Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AirborneTH ที่ มิถุนายน 12, 2019, 21:29:11
-
โดยปกติแล้ว รถที่มีระบบควบคุมการทรงตัว มักจะตัดเอา limited slip differential ออก เนื่องจากการทำงานมันต่างกัน
อย่างนึงเป็น mechanic อีกอย่างนึงเป็น Software ควบคุมระบบส่งกำลังและระบบเบรคผ่านการตรวจวัดค่าของเซ็นเซอร์และมีส่วนควบคุมสั่งการ
อย่างจะเห็นกระบะขับ4ตอนนี้หลายรุ่นที่มีระบบควบคุมการทรงตัวได้ตัดเอา LSD ออก แต่ไปเพิ่ม diff lock ไฟฟ้า มาให้ใช้งานอย่างจริงจัง
ส่วน All NEW Toyota Commuter นั้นใส่ให้ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว แล้วแถมยังใส่ LSD มาให้อีกจึงแปลกใจว่ามันทำงานกันอย่างไร
เพราะถ้าล้อหมุนฟรี TRC ก็ต้องทำงานอัตโนมัติเพื่อตัดการส่งกำลัง หรือตัดต่อกำลังเป็นจังหวะบนล้อที่ฟรีเพื่อให้ล้ออีกด้านมีกำลังฉุดลากได้
แล้ว LSD ล่ะมันจะเข้ามาทำงานตอนไหน เพราะถ้าจะทำงานพร้อมกันกับ TRC ก็ไม่ได้เพราะ TRC จะสั่ง ABS ให้จับปล่อยๆเบรค ส่วน LSD
จะทำงานก็ต่อเมื่อมีการหมุนฟรีทิ้งในสัดส่วนที่จำกัดรอบการหมุนตามเฟืองที่ออกแบบคลอดเวลา หรือ All NEW Toyota Commuter
ใส่แบบไฟฟ้ามาให้แบบรถสปอร์ทแพงๆ มันก็หรูไปมั้ง? ก็ไม่น่าจะใช่
-
ระบบ TRC ลองนึกดูนะครับว่า ระบบมันแต่ตัดรอบกำลังออกเท่านั้น การตัดกำลังออกก็คือรอบเครื่องไม่วิ่ง
ประมาณว่า เวลารถ กวาดรอบเร็วๆ ทำให้รถเสียการทรงตัว แค่ตัดรอบเครื่องออกไม่ให้รอบเครื่องสุงขึ้นไป
ก็ไม่มีกำลังไปเพิ่มลงล้อได้ นั้นคือระบบ TRC นะครับ มันคนละระบบ กับ LSD นะครับ
ส่วนระบบ LSD มันเป็นระบบ ถ่ายกำลัง ล้อไปที่ล้อซ้ายและขวาเท่าๆกัน แต่ไม่ใช้ทำงานตลอดเวลานะครับ
จะมีประโยชน์มากๆช่วงเวลาฝนตก การทรงตัวจะแตกต่างกับที่ไม่มี
ระบบ LSD ถ้าขับเป็น เข้าใจในระบบ มันจะช่วยการขับได้เยอะมากๆ ครับ
ส่วน ระบบ diff lock มันทำงานในความเร็วต่ำนะครับ ไม่น่าจะเกิน 0-30 กิโลเมตรต่อ/ชมก็น่าจะคลายแล้ว
ส่วน LSD ถ้ามันติด ความเร็วไม่จำกัดนะครับ ระบบมันจะคลายเอง
ส่วน ABS เป็นระบบ เบรค นะครับ แต่ว่าถ้าจะเอาผลมาคำนวนด้วยก็น่าจะเป็นได้ แต่ว่าไม่น่าจะ มีผลอะไรกับ
TRC ยังไง ถ้าไม่เข้าใจในคำอธิบาย ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ให้ศึกษาที่ละระบบ แล้วจะเข้าใจเองว่า ทุกระบบ ไม่น่าจะทำงานย้อนแย้งกัน
-
ประเด็นนี้น่าสนใจนะครับ อยากรู้ด้วยคน ::)
ถ้าเดาเล่นๆเมื่อก่อนพวก IC ต่างๆ เมโมรี่ในตัวจะน้อยมาก
ทำให้ไม่สามารถใส่ค่าโปรแกรมได้ใหญ่ ทำให้ถ้าจะไฟฟ้าก็ไฟฟ้าไปเลย
พอเอา mechanic ที่ทำงานอิสระมาติดตั้ง
มันจะต้อง close loop กลับมาตรวจสถานะมากขึ้น
โปรแกรมที่จะต้องตั้งเตรียมไว้อาจจะเหมือนต้องใส่ค่าสำหรับรถหลายคันลงในวงจรเดียว
พอ IC ยุคนี้มันพัฒนาหน่วยความจำหรืออาจมีเทคนิคใหม่เพิ่มขึ้นจึงสามารถรวมกันได้
สรุป มั่วออกทะเลครับ :-[
-
ระบบ TRC ลองนึกดูนะครับว่า ระบบมันแต่ตัดรอบกำลังออกเท่านั้น การตัดกำลังออกก็คือรอบเครื่องไม่วิ่ง
ประมาณว่า เวลารถ กวาดรอบเร็วๆ ทำให้รถเสียการทรงตัว แค่ตัดรอบเครื่องออกไม่ให้รอบเครื่องสุงขึ้นไป
ก็ไม่มีกำลังไปเพิ่มลงล้อได้ นั้นคือระบบ TRC นะครับ มันคนละระบบ กับ LSD นะครับ
ส่วนระบบ LSD มันเป็นระบบ ถ่ายกำลัง ล้อไปที่ล้อซ้ายและขวาเท่าๆกัน แต่ไม่ใช้ทำงานตลอดเวลานะครับ
จะมีประโยชน์มากๆช่วงเวลาฝนตก การทรงตัวจะแตกต่างกับที่ไม่มี
ระบบ LSD ถ้าขับเป็น เข้าใจในระบบ มันจะช่วยการขับได้เยอะมากๆ ครับ
ส่วน ระบบ diff lock มันทำงานในความเร็วต่ำนะครับ ไม่น่าจะเกิน 0-30 กิโลเมตรต่อ/ชมก็น่าจะคลายแล้ว
ส่วน LSD ถ้ามันติด ความเร็วไม่จำกัดนะครับ ระบบมันจะคลายเอง
ส่วน ABS เป็นระบบ เบรค นะครับ แต่ว่าถ้าจะเอาผลมาคำนวนด้วยก็น่าจะเป็นได้ แต่ว่าไม่น่าจะ มีผลอะไรกับ
TRC ยังไง ถ้าไม่เข้าใจในคำอธิบาย ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ให้ศึกษาที่ละระบบ แล้วจะเข้าใจเองว่า ทุกระบบ ไม่น่าจะทำงานย้อนแย้งกัน
ไม่ใช่ครับ TRC ควบคุมทั้งการส่งกำลังโดยรวมครับ ไม่ใช่มีแค่หน้าที่ตัดกำลัง
1.การตัดกำลังของ TRC มักจะอยู่บนสถานการที่เกิดอาการลื่น มันรู้ว่าลื่นได้อย่างไร
มันรู้ได้จากทิศทางโมเมนท์ตั้มทิศทางการเคลื่อนที่ในขณะนั้นที่วัดจาก YAW rate sensor
เทียบกับองศาการหมุนพวงมาลัย ถ้ารถวิ่งตรงๆ แล้วอยู่คนขับหมุนเลี้ยวแต่รถไม่เลี้ยวตาม
นั่นเท่ากับลื่น รอบจะถูกตัดทันทีในชั่วขณะจนกว่าหน้ายางล้อหน้าจะมี Traction
2.กรณีล้อหมุนฟรีอยู่กับที่ แยกเป็น
2.1 หมุนฟรีข้างเดียว ถ้ารถที่ไม่มี TRC จะเกิดการฟรี
ทิ้งกำลังทั้งหมดไปกับล้อที่หมุน แต่กับ TRC จะสั่งยิง ABS เข้าล้อที่ฟรีเป็นจังหวะๆๆถี่ๆ
ทำให้ย้ายกำลังไปยังเพลาขับของล้ออีกฝั่ง ซึ่งไม่ใช่การตัดกำลัง และจะว่า ABS ไม่เกี่ยวกับ
TRC คงไม่ใช่ เพราะนี่คือตัวหลักเลยในการสร้าง Traction ของระบบ TRC แล้วTRC มันรู้ได้ไง
ว่าล้อฟรี มันก็รู้เพราะ Speed sensor หรือ ABS Sensor ที่คอยวัดรอบการหมุนของแต่ละล้อ
นั่นแหละส่งไปให้ระบบส่วนกลาง ป๊ม abs ของรถพวกนี้จึงต้องเป็น 4ชาแนลเพื่อแยกกันส่งแรงเบรค
2.2 ล้อหมุนฟรีทั้ง2ข้างเช่นจอดในโคลน แบบนี้แค่เข้าเกียร์1แล้วล้อฟรีทิ้ง เยียบคันเร่ง
สุดมิดพื้น รถก็ไม่เร่งตามครับ กำลังถูกระบบ TRC ตัดออกทั้งหมด จะเหยียบให้ปั่นฟรี
เพื่อหนีหลุมต้องกดปิด TRC หรือถ้ารถขับ4 ก็ใส่4Lเลย
LSD มีถ่ายกำลังไป ซ้าย-ขวา เท่ากันด้วยเหรอครับ ไม่น่าใช่นะ ปกติเฟืองเต็ด
ถ่ายกำลังซ้าย-ขวา ไม่เท่ากันนะ เต็มที่คือหมุนใกล้เคียงกัน ถ้าเท่ากันมันก็กลายเป็นเฟือง
"ดิฟล็อค" สิครับ
-
ระบบ TRC ลองนึกดูนะครับว่า ระบบมันแต่ตัดรอบกำลังออกเท่านั้น การตัดกำลังออกก็คือรอบเครื่องไม่วิ่ง
ประมาณว่า เวลารถ กวาดรอบเร็วๆ ทำให้รถเสียการทรงตัว แค่ตัดรอบเครื่องออกไม่ให้รอบเครื่องสุงขึ้นไป
ก็ไม่มีกำลังไปเพิ่มลงล้อได้ นั้นคือระบบ TRC นะครับ มันคนละระบบ กับ LSD นะครับ
ส่วนระบบ LSD มันเป็นระบบ ถ่ายกำลัง ล้อไปที่ล้อซ้ายและขวาเท่าๆกัน แต่ไม่ใช้ทำงานตลอดเวลานะครับ
จะมีประโยชน์มากๆช่วงเวลาฝนตก การทรงตัวจะแตกต่างกับที่ไม่มี
ระบบ LSD ถ้าขับเป็น เข้าใจในระบบ มันจะช่วยการขับได้เยอะมากๆ ครับ
ส่วน ระบบ diff lock มันทำงานในความเร็วต่ำนะครับ ไม่น่าจะเกิน 0-30 กิโลเมตรต่อ/ชมก็น่าจะคลายแล้ว
ส่วน LSD ถ้ามันติด ความเร็วไม่จำกัดนะครับ ระบบมันจะคลายเอง
ส่วน ABS เป็นระบบ เบรค นะครับ แต่ว่าถ้าจะเอาผลมาคำนวนด้วยก็น่าจะเป็นได้ แต่ว่าไม่น่าจะ มีผลอะไรกับ
TRC ยังไง ถ้าไม่เข้าใจในคำอธิบาย ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ให้ศึกษาที่ละระบบ แล้วจะเข้าใจเองว่า ทุกระบบ ไม่น่าจะทำงานย้อนแย้งกัน
ไม่ใช่ครับ TRC ควบคุมทั้งการส่งกำลังโดยรวมครับ ไม่ใช่มีแค่หน้าที่ตัดกำลัง
1.การตัดกำลังของ TRC มักจะอยู่บนสถานการที่เกิดอาการลื่น มันรู้ว่าลื่นได้อย่างไร
มันรู้ได้จากทิศทางโมเมนท์ตั้มทิศทางการเคลื่อนที่ในขณะนั้นที่วัดจาก YAW rate sensor
เทียบกับองศาการหมุนพวงมาลัย ถ้ารถวิ่งตรงๆ แล้วอยู่คนขับหมุนเลี้ยวแต่รถไม่เลี้ยวตาม
นั่นเท่ากับลื่น รอบจะถูกตัดทันทีในชั่วขณะจนกว่าหน้ายางล้อหน้าจะมี Traction
2.กรณีล้อหมุนฟรีอยู่กับที่ แยกเป็น
2.1 หมุนฟรีข้างเดียว ถ้ารถที่ไม่มี TRC จะเกิดการฟรี
ทิ้งกำลังทั้งหมดไปกับล้อที่หมุน แต่กับ TRC จะสั่งยิง ABS เข้าล้อที่ฟรีเป็นจังหวะๆๆถี่ๆ
ทำให้ย้ายกำลังไปยังเพลาขับของล้ออีกฝั่ง ซึ่งไม่ใช่การตัดกำลัง และจะว่า ABS ไม่เกี่ยวกับ
TRC คงไม่ใช่ เพราะนี่คือตัวหลักเลยในการสร้าง Traction ของระบบ TRC แล้วTRC มันรู้ได้ไง
ว่าล้อฟรี มันก็รู้เพราะ Speed sensor หรือ ABS Sensor ที่คอยวัดรอบการหมุนของแต่ละล้อ
นั่นแหละส่งไปให้ระบบส่วนกลาง
2.2 ล้อหมุนฟรีทั้ง2ข้างเช่นจอดในโคลน แบบนี้แค่เข้าเกียร์1แล้วล้อฟรีทิ้ง เยียบคันเร่ง
สุดมิดพื้น รถก็ไม่เร่งตามครับ กำลังถูกระบบ TRC ตัดออกทั้งหมด จะเหยียบให้ปั่นฟรี
เพื่อหนีหลุมต้องกดปิด TRC หรือถ้ารถขับ4 ก็ใส่4Lเลย
LSD มีถ่ายกำลังไป ซ้าย-ขวา เท่ากันด้วยเหรอครับ ไม่น่าใช่นะ ปกติเฟืองเต็ด
ถ่ายกำลังซ้าย-ขวา ไม่เท่ากันนะ เต็มที่คือหมุนใกล้เคียงกัน ถ้าเท่ากันมันก็กลายเป็นเฟือง
"ดิฟล็อค" สิครับ
ชัดเจนมากๆ ครับ
-
FortunerBMC 4WD ก็เฟืองท้ายเต็ดไม่ใช่หรอครับ หรือผมจำผิด
-
รอติดตาม
-
FortunerBMC 4WD ก็เฟืองท้ายเต็ดไม่ใช่หรอครับ หรือผมจำผิด
ถ้าผมจำไม่ผิด ฟอร์จูนเนอร์ bmc ไม่มี lsd ครับ ไม่มีหลังจากเอา vsc trc มาใส่ให้ตั้งแต่โฉม mc นั่นแหละครับ ส่วน วีโก้ 4×4 พอใส่ vsc trc มาให้ก็ถอดlsdออกเหมือนกัน เพราะผมใช้อยู่ แต่พอเป็นตัว bmc โตต้าดันถอด vsc trc ออกจากวีโก้ แล้วใส่ lsdกลับไปครับ อันนี้เข้าใจว่าเป็นมุขการตลาดนี่น่าด่ามาก เหมือนต้องการแยกเกรดเพื่อดันฟอร์จูนเนอร์ให้สูงขึ้น เพราะในตัว mc ทั้งสองตัวนี้เรียกว่าอัปกรณ์ความปลอดภัยตัวเดียวกันเป๊ะๆ
จนตอนนี้ ฟอร์จูนเนอร์ปัจจุบันก็ไม่ใส่ lsd มาอีกแล้ว ส่วนฟอร์จูน
เนอร์4×4 จะไปใส่ A-trc ที่มีระบบควบคุมการสร้างแรงยึดเกาะ
สลับไปมาทั้ง4ล้อได้ดีกว่า trc ทั่วไปที่ใช้อยู่ ส่วนรีโว่ตัว 4×4
ก็ไม่มี lsd แล้วทุกตัวตั้งแต่ล่างยันท็อปใส่ difflockไฟฟ้ามาให้แทน
-
มาติดตามด้วยคนครับ
-
ระบบ TRC ลองนึกดูนะครับว่า ระบบมันแต่ตัดรอบกำลังออกเท่านั้น การตัดกำลังออกก็คือรอบเครื่องไม่วิ่ง
ประมาณว่า เวลารถ กวาดรอบเร็วๆ ทำให้รถเสียการทรงตัว แค่ตัดรอบเครื่องออกไม่ให้รอบเครื่องสุงขึ้นไป
ก็ไม่มีกำลังไปเพิ่มลงล้อได้ นั้นคือระบบ TRC นะครับ มันคนละระบบ กับ LSD นะครับ
ส่วนระบบ LSD มันเป็นระบบ ถ่ายกำลัง ล้อไปที่ล้อซ้ายและขวาเท่าๆกัน แต่ไม่ใช้ทำงานตลอดเวลานะครับ
จะมีประโยชน์มากๆช่วงเวลาฝนตก การทรงตัวจะแตกต่างกับที่ไม่มี
ระบบ LSD ถ้าขับเป็น เข้าใจในระบบ มันจะช่วยการขับได้เยอะมากๆ ครับ
ส่วน ระบบ diff lock มันทำงานในความเร็วต่ำนะครับ ไม่น่าจะเกิน 0-30 กิโลเมตรต่อ/ชมก็น่าจะคลายแล้ว
ส่วน LSD ถ้ามันติด ความเร็วไม่จำกัดนะครับ ระบบมันจะคลายเอง
ส่วน ABS เป็นระบบ เบรค นะครับ แต่ว่าถ้าจะเอาผลมาคำนวนด้วยก็น่าจะเป็นได้ แต่ว่าไม่น่าจะ มีผลอะไรกับ
TRC ยังไง ถ้าไม่เข้าใจในคำอธิบาย ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ให้ศึกษาที่ละระบบ แล้วจะเข้าใจเองว่า ทุกระบบ ไม่น่าจะทำงานย้อนแย้งกัน
ไม่ใช่ครับ TRC ควบคุมทั้งการส่งกำลังโดยรวมครับ ไม่ใช่มีแค่หน้าที่ตัดกำลัง
1.การตัดกำลังของ TRC มักจะอยู่บนสถานการที่เกิดอาการลื่น มันรู้ว่าลื่นได้อย่างไร
มันรู้ได้จากทิศทางโมเมนท์ตั้มทิศทางการเคลื่อนที่ในขณะนั้นที่วัดจาก YAW rate sensor
เทียบกับองศาการหมุนพวงมาลัย ถ้ารถวิ่งตรงๆ แล้วอยู่คนขับหมุนเลี้ยวแต่รถไม่เลี้ยวตาม
นั่นเท่ากับลื่น รอบจะถูกตัดทันทีในชั่วขณะจนกว่าหน้ายางล้อหน้าจะมี Traction
2.กรณีล้อหมุนฟรีอยู่กับที่ แยกเป็น
2.1 หมุนฟรีข้างเดียว ถ้ารถที่ไม่มี TRC จะเกิดการฟรี
ทิ้งกำลังทั้งหมดไปกับล้อที่หมุน แต่กับ TRC จะสั่งยิง ABS เข้าล้อที่ฟรีเป็นจังหวะๆๆถี่ๆ
ทำให้ย้ายกำลังไปยังเพลาขับของล้ออีกฝั่ง ซึ่งไม่ใช่การตัดกำลัง และจะว่า ABS ไม่เกี่ยวกับ
TRC คงไม่ใช่ เพราะนี่คือตัวหลักเลยในการสร้าง Traction ของระบบ TRC แล้วTRC มันรู้ได้ไง
ว่าล้อฟรี มันก็รู้เพราะ Speed sensor หรือ ABS Sensor ที่คอยวัดรอบการหมุนของแต่ละล้อ
นั่นแหละส่งไปให้ระบบส่วนกลาง ป๊ม abs ของรถพวกนี้จึงต้องเป็น 4ชาแนลเพื่อแยกกันส่งแรงเบรค
2.2 ล้อหมุนฟรีทั้ง2ข้างเช่นจอดในโคลน แบบนี้แค่เข้าเกียร์1แล้วล้อฟรีทิ้ง เยียบคันเร่ง
สุดมิดพื้น รถก็ไม่เร่งตามครับ กำลังถูกระบบ TRC ตัดออกทั้งหมด จะเหยียบให้ปั่นฟรี
เพื่อหนีหลุมต้องกดปิด TRC หรือถ้ารถขับ4 ก็ใส่4Lเลย
LSD มีถ่ายกำลังไป ซ้าย-ขวา เท่ากันด้วยเหรอครับ ไม่น่าใช่นะ ปกติเฟืองเต็ด
ถ่ายกำลังซ้าย-ขวา ไม่เท่ากันนะ เต็มที่คือหมุนใกล้เคียงกัน ถ้าเท่ากันมันก็กลายเป็นเฟือง
"ดิฟล็อค" สิครับ
ก่อนอื่น ขอบคุณที่ อธิบาย ระบบ TRC ในเวอร์ชั่นใหม่ๆ ให้ฟัง ว่าเอาข้อมูล เซ็นเซอร์ ABS เข้ามาประมวณผลด้วย
ผมอาจจะไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม ในเวอร์ช้่นใหม่ แต่ก็ยังพอเข้าใจได้
คุณถามผมว่า ( TRC มักจะอยู่บนสถานการที่เกิดอาการลื่น มันรู้ว่าลื่นได้อย่างไร? )
ผมจะตอบให้ว่า มันไม่รู้หรอกครับ แต่มันรู้ว่า ล้อหมูนฟรีเพราะรอบเครื่องยนต์ที่กวาดขึ่นไปแล้ว speedเซ็นเชอร์ ความเร็วไม่ขึ้น มันเลยตัดออก แต่ระบบเวอร์ชั้นใหม่ เอา ค่าABS มาคำนวนด้วยก็ไม่แปลก ทำให้รถเสถียนขึ้น ซึ่งเป็น TRC เวอร์ชั้นใหม่ เข้าใจได้ไม่ยาก
ถามผมต่อว่า LSD มีถ่ายกำลังไป ซ้าย-ขวา เท่ากันด้วยเหรอครับ ไม่น่าใช่นะ ปกติเฟืองเต็ด
ถ่ายกำลังซ้าย-ขวา ไม่เท่ากันนะ เต็มที่คือหมุนใกล้เคียงกัน ถ้าเท่ากันมันก็กลายเป็นเฟือง
"ดิฟล็อค" สิครับ?
ผมก็ตอบไปแล้วว่า (ส่วน LSD ถ้ามันติด ความเร็วไม่จำกัดนะครับ ระบบมันจะคลายเอง)
ผมมายถึงว่า มันจะติดกันเพราะระบบมันเป็นผ้าคลัต มันจะติดกัน ในความเร็วไม่จำกัด แต่มันก็จะคลายเอง ตามระบบของมันเพื่อป้องกัน อันตรายจาก ที่ล้อซ้าย และ ขวา วิ่งเทากัน ซึ่งทางคุณไม่เข้าใจ ไปศึกษาได้จาก Youtube พิมพ์ ระบบ LSD ตัวเต็มลงไปก็จะมี VDO อธิบาย เป็นภาษาENGlish หรือ ภาษา ญี่ปุ่นก็มี
ถามผมว่า มีถ่ายกำลังไป ซ้าย-ขวา เท่ากันด้วยเหรอครับ ไม่น่าใช่นะ
คุณลอง เอารถคุณที่ มี LSD ยกขึ้นหิ้ง แล้วเอามือหมุนดู ให้ LSD มันทำงาน
แล้วคุณก็เอา ช็อกขีดเส้น ที่ยางคุณ แล้วคุณก็เอามือหมุนดูว่า มันวิ่งเท่ากันไหม วงรอบนะ แล้วคุณก็จุรู้เองว่าเวลามันติดใหม่ มันจะวิ่ง้ท่ากันไหม หรือใก้ลเคียงกัน แค่ไหน
ผมคิดว่าคุณเป็นคนมีความรู้ความสามารถนะครับ เรื่องที่ผมตอบ ต้อง คิดต่อนะครับว่า ทำไม ถึงเป็นนั้นแบบ นี้
การ set มันมีหลายแบบนะครับ ว่าคุณจะทำรถ ออกมาแบบไหน เหมาะสมกับ ตลาดประเทศนั้นๆหรือข้อกฎหมายประเทศนั้น หรือไม่ มันมีรายละเอียดเยอะมาก เพราะ มีแนวความคิดที่ต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงมีเพียง 1 เดี่ยวเท่านั้น
"ดิฟล็อค" ทำงานในความเร็วตำ่ ส่วนมากใช้กับพวกรถ กะบะ 4X4 หรือรถสนามทางฝุ่น ซะมากกว่า แต่ทางเรียบก็มีบ้างแต่หลังๆไม่ค่อยเห็น
ดิฟล๊อกมันเป็นระบบเฟื้องเชื่อมกันนะครับ ระบบการทำงานคนละอย่างกับ LSD แต่ ผลออกมาคล้ายๆกับ
เท่าที่อ่านๆ ดู คุณน่าจะ สนใจ พวก รถ SUV 4X4 มากกว่า และมีเหตุผลที่ว่า ทำไม 4x4 ถึงไม่ค่อยใช้ LSD เพราะว่า มันถ่ายแรงบิดไม่ได้มากเท่า"ดิฟล็อค ไงครับ
ยังไง ผมก็คิดว่าผมคงพูดมั่วละครับ ไม่ต้องเชื่อผมนะครับ ทุกคนมีความรู้ ความจริงมีเพืยง 1 เดี่ยว
-
แลกความรู้กันเป็นเรื่องดีครับ ชอบครับ
-
ผมก็ไม่แน่ใจว่า commuter ใช้ LSD แบบไหนนะครับ
แต่ก่อนหน้ามี case ของ Toyota 86GT ตัว MC ที่ใช้ LSD ร่วมกับ TRC กับ VSC ได้
(ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าคงได้เทคโนโลยีนี้มาจากการพัฒนาระบบขับเคลื่อนร่วมกับ Subaru)
https://practicalmotoring.com.au/car-advice/electronics-toyota-86-subaru-brz-work/ (https://practicalmotoring.com.au/car-advice/electronics-toyota-86-subaru-brz-work/)
ลองดูตรงหัวข้อ B-LSD
หลักการทำงานคือมันใส่เฟืองท้ายแบบ Torsen ลงไป แล้วสร้าง Device ในการควบคุมเบรคไว้
เวลาที่ล้อข้างหนึ่งหมุนฟรีแต่อีกข้างไม่มีแรงบิด ก็ใช้เบรคสั่งจับล้อที่หมุนฟรีโดยเลียนแบบให้เหมือนพฤติกรรมของ LSD
(คือมันมี torsen LSD อยู่ที่เฟืองท้ายแล้ว แต่ใช้ software มาสั่งเบรคจับคู่กันไปด้วย)
-
" All NEW Toyota Commuter เอา LSD มาอยู่กับ VSC TRC ได้อย่างไร ? "
ทำไม จะไม่ได้ ..
ก็ถ้าระบบ มันมีตัวอ่าน ความเร็วการหมุนของล้อทุกล้อ ระบบมันจะจับได้ว่า มันต่างกันมากเกินไปหรือเปล่า ?
ซึ่งถ้าตอนไหน มันต่างกันมากไป มันก็สั่งระบบเบรคของล้อนั้นๆ จับ >> ล้อก็เลิกหมุนฟรี
ทีนี้ เฟืองท้ายทั่วไป ถ้าตอนนั้นล้อข้างใดหมุนฟรี ปกติอีกข้างจะไม่หมุน
แต่พอระบบเบรคล้อข้างที่หมุนฟรี มันสั่งจับให้หยุด เฟืองท้ายมันก็จะส่งแรงหมุนไปอีกล้อนึงแทน
>> ล้อขับเคลื่อนรถก็เลิกหมุนฟรี และทำให้รถขยับเดินหน้า / ถอยหลัง ได้ตามที่ต้องการ
-
ตามๆๆๆ
-
" All NEW Toyota Commuter เอา LSD มาอยู่กับ VSC TRC ได้อย่างไร ? "
ทำไม จะไม่ได้ ..
ก็ถ้าระบบ มันมีตัวอ่าน ความเร็วการหมุนของล้อทุกล้อ ระบบมันจะจับได้ว่า มันต่างกันมากเกินไปหรือเปล่า ?
ซึ่งถ้าตอนไหน มันต่างกันมากไป มันก็สั่งระบบเบรคของล้อนั้นๆ จับ >> ล้อก็เลิกหมุนฟรี
ทีนี้ เฟืองท้ายทั่วไป ถ้าตอนนั้นล้อข้างใดหมุนฟรี ปกติอีกข้างจะไม่หมุน
แต่พอระบบเบรคล้อข้างที่หมุนฟรี มันสั่งจับให้หยุด เฟืองท้ายมันก็จะส่งแรงหมุนไปอีกล้อนึงแทน
>> ล้อขับเคลื่อนรถก็เลิกหมุนฟรี และทำให้รถขยับเดินหน้า / ถอยหลัง ได้ตามที่ต้องการ
ทำความเข้าใจระหว่า LSD กับ VSC TRC ก่อนครับ ใจเย็นๆ
-
จาก URL ด้านล่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=ahnrVDjsF2s (https://www.youtube.com/watch?v=ahnrVDjsF2s)
นาที่ 1.05 - 1.30
ผมขอเรียกมันว่า เต็ดสังเคราะห์ เพราะว่าเป็นการนำระบบ Brake มา reverse engineer คือ
เอาของเดิมๆที่มีอยู่มาสร้างคุณค่าให้ได้มากที่สุด
ผลลัพธ์คือ
-ประสิทธิภาพได้ตามที่ออกแบบ
-ลดต้นทุนการใส่ LSD / ใช้แค่การ Programming ระบบแทน....ประหยัดไปอีกโข
ดังนั้นผมคิดว่าโตโยต้าน่าจะใช้หลักการดังกล่าวครับ
ปล.
1. อีกค่ายที่ใช้ ใช้มานานแล้ว แล้วก็ไม่ยอมบอกว่ามีคือ
NISSAN NP300 NAVARA และ TERRA นั่นเองครับผม
2. Fortuner โฉมที่แล้วเป็น Torsen LSD ที่เพลากลางครับ split ไปหน้า ไปหลัง ไปๆมาๆ
ตามสภาพถนน
URL การทำงานของระบบดังกล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=JEiSTzK-A2A (https://www.youtube.com/watch?v=JEiSTzK-A2A)
โดย JTEKT (ลูกหลานโตโยต้า) เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าครับ
3.ชอบบรรยากาศการเอาข้อมูลด้านเทคนิคมาแชร์กันครับ สนับสนุนๆ
-
FortunerBMC 4WD ก็เฟืองท้ายเต็ดไม่ใช่หรอครับ หรือผมจำผิด
เฟืองท้ายธรรมดาครับ ใช้น้ำมันเฟืองท้าย GL-5 เบอร์ 90
-
จาก URL ด้านล่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=ahnrVDjsF2s (https://www.youtube.com/watch?v=ahnrVDjsF2s)
นาที่ 1.05 - 1.30
ผมขอเรียกมันว่า เต็ดสังเคราะห์ เพราะว่าเป็นการนำระบบ Brake มา reverse engineer คือ
เอาของเดิมๆที่มีอยู่มาสร้างคุณค่าให้ได้มากที่สุด
ผลลัพธ์คือ
-ประสิทธิภาพได้ตามที่ออกแบบ
-ลดต้นทุนการใส่ LSD / ใช้แค่การ Programming ระบบแทน....ประหยัดไปอีกโข
ดังนั้นผมคิดว่าโตโยต้าน่าจะใช้หลักการดังกล่าวครับ
ปล.
1. อีกค่ายที่ใช้ ใช้มานานแล้ว แล้วก็ไม่ยอมบอกว่ามีคือ
NISSAN NP300 NAVARA และ TERRA นั่นเองครับผม
2. Fortuner โฉมที่แล้วเป็น Torsen LSD ที่เพลากลางครับ split ไปหน้า ไปหลัง ไปๆมาๆ
ตามสภาพถนน
URL การทำงานของระบบดังกล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=JEiSTzK-A2A (https://www.youtube.com/watch?v=JEiSTzK-A2A)
โดย JTEKT (ลูกหลานโตโยต้า) เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าครับ
3.ชอบบรรยากาศการเอาข้อมูลด้านเทคนิคมาแชร์กันครับ สนับสนุนๆ
ผมคิดไปในทิศทางเดียวกับท่านนะ ผมตงิดในสเป็คเค้าเขียนว่า "ระบบควบคุมเฟืองท้าย(LSD)"
ซึ่งถ้าเมื่อก่อนหากเป็นรถขับ4 รุ่นเก่ามันจะเขียนว่า "พร้อมลิมิเต็ดสลิป" ผมก็คิดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า
หรือมันใส่มาแค่โปรแกรมจำลองการทำงาน LSD หรือเปล่า?? เพราะใช้คำว่าระบบควบคุมเฟืองท้าย
ถ้าอย่างนั้น โตต้าคงจะแยกการใส่ออฟชั่นแต่ละรุ่นโดยให้สัมพันธ์กับลักษณะการใช้งานของรถรุ่นนั้นไปเลย
เพราะจริงๆ จำพวกลุย Revo Foutuner Prado กลุ่มนี้ได้ A-TRC ที่โยกกำลังส่งหน้า-ส่งหลัง ส่งซ้าย-ส่งขวา
ได้หมด รวดเร็วและไม่สูญเสียกำลัง ส่วนของรถที่ไม่เน้นลุย แต่เน้นควบคุม การออกตัวและพวกพหุบทบาท
แต่ยังไม่เน้นลุยหนักอย่างรถตู้ ได้ระบบใหม่เป็นระบบควบคุมเฟืองท้ายLSD (ทำงานคล้าย B-LSD ของนิสสัน)
{( LSD จำลอง)*** ส่วนนี้คงมโนไปก่อนเพราะยังไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงว่าใช่หรือไม่ใช่อย่างไร}
เพื่อเสริมการทำงานในช่องว่างที่ TRC แบบธรรมดาให้ไม่ได้แค่เฉพาะล้อคู่หลัง ซึ่งถ้ามันทำงานได้ดี ก็ถือว่า
ผู้บริโภคนั้นได้ของดีไปใช้ด้วย จะว่าไป นี่เป็นรถตู้ที่อยากซื้อไว้ใช้งานเป็นรถพ่อบ้านซะจริงๆ
สรุป All NEW Toyota Commuter
ระบบควบคุมเฟืองท้ายLSD ตอนนี้ได้แต่คิดว่า จำลองการทำงานคล้ายเฟือง LSD แต่น่าจะจับ
แค่เฉพาะล้อส่งกำลังคู่หลัง
อธิบายการทำงานของระบบ "A-TRC" http://phithan-toyota.com/th/article/detail/98/1
ทำงานคล้ายLSDกลไก ที่ TRC ปกติให้ไม่ได้ โดย A-TRC ส่งกำลังชดเชยไปได้เร็วและไปทุกล้อ
สำหรับรถยนต์4x4
ขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรุ้ครับ
-
ถ้าผมจำไม่ผิด ฟอร์จูนเนอร์ bmc ไม่มี lsd ครับ ไม่มีหลังจากเอา vsc trc มาใส่ให้ตั้งแต่โฉม mc นั่นแหละครับ ส่วน วีโก้ 4×4 พอใส่ vsc trc มาให้ก็ถอดlsdออกเหมือนกัน เพราะผมใช้อยู่ แต่พอเป็นตัว bmc โตต้าดันถอด vsc trc ออกจากวีโก้ แล้วใส่ lsdกลับไปครับ อันนี้เข้าใจว่าเป็นมุขการตลาดนี่น่าด่ามาก เหมือนต้องการแยกเกรดเพื่อดันฟอร์จูนเนอร์ให้สูงขึ้น เพราะในตัว mc ทั้งสองตัวนี้เรียกว่าอัปกรณ์ความปลอดภัยตัวเดียวกันเป๊ะๆ
จนตอนนี้ ฟอร์จูนเนอร์ปัจจุบันก็ไม่ใส่ lsd มาอีกแล้ว ส่วนฟอร์จูน
เนอร์4×4 จะไปใส่ A-trc ที่มีระบบควบคุมการสร้างแรงยึดเกาะ
สลับไปมาทั้ง4ล้อได้ดีกว่า trc ทั่วไปที่ใช้อยู่ ส่วนรีโว่ตัว 4×4
ก็ไม่มี lsd แล้วทุกตัวตั้งแต่ล่างยันท็อปใส่ difflockไฟฟ้ามาให้แทน
เฟืองท้ายธรรมดาครับ ใช้น้ำมันเฟืองท้าย GL-5 เบอร์ 90
ขอบคุณครับ แต่ผมเคยเห็นในหน้าเว็บบอกเป็นLSD น่าจะผิดละมั้ง เพราะผมก็ดูไม่เป็น
สมัยเข้า0 เค้าก็ใส่ LimitedSlip differential gear oil 85w-90ให้
-
ถ้าผมจำไม่ผิด ฟอร์จูนเนอร์ bmc ไม่มี lsd ครับ ไม่มีหลังจากเอา vsc trc มาใส่ให้ตั้งแต่โฉม mc นั่นแหละครับ ส่วน วีโก้ 4×4 พอใส่ vsc trc มาให้ก็ถอดlsdออกเหมือนกัน เพราะผมใช้อยู่ แต่พอเป็นตัว bmc โตต้าดันถอด vsc trc ออกจากวีโก้ แล้วใส่ lsdกลับไปครับ อันนี้เข้าใจว่าเป็นมุขการตลาดนี่น่าด่ามาก เหมือนต้องการแยกเกรดเพื่อดันฟอร์จูนเนอร์ให้สูงขึ้น เพราะในตัว mc ทั้งสองตัวนี้เรียกว่าอัปกรณ์ความปลอดภัยตัวเดียวกันเป๊ะๆ
จนตอนนี้ ฟอร์จูนเนอร์ปัจจุบันก็ไม่ใส่ lsd มาอีกแล้ว ส่วนฟอร์จูน
เนอร์4×4 จะไปใส่ A-trc ที่มีระบบควบคุมการสร้างแรงยึดเกาะ
สลับไปมาทั้ง4ล้อได้ดีกว่า trc ทั่วไปที่ใช้อยู่ ส่วนรีโว่ตัว 4×4
ก็ไม่มี lsd แล้วทุกตัวตั้งแต่ล่างยันท็อปใส่ difflockไฟฟ้ามาให้แทน
เฟืองท้ายธรรมดาครับ ใช้น้ำมันเฟืองท้าย GL-5 เบอร์ 90
ขอบคุณครับ แต่ผมเคยเห็นในหน้าเว็บบอกเป็นLSD น่าจะผิดละมั้ง เพราะผมก็ดูไม่เป็น
สมัยเข้า0 เค้าก็ใส่ LimitedSlip differential gear oil 85w-90ให้
ยืนยันครับ ว่า Fortuner ตัว BMC ไม่มี LSD อีกแล้ว เคยเอาเข้าไปทุ่งแสลงหลวงช่วงฝนอ่อนๆ ต้องถอดใจ ผิดกับเจ้า D4D sport cruiser รุ่นก่อนหน้านั้นที่มี LSD แบบ mechanic มาให้
อันที่จริง LSD แบบ mechanic ก็ไม่ใช่อะไรที่น่าอภิรมย์มากมายนัก คือ ถ้าไม่คุ้นเคยกับมันนี่ มันจะสร้างความอกสั่นขวัญหายเอาได้ง่ายๆเหมือนกัน แต่มันก็มีข้อดีทั้งในแง่การใช้งาน และเมื่อมันเกิดอาการอกสั่นขวัญแขวน เช่น ถนนลื่น แล้วเผลอกดคันเร่ง ท้ายมันก็บานออก แต่แค่ถอนคันเร่ง แล้วขืนพวงมาลัยต้าน มันก็จะกลับมาคุมทิศทางใหม่ได้ง่ายขึ้นครับ ผิดกับพวกกระบะทั่วไปที่ไม่มี LSD พวกนี้ท้ายบานยากกว่า แต่พอบานแล้ว เอากลับมาให้ตรงทางได้ยากกว่าเช่นกัน
ระบบ electronics มันก็ดีอย่างเสียอย่าง เพราะมันไม่ได้ตอบโจทย์ให้เราได้ทุกอย่าง