Headlight Magazine : community

General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:14:11

หัวข้อ: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:14:11
เอ้ !! ไม่รู้ จะเริ่มยังไงดีครับ ZZZZ!!!!!
ง่ายๆ หละกัน ก่อนอื่นต้องขอทักทายและสวัสดีทุกท่านที่กำลังเปิดบทความนี้นะครับ จะด้วยความตั้งใจ หรือกดพลาดเข้ามาก็แล้วแต่ ขอขอบคุณนะครับ อืม ขอบคุณพื้นที่ในคอลัมน์ User Review ด้วยนะครับ ;)
ผมเป็นสมาชิกใหม่ที่นี่ครับ เพิ่งจะสมัครสมาชิกก็วันแม่ที่ผ่านมานี่เอง ก่อนหน้านี้ก็ได้เข้ามาอ่านในเวปนี้ในหลายๆ บทความ รวมทั้ง รีวิวจากคุณ J!MMY และ Commander CHENG ก็ได้ประโยชน์ และความสนุกสนานตลอดมา
พอได้เข้ามาอ่าน คอลัมน์ User Review ก็ชอบนะครับ แต่หันมามองดูตัวเองว่าจะทำบ้าง ก็ฉุกคิดว่ารถที่ตัวเองใช้มันไม่ใช่รถตลาด เป็นรถประหลาดในสายตาคนรู้จักผมหลายๆ คน ก็ เลยยั้งใจไว้ คือกลัวมันจะแห้ว ว่ากันตรงๆ แต่พอได้อ่านคอลัมน์ 50 รถรุ่นดังในเมืองไทย 1985 ? 2005 โดย Commander CHENG มันก็ได้จุดประกายความคิดและแรงบันดาลใจของผมขึ้นมาใหม่ หรือพูดแบบ ฝรั่งก็ ?It is My Inspiration?....ว่าไอ้รถในยุคนี้ โดยเฉพาะยุค 90?s .......... มันเป็นยุคที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงจาก Enjoy Human to Enjoy Environmental ในในยุคปัจจุบัน ...... ในความคิดผมมันเป็นยุคทองของวงการรถยนต์สมัยใหม่เลยไม่ว่าจะ ดีไซน์ที่หลายๆรุ่น ขึ้นแท่นคลาสสิคคาร์ไปแล้ว รวมถึง เทคโนโลยีใหม่ ต่างๆ มันถาโถมเข้ามา จนตั้งตัวกันไม่ติดทีเดียว
รวมถึงอยากจะลองเขียนไดอารี่เรื่องราวของรักของหวง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อเป็นความทรงจำในวัยที่จะย่างเข้าเลขสามในปลายปีนี้ และเผื่อในวัยที่เกษียณอายุแล้ว นำมันกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็คงได้อมยิ้มในใจลึกว่า ..... มรึงก็บ้าเข้าขั้นนะเนี่ย และอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกอาจจะช่วยแก้ไม่ให้เป็น โรคอัลไซเมอร์ก่อนวัยอันควร ............ว่าไปนั้นเลยตรู ...  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:15:49
มาดูการเดินทางของผมกันเลย ..... ตั้งแต่จำความได้ ผมก็ชื่นชอบจากเหล็กสี่ล้อ หรือ รถยนต์...โดยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบแน่ชัด .... ถึงขนาดเคยนั่งริมฟุตบาทนั่งดมควันดูรถราที่วิ่งผ่านไปผ่านมา .....   ซื้อหนังสือรถยนต์อ่านในวัยเด็ก ที่เพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันซื้อการ์ตูนอ่าน ....
เริ่มกันที่รถคันแรกที่อยากจะเขียนถึงก่อนเลย ... ขอโทษด้วยที่ไม่มีรูปรถคันนี้นะครับ สมัยนู้นรูปมันยังเป็นแผ่นฟิลม์อยู่เลย ... มันคือ Mitsubishi Lancer รุ่นประวัติศาสตร์ ... ก็ E-car นั่นหละ ... มันเป็นรถป้ายแดงคันแรกของที่บ้านเลย ... สำหรับครอบครัวมนุษย์เงินเดือน เล็กๆ อย่างครอบครัวผม ... ตอนแรกก็เลือกอยู่หลายรุ่น แต่สุดท้ายมาลงเอยที่รุ่น GLX AUTOMATIC เครื่องคาบู สีแดงมาเหมี่ยว จำราคาที่แน่ชัดไม่ได้ พอเลือนที่สี่แสนกว่าๆ จองไปจองมา รอกันไปเกือบครึ่งปี รถก็ไม่ทีท่าว่าจะได้สักที ... จำได้ว่ายุคนั้นธุรกิจขายใบจองนี้มันอู้ฟู้ มากทีเดียว เฮ้อ ... สุดท้ายคุณพ่อผมก็กันฟันจนเลือดซิบ ขยับไปเล่นรุ่น1.6 GLXI AUTOMATIC เป็นรุ่นประกอบนอก (CBU) สีเขียวมะกอก คุณพ่อผมเรียกอย่างนั้น ราคาน้องนางคันนี้ในสมัยนั้นจำได้ว่า หกสิบหมื่น ทอนมาพันเดียว ... ผมก็ได้รถคันนี้ไว้หัดขับนั่นหละ มีอยู่หลายคราวที่บ้านให้ยืมขับไปโรงเรียน ตอนนั้นยังใส่ขาสั้นอยู่เลย ... จำได้ว่าห้าวพอตัวเลย ชวนเพื่อนๆขับไป ตจว เพื่อนผู้ชายนะครับ ... อย่าคิดมาก ... ดีนะที่คุณพ่อผม เล่นคอมไม่เป็น ไม่งั้นโดนเตะย้อนหลังแหงๆ ... น้องๆที่อ่านอยู่ อย่าเอาเป็น ตย.นะครับ
ด้วยเครื่องยนต์  4G92 แคมเดี่ยว 16 Valve ม้าประมาณ 110 ตัว ที่ 6000 รอบ กับแรงบิด 14.5 กก.-ม. ที่ 4500 รอบ ... โอ้ว! มันช่างแรงเสียจริง ... จะไม่แรงได้ไงวะ มึงเคยขับอยู่คันเดียว ... ตีนปลายที่ผมทำได้กว่า 190 กม./ชม. มันช่างทำให้เด็กวัยรุ่นคนนึงคึกคะนองได้พอตัว อัตราเร่งที่ไม่ขี้เหร่เลย กดเป็นมา ... ผมว่าเกียร์ออโตมิตซูมันแรงเกินตัวจริง...ไม่แรงได้ไงหละ เผลอกด OD OFF รอบเครื่อง กวาดไปเลข 8 พันกว่ารอบ เรดไลน์มันแค่ 6500 รอบนะ ... ทำไมกล่องมันไม่ตัดวะ ... สุดท้ายสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เกียร์ก็ต้องไปตามตรีน ฉันนั้น ด้วยเลขไมล์ แค่ สามหมื่นสามพันกว่าโล ผมจำแม่นเลย เพราะโดนคุณพ่อด่า ยกใหญ่ว่ามึงขับยังไงวะ เกียร์พัง ... แถมรถสมัยนู้น มันรับประกัน แค่ 2 ปี หรือ 50,000 กม. อย่างใดอย่างนึงถึงก่อน ... แล้วรถผมมันเลยสองปีมาหน่อยเดียว เลยต้องควักกระเป๋าซ่อมเอง จำได้ว่าต้องไปซ่อมที่ศูนย์ใหญ่มิตซู แถวรังสิตนู้นเลย ค่าซ่อมหมดไปสามหมื่นกว่า โดนด่าหูชาเลย สุดท้ายรถคันนี้ ตอนนี้ยังอยู่ในความครอบครองของคุณป้าผม สภาพก็ทรุดโทรมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ยังวิ่งได้นะครับ เครื่องก็ตัวเดิม ปอกท่อไอ้ปืนโตสุดๆที่ผมเปลี่ยนยังอยู่ดีเลย วิ่งทั่ววัด ทำบุญทั่วไทย กว่า สองแสนโลแล้ว ...  เมื่อวานวันแม่...ยังเจอกันอยู่เลย ยังแอบคิดเล่นๆ ว่า ถ้ามันได้กลับมาอยู่ในมือผม ผมจะบูรณะให้มันใกล้เคียงกับตอนป้ายแดง แล้วเอาไปคืนให้คุณพ่อได้ใช้ขับเล่น แกคงมีความสุขใช่ย่อยเลยหละ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:17:34
คันต่อมาเป็นรถในตำนานอีกคันของเมืองไทย หลังจากทำน้องมิตซูกลับเจแปนกว่าเวลาอันควร ... ก็เลยขอที่บ้านว่าขอรถใช้แล้วเถอะ ... ก็ไปกับคุณพ่อเหมือนเดิม ไปแถวรัชดา ไปดูรถนะครับ อิอิ ... ดูไปดูมาก็ไปถูกใจกับเจ้าโลมาน้อย สีเขียวก้านมะลิ ตอนนั้นก็ดูรถไม่เป็นหรอกครับ งูๆ ปลาๆ อาศัยเชื่อใจ ว่าเต็นท์นั่นมีชื่อเสียง ตอนนี้เต็นท์นี้ก็ยังอยู่นะ แสดงว่าผมคงไม่โดนหลอกหละ 555 จับมาที่ สี่แสนหนึ่งหมื่นบาท กับโฉมแรก 12 Valve เดิมสนิท ก็ขับไปเรียน ไปเที่ยว และอื่นๆ คิดเอาเองนะค้าบ ... ขี่เซฟสมัยนู้นมันก็ดูโก้ไม่หยอกเหมือนกัน ถึงแม้ว่าท้องมันจะไม่เคยอิ่มเลย กับเครื่อง หกสูบแถวเรียง โบราณๆ ขับยังไงมันก็ ได้ ห้าโลลิตร เฮ้อ! อาศัยน้ำมันซุปเปอร์สมันนั้นมันอยู่ ที่สิบบาทเศษ มันก็พอกล้อมแกล้มไปได้ กับตีนปลายที่190 กม./ชม. ที่นิ่งสุดๆ ก็ยังทำให้ชื่นใจอยู่บ้าง ... ;)

ในปีการศึกษาสุดท้าย ผมก็ได้มีโอกาสตกแต่งมันหละ หลังจากขี่ไปร่วมแปดหมื่นโล เครื่อง RB 20 E มันก็เริ่มหลวมซะงั้น เหยียบทีควันยังกะรถไก่ย่าง ... ก็เลยบอกคุณพ่อว่าเครื่องพังหละ ต้องเปลี่ยนเครื่องมั้ง ... พ่อผมก็เชื่อซะสนิทใจ หุหุ แกบอกว่าก็ลองไปศึกษาดูสิว่าทำยังไงได้บ้าง ... ศึกษาไปมาก็มาจบลงที่การควักใจเธออกมา ...  เอามาดูสิว่าทำไมมันถึงตะกละตะกรามขนาดนี้ ... เลยจับไปอดอาหารในอู่ซะเลย 555 ... สุดท้ายก็มาจบลงที่เครื่องเจ้าเส้นขอบฟ้า R32 GTS รุ่นโบลออฟบน พิมพ์นิยม เซฟยุคแรก ... เอาสเปคเครื่องไปดูกัน รหัส RB 20 DET 6 สูบเรียง DOHC 24 V. 1998 CC. 215 ม้า ที่ 6400 รอบ แรงบิดที่ 27กก.-ม. ที่ 3200 รอบ ... ก่อนที่มันจะกลายเป็น เครื่องเจ ในสมันนี้ ไอ้ยุ่นมันคง งงกันใหญ่ ว่า A31ที่เมืองไทย มันผลิตที่โรงงานสำโรงเหรอไงฟะ  :-X

ภายนอกมาจบลงที่แต่งภายนอก 24 Valve ใส่ล้อ 17 ยางบาง วิ่งดีเลย เป็นรถมีหอยคันแรกที่ได้ขับ แรงพอตัว แต่ซดน้ามันเหมือนเคย 555 แต่ดีกว่าเครื่องเดิมนะ แถมวิ่งต่างกันฟ้ากะเหวลึกๆๆเลย? เคยเอาไปลองวิ่ง Test ดูที่ MMC Drag สนาม 1/4 mile ยอดฮิตในยุคนั้น ได้ดีสุด 15.7 วิ ที่ 145 กม./ชม. เอ้อรถผมเกียร์ออโตนะครับ ... ตีนปลาย จมไมล์เดิมที่ สองร้อย ยังไปต่อได้อีก จำได้ว่าเคยคิดแบบคำนวณเฟืองท้าย รอบเครื่อง อะไรอีกไม่รู้ ได้กว่า สองยี่ ... เคยลองอยู่หนเดียว แล้วเป็นครั้งที่ ยางแตกด้วย ลงทางด่วนมายางแฟบเลย คิดแล้วยังเสียวไม่หาย ... ประโยชน์ข้อนึงของยางซีรีย์ต่ำคือ ถ้ามันแบน หรือ แตกมัน ... จะมีอาการน้อยกว่ายางซีรีย์สูงๆ อันนี้ก็อ่านมานะครับ ... ความทรงจำกับรถคันนี้ อีกอย่างคือเป็นการขับรถชนครั้งแรก ... ขับไปจิ้มตูดกระบะ เพราะ ลืมตัว ประมาท ว่าใส่ยางอะไหล่อยู่ ก็ซ่อมหน้าไปนิดหน่อย.... หลังจากนั้นก็ขายไป ผมก็ไปเรียนต่อ ตปท. สองปีครับ

กลับมาจากเรียนก็ไม่รู้จะซื้อรถอะไรดี ... ก็มาจบที่เจ้าโลมาเหมือนเดิม เครื่องสกายไลน์แบบเดิม จับที่เต๊นท์มาสองกว่าๆ ... คันนี้ไม่มีอะไรมาก จบไม่สวยนัก ... สุดท้ายขับหมุนกลางถนน เพราะผมประมาท ไปชนกับขุนแผนเหล็ก ... เสียค่าชดใช้ไปบานเลย เครียดอยู่เป็นปี ... เรื่องจริงเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อยู่หลังพวงมาลัย อย่าประมาทนะครับ ... รวมถึงเวลาทำประกัน ต้องดูให้ดีว่าประกันชดใช้คู่กรณีเท่าไรนะครับ ยังดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตครับไม่งั้นผมแย่แน่ ... ผมก็ได้แต่ร้องเพลง พี่ตั้ม สมประสงค์ ... ก็เรามันโง่เอง โง่เอง ไม่อ่านกรมธรรม์ให้ดีเอง ...... แต่ยังไงเสียเจ้าโลมามันก็ช่วยชีวิตผมไว้หละกัน คิดในแง่ดีหละกันนะ .. :).

หลังจากนั้นก็ถอดใจ จะเลิกขับรถซิ่งแล้ว ... ไปซื้อรถเล็กๆ มาใช้ดีกว่า ตอนนั้นใช้รถวันนึง 7 ? 8 สิบกิโลได้ แบบทำงานขับผ่าน 3 จังหวัด ... ไม่รู้ว่าถูกมนต์สะกดน้องพอลล่า Presenter คนงาม เหรอป่าว ทำให้ไปถูกใจน้อง JAZZ GD เข้าเต็มเปา ... สียอดฮิต น้องพอลล่าบอกต้องขาวเท่านั้น รุ่นท๊อป VTEC ไปเลย เซฟๆ AIRBAG ABS ครบๆ ... จ่ายไป 685,000 บาทถ้วน แพงฉิบเลย ... ไม่รู้ว่าผมยังดวงซวยต่อ เหรออย่างไร ... รถผมมีปัญหาในหลายเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ ... อาจจะเป็น หนึ่ง ในหลายพันคัน ที่เกิดเคสแปลกๆ ขึ้น ... สุดท้ายดีลเลอร์ขอซื้อคืนไปหลักจากผมใช้ไป 6 เดือน วิ่งไป 11,000 กิโล โดยหักค่าเสื่อม ไป สิบกว่า % ผมก็ยอมๆ ไป แต่กว่าจะจบเรื่องก็ ไปเม้งกับมันหลายยกเหมือนกัน ... เฮ้อ แล้วตรูจะทำยังไงกับชีวิตวะเนี่ย ... ถอยรถใหม่แล้วยังเป็นแบบนี้ ... เลยบ้าหนักไปเลย บ้ายังไงติดตามกันต่อครับ
ปล. ผมบอกไม่ได้จริงๆ ครับ ว่ารถผมผิดปกติยังไง เพราะ ดีลเลอร์ มันให้เซ็นยินยอมว่าต้องเก็บเป็นความลับ ขอโทษจริงๆนะครับ  :'(
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:19:04
คันต่อมา คิดอะไรไม่ออกก็ขอยืมรถที่บ้านมาใช่ดีกว่า คันนี้ที่บ้านผมเค้าเรียกว่าเจ้าสีทอง ... ประวัติที่ซื้อนะตอนนั้น คือ เจ้ารถถังสวีเดนซีรีย์ เก้า ของคุณพ่อ เริ่มรวนเร อยากกลับยุโรปเต็มแก่ ... เลยคิดว่าจะเปลี่ยนรถใหม่ญี่ปุ่นขนาด สองพันซีซี สักคัน ...มีตัวเลือกอยู่ 3 คัน พ่อผม แกคงอยากจะกลับเป็นวัยรุ่น แกชอบ มาสด้า ทรงเฉี่ยว แลนติส วีหก นั่นเอง ... ส่วนแม่ผม ยัง ติดใจโลโก้เพชรอยู่ แกเชียร์ อัลติมา วีหก ... ส่วนผมก็เชียร์ ฮอนด้า แอคคอรด์ เจ้าไฟท้ายสองก้อนนี่หละ ... เลือกกันไป คุยกันไป ผมก็ชนะทุกเสียง หุหุ ... แลนติสนะสวย สมรรถนะดี ก็จริง แต่กังวลว่ามันจะเล็กไป แถมในระยะยาวก็กังวลเรื่องการบำรุงรักษา ... ส่วนเจ้าอัลติมา ได้ฟังมาว่าเกียร์ออโต นั่นเปราะยังกะปุยนุ่น แถมยังเคยมี ประสบการณ์ตรงกับ เจ้า E-car ก็เลยคิดว่ามันต้องเป็นแน่ๆ ... สุดท้ายมาจบที่เจ้าสีทอง รุ่น VTI-E จำคร่าวๆ ว่าถอยมา เก้าแสนสอง ที่ศูนย์ ใหญ่ แถวศรีอยุธยา ... มันเป็นรถที่ดีพอตัวเลยหละ ไม่จุกจิก เลย ในระยะ หก เจ็ด ปีแรก ... เครื่องก็วิ่งได้สมตัว แต่กินน้ำมันมากไปหน่อยครับ กับม้า 145 ตัว ... เจ้าสีทองเคยทำผมกินข้าวลิงกลางทางครั้งนึง ไดชาร์จเจ๊งครับ เสียกลางสะพานรัชโยธิน เปลี่ยนของรีบิ้ว หมดไปสามพันกว่าๆ ก็วิ่งปร๋อ เหมือนเดิม!!!

หลังจากหย่าขาดจากน้องพอลล่า ... ผมก็เอาเจ้าสีทองมาใช้ ... ก็ตกแต่งไปเรื่อย หลักๆ ก็แปลงเป็น SIR JDM Spec ... ทำมันหมดหละ ... ใครยังใช้รุ่นนี้อยู่ แล้วภายในเริ่มกลับบ้านแถวอยุธยาแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นของสเปคญี่ปุ่นสิครับ วัสดุดีกว่า ทนกว่า แถมสวยกว่ามากด้วย ... ภายนอก เลาะหลังคา Moonroof ไว้ดูฝนดาวตกด้วย เอานี้ชอบมากๆ ... ฝากรูปไว้ลองดูครับ ... เนื่องด้วยสมันนู้น ใช้รถเยอะมาก แถมค่าน้ำมันถีบตัวไปมหาโหด เลยต้องลอง เอาไปดมแก็ส LPG  ... ผมติดแบบธรรมดาหละ เอาง่ายๆ ระบบดูดนี่หละ อยากลองอยู่แล้ว (แอบมีแผนในใจ อิอิ) ... ใช้ไปใช้มา ไม่รู้เป็นอะไร ... รถสตาร์ทยากเหลือเกิน ... ตั้งวาล์วใหม่ก็แล้ว หัวเทียนก็เปลี่ยนแล้ว ก็ยังไม่หาย ... ถามช่างหลายคน ปรึกษาผู้รู้หลายคน ก็บอกว่าเครื่องเริ่มไปแล้วหละ ... ในความเห็นส่วนตัวผม เครื่องฮอนด้า ดมแก้ส มันชอบจุกจิก มากกว่าพี่โต เค้าเยอะเลย ... อันนี้ส่วนตัวนะครับ :-X

 ;)ก็เลยได้ที ตามแผนที่วางไว้ ยก F22B กับแก๊สออก ... ทุปกระปุก ไปครึ่งแสนนิดๆ เพื่อสู่ขอหัวใจของสาวยุ่นทรงโต ทวินแคมหย่ายๆ ... เป็นอื่นไม่ได้ เลย นอกจาก H22A AUTO จาก Accord SIR ตรงรุ่น ยกใส่ทั้งแพ ... การลงเครื่องตรงรุ่นมันช่างง่ายดายมาก ... วางโดยช่างใหญ่ฮอนด้า แถวพรานนก แค่ 2 วัน ... เจ้าสีทองก็วิ่งปร๋อ กว่าเดิม กับม้ากว่า 190 ตัว ความจุ 2157 cc แถมมีระบบแคมกระดิก ผ่านระบบไอเสียของ MUGEN สำนักแต่งคู่บุญ ... มันช่างขับสนุก บวกเสียงหวานอันเป็นที่หลงใหลของสาวกฮอนด้า ช่วยเพิ่มแรงม้าในใจคนขับได้โขอยู่ ...  ;D
อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเครื่องเดิมมากครับ อัตราการกินน้ำมันก็ดีขึ้นครับ ตอนผมใช้อยู่ในเมืองทั่วไปได้เฉลี่ย 8 กม./ลิตร ซึ่งดีกว่าเครื่องติดรถกว่า 1 ? 2 กม./ลิตร  ? ทางไกลได้ร่วม 11-12 กม./ลิตร ? ใครยังมีรถรุ่นนี้อยู่ หรือตาเพชร ที่เครื่องเดิมเริ่มเก่าแล้ว หรืออยากได้กำลังวังชาแบบกำลังดี ... ถ้ายังรักมัน และอยากใช้อีกยาว แนะนำเลยครับ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง  ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:20:35
สุดท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา  :'(... ผมได้เปรยถามคุณพ่อเป็นระยะๆ ว่าขอขายเจ้าสีทองนะ ... ไม่ใช่มันไม่ดี เหรอเบื่อหรอก ... แต่ด้วยวัยอันอยากรู้อยากเห็น กับพอจะมีเงินเลี้ยงดูตัวเองบ้างแล้ว ... ก็เลยอยากจะลองใช้รถ ในฝันหลายรุ่น ๆ ในครั้งวัยเยาว์ ที่ได้แต่ชะเง้อคอมอง เวลามีรถรุ่นนั้นๆ ขับผ่าน ... สุดท้ายตื้ออยู่นานตอนแรกท่านยืนกระต่ายขาเดียวเลยว่า ไม่ๆๆๆ ... แถมว่า ผมอีกว่า กรูยอมให้เอารถป้ายแดงไปชำแหละ ไม่เตะมรึงก็บุญแล้ว ... สุดท้ายน้ำหยดลงหิน สักวันหินก็กร่อน ...ผมก็มัดมือชกเลย ว่าจะขายก็ต่อเมื่อได้ราคาที่ผมคิดว่าเหมาะสม ซึ่งมันก็มากกว่าราคาตลาดพอตัว ...  ผมก็ประกาศขายอยู่ประมาณ สามเดือน  ... เนื้อคู่ก็มาครับ... มีน้องที่ทำงานอยู่ในบริษัทในเครือ มาดูรถที่บ้าน ตอนมาถึงยังถามว่า อ้าวพี่ทำงานที่นี่เหรอ ... ไม่รู้เลยนะเนี่ย ... มาดู ในบ้านสิบห้านาทีได้ ก็บอกว่าโอเคครับ ผมเอาครับ ขอจัดยอดกับ Finance ก่อนะ ... ทุกวันนี้ผมยังเจอเจ้าสีทองอยู่ เป็นครั้งคราว ก็ยังไปตบหลัง(คา) ว่าเฮ้ย กรูคิดถึงมึงนะ ... แล้วก็ดีใจที่เจ้าของใหม่ เลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี ...  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:21:39
ไม่ใช่รถในฝัน แต่เคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าเจ้าของรถคันนี้ประกาศขาย ผมจะไม่ลังเลเลยที่จะขอเป็นตัวเลือกของเจ้านกสาริกาคันสวยคันนี้ ... และแล้ววันนั้นก็มาถึงครับ ... เจ้าของเก่า มีความจำเป็นต้องไปทำงานต่างประเทศ ประกอบกับมี สาลิการุ่นนี้อยู่อีกคันนึง เลยต้องขายมันออกมา ... อาจจะเป็นเพราะจังหวะที่ผมเคยทำงานที่เดียวกับเค้า เคยทำงานร่วมกันบ้าง ... เลยคุยกันง่าย ... มันเป็นรถที่ดีมากครับ ประกอบกลับเจ้าของเก่า ปรับปรุง ตกแต่งมาอย่างดี ... ได้แปลงเป็น SS III JDM Spec ตัวสุดท้าย ... ผมมาปรับปรุงนิดหน่อย ก็หล่อหละ !!!  :P
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:24:17
มาดูที่หัวใจกันดีกว่า เครื่อง 3S GE BEAMS VVTI : 1,998 cc /200 ps/7000 Rpm / 21.0 Kgm/6000 Rpm ... พี่โตเค้าก็มีฝาแดงนะ อิอิ จากการใช้งานจริง ดูจากตัวเลขก็พอเดาๆ ว่า รอบมันจัด ... ใช่ครับ กำลังวังชามันมาในรอบสูงจริงๆ แต่ก็ขับสนุกครับ แม้ว่าจะเป็นเกียร์ออโต ... ปลายไม่เคยลองสุด ลองแค่ 170กม./ชม. ก็เสียวๆ ยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะว่าลมมันเข้ามาดังเหลือเกิน ไม่ว่าจากหลังคากระจก และ กระจกประตู ตามประสารถไม่มีขอบทั้งหลาย :'(

อัตราการกินน้ำมันนั้นพอตัวเลย  ตอนผมใช้อยู่ในเมืองทั่วไปได้เฉลี่ย 7 ปลาย กม./ลิตร ? ทางไกลได้ 10ปลาย กม./ลิตร ...  ทั้งนี้สเปคพี่ยุ่น ควรจะเติม 98 Hi Octane ... ซึ่งบ้านเรามันไม่มี เฮ้อ เลย ต้องมีเสียงเขกให้ได้ยินกันบ้าง ... ถามช่างใหญ่ พี่โต แถวประชาชื่น ก็บอกว่า ทำใจ ครับ ... มันแก้อะไรไม่ได้ แต่มันไม่พังง่ายหรอก ...เฮ้อ แต่เวลาเหยียบที ผมปวดใจครับ :(
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:25:35
ใช้มาได้ร่วมปี ก็ถึงเวลาลาจาก ... เจ้าบ่าวหนุ่มหล่อมาสู่ขอไกลถึงเมืองเหนือ ... เฮ้อ อิจฉาจัง ป่านนี้เจ้าสาริกาน้อยคงได้มีบุญได้รับใช้ สาวเหนือน่ารักๆ ... หลายคนป่าวไม่รู้ 555 ... ตอนนี้ได้ข่าวแว่วมาว่า เจ้าของใหม่กำลังอาบน้ำเจ้าสาริกาใหม่ ให้เป็นสีขาว โอโม่ ให้เข้ากับสาวเหนือนั่นเอง หุหุ ;D

สรุป ถ้าคุณชอบฟิลลิ่งรถคูเป้ เข้าไปนั่งแล้วใช่เลย ... สายพันธ์ แรลลี่โลก อดีตนะ... อะไหล่หาได้ทั่วไป แถมของตกแต่งมือสองก็มีพอควร จะเอาสวยก็สวยจริง สาวๆ ชอบมากนะครับ ตากลมๆ ...จะเอาแรงก็ไปได้ตามทุนทรัพย์ ... ด้วยราคาที่น่าจับต้อง จะช้าอยู่ใย ...  มือสอง มือสาม สภาพดี เดิมๆ ยังพอมีให้เลือกอยู่ครับ ...

จะมีนิดนึงคือ ด้วยความที่เป็นรถนำเข้า อะไหล่ เฉพาะตัวหลายอย่าง มันหาเทียบไม่ได้ เช่นโช้คอัพ ... ถ้าคุณ แปลงไปใช้ SS III & GT4 ก็ดี ... ราคาของใหม่ ได้ฟังแล้วอาจจะหน้ามืดได้ ... แต่ถ้าใช้ Spec Australia เดิมๆ ในบ้านเรา ก็ ไม่มีปัญหาครับ เครื่อง 5S เป็นที่ชำนาญของช่างไทยอยู่แล้ว ... เกร็ดเล็กน้อย รุ่นนี้มี GT4 Spec 4WD  เครื่อง 3sGTE ด้วย เมืองไทยมีอยู่ 25 คัน ที่ TMT นำเข้ามาขาย จริงๆ แล้วนำเข้ามา 50 คัน แต่ด้วยราคา มหาโหด กว่า สองล้านกลางๆ ในสมัยนั้น ทำให้ GT4 25 คัน ที่เหลือ ส่งไป Down Under ไปให้จิงโจ้ขี่แล้ว ... ถ้าคุณสนใจรุ่นนี้ แล้วเจอคนที่จะขาย จงรับมันไว้นะครับ อย่าปล่อยไป เพราะมันหายากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าตอนนี้ มันยังเหลือวิ่งได้ในเมืองไทยสักกี่คัน ::)
 ::)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:27:37
หลังจากรับเจ้าสาลิกามาอยู่ในอ้อมอก ได้เดือนเศษ ... ก็ติดใจรถ Sport แบบถอนตัวไม่ขึ้น ... ลองทุบกระปุกอีกรอบ รวมกับไปตื้อ คุณแม่ให้ลงทุนร่วม บอกว่ารถ Sport ซื้อมาใช้ปีนึง ไม่ขาดทุนหรอก มีแต่กำไร 555 ... แต่ไม่ได้บอกแกนะว่ากำไรใช้ อิอิ :P

ด้วยที่ชื่นชอบรถตระกูล H เป็นทุน...ไม่นับน้องพอลล่านะ ... รถในฝันจะเป็นอะไรได้อีก ถ้าไม่ใช่ เจ้าตากลมๆ Integra DC2 ... อาจจะรักแรกพบ ตั้งแต่ไปดู เจ้าโลมาน้อย แถวรัชดา แล้วมันมีเจ้านี้อยู่ ด้วย ... แต่ตอนนั้น ค่าตัวน้องมันห่างไกลเหลือเกิน เปิดมา 55 หมื่นนะตอนนั้น ... ผ่านไปร่วม 10 ปี ราคาเจ้า DC2 ไม่มีทีท่าว่าจะตกเลย ... 10 ปีมันตกไปหลักหมื่น ... ไปดู เจ้าแดงคันนี้ มีดีที่เป็นรถมือเดียว แถมเป็นปี 1995 ปีสุดท้าย เครื่องเคราพอไหวอยู่ ตัวถังใช้ได้ ผ่านมีดหมอยันฮีมาบ้าง แต่ไม่ถึงกับผ่าตัดใหญ่ ก็ โอเคครับ สภาพมาตามรูปเลย แต่แมกไม่ใช้อันนี้นะครับ มาเปลี่ยนเองทีหลัง

เกร็ดเล็กน้อย รุ่นนี้นำเข้า โดยฮอนด้าไทย แค่ 2 ปี ปีหละ 150 คัน ตากลมแบบนี้เท่านั้น มีมูนรูฟ เครื่อง B18C Manual Transmission มีสองสีคือ ดำ กับ แดงม่าเหมี่ยวเท่านั้น ราคาป้ายแดง 970,000 บาท ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ถ้าใครเคยถอยป้ายแดง แล้วไม่ใช่ แก้ให้ด้วยนะครับ
รถรุ่นนี้มันติดลมบน ไปแล้ว สภาพดีๆ เดิม ๆ ไม่รู้ยังเหลืออีกกี่คัน ส่วนมากก็จับแปลง JDM Type R spec กันเกือบหมด เห็นล่าสุด ทำเป็น 2000 spec เห็นตั้งขาย ไว้เกือบเจ็ดหลัก ... ขายได้ด้วยครับ แต่ของพี่เค้าสุดติ่ง จริงๆ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:29:11
สุดท้ายผมก็ต้านกระแส JDM ไม่อยู่จริงๆ เลยต้องอาบน้ำประแป้ง ให้ เป็น ตายาว กลับสีขาวรหัส NH0 ตามแบบสาวก Type R ทั้งหลาย ... ผมว่าสวยอยู่นะ555  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:31:07
เปิดกระโปรงดูกันดีกว่า เครื่อง B18C2 ฝาดำ 1,797 cc / 170 PS / 7600 rpm / 17.5 Kgm /6200 rpm...
ฝาแดงนี้พ่นเองนะครับ  อิอิ เครื่องเดิมๆ ทำให้เนี๊ยบโดย ช่างใหญ่ฮอนด้า แถวพรานนก ... อืม มีทำท่อ Type R กับ กรองเปลือยเท่านั้นนะครับ :D

จากการใช้งานจริง ดูจากตัวเลขก็พอเดาๆ ว่า รถมันรอบมันจัดอีกแล้ว แต่พอได้คู่กับเกียร์กระปุก มันขับสนุกมากครับ ... ทันทีที่ เทคเปิดที่ 4400 รอบ เหมือนโลกมันเปลี่ยนไป ... มันจะดึงอีกก๊อก จนสุดที่ 8200 รอบ ... ปลายไม่เคยลองสุดๆ กดไป 210กม./ชม.  ยังเหลืออีกหน่อยครับ ช่วงล่างดีมาก แฮนลิ่งดี ขับง่าย พวงมาลัยฉับไว  เบรกเดิมๆ พอไหว แต่ถ้าจะเล่นแรงๆ มีเบรกตัว Type R ให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบครับ ;)

อัตราการกินน้ำมันนั้นดีมาก  ตอนผมใช้อยู่ในเมืองทั่วไปได้เฉลี่ย 9 โลกว่า กม./ลิตรกับการขับเล่นวันหยุด ต้องมีซัดกันบ้าง ? ทางไกลไม่เคยลองครับ แต่เคยให้พี่เขยยืมไปขับตอนรถแกเข้าอู่ แกบอกว่าขับเรื่อยชานเมืองได้กว่า 14 โล กม./ลิตร ...  ปล. คันนี้เติมแต่เบนซิน 95 นะครับ เพราะใช้น้อยมากๆ  8)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:32:54
ใช้มาได้ร่วมปี ก็ถึงเวลาลาจากกันตามเคย ... จริงๆ ไม่ได้คิดอยากขาย เพราะมันเป็นรถในฝันคันนึงทีเดียว แต่เพื่อการเดินทางต่อไปของผม มันก็จำเป็น เฮ้อ ...  เจ้าบ่าวหนุ่มแถบชานเมืองมาสู่ขอหลังจากลงขายแค่ สามวัน ... มาดูเที่ยง ๆ ตอนบ่ายๆ โทรมาว่าผมเอาครับ  ... เฮ้อ ตั้งตัวไม่ถูกเลย วันนี้เพิ่งพาไปอาบน้ำ เคลือบสี ให้อาหารมื้อสุดท้าย ... คิดแล้วยังใจหายจนถึงวันนี้เลยครับ ... ไม่ได้ยินข่าวมานานแล้ว ไม่รู้ว่ายังอยู่ดีหรือเปล่า ;)

สรุป ถ้าคุณชอบความสวยแบบรถคูเป้ แต่เข้าไปนั่งแล้วเหมือนรถบ้าน ขับง่าย สนุก และประหยัดสมตัว ... สายพันธ์ Type R สามารถต่อยอดได้อีกนานโข ... แถมคุณค่า และ มูลค่าในตัวจะถีบตัวขึ้นไปอีก  ... อะไหล่หาได้ทั่วไป แถมของตกแต่งมือสองก็มีมาก ราคาไม่แพง ... แต่ด้วยราคาตัวรถที่ไม่มีค่ากลาง ขึ้นอยู่กับความพอใจ แถมรถมันหายากมาก ...  สภาพดี เดิมๆ ไม่แน่ใจว่ายังมีอีกกี่คัน ... ถ้าอยากจะได้ แล้วมันไม่มีให้ซื้อ มันปวดใจสุดๆ ...  :(
 
จะมีนิดนึงคือ ด้วยความที่เป็นรถนำเข้าเหมือนเดิม อะไหล่ เฉพาะตัวหลายอย่าง มันหาเทียบไม่ได้ แบบ Part No. มีนะ แต่จะสั่งไงหละ ถึงแม้ว่า Honda Thailand จะนำเข้าเองก็เถอะ อะไหล่หลายชิ้นมันไม่มี Stock จะสั่งก็สั่งไม่ได้ ที่ผมประสบกับตัวเอง ก็ ชิมรองผ้าเบรก ตัวละ ร้อยกว่าบาท สั่งไป หลายเดือน ก็ ไม่มีทีท่าว่าของมันจะมา สุดท้ายได้น้ำใจ ประธาน Integra Inc แกะให้จากอันที่ถอดจากรถแก ขอบคุณครับ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 15, 2010, 22:39:41
อืม หลังจาก พล่ามมา หลายยกอยู่ ... ถ้าเขียนบรรยายไม่ได้เรื่องก็ขอโทษผู้อ่านด้วยนะครับ รูปจริงๆ มีเยอะอยู่ แต่ไม่อยากลงเยอะครับ รูปไม่คอยสวยนะครับ ผมถ่ายรูปไม่เก่งครับ .... เพราะตั้งใจให้มันเป็น Rewind วันวานยังหวานอยู่ ... รวมถึงน้องนางทั้งหลาย ผมก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว ก็ ไม่อยากลงรายละเอียดมาครับ เกรงใจเจ้าของที่เค้าใช้อยู่ครับ ถ้าเจ้าของน้องนางทั้งหลายได้มาอ่าน ขออนุญาตนะครับ :D

หลังจากจบ Rewind ไปแล้ว มาพบกับ Review กันดีกว่า !!! รูปถ่ายไว้แล้ว ขอเวลารวบรวมเรื่องราวหน่อยนะครับ
รถประหลาดในฝันคันต่อไปของผมคือรถอะไร ???  ทายจากรูปกันดีกว่า เซียนรถในห้องนี้ น่าจะรู้ไม่ยาก :-\
มันเป็นรถที่หลายๆ คนอยากขับ สักครั้งในชีวิต สำหรับคนรุ่น เดียวกับผมที่ชื่นชอบ หรือบ้ารถนั่นหละ
แต่ไม่เคยคิดว่าจะซื้อเลย เพราะ ได้ยินมาว่า ใช้งานทุกวันไม่ดีหรอก เปลือง พังง่าย แถมสภาพดีๆ หายาก ส่วนมากผ่านมีดหมอ รีแพร์มาทั้งนั้น .... ที่เค้าว่าๆกัน มันจะมีจริงกี่ข้อ เดี๋ยวรู้กันครับ  ;)

จนมาวันนึง น้องที่ทำงานบอกว่า ... พี่ไอ้น้องที่อยู่อีกแผนกมันขับรถที่พี่ กะ พี่ กอฟ อยากได้หละ !!!
พี่ กอฟ (พี่ที่ทำงานที่บ้ารถเหมือนกัน ตอนนี้แกก็มีไอ้รถประหลาดนี่เหมือนกันครับ)

อุเหม่ !!! จุดไต้ตำตอซะแล้ว ... ก็เลยได้สืบสาวราวเรื่องว่า .... ;D
ผมกะ พี่ กอฟ: เฮ้ย ไอ้ ... มรึงขับ ... ??? ... เหรอ
น้องเจ้าของรถ : ครับพี่ เป็นรถมือเดียวครับ คุณแม่ใช้มาป้ายแดง ผมรับช่วงต่อมา แต่งไปนิดหน่อย
ผมกะ พี่ กอฟ: แล้วจะขายไหม
น้องเจ้าของรถ : ขายได้ก็ขายครับพี่
ผมกะ พี่ กอฟ: แล้วประกาศขายยัง จะขายเท่าไร
น้องเจ้าของรถ : ยังครับ ใครอยากซื้อ ก็มาถามเอาเอง!! ราคาขอไปคุยกับแม่ก่อนครับ
 ผมกะ พี่ กอฟ: ???? คิดในใจ แล้วมรึงจะเข้าฌาน ขายในฝันเหรอวะ  ::)
คือดูบุคลิก ท่าทางของน้องเจ้าของรถ .... คนร้อยคน ทาย ก็ไม่มีใครเชื่อว่า มรึง ขับ   ???
สุดท้าย ??? ก็ได้มาอยู่ในความครอบครองผมจนได้!!! การเดินทางครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ลองติดตามกันครับ ขอบคุณครับ
ขอเวลาหน่อยนะครับ จะรีบทำReviewให้เสร๊จ มีใครอยากอ่านมั่งเอ่ย ::)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: JIRATH ที่ สิงหาคม 15, 2010, 23:14:05
จขกท เป็นคนที่ใช้รถเยอะมากครับ รอชมเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Akeem-CLII ที่ สิงหาคม 15, 2010, 23:21:30
อ่านเพลินดีครับ ขอบคุณครับ

รออ่านต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ สิงหาคม 15, 2010, 23:24:29
ตอนแรกเห็นมันยาวว่าจะไม่อ่านแล้วนะ

อ่านไปอ่านมา อ่านตั้งแต่แรกจนจบเลย >< เพลินดีครับ รออ่านอยู่นะคร๊าบบ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Ohmmypp ที่ สิงหาคม 15, 2010, 23:28:21
รออ่านเช่นกันครับ  คันสุดท้ายนี่ อยากอ่าน สุดๆ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Best_Vorakit ที่ สิงหาคม 16, 2010, 00:09:43
จขกท.เขียนบทความได้น่าติดตามมากครับ
รออ่าน Review นะครับ

ปล.ผมเป็นพวกชอบคิดถึงรถที่เคยใช้แล้วมันดีมาก เวลาขายไปมักจะคิดถึงมัน  ;) แต่คันที่สัมผัสจริงๆ มีแค่คันเดียวเอง คือ เจ้าสามห่วงสีเขียวเข้ม ปลายปี 94 รุ่น GLi 4Auto ตอนนี้ก็ยังคิดถึงอยู่นะ ออพชั่นมีเยอะดี ถ้าเทียบในสมัยนั้น..หวังว่าตอนนี้เจ้าของที่ได้ไปคงถนอมมันอย่างดีนะ มันก็จากเราไป 5 ปีแล้วครับ..
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ สิงหาคม 16, 2010, 00:33:28
ขอบคุณมากคับสำหรับ Review ความจำยาว ยาวสมชื่อจริงๆ
อ่านแล้วสนุก น่าติดตามดีคับ  :D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: patzahut ที่ สิงหาคม 16, 2010, 13:15:10
รอดู REVIEW ต่อ    ดีคับ ดี
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Hardyz ที่ สิงหาคม 16, 2010, 14:05:26
จขกท เขียนได้น่าติดตามอ่านต่อมากครับ เชื่อว่าตอนนี้มีคนนั่งรออ่านเพียบแน่ๆ  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: อันตัวข้าฯนี้มีนามว่า"หมู" ที่ สิงหาคม 16, 2010, 17:37:51
พี่เขียนได้น่าอ่านมาครับ อ่านแล้วเพลินดี

แล้วผมจะรอรีวิวของพี่ต่อนะครับ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ สิงหาคม 16, 2010, 22:14:22

สำนวนสวิงสวาย แต่อ่านเพลินใช้ได้ครับ

ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ กันที่นี่

 ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ สิงหาคม 16, 2010, 23:53:52
สนุกดีครับ

รอคอยตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Northbridge ที่ สิงหาคม 17, 2010, 00:05:20
แวะมาปูเสื่อรอชมตอนต่อไปครับ

มีแต่รถในฝันผมทั้งนั้นเลยนะ  :o
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 17, 2010, 00:15:33
ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะครับ ... มาต่อกันเลยครับ ;D

วันนี้ได้ชื่นใจแต่เช้าเลย เมื่อได้เจอลูกรักคันแรก เจ้าสีทองนั่นเอง ... เห็นแว้ปแรก ก็รู้สึกว่าทำไมรถที่สวนมาคันนี้มันดูคุ้นตาจังเลย พอเห็นทะเบียนก็ถึงบางอ้อเลย ..... น้องเจ้าของรถล้างมาซะเงาวับเลย 8) 

คืนนี้คงต่อได้ไม่มากนะครับ  กว่าจะได้กลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว .... งานเยอะจังเลย
ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ....... เย็นวันนั้นก็ไม่รอช้า เดินไปดูรถกันเลย แว้ปแรกก็ อืม .... ก็ดูใช้ได้นะ แม้จะไม่เนี้ยบ เหมือนรถเทพๆ หลายคันที่เคยเห็น และเคยดูตามเวปต่างๆ  ;) แต่ทรวงทรงยังดูดี เดิมๆ แม้สีจะหมองไปบ้าง ... สงสัยน้องมันไม่ค่อยล้างรถนะเนี่ย
เดิมทีเป็นรุ่น 1800 CC ตัวถังเป็น รหัส GC6 ขับเคลื่อน 4 อยู่แล้ว ... อยากรู้ว่าอิมมีรหัสอะไรบ้าง ลองค้นหาดูในเวปซูบารุได้เลยครับ มีกูรูซูบารุ หลายท่านตอบไว้อย่างละเอียดแจ่มแจ้งเลยครับ

น้องอิมคันนี้น่าจะเป็น Lot แรก ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากดินแดนดาวลูกไก่ Fuji Heavy Industry มาเหยียบแดนสยาม โดยดูจาก เพลทข้างๆ เสา B ฝั่งผู้โดยสาร ... ตอกไว้ว่าผลิต Apr/1994
เพลทนี้ก็เหมือนสูติบัตรของน้องอิมนั่นเองครับ ... :D
น้องอิมผ่านร้อนผ่านหนาวมาร่วม 16 ปี ถ้าเป็นสาวๆ คงกำลังโตเป็นสาวเต็มที่ :o ... แต่นี้เป็นรถยนต์นะ... มันยังไหวเหรอ ถ้าเป็นที่บ้านเกิด คงได้ RECYCLE ไปสอง สามรอบแล้ว ... หรือไม่ก็ใกล้เก็บเป็น RETRO เต็มแก่แล้วหละ ...  :-\

เปิดกระโปรง(รถ)ดู ... หัวใจเป็น EJ 20 T รุ่นแรกๆ ประกบเกียร์ออโตหน้าตาธรรมดาๆ ... อันนี้ชอบใจ พอตัวเลย เพราะเป็นโรคขี้เมื่อย ... เข็ดตั้งแต่เจ้า DC2 ขับรถติดมหาโหดทีไร แทบอยากจะจอดรถไว้ :'( แล้วโบกแทกซี่แทนเลยครับ

นอกนั้นก็เดิมๆ มีล้อจากพี่ชายร่วมค่าย Legacy สีทองพิมพ์นิยม กับ ท่อไอเสีย เส้นโหด ขนาดประมาณลูกแมวเข้าไปวิ่งเล่นได้ แปะป้าย กากิโมโต เรซซิ่ง ... ซุ้มเสียงโหดร้ายยังกะมีม้าสามร้อยในคอก ...  แต่จริงๆนะจะมีสักร้อยกว่าๆ ได้ เฮ้อ!

หลังจากได้ตกลงปลงใจไปรับเจ้าอิมมาในอ้อมกอดแล้ว  ... น้องเจ้าของรถมันคงดีใจไม่น้อย ที่ปล่อยเจ้าอิมได้ หลังจากคิด(ในใจ)ว่าจะขายมานาน   ... หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน น้องคนนี้ก็ลาออก ... ข้ามประเทศไปทำงานเมืองนอกเมืองนา ... ปล่อยเจ้าอิม ป้าแก่ขณะนั้นไว้ในความครอบครองของผม ... หรือมรึงหลอกกรูวะ 555 ;)

วันแรกที่ได้น้องอิมก็ ... ได้จังหวะไป สัมมนา งานที่หัวหิน ถิ่นมีหอย ! ... เลยต้องพาน้องอิมไปเที่ยวด้วยซะหน่อย เพื่อนร่วมทางของผมก็พี่กอฟคนเดิมนั่นหละ... ก่อนไปก็ไม่ลืม แวะถ่ายของเหลว เช็คสภาพยาง ช่วงล่าง ... ที่ Autobacs ซะหน่อย ... หวังว่า น้ำมันเครื่องตราม้าบิน จะช่วยเสกม้ายี่ปุ่นแก่ๆตื่นสัก ยี่สิบตัว ... อิอิ

First Impression: วันที่มีความสุข และประทับใจที่สุดของผม ... ส่วนมากก็จะเป็นวันแรกที่ได้ลองรถเต็มๆนั่นหละ เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่สักชิ้น... กับน้องอิม นี่ใช่เลย ลองขับดู รถบ้าอะไรวะ เกาะถนนฉิบ จะเลี้ยว จะโยก มันช่างได้ดั่งใจเสียจริง บวกกับสุ้มเสียงมหาโหด ทำให้สะใจมากมาย
ลองใส่โค้งบนสะพานพระราม 4 ตัดใหม่แถวราชพฤกษ์ ... ใครเคยผ่าน ก็โค้งที่สอง... กว้างกำลังดี ... ลองใส่เต็มๆ ที่ 160 กม./ชม. !!!! เฮ้ย ทำไมมันนิ่งจังวะ เหมือนขับ ที่ร้อยเดียวเอง !!! ไม่แนะนำให้ลองนะครับ ผมเคยลองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวจริง ... หลังจากนั้นใจไม่กล้าแล้วครับ

ผลัดให้พี่กอฟลองขับดูบ้าง ... ก็ประทับใจไม่แพ้กัน ... ขนาดที่ว่า แกต้องไปซื้ออิมมาแต่งเต็มๆ...วางคอแดง ไว้ขับเล่น เชียวหละ ::)
ซิ่งกันไปไม่ถึงหัวหินดี ... ทำไมอยู่ดีๆ รถมันกินซ้ายขึ้นมาซะงั้นวะ !!! งานเข้าแล้วซิ  :-[
มาดูรู้ทีหลังว่ายาง Sport คู่หน้า อายุไม่ถึงสองปีดี ... มันบวม เป่ง แถวบวมที่หน้ายางเลยนะ แปลกมากๆ ไม่เคยเจอ ... หรือเราขับกันโหดไปวะ เฮ้อ!!

จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แรงมากมายหรอกครับ ... แถมขากลับยังตามเจ้า สามดอคันสวย ตัวนอกครบๆ  ... เครื่องเครา น่าจะมีหลายแคม ... ไม่ทันด้วยซ้ำ ...  ไม่ได้แข่งกันบนถนนนะครับ แค่ลองขับตามกันนิดหน่อย แยกทางกันก็ทักทายกันครับ

จบแล้วครับกับความประทับใจแรกกับน้องอิม !!!  :D

ภาคต่อจะเป็นการปรังปรุง ตกแต่งแบบพอหอมปากหอมคอนะครับ
ดึกแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ ... พรุ่งนี้ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนต่อครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 17, 2010, 13:46:05
มาต่อกันอีกนิดหลังอิ่มท้องกับอาหารกลางวัน !!! ขอต่อนิดนึงก่อนจะไปทำงานต่อในตอนบ่าย ;)

หลังจากติดอกติดใจรถจากค่ายดาวลูกไก่ ... ก็ได้ยินข่าวว่ามีพี่ชายร่วมค่าย คือ NEW LEGACY WAGON ซึ่งเป็นรุ่นที่ผมชอบรูปทรงมากๆ เป็นรถแวนที่ดูดีจริงๆ อีกทั้งกว้างขวางดี น่าจะขับสบายกว่าน้องอิม (เป็นคนตัวใหญ่ ตอนนี้อ้วนเลยหละ เฮ้อ!)  ที่สำคัญมีหลังคามูนรูฟ กระจก ตั้งสองบาน ชอบจริงๆ ครับ ... น้องอิมเป็นรถผมคันแรก ที่ไม่มีมูนรูฟ ผิด concept ส่วนตัวไปหน่อยครับ ::)

เจ้าเลคันนี้ประกาศรับสมัครเนื้อคู่อยู่ ... แถมคันนี้เป็นรุ่นพิเศษ ตัว TOP รหัสตัวถัง BG5 หัวใจทวินเทอร์โบ ซะด้วย ได้ข่าววงในมาว่า เมืองไทยมีแค่ 2 คันที่นำเข้ามาแบบป้ายแดงโดยผู้นำเข้าอิสระ ณ เวลานั้น รายละเอียดรุ่นนี้ เป็นยังไง คิดว่าหลายๆท่านๆได้อ่าน ในคอลัมน์ Subaru Legacy'93-98: มาดผู้ใหญ่ใจดีแต่มีเขี้ยวเล็บ REWIND by Commander CHENG ซึ่งละเอียดและสนุกสนานมากครับ ;D

ตอนแรกจะโอนต่อน้องอิม ไปให้พี่กอฟ ... ซึ่ง ณ เวลานั้นแกก็หาน้องอิมมาครอบครองอยู่ !!! ... ก็กลัวน้องอิมน้อย กลอยใจจะ น้อยใจว่า ... ขี่หนูแป๊ปเดียว ก็จะทิ้งกันไปแล้ว เหรอ !
อีกทั้งยังติดเรื่องงบประมาณที่มีน้อยนิด ... เพราะเพิ่งจะไปเป็นหนี้ระยะยาวมากๆ กับบ้านหลังเล็กๆ ... เลยต้องตัดใจ เสียดายจังเลย!!!  :'(

ไม่แนใจว่าเจ้าเลคันสวย คันนี้ ไปอยู่ไหนแล้ว ... ยังไงขออนุญาตใส่รูปให้หายคิดถึงหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ สิงหาคม 17, 2010, 18:03:48
ยังติดตามอยู่นะคร๊าบ ^^
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 17, 2010, 23:51:25
เย็นนี้รถติดมหาโหดทั่วกรุงเทพอีกแล้ว ... ก็แน่หละ ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา ขนาดนั่งทำงานอยู่บนตึกชั้น 29 ยังรู้สึกเลย ...

มาต่อกันเลยดีกว่าครับ!!! ก่อนจะดึกเกินไป

วัตถุประสงค์ ในการทำรถคันนี้ คือ ทำยังไงก็ได้ ให้มันขับใช้งานได้ทุกวัน ต้องไม่เตี้ย ไม่แข็งมาก ต้องแอร์เย็น เพลงเพราะ และต้องเกียร์ออโต เท่านั้น หุหุ ... ;)
และที่สำคัญต้องหล่อ และเนียนพอตัว ... ตามกำลังปัจจัยที่มีจำกัดของตัวผมเอง ...
 
แล้วจะทำยังไงดีหละ ...  เริ่มๆจากหัวใจเดิมๆ เริ่มลากลับดาวลูกไก่ไปทีละน้อย ... และแล้วก็ไปลับจริงๆ ... ณ เช้าของวันหนึ่ง เฮ้ย ทำไมเช็คน้ำมันเครื่องแล้วไม่มีติดก้านวัดขึ้นมาเลยฟะ ... งานเข้าแล้วสิตรู  :'(
หลังจากปรึกษากับหมอประจำตัวก็ได้ความว่า คงต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ (อีกแล้ว) แถมสืบทราบมาว่า เกียร์ที่ประจำการอยู่ตอนนี้ มันไม่ตรงรุ่นอีก มิน่าหละ ขับแล้วมันแปลกๆ ไม่สมูทอย่างที่ควรจะเป็น ... จะเปลี่ยนหัวใจเป็นอะไรเดี๋ยวติดตามกันต่อนะครับ  :-\

ภายนอกแน่นอนหละ ... ต้องให้ดูใหม่ สีเงาๆหน่อย ... ดูโหวงเฮ้งแล้วสีเดิมน่าจะผ่านมีดหมอมาหลายอยู่ แถมอาจจะเป็นหมอตี๋ข้างถนนด้วยสิ ... งั้นก็ต้องอาบน้ำ ขัดตัวกันชุดใหญ่หละสิ !!! :o

นอนก่ายหน้าผากอยู่เกือบอาทิตย์ ... จะปั้นดิน ... ให้เป็นดาวลูกไก่ ดวงใหม่จะทำสีอะไรดีนะ !!! :-\
1)   สีขาวเหมือนเดิม ก็สวยนะ แต่ทำมามันก็ไม่แปลกพอสิ ... ทำเสร็จก็แค่ใหม่ขึ้น
2)   สีดำ ... อืม ดุดี แต่ เป็นคนรักความสะอาดมาก ถ้าสีดำนี่ไม่ต้องล้างรถทุกวันเลยเหรอ คิดแล้วเหนื่อย
3)   สีทองๆ สีตัวพิเศษของอิมตาเหยี่ยว S203 ... สวยๆๆๆ ชอบ ไม่เลอะง่ายด้วย แต่มันดูเรียบๆไป
4)   เอา สีนี้แหละ ... อิมทำสีอะไรดี ... คิดไม่ออกมันก็ต้องสีนี้เท่านั้น ... เลียนแบบชาวบ้านหละกัน ;D
ก่อนจะเผยโฉมใหม่ ... ขอพาน้องอิมไปอาบน้ำให้สะอาดก่อนนะครับ ...  :D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 21:54:26
ลงโฟมชุดใหญ่แล้ว ก็ต้องลูบดินน้ำมันกันซะหน่อย จะได้ลื่นๆ มันๆ

เจ้าดินน้ำมันที่ลูบอยู่นี่ ... ไม่ใช่อันที่เราปั้นเล่นในโรงเรียนตอนเด็กๆ นะครับ ... แต่มันเป็น Special Clay ที่ใช้ขัดสีรถโดยเฉพาะ ของดีๆ ราคาก้อนหละหลายเงินอยู่ครับ ... ใช้ได้ผลหรือป่าวไม่รู้สิ ... รู้แต่ โรงงานรถอันดับหนึ่งของไทย ก็มีไอ้เจ้านี้ใช้อยู่ในโรงงาน หรือ ตามลานเก็บรถต่างๆ เพื่อที่จะขัดรถที่โดนผลกระทบจากฝุ่นหรือมลภาวะที่ใช้แค่แชมพูล้างรถแล้วล้างแล้วไม่ออก
ทำไมผมบอกได้นะเหรอ ก็ผมเคยไปสำรวจงานแบบนี้บ่อยๆ ตอนเป็นหนุ่มโรงงานนะสิ อิอิ

โชว์ก้นอีกแล้ว ... น้องอิมเราขี้อายนะเนี่ย ;)
ถ้าเทียบกับรูปแรกๆ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง .... ใครทายได้บ้างครับ
แน่นอนไฟท้ายต้องเป็นตัวสุดท้าย เลนส์ขาวแดงตามสมัย ... ไฟท้ายนี่ดูปีที่เกิดได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นขาวแดง หรือขาวส้มถ้าแถบทับทิมสะท้อนแสงอยู่เหนือไฟถอยหลัง แสดงว่านะจะเกิด ตังแต่ปี 1997 โดยประมาณครับ ถ้าไปดูน้องอิมแล้วไฟท้ายมีแถบทับทิมสะท้อนแสงอยู่ตรงกลาง แสดงว่าเป็นก่อนปี 1997 โดยประมาณครับ
กันชนหลังต้องเป็นตัวอูม ที่อยู่ใน Version 4 ? 6 (อิม มีหลักๆ  6 Version , Model Life ร่วม 7 ปีครับ)
ฝาท้าย พร้อมหางหลัง Version 4 STI  ... ความชอบส่วนตัว หางไม่สูงมากนัก เพิ่มความปลอดภัยด้วยไฟเบรคในตัวครับ ... อิมส่วนมากชอบใส่หางสูงๆ ดูโหดๆ กว่านี้ ...  :o
เหมือนเดิมอยากรู้ว่าอิมมี Version อะไรบ้าง ... STI คืออะไรเป็นรุ่นพิเศษเหรอ ... ลองค้นหาดูในเวปซูบารุได้เลยครับ มีกูรูซูบารุ หลายท่านตอบไว้อย่างละเอียดแจ่มแจ้งเลย ... ไม่กล้าพิมพ์เยอะ ผมเด็กใหม่ในดาวลูกไก่ กลัวบอกผิด อิอิ ::)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 21:57:35
อาบน้ำเสร็จแล้วครับ ... ชอบรถสะอาดๆ จังเลย  ;D

ได้เห็นหน้าตาน้องอิมแว๊ปๆ แล้ว Version อะไรเอ่ย ลองทายกันดูครับ ::)

เกร็ดเล็กน้อย อิมรุ่นนี้มีสีน้ำเงินเข้มๆกว่าแบบนี้ เป็นรุ่น Limited ทำเพื่อฉลองแชมป์ WRC ... นำเข้ามาแดนสยาม 20 คันครับ ... รู้สึกว่ารุ่นนี้จะได้อัตราทดเกียร์แบบ Close Ratio ... รวมทั้งผ่านการตรวจสภาพรับรองจากสถาบัน FIA (Federation Internationale de l'Automobile) ว่าถ้าคุณขี่รถรุ่นนี้ คุณเอาไปลงสนามแข่งได้เลย ไม่ต้องตรวจรถกันอีกที ... ฟังกูรูเขาเล่ามานะครับ ... ผมเคยเห็นแวปๆอยู่คันสองคัน ... มีคันนึงที่ประทับใจมาก สภาพรถยังกะเคยผ่านศึกแรลลี่มาทั่วโลกแบบไม่มีส่วนไหนไม่บุบเลย ...  ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ต้องเห็นเอง แล้วจะอึ้ง ... เจ้าของเป็นคุณอาผู้หญิงซะด้วย ... เห็นแกเคยเปรยว่า อยากขาย ใครสนใจอยากชุบชีวิตก็บอกมานะครับ ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 22:05:46
ขาดไม่ได้กับการเคลือบสีด้วย น้ำยา WAX ... ใครชอบรถเงาๆ มัน ไม่ควรพลาดครับ เดือนละครั้งก็ยังดีครับ

เห็นไฟหรี่มุมมีแถบสีส้มเล็กๆ ไหมครับ ... กูรู เค้าว่ากันว่าเป็น US Spec ... ทำไมถึงเรียกอย่างนั้นไม่ทราบที่มาแน่ชัด ... ไม่ใช่แต่อิมเท่านั้นที่เรียก พวกสาวกฮอนด้า หรือยี่ห้อดาวสามแฉกก็เรียกครับ ... เพราะ US Spec นี่เหรอป่าวทำให้ค่าตัวมันสูงกว่าไฟหรี่แบบธรรมดาอยู่หลายเท่า ไม่รู้ว่าต้องอ้างอิงราคา เป็น US$ เหมือนน้ำมันหรือเปล่า ...  :o
 
มันแตกต่างยังไงนะเหรอ ... ความเห็นผม ผมว่ามันดูสวยแปลกตาดี แถมแถบส้มๆ นั้นทำให้มองเห็นเด่นชัด ซึ่งอาจจะเป็นข้ออ้างว่ารถมันจะได้เห็นชัดเจนขึ้น ดูปลอดภัยขึ้น ... ใครรู้ข้อเท็จจริง ว่าทำไม ถึงเรียก US Spec ช่วยแถลงไขให้ด้วยครับ ... ไอ้เรื่อง US Spec นี่มีเรื่องวันวานที่ทำให้ได้ขำขี้แตกขี้แตนอยู่เรื่องนึง ก็ไอ้ไฟหน้าเจ้าโลมา A31 รวมถึงคูเป้ฝาแฝด Silvia S13 ... เนื่องด้วยไฟหน้าตัวบ้านเรามันเป็น Twin Projector ตอนออกมาใหม่ๆ มันก็ส่องได้สว่างอยู่หละ ... แต่พอเก่าซะหน่อย แทบจะตาบอดกันทีเดียว 8) แถมตอนนั้น เทคโนโลยี HID ไฟซีนอนต่างๆ ยังไม่เกิดซะด้วย ... แล้วจะทำยังไงหละ ... ในที่สุดก็มีเทพเจ้าบันดาลเจ้าไฟหน้าเหลี่ยมที่เปลี่ยนแล้ว เค้าว่ากันว่ามันสว่างขึ้นมาอีกนิดนึง ... แล้วไม่รู้ว่าเทพเจ้าเค้าดลใจใครให้ตั้งชื่อว่ามันคือ US Spec ... ทำให้ราคาของเก่าเซียงกงตอนบูมๆ สูงถึง หลักหมื่นกว่าๆ ... ทั้งๆที่มันใช้หลอดไฟสูงต่ำ H4 ทั่วไปนั่นหละ ... ที่ขำมากก็คือ USA มันไม่มี A31 นะสิ 555 ... สืบสาวราวเรื่องมันคือ สเปคแรกๆ ของตัวญี่ปุ่น รวมถึงเป็นสเปคแถบตะวันออกกลาง หรือในวงการรถเค้าเรียก GCC Spec นั่นเอง ...  ::)

เนื่องด้วยความโชคดี หรือ โชคร้ายก็ไม่ทราบได้ ... ได้มีโอกาสได้ไปติดต่องานกับดินแดนเทพเจ้าพลังงานของโลกอยู่หลายครั้ง .. ถ้าใครสงสัยว่ารถแปลกๆ ที่ถือกำเนิดมา แล้วมันจะขายได้เหรอวะ ... มันมารวมกันอยู่แถวทะเลทรายนั่นหละ ไม่ว่าจะเป็น SUPERCAR, EXOTIC CAR, GIANT SUV CAR ... มีหมดหละครับ เนื่องด้วยกำลังซื้อมหาศาล บวกกับน้ำมันที่ถูกกว่าน้ำเปล่า .... แต่ผมสงสัยนิดนึงว่า มันขับที่นั่นแล้วซ่อมยังไง ... ไม่พังเหรอฟะ อากาศก็ร้อน ฝุ่นก็เยอะ ขนาดนั้น ... ได้ยินมาว่าสุลต่านท่านนึง ถึงขนาด Air Freight ... EXOTIC CAR ไป Service ที่ บ้านเกิดเลยหละ :o

ความประทับใจครั้งล่าสุดที่ได้ไปคือได้นั่ง SUPERCAR จากเมืองเบียร์ ... Porsche Cayenne SUV คันโตนั่นเอง
เป็นรถของเพื่อนรุ่นพี่ ที่ไปทำงานด้วย ... พี่แขกเค้าใจดี ขับมารับพาไปชมเมืองตอนกลางคืน ...สืบถามได้ความว่าเป็นรุ่น GTS model 4.5-liter V8 ม้ากล้ามโตกว่า 400 ตัว ... หลังจากพาชมเมืองแล้ว พี่แกก็ตัดขึ้น Highway  และแล้ว ... :o

เทพเจ้าของรถ : Hey ! I heard you like Speedy car
ผม : Yes I love it
เทพเจ้าของรถ : Ok, I will show you!
และแล้วพี่เค้าก็กดปุ่มปรับช่วงล่างจาก Comfort to Sport mode แล้วก็กดคันเร่ง ... อึดใจเดียว ความเร็วกว่า 200 ++  กม./ชม. ... แรงจัง แถมรถมันวิ่งโคตรนิ่งเลยวะ ... สุดยอด ;D
เทพเจ้าของรถ : Are you having fun???
ผม : Yes sure, very good one thank you sir
เทพเจ้าของรถ : Next time, I will show you again, hopefully, at that time I drive Ferrari! :o
ผม : Oh really thanks, BTW,How fast for your Porsche?
เทพเจ้าของรถ : Umm! last time I took my friends above 270 Km./Hr. 
>>>  ดีแล้วหละที่คราวนี้ไม่ถึง ... ไม่อยากเป็นผีเฝ้าหลุมน้ำมัน อิอิ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 22:18:20
เย้! น้องอิมอาบน้ำเสร็จแล้ว ;D

เรามาดูขนาด ของเจ้าน้องชายดีกว่า อิอิ :o

ขนาดภายนอกโดยรวมสำหรับรุ่นซีดาน Code GC:  Length/Width/Height (mm) 4,350/1,690/1,405
ถ้าเป็นตัว WAGON Code GF (ที่คุณ จิมมี่บอกสวยหนะ) :  เท่ากันหมด ยกเว้นสูงกว่า 1440 ...ผมเข้าใจว่าสูงกว่าเพราะ แรคหลังคาครับ

ดูจากขนาดแล้วพอๆ กับ NEW VIOS เลยครับ : Length/Width/Height (mm) 4,300/1,700/1,460
คราวหน้าไปคาร์แคร์จะเอาตัวเลขนี้ไปโชว์ซะหน่อย ... เพราะราคาล้าง GC นั้นคิด Size Medium ส่วนเจ้า
นิวออส นั้นคิด Size Small ... ถ้าร้านยอม ผมของประหยัดเงินได้อีกหลายบาททีเดียว อิอิ :D

มาดูกันที่ขนาดภายใน กันบ้าง GC: Interior Length/Width/Height (mm) 1,800/1,385/1,170
แล้วถ้าเทียบมากับ NEW VIOS หละครับ Interior Length/Width/Height (mm) 1,965/1,390/1,200
โห แพ้ทุกมิติ ... คับแคบกว่าเยอะเลย นะเนี่ย

มาดูกันที่ขนาดช่วงล่างบ้าง
GC:  Wheel base (mm) 2,520   
Track (F/R) 1,470/1,460
Ground Clearance (mm) 155 (145 Type R คือ IM COUPE /RA คือ IM ตัวแข่ง ที่ส่วนมากให้ทีมแข่งซื้อไปใช้ในสนามครับ)

NEW VIOS:  Wheel base (mm) 2,550
Track (F/R) 1,470/1,460   
Ground Clearance (mm) 150

ที่เปรียบเทียบกับ NEW VIOS แค่ยกขนาดมาให้ดูนะครับ เห็นตัวเลขมันใกล้เคียงกันมาก ไม่ได้จะเปรียบเทียบสมรรถนะแต่อย่างใดนะค้าบบ ... จริงๆ แอบสนใจน้องออสอยู่เหมือนกัน กำลังรอดูตัวแต่ง TRD อยู่ครับ ;D

มาดูน้ำหนักกันบ้าง ... แน่นอนครับ อิมต้องหนักกว่าน้องออสแน่ๆ ร่วมๆ สองร้อยโล ... นอกจากเครื่องใหญ่กว่า ช่วงล่างชิ้นส่วนเยอะกว่า ... และคิดว่าเหล็กของรถยุคนั้นน่าจะหนากว่าพอตัวเลยหละ ... พูดเรื่องเหล็กแล้ว นับว่าเหล็กที่ปั้มขึ้นที่ดาวลูกไก่นั้นดีใช้ได้เลยหละ ... ตอนรื้อทำสีดูแล้วยังไม่ผุเลยครับ :o
Weight (kg): GC STI & WRX 1,270 (1,210 Type R & STI RA 1240)
         GF STI 1310, WRX Auto 1330
         VIOS (G LTD) 1,065

แล้วกระเพาะอาหารของน้องอิมหละ !!! หาข้อมูลแล้วก็พบว่า
รุ่น WRX & STI 60 Litres //// รุ่นอื่นๆ 50 Litres
คาดว่าทางฟูจิ คงไม่อยากให้น้องอิม เทอร์โบนั้นเป็นโรคกินซ้ายถาวร ... เอะอะเข้าปั้มบ่อยเกินไป ... เพราะถ้าถังแค่ 50 Litres จริงๆ คงได้เจอเด็กปั้มแทบจะวันเว้นวันทีเดียว เฮ้อ!  :'(

ปล. ขอบคุณร้านล้างรถคุณ  aea-ideas ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายรูป ... โชคดีที่วันนั้น รถน้อย เนื่องจากหยุดยาว แถมฝนตกทุกวัน คงไม่มีใครบ้าล้างรถเหมือนผม
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ สิงหาคม 18, 2010, 22:39:27
ว้าว อยากนั่ง Porsche Cayenne มั้ง
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 23:05:24
 ;) คุณboykung  อยากนั่งก็ชื้อเลยครับ ... ไม่ได้แค่นั่ง แต่ได้ขับด้วยนะ
ผมจะได้ไปขอนั่งอีก ยังติดใจอยู่เลยครับ ;D

มาดูน้องอิมคันอื่นบ้าง ... เดี๋ยวจะเบื่อน้องอิมผมซะก่อน ;)

หลายๆท่านอาจสงสัยว่า ทำไมน้องอิมบางคัน ไม่มีไฟตัดหมอกหน้าทรงโต ... มันเป็นรุ่น Low Spec ?

ไม่ใช่นะครับ คันที่ไม่มีไฟตัดหมอก มันคือตัวแรงอย่าง STI ต่างหาก เล่นเอางง ! เลย :o ... คาดว่าเพื่อลดน้ำหนักให้เบาที่สุด... ยิ่งเป็นตัว RA ยิ่งดิบๆ ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรเลยครับ

ยืมรูปอิมคันสวยของพี่กอฟ มาโชว์บ้างหละกัน ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 18, 2010, 23:06:39
อัพเดทนิดนึง ... หลายคนต้องสงสัยว่าทำไมน้องอิมต้องมีหาง

ขาดหางไปเหมือน ... ผิดสายพันธุ์แท้ตามตำรา ... อาจจะไปละม้ายคล้าย พี่โตในตำนาน เออีร้อยไปซะนี่ ... จริงๆก็คล้ายกันเยอะนะ ... เคยเห็นเออี แปลงกันชนหน้าอิม ใส่จมูก ... ดูแล้วเนียนดีเหมือนกัน :o

หางน้องอิมมีหลายแบบ หลายรุ่นมากๆ อย่างของผมเป็นทรงเตี้ยหน่อย Version 4 แต่ที่เห็นกันเยอะๆ น่าจะเป็นแบบในรูปหล่อๆด้วยหางหลังทรงสูงแบบนี้ ... นายแบบสุดหล่อคันนี้คือรุ่น Version 5 ครับ

อาจจะมีหางรุ่นอื่นอีกที่นิยมใส่กันประปราย เช่น หาง22B ตัวคูเป้ ...  Version 6 ที่หายากมาก หางมันจะเอียงเชิดอีกนิด ...อีกทั้งยังมีหาง รุ่น Limited S201 เป็นหางอลูมิเนียมมี 2 ชั้น ดูแล้วอลังการมากๆ รุ่นนี้เห็นเยอะพอตัว แต่ครบๆ นั้นมีไม่เยอะ ถ้าครบจริงต้องมีตูดเป็ดอันเล็กๆ ที่มีไฟเบรคตรงกลางด้วยครับ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mcat231032 ที่ สิงหาคม 19, 2010, 00:06:58
รอติดตามอยู่นะครับ ชอบมาก ผมจะมีโอกาสได้ใช้รถหลายคันแบบพี่บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ T T
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: อืม...นะ ที่ สิงหาคม 19, 2010, 10:33:25
อ่านเพลินดีพี่  ;)

ว่าแต่...เมื่อไหร่จะได้นั่งน้องอิมของพี่ซะทีเนี่ย คันนี้ห้ามขายจนกว่าผมจะได้ลองนั่งนะเอ้อ  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 19, 2010, 18:38:12
อ่านเพลินดีพี่  ;)

ว่าแต่...เมื่อไหร่จะได้นั่งน้องอิมของพี่ซะทีเนี่ย คันนี้ห้ามขายจนกว่าผมจะได้ลองนั่งนะเอ้อ  ;D

ขอบใจหลาย น้องชาย ...  ;D

ได้นั่งแน่ๆ ...  ก็วันนั้นชวนไปเขาใหญ่ไม่ยอมไป ได้นั่งคอแดงพี่กอฟ มันดีครับ :o

ด้วยเงินเดือนบริษัทเรา :'( ... คงอีกพักใหญ่ถึงพอจะขยับขยายได้ ใส้แห้งมากๆ

แต่เริ่มโดนที่บ้านบ่นหลายดอกแล้วหละ  :( ... ว่าเมื่อไรจะไปขับรถบ้านทั่วไป ๆ เดิมซะทีฟะ  :'(

 
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: อืม...นะ ที่ สิงหาคม 20, 2010, 09:00:31
ก็แหมๆ อยากไปอยู่หรอกเขาใหญ่น่ะ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเอี่ยวด้วยแล้วนิ แอบเสียใจ  :'(
ว่าแต่ด้วยเงินเดือนของบริษัทเรา...พี่ก็จัดชุดใหญ่ไปหนึ่งชุดแล้วนินา อิอิ อิจฉาๆ
ยังไม่ต้องขยับขยายอะไรหรอก เดี๋ยวขยายจนสุดแล้วก็จะขายซะก่อนที่ผมจะได้นั่ง (ทุกทีอ่ะ 55+)

สำหรับเรื่องที่บ้าน...อย่าไปแคร์ ผมก็โดน เอิ๊กๆ  ;D

ปล...ไม่เอาละ ไม่แซวต่อดีกว่า เดี๋ยวรีวิวพี่จะขาดตอนหรือโดนแทรก ขาดอรรถรถกันพอดี  ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:32:52
ต่อกันเลยดีกว่าครับ ... มาดูภายในของน้องอิมกันบ้าง ... ภายในน้องอิม แบ่งเป็น 2 รุ่นหลักๆ ครับ

ของผมเป็นรุ่นแรก หรือเค้าเรียกแบบเก่า พบได้ ตั้งแต่อิม Version 1 ? 3 และ 4 ในช่วงปีแรกๆ ... ดูรวมๆ ก็ดูร่วมสมัย ... ถ้าพูดตรงๆ ก็ดูโบราณพอตัวเลยหละ ;D ... อิมเดิมๆบ้านเราส่วนมากก็เป็นแบบนี้ครับ ยกเว้นจะเปลี่ยนเป็นภายในรุ่นใหม่ซึ่งสวย แถมดูทันสมัยขึ้นอีกจมเลย (ถ้าจะเปลี่ยนควรจะยกมาทั้งหัวพร้อมหัวใจตรงรุ่นครบๆ ถึงจะได้เนียน ไม่เกเรให้ปวดหัว เพราะ ไม่มีปลั๊ก หรืออุปกรณ์หลักๆใช้ร่วมกันรุ่นเก่าได้เลย ... ผมเลยอดไปตามระเบียบ เพราะใช้งบสูงมากครับ ... เฮ้อ) ... ซึ่งรุ่นใหม่นี้จะพบได้ ตั้งแต่อิม Version 4 ในช่วงปีหลังๆ จนถึงรุ่นสุดท้าย Version 6 ครับ (สำหรับภายในรุ่นใหม่ เมืองไทยน่าจะนำเข้ามาแท้ๆ 20 คัน ในปี 2000 แต่ราคาป้ายแดง ณ ตอนนั้นพุ่งไปเกือบ 2 ล้านบาทครับ) ... ส่วนรุ่นพิเศษอื่นๆ ผมไม่มีข้อมูลมากครับ รู้ว่าถ้าเป็นตัว RA จะเป็นสีดำสนิท :o

เราสามารถดูรุ่นของน้องอิมจากเรือนไมล์ได้นะครับ ... ของผมนี่เปลี่ยน เป็นสเปค JDM WRX เข็มไมล์อยู่ด้านซ้ายวัดได้แค่ 180 กม./ชม. ตามกฎพี่ยุ่นสมัยนู้น ... วัดรอบวัดได้สูงสุด 9000 รอบ เรดไลน์ที่ 7000 รอบ เข็มวัดเป็นสีแดง ... ถ้าเป็นรุ่นเครื่อง 1800 (คิดว่ารุ่นเครื่อง 1600 ก็น่าจะเหมือนกัน) ติดรถบ้านเรา เข็มไมล์อยู่ด้านซ้ายวัดได้ถึง 220 กม./ชม. วัดรอบวัดได้สูงสุด 8000 รอบ เรดไลน์ที่ 6500 รอบ เข็มวัดเป็นสีขาว ... ทั้งสองแบบเป็นไมล์สายครับ ... ส่วนตัวแรงบ้านเรา WRX เข็มไมล์อยู่ด้านขวาวัดได้ถึง 260 กม./ชม. วัดรอบวัดได้สูงสุด 9000 รอบ เรดไลน์ที่ 7000 รอบ เข็มวัดเป็นสีแดง ได้ยินมาว่าเป็นไมล์ไฟฟ้าซะด้วยครับ ::)

พวงมาลัย(รถ)เป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ ... นอกจากความสวยงาม แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล  ยังต้องจับแล้วกระชับมือ จะได้ควบคุมรถได้ดีครับ ... ของผมนี่ติดรถมาเป็น NARDI สภาพน่าจะผ่านสนามแรลลี่มาซักสิบปีได้ ... ก็เลยต้องกัดฟัน (อีกแล้ว) เบิก MOMO TUNER มาประจำการแทน ... รวมๆ ก็สวย จับกระชับดี มาติดตรงแป้นแตร ถ้ากดแตรแรงไป มันจะหลุดเข้าไปข้างใน :-[ ... ต้องถอดพวงมาลัยออกมาใส่ใหม่ เฮ้อ! ... ส่วนรถสมัยนี้ พวงมาลัยเป็น MULTI FUNTION แถมมี AIRBAG อีก ... การจะเล่นซนคงทำไม่ได้แล้วหละครับ :'(
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:35:54
ดูกันต่อเลยครับ ... ปุ่มปรับแอร์ แบบธรรมดา แบบหมุนปรับ สามปุ่มกลมๆ  ...  น้องอิมได้เปลี่ยนเป็นของตัว JDM ทั้งระบบ มี ตั้ง AUTO ด้วย ... แต่ไม่ได้ใช้หรอกครับ ปรับเย็นสุดอย่างเดียว อิอิ ... แอร์เย็นไหม เป็นเรื่องสำคัญมากของรถบ้านเรา ??? ... ผมว่า แอร์รถซูบารุเย็นนะครับ ถ้าเทียบกับหลายๆ คันที่เคยใช้ อาจจะสู้พี่โตไม่ได้ครับ ... แต่ก็ใกล้เคียงทีเดียวครับ ... น้องอิมมีฮีทเตอร์ด้วย นะครับ ซึ่งได้ใช้สัก 3 วันต่อปี ตอนอากาศหนาวมากๆๆ ในกรุงเทพ :P

ใต้แอร์มีที่วางแก้วน้ำ 2 แก้ว ไว้แก้กระหาย ... เล่าความโง่ของตัวเองหน่อย :-[ ตอนใช้น้องอิมตอนแรกๆ ก็ก่นด่าว่ารถบ้าอะไรวะ ไม่มีที่วางแก้วน้ำ นาฬิกาก็ไม่มี จะให้กรูดูทิศแสงอาทิตย์บอกเวลาเหรอไงฟะ ... สุดท้ายเอารถไปทำรื้อคอนโซลกลางออกมา ถึงเห็นว่ามันมีที่วางแก้วน้ำ ด้วย ดีใจจัง ! ;D

ใต้ที่วางแก้วน้ำมันจะมีช่องเปล่า ขนาด 1 DIN เอาไว้ใส่ของได้ ... บางคนชอบความบันเทิงก็ขยายเป็นจอ 2 DIN ก็ได้ครับ ... แต่ถ้ารุ่น WRX บางคันมันจะมีเกจ์วัด 3 สหายติดมาด้วย สวยดี ... หาซื้อมาใส่เพิ่มได้ครับแต่ราคาแพงพอตัวเลยครับ ... ส่วนใครงบเยอะหน่อยก็จัด เกจ์เทพ DEFI 1 DIN ได้เลยครับ สวยมากๆ รถพี่กอฟใส่อยู่ เท่ห์สุดๆ แถมใช้ประโยชน์ได้อีกโขครับ ;)

เจ้าถาดวางของบนคอนโซลนั้น ... เป็น Accessories ตรงรุ่น ซึ่งฟลุ๊กได้ของใหม่ แกะห่อมาโดยบังเอิญ ใช้งานได้ดี วางของจุกจุกได้ครับ ... อื่นๆ ก็ดูตามรูปนะครับ :)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:42:48
มาต่อกันที่เบาะคู่หน้าบ้าง ... ใช้งานได้ดี ไม่นิ่มมากออกแข็งๆ แต่กระชับตัวดีตามแบบรถแรงๆ ... ผมว่านั่งนานๆ ไม่เมื่อยมากนะครับ ... เบาะอิมมันมีหลายรุ่นมากๆ บรรยายไป 1 หน้าคงไม่หมด :o ... เอาหลัก ๆ นะครับ ... แบบนี้เป็น Version 3 STI  ถ้าเป็นตั้งแต่ Version 4 เบาะคนขับจะปรับสูงต่ำได้ ... ถ้าเป็น Version 5 STI  ขึ้นไป ปีกเบาะรองนั่งจะมีแถบแดง ตรงหัวก็แถบแดงทั้งหัวครับ

คันเกียร์ออโตหน้าตาธรรมดา ไม่มีลูกเล่นอะไรเลยครับ ... ตรงใต้เบรกมือมีที่ใส่ของได้ ผมเอาไว้ใส่เหรียญบาทครับ ...

ไอ้กล่องเก็บของกลาง (เอาฝาไปหุ้มหนังแท้ เดินด้ายแดงซะหน่อย จะได้สวยๆ เข้ากับอย่างอื่น)  ;D... ใส่ของได้นิดหน่อยครับ ใช้พักแขนได้บ้าง ตอนรถติด ... อิมเดิมๆ ทั่วไปที่ใช้ภายในรุ่นเก่ามันจะไม่มีเจ้านี่นะครับ ... กว่าผมจะหาได้ นานพอตัวอยู่ ... แถมราคากระโดดไปเกินจริงอีก เฮ้อ!  :'(... ฟังมาว่ามันจะมีอยู่ในตัว WAGON เท่านั้น หรือไม่ก็ต้องสั่งเป็น Accessories ต่างหาก
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:46:35
รูปเบาะอีกสักรูปครับ ... ใครสนใจเอาเบาะอิมไปแปลงใส่รถรุ่นอื่นก็แนะนำนะครับ ... ราคาไม่แพง แถมนั่งดี ไม่ลำบากมาก ใช้งานประจำวันสะดวกครับ ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:49:50
มาดูประตูกันบ้างครับ ... กระจกไร้ขอบตามสเปคดาวลูกไก่ยุคก่อน ;) ... แผงข้างประตูหน้ารูปทรงธรรมดาๆ ดูสมวัย หุหุ ... กระจกไฟฟ้ามี 4 บาน ฝั่งคนขับขึ้น ? ลง AUTO ซะด้วย ... ปุ่มมันเหมือนรถสมัยเก่า ... แต่ดูละม้ายคล้ายคลึงกับของ MINI COOPER นะเนี่ย  :o ... กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้า อันนี้เปลี่ยนเองเป็น Version สุดท้ายครับ ...  ส่วนมือเปิดประตูนี่สิ ดูโบราณเหลือเกิน  :-[ ทำให้ผมนึกไปถึง พี่โต HILUX HERO สมัยผมยังเป็นวุ้นอยู่... รวมถึง NISSAN BLUEBIRD ยุค 80 รถของคุณพ่อ ที่ผมจะไป สตาร์ทให้ ก่อนไปส่งผมที่โรงเรียนครับ ... แผงข้างประตูฝั่งคนขับและคนนั่ง มีช่องให้เก็บของได้บ้างครับ ... เจ้าขวดแดงๆ ก็คือ WAX ที่ใช้ในวันนี้ครับผม ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:53:02
มาดูเบาะหลังกันบ้างครับ... ดูคับแคบพอควร ไม่ควรมีคนเข้าไปเกิน 2 ชีวิตครับ ไม่งั้นจะแปรสภาพเป็นปลาซาร์ดีน...กระป๋องได้  ;D... ในรูป เบาะคนนั่ง เลื่อนมาข้างหลังสุดครับ ... ถ้าจะถามว่ามันทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้เลย พับไม่ได้ซักท่า เฮ้อ!  :(  อยากเอาออกมีน๊อตให้ไข 4 ตัว ครับ ... แว่วๆว่าตัว WAGON พับได้ครับ ::)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 21, 2010, 00:57:06
มามุดกระโปรง(หลัง)กันบ้าง :o ... ขนาดดูคร่าวๆก็พออาศัยได้ครับ ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สักใบ ... ถุงGolf น่าจะได้ ผมไม่ทราบเพราะตี Golf ไม่เป็นครับ ... มีไฟหรี่เล็กๆให้ด้วย เวลามุดหาของ ... ในรูปต้องเจียดพื้นที่ใส่ยางอะไหล่ Size ใหญ่พิเศษ ... ก็ไอ้ล้อเล ติดรถตอนซื้อมา เจียดมาหนึ่งวงมาเป็นล้ออะไหล่ (อีกสามวงขายกินไปแล้ว อิอิ ;)) มีไว้เพื่อที่จะหลบเบรกหน้าจานโตที่ใส่อยู่ครับ ... จริงๆมีกรุฝาหลัง พื้นพรมครบๆ ยังไม่ใส่ ครับ อันนี้ได้ความอนุเคราะห์ มาจากพี่กอฟ ... เพราะแกตีตู้ปิดเต็ม ...  ทำเครื่องเสียงตามแบบนักฟังหูทองครับ :D

ไอ้เรื่องล้ออะไหล่นี่สำคัญนะครับ เจ้าสาลิกาเคยยางแตกกลางกรุง แถมฝนตกปรอยๆ ... กำลังจะเอาล้ออะไหล่เดิมใส่ ... ทำไมมันไม่เข้าฟะ ... เฮ้อ ก็มันติดคาลิปเปอร์ เบรก GT4 หนะสิ งานเข้าอีกและตรู !!! :'(

 ปล. รูปเกือกนั้น ขอโทษนะครับ อิอิ
ผมจะพยายามเขียน Review ให้เสร็จเร็วๆนะครับ ... ตอนแรกกะว่าภายในอาทิตย์ ...ไปๆมาๆ ท่าจะแย่ ... ธุระเยอะมากเลย เฮ้อ!!! ยังไงจะพยายามเต็มที่นะครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mcat231032 ที่ สิงหาคม 21, 2010, 07:48:38
รอได้ ครับอ่านแล้วสนุกดีครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 22, 2010, 22:47:41
มาต่อกันที่หัวใจของน้องอิมบ้าง ... ต่อจากที่เกริ่นไปแล้วว่าหัวใจเดิมติดรถมาได้กลับดาวลูกไก่ไปแล้ว ... แล้วจะเลือกหัวใจใหม่อะไรดีหละ? ... แน่นอนที่สาวกดาวลูกไก่ต้องหลงใหลรหัสร้อน ... คอแดง STI ที่มีม้าให้ควบเล่นถึง 280 ps /6500 rpm    แรงบิดที่ 36.0 kg.m 4000 / rpm :o

แต่เนื่องจากผมต้องการทำรถให้เป็นรถใช้งาน ขับสบายด้วยเกียร์ ออโต ... การเอาคอแดงมาชนกับเกียร์ออโต ไม่น่าจะเป็นความคิดที่ดีนัก ... ถึงแม้ว่าจะประกบกันได้ แต่ความคงทนของเกียร์ไม่น่าจะรับใช้ผมได้นานนัก :-\

จึงตัดสินใจเล่นของง่ายๆ เอาตรงรุ่นเดิมๆ ของมันนี่หละ ... เนื่องจากหัวใจเดิมที่น้องเจ้าของรถได้วางมา ณ ตอนนั้นได้ยกมาทั้งหัว ... ทำให้การเอาเครื่องรุ่นเดิมมาประจำการก็เป็นเรื่องที่ง่าย และประหยัดงบไปได้พอควร  :D

ประกอบกับไปได้เครื่องราคามิตรภาพมาจากรถพี่กอฟ ซึ่งแกอยากวางคอแดงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ... ปฏิบัติการสลับร่างสร้างรักก็เกิดขึ้น ... ผมก็ได้ยกเครื่อง EJ 20 T คอขาว อินเตอร์เฉียง ดูจากปีที่ผลิตจากฝาน้ำมันเครื่อง (คิดว่ามันยังไม่โดนยำมานะ) ผลิตปลายปี 1996 ซึ่งเป็นรุ่นหลังๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอินเตอร์ตรงครับ ... อย่างน้อยผมก็มั่นใจกว่าไปซื้อเครื่องเซียงกงนิดนึง ... เพราะได้ลองขับดูก่อน ... ว่าเครื่องมันวิ่งเป็นยังไง ลองดูแล้วก็โอเค สภาพใช้ได้เลยหละ ... แต่มันก็ไม่ง่ายสักทีเดียว เพราะผมต้องไปหาเกียร์ออโต ตรงรุ่นของอิม WRX (ผมลองค้นข้อมูลดูคิดว่ามีประจำการเฉพาะตัว  WAGON ครับ อันนี้ไม่แน่ใจมากนัก) ซึ่งมันหาไม่ง่าย แถมราคาค่าตัวก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย ... สุดท้ายรออยู่หลายเดือน ก็มีหลุดเข้ามาครับ ... ก็ให้หมอประจำตัวจัดการถ่ายของเหลว เปลี่ยน ซีล ท่อยาง ท่อน้ำต่าง รวมถึงล้างระบบเกียร์  หมดน้ำมันเกียร์ ไป หลายสิบลิตรเลย ครับ ;)

มาดูสเปคกันดีกว่า ... เจ้าคอขาว WRX AUTO มีม้าในคอก 240 ps /6000 rpm    แรงบิดที่ 31.5 kg.m 4000 / rpm ... หัวใจเดิมๆ มีเปลี่ยนหอยจากรหัส TD04 เป็น TD05 เท่านั้นครับ ... เปลี่ยนกรองอากาศเป็นแบบล้างได้ ... ยี่ห้อดัง ... ไม่ได้รู้สึกแรงขึ้น  แต่ส่วนตัวผมว่าคุ้มนะครับ เสียเงินทีเดียวจบ ล้างปีละสองครั้งก็พอครับ ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 22, 2010, 22:50:14
แล้วเจ้าหอยพิษ TD05  มีรอบการทำงานอย่างไรบ้าง... ตามประสารถมีหอย รอบต่ำๆ ก็ ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ... จะเริ่มปั่นลม ฉุดตัวถังก็แถวๆ 2500 rpm ... เริ่มดึงแรงขึ้นที่  3000 rpm @ Boost 0.5 Bar ... ... และไปสุดที่  Max Boost 0.8 Bar ที่รอบ 3500 rpm แล้วก็ดึงยาวๆไป แถวๆ 5000 rpm ก็เริ่มหมดลมแล้วครับ ... ::)
 
สรุป ต้องชินกับรถนิดนึง ถึงจะเข้าขา แต่รวมๆก็ขับสนุกพอตัวครับ ... ถ้าได้เกียร์ Manual รับรองว่าขับสนุกกว่านี้อีกหลายขุมเลยครับ ... ;D

รออีกนิด ภาคต่อไปจะมีผลจากการทดสอบ แบบงูๆ ปลาๆ ของผม ว่ารถเก่าๆ คันนี้มันมีตัวเลขสมรรถนะและตัวเลขสวาปามอย่างไรบ้าง อิอิ ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 22, 2010, 22:57:32
ปรับแต่งหัวใจแล้ว ... ก็ต้องไม่ลืมปรับแต่งช่วงล่าง และรองเท้าควบคู่กันไปนะครับ ... น้องอิมได้เปลี่ยนโช้คอัพของเก่าจากยุ่น แบบปรับหนืดได้ ประกอบกับ สปริง Progressive ของ STI รวมๆ ก็ แข็งพอตัวแม้จะปรับมาฝั่งกลางๆ แล้ว ...  แต่ก็นิ่มกว่าแบบ Strut ปรับเกลียวเยอะครับ (ใครชอบรถนิ่มๆอย่าคิดใช้เลยนะครับ ไอ้สตรัสเนี่ย เด้งๆทุกราย) ... รวมถึงไม่เตี้ยมากไปได้เกือบทุกที่ครับ ... ยาง BS RE001 Adrenalin Size 215/45/17 ยังทำหน้าที่ได้ดีตามวัย แม้จะใช้มาเกือบ สองปี กับระยะทางที่วิ่งมาสองหมื่นกว่าโลครับ... อืมมีแปะค้ำโช้คหน้าพิมพ์นิยม STI Kevlar ใส่เพราะสวยๆหละ ใช้งานจริงยังไม่เห็นผลแตกต่างครับ ::)

ระบบเบรกเป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญ ... รถวิ่งได้ แต่หยุดไม่ได้ น่ากลัวกว่ารถเสียวิ่งไม่ได้นะครับ ... ระบบเบรกติดรถมาเป็น ของ WRX เดิมๆ ดิสเบรก 4 ล้อ คู่หน้า สองพอต พ่วง ABS ที่ติดมาแต่เกิด ... จริงๆมันก็ใช้งานได้ระดับน่าพอใจเลย ... แต่ด้วยความโรคจิตส่วนตัว เดิมๆไม่ชอบ ต้องเปลี่ยนซะหน่อย ... คู่หน้าแรก ๆ มอง เบรก สี่พอต ตรงรุ่น STI แต่ด้วยราคา ณ ตอนนั้นแพงหูฉี่ ต้องเอาเงินไปหลักหมื่นไปแลกเป็นค่าตัว ทังๆที่เบรกมันก็เหมือน เจ้าเส้นขอบฟ้า ที่เซียงกงมีเป็นเข่งๆ ... สุดท้ายก็ไปได้เบรก สองพอต จานโตสามร้อยสิบกว่าๆ มิลลิเมตรจากพี่เล BP GT Turbo รุ่นก่อนล่าสุด  ... ฟิลลิ่งมันจะนิ่มๆ จับไม่แรง ต้องกดแรงๆ หน่อยครับ ... แต่ก็อยู่ดีใช้ได้ แถมได้ความสวยๆ ดูเต็มกับล้อขอบ 17 ครับ ... แต่ถ้าให้ผมเทียบ กับ เบรก สี่พอต  หละ ... เคยลองขับรถพี่กอฟ คันนั้นมาเต็ม ด้วยหน้าสี่พอต  หลังสองพอต ... ผมให้คะแนนรถพี่กอฟมากกว่า ... มันหน่วงความเร็วดี ฟิลลิ่งลดความเร็วทำได้ดีกว่าครับ ... แถมผ้าเบรกหาง่าย ราคาไม่แพง มีให้เลือกเพราะมันใช้แบบเดียวกับเจ้าเส้นขอบฟ้า R32 GTS ที่รถทั่วไทย คิดอะไรไม่ออกขอแปลงเบรก GTS หละกัน ... ส่วนเจ้าเบรก เลของผม ... ผ้าเบรกมีให้เลือก อยู่ สองเจ้าหลักๆ อันแรกเบิกห้าง กับราคาขนหัวลุกแถว หกเจ็ดพันบาทไทย ... ยังดีมีผ้าเบรกยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สีชมพู ให้เลือกใช้ในราคาครึ่งเดียว ... ก็ยังดี แต่ต้องสั่งนะ ไม่ใช่เดินไปถามว่ามีไหม ไม่มีหรอกเพราะรุ่นนี้เค้าทำส่งออกอย่างเดียว เฮ้อ!!! :-[

เจ้าเบรกติดรถเจ้ากรรม เกือบทำผมไปอยู่เมืองผีครั้งนึง (หวังว่าจะมีครั้งเดียวนะ)  >:(... เจ้าเบรกหลังมันติด คาดว่าเกิดจากอายุอานามที่กลับบ้านเก่าไปแล้ว ... ทำให้น้ำมันเบรกเดือด เกินจุดที่รองรับได้ (นี่ขนาดใช้ ATE DOT4 Super นะ เฮ้อ!!!)  เบรกมันเฟดซิครับ  กดแล้วหายเลย หลอนแทบแย่ ... ดีนะไม่ได้มาเร็วมาก ... แล้วถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรจะทำยังไง ... ตั้งสติก่อน ลองย้ำเบรกหลายๆรอบ ... เชนจ์เกียร์ต่ำ ... หาทางเข้าข้างทางครับ ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 22, 2010, 23:02:25
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของอิมที่น่าค้นหาคือเสียงท่อ ;D ... เดินไม่เรียบ สะเด่าครางเป็นจังหวะ เร้าใจเหลือเกิน ;) ...  ตามสไตล์สูบนอนรุ่นโบราณ ที่การไหลของอากาศมันไม่สัมพันธ์กัน ... ทำให้เกิดเสียงที่หลายคนหลงใหล ... แต่มันจะพบได้กับเครื่องรุ่น GC หรือรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้นนะครับ ... รุ่นใหม่ๆ ฟูจิเค้าออกแบบให้มันดีขึ้น ทำให้เสียงแบบเดิมๆ มันหายไปเยอะเลย ... เคยได้คุยกับฝรั่งท่านนึง แกมี GC นี่หละ แกไปวางเครื่องใหม่ เป็น รุ่นตาเหยี่ยว STI ประกบ Short Block 2500 CC. โมเต็ม... ผมก็ถามแกว่าเป็นยังไงบ้าง วิ่งดีขึ้นไหม ... แกก็บอกว่าดี แรงสะใจทีเดียว ... แต่แกก็ส่ายหัว ทำหน้าเซ็งว่า ... BUT MY LOVELY SOUNDS WERE GONE !!!!  :o

หลังจากผมหูบอดไปกับท่อ กากิโมโต เรซซิ่ง ที่ติดรถน้องอิมมา ... ผมก็เสาะหาท่อใบใหม่เอาอะไรก็ได้ที่เงียบๆๆๆๆๆ ... ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอิมเลย ... สุดท้ายก็ไปคว้าท่อของรุ่นตาเหยี่ยว STI เดิมๆ ทั้งเส้น (มันใส่กันได้ แปลงหูหิ้ว 1 หู ครับ) ... โห ท่ออะไรวะมันเงียบจริงจังมากๆ ... ใช้ไปมาสักพัก ก็ทนไม่ไหว มันเงียบไป เหมือนไม่ได้ขับอิม ... กิเลสมาอีกแล้ว แต่จะหาท่อที่มันใช้กับเกียร์ออโตมันหายากเหลือเกิน ส่วนมากก็มีแต่ท่อใหญ่ ไส้ตรงทั้งนั้น ... และแล้วก็ไปถูกใจเจ้าท่อ STI GENOME ของแต่งโรงงานดาวลูกไก่  ... ที่เสียงทุ้ม นุ่ม กำลังดี... แถมขนาดท่อไม่ใหญ่มาก ... ทุบกระปุกรออยู่หลายเดือนกว่าจะหาได้ เป็นของชิ้นล่าที่เพิ่งใส่มาครับ ... สรุปถูกใจมากๆครับ  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 19:09:46
มาต่อกันดีกว่าครับ ... เป็นภาคต่อสุดท้ายแล้วสำหรับ Review อันยาวนานครั้งนี้ครับ ...  ;)

ตอนแรกก็หวั่นๆ กลัวว่าม้าจะกลับญี่ปุ่นไปหมดคอก ... แต่ในใจก็หวังลึกๆ ว่าตัวเลข 0-100 กม./ชม. น่าจะเห็นเลขตัวเดียวให้ชื่นใจได้บ้าง (ผลออกมาเกือบหลุด อิอิ)... เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ ... สมรรถนะที่คุณจะได้รับภายใต้พวงมาลัย น้องอิมเป็นอย่างไรบ้าง ... มาพบกับผลของการทดสอบแบบงูๆ ปลาๆ ของผมซึ่งได้ตัวเลขต่างๆเป็นดังนี้ครับ  ::)

ปัจจัยการทดสอบครั้งที่ 1 : วันที่ทดสอบ 15 สิงหาคม 2553
น้ำมันเครื่อง : เปลี่ยนใหม่เมื่อต้นเดือนสิงหาคม แบบซินเธติค ยี่ห้อไทยทำความหนืด 5W50
น้ำมันเชื้อเพลิง : SHELL V-POWER GASOHOL 95 ... มีน้ำมันคงเหลือ ประมาณ 3 ใน 5 ส่วนถัง
ช่วงเวลาทดสอบ : เที่ยงวัน แดดมีพอประมาณ
ลักษณะการทดสอบ : เข้าเกียร์ D กดคันเร่งจม ... ไม่เลี้ยงรอบ ไม่เชนจ์เกียร์ ... เปิดพัดลมแอร์ ปิด A/C
ความเร็วอ้างอิง : เทียบจากเข็มไมล์ติดรถ และเทียบกับ Speed Meter ที่วัดได้จาก Greddy Auto Timer รุ่นล่า
นาฬิกาจับเวลา : ใช้ของโทรศัพท์มือถือครับ
น้ำหนักบรรทุก : รวมๆ น่าจะ 150 KG.

ผลการทดสอบครั้งที่ 1 เป็นดังนี้ครับ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
ครั้งที่ 1 : 9.5 วินาที /// ครั้งที่ 2 : 9.8 วินาที

อัตราเร่ง 80-120 กม./ชม.
ครั้งที่ 1 : 6.1 วินาที /// ครั้งที่ 2 : 6.5 วินาที

อัตราเร่ง 100-120 กม./ชม.
ครั้งที่ 1 : 4.3 วินาที /// ครั้งที่ 2 : 4.5 วินาที

อืม ก็ไม่เลวทีเดียวครับ ... ยังไม่หมด ผมยังข้องใจอีกนิด เลยต้องลองอีกสักรอบครับ :-\

ปัจจัยการทดสอบครั้งที่ 2 : วันที่ทดสอบ 22 สิงหาคม 2553 ... มีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงดังนี้

น้ำมันเชื้อเพลิง : SHELL V-POWER GASOHOL 95 ... มีน้ำมันคงเหลือ ประมาณ 3 ใน 5 ส่วนถัง แต่เพิ่มตัวช่วยด้วย OCTANE BOOSTER X1R 1 ขวด ... ตามคำโฆษณาน่าจะเพิ่ม OCTANE ได้สัก 3 หน่วยครับ ;D
จริงๆแล้วตามสเปคน้องอิมที่โรงงานฟูจิออกแบบมา  ต้องบริโภคของดี อย่างต่ำคือ  OCTANE 98 หรือไม่ก็ HI-OCTANE 100 ... แต่มันหาไม่ได้ในเมืองไทย ... หรือหาได้ ก็ราคาแพงมากมาย เหมาะกับเอาไว้ขับในสนามเพื่อรีดแรงม้าให้ได้เต็มๆมากกว่าครับ ... ผมก็เลยลองวิธีที่ประหยัด และทำง่ายที่สุดโดยการเพิ่มหัวเชื้อเข้าไปนั่นเอง ... ได้อภินันทนาการหัวเชื้อจากพี่กอฟตามเคยครับ
 
กรองอากาศ : ล้างกรองอากาศ ใหม่
ช่วงเวลาทดสอบ : เย็นๆ ไม่มีแดดครับ

ผลการทดสอบครั้งที่ 2 เป็นดังนี้ครับ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใส่ X1R : 9.3 วินาที

อัตราเร่ง 80-120 กม./ชม.ใส่ X1R : 5.5 วินาที

อัตราเร่ง 100-120 กม./ชม.ใส่ X1R : 3.7 วินาที

อัตราเร่ง 110-130 กม./ชม.(อันนี้แถมครับ) ใส่ X1R : 4.0 วินาที

ตัวเลขโดยรวมดูดีขึ้นพอตัวโดยเฉพาะอัตราเร่งแซง ... น่าจะเป็นผลพวงจากอากาศที่เย็นกว่า รวมถึงกรองอากาศใหม่ๆและที่สำคัญเจ้าน้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะเป็นตัวช่วยได้มากทีเดียวครับ

ถึงแม้ว่า 0-100 กม./ชม. จะดูธรรมดา และใกล้เคียงกันทั้งสองครั้ง ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากรถผมเป็นเกียร์ออโต ออกตัวแบบธรรมดาๆ (ต้องถนอมหน่อยครับ กลัวพัง) ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากระบบขับสี่แบบ กระโจนออกได้ และกว่าจะมีแรงดึงก็ต้องรอแรงลมของเทอร์โบ ทำงานก่อนครับ ... อืม แต่เราก็ไม่ได้เร่งใช้แบบนี้บ่อยอยู่แล้ว ... เคยลองจริงจังก็ครั้งนี้หละครับ :)

ส่วนอัตราเร่งที่เราต้องได้ใช้กันบ่อยๆ และน่าจะให้ความสำคัญมากกว่า ถือว่าทำได้น่าพอใจทีเดียวครับ ... พอจะหนีรถเล็ก B-Segment ตัวจี๊ดที่ขับกันตัวปลิว หรือกระบะพลังแรงแห่งยุคนี้ได้อย่างสบายๆ ... หรือจะไปต่อกรกับ C-Segment กล้ามโต และ D-Segment เครื่องไม่เกิน 2500 CC. ก็ยังพอไหว ได้ลุ้นสนุก ... แต่ถ้าไปเจอ D-Segment กล้ามโตมากๆ เครื่องตั้งแต่ 3000 CC.  หรือ รถ SEDAN & SPORT ตัวแรงจากโรงงาน ไม่ว่าจะ เบนซิน เทอร์โบ หรือ ดีเซล คอมมอลเรล เทอร์โบยอดฮิต ... ก็ขอแอบซ้าย ... โบกมือบอกว่า ไปก่อนเลยครับพี่ ๆ  ... เจอกันที่ปั้มหละกันครับ (พี่ๆ เค้าคงแวะเข้าห้องน้ำ ซื้อขนมขบเคี้ยว แต่น้องอิมผมคงแวะเติมน้ำมันหละครับ เฮ้อ) ... ไม่ได้แนะนำให้แข่งกันบนถนนนะครับ แค่เขียนเปรียบเทียบเอามันเฉยๆ อิอิ ;)

แต่ถ้าคุณไปเจออิมคันอื่นๆ บนถนนหละ ... สมรรถนะมันเป็นอย่างไร ... ตามที่เคยเห็น รถผมจัดอยู่ในระดับเตรียมอนุบาลในสาวกดาวลูกไก่ ... คันอื่นๆ อย่างน้อยก็ต้องคอแดง เกียร์ธรรมดา เดิมๆ มีน้อย ส่วนมาก โมกันมาเต็มเหยียด ... ถ้าคุณไม่ได้ควบ BIG BOY Toys ตัวแรงๆ ก็หลบเค้าไปเถอะครับ ... เดี๋ยวจะเปลืองน้ำมันป่าวๆ ... ต้นจัด ตีนปลายมีให้เล่นกว่า 240 กม./ชม. แล้วแต่เกียร์กับเฟืองท้ายที่ประจำการอยู่ ถ้าทดชิดหน่อย ปลายก็น่าจะหย่อนลงมานิดนึงครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 20:38:17
จะจบแล้วครับ ขับรถพาน้องอิมกลับบ้านกันดีกว่า ... ฝากรูปริมสระน้ำหนึ่งรูปนะครับ :D

มาดูรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ ในเกียร์สูงสุด (4) กันบ้างครับ ... อืม! ก็ดูไม่สูงมากนัก ขับทางยาวๆ ก็สบายๆ ไม่ต้องเค้นกันมากนักครับ
ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่รอบ 2,000 รอบ
ความเร็ว 100 กม./ชม. ที่รอบ 2,500 รอบ
ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่รอบ 3,000 รอบ
ความเร็ว 140 กม./ชม. ที่รอบ 3,500 รอบ

มาดู MAX Speed กันบ้าง ... โห!กดกันได้มิดไมล์เลยนะครับ อิอิ  ;)... น้องอิมผมเป็นหมันแต่เกิดโดนตอนตามกม. พี่ยุ่น ณ ตอนนั้น ... น้องอิมก็เลยไปหมดลมที่ 180 กม./ชม. ครับ ... ก็ดีนะจะได้ไม่ต้องขับเร็วมากๆ เล่นปลายๆ เดี๋ยวนี้ใจไม่กล้าแล้วครับ ...  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 20:49:14
แวะ ฝากรูปริมสวนอีกหนึ่งรูปนะครับ ...  :D

เห็นฝาถังน้ำมันนั่นไหม ... มีดีตรงที่ฝาอยู่ไม่ตรงกับรถพี่ยุ่นทั่วไป (จะได้ไม่ต้องต่อคิวนาน) ที่จะอยู่ฝั่งคนนั่ง ... ส่วนน้องอิมจะอยู่ฝั่งซ้ายเหมือนรถยุโรปซะนี่ ... หรือจะเป็นความตั้งใจที่โรงงานฟูจิออกแบบไว้ เพราะมันต้องแวะให้อาหารบ่อยๆ นะสิครับ :o

ตามที่ได้เล่าไปก่อนหน้าว่า ตามสเปคแล้ว ต้องบริโภคของดี อย่างต่ำคือ  OCTANE 98 ... แต่เมืองไทยมันไม่มี ... มีสูงสุดแค่เบนซิน 95   ถ้าจะทำให้รองรับก็คือการปรับแต่งกล่องใหม่ ... เครื่องรุ่นเก่าแบบผมไม่สามารถจะรีแฟลชได้ ... ต้องพ่วงกล่องแต่งสถานเดียว ... ซึ่งใช้งบค่อนข้างสูง ... ชั่งใจอยู่หลายรอบ ก็ตัดสินใจไม่ทำดีกว่า เพราะผมใช้เป็นรถใช้งานทั่วไป ไม่ได้เค้นกันสุดๆ หรือเอาไปลงสนาม แต่อย่างใด ... ช่วงแรกๆ ก็ทนเติม เบนซิน 95  ... แต่ด้วยราคามหาโหด เดี๋ยวจะกลายเป็นรถกินมากกว่าคน (ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ตลอด เฮ้อ!) ... ก็เลยต้องเปลี่ยนไปเติม GASOHOL 95 แทน... มันก็พอวิ่งได้ อัตรากินน้ำมันไม่ต่างกัน แต่มันไม่ลื่น มีเสียงเขกให้เห็นบ้าง ... สุดท้ายพอตราหอยออก V-POWER GASOHOL 95 ... ผมก็ลองเติมดู หลายถังติดๆกัน ก็รู้สึกว่าดีขึ้น เสียงเขกหายไป แต่อัตรากินน้ำมันเหมือนเดิม .... ก็โอเคครับ เลยใช้ประจำ ... อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ได้จะโฆษณานะครับ ;)

เอาอัตราการกินน้ำมันของน้องอิมตั้งแต่ต้นปีนี้มาให้ดูครับ เห็นแล้วลมจับไหมเนี่ย! :'(

ลักษณะการใช้งาน วิ่งในเมืองรถติดมากๆ  แบบ 10 กม. ใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงขึ้นไป บางทีสองชั่วโมงกว่า ในตอนเช้า ถ้าเมื่อคืนฝนตกหนัก เฮ้อ!!! มีสลับรถวิ่งได้ เป็นบางครั้ง ที่กลับดึก ... หรือเสาร์ อาทิตย์ วิ่งแถบชานเมืองบ้างครับ ... ดูตัวเลขจริงกันเลยครับ

เฉลี่ยเดือน มกราคม 6.642 กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน กุมภาพันธ์ 6.720 กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน มีนาคม 6.353 กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน เมษายน 6.426 กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน พฤษภาคม 6.535 กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน มิถุนายน 6.011กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน กรกฎาคม 6.501กม./ลิตร
เฉลี่ยเดือน สิงหาคม 6.627 กม./ลิตร
คิดเป็นค่าเฉลี่ย  6.477 กม./ลิตร คิดคร่าวๆ ก็ กิโลเมตรละ 5 บาท  :'((เทียบกับราคาน้ำมันที่ 34 บาทต่อลิตรครับ)

อัตราการกินน้ำมันที่แย่ที่สุด 5.523 กม./ลิตร :o
อัตราการกินน้ำมันที่ดีที่สุด 8.415 กม./ลิตร ;D
 
จริงๆ เห็นสาวกดาวลูกไก่ ดมแก๊ส LPG กันหลายคันครับ ได้ข่าวว่าวิ่งดีเสียด้วย แถมประหยัดไปกว่าครึ่งครับ ... อันนี้ใครใช้รถเยอะๆ น่าสนใจทีเดียวครับ :)
 
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 20:51:24
เอาหละ ! ได้เวลาอันสมควรแล้ว ... พาน้องอิมกลับบ้านกันดีกว่าครับ :D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 20:53:08
ถึงบ้านแล้วครับ ... กับ Review ที่ยาวนานฉบับแรกของผมครับ  ;)

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ถ้าพาดพิงถึงใคร หรือรถรุ่นไหนก็ขอโทษไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ สิงหาคม 23, 2010, 20:57:12
ท้ายที่สุด ... แล้วใครหละจะเหมาะสมกับการไขกุญแจ ไทเทเนียม STI ดอกนี้ ... ลองอ่านความเห็นผมดูนะครับ :D

ถ้าคุณชอบความแตกต่าง ขับไปไหนมีแต่คนมอง ... มีแต่ผู้ชายนะครับ บ่อยเลยที่มีผู้ชายเดินผ่านรถผม แล้วอุทานกับเพื่อนว่า เฮ้ย แม่ม ! อิมหวะ เสียงโคตร ดุ ท่าทางแรงๆ กรูอยากได้มาก ... ส่วนผู้หญิง99% เมินหน้าหนีแน่นอน ... ส่วนมากคิดว่าเป็นรถซูกะป้อที่วิ่งแถวโชคชัยสี่ เฮ้อ! :-[

มีความรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้าง แค่รู้ว่าอันนี้คืออะไร ทำหน้าที่อะไร ไม่ต้องถึงขนาดซ่อมเป็นก็ได้ :)

ใช้รถคนเดียวเป็นส่วนมาก เพราะคนที่ขับคือคนที่สนุก ส่วนผู้โดยสารทรมานครับ เพราะมันแข็ง เสียงมันดังทั้งจากท่อ ... กับเสียงก๊อกแก๊ก กุกกัก บ้าง... อันเป็นโรคประจำตัวของอิมส่วนใหญ่ :'(

ชอบรถสมรรถนะดี ขับสนุก ทรงตัวดีเวลาขับเร็ว และชอบทางโค้งเป็นชีวิตจิตใจ ... แต่อย่าเล่นจนเกินลิมิตนะครับ ... อิมส่วนมากประสบอุบัติเหตุเพราะ ขับกันมั่นใจเกินไป รถทุกคันมีลิมิตของมัน ... ระลึกไว้เสมอว่าไม่ประมาทครับ ;)

มีรถสำรองให้ใช้บ้าง  หรือ ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ได้ ถ้ารถเสีย (เนื่องจากอายุอานามมันก็เยอะแล้ว อะไรจะเสียเมื่อไรก็ไม่รู้ ต้องเผื่อใจไว้บ้าง)

มีเงินเย็นๆในกระเป๋าสักครึ่งล้านบวกลบ ... บวกกับค่าดูแล ซ่อมแซม จิปาถะอีกนิดหน่อย(อาจจะมากได้ ถ้ากิเลสเยอะ) ... บวกรวมค่าอาหารประมาณกิโลเมตรละ 5 บาท แล้ว ... คิดว่าบวกลบคูณหารแล้วคิดว่าไหว ก็ลองเลยครับ ... แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง ... เพราะมีหลายๆท่านได้ใช้ซูบารุ... แล้วลงความเห็นว่าคุณจะไปขับรถคันอื่นไม่ได้ (ถ้าไม่จำเป็น) ... มีวลีหนึ่งที่เกิดขึ้นคือเสพซูแล้วเลิกยากนะ ... เลิกไปแล้วก็มีโอกาสหวนกลับมาเสพใหม่ได้ตลอดครับ ที่เห็นมาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อิอิ! ;D

สุดท้ายแล้ว! ถ้าอ่านมาทั้งหมดแล้ว นี่หละใช่ตัวคุณเลย ... แล้วคุณจะสนใจรถจากค่ายดาวลูกไก่กันบ้างไหมครับ ถ้าสนใจ... ผมจะขายต่อให้ 555 ล้อเล่นนะครับ ... หวังว่ายังไม่เร็วขนาดนี้ ... แต่อย่างที่บอกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เพื่อการเดินทางครั้งใหม่ น้องอิมก็ต้องจากไป จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและปัจจัย ... เนื่องด้วยอายุที่ผ่านมาครึ่งทางของชีวิตแล้ว แถมหน้าที่การงานก็ขยับขยาย (ไม่ใช่ใหญ่โตนะครับ แค่งานมันเยอะขึ้น) ทำให้เวลามันน้อยลงเหลือเกิน ทำให้ บางอารมณ์ก็อยากได้รถบ้านๆ ทั่วไป ใช้งานแค่เป็นพาหนะพาเราเดินทางไปถึงจุดหมาย ไม่ต้องดูแลมากมายทั้งเวลาและปัจจัย ... :)

ถ้าน้องอิมได้จากไป ... แล้วคุณเป็นผม... คุณจะเลือกรถอะไรครับ (อะไรก็ได้ ใหม่ป้ายแดง เก่าใช้แล้ว ถ้าผมสมมติว่าผมมีงบหนึ่งล้านบาทไทยไม่เกินนะครับ จะคันเดียว หรือแตกเป็นสองคันก็ได้ ผมคิดไม่ออกจริงๆ !!! ) ขอบคุณมากครับ :D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mcat231032 ที่ สิงหาคม 23, 2010, 22:27:52
ขอบคุณที่ทำมาให้ไห้ได้อ่านกันครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: อืม...นะ ที่ สิงหาคม 24, 2010, 09:25:10
รีวิวกระตุ้นต่อมจริงๆพี่ อ่านเพลินๆ แป๊บๆจบแล้ว  ;)

จะขายก็ขายได้ แต่...ขอนั่งก่อนนะ อิอิ  ;D
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: raulowen ที่ กันยายน 28, 2010, 23:12:25
มีค้ำโช็คด้วย น่าจะขับเน้นสนุกน่าดู ;)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 05, 2010, 18:28:56
ช่วงนี้เพิ่งว่างมาบุกบอร์ด User Voice มาเจออันนี้ อะฮ้า ได้เพื่อนขับซูแล้ววุ้ย

อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง นั่นถือว่าทำได้โอเคแล้วครับ เพราะมันก็เท่ากับรถผม
เทคโนโลยีเครื่องยนต์เกือบเหมือนกันมาก ต่างกันตรงที่ Legacy EJ20T ใช้กระเดื่องไฮดรอลิค
ใช้อินเตอร์น้ำ (ซึ่งผมเปลี่ยนเป็นอินเตอร์เฉียง) และใช้เทอร์โบ IHI RHB-52

และถ้าเป็นสเป็คที่ขายในไทย อัตราส่วนกำลังอัด
จะต่ำมาก แค่ 8.0 ต่อ 1 ในขณะที่อิมแจแปนจะสูงกว่า..รุ่นหลังๆนี่มี 9.0 เลยด้วย

อัตราเร่ง 9.3 วิก็สมเหตุผล เพราะขับสี่ถ้าไม่กระโดดออก มันไม่มีอะไรจริงๆ และต้องรอ
พลังเทอร์โบสร้างมาให้ก่อน รถผมนี่ถ้าให้บรรทุก 150 ก.ก.และไม่กระโดดออก ก็มี 8 วิขึ้นครับ

ฟีลลิ่งการขับขี่ตามที่อธิบายมาก็เห็นภาพ และเข้าใจ เพราะ Old Legacy กับ GC8 มันเกือบจะ
เหมือนกันหลายอย่าง โช้คในรถผมตอนนี้ก็เอาของ GC8 มาใส่ รวมถึงยางประกบแร็ค
เบรค และปีกนกทั้งดุ้น สิ่งที่ต่างกันก็คงเป็นตอนเข้าโค้งแบบถึงลิมิตเพราะ Legacy
แบกน้ำหนักตัวมากกว่าอยู่เกือบ 170 โลเห็นจะได้ และเราขับดูก็รู้สึกถึงน้ำหนักนั้นได้เหมือนกัน


อนาคตสามารถทำต่อได้เยอะ ฐานเครื่องเดิมถ้าเป็นเครื่องญี่ปุ่นที่ตัด 180 ลองดูเทอร์โบ
ถ้าเป็น TD05 ก็เป็นเครื่องที่มาจากตัว WRX ซีดาน เอามาใส่ปรับบูสท์ไฟฟ้าสักตัว
ก็ดันบูสท์ 0.9 บาร์ได้โดยไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าได้กล่องจูนสักใบจะวิ่งเนียนมาก

เพื่อนผมที่จูนรถบอกว่าในบรรดารถยุค 90s นั้นมีอยู่สองยี่ห้อที่กล่องเดิมมันค่อนข้างโง่
เวลาโมดิฟายอะไรแล้วกล่องมักตามไม่ทัน นั่นก็คือ นิสสัน และซูบารุ แต่ข่าวดีก็คือ
เวลาไปจูนทีไร มักได้ม้าเพิ่มมากกว่าชาวบ้านเขามาก

เทอร์โบ TD05 ที่อยู่ในรุ่นนี้หากไม่มีปัญหากับการรอรอบ (ซึ่งอย่างน้อยก็ติดบูสท์เร็วกว่า
RHB52 อยู่โขล่ะ!) ก็ใช้ต่อไปได้ เทอร์โบตัวนี้รองรับพละกำลัง 315 แรงม้าที่เครื่องยนต์ได้ครับ
ถ้าไม่มีแผนจะทำม้ามากกว่านี้ ก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่อย่ายุ่งกับ IHI RHF5 VF-22 เด็ดขาด
ถ้ายังอยากใช้เกียร์อัตโนมัติอยู่ เพราะมันรอรอบ..รอไปเถอะ 4 พันนู่นค่อยว่ากัน

เมื่อคุณมีฐานรองเครื่องเป็น Impreza แล้ว ที่เหลืออยากทำอะไรก็แล้วแต่เงินเลยครับ
มีทั้งวิธีเท่ห์ และวิธีแรงแบบประหยัด ยิ่งค้นอ่านดูยิ่งสนุก

ส่วนเรื่องเสียงเครื่องนั้น ถ้าอยากมั่นคงกับเสียง Boxer rumble แบบนี้ต่อไป ก็หลีกเลี่ยงแค่สองอย่างครับ
1. เลี่ยงเครื่องที่ใช้เทอร์โบ Twin -Scroll
2. อย่าใช้ท่อร่วมไอเสียแบบ Equal length

หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ ตุลาคม 09, 2010, 22:09:38
 ;) ขอบคุณผู้การที่เข้ามาติชม

ว่างๆ คงได้เจอและคุยกันครับ พยายามหาเวลาไปเข้ากลุ่มซูอยู่เหมือนกัน ติดตรงไม่มีเวลาเลย :(

ตอนนี้ก็เก็บรายละเอียดไปเรื่อยๆ เพิ่งเบิกอะไหล่ช่วงล่าง พวกบูช ลูกปืนต่างๆ หมดไปหลายหมื่นอยู่ กำลังรวบรวมแล้วเปลี่ยนทีเดียวเลย

หวังว่ามันจะวิ่งนิ่ง นิ่มและเงียบขึ้นบ้างครับ  :-\

ส่วนเรื่องเครื่องคงไม่ทำแล้วหละ ถ้ายังใช้อยู่จนมันกลับบ้านเก่า คงกัดฟันหาหัวตัว GD gear tiptonic มาใส่เลยดีกว่าคับ ::)

แต่หวังว่าผมคงถอดใจเปลี่ยนรถก่อนแน่ๆ  ;)

หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 10, 2010, 22:00:37
เสพซูแล้วเลิกยากครับ 555

GC8 จริงๆแล้วถ้าเก็บไว้ได้ก็น่าเก็บนะครับ นี่คือรถตำนาน
ไม่ว่าจะในญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา หรือไทย ไม่มีทวีิปไหนไม่รู้จัก
เป็นรถที่ได้ชื่อว่าปฏิวัติดีไซน์ของซูบารุอย่างแท้จริง

เครื่อง ถ้าลงใหม่ แล้วชอบเกียร์ออโต้ เอา Forestor สิครับ
เครื่องมันน่าใช้ดี รีแฟลชแล้วเพิ่มบูสท์ แค่นั้นก็ขับสนุกแล้ว
คิดดูละกันว่าขนาดอยู่ในบอดี้ Forestor แล้วในแบบเดิมๆ
ยังวิ่งแรงจน Range Rover Sport งงละกัน
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBOSS ที่ ตุลาคม 10, 2010, 23:15:09
 :) คงไม่เลิกหรอกครับ แต่อาจจะขอหลบไปพักบ้าง ... เป็นคนชอบลอง อยากใช้รถหลายๆ รุ่นครับ

แต่คงอีกพักใหญ่มาก เพราะหมดไปเยอะแล้ว ขอใช้ให้คุ้มหน่อยครับ

อืม เครื่อง Forestor ก็น่าสนใจครับ ... จริงๆ อยากได้ทั้งคันเลย ถ้าจะขับมัน และสบายกว่าอิมหลายขุม

 ... แต่ที่บอกว่าอยากได้อิม GD เพราะอยากได้ภายใน พวกคอนโซล เบาะมาใส่ด้วยครับ ;)

หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: smax13 ที่ ตุลาคม 13, 2010, 15:03:19
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: keng. ที่ ตุลาคม 14, 2010, 11:24:58
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

พี่ผ่านรถมาเยอะมากเลยนะครับ แต่ละคันนี่ก็ใช่ย่อยเลย
 :)
หัวข้อ: Re: Rewind & Review: กว่าทศวรรษที่ผ่าน! กับความรักสั้น แต่ความจำฉันยาว!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: TTL ที่ มกราคม 01, 2011, 15:02:56
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

รีวิวอ่าน เพลินมากเลยครับ  + รถสวยด้วยครับ   :D