากการทำธุรกิจครับ ถ้าไม่ใช่เป็นธุรกิจที่ครอบครัวทำอยู่แล้ว แล้วเรามารับช่วงต่อ เพราะโอกาศที่เราจะทำธุรกิจครั้งแรกสำเร็จมีโอกาศเท่ากับ 0 ครับ ควรเริ่มจากเป็นลูกจ้างสะสมประสบการณ์ และเงินทุน จนมั่นใจว่าพอจะรู้เรื่องทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจนั้น จึงค่อยเริ่มลงทุนทำเองครับ หรือถ้าเลือกเส้นทางลูกจ้างก็ต้องมีผลงาน ความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะขึ้นไปในระดับผู้บริหาร และต้องทำงานในบริษัทนั้นเป็น 10-20 ปีขึ้นไป
-
ยากครับ บริษัทไทย แต่ถ้า บริษัทใหญ่อย่าง CP ปตท ไทยเบจ ก็พอได้
แนะนำให้ เป็นนักการเมือง ง่ายกว่า เผลอได้มาฟรีๆ
-
Ceo บริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของไทย ใช้ Benz ราคาไม่เกิน 5 ล้านนี่แหละครับ แต่อย่างว่า ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
ไม่ค่อยเห็นใครใช้รถหรูในนามบุคคลทั่วไป
-
คิดว่าพนักงานคนอื่นๆ ก็อยากได้แบบคุณ ฉะนั้น คู่แข่งจะเยอะหน่อย
ไหนจะตำแหน่งใหญ่ๆ ที่อยู่เหนือคุณ รอจะขึ้น รอจะเสวยอีกหลายปี
การออกมาทำธุรกิจ ถ้าไม่แตกต่าง หรือ spacial จริงๆ
ลูกค้าจะมาจากไหน
สุดท้าย ทั้งสอบแบบ มันขึ้นอยู่กับ ความ "โดดเด่น และแตกต่าง มีประสิทธิภาพ"
คุณถึงจะถูกเลือก ไม่ว่าจะทำธุรกิจ หรือ ทำงานออฟฟิศ
-
ความต้องการ
1. รถหรู 10-20 ล้าน
2. ทำงานบริษัทเอกชน ไม่มีทำธุรกิจส่วนตัว
จากความต้องการ สิ่งที่คุณต้องมีนะครับ
1. เงินเดือนไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน ซึ่งผมว่าคนรายได้เดือนละ 1 ล้านก็ไม่ค่อยจะซื้อรถ 10-20 ล้านหรอกครับ มันต้องมากกว่า 1 ล้านไปไกลครับ ผมตีต่ำไว้ก่อน
2. เงินเดือน 1 ล้าน คิดว่ามีบริษัทไหนกล้าจ้างบ้างครับ นับนิ้วได้เลยครับ
3. ความรู้ ความสามารถ วุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ คุณระดับ Unicorn รึเปล่า??
ประเมิณง่ายๆแค่นี้น่าจะพอเห็นภาพนะครับ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้
ประมาณจากวิถีชีวิตทุกวันนี้ก็ได้ครับ
- เป้าหมายคุณชัดเจนรึยัง Need to have a clear vision
- เมื่อมีเป้าหมายแล้ว คุณมีแบบแผนการดำเนินชีิวิตรึยัง
- คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก
- เสียสละ ทุ่มเท No pain No gain
ถ้าทุกวันนี้คุณยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่มีความสุขกับการเรียน เล่นมือถือ แชท โซเชียล สังสรรค์ ไม่หาความรู้เพิ่ม ไม่มีความอดทน ไม่มีวินัย ลืมไปได้เลยครับ
-
หาลู่ทางทำงานที่สามารถรับเงินใต้โต๊ะได้ครับ ยิ่งตำแหน่งที่มีอำนาจตัดสินใจอนุมัติโครงการใหญ่ๆ รับใต้โต๊ะงานเดียวคุณซื้อได้เลย
คุณไม่จำเป็นต้องมีความสามารถอะไรมากด้วย ขอแค่รู้วิธีใต่เต้าก็พอ
-
คุณคิดว่า เขาจะปล่อยคุณให้หลุดเข้าไปง่ายๆ เหรอครับ คุณเป็นใครที่คนในตระกูลของเจ้าของเขาจะเลือกคุณไปเป็นถึงระดับนั้น
ถ้าผมสมัครงานบริษัทเอกชน ทำจนเติบโตเป็น CEO, กรรมการ หรือ ผู้บริหารระดับสูง
เก็บหวยได้สัก 30 ล้าน ก็ได้ละครับ ไม่ต้องรอนาน :(
ชีวิตจริงทำงานได้สัก 5 ปี เดี๋ยวคุณก็มาตั้งกระทู้ใหม่แล้วครับ ถึงวันนั้นคุณจะตอบคำถามได้ว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นเป้าหมายจริงๆ กันแน่สำหรับอนาคตที่รออยู่
รถยนต์ราคา 10-20 ล้านมันคือการซื้อด้วยอารมณ์ แล้วซื้อรถมาจะทำแค่ พรบ. เหรอ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกล่ะ เพราะชีวิตจริงรถราคา 5 ล้านนี่ก็คุณภาพเพียงพอที่จะใช้งานได้สบายๆ
-
อายุ 22 จะรวยมาก แบบพอจะผ่อน รถ 10-20 ล้านได้
การศึกษา อายุ 22 อย่างมากก็ ป.โท ถึงจะ ป.เอก เหลือเวลาไต่เต้า 8 ปี
ถ้าไม่เป็นนิยาย เหมือนทีวีช่องต่างๆ
ถ้าบ้านไม่รวย ไม่มีที่ทางเยอะ และไม่ถูกหวย รางวัลใหญ่ๆ
ทำอาชีพสุจริต สีขาว ไม่โกง ไม่กิน ไม่มีเส้น
ถ้าทำงานจากเริ่มบรรจุ ไม่ว่าจะเอกชน หรือราชการ
ถ้าไม่ "ฟลุ๊ค" หรือ "เฮง" จริงๆ
โอกาสเป็นไปได้ มี แต่น้อยมากๆ น่าจะเป็น 0.00001% ก็ว่าไป
รถ 20 ล้าน ผ่อน 60ด. ต้องมีเดือนละ 3-4 แสนขึ้น
ค่าซ่อมบำรุง ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าภาษีสังคม ฯลฯ
รายได้ต่อเดือนควรเท่าไร!!???
"อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
-
พอคุณทำธุรกิจคุณจะรู้เลยว่าถ้าคุณจะซื้อรถ 20 ล้านคุณต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับรถราคาระดับนี้ แต่ความฝันมันดีนะ เหมือนกับที่เขาบอก
" ฝันไกลไปให้ถึงดวงจันทร์ถึงจะพลาดหวังก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว."
-
ขอบคุณ เจ้าของกระทู้และทุกคำตอบ อ่านแล้วได้ขอคิดหลายอย่างมากครับ
-
บริษัทเอกชน การจะขึ้นเป็น ผู้บริหารระดับสูง Director หรือ Ceo ก่อนอายุ 30 ปี แทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ ต่ำๆ ต้องมี 35 up ด้วยวัยวุฒิ ความน่าเชื่อถือ ในการบริหาร การปกครองคน ยังไม่มีครับ
ดังนั้น เมื่อคืนเป็นตำแหน่งพวกนั้นไม่ได้ โอกาสก็แทบไม่มี
แล้วต่อให้ขึ้นได้ ประเภทจีบลูกสาวเจ้าของบริษัทได้ ... ตำแหน่งพวกนี้ เงินเดือนก็อยู่ราวๆ 2 - 5 แสนบาท เท่านั้นเอง จะผ่อนรถเดือนละ 3 - 4 แสนบาท อืมมม เป็นไปไม่ได้ล่ะครับ
..............
ตอนนี้ฝันได้นะ แต่ถึงเวลาจริงๆ มันก็คนละเรื่องแหละ
ทุกวันนี้ ผมยังบิดมอไซค์ไปทำงานอยู่เลย มีรถ 2 คัน คันนึงหมดแล้ว อีกคันเดือนละหมื่นกว่าบาท แล้วก็คงใช้ไปอีกนาน เพราะผมก็บอกตัวเองว่า ถ้าจะเปลี่ยนรถอีกรอบ ก็ขอข้ามไปยุโรป X1 / GLA / V40 Cross เลย ไม่งั้น ก็ไม่เปลี่ยนครับ
-
ผมว่าได้นะ ใช้จ่ายสักเดือนละหมื่น ที่เหลือเก็บ ๆๆ ๆ มันไม่หนีไปไหนหรอก ว่าแต่เก็บเงินพอแล้ว จะกล้าซื้อหรือเปล่า? เวลาเก็บเงินได้เยอะ ๆ มันมีความสุขมากกว่าอยากได้รถแล้วซิครับ..
-
ทำงานบริษัทเอกชนส่วนมากที่ผมเห็นซื้อรถระดับนี้ได้ก็ช่วงอายุเลข 4 ปลายๆ หรือ 5 ไปแล้ว ตำแหน่งก็ต้องสูงระดับ director ขึ้นไปแล้ว
ถ้าอยากจะขับรถแบบนี้ตอนช่วงอายุ 30 อาจจะต้องหารถมือสองที่เคยราคา 10-20 ล้าน มาใช้ก่อน เลือกรุ่นดีๆ maintenance พอรับได้ ขายไปไม่เจ็บตัวมาก
-
อยากได้ก็ลุยคับ เป็นไปได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กลัลตัวคุณเอง อย่าตีกรอบรายได้ไว้แค่ทำงานประจำคับ มีวิธีหาเงินอีกหลายอย่างที่จะทำเงินให้คุณได้เยอมากๆ คุณจะทำได้หรือเปล่าเท่าน้นเอง ยากไหมคงโคตรยากไม่งั้นคงมีแต่คนรวย
-
จากประสบการณ์ตัวเองน่ะครับ
อยากได้รถคันนึงมาก ตั้งแต่สมัยเรียนละ ตอนปี 3 ก็ไปดาวน์รถคันนึงมาใช้ก่อน(ยังไม่ใช่คันที่ตั้งใจเก็บเงินรอ)
พอเริ่มทำงานก็พนักงานบริษัททั่วไปสาย IT เงินเดือนก็ธรรมดา แล้วก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ ก็มีครอบครัว ค่าใช้จ่ายก็เพิ่ม
สักพักก็มีสมาชิกใหม่ในครอบครัว ก็ต้องซื้อรถคันใหม่ เพื่อใช้งานแบบครอบครัวและสมาชิกใหม่กว่าคันเดิม
พอมีรถ มีครอบครัว ก็อยากมีบ้านก็ไปซื้อคอนโด
ต่อมาก็ซื้อรถอยากซื้อรถให้พ่อกับแม่ใช้งาน จะได้เดินทางสะดวกสบาย
...ถึงวันนี้ รถคันที่ว่านั้น ยังไม่มีโอกาศได้ครอบครอง และ คงคิดว่า ไม่เอาแล้ว เพราะ ณ ตอนนั้น กับ ณ ตอนนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปหลาอย่างมาก แต่ถามว่าชอบไหม ยังชอบรถคันนั้นอยู่และยังอยากได้สักคัน เหมือนเดิม แต่ถ้าให้ซื้อ คงไม่เอาละ
---------------------------------------------------------------
ที่เล่ามา บอกว่า ถ้าอยากซื้อรถ สักคัน ที่ชอบ หรือ อยากได้มากๆ มันมีทางเป็นไปได้หมดละครับ อยู่ที่ว่า รถราคาเท่าไหร่ และ income เราต่อเดือน ต่อปี หักค่าใช้จ่าย โน่น นี่ นั้น แล้วเหลือเท่าไหร่ รถแพงก็จริง แต่ถ้ามองว่าซื้อเงินดาวน์ จ่ายเป็นงวด มันก็จะเห็นความเป็นไปได้เอง แล้วพอดูเงินที่เรามีในกระเป๋า ที่เพิ่มขึ้นแต่ละเดือน แต่ละปี มันบอกเองว่า ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงจะมีโอกาศนั้น
แต่.......ถ้าเวลามันผ่านไป ถึงจุดที่เงินพร้อม ความคิด และ ชีวิต อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้
-
ปัจจุบันผมอายุ 31 ถ้าตามเศรษฐกิจ (กระเป๋าตังค์) บริษัทผมแล้ว เมื่อปี 2016 สามารถซื้อ 911 Carrera 4S แบบผ่อนได้ สามารถผ่อนไหว แต่เหนื่อย เลยไม่ซื้อ
ปี 2017 ซื้อ Cayenne Hybrid, S-Class, Series 7 ได้ แต่ผ่อนเหนื่อย
ปี 2018 ผ่อนรถตามที่ลงไว้ในลายเซ็นต์ 4 คันสุดท้ายก็เหนื่อยแล้วครับ (แล้วก็ยังมีผ่อนรถกระบะ, เก๋งใช้ในออฟฟิศอีกหลายคัน) ไม่คิดจะซื้อใหม่แล้ว
-
เท่าที่เห็นนะครับ 30 นี่ ต่อให้เก่ง และโดดเด่นจริงๆ ก็ยังเป็นได้แค่ระดับ manager เท่านั้นเอง แถมสมัยนี้จบแค่ตรีบางบริษัทไม่ให้ขึ้นอีกต่างหาก ต้องโทขึ้นไป
ส่วน ceo เท่าที่เห็น 40 ต้นๆ นี่ก็ถือว่าหนุ่มมากแล้วนะ เค้าเรียก young executive ด้วยซ้ำ
30 นี่เด็กมากนะครับ ต่อให้เรียนต่อ อายุ 30 มันก็เพิ่งจะจบเอกเองอ่า ก่อน 30 นี่ยาก แต่พอเป็นไปได้ ถ้าทำงานพวกที่รายได้ได้ตาม performance เช่น พวกฝ่ายขาย หรือ เฉพาะทางมากๆ แต่คุณจะทำได้เหรอ? การขายที่จะได้ยอดสูงขนาดนั้น หรือการรับงานนอกมันต้องทำเยอะขนาดไหน ถึงจะได้เงินเยอะขนาดนั้น ชีวิตมันคงเหมือนนรกอะครับ
ธุรกิจส่วนตัวมีโอกาสสูงกว่า แต่มันก็มีความเสี่ยงที่จะเอาเงินไปทิ้ง ไม่เหมือนกับมนุษย์เงินเดือน ธุรกิจตอนนี้ก็ต้อง start up แต่อัตรารอดชีวิตก็ต่ำมาก
ถ้าเริ่มจาก 0 ผมแนะนำ หาเมียรวย ทางนี้น่าจะโอกาสงามที่สุดแล้ว ก่อน 30 มันเป็นไปได้น้อยมากๆ ด้วยวิธีอื่นๆ
-
กว่าจะเก็บเงินได้ถึงขนาดนั้น
ผมว่าเวลานั้นคุณอาจจะเปลี่ยนใจ
ย่อความฝันลงมาหน่อย เป็น benz bmw ซื้อสดแล้วมีเงินเหลือเก็บ
น่าจะสบายใจกว่า
-
ถ้า เก็บ เดือนละ 50000-70000 x60 งวด
เอาไปดาวน์แล้วผ่อน ก็น่าจะได้ ขึ้น อยู่ ว่าตอนนั้นจะผ่อนไหวไหม
แต่สำหรับผม คงใช้สัก 2-3ปี. ขายทิ้ง
เพราะบรรลุฝันแล้ว 555
-
ต้องไปสมัครเป็นทหารแล้วพยายามหาเรื่องเข้ายึดสภาครับ ทีนี้จะปรับเงินเดือนตัวเองเท่าไหร่ก็ได้
ตอนอยู่โรงเรียนเตรียมฯก็พยายามสร้างพรรคพวก รู้จักคนนู่นนี้นั้นไว้เยอะๆ 8) 8) 8)
-
ดีครับ กล้าที่จะคิด ฟันธงว่า ถ้าไม่มีธุรกิจส่วนตัว และอยู่ในเกณฑ์ที่แจ้งบอก เป็นไปไม่ได้ครับ แต่ชื่นชมว่า กล้าคิดเพื่อเป็นแรงจูงใจในการให้เราถึงเป้าหมาย
ตาดูดาว เท้าติดดิน
พวกอายุน้อย ร้อยล้าน นี่ 1ในล้านเช่นกันนะครับ
พรสวรรค์+พรแสวง
-
ก็น่าจะได้น่ะ ครับ เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ สัก 10 ปี 15 ปี ก็น่าจะได้สัก 10 ล้าน แต่เงินเดือนอย่างน้อยก็ต้องแสนขึ้น แล้วซื้อสดไปเลย จะได้ไม่ต้องมีภาระ พ่อแม่แน่รอได้อยู่ 70 ปี ยังไม่ถือว่าแก่มากครับ
-
เป็นไปได้น้อยมากเลยครับ เกรงว่าพอมีตังแล้วซื้ออย่างอื่นซะมากกว่าอย่างบ้านเป็นต้น ผมว่าเอาแค่แก้อยากดูก่อนมั๊ยครับเช่าขับซักปีละครั้งๆละสัปดาห์คงใช้เงินไม่มากนัก
-
ทำงานอะไรก็แล้วแต่ อย่าทุจริต แล้วทำงานให้สบายใจมีความสุขก็พอครับ
เช่นพวกอวดรถ รวยเกิ้น หรือแชร์ลูกโซ่ อื่น ๆ ที่หลอกหากิน
แล้วก็หลอกตัวดแงว่าประสบความสำเส็จในชีวิต บนความทุกข์ของคนอื่น...
.
.
.
แต่หากเรียนมัธยมให้ถือชั้น ม.44 ก็ไม่แน่นะครับ อาจได้รถมาใช้ฟรี ๆ เลย ;D
-
มันต้องดูด้วยอะครับว่า สายงานแบบไหน
อย่างพวกบัญชี เก่งๆก็ไปได้ Big4 สายการเงินหุ้นพวกนี้บางทีก็อาศัย Lux ถ้าจะรวยจริงๆ
หรือถ้าคิดว่าขายเก่งโอกาสมี 40-50 ล้านไม่ยากเกินไป
เพื่อนคนนึงดูแลหุ้นอาศัยค่าคอมจากการเทรด บังเอิญจังหวะชีวิตได้ลูกค้าระดับเลข 10 หลัก (เลข10หลักนะครับ) ออก E-classได้ในปีเดียว
สองปีต่อมาบ้าน เกือบๆ 8 หลัก
แต่สุดท้ายมันอยู่ที่ตีความครับ รถหรูของผม เทียน่า อัลพาร์ด เวลไฟร์ ก็หรูมากแล้ว พวกไฮ-ลักซ์ชัวรี่.... บอกตรงๆไม่กล้าซื้อ กลัวเครียดเพราะรถครับ ยกเว้นจะมีซัก 1000 ล้าน ซี่งความสามารถผม ประเมินตัวเองมันไม่ไปถึงขั้นนั้นแน่นอน :-X :-X
-
ยากครับ ถ้าไม่ได้ทำธุรกิจส่วนตัว
การจะขึ้นเป็น CEO ของบริษัทได้นี่ ต้องเก่งจริงๆและวัยวุฒิต้องได้ด้วยครับ
มีเหมือนกันที่อายุ 30 กว่า แต่คนที่จะขึ้นไปอยู่ระดับนี้ได้ ต้องไม่ธรรมดาครับ
ตัวผมสมัยเด็ก ฝันไว้ว่า อยากจะได้ BM สักคัน ตอนนี้สามสิบกลางๆแล้ว ฝันเรื่องรถแทบจะทิ้งไปละครับ มองอนาคตของลูกมากกว่า รถตอนนี้เท่าที่ใช้อยู่ก็เพียงพอต่อครอบครัวผมแล้วครับ
-
ทุกอย่างเป็นไปได้สิ ทำไมจะไม่ได้ แต่ยากแค่ไหนไม่รู้
นอกจากที่บ้านมีทีดินในเมืองใหญ่ หรือใจถึงซื้อ AOT
เมื่อตอนบางกลุ่มบุกทำเนียบเมื่อหลายปีก่อนในราคา Shock sale 148 บาท!
ก่อนแตกพาร์ ::)
-
เป็นไปได้ครับ ตราบที่ยังมีเวลาอยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้
เหมือนที่หลายๆคนบอก เพียงแต่ด้วยธรรมชาติทั่วไปแล้ว
มันเป็นไปได้ยากมากๆ(กอไก่ล้านตัว) :o
แต่เดี๋ยวก่อน เพียงคุณบอกออกมาว่าคุณมีต้นทุนอะไรที่คิดว่าโดดเด่น
สัก 3-5 ข้อ เดี๋ยวจะมีคนวิเคราะห์ให้เองครับ ว่าคุณต้องทำยังไงบ้าง
เพราะเท่าที่บอกออกมามันยังกว้างเกินไปที่จะสนับสนุนหรือค้านครับ
เท่าที่ผม(สามสิบปลายๆ)สัมผัสมาคนที่เป็น
ผู้จัดการระดับภาคก็แบบนึง (อายุ 30+-)
ผู้จัดการระดับประเทศก็แบบนึง (อายุ 35+-)
ผู้จัดการระดับทวีปก็แบบนึง (อายุ 45+-)
แน่นอนทุกคนเก่งแบบเว่อๆกันทั้งนั้น และโตเร็วกันมากๆ
ชนิดว่าอายุ 25 เป็นผู้จัดการแผนกกันแล้วทั้งนั้น
ความเก่งคิดว่าไม่หนีกันเท่าไหร่ จะต่างกันที่ประสบการณ์ บารมี
กับการมองภาพกว้าง คุมภาพรวมต่างๆได้ ซึ่งจุดนี้สอนกันไม่ได้
ต้องพัฒนาด้วยตัวเอง
เป็นจุดตัดสินกันระหว่างงานคนที่ทำงานระดับ operation กับ management
แล้วคุณหละ เข้าใจสิ่งที่ผมบอกมาระดับไหน?
ถ้ามีคุณสมบัติแบบนี้ การโตเร็วในงานประจำย่อมมีความเป็นไปได้สูงมาก
แต่ความฝันที่คุณบอกออกมาก็ยังคงยากอยู่ดีในเส้นทางนี้.. :-[
-
ถ้าไม่เกี่ยงรถมือ2 โอกาสพอมีครับ ผมเคยอ่านเจอรถ30ล้าน ผ่านไป7-8ปี บอกขายอยู่7ล้าน ไมล์ไม่เยอะด้วยครับ
-
ดีครับ กล้าที่จะคิด ฟันธงว่า ถ้าไม่มีธุรกิจส่วนตัว และอยู่ในเกณฑ์ที่แจ้งบอก เป็นไปไม่ได้ครับ แต่ชื่นชมว่า กล้าคิดเพื่อเป็นแรงจูงใจในการให้เราถึงเป้าหมาย
ตาดูดาว เท้าติดดิน
พวกอายุน้อย ร้อยล้าน นี่ 1ในล้านเช่นกันนะครับ
พรสวรรค์+พรแสวง
+1
-
ต้องถามตัวคุณก่อนนะครับว่าคุณจะไปเป็น CEO ด้วยเงินเดือนแพง ๆ คุณจบการศึกษาที่ไหนมา เพราะลำพังการจบการศึกษา ป.ตรี โท ในไทยหรืออินเตอร์ ในไทยแทบไม่มีโอกาสก้าวไปถึงระดับนั้นได้เลย
ถ้าเล่นพันทิปเวปต้องห้ามของที่นี่บ่อย ๆ คุณจะทราบบางแง่มุม ถ้าคุณจะก้าวไปสู่มนุษย์เงินดือนค่าตัวแพงระดับนั้นได้ คุณต้องจบการศึกษาจากมหาลัยชั้นนำในต่างประเทศ มหาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกนะทางอเมริกาหรืออังกฤษ หรือจบ MIT แล้วคุณต้องพร้อมทำงานกับบริษัทได้ทั่วโลก โดยสมัครงานกับบริษัทในไทย บินไปสอบสัมภาษณ์ที่บริษัทแม่ใน ตปท แล้วให้เขาส่งกลับมาทำงานในประเทศไทย เงินเดือนที่รับก็รับในเรทของบริษัทแม่ แบบนี้เห็นเค้าเรียกกันว่า EXPAT ได้ทั้งเงินเดือนหลายแสนบาทตั้งแต่อายุน้อย พร้อมสวัสดิการ แต่พอคุณมาถึงจุดนี้คงไม่อยากซื้อรถแพง ๆ อยู่ดี แฟนผมเคยรู้จักอยู่คนนึงเพราะทำหน้าที่ซัพพอร์ตเขาตอนมาประจำเมืองไทย คือเรียนที่มหาลัยชั้นนำในอเมริกา บินไปสัมภาษณ์งานที่เยอรมันแล้วบริษัทแม่ส่งตัวมาประจำที่เมืองไทย เงินเดือนประมาณ 3 - 5 แสนบาท พร้อมสวัสดิการ บ้าน รถยนต์ ค่าเล่าเรียนลูก รร นานาชาติ ค่ารักษาฟรีทั้งครอบครัว เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่มีพื้นฐานการศึกษาระดับนี้ ไม่ต้องคิดต่อครับเพราะไม่มีทางที่จะไปถึงระดับนั้นได้
บอกตรง ถ้าคิดจะซื้อรถระดับนี้ ทำธุรกิจง่ายที่สุดแล้ว ที่จริงมันไม่ง่ายหรอกนะทำธุรกิจให้มีเงินซื้อรถราคา 15 -20 ล้าน เพียงแต่การทำธุรกิจยังไงมันง่ายกว่าการที่จะฝันไปเป็น CEO หรือฝันไปเรียนในมหาลัยชั้นนำของโลกอย่างฮาร์วาด เคมบริด เยล MIT ซึ่งยากกว่ามาก
-
เป็นไปได้ครับ
รอลุ้นรางวัลทุกวันที่16กับวันที่ี่30ครับผม
มีโอกาศแน่นอนครับ ;D ;D ;D
-
Ferrari Lambo Porshe Bentley Mclaren มันคือความฝันวัยเด็กของคนรักรถทุกคนแหละครับ ..
นั้นคือจำนวนคนที่ท่านต้องต่อสู้ด้วยเพื่อที่จะขึ้นไปให้ถึงจุดๆนั้น ..
พอคุณเริ่มทำงานเมื่อไหร่เดี่ยวคุณก็คงรู้ potential ของตัวเอง เองแหละครับ ..
แต่แนะนำตั้งเป้าหมายระยะสั้นดีกว่าครับ อย่างเช่น อยากเก็บเงินล้านแรกให้ได้ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ..
การตั้งเป้าสูงมันก็ดีครับ แต่เวลาเฟลก็เฟลหนักนะ ค่อยๆเริ่มจากสิ่งที่มัน realistic ดีกว่าครับ ..
-
สู้ๆครับ มันไม่เกี่ยวว่าน้องจะเลือกไปทางไหน มันอยู่ที่พอน้องเริ่มเดินแล้วจะเดินไปได้ไกลแค่ไหนต่างหาก
ขอแค่เวลาเจอความจริงที่มันไม่เป็นอย่างที่เราฝัน เราอย่าหยุดเป็นตัวของเราก็พอครับ
-
พูดกันตรงๆ นะ ในนี้คิดว่ามีคนที่มีความสามารถที่จะแนะนำ จขกท. ได้ไม่กี่คนหรอก ส่วนใหญ่ยังเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนกันอยู่เลย
-
เจ้าหน้าที่ศุลกากร แผนกตรวจของนำเข้าครับ เรียกใต้โต๊ะครั้งนึงหลักหมื่น ทำไม่กี่เดือนก็ออกบีเอ็มเงินสดได้แล้ว ไม่เกินปีฝันน่าจะเป็นจริงครับ
ขำๆนะครับ ;D
ส่วนตัว ตอนเด็กอยากได้ Rolls-Royce แต่ราคาแรงวันแรงคืน ลดเป้ามาเป็น Porsche Cayman S ก็พอละครับ สำหรับเมืองไทย ภาษีโหดเกิน
แต่ในความเป็นจริง ใช้ BMW ซีรี่ย์ 3 ก็เครียดละครับ ไม่รู้จะโดนเกี่ยวโดนชน หรือตกหลุมเมื่อไหร่กับการขับรถในประเทศกรุงเทพ :'(
-
เป็นไปได้ครับ ถ้ามีฝีมือขั้นยืมของคนตายได้ :-*
-
ลองวาง career path ละเอียดๆ ดูครับ คร่าวๆ เงินเดือนสตาร์ท 1แสน ขึ้นปีหละ 2หมื่น จบปีที่10 เลขกลมๆถ้าไม่หักอะไรเลย คุณจะมีเงินแถว 20ล้าน(ปีแรก 1ล้าน - ปีที่6 2.4ล้าน (เงินเดือน2แสน) )
ถ้าตามโจทย์ของคุณคงต้องเริ่มให้ดีกว่านี้ครับ
-
ได้ครับ อยู่ที่ว่าคุณทำงานอะไรตำแหน่งอะไร
-
:-X :-X :-X.....ได้ซิครับ ซื้อเลยครับ 8)
-
เปิดแชร์ลูกโซ่ กวนครีมขาย การตลาดเก่งๆ ก็อาจจะเป็นไปได้อยู่
สายบริษัทเอกชนมีคนรู้จักผมทำได้คนเดียวจริงๆ แต่ความสามารถและความทุ่มเทโดดเด่นมากๆ
ปริญญาเอกมหาลัยอันดับต้นๆอเมริกา จบมาอย่างโดดเด่นจนบริษัทชื่อดังอเมริกาจ้างให้
นั่งตำแหน่งผู้บริหารในไทย เงินเดือนก็ล้านกว่า
-
ไม่มีทางครับ