Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: akewizard ที่ กันยายน 03, 2019, 09:05:16
-
หัวข้ออาจจะดูเรียกแขก เรียกดราม่าไปสักหน่อย
แต่ผมตั้งใจให้เป็นกระทู้พูดคุยแสดงความเห็นกันสบายๆมากกว่า
ในบางครั้งที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ร้ายแรงมาก เฉี่ยวชนกันทั่วไป ส่วนใหญ่มักจะต้องมีการชี้ฝ่ายถูกฝ่ายผิด
แล้วแต่ละฝ่ายก็จัดการเครมประกันกับฝั่งตัวเองไป หรือในบางกรณีชี้ว่าต่างฝ่ายต่างผิด ก็ซ่อมเครมแต่ละฝั่งไปเลย
แต่พอมันมีคำว่า "ประมาทร่วมขึ้นมา"
ในทางกฎหมายและทางปฎิบัติ ต้องควรทำและจัดการอย่างไรบ้างครับ เชิญผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาพูดคุยเล่าให้ฟังกันหน่อย
-
ประมาทร่วมไม่มีในทางกฎหมายครับ ถ้าแปลตรงๆคือ"ผิดทั้ง2ฝ่าย"ถ้าถึงโรงพักในสำนวนจะเขียนเลยว่าแต่ละฝั่งใครผิดยังไง ส่วนใหญ่ใช้ประโยคนี้คือให้เคลียร์กันเองก่อน ถ้าไปโรงพักคือโดนปรับทั้งคู่
-
มันก็คือประมาททั้งสองฝ่ายนั่นแหล่ะ
แต่คำว่า "ประมาทร่วม" มันใช้เป็นคำพูดเฉยๆ ไม่ได้ใช้ในทางกฎหมาย
-
ที่จะเจอคำนี้ ส่วนมาก
ถูกมองว่า รู้ว่า "อาจจะ" เกิดอุบัติเหตุจากจังหวะนั้น แต่ยังไม่ป้องกันหรือหลีกเลี่ยง "ทั้งที่มีจังหวะให้เลี่ยง" ซึ่งก็เลยทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมากจริงๆ
ซึ่งถ้าไม่พอใจในข้อกล่าวหาดังกล่าว ก็สามารถไปสู้ในศาลได้ ซึ่งผลสุดท้าย ฝ่ายหนึ่ง อาจจะเป็นฝ่ายถูก และ อีกฝ่าย จะเป็นฝ่ายผิด ก็ได้
ข้อหาดังกล่าวๆ ที่ถูกใช้ในปัจจุบัน เอาแบบลูกทุ่งๆ เลยนะ เหมือนแบบว่า ให้จบๆ แล้วแยกกันไปซ่อมใครซ่อมมัน แค่นั้นละครับ
ปล.ผมก็เคยเจอข้อหานี้ ผมวิ่งทางเอก คู่กรณีเลี้ยวมาจากทางโท(ซอยฝั่งซ้ายมือ) สุดท้าย ประกันฝ่ายผม แจ้งว่า ถ้าไปถึงโรงพักก็ "อาจจะ" โดนข้อหาประมาทร่วม เพราะรถคู่กรณีมาจากในซอยก็จริง แต่ถ้าเราเห็นแล้วไม่ยอมเบรค หรือ หลบ ก็อาจจะโดนประมาทร่วมได้
ปล2. จากเหตุการณ์ของผม ปล.1 บอกตรงๆ ว่า ขี้เกียจไปโรงพัก และ ขี้เกียจไปสู้คดี ครับ เสียทั้งเงิน และ เสียเวลา
-
แฟร้งคาปริโอ้ไม่ถูกใจสิ่งนี้
-
ร่วมกันประมาณ
-
''...ต่างฝ่ายต่างไม่ระมัดระวังอันเป็นเหตุให้เกิดการชน การตาย ทรัพย์สินทั้งสองฝ่ายเสียหาย...''
นี้คือส่วนนึงของคำพูดตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์
คือตอนนั้นรถญาติชน ผมก็ไปรับแก แต่อยู่ตรงนั้นกันตั้งแต่8โมงถึงบ่ายโมง เพราะตำรวจไม่ฟันธงว่าใครผิด ไม่กล้าตัดสิน
ประกันของคู่กรณี และประกันของญาติเถียงกันรุนเแรงและจะมีวางมวยอยู่แล้ว และรถที่ชนกันสองคันไม่มีกล้องหน้ารถ
และถนนช่วงที่ชนไม่มีกล้องCCTV ...กว่าจะออกจากตรงนั้นได้คือตกลงกันเองว่าต่างคนต่างซ่อมรถตัวเอง จบ
ปล. ทุกวันนี้คนที่อยากทำอาชีพตำรวจ ไม่ได้อยากทำหน้าที่ตำรวจ แค่อยากมีอำนาจ อยากมีเกียรติ(ลอยๆ)
และประโยชน์ต่างตอบแทนจากคนรอบข้าง ตำรวจไทยมันควรต้องรื้อระบบแก้ไขใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะระบบอุปถัมภ์ มะเร็งสุดไปเลย
-
ไม่มีในกฎหมายครับ หรือจริงๆก็คือโดนข้อหานี้ทั้งสองฝ่ายแต่มักจะเป็นการสรุปแบบลวกๆและยอมแบบลวกๆมากกว่าคล้ายๆกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในไทยมาจากขับเร็วนั่นแหละ ทั้งที่ไม่ได้พิสูจน์หลักฐานอะไร แต่สรุปไว้เลย ใครไม่อยากโดนข้อหานี้ก็สู้หน่อยเสียเงิน เสียเวลาคนเราเลยยอมๆรับข้อหานี้ไป
-
เกลียดคำนี้มาก ๆ
ในกฏหมายจราจรก็มีบอก ว่ารถถึงแยก ฝั่งไหนจะได้ไปก่อน
สถานการณ์คับขันแบบไหน คันไหนจะได้ไปก่อน
เค้าเขียนไว้ให้หมดแล้ว มันจะมีคนผิดและคนถูกชัดเจน
ฮ่วยยย
อีกทางหนึ่งผมก็เข้าใจคุณเจ้าหน้าที่นะครับ ต่างฝ่ายต่างเลือดขึ้นหน้า
จะเอาผิดฝ่ายตรงข้ามให้ได้ เจ้าหน้าที่เลยเลือกสันติวิธีที่สุด
ตีเป็นประมาทร่วม แล้วแยกย้าย จบกันง่าย ๆ ซะอย่างนั้นเลย
-
ขังรวม ไปทะเลาะกันข้างในต่อ...
-
ภาษาปาก เรียก ประมาทร่วม
ภาษากฎหมาย มีแต่ ประมาททั้งสองฝ่าย
-
ไม่ชอบเหมือนกันพอเห็นรถใหญ่ชนรถมอไซก็จะให้ประมาทร่วมเพราะรถใหญ่มีประกันชั้น1 จริงๆอยากให้สืบว่าใครผิดใครถูกก่อน
-
ภาษากฎหมาย
การกระทำโดยประมาทคือ การกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และบุคคลนั้นอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้แต่หาใช้ได้เพียงพอไม่
ในทางกฎหมายคงต้องพิจารณาว่าฝ่ายใดประมาทยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงใด
ส่วนเรื่องค่าสินไหมทดแทน(ค่าเสียหาย)ก็คำนวณจากความประมาทฝ่ายใดมากน้อยกว่าเพียงใดนั้นละครับ
ส่วนประมาทร่วม น่าจะเป็นคำที่ตำรวจใช้กันบ่อยๆ
แต่จะเจอคำว่า ต่างฝ่ายต่างประมาท ในหนังสือกฎหมายบ่อยๆ
-
รู้แต่ภาษาชาวบ้าน "ต่างคน ต่างซ่อม จบๆกันไป"
-
''...ต่างฝ่ายต่างไม่ระมัดระวังอันเป็นเหตุให้เกิดการชน การตาย ทรัพย์สินทั้งสองฝ่ายเสียหาย...''
นี้คือส่วนนึงของคำพูดตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์
คือตอนนั้นรถญาติชน ผมก็ไปรับแก แต่อยู่ตรงนั้นกันตั้งแต่8โมงถึงบ่ายโมง เพราะตำรวจไม่ฟันธงว่าใครผิด ไม่กล้าตัดสิน
ประกันของคู่กรณี และประกันของญาติเถียงกันรุนเแรงและจะมีวางมวยอยู่แล้ว และรถที่ชนกันสองคันไม่มีกล้องหน้ารถ
และถนนช่วงที่ชนไม่มีกล้องCCTV ...กว่าจะออกจากตรงนั้นได้คือตกลงกันเองว่าต่างคนต่างซ่อมรถตัวเอง จบ
ปล. ทุกวันนี้คนที่อยากทำอาชีพตำรวจ ไม่ได้อยากทำหน้าที่ตำรวจ แค่อยากมีอำนาจ อยากมีเกียรติ(ลอยๆ)
และประโยชน์ต่างตอบแทนจากคนรอบข้าง ตำรวจไทยมันควรต้องรื้อระบบแก้ไขใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะระบบอุปถัมภ์ มะเร็งสุดไปเลย
เคยถามญาติที่เป็นทนาย = โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สอนให้เป็นคนดี แต่พอจบออกมาแล้ว ถูกกลืนโดยระบบ
และในมุมมองของญาติ อาชีพตำรวจ เป็นอาชีพที่คบด้วยยาก เพราะเหมือนคบกันด้วยผลประโยชน์
-
ทางกฎหมาย คือ มีความผิดทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งแต่ละฝ่ายมีความผิดไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเรามีหลักฐานจากกล้องบันทึกด้านหน้าและด้านหลัง เราก็สามารถนำหลักฐานนี้ไปเป็นข้อแก้ต่างในชั้นศาลได้
-
ส่วนมากไม่มีหลักฐานจะโดนครับ
-
ภาษากฎหมาย คือ ประมาททั้งคู่ , ต่างฝ่ายต่างประมาท
ภาษาร้อยเวร , ภาษาประกัน คือ ประมาทร่วม , ผิดทั้งคู่ รับสภาพซ่อมใครซ่อมมัน แต่ถ้ามีคนเจ็บ คนตายก็อีกเรื่อง
แต่ถ้าจบกันไม่ได้ที่ชั้น สน. ก็ต้องส่งฟ้องศาล
ศาลท่านจะดูว่า ใครประมาทมาก ประมาทน้อยกว่ากัน
จะมีผลต่อเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย
เสริม***ตามหลักรถใหญ่หรือจะเป็นมอเตอร์ไซค์ เค้าไม่ดูหรอกครับ
เค้าดูตรงทางใครได้เปรียบ หรือ มีสิทธิ์ใช้ทางได้ก่อนกันครับ
-
''...ต่างฝ่ายต่างไม่ระมัดระวังอันเป็นเหตุให้เกิดการชน การตาย ทรัพย์สินทั้งสองฝ่ายเสียหาย...''
นี้คือส่วนนึงของคำพูดตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์
คือตอนนั้นรถญาติชน ผมก็ไปรับแก แต่อยู่ตรงนั้นกันตั้งแต่8โมงถึงบ่ายโมง เพราะตำรวจไม่ฟันธงว่าใครผิด ไม่กล้าตัดสิน
ประกันของคู่กรณี และประกันของญาติเถียงกันรุนเแรงและจะมีวางมวยอยู่แล้ว และรถที่ชนกันสองคันไม่มีกล้องหน้ารถ
และถนนช่วงที่ชนไม่มีกล้องCCTV ...กว่าจะออกจากตรงนั้นได้คือตกลงกันเองว่าต่างคนต่างซ่อมรถตัวเอง จบ
ปล. ทุกวันนี้คนที่อยากทำอาชีพตำรวจ ไม่ได้อยากทำหน้าที่ตำรวจ แค่อยากมีอำนาจ อยากมีเกียรติ(ลอยๆ)
และประโยชน์ต่างตอบแทนจากคนรอบข้าง ตำรวจไทยมันควรต้องรื้อระบบแก้ไขใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะระบบอุปถัมภ์ มะเร็งสุดไปเลย
อันนี้ตอบอยากครับ หลักฐานไม่เพียงพอ ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้าง เคสนี้ง่ายมากเลย ร้อยเวรตัดสินไม่ได้ ตรวจสภาพรถ ส่งฟ้องศาล ถามว่าทำไมเค้าถึงไม่ทำ ก็เพราะไม่มีใครเขาอยากขึ้นศาลไงครับ รถชนกันมันต้องมีคนผิด เพียงแต่ใครจะพูดความจริง หรือ อีโก้ใส่