Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 04:15:43

หัวข้อ: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: paulmoderndog ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 04:15:43
Shell บอกว่ารถไฮโดรเจนดีกว่าแบตเตอรี่ไฟฟ้า
https://brandinside.asia/shell-on-ev-with-biofuel/ (https://brandinside.asia/shell-on-ev-with-biofuel/)
เท่าที่ผมเค้าใจคือเค้าว่ารถไฮโดรเจนคือเอาไฮโดรเจนไปผลิตไฟฟ้าให้รถมีพลังงานขับเคลื่อน
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 08:00:32
จริงครับ  :)
มีอาจารย์ท่านนึงเคยเอา Civic มาทำ
แต่ไม่รู้หายไปไหน
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 08:50:54
แล้ว shell เขามีไฮโดรเจนขายรึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Staples ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 09:27:54
ถ้ามองในแง่ตัวรถ อาจถูก แต่ถ้ามองในแง่โรงงานผลิตไฮโดรเจน อาจผิด ต้นทุนไม่ได้ถูกขนาดนั้นรึเปล่า
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 09:35:22
เชลล์ บอกยังไงไม่รู้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า เชลล์ ที่เอ่ยเป็น ระดับไหน และมีน้ำหนักขนาดไหน

แต่ ทิศทาง ผมว่ามันไปทางไฟฟ้ามากกขึ้นทุกวันแล้ว และ คงเขาสู่ยุคไฟฟ้าล้วน อีกไม่นาน

ผมมองว่า ถ้าก่อนนี้สัก 15 ปี เราสังเกตุได้ว่า รถแต่ละเจ้า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง ออฟชั่นแต่ละอย่าง กว่าจะมีการเปลี่ยนและได้มา มันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ปัจจุบัน 1-2 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนแล้ว บางทีรถบางคันออกมา ยังไม่ทันจะเปลี่ยนโฉมเลย มีเทคโนโลยีเกิดมาระหว่างนั้น ต้องเอามายัดใส่ ทั้งๆ ที่บางคันรถไม่ได้ออกแบบมารองรับซะด้วยซ้ำ และมันทำให้รถ 2-3 ปี ก็ MC/LCI/FL แล้ว 5-6 ปีก็ New Model ละ แต่ก่อนเกือบ 10 ปี ขับยังไงก็ไม่ตกรุ่น ใช้งานจนลืมเลย
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Mp4_007 ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 10:37:43
เชลล์ บอกยังไงไม่รู้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า เชลล์ ที่เอ่ยเป็น ระดับไหน และมีน้ำหนักขนาดไหน

แต่ ทิศทาง ผมว่ามันไปทางไฟฟ้ามากกขึ้นทุกวันแล้ว และ คงเขาสู่ยุคไฟฟ้าล้วน อีกไม่นาน

ผมมองว่า ถ้าก่อนนี้สัก 15 ปี เราสังเกตุได้ว่า รถแต่ละเจ้า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง ออฟชั่นแต่ละอย่าง กว่าจะมีการเปลี่ยนและได้มา มันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ปัจจุบัน 1-2 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนแล้ว บางทีรถบางคันออกมา ยังไม่ทันจะเปลี่ยนโฉมเลย มีเทคโนโลยีเกิดมาระหว่างนั้น ต้องเอามายัดใส่ ทั้งๆ ที่บางคันรถไม่ได้ออกแบบมารองรับซะด้วยซ้ำ และมันทำให้รถ 2-3 ปี ก็ MC/LCI/FL แล้ว 5-6 ปีก็ New Model ละ แต่ก่อนเกือบ 10 ปี ขับยังไงก็ไม่ตกรุ่น ใช้งานจนลืมเลย
ไฮโดรเจนก็รถไฟฟ้าเหมือนกันครับ แค่เปลี่ยนจากแบกแบตเตอรรี่ก้อนใหญ่ๆหนักๆใช้เวลาชาร์ตนานๆ ไปเป็นแบกถังไฮโดรเจนไปผลิตกระแสไฟฟฟ้าแทนแบต เติมเหมือนน้ำมันแต่วิ่งเป็นไฟฟ้า 
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 12:12:36
Shell มี ทั้ง Fuel Cell Station และ EV  Charger  ครับ

จริงๆแล้ว Shell ถือหางทั้งคู่
และพลังงาน ทั้งสองแบบ มันก็เริ่มเห็นตลาดที่ต่างกันครับ
Fuel Cell มันไปเหมาะกับ รถใหญ่ เดินทางไกล หรือเครื่องจักรใหญ่อย่างเรือ

ขณะที่passenger car Hybrid/EV ก็เริ่มเมคเซนมากขึ้น

ในวงการพลังงานทางเลือก มันมีพื้นที่ของแต่ละอย่างอยู่ และทุกคนก็เริ่มเห็นภาพว่า มันอาจจะไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่เป็นหลายๆแบบผสมกันไป มิติของพลังงาน มันซ้อนทับกันหลากหลายขึ้น

หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: dt9 ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 12:30:01
ถ้ารถในโลกนี้ไม่ใข้น้ำมันแล้ว
Shell ก็คงอยากหนุนให้ Fuel Cell เกิดมากกว่า EV มั้ง
เพราะยังไงไฟฟ้ามันมีที่บ้าน และหลายบริษัทลงทุนง่ายกว่าหรือการไฟฟ้าก็ลงมาแข่งได้
แต่การตั้ง Fuel Cell station น่าจะเฉพาะกลุ่มมากกว่าที่จะตั้งได้
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: SRY ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 12:31:58
เชลล์ บอกยังไงไม่รู้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า เชลล์ ที่เอ่ยเป็น ระดับไหน และมีน้ำหนักขนาดไหน

แต่ ทิศทาง ผมว่ามันไปทางไฟฟ้ามากกขึ้นทุกวันแล้ว และ คงเขาสู่ยุคไฟฟ้าล้วน อีกไม่นาน

ผมมองว่า ถ้าก่อนนี้สัก 15 ปี เราสังเกตุได้ว่า รถแต่ละเจ้า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง ออฟชั่นแต่ละอย่าง กว่าจะมีการเปลี่ยนและได้มา มันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ปัจจุบัน 1-2 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนแล้ว บางทีรถบางคันออกมา ยังไม่ทันจะเปลี่ยนโฉมเลย มีเทคโนโลยีเกิดมาระหว่างนั้น ต้องเอามายัดใส่ ทั้งๆ ที่บางคันรถไม่ได้ออกแบบมารองรับซะด้วยซ้ำ และมันทำให้รถ 2-3 ปี ก็ MC/LCI/FL แล้ว 5-6 ปีก็ New Model ละ แต่ก่อนเกือบ 10 ปี ขับยังไงก็ไม่ตกรุ่น ใช้งานจนลืมเลย
จริงครับ เดี๋ยวนี้ออกเร็วมาก เหมือนมือถือเลย สมัยก่อนๆนานๆที สมัยนี้ออกถี่มาก รถก็จะกลายเป็นแบบนั้นแล้ว ตามแทบไม่ทัน ปรับทุกปีเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: onbit40 ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 13:04:57
hydrogen ถังมันแรงดัน 10,000 PSI , ให้ผมนั่งก็ไม่เอาละคับ 555+
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: smileymee ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 13:36:49
ในวงการพลังงานทางเลือก มันมีพื้นที่ของแต่ละอย่างอยู่ และทุกคนก็เริ่มเห็นภาพว่า มันอาจจะไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นหลายๆแบบผสมกันไป มิติของพลังงาน มันซ้อนทับกันหลากหลายขึ้น

+1
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 14:12:20
e100 ที่หอยเสนอ นิสสันทดสอบที่บราซิลจนนิ่งแล้ว
ถึงยอมขายโรงงานถ่านให้จีนแดง แต่บ.จีนแดงเบี้ยวบอกหาเงินมาจ่ายไม่ทัน
เติมเหล้าแทนน้ำมัน ผลิตไฟใช้ถ่านก้อนเล็กกว่า รถใส่ถ่านเยอะ วิ่งได้ไกลกว่า

ถ้าe100 ไฟฟ้ามาขายจริง แล้วแก้กม.ต้มเหล้าเสรี คนไทยคงหายจนกันทั่วหน้า
พืชผักเอามาทำเหล้าเยอะแยะ ราคาไม่ได้สูงมาก ดีกว่าทิ้งขว้างให้เน่าเสีย

มีหัวลากเมกาเปิดตัวมาแล้วอันนั้นเติมไฮโดรเจนแบบเดียวกับ เรือ รถไฟ เครื่องบิน
ใช้แสงอาทิตย์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ต้นทุนต่ำ เขาว่างั้น ไม่ต้องพึ่งนิวเคลียร์

ตราบที่ต้องพึ่งลิเธียมถ่านยังไม่มีอนาคต กราฟีนเป็นทางออกเดียวแต่ตอนนี้ยังแพงสุดๆ

หอยออกตัวแบบนี้ ควรรวมตัวกันให้ออกe100 b100ได้แล้ว ราคาปาล์มต่ำจนโค่นต้นแล้ว
ถ้าพัฒนาเซลจนใช้น้ำมันพืชได้ โลกจะสะอาดและเลิกใช้น้ำมันดิบไปได้มาก
เครื่องไอพ่น ยังมีหวังจะใช้น้ำมันผสมได้มากขึ้นไปด้วย จนทดแทนได้หมดในอนาคต

หัวจ่ายไฮโดรเจนรุ่นใหม่ ก็ออกมาแล้วสาวไทยร่วมออกแบบด้วย ไม่ยักทำข่าว ใครๆก็เติมเองได้
ที่ยุ่นยังแก้กม.ให้เติมเอง ปั้มไม่เข้มงวดมาก พอๆกับแก็ส สร้างแรงจูงใจให้คนทำปั้มมากขึ้น
ตู้เก็บถังขนาดเล็กลง สถานีแยกก๊าซขนาดเล็กลง สร้างในที่กันดารได้ที่มีน้ำ ใช้พลังงานต่ำลง
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 14:54:35
ห่วงรัฐไม่มีรายได้ ห่วงเกษตรกร หรือห่วงตัวเอง  ;D
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 23:37:12
เวลาจะเป็นคนเฉลยเองครับ  :D
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 13, 2018, 16:37:46
เชลล์ บอกยังไงไม่รู้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า เชลล์ ที่เอ่ยเป็น ระดับไหน และมีน้ำหนักขนาดไหน

แต่ ทิศทาง ผมว่ามันไปทางไฟฟ้ามากกขึ้นทุกวันแล้ว และ คงเขาสู่ยุคไฟฟ้าล้วน อีกไม่นาน

ผมมองว่า ถ้าก่อนนี้สัก 15 ปี เราสังเกตุได้ว่า รถแต่ละเจ้า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง ออฟชั่นแต่ละอย่าง กว่าจะมีการเปลี่ยนและได้มา มันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ปัจจุบัน 1-2 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนแล้ว บางทีรถบางคันออกมา ยังไม่ทันจะเปลี่ยนโฉมเลย มีเทคโนโลยีเกิดมาระหว่างนั้น ต้องเอามายัดใส่ ทั้งๆ ที่บางคันรถไม่ได้ออกแบบมารองรับซะด้วยซ้ำ และมันทำให้รถ 2-3 ปี ก็ MC/LCI/FL แล้ว 5-6 ปีก็ New Model ละ แต่ก่อนเกือบ 10 ปี ขับยังไงก็ไม่ตกรุ่น ใช้งานจนลืมเลย
ไฮโดรเจนก็รถไฟฟ้าเหมือนกันครับ แค่เปลี่ยนจากแบกแบตเตอรรี่ก้อนใหญ่ๆหนักๆใช้เวลาชาร์ตนานๆ ไปเป็นแบกถังไฮโดรเจนไปผลิตกระแสไฟฟฟ้าแทนแบต เติมเหมือนน้ำมันแต่วิ่งเป็นไฟฟ้า

คุณคิดว่า รถ FCV หรือพวกรถไฮโดรเจน ไม่หนักเหรอครับ ผมว่าดีไม่ดีมันหนักกว่า รถ Hybrid หรือ EV อีกนะครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ Honda Clarity มันมี 3 body เทียบง่าย
FCV หนัก 4134 lbs
EV หนัก 4024lbs
Hybrid 4059 lbs

คิดดูเอาละกันครับ

อันนี้โครงสร้าง Mirai คุณดูแล้วจะเข้าใจเอง

(https://www.diariomotor.com/tecmovia/imagenes/2016/04/toyota-mirai-201114-06.jpg)

credit : www.diariomotor.com
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Mp4_007 ที่ กรกฎาคม 13, 2018, 22:03:23
เชลล์ บอกยังไงไม่รู้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า เชลล์ ที่เอ่ยเป็น ระดับไหน และมีน้ำหนักขนาดไหน

แต่ ทิศทาง ผมว่ามันไปทางไฟฟ้ามากกขึ้นทุกวันแล้ว และ คงเขาสู่ยุคไฟฟ้าล้วน อีกไม่นาน

ผมมองว่า ถ้าก่อนนี้สัก 15 ปี เราสังเกตุได้ว่า รถแต่ละเจ้า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง ออฟชั่นแต่ละอย่าง กว่าจะมีการเปลี่ยนและได้มา มันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ปัจจุบัน 1-2 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนแล้ว บางทีรถบางคันออกมา ยังไม่ทันจะเปลี่ยนโฉมเลย มีเทคโนโลยีเกิดมาระหว่างนั้น ต้องเอามายัดใส่ ทั้งๆ ที่บางคันรถไม่ได้ออกแบบมารองรับซะด้วยซ้ำ และมันทำให้รถ 2-3 ปี ก็ MC/LCI/FL แล้ว 5-6 ปีก็ New Model ละ แต่ก่อนเกือบ 10 ปี ขับยังไงก็ไม่ตกรุ่น ใช้งานจนลืมเลย
ไฮโดรเจนก็รถไฟฟ้าเหมือนกันครับ แค่เปลี่ยนจากแบกแบตเตอรรี่ก้อนใหญ่ๆหนักๆใช้เวลาชาร์ตนานๆ ไปเป็นแบกถังไฮโดรเจนไปผลิตกระแสไฟฟฟ้าแทนแบต เติมเหมือนน้ำมันแต่วิ่งเป็นไฟฟ้า

คุณคิดว่า รถ FCV หรือพวกรถไฮโดรเจน ไม่หนักเหรอครับ ผมว่าดีไม่ดีมันหนักกว่า รถ Hybrid หรือ EV อีกนะครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ Honda Clarity มันมี 3 body เทียบง่าย
FCV หนัก 4134 lbs
EV หนัก 4024lbs
Hybrid 4059 lbs

คิดดูเอาละกันครับ

อันนี้โครงสร้าง Mirai คุณดูแล้วจะเข้าใจเอง

(https://www.diariomotor.com/tecmovia/imagenes/2016/04/toyota-mirai-201114-06.jpg)

credit : www.diariomotor.com
ก็หนักแล้วไง แต่มันมีข้อได้เปรียบกว่าแบตเตอรี่อยู่ตรง เติมเหมือนน้ำมัน ใช้เวลาน้อยกว่าชาร์ตไฟแน่ๆ ต่อให้เป็นsuper changer ก็ตาม
หัวข้อ: Re: Shell บอกว่าToyotaมาถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 14, 2018, 09:48:59
e100 ที่หอยเสนอ นิสสันทดสอบที่บราซิลจนนิ่งแล้ว
ถึงยอมขายโรงงานถ่านให้จีนแดง แต่บ.จีนแดงเบี้ยวบอกหาเงินมาจ่ายไม่ทัน
เติมเหล้าแทนน้ำมัน ผลิตไฟใช้ถ่านก้อนเล็กกว่า รถใส่ถ่านเยอะ วิ่งได้ไกลกว่า

ถ้าe100 ไฟฟ้ามาขายจริง แล้วแก้กม.ต้มเหล้าเสรี คนไทยคงหายจนกันทั่วหน้า
พืชผักเอามาทำเหล้าเยอะแยะ ราคาไม่ได้สูงมาก ดีกว่าทิ้งขว้างให้เน่าเสีย

มีหัวลากเมกาเปิดตัวมาแล้วอันนั้นเติมไฮโดรเจนแบบเดียวกับ เรือ รถไฟ เครื่องบิน
ใช้แสงอาทิตย์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ต้นทุนต่ำ เขาว่างั้น ไม่ต้องพึ่งนิวเคลียร์

ตราบที่ต้องพึ่งลิเธียมถ่านยังไม่มีอนาคต กราฟีนเป็นทางออกเดียวแต่ตอนนี้ยังแพงสุดๆ

หอยออกตัวแบบนี้ ควรรวมตัวกันให้ออกe100 b100ได้แล้ว ราคาปาล์มต่ำจนโค่นต้นแล้ว
ถ้าพัฒนาเซลจนใช้น้ำมันพืชได้ โลกจะสะอาดและเลิกใช้น้ำมันดิบไปได้มาก
เครื่องไอพ่น ยังมีหวังจะใช้น้ำมันผสมได้มากขึ้นไปด้วย จนทดแทนได้หมดในอนาคต

หัวจ่ายไฮโดรเจนรุ่นใหม่ ก็ออกมาแล้วสาวไทยร่วมออกแบบด้วย ไม่ยักทำข่าว ใครๆก็เติมเองได้
ที่ยุ่นยังแก้กม.ให้เติมเอง ปั้มไม่เข้มงวดมาก พอๆกับแก็ส สร้างแรงจูงใจให้คนทำปั้มมากขึ้น
ตู้เก็บถังขนาดเล็กลง สถานีแยกก๊าซขนาดเล็กลง สร้างในที่กันดารได้ที่มีน้ำ ใช้พลังงานต่ำลง

ทำไม่ได้หรอกครับ
งี้ ประชาชน ไทยก็ อยู่ดี กินดี ไม่ต้อง พึ่ง อเมริกา สิ
เราต้อง ใช้ น้ำมัน ที่ อเมริกา ควบคุมรคาต่อไปครับ