ผู้เขียน หัวข้อ: มีคำถามเรื่อง "ความจุกจิก" และ "ค่าซ่อมบำรุงครับ"  (อ่าน 6981 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ma_Mhee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
ว่างเมื่อใดเป็นต้องเข้าเวปรถเป็นประจำ

เข้ามาหลายเวปหลายบอร์ดแต่ไม่เคยโพสเลย

อ่านอย่างเดียวมาตลอด

ได้เจอเวปนี้แล้วรู้สึกชอบ

จึงขออณุญาติปักหลักอยู่บอร์ดนี้ละกันครับ  :)

ขอเข้าสู่คำถามเลยละกัน

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อรถซักคันของผมคือ ความจุกจิก และ ค่าซ่อมบำรุง

เนื่องจากชอบที่จะใช้รถแล้วให้เค้าอยู่กับเราไปนานๆ  (ไม่ต่ำกว่า 8-10 ปี)

ความจุกจิกในความหมายของผมคือ

ความถี่ในการนำรถเข้าอู่

ถ้ารถมีปัญหาบ่อยๆที่ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของเราเองจนต้องเข้าอู่เป็นประจำคงจะไม่ไหว

ส่วนค่าซ่อมบำรุงผมเข้าใจว่า

มันแปรผันตามค่าตัวรถที่เราซื้อมา และตามอายุของรถ

และอาจจะมีตัวแปรอื่นอีกที่ผมไม่รู้

เกริ่นมาซะนาน -  -"

ครับ

คำถามที่ผมจะถามคือ

จริงๆน่าจะเรียกว่าเป็นโจทย์มากกว่านะเนี่ย

จงเรียงลำดับ ความจุกจิก กับค่าซ่อมบำรุง (มองเป็นระยะยาวซัก 10 ปี) ของรถดังต่อไปนี้จากมากไปหาน้อย (เหมือนคำถามในข้อสอบเลยแหะ 5 5 5 +)

1. Mazda 3 2.0 Moonroof Hatch Back
2. Honda Accord 2.4 (ตัวใหม่สุด)
3. Benz E220 CDI w211 รุ่น Face Lift (มือสอง)
4. Benz CLK200 w209 (มือสอง ปี 2007 ถึง ปัจจุบัน)
5. BMW 520d E60 minor change (มือสอง)
6. VW Passat CC 2.0 TSI
7. VW Scirocco 2.0 TSI

ถ้าตามความคิดของผมจากประสบการณ์อันนิดน้อยน่าจะเป็นแบบนี้

จุกจิกมาก 520d / CLK200 / Scirocco / E220 CDI / CC / 3 / Accord จุกจิกน้อย

ค่าซ่อมบำรุงมาก 520d / CLK200 / E220 CDI / Scirocco / CC / 3 / Accord ค่าซ่อมบำรุงน้อย

มั่วออกมามันก็คล้ายๆกันเลยแหะ -  -"

ก็ประมาณนี้ครับ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบครับ

และถ้าผิดพลาดประการใด รบกวนท่านพี่ๆน้องๆ ชี้แนะด้วยครับ
. . . ??????  ?????????? . . .

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ผมก็เรียงคล้ายๆคุณแหละครับ

แต่ผมว่าCLK น่าจะจุกจิกมากกว่า

ส่วนพวกเครื่องดีเซล
หายห่วงเรื่องเครื่องในระยะยาวไปได้ แต่อาจจะรำคาญระบบไฟฟ้า

d520  E CDI จึงชนะคะแนนไป

เพราะผมคิดว่า CLK มือสอง เจ้าของคงอัดมาเยอะกว่าพวกรถซีดานนั่งสบายๆแน่ๆ

ส่วนจุกจิกน้อยสุด Masda3 Accord น่าจะพอๆกัน (เอนๆไปทางaccord)
ค่าซ่อมบำรุงผมคิดว่าaccordแพงกว่า เพราะรถคลาสสูงกว่า(อย่างน้อยๆก็ค่าภาษี - -'')

ออฟไลน์ simcity

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,372
ตัวอื่นๆ no comment ครับ เพราะไม่เคยใช้ และ ไม่เคยขับ

ขอตอบตัวที่ 1. Mazda3 hatchback ตัวเดียว ละกันนะครับ เพราะใช้อยู่ครับ

รถผมปี 2006  จนถึงบัดนี้ วิ่งมาประมาณ 7x,xxx กิโล  ติดแก๊ส LPG ด้วย  หุหุ  (ติดแก๊สตั้งแต่ 4x,xxx กิโล)

ปัญหาจุกจิก ยังไม่มีให้เห็นครับ  ส่วนค่าซ่อมบำรุงรักษา  เข้าเช็คตามระยะ ก็ประมาณ 2-3 พันบาทครับ  

อะไหล่ เบิกศูนย์ ถือว่าแพงไปนิด แถมบางตัวรอนาน ( อันนี้ยังไม่เคยเจอกับตัว แต่เพื่อนๆ ที่ใช้ mazda3 เจอกันเยอะ)

ศูนย์บริการ ถือว่า พอใช้ได้ แต่มีน้อยไปหน่อย ในความคิดของผมครับ  

ยิ่ง mazda3 ช่วงหลังๆ ขายดีมาก รถเยอะ แต่ศูนย์บริการ ยังมีเท่าเดิม

ก่อนหน้านี้ เวลาเช็คระยะ ก็ขับรถไปทิ้งไว้ที่ศูนย์  3-4 ชม. ก็เสร็จ  ทิ้งรถไว้ เย็นไปรับ

แต่ปัจจุบันนี้ ต้องโทรนัดล่วงหน้าก่อน เป็น อาทิตย์ครับ

ออฟไลน์ Ma_Mhee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
จริงๆแล้ว Mazda 3 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมให้ความสนใจมากทีเดียว

แต่ติดอย่างเดียวคือ

ผมตัวอ้วน

5 5 5 5 5 +

นั่งแล้วรู้สึกคับไปหน่อย

สงสัยต้องลดน้ำหนักซะแล้วสิ T ^ T
. . . ??????  ?????????? . . .

ออฟไลน์ ghia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 346
  • the power of bear
    • อีเมล์
ผมว่าบางทีความจุกจิกมันก็แปรผันกับค่าซ่อมด้วยเหมือนกันนะครับ

บางทีชิ้นส่วนบางชิ้นเสียแต่สามารถให้ช่างข้างนอกถอดเปลี่ยนอะไหล่เล็กๆได้

ก็อาจจะเสียแค่ค่าประเก็นร้อยกว่าบาท

แต่ถ้าเข้าศูนย์ก็สั่งเปลี่ยนทั้งพาร์ทอาจจะหลายพันบาท

แต่งานที่ออกมาก็ต้องวัดดวงดู

ว่าช่างที่เปลี่ยนปะเก็นให้จะมือดีขนาดไหน

ส่วนอะไหล่ที่เปลี่ยนที่ศูนย์ทั้งชิ้น

ยังไงก็มาตรฐานศูนย์

หรือถ้าเสียที่เดิมก็ยังมีประกันหลังการซ่อมให้

สิ่งต่อมาก็แปรผันต่อเทคโนโลยีที่มีมากับรถ

ยังไงๆเครื่อง 1KZ ก็น่าจะซ่อมง่ายกว่า 1KD

อีกอย่างก็คือศูนย์บริการที่มีอยู่อย่างทั่วถึง และความสามารถของช่างในศูนย์

หรืออย่างบางยี่ห้อมีศูนย์บริการไม่กี่ที่แต่มีอู่นอกฝีมือดีๆเพียบ
???????????? ??????????? ????????????????? ????????????????????? ??????????????????? ???????????????? ?????????????????????? ???????????????????? ???????????????? ???????????????? ????????????????? ??????????????????

ออฟไลน์ earth_e60

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 533
    • อีเมล์
520d เรื่องเครื่องยน ดีเซล ไม่จุกจิก ฟันธง!! แต่เบนซินค่อยว่ากันไปครับ