Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mxmx ที่ สิงหาคม 08, 2018, 09:54:16
-
สงสัยว่า
1 รถยนต์แต่ละรุ่นตอนออกแบบเค้าได้กำหนดขนาดของล้อที่จะใช้กับรถยนต์รุ่นนี้กับเครื่องขนาดนี้เลยปะคับ แล้วมีออกแบบเผื่อล้อหลายขนาดหรือเปล่า คับ
2 เวลาที่แจ้งรายละเอียดของรถเช่น อัราเร่ง แรงม้า แรงบิด การกินน้ำมันเค้าอ้างอิงจากล้อขนาดไหน ในกรณีรุ่นเดียวกันมีล้อหลายขนาด
3 รถยนต์บางรุ่น เครื่องเดียวกัน มีล้อที่ออกมาจากโรงงาน ขนาดตั้งแต่ 18-21 นิ้ว มันจะทำให้ประสิทธิภาพของรถต่างกันไหมคับ เช่นตัวล้อ 18 วิ่งดี
กว่าล้อ 21
-
คำว่า วิ่งดี แปลว่าอะไรครับ
เร่งดี หรือเกาะถนนดี
หรือประหยัดค่ายางดี
-
สงสัยว่า
1 รถยนต์แต่ละรุ่นตอนออกแบบเค้าได้กำหนดขนาดของล้อที่จะใช้กับรถยนต์รุ่นนี้กับเครื่องขนาดนี้เลยปะคับ แล้วมีออกแบบเผื่อล้อหลายขนาดหรือเปล่า คับ
2 เวลาที่แจ้งรายละเอียดของรถเช่น อัราเร่ง แรงม้า แรงบิด การกินน้ำมันเค้าอ้างอิงจากล้อขนาดไหน ในกรณีรุ่นเดียวกันมีล้อหลายขนาด
3 รถยนต์บางรุ่น เครื่องเดียวกัน มีล้อที่ออกมาจากโรงงาน ขนาดตั้งแต่ 18-21 นิ้ว มันจะทำให้ประสิทธิภาพของรถต่างกันไหมคับ เช่นตัวล้อ 18 วิ่งดี
กว่าล้อ 21
ข้อ 1 อันนี้ไม่ทราบครับ
ข้อ 2 ตอบ = อัตราสิ้นเปลืองจากโรงงานตอนทดสอบใช้ยางขนาดเล็กที่สุดของรถรุ่นนั้นครับ เพราะผมเคยเห็นในเว็บต่างประเทศ
เค้าจะมีเขียนในหมายเหตุเป็นตัวหนังสือเล็กๆไว้ครับ บอกขนาดล้อยางที่ทดสอบ มันเป็นขนาดเล็กสุดที่รถรุ่นนั้นมีเลยครับ
ข้อ 3 ตอบ = ขนาดวงล้อแม็กไม่น่ามีผลมากครับ ถ้าน้ำหนักของล้อไม่ต่างกัน แต่ที่มีผลชัดเจนคือหน้ายางครับ
เช่น 275/35R19 อืดและกินน้ำมันกว่า 245/40R19 แน่นอนครับ
-
พวกล้อที่รอบวงใหญ่ มันจะต้องใช้แรงหมุนมากกว่าล้อเล็กๆครับ
เพราะงั้น ตัวรถก็ต้องใช้เครื่องใหญ่กำลังเยอะ หรือไม่ก็ใช้เกียร์ทดรอบให้จัดมากๆแทน
ยกตัวอย่างง่ายๆ พวกกระบะโหลดเตี้ยก็แล้วกัน เดิมๆมันเป็นกระบะขนของใส่ล้อมาตรฐานโรงงานมา
ถ้าไม่นับเรื่องที่ไปดันรางมา (สมมุติเป็นรถที่เปลี่ยนล้อแต่ยังไม่ได้ทำเครื่อง) พอเปลี่ยนใส่ล้อเล็กๆมันก็ออกตัวได้เร็วขึ้น เพราะล้อมันเบาและรอบวงก็สั้นลงหมุนรอบนึงก็กินแรงน้อยกว่าล้อเดิม
แต่ความเร็วปลายมันก็จะหดลงด้วย บางที่เหยียบจนสุดรอบเครื่องแล้วแต่ก็ไม่ได้เร็วมาก
(ยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆครับ จะได้เปรียบเทียบเรื่องขนาดล้อได้เข้าใจง่ายหน่อย)
ถ้าเป็นรถยุโรปที่ใช้เครื่องเทอร์โบ กำลังเครื่องดี ล้อติดรถจากโรงงานก็มักจะใช้ล้อใหญ่ หน้ายางกว้าง
ก็ได้เปรียบเรื่องการเกาะถนน การทรงตัวที่ความเร็วสูงๆดี วิศวกรก็สามารถเซตช่วงล่างในแบบที่ไม่ต้องแข็งจนเกินไปแบบรถแข่งสนามได้
ในขณะที่รถบ้านญี่ปุ่น หรืออเมริกาที่ใช้เครื่อง NA หายใจเองแรงม้าแรงบิดไม่มาก ก็มักจะใช้ล้อเล็กกว่า เน้นแบบที่ไม่กินแรงเครื่องมาก วิ่งทางไกลแล้วได้ความประหยัด
แต่หน้ายางเล็กกว่า วิ่งความเร็วสูงๆบวกกับน้ำหนักรถเบา มันก็ไม่นิ่งเท่าพวกรถยุโรป ถ้าอยากจะวิ่งดีบางทีต้องไปเซตช่วงล่างให้ออกแนวติดแข็งๆหน่อย
หรือในรถบางรุ่นก็ให้ระบบ AWD มาเลยเพื่อช่วยการทรงตัวยามคับขัน ถือเป็นลูกเล่นของวิศวกรแต่ละจ้าวว่าจะออกแบบรถออกมาอย่างไรครับ
-
บางที มันก็ขึ้นอยู่กับว่าได้ของต้นทุนดีไหมด้วยแหละครับ ;D
-
เคยลองจับเวลา Vios บริทนีย์ ล้อ 17 ล้อเดิม เป็น 15
0-100 ได้ 14 วิกว่าๆ วิ่งสุดได้ 170 ในเวปเก่าๆ รีวิวได้ 12กว่าๆ
วิ่ง 110 กินน้ำมัน 10 KM/L วัดจาก Obd2 ในเวป 14 กว่าๆ
ล้อใหญ่ กินน้ำมันกับทำเวลา มากขึ้นแน่นอน
ปล.อย่างว่ารถ 15 ปีแล้ว
-
ผมคิดว่าที่มีผล เป็นน้ำหนักล้อ+ยาง เส้นรอบวงและพื้นที่หน้าสัมผ้สของยางกับถนน ไม่ใช่อยู่ที่ล้อเล็กหรือใหญ่
-
1. เผื่อครับ อย่างน้อยๆก็สามขนาด ตัวอย่าง อัลติสโฉมปัจจุบัน
อย่างเครื่อง 1.8 ต้องทดสอบทั้งล้อขอบ 15/16/17
2. แล้วแต่ตลาดครับ อย่างเมืองไทยเครื่อง 1.8 ใช้ทั้งขอบ 16/17
แต่เค้ามองว่ารถพี้นฐานคือรุ่น 1.8E ซึ่งอ้างอิงจากขอบ 16 ฉะนั้นแล้วก็แจ้งตามนั้นไป
ส่วนขอบ 17 ก็เป็นรุ่นพิเศษ ใครอยากได้ก็ต้องจ่ายเพิ่ม
3. ต่างครับ อย่างอัลติส 1.8 ล้อขอบ 16 อัตราเร่งดีกว่าขอบ 17 เพราะเบากว่า ยางเล็กกว่า
ขึ้นอยู่กับต้นทุนเป็นหลักครับ
-
1. ถ้าเป็นรถที่ราคาไม่สูงนัก ไม่ทำเผื่อ เวลาเปลี่ยนแม็กให้โตขึ้นต้องปรับค่ายางให้ใกล้เคียงกับของเดิม
ถ้าเป็นรถราคาสูง ๆ มันจะมีหมวด เพอฟอร์มานซ์ ให้ปรับค่ายางตามที่เราต้องการเปลี่ยน เช่นรถผม สามรถเปลี่ยนได้ ตั้งแต่ขอบ 15-19 โดยปรับค่ายางในกล่องตาม เพื่อให้ไมล์คงที่ ไม่แข็ง- อ่อน กว่าเดิม
2. อันนี้ผมเข้าใจเอง ม้า-บิดที่ให้มา เป็นม้า-บิดที่ออกจากเครื่อง ไม่ใช่ที่ล้อ ที่วัด ๆกันบนไดโน น่าจะคิดย้อนกลับไปที่เพลาขับ
3. ต่างกันแน่นอนครับ แต่ละขนาดมีผลหลาย ๆอย่าง แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้
-
ขอบคุณทุกความเห็นคับ