เรื่องความเร็วตามกฏหมายกำหนด

[ichok]

อยากถามความเห็น 2 ข้อครับ
1 ความเร็วที่สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมายในเมืองไทยคือ เท่าไหร่ครับ เส้นไหนครับ
2 สมมุติถ้าความเร็วสูงสุดที่ทำได้ คือ 140 แล้วทำไมไม่ออกกฎหมายเพื่อล็อคความเร็วของรถยนต์ที่ 140 หล่ะครับ เพราะในเมื่อการขับรถเร็วผิดกฎหมายและทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มันแค่รู้สึกว่าอย่าขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดนะแต่คุณกำลังขับบีเอ็มซีรี5ดีเซลที่มีไมล์โชว์บนหน้าปัด250 km/hr มันดูขัดแย้งในตัวเอง เหมือนคุณกำลังรณรงค์ให้คนเลิกสูบบุหรี่เพราะมันอันตรายแต่คนที่รณรงค์กลับขายซะเอง
          ข้อแรกอยากทราบครับ ส่วนข้อสองเป็นความรู้สึกส่วนตัวครับ

[Sammy_]

สำหรับข้อ 2 ผมก็รู้สึกขัดๆเหมือนกัน รถแต่ละคันวิ้งได้เกิน 160 อยู่แล้ว แถมยังทำเลขไมล์ไว้เยอะๆ อย่างกระบะ Dmax  ไมล์มีมากถึง 220 ทั้งๆที่เป็นรถกระบะ หรือ A33 ไมลมากถึง 260 แต่บ้านผม ตจว ขับเกิน 90 ก็ถูกพ่อเรียกแล้ว

[Tonge]

เขตเมือง จำกัด 80กม./ชั่วโมง
ทางด่วน วงแหวน มอเตอร์เวย์ จำกัด 120กม./ชั่วโมง

เรื่องจำกัดความเร็วตัวรถ เขาก็ต้องเผื่อ ยามเร่งแซง ยามฉุกเฉิน บ้างสิครับ   บางสถานการณ์การขับความเร็วตามกฎหมายก็อันตรายนะครับ

[NINENOI]

เห็นด้วยกับมีการล็อคนะครับ แต่จะเหมาะสมที่เท่าไหร่ก็ว่ากัน กฎหมายกำหนดที่ 120 ส่วนตัวผมว่าล็อคที่ 150 แค่ 140 ผมลองดูแล้วเสียวมากว่าถ้าเกิดเหตุไม่ตายก็เจ็บหนัก เลยขับที่ 90 - 110 เป็นประจำ เร่งแซงก็ประมาณ 130 

[Fly to dream]

ผมใช้คำเดิมขับเร็วไม่ได้อันตรายเสมอไป

[NINENOI]

^
^
^

จริงครับ แต่ถ้าเกิดเหตุโอกาสที่เกิดความเสียหายขับเร็วมีมากกว่า หรือเกิดเหตุฉุกเฉินโอกาสรอดก็มากกว่า เช่น ยางแตก ถนนเป็นหลุมบ่อ ทางโค้งทีออกแบบไม่ดีลาดชันน้อยไป พื้นถนนลื่นจากน้ำมันที่รั่วหรือน้ำจากอาหารทะเล

แล้วหัวข้อนี้พูดถึงกฎหมาย กฎหมายไม่สามารถระบุได้ว่าใครมีสกิลสูงสามารถขับได้เท่าไหร่ แต่สามารถระบุได้แค่ว่าขับได้ไม่เกินเท่าไหร่ อายุอย่างน้อยเท่าไหร่เพราะเป็นสิ่งที่วัดกันได้โดยตรงและง่ายๆ ถ้าออกกฎหมายที่เข้าใจยากเกินไปก็ยิ่งจะยุ่งกันไปใหญ่


ป.ล. ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แต่เห็นว่าคนที่ขับเร็วและหวาดเสียวส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองขับเก่ง แล้วอุบัติเหตุแรงๆก็เกิดจากพวกนี้เยอะ

[Fly to dream]

^
^
^

จริงครับ แต่ถ้าเกิดเหตุโอกาสที่เกิดความเสียหายขับเร็วมีมากกว่า หรือเกิดเหตุฉุกเฉินโอกาสรอดก็มากกว่า เช่น ยางแตก ถนนเป็นหลุมบ่อ ทางโค้งทีออกแบบไม่ดีลาดชันน้อยไป พื้นถนนลื่นจากน้ำมันที่รั่วหรือน้ำจากอาหารทะเล

แล้วหัวข้อนี้พูดถึงกฎหมาย กฎหมายไม่สามารถระบุได้ว่าใครมีสกิลสูงสามารถขับได้เท่าไหร่ แต่สามารถระบุได้แค่ว่าขับได้ไม่เกินเท่าไหร่ อายุอย่างน้อยเท่าไหร่เพราะเป็นสิ่งที่วัดกันได้โดยตรงและง่ายๆ ถ้าออกกฎหมายที่เข้าใจยากเกินไปก็ยิ่งจะยุ่งกันไปใหญ่


ป.ล. ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แต่เห็นว่าคนที่ขับเร็วและหวาดเสียวส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองขับเก่ง แล้วอุบัติเหตุแรงๆก็เกิดจากพวกนี้เยอะ

ตามนั้นครับ พวกที่คิดว่าขับรถเก่งหายไปเยอะแล้วในโลกนี้ 

[HYDE--]

ล็อคที่ 140 น้อยเกินไปครับ
ถ้าจะทำจริงๆ ก็เอาแบบญี่ปุ่นครับ รถทุกคัน ล็อค 180

แต่ผมว่า คนเรา บางอารมมันก็อยากจะซัดบ้างอะครับ คงไม่มีใครขับ 160 180 ทุกวันหรอก
ถึงล็อคมาจากโรงงาน ถ้าเป็นผม ผมคงไปหาทางปลดอยู่ดีอะคับ

[IS2000]

ที่ต่างประเทศไม่ต้องจำกัดความเร็วตัวรถแต่ค่าปรับโหดๆก็ทำให้คนขับตามกฎจราจรมากขึ้นครับ
อย่างไปขับเร็วที่อเมริกาถ้าโดนนี่ใบสั่งทั้งแพงแถมโดนหักแต้ม เวลาไปต่อประกันรถทำให้เบี้ยประกันขึ้นอีก
หลายต่อมาก

[Disk™]

ส่วนตัวคิดว่า ยิ่งขับเร็ว ยิ่งอันตรายครับ ไม่มีหรอกว่า ขับเร็วแล้วไม่อันตราย เอาทฤษฎีอะไรมาอธิบายครับ?

เพราะ มนุษย์ทุกคนมี reaction time และ ยิ่งความเร็วสูง ความแรงในการปะทะก็สูง(Momentum)


ปล.เรื่องล็อกความเร็วทำได้ก็ดีนะครับ แต่ถ้าคนจะขับเร็ว เขาก็ปลดล็อกกันอยู่ดี

[O_o"]

เคยมีตัวอย่างให้เห็นหลายครั้งแล้ว ขับรถด้วยความเร็วสูงบ่อยๆ มีจุดจบยังไง ถ้ามือไม่ถึง ใจไม่พอ หรือไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขับ ตามกฎหมายกำหนด ก็น่าจะพอแล้วละครับ  ห่วงคนที่ใช้ถนนร่วมกัน เกิดขับเร็วๆไปชนคนอื่นตาย แค่คำขอโทษสำนึกผิด พอหรือไม่ละ แค่กราบขอขมา

เข้าใจว่าที่ถนนในไทยมันแย่เพราะอะไร เค้าคงไม่ต้องให้ใครหลายๆคนขับรถด้วยความเร็วสูงเกินไปเพราะถนนมันไม่เอื้อทำความเร็วสูงๆ ถ้าในบ้านเรามีถนนดีๆเหมือนในเยอรมัน

ได้เห็นข่าวอุบัติเหตุทุกวันแน่ๆ รู้ๆอยู่นิสันคนไทยเป็นยังไงเวลาขับรถ  คงได้เห็นรถบ้าพลัง วิ่งแข่งทำความเร็วสูงๆประจำ

[chaivat]

สวัสดีครับ
เป็นเรื่องชวนสงสัยมานานว่าความเร็วเท่าไรดีในการเดินทางเพราะรถปัจจุบัน บางรุ่น และสภาพถนนบางเส้น
ขัดกับความรู้สึกในการขับเมื่อจะรักษาความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด
การออกกฎหมายจำกัดความเร็วประเด็นหลักอันดับแรกผมคิดว่า เพื่อป้องกันชีวิตของคนขับและผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุแล้วโอกาสที่จะรอดมีมากที่สุด ถ้าบาดเจ็บก็น้อยที่สุด

ทำไม Uro Ncap ถึงกำหนดความเร็วในการทดสอบชนด้านหน้าที่ 40 ไมล์/ชม ( 64 กม/ชม) ผลของการทดสอบเพียงเพื่อหาว่าสภาพที่รถเสียหายจะมีผลต่อคนขับและผู้โดยสาร มากน้อยเท่าไรถ้าที่ความเร็วขนาดนี้
มีบางสถาบันทำการทดสอบแบบเดียวกันคือชนด้านหน้า แต่เพิ่มความเร็วเป็น 50 ไมล์/ชม( 80 กม/ชม) ทดสอบจากรถที่ผ่าน Uro Ncap ระดับ 5 ดาว พบว่า ความเร็วที่เพิ่ม แค่ 10 ไมล์/ชม ความเสี่ยงที่เกิดตามนี้ครับ

Raising the speed by just 10mph (16km/h) resulted in nearly 50% more energy to be dissipated by the car's crumple zones, effectively exceeding their capacity. The increased energy resulted in a significant increase in risk of injury to all occupants, especially the driver,

รายละเอียดเพิ่มเติมลองหาอ่านเองครับ
ADAC: 50mph crash-test shows weaknesses even in top-rated cars

ดังนั้นสรุปว่า กฎหมายจำกัดความเร็วเมืองไทยเหมาะสมแล้วครับ เพราะปัจจุบัน กฎหมายการตรวจสภาพรถยังไม่สามารถทำให้รถทุกคันที่ผ่านการตรวจเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบก วาง กฎเกณฑ์ไว้ รถตัด Catalytic ออก รถอุด EGR ก็ยังวิ่งได้สบายๆ ดีขึ้นหน่อยมีทดสอบเบรก
ถ้าจะล๊อคความเร็ว ผมขอ 160 กม/ชมครับ
ตามที่คุณ Fly to dream ว่า  ขับเร็วไม่ได้อันตรายเสมอไป ถูกต้องครับ ถ้า รถพร้อม คนพร้อม ถนนพร้อม และ คนใช้รถรอบๆเราพร้อม    หรือเร็วในที่ๆควรเร็ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเร็วในที่ๆไม่ควรเร็ว มาถึงบ้านเลยครับ

Credit Motorauthority

[นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว]

ผมใช้ความเร็วตามสมควรแก่สภาพถนนและสิ่งรอบข้างครับ เอาให้เหมะสมแต่ยึดหลังขับรถปลอดภัยไม่ประมาทเป็นสำคัญ

[2k]

ไม่เกิน120คือความเร็วที่เหมาะสมแล้วครับ ดูตัวอย่างกันง่ายๆเลยที่ปอร์ชชนฟอร์จูนเนอร์ ที่ความเร็ว250ขึ้นไปที่คนขับว่าฝีมือเอาอยู่ประสิทธิภาพของรถถึงมือ แต่คันอื่นๆบนถนนไม่ได้ถึงมือด้วยนะครับ อาทิตย์ที่แล้วยังมีเพื่อนสามชิกมาเตือนเลยว่าอย่าขับเร็วอันตราย วีออสของเพื่อนเค้าสะดุดเนินนิดเดียวเสียหลักลงข้างทางอาการโคม่าทั้งสองรายเลย ทั้งสองกรณีเป็นเพราะความคิดว่าขับเร็วไม่อันตายเสมอไปทั้งนั้น

[Phongrapee]

ปกติเต็มที่ก็ขับไม่เกิน 120 อยู่แล้ว อยู่ในเขตชุมชนก็ลดความเร็วลงมา เพื่อความปลอดภัย ไม่อยากขับเอามัน อารมณ์พาไป เพื่อนร่วมทางเขาไม่รู้เรื่องด้วย ขนาดๆโล่งๆ มาคันเดียวแล้วเสียหลักไปเองก็ยังเคยมีเกิดขึ้นมาแล้ว

[redsun]

เวลาผมขับรถจะเว้นระยะไว้สำหรับความปลอดภัย (ห่างจากคันหน้าตามความเร็วรถ)
ก็โดนปาดหน้าประจำ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าสมัยนี้ขับรถไม่เผื่อระยะเบรกกันเลยหรือ
แล้วถ้ากลุ่มรถข้างหน้าผมเกิดชนกันตูมตามขึ้นมา ทำให้ผมต้องเกิดอุบัติเหตุรวมกันไปด้วย
เนื่องจากระยะความปลอดภัยที่ผมอุตส่าห์เว้นไว้มันไม่พอเสียแล้ว (-    -!)

หรือช่วงรถติดๆกันผมก็ขับรถตามปรกติของผม(ไ่ม่ได้ช้าเลยครับ)
แต่ทำไมต้องมีพวกปัญญาอ่อนขับจี้ท้ายกันขนาดนั้น ไม่เห็นหรือรถข้างหน้าว่ามันติดอยู่
แล้วถ้าชนกัน มันเสียเวลามั้ย ทรัพย์สินเสียหายมั้ย แล้วจะจี้ไปเพื่อ..... (-    -!!)

หรือถ้าเราขับรถที่ความเร็ว 110 KM/H แต่โดนรถช้าหักพวงมาลัยออกมาในระยะ 20 เมตร
เราต้องเบรกตามสัญชาติญาณ แต่มันไม่ทันจริงๆก็ต้องชนเต็มท้ายคันที่ตัดหน้า
ความจริง    คือ โดนตัดหน้าแต่ไม่มีหลักฐาน
แต่รูปการ    คือ เราชนเต็มท้ายคันหน้า(ซะงั้น)
กลายเป็นเราต้องรับผิดชอบความเสียหายอีกนะนั่น.... (-   -!!!)

ขับรถตามกฎหมายกำหนดและต้องขับแบบมีวินัยจราจรด้วยครับ ถึงจะปลอดภัย

[HIGHSEA]

ใช้ความเร็วตามสถานการณ์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าความเร็วน้อยจะทำให้เกิดการสูญเสียน้อยก็จริงอยู่แต่ก็ใช่ว่า
มันจะเกิดไม่ได้ อุบัติเหตุขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างด้วย ความเร็วเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ผมใช้ความเร็วในที่ๆเหมาะสม
และเอื้ออำนวย
ส่วนเรื่องการล็อคความเร็ว ผมไม่เห็นด้วยครับ มีใว้ดีกว่าต้องการจะใช้แล้วไม่มี ถึงแม้ว่านานๆจะใช้ทีก็ตาม

[kimmeng21]

ผมว่าความเร็วเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความเสียหายได้น้อยลงเท่านั้นคับ

เพราะอุบัติเหตุเกืดจาก 3 ส่วน คือ

1. คน ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมและปัญหาด้านสุขภาพ พฤติกรรมของคน เช่น การดื่มสุราแล้วขับรถ การขับรถเร็ว การขับรถโดยประมาท เป็นต้น ปัญหาด้านสุขภาพ เช่น สายตาสั้น หูตึง ตาบอดสี เป็นต้น

2. ยานพาหนะ ได้แก่ ขาดการดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่อง

3. สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ฝนตก ถนนลื่น ความมืด ควันไฟ เป็นต้น

ความเร็วแค่ส่วนหนึ่งคับ บ้างครั้งถึงไม่ขับเร็วก็เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน

[youngbear]

  ............ปัจจุบันนี้ ในเรื่องความเร็วที่กฎหมายกำหนด และผู้ขับขี่ก็ค่อนข้างสมดุลย์ดีอยู่แล้ว  เพราะเราคงล็อคเทคโนโลยีไว้ไม่ได้
หากผู้ขับขี่ท่านใด  ต้องการใช้ความเร็วสูง ก็ย่อมมีเหตุผลหรือกิเลสของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว  ก็ไปเฉลี่ยอัตราเสี่ยงกันเอาเอง  ด้วยเหตุนี้เราจึงยังเลิกจ้างตำรวจที่ทำงานจราจรกับเลิกตำรวจทางหลวงไม่ได้ครับ

                                                                                                     youngbear

[benzd]

ทุกวันนี้ไม่ต้องล็อคความเร็วหรอกครับ

พวกเฮียขับ80วิ่งขวาเยอะมาก บางคัน60แช่ขวา นี่ถ้าเอาเท้ายันได้ จะยันแล้ว

[YenChar]

เสนอให้ล๊อคที่ 180 แล้วจบเลยครับ

คงไม่มีใคร เผื่อแซงฉุกเฉินที่ 160+ หรอก
ผมเชื่อว่า 140-160 คือความเร็วสูงสุดที่"เหมาะสม" แล้วครับ
เกินกว่านี้ ต่อให้รถสมรรถนะดีแค่ไหนก็ไม่สมควร

กฏหมายบ้านเรามันเก่าไปแล้วครับ

เขตเมือง ขับไม่เกิน 80 ผมเห็นด้วย
เพราะผมไม่เคยขับในเมืองเกิน 80 ไม่ว่าถนนโล่งแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้านอกเมือง ทางด่วน ทางยกระดับ ทางหลวงระหว่างจังหวัด ผมซัดไม่เลี้ยงครับ แต่ไม่เกิน 160

เคยขับสายเอเชีย วิ่ง 160-170 ตลอดสายเผื่อไปนครสวรรค์
เจอรถสมรรถนะสูงๆ ก็ขับไล่ๆกันที่ช่วง 160 ไม่ว่าจะ MB BMW หรือรถญี่ปุ่นคันใหญ่ ก็วิ่งไม่เกิน 160 ทั้งนั้น
ล๊อคไว้ที่ 180 ผมว่ากำลังดีแล้วครับ

[PREM]

เสนอให้ล๊อคที่ 180 แล้วจบเลยครับ

คงไม่มีใคร เผื่อแซงฉุกเฉินที่ 160+ หรอก
ผมเชื่อว่า 140-160 คือความเร็วสูงสุดที่"เหมาะสม" แล้วครับ
เกินกว่านี้ ต่อให้รถสมรรถนะดีแค่ไหนก็ไม่สมควร

กฏหมายบ้านเรามันเก่าไปแล้วครับ

เขตเมือง ขับไม่เกิน 80 ผมเห็นด้วย
เพราะผมไม่เคยขับในเมืองเกิน 80 ไม่ว่าถนนโล่งแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้านอกเมือง ทางด่วน ทางยกระดับ ทางหลวงระหว่างจังหวัด ผมซัดไม่เลี้ยงครับ แต่ไม่เกิน 160

เคยขับสายเอเชีย วิ่ง 160-170 ตลอดสายเผื่อไปนครสวรรค์
เจอรถสมรรถนะสูงๆ ก็ขับไล่ๆกันที่ช่วง 160 ไม่ว่าจะ MB BMW หรือรถญี่ปุ่นคันใหญ่ ก็วิ่งไม่เกิน 160 ทั้งนั้น
ล๊อคไว้ที่ 180 ผมว่ากำลังดีแล้วครับ

เอ้อ จริงครับ ดูเหมือนคนไทยจะมีลิมิตกันที่ 160
ครอบครัวผมเดินทางไกลก็ไม่เคยวิ่งเกิน 160 เลยเท่าที่จำได้ตั้งแต่เด็ก

แต่เรื่องล็อก 180 ผมไม่ค่อยเห็นด้วย ผมว่าคนมีสติล็อกตัวเองได้ครับไม่ต้องให้รถล็อกให้

[noom77]

สำหรับผม ผมว่าถนนเราไม่ได้ดีไปกว่าเมกาเลย จริงๆแล้วแย่กว่าเค้า(เยอะ)นะ ทั้งในแง่ระบบการวางผัง ผิวถนน ทางข้ามทางแยก ของเรามีปัจจัยเสี่ยงเยอะกว่าด้วย มอไซค์ ตุ๊กตุ๊ก วัว ควาย แว๊น อีแต๋น คนขายไข่ปิ้ง ฯลฯ ดังนั้นความเร็วก็ไม่ควรจะเร็วไปกว่าของเมกา

ความเร็วในเมือง 35 mph ราว 60 kmh
ความเร็วชานเมือง 55 mph ราว 90 kmh
ความเร็วไฮเวย์ระหว่างเมืองรวมถึงทางด่วน 70 - 75 mph ราว  110 - 120 kmh

ซึ่งก็คือความเร็วตามกฏหมายของเราตอนนี้แหละครับ

จริงๆแล้วผมไม่ค่อยแคร์เท่าไรเรื่องความเร็วน่ะ คนที่ขับเร็วก็ต้องมีความระมัดระวังมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว แต่ขอได้ใหม ขับแบบมีมารยาทกันหน่อย

[Koong]

ขอออกความเห็นมั่งนะครับ  ในฐานะที่ผมคิดว่าผมขับรถมาไม่น้อยกว่าล้าน ก.ม. แล้วมั้ง ขับรถเป็นตั้งแต่ 10 -ขวบ แต่มาขับจริงจังตอนที่อายุเริ่มทำใบขับขี่ได้ เปลี่ยนรถมา 5- 6 คันง ขับมาทั้งรถ 10 ล้อ รถพ่วง กระบะ รถเก๋ง รถตู้  คือเป็นคนชอบขับรถ  ไม่ค่อยเคยง่วงหรือเบื่อเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย แต่ถ้าใน กทม มีเบื่อบ้างเหมือนกัน  ฉะนั้นก็จะถูกไหว้วานจากคนรู้จักมั่ง จากญาติพี่น้องมั่ง ให้ช่วยขับรถไปนู่นไปนี่  และงานที่ทำก็มีเรื่องให้ต้องเดินทางขับรถบ่อยๆ

ไม่ใช่จะคุยว่าตัวเองขับรถเก่งนะครับ  ผมขับดริฟ ขับแข่งในเซอกิตไม่เป็นนะ แดร็กอะไรก็ไม่เคย  จริงๆก็อยากแต่ไม่มีเวลา และที่สำคัญไม่ค่อยมีตังค์แต่งรถ  แต่ตั้งแต่เิริ่มทำใบขับขี่ได้จนถึงวันนี้ เวลาเกือบๆ 20 ปี (รู้สึกแก่ขึ้นมาทันที) เิิกิดอุบัติเหตุแบบที่เรียกว่าเกือบหนัก 1 ครั้ง  เหตุเกิดจากอะไรเดี่ยวเล่าให้ฟัง

ความคิดเห็นผมคิดว่าควรล็อคความเร็วที่ 180 เหมือนที่ญี่ปุ่นครับ   ไม่เห็นด้วยที่จะล็อคแค่ที่กฎหมายกำหนด เพราะ

1. จากที่ขับรถมาทั้งรถที่สมรรถนะดี และไม่ดี  เมื่อขับเกิน 160 เมือ่ไหร่ ต่อให้รถสมรรถนะสูงยังไง แต่สมรถภาพร่างกายเราไปเร็วกว่านั้นรู้สึกว่าเริ่มจะไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะสายตา  คือยิ่งขับเร็วยิ่งต้องมองให้ไกล แต่ใช่ว่าจะมองแต่ไกลๆ  ใกล้ๆก็ยังต้องมองด้วย สายตาเราจะเก็บรายละเอียดได้ไม่หมด 

2. ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ผมคนหนึ่งละที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ความเร็วแค่ 120 ตอนถนนโล่งๆมันน้อยไปจริงๆนะ   ถ้าได้รถดี 130 - 140 สำหรับผมชิวๆ นะ แต่ถ้า 160 ก็เริ่มเครียดๆหน่อย


และอยากบอกว่าที่ขับรถมาก็นาน แถมขับเร็ว แล้วทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง เพราะอะไร

1 . ผมไม่ได้ขับ 140 กับรถทุกคันที่ได้ขับ   และไม่ได้ขับ 140 ทุกเส้นทาง  และไม่ได้ขับ 140 ทุกเวลา  และถึงแม้บางเวลาจะขับใช้ความเร็วได้ แต่ก็ชอบขับกินลมแค่ 100 เดียวก็บ่อย
2.  ต้องรู้จักสมรถภาพตัวเราเอง คนแต่ละคน ความไว ประสาทสัมผัส การตัดสินใจ ไม่เท่ากัน  ขับรถเร็วเท่าที่เรารู้สึกว่าเราคิดอะไรได้ทัน   มองทัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องมองให้ไกล มองให้กว้าง   มองให้ทัน  อย่าดันทุรังฝืนตัวเอง
3.  ต้องรู็็้้จักสมรรถนะของรถเรา อัตราเร่ง  เบรค  เอาอยู่แค่ไหน ต้องเผื่อระยะเท่าไหร่    อย่าดันทุรัง ขับเร็วเกินสมรรถนะของมัน
4.  ต้องรู้จักเส้นทาง ควรไปที่ความเร็วเท่าไหร่ ถ้าไม่รู้ก็ให้ช้าไว้หน่อย   อย่าดันทุรังอีกเช่นเคย
5. ต้องรู้จักเพื่อนร่วมทาง  หมายความว่าเมื่อเราต้องขับไปเจอเพื่อนร่วมทาง เราต้องเดาใจเขาไว้บ้างสังเกตุ  ว่าเขาจะไปทางไหน จะออกซ้าย หรืออกขวา จะกลับรถหรือเปล่า  คิดไว้หลายทาง เผื่อระยะไว้
     ขยันมองกระจกส่องข้าง ส่องหลังบ่อยๆ
6.  ที่สำคัญคือ ขับรถไปตามกระแส  ถ้าทางดีๆ เขาไปกันเร็วเราก็ต้องเร็ว มัวขับช้าขวางกระแสเขาโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน  แต่ถ้าเขาช้าๆกัน เราก็ช้าตาม 
     หรือเวลาที่ออกจากซอยมาเข้าถนนใหญ่   หรือตามจุดกลับรถ   ถ้ารถในถนนมากันเร็ว ก็เหยียบคันเร่งให้ความเร็วขึ้นไปเท่าๆคันอื่นให้เร็วที่สุด  ไม่ใช่โผล่มาแล้วก็มาเก้ๆกังๆค่อยไปเรื่อยๆให้คันหลังเบรกกันตัวโก่ง

แต่ที่ผมเกิดอุบัติเหตุเพราะวันนั้นผมขับ นิสสัน เอ็นวี  ยางหน้ากว้าง 175  (เน้นประหยัด) ขับที่ควาเร็ว 80 รู้สึกแล้วหละว่าเร็วแล้วสำหรับเอ็นวี  ทางตรงๆ ข้างหน้าโล่ง  มอเตอร์ไซออกจากซอยซ้ายมือข้างหน้า มองเห็นไกล    วิ่งย้อนศรมา แต่หน้าคนขับหันเหลียวหลังไปมองรถ เลนที่วิ่งสวนกับผม พอเห็นเลนนั้นไม่มีรถ มอเตอร์ไซค์หักออกเพื่อจะข้ามเลนไปฝั่งโน้น โดยไม่หันมามองรถผม    ผมคิดในใจแล้วหละมันออกมาแน่ คิดไม่ทันเสร็จมันก็ออกมาจริงๆเบรถล้อล็อคแต่รถไม่หยุดไถลไปชนกันกลางถนนพอดี

ครับ  ผมไม่ได้ขับเกินกฎหมาย แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ   วันนั้นถ้าผมขับแอคคอร์ดที่ความเร็วนั้น น่าจะเบรคอยู่และหักหลบได้


ทางแก้ที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบาก็คือ    ออกกฎหมายให้ขับรถกันให้ช้าลง เวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่รุนแรง   แต่มันไม่ได้การันตีว่าจะไม่เกิดเหตุ    จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จำกัดความเร็วแค่ 90 -120  เพราะบางครั้ง ถนนมันมีให้ไปได้    ร่างกายเรามันไปได้   รถก็ไปได้  เวลาก็จำกัด  แต่มันไปไม่ได้ก็มีอึดอัดเหมือนกันนะ   


สุดท้าย  อุบัติเหตุจะไม่เกิด ถ้าเราไม่ประมาท  และไม่ดันทุรัง   ผมเน้นคำนี้นะ ดันทุรัง   แซงไม่ได้ก็พยายามจะแซง   ออกไม่ได้ก็พยายามจะออก   รถมันไปเร็วไม่ได้ก็ดันทุรังเค้นมัน    แข่งไม่ได้ก็ดันทุรังจะแข่งกัน   ร่างกายไม่ไหวก็ดันทุรังจะขับต่อ   ขับช้าเกินก็ดันทุรังจะวิ่งขวา   ขับช้ารถช้าก็ดันทุรังจะออกรถมาตัดหน้ารถทางตรง     ถ้าดันทุรังกันแบบนี้อุบัติเหตุเกิดแน่นอนครับ

[ichok]

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ  ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยได้ขับแบบโฉบไปมุดมาหรือเหยียบแล้วกระชากหลังติดเบาะอ่ะครับ แต่จะชอบขับต่างจังหวัดแบบทางยาวใช้ความเร็วประมาณ140 อ่ะครับ มีบ้างถ้ามองไกลๆแล้วโล่งจริงๆจะมี160ซักทีนึง แต่ก็ไม่กล้าแช่นานๆเพราะรู้สึกว่าเริ่มอันตรายแล้ว ที่ความเห็นส่วนตัวอยากให้ล็อคความเร็วเพราะเห็นขับเร็วแล้วเวลาชนทีไรมันจะเสียหายเยอะอ่ะครับ

[popdemonic]

อุบัติเหตุที่ผมเห็นส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากspeeding ครับแต่มักจะเกิดขึ้นกับพวกคนมักง่ายมากกว่าครับ เช่นขับช้าแช่ขวา เปลี่ยนเลนในที่คับขัน เปลี่ยนเลนไม่มองกระจก จอดรถในที่ห้ามจอด หรือไม่สมควรจะจอด  กลับรถในที่คับขัน ขับรถสวนเลน พวกนี้แหละครับ ส่วนเรื่องล๊อคความเร็วมันไม่ประโยชน์หรอกครับ
คนมันจะขับเร็วมันก็จะเร็วแหละครับ

ปล ถนนสายเอเซีย คงไม่ได้ไล่กันแค่160km/h หละครับ เวลาไล่กันจริงๆกดกันไป250km/h นู่น เอาแค่เวลารีบๆขึ้นไปดูสวนยางที่พิษณุโลกเส้นเอเซียนี่แหละครับ ตัวทำเวลาดีเลย กดกันสะบั้นหั่นแหลก ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีนะครับ บอกไว้ก่อน แต่ผมวิ่งเส้นนี้ประจำจนจำ ลักษณะถนนได้หมด จุดแยก จุดต่อต่างๆ

[siamparadise]

ถ้าล็อคแล้ว ตำรวจจะมีอะไรกินล่ะ ครับ

[wooot]

เวลาผมขับรถจะเว้นระยะไว้สำหรับความปลอดภัย (ห่างจากคันหน้าตามความเร็วรถ)
ก็โดนปาดหน้าประจำ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าสมัยนี้ขับรถไม่เผื่อระยะเบรกกันเลยหรือ
แล้วถ้ากลุ่มรถข้างหน้าผมเกิดชนกันตูมตามขึ้นมา ทำให้ผมต้องเกิดอุบัติเหตุรวมกันไปด้วย
เนื่องจากระยะความปลอดภัยที่ผมอุตส่าห์เว้นไว้มันไม่พอเสียแล้ว (-    -!)

หรือช่วงรถติดๆกันผมก็ขับรถตามปรกติของผม(ไ่ม่ได้ช้าเลยครับ)
แต่ทำไมต้องมีพวกปัญญาอ่อนขับจี้ท้ายกันขนาดนั้น ไม่เห็นหรือรถข้างหน้าว่ามันติดอยู่
แล้วถ้าชนกัน มันเสียเวลามั้ย ทรัพย์สินเสียหายมั้ย แล้วจะจี้ไปเพื่อ..... (-    -!!)

หรือถ้าเราขับรถที่ความเร็ว 110 KM/H แต่โดนรถช้าหักพวงมาลัยออกมาในระยะ 20 เมตร
เราต้องเบรกตามสัญชาติญาณ แต่มันไม่ทันจริงๆก็ต้องชนเต็มท้ายคันที่ตัดหน้า
ความจริง    คือ โดนตัดหน้าแต่ไม่มีหลักฐาน
แต่รูปการ    คือ เราชนเต็มท้ายคันหน้า(ซะงั้น)
กลายเป็นเราต้องรับผิดชอบความเสียหายอีกนะนั่น.... (-   -!!!)

ขับรถตามกฎหมายกำหนดและต้องขับแบบมีวินัยจราจรด้วยครับ ถึงจะปลอดภัย

+1 ครับ
โดยเฉพาะเรื่องโดนปาดหน้าก่อนเข้าไฟแดง ทำผมเสียจังหวะหลายทีแล้ว เห็นๆว่าไฟแดง ยังจะรีบปาดไปจอดอีก !!!

[Ruksadindan]

ข้อ ๑ ตอนอบรมใบขับขี่ก็มีบอกนะครับ..

ข้อ ๒ อาจเพราะเพื่อป้องกันอันตราย ก็เป็นได้ อย่างความเร็วที่จำเป็นต้องใช้ในเวลาแซง เป็นต้นครับ (บริโอ้ก็ล็อคนี่นา และโดนปลดไปในกระทู้ข้างล่าง) อย่างที่ยุ่นก็ล็อคไว้ที่ 112 ครับ