ผู้เขียน หัวข้อ: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++  (อ่าน 23073 ครั้ง)

ออฟไลน์ tspeed

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
รอซื้อมือสอง ราคาน่าจะตกมากๆ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ซื้อ เพราะไม่ดูตัวเอง หวังโลภ เอาลดภาษี 100,000 ก็สมควรโดนแล้วครับ

คนออกนโยบาย เป็นคนไทย น่าจะเข้าใจความโลภ ไม่ประมาณตนเองของคนไทยได้ดี
แต่กลับออกนโยบายแนวๆนี้ออกมา
ถึงจะโทษนโยบายไม่ได้ ต้องไปโทษคนที่ไม่ประมาณตน
แต่มันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ฝ่ายนึงไม่ดูตัวเอง ฝ่ายนึงไปสนับสนุนคนเหล่านั้น

ออฟไลน์ myalexxp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 829
มันดีสำหรับคนมีเงินสดพอจะซื้อได้ครับ

แต่เค้าเลือกที่จะผ่อน (เก็บเงินไปทำทุนอย่างอื่น )

 ;)

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ผมว่าเค้าฉลาดนะที่รู้ใจคนว่าต้องการอะไร โดยวิสัยของคนแล้วถ้าเห็นประโยชน์ตรงหน้าแล้วมักมองข้ามสิ่งที่ต้องเสียไป เช่น ซื้อหวยได้เลยเด็ดมาก็ทุ่มซะพอไม่ถูกมาไม่มีตังจ่ายซะงั้น เป็นหนี้เป็นสินกันยาวเลย ตอนซื้อไม่ได้เผื่อคิดว่าจะไม่ถูก หรือใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าโดยเห็นแก่ผ่อน 0 % นาน 10 เดือน แล้วไม่ได้มองว่าจำเป็นหรือไม่ จะมีเงินใช้หนี้รึเปล่า

ผมเคยต่อว่าแฟนเรื่องซื้อเครื่องซักผ้านี่แหละ แฟนผมอยากได้มากแต่ตอนนั้นการเงินยังไม่ดีจะรูดบัตรแต่ผมไม่ยอม เรื่องหนี้ที่ต้องผ่อนผมยอมแค่บ้านกับรถเท่านั้นที่เหลือถ้ามีตังก็ไม่ต้องซื้อ วินัยทางการเงินต้องมาก่อนถ้าเสียวินัยปัญหาอย่างอื่นจะตามมาอีกเยอะ แต่สินค้าทุกอย่างที่ผมซื้อส่วนใหญ่รูดบัตรนะแต่จ่ายหมดทุกครั้งเอาแต้มแลกเป็นเงินได้มาประมาณ 2000 แล้วและก็ไม่อยากพกเงินสดเยอะๆ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ jaammaii

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • http://facebook.com/TwinCotton/
    • อีเมล์
แทนที่จะให้เป็นส่วนลดเงินก้อน 100,000 บาท ที่จ่ายให้เจ้าของรถ ผมว่าน่าจะทำเป็นเหมือนโครงการเอาเก่ามาแลกใหม่ให้ส่วนลดแบบของอเมริกาเมื่อปีก่อนๆ (จำชื่อโครงการไม่ได้แล้ว) เพื่อให้ได้รถที่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เป็นผลดีต่อทุกๆฝ่ายด้วย

หรือไม่ก็นำไปทำเป็นส่วนลดที่ทางผู้ขายรถ สามารถเรียกคืนจากภาครัฐได้ แล้วให้เป็นส่วนลดเงินสดจากยอดจัดไฟแนนซ์ หรือยอดซื้อสดแทน? ซึ่งจะทำให้คนใช้เงินในการผ่อนน้อยลง เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน แต่ลดปริมาณคนซื้อเพราะหน้ามืดโดนความโลภครอบงำได้ด้วย

 ผมดูนโยบายนี้แล้วมันเหมือนล่อให้คนหน้ามืดซื้อโดยไม่คิด เพียงเพราะจะได้เงิน 100000 ยังคิดอยู่เลยว่าสุดท้ายมันก็ต้องมีพวกที่กะจะโกงด้วยการดาวน์น้อย ผ่อนนาน ได้เงินครบแสนแล้วก็เชิด ไม่ผ่อนต่อแล้วกินส่วนต่างไป ถือว่าที่ผ่านมาก็ได้รถใช้ไปด้วย
+ 1
ผมเห็นด้วยกับโครงการเเลกรถแบบที่เมกาเค้าทำ ได้ทั้งสองฝ่าย   ;D

ออฟไลน์ LaTeX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973
ใช่ครับนโยบายนี้มีผลกระทบมากต่อคนGenYที่เพิ่งจบใหม่ รวมถึงทำงานได้ไม่นานเช่นGenXรุ่นท้ายๆ
1.ทำให้คนที่จบใหม่ หรือรายได้ยังไม่มากนัก ต้องดิ้นรนออกรถก่อนเวลาอันควร เนื่องจากกลัวหมดเขตของนโยบาย ซึ่งจริงๆก็คงซื้อรถประเภทนี้อยู่แล้ว
2.ทำให้คนที่คิดจะซื้อรถC-Seg หันกลับมาเล่นรถเล็กแทนเนื่องจากต้องการส่วนลดทางภาษี ทั้งๆที่จริงC-seg อาจเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า แต่ดันเกิดงกขึ้นมาซะอย่างนั้น
3.ผู้ปกครองทั้งหลายส่งชื่อบุตรหลานที่อายุเข้าเกณฑ์รถคันแรกเป็นตัวแทนไปออกรถกระบะยกสูง/ยกสูงสี่ประตู เอามาขับโก้ๆมากขึ้น ทั้งๆที่ถ้าไม่มีนโยบายนี้อาจยังไม่มีความจำเป็นต้องออก

คนที่ผมรู้จักตรงกับข้อ2-3เลยครับ

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,871
  • MT Mania!!
เห็นนโยบายนี้ติดป้ายหาเสียงผมก็เพลียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว นโยบายประชานิยมแบบนี้ ปัญหามักจะตามมาภายหลังเสมอ

พรรคอะไรผมไม่พูดถึงนะครับเดี่ยวจะเป็นการเมืองปล่าวๆ

แต่อยากให้คนที่จบใหม่ๆเงินเดือน 15xxx-20xxx คิดให้ดีๆก่อนจะซื้อรถใหม่ซักคันที่ราคาผ่อนประมาณ 5-8พัน

มองดูตัวเงินอาจจะไม่เยอะมาก หักค่างวดไแแล้วยังสบายๆ

แต่มันออกทุกๆเดือนเดือนละเท่าๆกัน ถ้ามันเกิดเหตุฉุกเฉิน มีรถก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ

รถ = ลด




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 16, 2012, 11:53:28 โดย nudragon »

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
กะแล้วว่าเดี๋ยวจะต้องมีกรณี ผ่อนไม่ไหวตามมาอีกเป็นพรวน
นโยบายนี้ ผมมองว่าคนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งแน่นอนมุมมองการใช้เงินก็จะไม่ละเอียด อยากได้อะไรมักจะซื้อ โดยคิดว่าเดี๋ยวก็ผ่อนคืนได้ แต่มักจะลืมค่าใช้จ่ายแอบแฝง ตรงจุดนี้แหละที่น่ากลัวครับ


ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
นโยบายขายฝัน อันดับแรก ดูว่าตัวเองมีรายรับ รายจ่ายผ่อนไหวมั๊ย ค่าซ่อมค่าบำรุงรถ เหมือนเลี้ยงลูกเลยครับ 1ปี ค่าซ่อม ค่าบำรุง ค่าประกัน ค่าน้ำอื่น อื่นๆอีกปีละเท่าไร ไอ้ลด100k ก็ไม่ใช้ว่าได้ลดเลยนิ มันผ่อนลดเอา ถ้าจำไม่ผิด ไม่ชัวนะ ชอบนโยบายUSเอารถเก่าแลกรถใหม่ดีกว่า ลดco2ด้วย น้ำมันขึ้น ของอุปโภคบริโภคขึ้น เงินเดือนขึ้นแค่15k คิดว่าพอผ่อนเหรอครับ รถก็ติดโคตร เบื่อจริงๆ  เอาเงินลด100k ไปรีบทำรถไฟ้าชานเมืองเหอะครับ เซง

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ไม่เกี่ยวกับนโยบายนะครับ จริงๆเรื่องรถคันแรกน่าจะเป็นมือสองเก่าๆเกียร์ธรรมดากันมากกว่าจะได้ฝึกฝนทักษะการขับขี่ ซ่อมและดูแลรักษาเบื้องต้น อีกอย่างจ่ายสบายๆด้วย พออยู่ตัวก็ค่อยขยับเอาที่ต้องการดีกว่า สมัยนี้ออกรถกันง่ายๆเกียร์ออโต้ทั้งนั้น แค่ใส่เกียร์ให้ไปข้างหน้าได็ก็จบล่ะ ดูจากบนถนนได้เลยมีพวกขับแบบงงๆตัวเองเยอะขึ้น
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ thelen

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • อีเมล์
.....คิดไว้แต่แรกว่าส่วนมากน่าจะผ่อนไม่ไหวครับ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รายแรกที่ไม่รู้
ถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาภายหลังครับ ทั้งค่าน้ำมันค่าประกันค่าดูแลต่างๆอีก ถึงจะเป็นรถ
ใหม่ก็ต้องดูแลรักษาอยู่ดีครับ ดั้งนั้นจึงคิดไว้แต่แรกแล้วว่าน่าจะรอดไม่เกิน60เปอเซนต์
จากจำนวนรถทั้งหมด จากนั้นบรรดาอีโคคาร์ทั้งหลายจะต้องเข้าสู่กระบวนการขายทอด
ตลาด และผมเป็น 1 ในนั้นครับที่รอซื้ออยู่ รอเงียบๆอย่างใจเย็นครับ ตอนแรกหมายตาไว้
หลายคันอยู่ครับแต่พอเห็นคนทุ่มซื้อรถเพราะอยากได้ส่วนลดมีมากมาย จึงคิดว่ารอดีกว่า

**อันนี้ไม่นับรวมถึงรถต่างจังหวัดที่ส่วนมากซื้อสดกันเป็นส่วนใหญ่

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เป็นไปตามความคาดหมาย ไม่มีผิดเพี้ยน......

ออฟไลน์ chaiz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
    • อีเมล์
เท่าที่อ่านจากในเวปของ กรมสรรพสามิต บอกว่า จะคืนเงินให้เมื่อครอบครองครบ 1 ปี โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝาก โดยจะเริ่มจ่ายคืน 1 ต.ค. 55

ปัญหาต่อมา คนเบี้ยวค่างวด หรือทิ้งรถ น่าจะเยอะขึ้น หลังจากได้เงินคืน และปัญหาการทวงเงินคืน กรณีผิดเงื่อนไขของโครงการ เช่น ขาดส่งค่างวด รถโดนยึด ขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ก่อนครบ 5 ปี รถประสบอุบัติเหตุเสียหายsหนักต้องขายซาก ฯลฯ

แล้วอยากรู้ว่า กรณีขาดส่งค่างวดจนโดนยึดรถ เงินคืน 100000 หรือน้อยกว่านั้น จะเป็นของใคร?
ผู้ใช้สิทธิ์เก็บไว้ บังคับจ่ายค่างวดที่ค้าง หรือเรียกคืนรัฐ?
 
รัฐบาลก็เตรียมงานหนักแก้ปัญหา  ประชาชนก็เตรียมงานหนัก ทำงานจ่ายภาษี 555

ออฟไลน์ Appenzell Swiss

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
ผมมองว่าสาเหตุไม่ใช่เรื่องนโยบายคืนภาษีครับ ไม่ได้ขายดีเฉพาะรถเล็กครับ นั่นเป็นแค่ส่วนน้อย ถ้าจะโทษนโยบาย คงต้องโทษธุรกิจรถยนต์ที่ทำรถเล็กราคาถูกด้วยมั้ยครับ  เพราะคนรุ่นใหม่ใช้จ่ายไม่ระวังมากกว่า มักตัดสินใจเร็ว ไม่คิดให้รอบคอบ ทั้งๆที่รายได้น้อยและจะมีภาระเพิ่มขึ้นตามลำดับ
แถวบ้านผม ที่ผ่านมา ฮิตออกปาเจโร่กันมาก จนกลายเป็นกระแส คาดว่าคงมีปัญหาเช่นกันครับ
สภษ.(Proverb)14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน

ออฟไลน์ chamanow88

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 355
    • อีเมล์
- เหยื่อติดเบ็ดแล้ว  ::) ::) ::)
- จะมีมือสองสภาพดีๆให้เลือกอีกมากมาย



นี่แหละประเทศไทย

ออฟไลน์ BoZomBie

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
  • My Puius My Love
ผมล่ะเบื่อกับนโยบายสร้างฝัน คืนเงินแสน แต่มาเก็บคืนจาก น้ำมัน NGV LPG
ทำทุกอย่างตามที่ใจอยาก ยอมรับผลของความอยากจากสิ่งที่ทำ

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
เฉลี่ยเปอร์เซ็น ลูกค้าที่มีปัญหากับที่ไม่มีปัญหา มีมากแค่ไหนยังไม่รู้  แต่คิดว่าส่วนน้อยที่มีปัญหา และคิดว่านโยบายนี้ยังคงเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการซื้อรถจริงๆ

ออฟไลน์ pinggiyam

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
เกิดจากคนไทยบ้างส่วน ไม่มีวินัยทางการเงิน  ;D ;D

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
รถรุ่นใหม่คงระบบไฟไม่ดีมั้งครับ ..... ไฟแนน >_<

ออฟไลน์ MandM

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
    • อีเมล์
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน


ออฟไลน์ Blanco

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 124
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน


ไม่น่าใช่นะครับ ถ้าจะโทดอาจจะโทดได้ว่า ให้ความเข้าใจในเรื่องดอกเบี้ยและดอกจัน ไม่ครบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมองว่ายังไงมันเป้นเรื่องที่ผู้กู้ต้องศึกษาครับ
แล้วจะมาโทษแต่ฝั่งธนาคารก็ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้มีใคร มันมือให้ไปกู้ครับ ถ้าประเมินตนเองดีเข้าใจกำลังทรัพย์ตัวเองดี ก็คงจะรู้คับว่าควรไม่ควร
ผมกลับมองว่าเป็นที่คนกู้ซะส่วนใหญ่นะครับ ขาดความเข้าใจ เอาแต่ได้ คิดว่าง่ายๆ ไม่รอบครอบ สนแค่ส่วนคืนภาษี 100000 สุดท้ายเกิดแรงตนเอง (อันนี้ไม่ได้ว่าทุกคนนะครับ)
แต่มันก็เป็นมุมมองของผม
บางคนว่าพวกที่ก็ดูถูกคนอื่น ทั้งๆที่ตนเองก็ดูถูกคนอื่นอย่างโง่ๆ น่าสมเพชเวทนาครับ

ออฟไลน์ balliblue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
ไม่เคยใส่ใจ เรื่อง 100000 เลยครับ ซื้อรถนะครับ ไม่ได้ออกรถเอาเงิน แสน ไร้สาระตั้งแต่คนคิดแล้ว นโยบายแบบนี้ใครที่ไหนจะคิดได้ นอกจากนักการเมืองไทย ประชานิยม อยากให้คนจนคนไม่พร้อมมีโอกาสมีรถ แต่กลายเป็นการฆ่าเค้าทั้งเป็นด้วยคำว่าหนี้สิน 

แถมสร้่างภาระให้สังคมอาที รถติด มลพิษ ฯลฯ แทนที่จะเอาเงินไปทำรถไฟความเร็วสูง หรือ รถไฟฟ้า คนที่ได้ประโยชน์คือ บริษัท รถยนต์ คนรับความเสี่ยงเป็นธนาคาร และคนรับกรรมคือ คนซื้อที่ไม่ีฐานะเพียงพอ


ออฟไลน์ Mighty-X

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,016
ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็แย่แบบนี้ล่ะครับ :(

ออฟไลน์ xroma83

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 129
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\

ออฟไลน์ chamanow88

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 355
    • อีเมล์
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\


+1 ลึกซึง อ่อมันเป็นนโยบายต่อเนื่องนี่เอง ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\

สงสัยกะไอ้ผ่อนยาวๆๆๆๆ555

ออฟไลน์ mooja

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 62
    • อีเมล์
ติดNPLตั้งเเต่วัยเริ่มต้นทำงานเลยนะเนี้ย

ออฟไลน์ MandM

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
    • อีเมล์
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน


ไม่น่าใช่นะครับ ถ้าจะโทดอาจจะโทดได้ว่า ให้ความเข้าใจในเรื่องดอกเบี้ยและดอกจัน ไม่ครบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมองว่ายังไงมันเป้นเรื่องที่ผู้กู้ต้องศึกษาครับ
แล้วจะมาโทษแต่ฝั่งธนาคารก็ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้มีใคร มันมือให้ไปกู้ครับ ถ้าประเมินตนเองดีเข้าใจกำลังทรัพย์ตัวเองดี ก็คงจะรู้คับว่าควรไม่ควร
ผมกลับมองว่าเป็นที่คนกู้ซะส่วนใหญ่นะครับ ขาดความเข้าใจ เอาแต่ได้ คิดว่าง่ายๆ ไม่รอบครอบ สนแค่ส่วนคืนภาษี 100000 สุดท้ายเกิดแรงตนเอง (อันนี้ไม่ได้ว่าทุกคนนะครับ)
แต่มันก็เป็นมุมมองของผม

ผมทราบครับว่ามันต้องพิจารณาตนเองด้วย เพียงแต่เห็นคนในนี้มุ่งไปประเด็นอื่น
เลยยกเรื่องนี้ขึ้นมาก ผมคิดว่ามันเป็นรากของปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่นโยบายคืนภาษีครับ
เพราะไม่มีนโยบายนี้ ปัญหา suprime มันก็มีอยู่ตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่นำมาพูดกัน
จริงๆ แล้วปัญหานี้มันสามารถ ป้องกันได้ ถ้าธนาคาร มีความรอบครอบในการพิจารณาสินเชื่อมากกว่านี้ครับ
ไม่งั้นจะเอาเอกสารทางการเงิน ทรัพย์สินต่างๆ ไปดูตอนขอสินเชื่อทำไมครับ

เรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจแต่เงินคืน 100000 ขาดความเข้าใจ มันไม่เกี่ยวกับขั้นตอนการพิจารณาสินเชือเลยครับ
อยากได้รถ อยากได้เงิน 100000 คืน   แต่รายได้ไม่ถึง มันก็ต้องไม่ให้สินเชือผ่านสิครับ

เพราะฉะนั้นทางแก้ไขปัญหานี้มันก็ต้องไปตกอยู่กับธนาคารครับ ต้องรู้จักป้องกันตนเอง ไม่ใช่จะเอาแต่ดอกเบี้ย