ปีนี้ตั้งเป้า 4,000 คัน
ปีหน้า 8,000 คัน เพราะมีรถรถ mpv+เก๋งใหญ่
----------------------------
เสียง ประกาศกร้าวจากชายหนุ่ม ร่างเล็ก ดูเรียบง่ายไร้พิษสงแต่แฝงไว้ด้วยคมเขี้ยวและพละกำลัง เขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการรถยนต์มาหลายสิบปี ผ่านการเป็น "ดิสทริบิวเตอร์" รถยนต์มาไม่รู้จักกี่ยี่ห้อ ทั้งโอเปิล โฮลเด้น ฮุนได และเกือบ 2 ปีเต็มที่เขาสามารถ เอารถยนต์สัญชาติเกาหลีมาไว้ในอ้อมกอด การเข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าและเลือกสรรโปรดักต์ที่เหมาะสมทำให้ มั่นใจว่าในปี 2553 รถยนต์ "โปรตอน" จะมียอดขายต่อปีทะลุ 10,000 คัน และต่อไปนี้คือคำให้การ "ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข" กรรมการผู้จัดการ พระนครโอโตเซลล์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โปรตอนอย่างเป็นทางการ
กลยุทธ์อะไรที่ทำให้โปรตอนเติบโตอย่างรวดเร็ว
ถึง วันนี้เราเข้ามาทำตลาดเกือบจะสองปีเต็ม ผลงานที่ผ่านมาเราพอใจมาก ตอนนี้เรามียอดขายต่อปีมากกว่า 4,000 คัน ปีหน้าถ้าเพิ่มโปรดักต์ไลน์เข้าไปทั้งเอ็มพีวี และเก๋งขนาดใหญ่ เชื่อว่าตัวเลขน่าจะขยับขึ้นไปถึง 8,000 คัน ทำให้มั่นใจว่าปี 2553 โปรตอนจะมียอดขาย
ต่อปีทะลุ 10,000 คันแน่น สิ่งที่ผมมองว่าเป็นความสำเร็จของเรา คือ ความตั้งใจที่จะนำสิ่งดีๆ มาสู่ลูกค้า อย่างแรกคือการเลือกโปรดักต์ จะเห็นว่าเราพยายามสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาด เราถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่เลือกซิตี้คาร์ โปรตอน แซฟวี่ มารองรับตลาด ซึ่งก็ตรงกับช่วงออยล์ช็อกพอดี ทำให้ซิตี้คาร์ของเราได้รับความนิยมมาก ตอนนี้เริ่มมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเกีย นาซ่า หรือแม้กระทั่ง เชอรี่ที่กำลังจะทำตลาดในเร็วๆ นี้ แต่ยอดขายเราก็ไม่ได้ตกลงเดือนหนึ่งก็ยังมี 150-170 คัน ยิ่งจะทำให้ตลาดคึกคักมากขึ้น นอกจากนี้เรายังมีโปรดักต์ครบไลน์ ทั้งเก๋งเล็กนีโอ เก๋งกลางเพอโซน่า และสปอร์ตเจนทู ปลายปีนี้ก็จะมีเอ็มพีวี อีโซล่าเพิ่มเข้ามาอีก สิ่งที่ 2 คือบริการหลังการขาย เราเตรียมพร้อมเรื่องนี้มาก และทางบริษัทแม่ก็ให้ความใส่ใจ ดีลเลอร์ของเราจะได้รับการอบรมทักษะ และเทคโนโลยีตลอดเวลา ซึ่งทำให้โปรตอนสามารถรอง รับงานบริการหลังขายได้อย่างทั่วถึง อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดนั่นก็คือ "คู่ค้า" เราโชคดีที่มีคู่ค้าทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข เข้าใจระบบและเอื้อประโยชน์ต่อกันด้วยดี ตอนนี้เราวางแผนขยายดีลเลอร์เพิ่มอีก 10 ราย จากเดิมที่มี 35 ราย ตั้งใจจะเลือกตามหัวเมืองรองลงมาเพื่อรอรับบริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ตลาดดีแบบนี้มีข่าวว่าบริษัทแม่จะเข้ามาลุยเอง
อัน นี้ไม่จริง เรามีสัญญาและข้อตกลงชัดเจนบริษัทแม่แต่งตั้งเราเป็นดิสทริบิวเตอร์ เรามีหน้าที่ขายรถแต่งตั้งดีลเลอร์ ระบุกันชัดเจนว่า บริษัทแม่ไม่มีสิทธิขายรถในประเทศไทย จริงๆ แล้วบริษัท โปรตอนมอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้ามาเมืองไทยเป็นปีแล้ว หลักๆ ก็จะทำหน้าที่ประสานงาน และที่สำคัญก็จะเน้นเรื่องการเทรนนิ่ง คอยซัพพอร์ตทุกๆ เรื่องเพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น กระแสข่าวนี้ไม่จริงเลย เพราะพระนครโอโตเซลส์เพิ่งจะได้รับการประกาศให้เป็น The best pratice ในลำดับต้นๆ ที่บริษัทแม่มอบรางวัลให้ในฐานะที่ทำผลงานได้ดี ในย่านนี้มีเราและก็ออสเตรเลีย ซึ่งโปรตอนมาเลเซียแฮปปี้กับเรามาก
มองตลาดครึ่งปีหลังอย่างไร
ถ้า มองในฐานะที่ใกล้ชิดกับลูกค้าก็ยังทรงๆ แต่เชื่อว่าปลายปีน่าจะดีขึ้น จริงๆ คนมีกำลังซื้อแต่ยังไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ ถึงปลายปีก็จะมีโบนัสเข้ามาช่วยกระตุ้นก็น่าจะทำให้ลูกค้ากล้าใช้เงินมาก ขึ้น ยิ่งเราจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางอยู่แล้วก็ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือพยายามลดต้นทุนเรา โชคดีที่ทำตลาด ในรูปแบบการนำเข้ามาไม่มีโรงงาน ต้นทุนเลยต่ำ ส่วนเรื่องแผนขึ้นไลน์ประกอบเองคงอีกยาว จุดที่เรามองตอนนี้คือการขยายโปรดักต์ไลน์เข้าไปยังกลุ่มที่เป็นแมสมาร์เก็ต ให้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเอ็มพีวีซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราเลือกโปรตอน อีโซล่า (Exola) เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง เข้ามาทำตลาด ตัวนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในมาเลเซีย คาดว่ารถรุ่นนี้จะ ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีรูปลักษณ์สวยงามแบบเดียวกับโตโยต้า วิช แต่ราคาขายต่ำกว่ามาก เราเซตราคาไว้ต่ำกว่า 1,000,000 บาทน่าจะเป็นแรงจูงใจได้ดี โดยคาดว่าน่าจะมียอดขายต่อปีไม่น้อยกว่า 500 คัน
แก้ปัญหาเรื่องราคาขายต่อรถโปรตอนอย่างไร
มี ลูกค้าเราหลายคนกังวลใช้รถโปรตอนแล้วราคาขายต่อไม่ดี ตรงนี้เรามีแผนไว้แล้ว โดยจะทำรถมือโปรตอนแอปปรูฟยูสคาร์ มีการรับประกันพรีเมี่ยม 12 เดือน เพื่อดึงราคาขายต่อไว้ไม่ให้ตก ยิ่งช่วงนี้จะมีรถใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับราคาขายต่อให้มากขึ้น โปรเจ็กต์นี้น่าจะเริ่มได้ในช่วงปลายปีนี้
ส่วนประเด็นที่คนเอาไป เทียบกับรถจีนด้วยราคานั้น เราอยากบอกว่าโปรตอนประกอบในมาเลเซีย มีการเก็บภาษีนำเข้าตามกำลังเครื่องยนต์แบบเต็มพิกัดที่สามารถทำราคาขายได้ ต่ำกว่ารถอื่นๆ ในตลาด เพราะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ผ่านข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า (AFTA) แสดงให้เห็นชัดว่าต้นทุนของรถจีนจริงๆ ต่ำมาก แต่เราไม่ใช่รถราคาถูก ที่ทำราคาได้ในระดับนี้เพราะว่า "อาฟต้า"
ที่มาของข่าวจ้า
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02car02240852§ionid=0210&day=2009-08-24