ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมน้องๆเด็กๆสมัยนี้ชอบเรียน นิเทศศาสตร์กันมากๆ  (อ่าน 46270 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมเป็นห่วงน้องผมมากๆ ตอนนี้ใกล้จะEnt แล้ว อยู่ ม.6 ที่บ้านผมอยากให้เรียนบัญชีหรือบริหาร แต่มันจะเรียนนิเทศศาสตร์ มันชอบเล่นกล้องและการถ่ายทำหนัง  แถม

จะไม่ Ent แต่จะไปเรียน ม.กรุงเทพ ซึ่งผมและครอบครัวไม่เห็นด้วยเลย ต่อให้ได้ทุนก็ตาม

อยากรู้ว่าใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ ผมเข้าใจว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบนะดี แต่ถ้าเรียนมาแล้วทำมาหากินไม่ได้ จะเรียนไปทำไม
ผมก็ไม่รู้จะพูดกันอย่างไรแล้วครับ ขอถามความเห็นทุกคนครับ :D

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
มันเป็นความใฝฝันครับ ใครบอกว่า จะทำมาหากินไม่ได้ครับ ดูอย่าง กัปตัน ภูธเนศ วุธ อัษฎาวุธ และอีกหลายคนจบจากที่ม.กรุงเทพทั้งนั้น จบมาแล้วสามารถเป็นดาราได้ อย่างพี่ผมเรียนนิเทศศาสตร์ เพราะเค้าชอบทางด้านโฆษณา ถามว่าจบแล้วทำอะไรได้บ้าง คำตอบง่ายๆเลยคือ สามรถเปิดบริษัทได้เป็นของตนเอง ทางด้านโฆษณา ด้านการตลาด ผมว่าพี่น่าจะให้ในสิ่งที่เค้าชอบนะครับ เพราะความคิดเรามันไม่เหมือนกัน มีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกันครับ ถึงค่าเทอมมันจะแพงไปสักหน่อยแต่มันก็สามารถให้อาชีพเราได้ ให้ความสามารถเราได้เหมือนกันไม่แพ้มหาวิทยาลัยอื่นได้ครับ อย่างผมเนี่ย ถ้าent ก็คงเลืกที่นี่แหละ เหตุผลชอบการแสดงออกเป็นที่สุดครับ อยากจะฝึกฝนในสิ่งที่เราชอบ ซึ่งแม่ผมก็เห็นด้วยและทางบ้านก็เห็นด้วย แม้แต่พ่อที่อยากให้ผมเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ่อผมบอกว่า ถ้าได้ม. กรุงเทพ พ่อจะซื้อ โฟล์คเต่าให้ขี่ ถ้าได้ธรรมศาสตร์เค้าจะซื้อ bmw e34 ครับ ซึ่งถ้าให้เลือกผมยอมเอาโฟล์คเต่าขี่ไปมหาวิทยาลัยดีกว่า เพราะมันเป็นมหาวิทยาลัยที่ผมชื่นชอบมานาน และอีกอย่างมันใกล้บ้านดีด้วย ปีหน้าก็ต้องสอบ entrance แล้วเลยคิดไว้ว่าถ้าเอ็นไม่ติด ยังไงก็เข้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 04, 2011, 11:48:56 โดย Tan Methus »

ออฟไลน์ sewern

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 41
ทำไมถึงคิดว่าจะหางานทำไม่ได้ล่ะครับ
ผมว่าถ้าน้องเค้าชอบจริงๆ ก็คงจะทำได้ดีและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ
เปิดใจกับนิเทศศาสตร์ อีกนิดน่ะครับ :D

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
แต่พี่ว่าโอกาสที่จะทำกิจการมันยากนะ

เรื่องเรียน ม.กรุงเทพได้ทุนพี่ไม่ว่าหรอก แต่ขอเป็นคณะบัญชีหรือบริหารก็ได้ :D

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
ยากตรงไหนครับ เราสามารถเค้าไปขอสมัครงานได้ทุกที่ที่ทำเกี่ยวกับด้านนี้โดยเฉพาะ ด้านการตลาด ด้านการโฆษณา หรือแม้กระทั่งการเป็นนักแสดงได้ หรือถ้าเรามีงบพอก็สามารถสร้างกิจการได้ครับ อยากให้พี่เข้าใจตรงนี้และเปิดใจยอมรับมันครับ

ออฟไลน์ Nuttie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
จริงๆผมอยากเข้า วรสารศาสตร์สื่อสารมวลชน มธ. มาก

แต่ถ้าเข้าไม่ได้คงไม่ไปสอบที่ไหนอีกแล้ว คงจะเข้านิเทศน์ฯ เอแบค หรือไม่ก็ ม.กรุงเทพ


ถามผมว่าทำไมถึงอยากเข้า

ความชอบล้วนๆครับ จริงๆแต่ละคนเหตุผลก็ต่างกันไป ผมว่าให้เขาหาตัวตนของตัวเองให้เจอ

แล้วส่งเสริมให้เรียนในด้านที่เขาชอบ ดีที่สุดครับ


อย่าเอาเรื่องหางานทำในอนาคตมาตัดสินปัจจุบันเลยครับ ผมเชื่ออย่างนึงว่า อะไรที่มาจากความตั้งใจ ย่อมส่งผลดีเหนือสิ่งอื่นใด  :)

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆผมอยากเข้า วรสารศาสตร์สื่อสารมวลชน มธ. มาก

แต่ถ้าเข้าไม่ได้คงไม่ไปสอบที่ไหนอีกแล้ว คงจะเข้านิเทศน์ฯ เอแบค หรือไม่ก็ ม.กรุงเทพ


ถามผมว่าทำไมถึงอยากเข้า

ความชอบล้วนๆครับ จริงๆแต่ละคนเหตุผลก็ต่างกันไป ผมว่าให้เขาหาตัวตนของตัวเองให้เจอ

แล้วส่งเสริมให้เรียนในด้านที่เขาชอบ ดีที่สุดครับ


อย่าเอาเรื่องหางานทำในอนาคตมาตัดสินปัจจุบันเลยครับ ผมเชื่ออย่างนึงว่า อะไรที่มาจากความตั้งใจ ย่อมส่งผลดีเหนือสิ่งอื่นใด  :)
คำนี้โดนมากครับ  :D

ออฟไลน์ KAKASHII

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
  • งามปะละ
สั้นๆ  มันจบง่ายกว่าคณะอื่น  เรียนไม่หนัก งานไม่เยอะ

ออฟไลน์ osment

  • Internship
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 791
พูดถึงน้องของพี่ จขกท. น่ะครับ

ผมจะบอกว่า ปล่อยให้เค้าอยู่ในสิ่งที่เค้ารักเค้าชอบเถอะครับ เพราะการอยู่กับอะไรที่มันไม่ใช่ ไม่ชอบ มันเป็นสิ่งที่ทรมานมากถึงมากที่สุด
ยิ่งเรื่องการเรียน หากใจมันไม่ไปด้วย มีอุปสรรคแค่เล็กน้อย มันก็พาลท้อไปหมดเลยครับ
ชีวิตเป็นของเค้า เราเป็นห่วงได้ครับ แต่อย่าบังคับน้องเค้าน่ะครับ ปล่อยให้น้องเค้าตัดสินใจเอง
ถ้ามันจะพังก็ให้พังด้วยมือของเค้า หากจะดีก็ให้ดีด้วยตัวเค้า มันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าครับ

ส่วนตัวผม วันนี้ก็รอความหวังใหม่ตอน 6 โมงเย็นอยู่ครับ ดูแล้ว ริบหรี่เหลือเกิน แต่ก็มีความหวังครับ
หวังว่าจะได้เริ่มใหม่กับสิ่งใหม่ หลังจากที่ตรากตรำทนกับสิ่งที่ตนเองไม่ชอบและอดทนเพื่อความสบายใจของที่บ้านมาเป็นเวลาอันสมควรแล้ว
จะขอขีดชีวิตด้วยตัวเองบ้างครับ  ;) ;)

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
บัญชีคนเรียนเยอะ บริหารก็มากมี แน่ใจหรือว่าจบมาจะได้งาน และได้ทำงานที่เรียนมาครับ
จบมาแบบเขี่ยๆ ใครเค้าจะเอาครับ!

ทำสิ่งที่ชอบ ผลงานออกมาดี ผลงานโดดเด่น เชี่ยวชาญ รู้จริง ยังไงก็ไม่อดตายครับ
เปิดใจหน่อย น้องเค้าอุตสาห์รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแล้ว จะมีเด็ก ม.6 ซักกี่คนที่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร?
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ BnN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
    • อีเมล์
คุณ GreenG ครับ
การที่น้องคุณต้องการที่จะเลือกเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ แล้วเขาก็ยืนยันเช่นนี้แล้ว
ผมว่าปล่อยให้เค้าเรียนในสิ่งที่ชอบดีกว่าครับ เพราะถึงอย่างน้อยเค้าก็ชอบจริงๆ
แล้วถ้าหากเค้าได้เรียนแล้ว เค้าต้องมีความสุขมากแน่ๆ และสิ่งที่เค้าทำมันก็จะออกมาดีแน่นอน
ไม่มีใครอยากถูกบังคับว่าต้องให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้กันทุกคนหรอกครับ
ถ้าหากเค้าไปเรียนบัญชี ซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าไม่อยากเรียน แล้วโดนบังคับให้เรียน
ผมเชื่อได้เลยว่าเค้าจะต้องไม่มีความสุขตลอดระยะเวลา 4 ปีในชีวิตการเป็นนิสิตอย่างแน่นอน

ผมเองเนี่ยแหละเจอกับตัวมาแล้ว
ดันได้อันดับ 3 ซึ่งเป็นสาขาที่ตัวเองไม่คิดว่าจะได้ แต่ก็ได้มาเรียน เริ่มแรกปี 1 เข้าไปนั่งเรียน
เรียนๆไปคิดในใจ นี่กูมานั่งทำอะไรที่นี่วะ สาขานี้ไม่ใช่สาขาที่ชอบสักหน่อย
แต่สุดท้ายผมก็พยายามทำใจและยอมรับมันครับ ก็เรียนไป แล้วก็พยายามปรับตัวเข้ากับมัน
แล้วสุดท้ายก็เรียนจบตามระยะเวลา 4 ปี พอหลังจากผมจบมาแล้ว ผมก็มามองอีกมุมหนึ่งว่า
เออเรียนสาขานี้ก็ดีเหมือนกันนะ เราได้รู้เรื่องนี้ในสิ่งที่น้อยคนนักจะรู้ ถึงแม้จะเป็นสาขาที่ผมไม่ชอบก็ตาม

แต่ถ้าผมเลือกได้ ผมก็คงไม่เรียนสาขานี้หรอกครับ นอกจากได้เลือก 4 อันดับสาขาตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
มันก็อยู่ที่ดวงอีกอยู่ดีว่าเราจะได้เรียนในสาขาที่เราอยากเรียน หรือมหาวิทยาลัยที่เราอยากเรียนด้วยหรือเปล่า
ที่สำคัญ ต้องแข่งขับกับคนทั่วประเทศอีกเป็นแสน กว่าจะฝ่าฟันได้ เหนื่อยครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าน้องของคุณ GreenG อยากเรียนในสิ่งที่เค้ามั่นใจแล้วว่าเค้าอยากเรียนจริงๆ
ให้เค้าเรียนเถอะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเค้าได้เรียนแล้วมันต้องออกมาดีแน่นอน ใครจะไปรู้ว่าในอนาคต
น้องของคุณอาจจะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลหรือมีฝีมือในวงการก็ได้

ส่วนเรื่องการหางานทำในสาขานี้ ยอมรับว่าทุกวันนี้คนที่จบสาขาต่างๆในคณะนิเทศศาสตร์มีเยอะมากถึงมากที่สุดครับ
เพราะฉะนั้นการที่จะอยู่รอดในวงการและสาขานี้ได้ จะต้องเจ๋งจริง ในหัวมีความคิดสร้างสรรค์จริงๆ ถึงจะไปรอดครับ
แต่คุณ GreenG ก็อย่าเพิ่งคิดว่าน้องคุณจะไปไม่รอดนะครับ เพราะอนาคตมันก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ให้น้องคุณได้เดินทางเส้นทางที่เค้าอยากจะเดิน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ

อีกอย่าง ผมเชื่อว่าสมัยนี้คนส่วนใหญ่ที่จบมาเป็นบัณฑิตแล้วเนี่ย
มีทั้งคนที่ทำงานตรงสายและไม่ตรงสาย ยกตัวอย่าง ตัวผมเป็นต้น
จบบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ แต่ตอนนี้กำลังมีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง

ออฟไลน์ Jae_156JR

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 242
แล้วท่านเจ้าของกระทู้จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเรียน บัญชี หรือบริหาร จบมาจะมั่นคง มีงานทำ ?

ตอบจากประสบการณ์...ให้น้องเลือกสิ่งที่ชอบ เรียนแล้วจะมีความสุข ...ผมว่าน่าจะดีกว่านะครับ

ขืนไปบังคับให้เรียนตามใจคนที่ไม่ได้ไปเรียน..จะแย่เอานะครับ ผมเห็นมาแล้วนะ ประสบการณ์ตรง

อาจจะจะตอบอะไรได้ไม่มาก แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ

สุดท้าย จะเรียนที่ไหน ดังแค่ไหน เอนท์ติดหรือไม่ ไม่สำคัญ อยู่ที่เป็นคนที่มี"คุณภาพ"ของสังคมครับ

จากใจ..ศิษย์เก่า นิเทศฯ ม.กรุงเทพ รหัส 145 ครับ

ออฟไลน์ bigglives

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 531
  • Love Technology
    • อีเมล์
สงสัยเพราะมันง่ายล่ะมั้ง แต่ผมว่า เรียนในสิ่งที่ชอบ ดีที่สุด เพราะมันเป็นความรู้ที่ต้องติดตัวไปตลอดชีวิตและการทำงานของเรา เราฝันว่าจะทำงานอะไร จงไปให้สุด และเรื่องมหาวิทยาลัย พูดจริง ๆ นะมันจริงอยู่ที่จะเป็นรัฐบาลหรือเอกชน แต่คุณจบมา มันช่วยได้แค่ทำให้ใบสมัครงานคุณน่าสนใจขึ้น แต่ถ้าคุณตั้งใจเรียน ทำงานเป็นได้ มันก็ดีกว่าที่เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่เกรดการเรียนไม่เอาไหนเลยครับ  8)
Twitter : @bigglive
facebook : facebook.com/bigglive
Website : itcoolgang.com

ออฟไลน์ *Zatan_p2*

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 914
    • อีเมล์
ผมจะเล่าเรื่องของเพื่อนผมให้ฟัง
คือเพื่อนผมมันสอบตรงติด  นิเทศของมหาลยัแห่งหนึ่ง
ตอนที่มันสอบติดมันดูมีความสุขมากๆ
แต่ ที่บ้าน(พ่อ)อยากให้เรียนบัญชี   เพราะที่บ้านมีบริษัทบัญชีอยู่
พ่อเพื่อนส่งมันไปเรียนพิเศษ  ทุกอย่าง รู้สึกจะหมดไปหลายหมื่นอยู่

ในที่สุดในมันก็สอบติด  ได้บัญชี ม.เกษตร

แต่!  พอเพื่อนไปเรียนได้ปีเดียว เท่านั้น
เพื่อนผมได้เกรด แค่ 1.3เท่านั้น 
เพื่อนผมต้องบอกพ่อมันแล้วย้ายไป ธุรกิจระหว่างประเทศ แทน  แต่เกรดของมันยังดีหน่อยเป็น1.99

ลองเอาไปคิดดูครับ  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องด้วยครับแล้วทางบ้านด้วย 

เพราะว่านิเทศและบัญชีใช่ว่าจะหางานกันง่ายๆครับปัจจุบันนี้  ถ้าทำเกรดมาดี  แล้วเก่งภาษา  อันนี้ก็ได้งานดีๆครับ

แต่คุณจบมากเกรดไม่สวย  ทักษะไม่ดี ภาษาไม่เก่ง  อันเหนื่อยหน่อยครับที่จะได้งานดีดี
แล้วได้งานแล้วเค้าก็ทิ้งใบจบกันหมดครับ  มันต้องเริ่มจาก0อยู่ดีครับ
เก่งแกมดีเป็นศักดิ์เป็นศรีกว่าเก่งแกมโกง

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
นานาจิตตังครับ เรื่องแบบนี้พูดยาก ไม่ออกความเห็นดีกว่า  แต่ยังไงคนเรามันก็มีหลากหลาย อะไรที่มันดูไม่น่าจะเวิร์ค บางคนอาจจะทำแล้วเวิร์คก็ได้ครับ มีให้เห็นเยอะอยู่นา

ออฟไลน์ Sman

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ไม่เข้าใจทำไมไปคิดว่านิเทศศาสตร์เรียนง่าย

ผมว่ามันก็เหมือนการเรียนในทุกวิชานั่นล่ะ มีความยากง่าย ผสมกันอยู่

น้องสาวผมก็เหมือนของคุณ Green G ครับ เลือกเรียนนิเทศเหมือนกัน พยายามจะบอกให้ไปเรียนบริหาร หรือเรียนบัญชี เขาก็ไม่เอา เขาไม่ชอบตัวเลข

อ้อ เรียนบริหารตกงานเยอะน่ะครับ แต่เรียนบัญชี ถ้าทำได้ดีๆ อันนี้ไปรุ่งเลย หางานไม่ยากด้วย ตลาดยังรองรับอีกเยอะครับ

ส่วนเรื่องมหาวิทยาลัย น้องสาวผมบอกจะเรียนแค่ 2 ที่ คือวารสาร ธรรมศาสตร์ หรือไม่ก็นิเทศ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ต้องบอกอย่างนึงว่า สาขานี้ 2 แห่ง นี้ดังมาก และอีกที่คือนิเทศ จุฬา แต่หลังๆ 2 ที่แรก วัยรุ่นอยากเข้ามากกว่า โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่นี่เด่นมากด้านนิเทศครับ

การเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก็ไม่ใช่เข้าได้เลยน่ะครับ ต้องสอบเข้าไม่แตกต่างกัน ยิ่งสาขาคนต้องการเข้าเยอะ ก็อาจมี 1 ต่อ 4 หรือ 1 ต่อ 5 บางสาขา อาจ 1 ต่อ 10 เลยก็มี ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะเข้าไปได้ ยกเว้น เกรดตอนมัธยมสูงๆ อันนั้นมีโครงการพิเศษสามารถสัมภาษณ์แล้วเข้าได้เลย ถ้าเขารับครับ

ตอนนี้น้องผมก็ได้เรียนอย่างที่เขาอยากเรียน เป็นสาขาโฆษณา ก็ยังอึ้งอยู่ ว่าจบแล้วจะไปทำมาหากิน อะไรหว่า แต่ก็ยังดี ได้เรียนในสิ่งที่เขารักครับ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ผมเป็นห่วงน้องผมมากๆ ตอนนี้ใกล้จะEnt แล้ว อยู่ ม.6 ที่บ้านผมอยากให้เรียนบัญชีหรือบริหาร แต่มันจะเรียนนิเทศศาสตร์ มันชอบเล่นกล้องและการถ่ายทำหนัง  แถม

จะไม่ Ent แต่จะไปเรียน ม.กรุงเทพ ซึ่งผมและครอบครัวไม่เห็นด้วยเลย ต่อให้ได้ทุนก็ตาม

อยากรู้ว่าใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ ผมเข้าใจว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบนะดี แต่ถ้าเรียนมาแล้วทำมาหากินไม่ได้ จะเรียนไปทำไม
ผมก็ไม่รู้จะพูดกันอย่างไรแล้วครับ ขอถามความเห็นทุกคนครับ :D
อย่าดูถูกความคิดคนอื่นสิครับ สิ่งที่ชอบเนี่ยมันเอาไปหากินได้เสมอแหละ มันอาจจะไม่สวยหรู ดูไม่มีเกียรติ แต่มีความสุขแน่ๆครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนเลือกทางเดินตัวเองแล้วต่อให้เงินไม่เยอะ ไม่มียศ ไม่มีเกียรติ แต่มีความสุขนั้นก็น่าจะคือที่สุดของชีวิตคนๆนึงแล้วไม่ใช่หรอครับ ?

และการศึกษามันก็ไม่ใช่ความสุขที่จอมปลอมซะหน่อย ถ้าน้องคุณจะดูดม้า ดวดเหล้า ทำลายสุขภาพ นั้นสิถึงต้องห้าม

แต่ผมแนะนำว่าถ้าจะให้ดีเรียนนิเทศน์แล้วควบอีกคณะสิครับ เช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิกไปทำกราฟฟิกโฆษณา,MV ควบรัฐศาสตร์ไปเป็นโฆษกรัฐ
เยอะแยะครับ ถ้าคนมันจะไป เงินดีๆทั้งนั้นสายนี้


ผมว่าจะเรียนบริหารที่บ้านผมทำธุรกิจ ว่าจะมาสานต่อกับกิจการที่บ้านตัวเอง  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 04, 2011, 18:25:10 โดย Codename - H »
H.

ออฟไลน์ CRO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 843
-_- หมอตกอันดับไปเร้นนนรึนี่ น่ากลัวมากมาย เอิ๊ก

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ผมเป็นห่วงน้องผมมากๆ ตอนนี้ใกล้จะEnt แล้ว อยู่ ม.6 ที่บ้านผมอยากให้เรียนบัญชีหรือบริหาร แต่มันจะเรียนนิเทศศาสตร์ มันชอบเล่นกล้องและการถ่ายทำหนัง  แถม

จะไม่ Ent แต่จะไปเรียน ม.กรุงเทพ ซึ่งผมและครอบครัวไม่เห็นด้วยเลย ต่อให้ได้ทุนก็ตาม

อยากรู้ว่าใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ ผมเข้าใจว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบนะดี แต่ถ้าเรียนมาแล้วทำมาหากินไม่ได้ จะเรียนไปทำไม
ผมก็ไม่รู้จะพูดกันอย่างไรแล้วครับ ขอถามความเห็นทุกคนครับ :D

ก็ให้เค้าเรียนตามที่ชอบนั้นแหละครับดี
ทุกอย่างย่อมมีการปรับตัวไปเองครับ มันถึงไม่ได้มีอาชีพเดียวในประเทศไงครับ อีกอย่างพวกวิศวะเนี่ยก็แย่งงานบริหารเยอะด้วยนะครับ ที่สำคัญมันแปลกตรงที่ว่าดันทำได้ดีกว่าด้วยนี่สิเราถึงเห็นวิศวะนั่งเป็นผู้บริหารเยอะแยะตามบริษัทต่างๆ

หลังจากที่ผมจบออกมามันทำให้รู้ว่าการศึกษาทำให้คิดเป็น  ใครคิดไม่เป็นจบอะไรมามันก็ไม่มีผลต่างจากที่คนที่ไม่จบมาเลยครับ

ออฟไลน์ Nuttie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
-_- หมอตกอันดับไปเร้นนนรึนี่ น่ากลัวมากมาย เอิ๊ก

ไม่ตกหรอกครับ แค่คุยกับคนของ "เด็กศิลป์" หน่ะ  ;D


ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
-_- หมอตกอันดับไปเร้นนนรึนี่ น่ากลัวมากมาย เอิ๊ก

เพื่อนผมเป็นหมอกันหลายคน บ่นเหมือนกันว่า เหนื่อย ไม่มีเวลาไปไหนเลย ไม่ได้เที่ยวไหนเลย มีลูกอย่าส่งมาเรียนเลย
คนอยากเรียน อยากเป็นหมอกันอยู่เยอะแล้ว รายได้ดีแต่งานไม่สบายครับ เจอคนไข้โรคจิต เอาแต่ใจ ไร้สาระเยอะมาก

ทุกอาชีพมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป อยู่ที่เราเลือกจะอยู่กับสิ่งไหน ทำกับสิ่งไหนครับ
 ;D ;D ;D


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 04, 2011, 19:17:57 โดย udis »

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,197
เด็กวิทย์ยังฮิตหมอกับวิศวะอยู่เหมือนเดิมครับ ;)
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ TJA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 643
เรียนอะไร จบมาก็ทำงานตรงสายงานน้อยมากๆครับ
ยกเว้นว่าจะเป็นวิชาชีพเฉพาะทาง ที่ต้องอาศัยความรู้เฉพาะด้าน
หรือวิชาชีพที่ต้องมีการควบคุมหรือออกใบประกอบวิชาชีพ

สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า ถ้าจะเลือกเดินแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ดีครับ
ทุกวิชาชีพมันมาทางไปของมันอยู่ ไม่งั้นคงไม่เปิดหลักสูตรมาสอนหรอกครับ
เพียงแต่ว่าคนจะเลือกเรียนเยอะ จบมาก็ต้องแข่งขันหางานกันสูงสักหน่อย
นิเทศฯจะว่าไปแล้ว คนที่เลือกเรียนเพราะตามเพื่อน หรือเพราะอยากจะเป็นคนเด่นคนดัง ฝันอยากเข้าวงการ อันนี้ก็เยอะ
แต่คนที่เลือกเรียนด้วยอุดมการณ์ เรียนเพราะรู้แจ้งเห้นจริงในหนทางของวิชาชีพ อันนี้ก็มีอยู่
สุดท้ายแล้วก็คงมาตัดสินกันที่ฝีมือและความสามารถที่แท้จริงตอนทำงานครับ

แต่ผมอยากจะบอกอยู่อย่างนึง ในฐานะของคนที่เรียนจบเกี่ยวข้องกับสายApplied Artนะครับ
ว่างานในสาย์Artทั้งหลายแหล่ บางครั้งคุณมีแค่ความตั้งใจจริง ก็อาจจะไม่พอเพียงครับ
วิชาชีพพวกนี้ มันต้องสำหรับคนเกิดมากับSenseด้านนี้จริงๆครับ ถึงจะทำแล้วได้ดี มีชื่อเสียง
หากคุณมีแต่ความตั้งใจความขยัน คุณก็ทำได้เหมือนกัน คุณก็อาจจะเป็นคนคุณภาพคนหนึ่งในวงการ
แต่กับคนที่เกิดกับSenseพวกนี้ ถ้าไม่ระเริงจนเสียอนาคตไปซะก่อน พวกนี้ล่ะที่จะเป็นSuperstarของวงการ

อีกประการที่อยากจะบอก สำหรับน้องๆที่กำลังจะเลือกเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
ข้อมูลล่าสุดที่ออกข่าวกันมา สายสังคมศาสตร์ตกงานกันเยอะที่สุดนะครับ
ก่อนจะเลือกเรียนก็ลองหาข้อมูลกันให้ดีๆ รวมไปถึงชื่อเสียงและพัฒนาการของสถาบันนั้นๆด้วยนะ
อย่าไปเชื่อว่าการทำงานอยู่ที่ความสามารถตัวเราเพียงอย่างเดียว มันไม่สวยหรูขนาดนั้นหรอกครับ
จบออกมาแล้วจะรู้ครับ ว่าConnectionมันสำคัญขนาดไหนในการทำงาน..ในโลกแห่งความเป็นจริง    ;)

.-_-.

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
จะบอกว่า เด็กสมัยนี้ ส่วนใหญ่ ชอบเรียนนิเทศศาสตร์หมดก็ไม่ใช่หรอกนะครับ (ถึงส่วนตัวแล้วเพื่อนในแก๊งเองไปทางนั้นก็มากอยู่) ไม่งั้นคณะเหล่านี้คงล้น คณะอื่นเหงาหงอยแล้วล่ะครับ แต่พี่น่าจะอิงจากคุณน้องของพี่มากกว่า

ซึ่งถ้าเขาอยากเข้าแล้วมีความตั้งใจจริง เปิดโอกาสให้เข้าไปดีกว่านะครับ ขอยกตัวอย่างเพื่อนคนหนึ่งที่มันชอบทำในด้านนี้ ถึงมันจะอีโก้จัด อวดเก่ง แต่มันก็มีความสามารถทางวารสารฯ อยู่ในระดับใช้ได้ทีเดียวครับ เพราะมันรักทางนี้น่ะ

ออฟไลน์ jobbabys

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
Re: ทำไมน้องๆเด็กๆสมัยนี้ชอบเรียน นิเทศศū
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 18:12:26 »
ขอเล่าบ้างนะครับ
อาจจะมีพิมผิดเยอะมากนะ แต่ขี้เกียจแก้ จะพยายามไม่ผิดละกันครับ
เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า

เหมือนเจ้าของกระทู้เดะเลย

คือ คุณน้องอยากเรียน นิเทศครับ คนที่แอนตี้อย่างหนัก คือ พ่อกับแม่ผมครับ

น้องผมเรียนมัธยม ได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 3.8-3.9 ครับ ไม่แน่ใจเท่าไร
ซึ่งพ่อผมเป็นวิศวกร แม่ทำธุรกิจ
ตัวผมเองก็วิศวกร
พอมาน้องผม ถามว่าอยากเข้าที่ไหน น้องบอกกับผมว่า

อยากเรียน นิเทศ อือม ผมก็โอเค เพราะอะไรหรือครับ เพราะเป็นสิ่งทีน้องผมชอบ
เพราะผมเจอประสบการณ์กับตัวเองมาแล้วว่า

สิ่งที่ผมเรียนมา ทำงานมา ผมไม่ชอบเลย ทำงานไม่มีความสุขเลย สุดท้ายต้องมาทำกิจการที่บ้านของแม่
เหนื่อยมาก แต่มีความสุขๆ สุดๆ เพราะอะไรหรือครับ

ตอนที่ผมจะเอน ก็โดนความคิดพ่อผมว่า เรียนวิศว สิดี  ทั้งๆที่ ใจผมนั้น ชอบ เศรษฐศาสตร์เป็นอย่างมากๆๆ

แต่สุดท้าย ไม่ว่ายังไง พ่อก็ไม่เห็นด้วยครับ ก็เลยเรียน วิศว จนจบ เกรดแรกๆ ก็ไม่ดีเลย
เคยต่ำสุดได้ 1.4 ยอมรับว่า ท้อครับ แต่พอตั้งใจ ก็ได้เกรดสูงสุดที่ 3.89 ครับ

ใช่ครับ ที่ว่า คนเราถ้าตั้งใจจริงแล้ว เราทำได้ ใช่ครับ แต่จบไป ทำงาน ไม่ได้อย่างที่ชอบเลย
สุดท้ายลองไปสอบ ป.โท เล่นๆ เศรษฐศาสตร์ สอบภาคปกติ ของ ม.เกษตร สอบประมาณ 3พันกว่าคน
สอบผ่านอยู่ที่ 152 คน ผมก็เป็น 1 ในนั้น แต่เสียดายครับ ตกสัมภาษณ์ เพราะตอนป.ตรี ไม่มีวิชาพื้นฐาน
เศรษฐศาสตร์เลย อาจารย์เค้าก็ห่วงว่า เราจะเรียนหนักมาก ก็โอเค ไม่เป็นไร

ทีนี้ พอมาถึงน้อง น้องก็บอกผมคนเดียว ว่าจะเรียน นิเทศ ผมบอกว่า แน่ใจนะ ว่าชอบ

ผมก็เลยสนับสนุนเต็มที่ครับ แล้วพอตอนหลังค่อยเผยทีละนิดให้พ่อแม่ รับรู้ เพื่อทำใจครับ

แรกๆก็เถียงกันพอสมควรนะครับ แต่สุดท้าย เค้าก็พอรับได้ แต่ก็ยังมีประมาณว่า
เลือกวิศว เผื่อไว้ซักอันดับได้ไหม สุดท้าย น้องก็ยอมเลือกวิศว ไว้อันดับสุดท้าย

โดยเลือ นิเทศ จุฬา อันดับ 1
นิเทศ ม.กรุงเทพ อันดับ 2
3จำไม่ได้
4 วิศว ที่พระจอมเกล้า

แล้วประเด็นอยู่ที่ว่า น้องผม สอบตรงติด วิศว ปิโตรเคมี อันนี้ก็เพิ่งทราบจากแม่วันนี้เอง
แต่น้องไม่ไปรายงานตัวครับ

แล้วคะแนนน้อง ติด วิศว จุฬาสบาย ครับ

พอสุดท้าย หลุดนิเทศ จุฬา แต่ได้ที่ ม.กรุงเทพแทน เลยไม่ต้องไปรอสอบทีหลัง

ถามน้องมัน ว่าตรงที่ต้องการไหม มันบอกว่าตรงเลย เพราะอยากเข้าที่นี่มากกว่าที่จุฬาครับ

ที่จุฬาอันดับ 1 นี่ผมบังคับเอง ฮาๆ

สุดท้าย รู้ไหมครับ  ชีวิตวัยเรียนที่น้องผมเลือกเอง ปรากฏว่า

เรียนได้ 4.00 ทุกเทอมครับ จนตอนนี้จะขึ้นปี 4 แล้วครับ

แล้วเป็นคนแรกของ ม.กรุงเทพ ที่ทำคะแนนวิชา สถิติ ของมหาลัย ได้ เต็ม 100 คะแนนครับ
ผมยังอึ้งเลย
อาจารย์เรียกไปคุยเลยครับ ว่าทำได้ไง

จนสุดท้าย ตอนนี้ กลายเป็นว่าสนิทกับอาจารย์หลายๆท่านมากๆ
ส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้กำกับหนังชื่อดังทั้งนั้น

ล่าสุด อาจารย์ที่สนิทกัน ก็เรียกไปทำงานที่กองโฆษณา ของพอนส์ โดนมี

ญาญ่า เป็นพรีเซนต์เตอร์ ถ่ายที่ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นเหมือนอิเวนจ์ ที่ออกกิจกรรมของ พอนด์

ล่าสุด อาจารย์จะฉุดน้องผมไปที่ ขอนแก่นด้วย ก็ยังไม่รู้ว่าติดกับวิชาที่เรียน ซัมเมอร์หรือไม่

แล้วทั้งรุ่น อาจารย์เรียกน้องผม กับรุ่นพี่อีกคน ไปทำแค่ 2 คนเท่านั้นครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว

ให้ตัวน้องเค้ากำหนดชะตาชีวิตด้วยตัวเองเถอะครับ แล้วเค้าจะมีความสุขกับงานที่ทำครับ
เพราะเราก็ไม่สามารถคอยบอกทิศทาง หรือจับเค้าเป็นนู้น เป็นนี่ หรือดูแลเค้าไปตลอดชีวตหรอกครับ

สุภาษิตไทยเองก็ยังมีเลยครับ ว่า "พ่อแม่ รังแกฉัน" อาจจะไม่ตรงมาก แต่อย่างน้อย

ให้เค้าเลือทางเดินของชีวิตเอง ภายภาคหน้า เค้าจะได้ไม่โทษใครว่า รู้งี้เรียนนี่ นั่น ดีกว่า

ป.ล. ยาวนิด แต่จะจบละ

ขอพูดเรื่องทุนนิดหน่อยครับ

ที่ม.กรุงเทพ จะมีทุนเรียนดีครับ แต่จะได้เต็มจำนวนแค่ ปีเดียวเท่านั้นครับ
จะได้ปีไหนก็ได้ ส่วนหลังจากนั้น ถ้าเราได้เรียนดีอีก
เราจะได้มากสุดแค่ 5000 เท่านั้นครับ

เพราะน้องผมได้ทุกปีอะครับ

ป.ล. น้องผมเรียน นิเทศ ภาควิชา ภาพยนต์ครับ

แล้วใครว่าเรียน นิเทศ ง่าย ตอบได้เลยว่า ไม่จริงครับ เห็นมันกลับบ้าน เที่ยงคืน - ตี 2 บ่อยมากครับ
มีไร ติดต่อหลังไมล์ได้นะ เรื่องนิเทศ จะให้น้องผมมาตอบเอง

ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2011, 18:15:51 โดย jobbabys »

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ :D

ได้ความรู้จากทุกคนมากมายโดยเฉพาะเรื่องเรียน นิเทศ ม.กรุงเทพ :)

ออฟไลน์ kongz158

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
เพื่อน-ทำไมเมิงเลือกเรียนคณะ.........นี้วะ จบมาจะมีงานทำเหรอ
ผม-กุชอบ

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,724
  • Blue. Just BLUE.
รักที่จะเรียนอะไรซักอย่างก็อย่าไปห้ามเขาเลย
ถ้าเขาไปไม่รอดก็อย่าไปดุด่าว่ากล่าวให้เขากดดัน
ให้โอกาสเขาอีกครั้งที่จะให้เขาเลือกไปในทางที่ถูกต้อง
เพราะผมเองก็เคยเดินพลาดมาก่อน
แต่ก็ยังรักที่จะเดินไปยังเส้นทางเดิม
และแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาในอดีต :)
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
เอาของตัวเองละกัน โดนมาเต็มๆ

บ้านผมอยากให้เป็นหมอ ไม่ก็ทันต ไม่ก็เภสัช ด้วยเหตุผลที่ว่ารายได้ OK ไม่เตะฝุ่น

ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ถึงแม้ว่าใจจะชอบวิศวะ แต่คะแนนชีวะ ของผมดีกว่าฟิสิกส์มาก ส่วนเลขผมดูไม่จืด ก็เลยได้เภสัช แต่พอเข้าไปเรียน 3 ปีแรก นรกมากๆ เพราะไม่ชอบ ผมไม่ชอบอะไรที่ต้องไปยุ่งกับคนป่วยเท่าไร เพราะมันเป็นเรื่องละเอียด แล้วเราก็ชอบพวกเครื่องจักร/comp มากกว่า 3 ปีแรก ถึงขั้นกลับมานั่งร้องไห้ว่าอยากไปเอนท์ใหม่ก็เคย เกรดก็ไม่ต้องพูดถึง 1.98 ก็เคยมาแล้ว D เพียบ แถมยังเจอ F ไปอีกตัว

แต่ก็ยังดีว่าปีสุดท้ายได้เรียนสายการผลิต ไม่ต้องไปยุ่งกับคนป่วย แล้วก็ฝึกงาน detail ที่ทำให้รู้สึกชอบงานนี้ขึ้นมาบ้าง

ทุกวันนี้พ่อก็ยังอยากให้ไปเรียนหมอ แต่ก็นะ งานดูแลคนไข้ เป็นอะไรที่เกลียดที่สุดเลย
ผมว่าคุณ GreenG ปล่อยให้น้องไปตามทางที่เขาเลือกเถอะ คนเราถึงจะลำบากแค่ไหน ถ้ามุมานะมันก็ผ่านไปได้ ผมว่าเป็น เป็นหัวแถวในงานที่ใช่ ดีกว่าเป็นหางแถวในงานที่ชัง เพราะชีวิตมันไม่ได้สวยหรูแค่ว่าเอนท์ติดเข้าไปสถาบันดีๆ แล้วก็ลอยลำ มันไม่ใช่ยุคแบบนั้นแล้วครับ

ทุกสายงานมันมีทางทำมาหากินหมดนั่นละครับ ถ้าเราเก่งพอ

แต่ถ้าเราเรียนได้ไม่ดี ก็จะรู้สึกเหมือนเรียนจบมาก็เหมือนไม่จบ เพราะความรู้เราไม่แน่น จะไปแข่งขันกับใครก็ไม่ได้ครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ... เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด... เด้อครับเด้อ
'19 Honda Civic EL