Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ กันยายน 03, 2019, 09:02:00
-
:) :) จากการที่ toyota ท่านได้แจ้งข่าวการ rebuilt แบตเตอรี่ hybrid
แล้วเป็นทางเลือกให้กับ รถ hybrid ที่หมดประกันหลัง 10 ปี
โดยราคาเหลือ 1/3 ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท
:) และ ทาง denso ก็มี rebuilt คอมแอร์ ทำให้ราคา
จาก 3หมื่นกว่า เหลือ 1.3 หมื่น
:) ปั้มเบรค ABS ที่มีราคาแพง ก็เหมือนจะสามารถเปลี่ยน
เฉพาะตัวปั้มอย่างเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนยกชุด ทำให้ราคาถูกลง ?
:) แล้ว ตัว generator ทาง parasonic บอกว่าเสียน้อยมาก
เคลมแค่ 0.1% และ ทาง toyota ก็จะมีแผนทำ rebuilt ด้วย
:) ส่วน Inverter ที่มีราคาแพง ก็บอกว่าเสียยาก เคลมน้อยมาก
และ ผมได้ทราบว่ามีการรับประกัน inverter ที่ upgrade software
แล้วถึง 15 ปี แต่ผมก็ยังไม่ทราบเงื่อนไข หรือเท็จจริงอย่างใดครับ.?
💖 แต่ดูแล้วก็เป็นทิศทางที่ดีกับคนใช้รถ hybrid ของ toyota นะครับ
ผมเองก็ใช้ด้วย จะคอยตามข่าวว่าเป็นตามนั้นแค่ไหน
:) :) ไม่รู้ว่าข่าวนี้ จะทำให้ผู้ที่สนใจ Altis hybrid ใหม่ตัดสินใจใช้ง่าย
ขึ้นหรือเปล่าครับ เพราะ options ดีๆไปกองอยู่เยอะเลย
ระบบ toyota safty ก็ทันสมัยกว่า camry ใหม่เสียอีก
-
มองในแง่การ Service ระยะยาว ถ้าต้อง rebuilt ทุกๆ 5 ปีแล้วค่าใช้จ่ายไม่เกินที่ว่ามา ส่วนตัวผมโอเคนะ
แต่มันคงมีผลกับช่วงราคาของรถมือสองอยู่บ้าง เช่น รถ hybrid ที่ยังอยู่ในช่วงใกล้ Rebuilt ก็อาจจะราคาตกเยอะหน่อย แต่พอผ่าน rebuilt แล้วราคาก็จะทรงตัวขึ้น
-
มันก็น่าสนนะครับ ถือว่าเป็นก้าวที่ดีของไฮบริด 8)
-
เป็น hybrid ที่ทำให้เห็นแล้วว่าปัญหาน้อยที่สุดแล้ว แถมลดราคาแบต อะไหล่ที่เคยแพง ส่งผลให้คนใช้อยู่แล้วอยากใช้ต่อหรืออยากเปลี่ยนรุ่นใหม่ มือสองก็ราคาดีขึ้น
-
ดีนะครับ ต่อให้ไม่มีแนวทางการ rebuilt แบบนี้ออกมา ผมก็มั่นใจ hybrid ของ Toyota,Lexus ที่สุดครับ
-
ราคาแบต ไม่ได้แพงเลยครับ และไม่ได้เป็นปัญหากับผมเลย แบตหมดอายุก็เลี้ยวเข้าศูนย์แจ้งเปลี่ยน รอ 3 สัปดาห์ก็ได้ลูกใหม่จากญี่ปุ่นฟรี
ในฐานะคนใช้ camry hybrid อยู่ toyota ควรให้ความชัดเจนกับการรับประกัน inverter กับ ปั๊ม abs ซึ่งช่างบางคนแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเบรคทุก 20,000 km เพื่อยืดอายุ ของผมเคยเสีย โดนไป 45,000 ส่วน inverterของผมเปลี่ยนฟรี แต่สมาชิกบางท่านบอกไม่ฟรีซึ่งยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้
-
ถ้ามองเฉพาะเรื่อง Hybrid ของ Toyota ในประเทศไทย ณ วันนี้ ยังไงผมก็มองว่า เป็นเบอร์ต้นๆ อยู่แล้วครับ (ไม่แน่ใจว่าเบอร์ 1 หรือป่าวนะ)
ส่วนเรื่องการดูแล และ การ maintain จะง่ายขึ้น(กว่าเดิม) รวมถึงค่าใช้จ่ายถูกลง ยังไงมันก็เป็นข้อดีครับ แต่จะมีผลกับคนซื้อไหม ผมว่ามีแต่ก็ไม่มาก เพราะคนจะซื้อ Toyota Hybrid ทุกวันนี้ เขาก็คงซื้ออยู่ดี
ทีนี้เรื่อง Altis Hybrid ตัวท๊อปกับรองท๊อป ผมมองว่า ด้วยคู่แข่ง อย่าง Civic 1.5 ทั้ง FC และ FK ที่ยืนอยู่ ณ ปัจจุบัน ต่อให้ Altis เบนซิน หรือ Hybrid ผมว่ามันก็แทบจะไม่มีผลเลย ถ้าคนยังมอง Civic เป็นตัวเลือกแรกอยู่ ต่อให้ Altis Hybrid จะซ่อมง่ายและซ่อมถูกลงก็ตาม
แต่ที่ Altis จะกลับมาเป็นที่ 1 ได้ ผมมองว่า ไม่ใช่เรื่อง Hybrid ครับ แต่เป็นด้วยตัวของ Altis เองเลย หลักๆ เลย คือ ภายนอก ภายใน และออฟชั่น ส่วนไฟแสงสี มโหรี และความแพวพราว รวมถึง เครื่องยนต์ มันเป็นตัวเสริมความน่าสนใจ
-
ตอนนี้มีเทคโนโลยีฟื้นฟูแบดเก่าอยู่นะ ราคาไม่กี่พันบาทครับ
-
ปัญหาคือ ราคาที่แพงไม่ใช่แค่แบตไฮบริจอย่างเดียวนี่สิ
-
ปัญหาคือ ราคาที่แพงไม่ใช่แค่แบตไฮบริจอย่างเดียวนี่สิ
ในกระทู้มีบอกนะครับว่ารวมถึงอุปกรณ์อื่นๆด้วย เช่นคอมแอร์ rebuit ก็เหลือ 13,000 เป็นต้น ลองกลับไปย้อนอ่านดูอีกทีครับ
-
อีกข้อหนึ่ง ออกโปรมาฆ่าอู่นอกที่ซ่อมระบบไฮบริดรึเปล่าครับ อู่ดังๆ เริ่มเยอะ เซอร์วิสดี ราคาไม่แพงอีกต่างหาก ศูนย์น่าจะเสียรายได้จากจุดนี้ไปเยอะอยู่
-
คนที่ชอบเทคโนโลยีก็คงเอนเอียงไปทางตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
ส่วนคนที่เน้นค่าใช้จ่ายต่ำๆ คงสนใจ LPG เหมือนเดิมอยู่ดี
ค่าซ่อมรถหลักหมื่น คนบางกลุ่มไม่มีปัญหาอะไรขอให้ใช้คุ้มก็พอ
แต่กับคนอีกกลุ่ม ต่อให้ใช้งานถึกทนมายาวนานแล้ว
แต่พอถึงคราวซ่อมบำรุงเป็นเงินหลักหมื่นนี่ก็คิดหนักนะครับ
ปูลู เห็นเครียดกันเรื่องราคา inverter, generator, คอมแอร์ ฯลฯ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในฝั่งไฟฟ้า ไม่ใช่ฝั่งเครื่องยนต์ แล้วแบบนี้
จะยอมรับ ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เหล่านี้ใน EV กันได้เหรอครับ
ฝากให้ทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนด้วยครับ
เมื่อถึงวันที่ได้ใช้ EV ก้นก็จะได้ไม่ต้องปรับตัวกันมาก
-
ดีครับ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องจิตวิทยา ทำให้คนกล้าใช้ ราคามือสองก็ไม่ตก คนซื้อป้ายแดง ก็ไม่ต้องคิดนาน ครับ
-
ดี เหมาะกับประเทศกรุงเทพ
-
รออประกาศแบบนี้มานนานละครับ คนที่ใช้ๆ กันอยุ่จะได้เบาใจกันหน่อย ;) ว่าจะขายๆ ไป เก็บไว้ก่อนละกัน :-\
-
คันต่อไปก็ขอไฮบริดอีกครับ ถึงจะไม่มี ระบบ rebuilt ก็ตาม (hybrid ของ toyota เท่านั้นนะครับ อันอื่นไม่เอากลัว)
-
ไฮบริดโตโยต้าสั่งสมชื่อเสียงมายาวนาน + ความประหยัดน้ำมัน + ราคาแบตที่มีแนวโน้มถูกลง
ที่แน่ๆ ตอนนี้ทำให้แผนซื้อรถคันใหม่ของที่บ้านเปลี่ยนจากเบนซินติดแก๊ส มาเป็น ไฮบริดซะแล้วสิ
คชจ ต่อ กม. มากกว่าหน่อย แต่ เงียบกว่า ไม่ต้องซ่อมจุกจิก เรื่องแบตค่อยไปคิดกันวันหน้า
-
ดีครับ มีทางเลือกให้ประหยัดมากขึ้น ลูกค้าก็ตัดสินใจง่ายขึ้น
-
มีผลต่อการตัดสินใจแน่นอนครับ
-
ถ้าบริการนี้ไม่มีปัญหาอะไร ราคาเหมาะสม
คันต่อไป Toyota Hybrid แน่นอนครับ
แต่ตอนนี้ขับ Altis 1.8 + LPG มาสองแสนกว่าโลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย บำรุงรักษาตามระยะ
หรือใช้ LPG ต่อไปดีกว่า ไม่มีข้อเสียอะไร ::) ::) ::)
-
มีผลมากครับ ส่วนตัวชอบ Hybrid ของ Toyota เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การมีอันนี้มันทำให้ น่าใช้ (ยาวๆ) มากขึ้นครับ
แต่อยากให้ค่อยๆ ปรับลงมาเล่นตลาด Hybrid 6-8 แสนครับ ตอนนี้ไม่มีใครทำเลย ถ้ามี จะซื้อสักคันครับ
-
ทางบวกเลย โดยเฉพาะ hybrid มือสอง
-
สุดยอดครับ สมกับเป็น Toyota
-
คนที่ชอบเทคโนโลยีก็คงเอนเอียงไปทางตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
ส่วนคนที่เน้นค่าใช้จ่ายต่ำๆ คงสนใจ LPG เหมือนเดิมอยู่ดี
ค่าซ่อมรถหลักหมื่น คนบางกลุ่มไม่มีปัญหาอะไรขอให้ใช้คุ้มก็พอ
แต่กับคนอีกกลุ่ม ต่อให้ใช้งานถึกทนมายาวนานแล้ว
แต่พอถึงคราวซ่อมบำรุงเป็นเงินหลักหมื่นนี่ก็คิดหนักนะครับ
ปูลู เห็นเครียดกันเรื่องราคา inverter, generator, คอมแอร์ ฯลฯ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในฝั่งไฟฟ้า ไม่ใช่ฝั่งเครื่องยนต์ แล้วแบบนี้
จะยอมรับ ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เหล่านี้ใน EV กันได้เหรอครับ
ฝากให้ทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนด้วยครับ
เมื่อถึงวันที่ได้ใช้ EV ก้นก็จะได้ไม่ต้องปรับตัวกันมาก
+1 มีแต่คนกลัว เรื่อง inverter แพง แต่อยากได้รถ EV 55 คงลืมไปว่าในรถ EV ก็มีเหมือนกันและคิดว่าน่าจะแพงกว่าของ ไฮบริดด้วย ปั้ม abs ก็มีเหมือนกัน คอมแอร์ก็ไฟฟ้าเหมือนกัน แถมแบตแพงโหดกว่าหลายเท่าตัว
-
ดีเลยนะ
-
น่าสนใจนะครับ แต่คุณภาพต้องได้ด้วย
-
คนที่ชอบเทคโนโลยีก็คงเอนเอียงไปทางตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
ส่วนคนที่เน้นค่าใช้จ่ายต่ำๆ คงสนใจ LPG เหมือนเดิมอยู่ดี
ค่าซ่อมรถหลักหมื่น คนบางกลุ่มไม่มีปัญหาอะไรขอให้ใช้คุ้มก็พอ
แต่กับคนอีกกลุ่ม ต่อให้ใช้งานถึกทนมายาวนานแล้ว
แต่พอถึงคราวซ่อมบำรุงเป็นเงินหลักหมื่นนี่ก็คิดหนักนะครับ
ปูลู เห็นเครียดกันเรื่องราคา inverter, generator, คอมแอร์ ฯลฯ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในฝั่งไฟฟ้า ไม่ใช่ฝั่งเครื่องยนต์ แล้วแบบนี้
จะยอมรับ ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เหล่านี้ใน EV กันได้เหรอครับ
ฝากให้ทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนด้วยครับ
เมื่อถึงวันที่ได้ใช้ EV ก้นก็จะได้ไม่ต้องปรับตัวกันมาก
+1 มีแต่คนกลัว เรื่อง inverter แพง แต่อยากได้รถ EV 55 คงลืมไปว่าในรถ EV ก็มีเหมือนกันและคิดว่าน่าจะแพงกว่าของ ไฮบริดด้วย ปั้ม abs ก็มีเหมือนกัน คอมแอร์ก็ไฟฟ้าเหมือนกัน แถมแบตแพงโหดกว่าหลายเท่าตัว
เรื่องนี้ทำให้เริ่มมองตัว hybrid ในแง่บวกขึ้นมา
จากเดิมที่รู้สึก 50-50 ใช้ก็ต้องเตรียมใจ ไม่ใช้ก็น่าเสียดาย
รถ ev ล้วนมันค่อนไปทางเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น
พอหมดอายุจะซ่อมหรือซื้อใหม่คงต้องคิดกันเยอะหน่อย
เพราะราคาแบตอาจไม่น่ารักในช่วง 10 ปีนี้
ไฮบริดโตเวอร์ชั่นใหม่ๆเริ่มทำตัวค่อนไปทาง e-power
ในช่วงความเร็วต่ำ ซึ่งประทับใจมากครับ
ถ้าหมด 10 ปี มีทางเลือกเติมแบตได้ถูกลงก็เป็นสิ่งที่ดีมาก
-------------
จากใจคนใช้ LPG มาอย่างโชกโชนระดับนึง 10 ปี+
รถ LPG ประหยัดค่าแก๊สก็จริง แต่ห้องเครื่องร้อนมาก
ทำให้อย่างอื่นอายุสั้นลงง่าย
แต่รถ ไฮบริดโต ห้องเครื่องเย็นมากครับ แค่อุ่นๆ
นั่นทำให้อายุขัยของชิ้นส่วนต่างๆ มีแนวโน้มทนขึ้น
แต่ถ้าเทอร์โบ + ไฟฟ้า หรือ lpg + ไฟฟ้า
ผมว่ามีโอกาสจะอายุสั้นไม่ตรงจริตการใช้งานแบบไทยๆครับ
:ภาพ rerun วิ่งในเมือง ความเร็วต่ำ ประหยัดจนประทับใจ
-
ถ้าสำหรับผม การเลือกรถสำหรับรุ่นที่มีทั้งเครื่องยนต์ธรรมดาและไฮบริด ผมมองที่ออฟชั่นและราคามาก่อน
ซึ่งส่วนใหญ่เทียบกันแล้วไฮบริดก็ชนะอยู่ดี ตอนนี้เลยมีไฮบริด2คัน acv50 และ chr
และถ้าดูจากอัลติสตัวใหม่ ถ้าในอนาคตจะซื้อเพิ่มดูแล้วก็คงไม่พ้นไฮบริดอีกอยู่ดี
การที่โตโยต้าออกนโยบายนี้มา สำหรับผมมองว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจเท่าไหร่
แต่ก็อาจจะดีสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ไฮบริด ให้หันมาสนใจมากยิ่งขึ้นครับ