Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: rvsmart ที่ ธันวาคม 26, 2019, 16:45:04
-
ระหว่างเครื่อง 1.2,1.3 เทียบกับ 1.0เทอร์โบ มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรบ้างครับ
-
ส่วนตัวผมยังชอบเครื่อง na จากโรงงานครับ คุณติดดู ยิ่งมีอะไรเพิ่มเข้ามาในเครื่อง แน่นอนว่าการบำรุงรักษาก็จะมีมากขึ้นตามเงาตามตัวครับ
-
ถ้าแรงกว่าก็ เทอร์โบ แรงประหยัดน้ำมันกว่า
ถ้าบำรุงรักษา ก็ N/A ดีกว่าครับ เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า อะไหล่แพงๆน้อยกว่าครับ
อิอิ
-
ดีกว่าในแง่ไหน แรงกว่า ประหยัดกว่า บำรุงรักษาง่ายกว่า?
-
ผมว่าทุกคนควรจะเข้าใจได้แล้วว่าปัจจัยที่รถซักคันจะดีหรือไม่ดี มันตอบไม่ได้แค่นั้นอะครับ เคยได้ยินไหมว่ารถยนต์มีส่วนประกอบจำนวนเท่าไหร่? หาเร็ว ๆ เจอว่าประมาณ 30,000 ชิ้นนะครับ นี่ยังไม่นับพวกค่าที่อยู่ในรูปแบบที่จับต้องไม่ได้ตามองไม่เห็นที่ถามมานี่ มีอีกเป็นหลายแสนค่า ถ้าคิดว่าแค่ปัจจัยหนึ่งอย่างสองอย่างมันจะส่งผลแตกต่างขนาดนั้น ผมว่าคิดผิดแล้วละครับ เพราะต่อให้ตอบไป ปัจจัยอื่น ๆ มันก็มีอีกเยอะแยะที่จะทำให้คำตอบนั้นผิดได้ นี่ยังไม่นับนะครับว่าดีกว่าในด้านไหน
ถ้าถามว่า Yaris Almera City คันไหนดีที่สุด ยังพอใช้อารมณ์ความรู้สึกตอบได้นะ เพราะมันเป็นของที่อยู่ตรงหน้าแล้ว สัมผัสได้ แต่ถามแค่ว่า 1.2 1.3 เทียบกับ 1.0 เทอร์โบ อะไรดีกว่ากัน ผมว่ามันเหมือนถามว่าค่าไตอยู่ที่เท่านี้ เราจะมีอายุขัยอยู่ที่กี่ปีอะครับ ไม่มีใครรู้จริงหรอกค้าบบ ได้แต่ตอบโดยรวมแบบเดาไป แต่พอมีพวกตัวประหลาดโผล่ออกมาผิดจากความคาดเดาก็เงิบหงายเพราะไม่ได้ดูปัจจัยอื่นเลย
-
ถ้าในเรื่องสมรรถนะความประหยัด เครื่องเทอร์โบความจุน้อยจะได้เปรียบทั้งในด้านความแรงและความประหยัด ซึ่งเครื่องยนต์ลักษณะนี้เป็นเทคโนโลยี downsizing เป็นเทคโนโลยีค่อนข้างใหม่ในวงการถยนต์ รถยุโรปหลายรุ่นเริ่มมาใช้เทคโนโลยีนี้กันแล้ว ในเรื่องของความทนทาน ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ได้มากเท่าที่ควรว่าในระยะยาวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ชิ้นส่วนมันก็ต้องมากกว่า ซับซ้อนกว่าเครื่องที่ไม่ใช้เทอร์โบแน่นอน การบำรุงรักษาก็อาจจะยากกว่าหน่อย
ตอนนี้ผมใช้ Peugeot 408 เครื่อง 1600cc turbo ขนาดตัวรถมันค่อนข้างใหญ่ อยู่ระหว่าง C/D segment เลย แต่พอมันมีเทอร์โบทำให้เป็นรถที่ขับสนุกมาก ขึ้นเขาสูงชันขนาดไหนก็มีเรี่ยวแรง ผิดกับรุ่นที่เป็นเครื่อง 2000cc ไม่เทอร์โบของมันที่ไม่ได้จี๊ดจ้าดและประหยัดเท่า ผิดกันคนละเรื่องเลยล่ะ แม้ความจุจะมากกว่าก็ตาม เรื่องการดูแลสำหรับผม เคยเจอแค่ประเก็นเทอร์โบแตก กับพวกท่อยางต่างๆ เสื่อมสภาพ แค่นั้น เพราะฉะนั้นนาทีนี้ผมให้เครื่อง turbo ดีกว่าสำหรับผมครับ
-
เครื่อง NA ดั้งเดิมดีกว่าในแง่ของ Reliability Stability และ Maintainance
เครื่องโบดีกว่าในแง่ของ Performance Efficacy และ Ecology
ถ้าเอาเครื่องยนต์เพียวๆ ผมชอบเครื่อง NA มากกว่า
แต่ถ้าเอาตัวรถมาประกอบด้วย ผมไปเครื่องโบ แบบไม่ลังเลเลยครับ
-
เล่าให้ฟัง..........
ยุค 2000 เป็นยุคเปลี่ยนผ่านของปิคอัพ ค่ายหนึ่งเลือกติดเทอร์โบ
อีกค่ายหนึ่ง เลือกขยายความจุ โดยโจมตีอีกฝั่งออกสื่อว่า เทอร์โบ จุกจิก พังง่าย ซ่อมยากและแพง การขยายความจุดีกว่าในระยะยาว
ผ่านมา20ปี ตอนนี้ 2020 ผลคือ.......................................................
-
ผมใช้ธรรมดามา 6 คัน ใช้โบมา 8 คัน
ผมชอบ โบมากกว่า
การดูแล เหมือน ๆเดิม แต่มีชิ้นส่วนเพิ่มแค่นั้น โบลูกหนึ่งอยู่ได้สี่ห้าแสนโล ตัวที่พังง่ายอาจจะเป็นอินเตอร์ (ถ้ามีและเพิ่มบูสต์เยอะเกินไป)
-
แต่ที่รู้1.0turbo แรงกว่า1.2 1.3na แน่ๆ
-
เล่าให้ฟัง..........
ยุค 2000 เป็นยุคเปลี่ยนผ่านของปิคอัพ ค่ายหนึ่งเลือกติดเทอร์โบ
อีกค่ายหนึ่ง เลือกขยายความจุ โดยโจมตีอีกฝั่งออกสื่อว่า เทอร์โบ จุกจิก พังง่าย ซ่อมยากและแพง การขยายความจุดีกว่าในระยะยาว
ผ่านมา20ปี ตอนนี้ 2020 ผลคือ.......................................................
ฝั่งเครื่องเบนซินก็มีครับ
ยุค 80s มี Lancer Turbo by สิทธิผลมอเตอร์
Bluebird SSS Turbo by สยามกลการ และ
00s Vios Turbo by TMT
...
-
ผมว่าลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ในบ้านเราควรจะได้ใช้เครื่องยนต์ดีๆ มีเทอร์โบได้มานานแล้ว ถ้าค่ายรถใหญ่ไม่กั๊กลากขายของเก่าฟันกำไรกันสนุกสนาน
ภาษี CO2 กับ Eco Car ก็มีส่วนช่วยให้ผู้ผลิตปรับปรุงเครื่องยนต์ดีขึ้นเยอะ ไม่ค่อยลากขายยาวๆ เพราะต้องการลดภาระทางภาษีซึ่งก็ช่วยได้กำไรเพิ่มขึ้นตามมา
-
1.0t ครับ อัตราเร่งตนละเรื่อง ขับสนุกคนละเรื่องคับ
-
กระบะ ใช้เครื่องเทอร์โบมาเกิน 10 ปีละ แต่ละคันใช้โหดกว่ารถเก๋งแน่ๆ ก็ไม่เห็นจะมีเสียงบ่นอะไรว่า มันห่วย ไม่อยากใช้ เอาเครื่อง N/A กลับมา นะ
-
1.0เทอร์โบ ดีกว่าครับ
-
กระบะมัน 4 สูบดีเซลเทอร์โบจะไม่ทนได้ไงเพราะเครื่องดีเซลออกแบบมาทนกำลังอัดสูงๆ อยู่แล้ว อินเตอร์ก็ใหญ่กว่า
แต่นี่มัน 3 สูบเบนซินเทอร์โบ อินเตอร์อันนิดเดียว น่าจะต้องรอพิสูจน์กันหน่อยนะครับอย่ารีบด่วนสรุป
-
การออกแบบเครื่องยนต์ อยู่ที่การใช้งาน เทอร์โบในเครื่องยนต์อุตสาหกรรม รถใหญ่ๆยะมีตลอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปกติให้ใช้งานได้มากขึ้น ต้นทุนสูงกว่าอยู่แล้ว ปัจจุบันเน้นเครื่องยนต์เล็กใส่เทอร์โบ มันก็ช่วยหลายๆด้าน ต้นทุนผู้ผลิตก็มากขึ้น เราก็แค่บำรุงรักษาตามเท่านั้นเอง
-
ถ้าในราคาพอๆกัน
ทำไมเราต้องจ่ายให้เครื่อง NA ที่ไม่ได้ประหยัดกว่า แถมยังเทคโนโยยีต่ำกว่า
ถ้าแง่ดูแลรักษา มันก็ไม่ต่างกัน
-
ผมใช้รถเครื่องเทอร์โบล้วน ทั้งเบนซิน และ ดีเซล ยังไม่เห็นว่าเครื่องnaดีกว่าเครื่องเทอร์โบตรงไหนเลยครับ
วีโก้3.0ไอ้แก่ที่บ้าน วิ่งมา2แสนโล ยังวิ่งปลิวอยู่เลย มันวิ่งดีกว่ากะบะ ยุคที่ไม่มีเทอรโบ แน่ๆครับ ดีกว่าแบบไม่เห็นฝุ่นเลยด้วยซ้ำ
-
1.0turboครับ เห็นคลิปอัตราเร่งของทั้ง City Almera แล้วทำผล
รนออกมาได้ดีทั้ง2เลยทีเดียว ได้ทั้งประหยัด และแรง (แรงบิดมาในรอบต่ำแถมเป็นแฟลตทอร์คอีกด้วย)
-
รายละเอียดมันเยอะครับ ขนาดเครื่อง 1.0turbo ของ honda กับ nissan ยังไม่เหมือนกันเลย
honda เป็นฉีดตรง แรงกว่าประหยัดกว่า แต่หัวฉีดก็แพง วาวล์ไอดีก็จะตันง่ายเติมน้ำมันพรีเมียมก็ไม่ช่วยเพราะหัวฉีดไม่ฉีดโดนวาวล์ไอดี และถ้าไม่ใช่น้ำมันเครื่อง api sn+ ก็จะมีปัญหาชิงจุดระเบิดในรอบต่ำเป็นต้น แต่ความไว้วางใจในเครื่อง honda ก็จัดว่าสูงกว่า nissan
-
รายละเอียดมันเยอะครับ ขนาดเครื่อง 1.0turbo ของ honda กับ nissan ยังไม่เหมือนกันเลย
honda เป็นฉีดตรง แรงกว่าประหยัดกว่า แต่หัวฉีดก็แพง วาวล์ไอดีก็จะตันง่ายเติมน้ำมันพรีเมียมก็ไม่ช่วยเพราะหัวฉีดไม่ฉีดโดนวาวล์ไอดี และถ้าไม่ใช่น้ำมันเครื่อง api sn+ ก็จะมีปัญหาชิงจุดระเบิดในรอบต่ำเป็นต้น แต่ความไว้วางใจในเครื่อง honda ก็จัดว่าสูงกว่า nissan
ผมว่าความไว้วางใจของเครื่องมันไม่ต่างกันหรอกนะ ผมว่านิสสันไว้วางใจเครื่องได้มากกว่าอีก ยิ่งแรงม้าเยอะ 122 แรงม้าแบบนี้แถมไม่มีออยล์เกียร์อีก น่าจะทำให้ชิ้นส่วนรวมถึงเกียร์ CVTหนังกะติ๊กพังเร็ว
-
ผมคิดว่าน่าจะทนจนถึงรอบเปลี่ยนรถคันใหม่ได้สบายครับ ดังนั้นเลือกคันที่ชอบได้เลย ถ้ามีอาการแสดงออกชัดเจน เช่น ไม่ถึงแสน เปลี่ยน โบ เป็นว่าเล่น หรืออาการชัดเจนเหมือนบางค่ายที่ รอเวลา เท่านั้นก็ค่อยเปลี่ยนรถก็ยังทันครับ เครื่องยนต์ ยังไม่น่ากลัวเท่าเกียร์ครับ
-
สำหรับผม รถโบที่ออกจาก รง ทนทานกว่ารถแต่งติดโบเองแน่นอน
แถมประหยัดกว่า แรงกว่า ทำไมจะไม่เลือกละครับ คันต่อไปอยากได้รถมีหอยละ
-
เครื่องไม่ค่อยห่วงหรอกครับ ห่วงเรื่องเกียร์มากกว่า
-
Turbo ในรถกระบะบางยี่ห้อเขาทำเพื่อให้เครื่อง Di รุ่นเก่ามีมลพิษน้อยลงเท่านั้นเองครับ ไม่ใช่เพื่อเพิ่มพลังซะหน่อย มันจึงคนละคอนเซ็ปต์กับเทอร์โบเอาม้าเยอะๆ
-
เทอร์โบในกระบะผมเชื่อมั่นนะเพราะผ่านการพิสูจน์มานานละ ส่วนเก๋งรอดูซิตี้กะอัลเมร่านี่แหละว่าจะเป็นยังไง ส่วนซีวิคกับซิลฟี่เทอร์โบผมว่ายังไม่ชัดนักเพราะปริมาณไม่มากพอ
-
Turbo ในกระบะ ที่ให้ผ่านมลภาวะ น่าจะพวกยุค Drangon Eye 2.5 มั้ง !!!
ปัจจุบัน เครื่อง 1.9 รีดม้า 150 ตัว หรือ 3.0 รีดม้า 160 - 170 ตัว คงไม่ใช่เพื่อให้ผ่านมลภาวะอย่างเดียวหรอกครับ
-
เบนซิน 1.0T ดีกว่าทุกข้อ แรงม้า แรงบิด ประหยัดน้ำมัน อัตราเร่ง
ให้เลือก ยังไงก็เลือกเบินซิน Turbo ครับ จะกี่ CC จะ seq ไหนก็แล้ว
เห็นคนบอกสมัยยุค 90 เรื่องเบนซิน Turbo ที่หลายค่าย หลายยี่ห้อ ยังแอนตี้เทอร์โบ ณ ตอนนั้น อย่างนึงไม่ใช่เรื่องแรงไม่แรง แต่มันเรื่องอื่นครับ
ลองคิดง่ายๆ เลย รถญี่ปุ่นยุคนั้น รถมีเบนซิน ที่เป็น Turbo กับ NA ลักษณะรถ ก็ต่างกันแล้ว พวก Turbo เองก็อยู่ในกลุ่ม Flagship ของค่ายทั้งนั้น(ยกเว้นค่าย H) ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการดูแลรักษา การกินน้ำมัน และ เน้นพละกำลัง กลุ่ม high performance ซะด้วยซ้ำ เพราะกลุ่มรถบ้านก็ NA แทบทั้งนั้นเลย จะพูดก็้ต้องพูดให้ครับ ไม่ใช่ไปโฟกัสแต่ตัวแรงว่าเป็นรถ Turbo ไปซะหมด
และรถเบนซิน Turbo สมัยก่อน กว่าแรงบิด แรงม้า จะมา ก็รอบปลายๆ แล้วทั้งนั้น การทำงานและเทคโนโลยี วันนั้น กับ วันนี้ แตกต่างกันเยอะ ยันชิ้นสั่นภายในตัวเครื่องยนต์เองด้วย
แต่ทุกวันนี้ Turbo คือรถบ้าน ย้ำว่ารถบ้าน คันนึงเท่านั้น และขยายไปยันกลุ่ม EcoCar ซะด้วยซ้ำ
-
รถเก๋งยุโรป ใช้ Turbo กันเป็นเรื่องปกติ และไม่มีประเด็น Turbo / Na
พอ Ecocar มี Turbo มีประเด็นทันที ;D ;D ;D
ถามความจำเป็นในการใช้รถ เครื่องมี Turbo ไม่ใช่สิ่งจำเป็น 1.3 ธรรมดา ใช้ใน กทม. ขับไปส่งลูกที่โรงเรียน ซื้อของโลตัส ได้เหมือนกับรถมี Turbo
โจทย์นี้ผมให้ 1.3 ไม่มี Turbo ดีกว่า ไม่รู้จะเอาแรงบิดสูงๆมาทำไม ไม่ต้องมีระบบอะไรที่ซับซ้อนด้วย และถ้าใช้ยาว มันก็มีส่วนที่ต้องดูแลมากขึ้น ไม่มีซะดีกว่าถ้า N/A ให้กำลังที่เพียงพอ
แต่ถ้ามองรถทั้งคันนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง มันมีเครื่องอื่นๆมาให้พิจารณาอีกเยอะ
-
รายละเอียดมันเยอะครับ ขนาดเครื่อง 1.0turbo ของ honda กับ nissan ยังไม่เหมือนกันเลย
honda เป็นฉีดตรง แรงกว่าประหยัดกว่า แต่หัวฉีดก็แพง วาวล์ไอดีก็จะตันง่ายเติมน้ำมันพรีเมียมก็ไม่ช่วยเพราะหัวฉีดไม่ฉีดโดนวาวล์ไอดี และถ้าไม่ใช่น้ำมันเครื่อง api sn+ ก็จะมีปัญหาชิงจุดระเบิดในรอบต่ำเป็นต้น แต่ความไว้วางใจในเครื่อง honda ก็จัดว่าสูงกว่า nissan
1.0 ของฮอนด้า อินเตอร์ระบาบความร้อนด้วยน้ำ
จุดต่อจุดซีลเยอะ มีจุดเสี่ยงต่อน้ำซึม อีกหนึ่งจุดที่ต้องตรวจสอบกันบ่อยๆ
แถมสายพานไทม์มิ่งก็เป็นแบบจุ่มน้ำมัน
สายพานไทม์มิ่งจุ่มน้ำมันให้นึกถึง Ranger เครื่อง 2.0 เลยครับ
ที่มีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องหาย น้ำมันเครื่องซึมหน้าเครื่อง
ต้องดูแลกันดีๆหน่อย และตรวจสอบกันเรื่อยๆเลยล่ะครับ
ส่วนสเปคเครื่อง 1.0 ของนิสสันผมยังไม่มีข้อมูลอะไรมาก..
-
ไปลองขับ 1.0 อัลเมร่ามา ตอนเดินเบาสั่นแบบ เหมือนวาวล์ยัน แต่พอขับเสียงเครื่องเพราะดี
ออกตัวดี เสียงแน่นตอนขับ แบบ 140-160 ชิวๆเลย
เสร็จไปลอง 1.0 ซิตี้ต่อ เดินเบาเรียบ ออกตัวก็ตามอารมณ์ cvt เลย
ปกติขับ 1.5 5AT แล้วก็ 1.2 บ้าง
สรุปคือ 1.0 แรง ประหยัด
1.2 ประหยัด ไม่แรง
แต่ยังชอบฟิลหนักของ C seg อยู่ดี น่าจะมีเครื่องประหยัดๆแบบนี้บ้าง
-
รายละเอียดมันเยอะครับ ขนาดเครื่อง 1.0turbo ของ honda กับ nissan ยังไม่เหมือนกันเลย
honda เป็นฉีดตรง แรงกว่าประหยัดกว่า แต่หัวฉีดก็แพง วาวล์ไอดีก็จะตันง่ายเติมน้ำมันพรีเมียมก็ไม่ช่วยเพราะหัวฉีดไม่ฉีดโดนวาวล์ไอดี และถ้าไม่ใช่น้ำมันเครื่อง api sn+ ก็จะมีปัญหาชิงจุดระเบิดในรอบต่ำเป็นต้น แต่ความไว้วางใจในเครื่อง honda ก็จัดว่าสูงกว่า nissan
1.0 ของฮอนด้า อินเตอร์ระบาบความร้อนด้วยน้ำ
จุดต่อจุดซีลเยอะ มีจุดเสี่ยงต่อน้ำซึม อีกหนึ่งจุดที่ต้องตรวจสอบกันบ่อยๆ
แถมสายพานไทม์มิ่งก็เป็นแบบจุ่มน้ำมัน
สายพานไทม์มิ่งจุ่มน้ำมันให้นึกถึง Ranger เครื่อง 2.0 เลยครับ
ที่มีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องหาย น้ำมันเครื่องซึมหน้าเครื่อง
ต้องดูแลกันดีๆหน่อย และตรวจสอบกันเรื่อยๆเลยล่ะครับ
ส่วนสเปคเครื่อง 1.0 ของนิสสันผมยังไม่มีข้อมูลอะไรมาก..
ขนาดเครื่องไม่มีเทอโบ เวลาเสียขึ้นมายังปวดหัวเลยครับ
นี่มีอะไรเพิ่มเข้ามาเยอะ ไหนจะ อินเตอร์น้ำ อีก :-* :-* :-*
-
จากประสบการณ์ การขับรถมาค่อนข้างยาวนาน
รถturbo ไม่มีปัญหามากเท่าไหร่นะครับ ถ้าขับปกติ
ถ้าจะมีมากกว่าเครื่อง N/A ก้อเรื่องจุดเชื่อมต่อของอากาศ
แต่เครื่อง N/A ก้อมีปัญหาเรื่อง valve train เวลาเรา over rev
อุตสาหกรรมยานยนต์มี 3แหล่งผลิตที่เป็นหัวใจของโลก
America
Europe
Japan
ตัด America ทิ้งไปก่อนสำหรับตลาดประเทศไทย
ทุกวันนี้ BMW AUDI MB เลือกใช้เครื่อง turbo
เพราะมลพิษน้อยลง ความทนทานมากขึ้น และที่สำคัญคือผ่าน emission laws
1.5T มาแทน 2000 N/A
2.0T มาแทน 2500-3500 N/A
3.0T มาแทน 4000 ขึ้นไป N/A
4.0T มาเป็นเครื่องหลักของ super cars/ hyper cars
รถจากญี่ปุ่นเคยใช้ turbo มาก่อนหลายเจ้าแต่ honda เพิ่งเริ่มไม่นาน
เครื่อง 1.0T พี่เค้าคงมั่นใจมากแล้วครับ เพื่อมาทดแทน 1.5 NA
-
ตัวธรรมดาไม่ต้องรอรอบ
แต่ตัว 1.0 โบ รอรอบ แต่พอรอบมาก็กระชาก ดึงมากกว่า
ตัวธรรมดา ฟิลลิ่งสม่ำเสมอ
ตัว 1.0 โบ จะมาก็มาแบบไหลมาเทมา ตอนจะไม่มา ก็เหมือนคิดแล้วงุนงงว่าจะยังไงดี
สรุปแล้ว ถ้าเรื่องอัตราเร่งและความประหยัดน้ำมัน 1.0 โบ ชนะแหละครับ
แต่ตัวธรรมดา จะได้ความเป็นธรรมชาติ และ classic กว่า
นึกภาพรถเครื่องโต Muscle Car เครื่อง 4.0 5.0 เทียบกับรถ 2.0 2.5 โบก็ได้ครับ
-
1.0 turbo ดีกว่าครับ ในแง่สมรรถนะนะครับ
ยังไม่เคยcity ,nissan แต่เคยEcoBoost ผมว่าแรงดีเกินตัว
-
รถที่ใช้ทุกวัน ถ้าเลือกได้ ผมยังชอบเครื่อง N/A ผมหัวโบราณ
ใช้รถหยาบ ไม่อยากดูแลมาก และต้องไว้ใจได้
ที่สำคัญ ถึงที่หมายผมชอบจะดับเครื่องเลย ขี้เกียจจอดติดเครื่อง cool down เสียเวลา
-
รถที่ใช้ทุกวัน ถ้าเลือกได้ ผมยังชอบเครื่อง N/A ผมหัวโบราณ
ใช้รถหยาบ ไม่อยากดูแลมาก และต้องไว้ใจได้
ที่สำคัญ ถึงที่หมายผมชอบจะดับเครื่องเลย ขี้เกียจจอดติดเครื่อง cool down เสียเวลา
รถยนต์เครื่องเทอร์โบมาตรฐานจากโรงงานทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่มีคันไหนมีคำแนะนำให้ คูลดาวน์ เลย
เรื่อง คูลดวาน์ เป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า
-
รถที่ใช้ทุกวัน ถ้าเลือกได้ ผมยังชอบเครื่อง N/A ผมหัวโบราณ
ใช้รถหยาบ ไม่อยากดูแลมาก และต้องไว้ใจได้
ที่สำคัญ ถึงที่หมายผมชอบจะดับเครื่องเลย ขี้เกียจจอดติดเครื่อง cool down เสียเวลา
รถยนต์เครื่องเทอร์โบมาตรฐานจากโรงงานทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่มีคันไหนมีคำแนะนำให้ คูลดาวน์ เลย
เรื่อง คูลดวาน์ เป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า
cooldown มันโคตรโบราญอะ... ผมขับ FK มา 2 ปีละ จะจอดก็ดับไม่เห็นมันจะพัง... และก็ไม่มีใคร turbo พังด้วย