Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pairoj ที่ มกราคม 02, 2020, 17:05:38
-
สนใจอยากได้รถ bmw F10 มือสอง อายุสัก 5-7ปี หากซื้อเอามาใช้งานประจำวันยาวๆๆ ต่อจากเจ้าของเดิม อยากทราบว่าตัวถังรถ เครื่องเดิมๆ ทนไหวไหมครับ อีกประเด็นค่าบำรุงรักษาอู่นอก ปัจจุบันแพงมากไหม (ค่าบำรุงรักษา/ปี) เมื่อแทบกับ bmw รุ่นเก่า รุ่นนกแก้ว หรือ E46 ซึ่งได้ยินมาว่ามีอะไหล่มาก ช่างซ่อมประสพการณ์เป็นมีมาก และราคาอะไหล่ถูกลงมาแล้ว
-
ตอบคร่าวๆ นะครับเครื่อง 1-2แสนโล จะมีซ่อมแพง แพงกว่าE46 แน่นอน
พวกระบบไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้า เกียร์ อาจจะต้องเจอบ้างครับ ท่อน้ำ ปั๊มน้ำ คอมแอร ไดชาร์ พัดลม อะไรก็แพงกว่า E46ครับ
-
ยาวๆ camry ป้ายแดง accord ป้ายแดงดีกว่าครับ
-
กำลังได้เวลา ไล่เปลี่ยนอะไหล่ เลยครับ อายุประมาณนี้ ขนาดญี่ปุ่นกลางๆ ยังโดนไปหลายบาทเลยครับ
-
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=73054.msg1283854#msg1283854
ขออนุญาต จขกท
FYI- เพิงขายเต็นท์ไป ได้ 920,000
ปี2012 520d 101,000กิโลครับ
รถดีไม่มีงอแง จากกระทู้บนต้องเผื่องบไว้ 200,000
-
ตอบคร่าวๆ นะครับเครื่อง 1-2แสนโล จะมีซ่อมแพง แพงกว่าE46 แน่นอน
พวกระบบไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้า เกียร์ อาจจะต้องเจอบ้างครับ ท่อน้ำ ปั๊มน้ำ คอมแอร ไดชาร์ พัดลม อะไรก็แพงกว่า E46ครับ
ผมเคยคิดมาตลอดนะ ว่า 520d น่าจะจุกจิกน้อยสุดในรถยุโรป ต้องเปลี่ยนข้อมูลใหม่แระ
ว่า S80 D4 น่าจะจุกจิกน้อยสุด เพราะ 2.2 แสนแล้ว ไม่เคยมีซ่อมเครื่อง ซ่อมเกียร์เลย เจอแต่ คอมฯแอร์ กะ พัดลมหน้าเครื่อง เสีย ตอน แสนห้า กม. ตอนนี้ยังขับดีอยู่จนขายไม่ลง
-
แนะนำเลยครับ 525d F10 อัตตาเร่งดี และประหยัดด้วย
ฃื้อมือ2มา ใฃ้ได้อีกยาว ยาวววว เลยครับ ตอนนี้อู่ดีๆไว้ใจได้ ที่ซ่อมรุ่นนี้เป็นมีเยอะมากๆๆแล้วครัล
ตัวรถไม่มีปัญหาอะไร มีแค่เสื่อมตามอายุเปลี่ยนตามอายุเท่านั้นเองครับ ไม่จุกจิกอะไร
ตามระยะทางก็จะมี น้ำมันเครื่อง 10,000กิโล
น้ำมันเกียร์ อย่างเร็ว 50,000 อย่างช้า 80,000
น้ำมันเฟืองท้าย
และที่สำคัญ ต้องล้างเขม่าตะกอนที่ท่อร่วมไอดีทุกๆ 50,000กิโลด้วย
สามารถลากยาวก็ได้ แต่รถจะอืิดลง และกินน้ำมันขึ้นมากๆ ผมทำครั้งแรกไปตอน 100,000แค่นี้ตะกอนที่ออกมาจากท่อร่วมไอดีตอนที่ล้าง มันก็เหมือนยางมอตอยเหนียวๆแล้วครับ !!!!
ปล.ทำใจครับ เรื่องนี้ยังไงรถดีเซลก็ต้องเจอ เลี่ยงไม่ได้
หลักๆก็ประมาณนี้ แล้วทำที่อู่นอกได้หมดเลย ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย๋
เป็นรถที่ สมรรถนะดีมากๆครับแต่ถ้าใส่ยางรันแฟลตเหมือนเดิมอาจจะรู้สึกกระด้างหน่อย แต่ก็อุ่นใจดีครับ
ผมเคยเอารถไปเซอวิส ช่างที่อู่บอกรุ่นนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ใฃ้ไปเถอะอย่างน้อยวิ่ง 500,000กิโลเมตร สบายๆ เพราะมีมาแล้ว......
ถ้าอย่างได้แรงกว่าเดิม ก็จัดให้ได้ครับจูนเพิ่ม....
-
ขอตอบให้เป็นข้อมูลนะครับ อาจไม่ใช่ F10 แต่ Powertrain เดียวกัน
ใช้ X3 20d อยู่รถอายุ 2 ปีกว่าวิ่ง 7 หมื่น
พึ่งเคลม Warranty ไป ยอดเคลม 3.6 แสนบาท หลักๆที่แพงมี
เกียร์ขับ 4 1.6 แสนบาท ปั๊ม DSC อีก 1.1 แสนบาท อื่นๆอีก 3 รายการก็เกือบแสน
ลองคิดดีๆครับรถหมดประกันแล้วถ้ามีอะไรเสียแล้วเกิดซ่อมไม่ได้ต้องเปลี่ยน ราคาอะไหล่มันแพงมากจริงๆเมื่อเทียบกับราคารถ
ปล.รถผมขับไม่ได้โหดนะครับ ขับกดโหมด Eco Pro ตลอดเพราะเวลาขับคันนี้ชอบขับให้เลข Fuel Consumption ขึ้นสูงๆ ขับแบบนี้เกียร์กับ DSC ยังอุตส่าพังได้เลย 555
**เพิ่มเติม ค่าล้างท่อร่วมไอดี ศูนย์คิดอยู่ประมาณ 8 พันบาท ล้างทุกๆประมาณ 6 - 8 หมื่นโล
-
กำลังได้เวลา ไล่เปลี่ยนอะไหล่ เลยครับ อายุประมาณนี้ ขนาดญี่ปุ่นกลางๆ ยังโดนไปหลายบาทเลยครับ
+1
-
ขอพูดในมุมคนที่เคยสนใจ F10, E90, F30 นะครับ(ก็คือจะสอย bmw มือสองอะแหละ ตอนนี้ได้ E92 '08 320d มา)
ในเรื่องของงบซ่อมบำรุง ผมมองว่า ถ้ามีงบเพียงพอจะออกรถระดับ D-seg ของญี่ปุ่นได้ ก็น่าจะสามารถสอย F10 มาเล่นได้แหละครับ ประเด็นอยู่ที่เราได้สภาพไหนมามากกว่า ซึ่งนั่นคือจุดสำคัญของการหารถยุโรปมือสองเลยครัับ สภาพที่ได้มาจะทำให้ท่านสุขหรือทุกข์ได้เลย
แต่ผมอยากบอกในมุมของความจำเป็นมากกว่าครับ คือในมุมมองของผม ถ้าท่านไม่ได้ชอบ BMW และแค่อยากหารถ D-seg มาใช้เฉยๆ ผมว่าอาจจะดีกว่าถ้าเลี่ยงความปวดหัวไปกด Camry, Accord ใหม่ไปเลย เพราะยังไงสองตัวนี้ก็สดกว่าอยู่แล้ว แต่หากว่าท่านเป็นคนชอบในตัว BMW จริงๆ ผมว่าลองเองคุ้มสุดครับ ไม่มีใครตอบได้ว่าได้มาแล้วคุ้มไหม ยกเว้นตัวท่านเองครับ
ในแง่ของความทน N47 520d ทนเป็นควายเลยครับ ยกเว้นแค่ปัญหาเดียวจริงๆคือ Timing chain เท่านั้น หากท่าน Maintenance ตามระยะ ไม่หวงไม่งกกับเรื่องการบำรุงดูแลมัน N47 วิ่งได้ยาวๆครับ แต่จริงๆอยากให้ลองหา 525d N57 มากกว่า ได้หกสูบน่าจะฟินกว่าครับ65555
ขอให้มีความสุขกับรถใหม่ครับ
-
ขอตอบให้เป็นข้อมูลนะครับ อาจไม่ใช่ F10 แต่ Powertrain เดียวกัน
ใช้ X3 20d อยู่รถอายุ 2 ปีกว่าวิ่ง 7 หมื่น
พึ่งเคลม Warranty ไป ยอดเคลม 3.6 แสนบาท หลักๆที่แพงมี
เกียร์ขับ 4 1.6 แสนบาท ปั๊ม DSC อีก 1.1 แสนบาท อื่นๆอีก 3 รายการก็เกือบแสน
ลองคิดดีๆครับรถหมดประกันแล้วถ้ามีอะไรเสียแล้วเกิดซ่อมไม่ได้ต้องเปลี่ยน ราคาอะไหล่มันแพงมากจริงๆเมื่อเทียบกับราคารถ
ปล.รถผมขับไม่ได้โหดนะครับ ขับกดโหมด Eco Pro ตลอดเพราะเวลาขับคันนี้ชอบขับให้เลข Fuel Consumption ขึ้นสูงๆ ขับแบบนี้เกียร์กับ DSC ยังอุตส่าพังได้เลย 555
**เพิ่มเติม ค่าล้างท่อร่วมไอดี ศูนย์คิดอยู่ประมาณ 8 พันบาท ล้างทุกๆประมาณ 6 - 8 หมื่นโล
เห็นราคาแล้วจะเป็นลม แต่ละรายการซ่อมทีหมดหลายแสน เห็นคนลงขายในเวปรถ520d ซ่อมจบหมดหลายแสนกว่าจะขายรถออกมา
ผมเข้าใจนะครับว่ารถแบบนี้มันคนละระดับกับเรา จะเปรียบเทียบว่าถูกแพงคงไม่ได้ เพราะคนรายได้อย่างผมคงไม่เหมาะกับรถประเภทนี้ แม้จะมีเงินซื้อก็ตาม
ผมเคยแต่ซ่อมรถญี่ปุ่นราคาไม่แพง ตอนผมซื้ออินโนว่าดีเซลมาใช้ ล้างระบบไอดี EGR อื่น ๆ ของดีเซล หมดค่าล้างกับอู่แถวบ้านไป 500 บาท แพงสุดกับอู่ในเวปก็ไม่น่าเกิน 2500 บาท ราคาสำหรับเครื่องโตโยต้าคอมมอนเรลนะ ถ้าเจอค่าซ่อมบำรุงแบบนี้สำหรับผมเกินฐานะ มีเงินก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี ถ้าซื้อรถแบบนี้มาใช้ รับรองเมียด่าเตลิดเปิดเปิง โทษทีนอกเรื่องไปหน่อย
-
ขอพูดในมุมคนที่เคยสนใจ F10, E90, F30 นะครับ(ก็คือจะสอย bmw มือสองอะแหละ ตอนนี้ได้ E92 '08 320d มา)
ในเรื่องของงบซ่อมบำรุง ผมมองว่า ถ้ามีงบเพียงพอจะออกรถระดับ D-seg ของญี่ปุ่นได้ ก็น่าจะสามารถสอย F10 มาเล่นได้แหละครับ ประเด็นอยู่ที่เราได้สภาพไหนมามากกว่า ซึ่งนั่นคือจุดสำคัญของการหารถยุโรปมือสองเลยครัับ สภาพที่ได้มาจะทำให้ท่านสุขหรือทุกข์ได้เลย
แต่ผมอยากบอกในมุมของความจำเป็นมากกว่าครับ คือในมุมมองของผม ถ้าท่านไม่ได้ชอบ BMW และแค่อยากหารถ D-seg มาใช้เฉยๆ ผมว่าอาจจะดีกว่าถ้าเลี่ยงความปวดหัวไปกด Camry, Accord ใหม่ไปเลย เพราะยังไงสองตัวนี้ก็สดกว่าอยู่แล้ว แต่หากว่าท่านเป็นคนชอบในตัว BMW จริงๆ ผมว่าลองเองคุ้มสุดครับ ไม่มีใครตอบได้ว่าได้มาแล้วคุ้มไหม ยกเว้นตัวท่านเองครับ
ในแง่ของความทน N47 520d ทนเป็นควายเลยครับ ยกเว้นแค่ปัญหาเดียวจริงๆคือ Timing chain เท่านั้น หากท่าน Maintenance ตามระยะ ไม่หวงไม่งกกับเรื่องการบำรุงดูแลมัน N47 วิ่งได้ยาวๆครับ แต่จริงๆอยากให้ลองหา 525d N57 มากกว่า ได้หกสูบน่าจะฟินกว่าครับ65555
ขอให้มีความสุขกับรถใหม่ครับ
จริงครับเห็นด้วยทุกประโยค ขึ้นกับคนรักคนชอบ รถประเภทนี้มากกว่า
-
อยู่ที่ว่า จะได้มาในสภาพไหนครับ อันที่จริง ถ้าซ่อมครบ จบ แน่ครับ แต่ราคา ส่วนตัวคิดว่า พอรับได้ ที่สำคัญ หาอู่หรือศูนย์ พอจะดูแลได้ 5-7ปี ผมว่ามันยังไม่เก่ามาก อย่างที่บอก ได้มาในสภาพใดมากกว่า ถ้าชอบBMW แค่ขับวันเดียว หรือจอดที่บ้าน ก็เป็นสุขแล้วครับ
-
ถ้ามือเดียวตั้งแต่ออก ลูกค้าผมขับทั้ง f10 และ e60 ดีเซลทั้งคู่ e60ขับจนไมล์กลับ ไม่เคยเปิดเครื่องซ่อม มีแค่เปลี่ยนเฟืองอะไรซักตัวรอบเดียว กับเช็คระยะ ล้างท่อไอดีทั่วไป
f10 วิ่งไป 5 หแสนกว่า ก็ทำแบบเดียวกันไม่เคยเปิดซ่อมเช่นกันทั้งเครื่องและเกียร์ ก่อนจะขายเต๊นไป
ใช้วิ่งงาน เหนือ ใต้ อีสาน วันนึงต้องมี 400กม ใช้งานโหดจริง ได้เห็นไมล์จริงๆ แต่เคสลูกค้าผมอาจจะแปลกประหลาดสุด เพราะของคนอื่นในคลับก็โดนกันเยอะอยู่
-
เคยใช้มือสองไหม เคยใล่เก็บจนจบไหม
ปีที่แล้ว ผมเอามาคัน ญี่ปุ่นที่ตลาดมือสองมีกลุ่มเล่นด้วย
บอกใด้คำเดียวเหนื่อยมากกก (แต่แบบจบนะขับมาสองหมื่นละ)