ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังไงครับ... ถ้า ซื้อรถมาใช้แค่ 4-5 ปี แล้วขายทิ้งออกคันใหม่ สิ้นเปลืองมั้ย??  (อ่าน 13434 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
รบกวนขอความเห็นครับ

ผมมีแผนที่จะทำงานสายตรวจสอบบัญชี ในบริษัทใหญ่ใจกลางเมือง
แต่รถคันปัจจุบันที่ใช้ เป็นรถใหญ่เครื่อง 2.4
การขับเข้ามาทำงานใจกลางเมือง ย่านสีลม สาทร กับรถใหญ่ขนาดนี้และขับคนเดียว
เลยทำให้ผมมีความคิดอยากเปลี่ยนรถขึ้นมาเป็นอีโค้คาร์แทน เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ที่บ้านมีรถอยู่แล้ว 3 คันครับ แต่ต่างคนทำงานต่างที่ เว้นแต่ออกเที่ยวหรือไปห้าง จะใช้คันเดียวกัน

ตามกฏของสภา ผู้ตรวจสอบต้องเก็บชั่วโมงให้ครบ 3 ปีและสอบให้ผ่าน
แผนของผมคือ ทำงานครบ 3 ปี ใจกลางเมือง เสร็จแล้วจะลาออกมาเลยครับ
กะว่าอีโค้คาร์คันนี้ คงใช้แค่ 3-4 ปีเท่านั้นเอง แล้วจะขายต่อ เพราะออกมาทำงานนอกเมืองแน่ๆ
อยากทราบว่า มันคุ้มมั้ยครับ ใช้รถแค่นี้ แล้วขายเค้าเลย
ใจนึงคิดว่า ค่าน้ำมันที่ประหยัดขึ้น มันจะคุ้มกันเหรอกับการต้องเปลี่ยนรถทั้งคัน
แต่เจ้ารถคันนี้ อายุ 10 ปีแล้วครับ เลยไม่คิดเสียดายที่จะขายเท่าไหร่


อย่าหาว่าผมจับจดเลยนะครับ สายงานตรวจสอบบัญชีมันหนักมากๆ เลยคิดว่าเก็บชั่วโมงครบก็ลาออกเลย
ชีวิตเพื่อนๆผม ช่วง Year ended กลับบ้านกัน 4-5 ทุ่มคือเร็วแล้ว บางทีตี 1 ตี2
เสาร์อาทิตย์ก็ต้องทำงานถ้างานเร่งมากๆ

ปัจจุบันทำสำนักงานบัญชีมา 2 ปี แล้ว อยากต่อยอดทางด้านนี้

แต่นักบัญชีอย่างผม ไม่เก่งเรื่องรถเท่าไหร่เพราะประสบการณ์ยังน้อย
อยากรู้ว่าจะคุ้ม หรือไม่คุ้มครับ
ผมไม่ติดแก๊สนะครับ คุณแม่ขอไว้ ท่านไม่สบายใจ เลยไม่ติดครับ

ปล. รุ่นพี่ขับFD บอกว่าขับเข้ามาในเมือง ล่อไป 7-8 โลลิตร
ตกโลล่ะ 5.xx บาท สยองครับ คิดเลยว่าถ้าเป็นเครื่อง 2.4 อาจจะมีโลล่ะ 6 บาท
ปล2. วีออสคันเก่งของผมโดนคุณพ่อยึดไปแล้ว T___T
เลยต้องมาขับคันนี้แทน แต่ผมมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ครับ (ออกตังเอง)
ปล3. เล็งๆ มาร์ชรุ่น V ไว้ครับ เอาไว้ขับอย่างเดียวจริงๆ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
ทุกวันนี้ ความคุ้มค่าของรถซักคัน วัดด้วยมูลค่าอย่างเดียวก็ไม่ได้

มันต้องวัดที่คุณค่าด้วย เช่น

เมื่อก่อนเราจะคำนวนกันครับว่า ใช้กี่ กม. ถึงจะคุ้ม แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไป

รถมันเป็นของสิ้นเปลืองอยู่แล้ว ในมุมผม ถ้าทำงาน มีเงิน ก็ผ่อนแต่รถ หมดแต่กับรถ แบบนี้ใช้กี่ปี ก็ไม่คุ้ม มันไม่ถูกต้อง
ผมมีเพื่อนหลายคน ทำงานบริษัืืท เงินเดือนดี เลี้ยงรุ่นเจอกันบ่อยๆ เห็นมันเปลี่ยนรถอีกแล้ว ถามว่ารถไปชนมาหรือ ทำไมเปลี่ยนเร็วจัง

มันบอกคันเก่าเพิ่งผ่อนหมดไป เลยขายไปดาวน์คันใหม่มาผ่อนต่อ

ผมฟังแล้วก็ได้แต่งง

ออฟไลน์ grev

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 322
สั้นๆเลยครับ ถ้าเงินถึงอยากทำไรก็ทำเลยครับ
สำหรับผมรถคันนึงต้อง 10 ปีเป็นอย่างน้อย

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,546
เปลี่ยนเลย คงไม่มีเวลามานั่งเอาไปเข้าอู่หรอกครับ เสียเวลา

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
สิ่งที่ควรเอามาคิด คือ ความสามารถในการหาเงิน และเงินคงเหลือแต่ละเดือนครับ
การซื้อรถ สำหรับผมถือว่าเป็นการตอบแทนการทำงานของตัวเองครับ แม้ว่าจะเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ก็คือการให้กำไรชีวิตอย่างหนึ่ง ให้ทั้งความสะดวก และเป็นขาเวลาต้องการเดินทาง(ผมชอบขับรถเที่ยวครับ)

ผมเป็นคนประเภทที่ ซื้อรถแล้วใช้ยาวครับ(เกิน 6 ปีขึ้นไป) ดังนั้นผมจะเลือกรถที่ตัวเองซื้อได้ โดยมองรถรุ่นที่ตรงกับความต้องการของตัวเองให้มากที่สุด โดยปัจจัยหลักคือ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ ต้องไม่เบียดเบียนค่าใช้จ่ายส่วนอื่นครับ

เคสของคุณ ผมเดาว่าคุณมองเรื่องความประหยัดนำมา แต่อยากจะให้มองอย่างนี้ครับ คนทำงานหนัก รถที่ใช้ควรจะให้ความสบายในการขับขี่ ถ้าเหนื่อยจากการทำงานแล้วต้องมาเหนื่อยกับการขับรถด้วยก็คงไม่ดีเท่าไหร่


ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
ถามว่าเปลืองมั้ยมันเปลืองอยู่แล้วครับ
ว่าแต่จะเอาอะไรมาวัด ส่วนตัวผมซื้อรถคันใหม่เพื่อความสุขทางใจเท่านั้นเองครับ ในราคาที่เรามีกำลังซื้อ เป็นการซื้อความสุขทางใจครับผมอิๆ

ออฟไลน์ KAKASHII

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
  • งามปะละ
ของผม 3 ปีพอใกล้หมดประกันก็เปลี่ยนใหม่ อย่างน้อยก็เซฟค่าซ่อม  เอาเงินมาออกใหม่ดีกว่า

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
เปลืองนะครับ ซื้อรถใหม่แต่ละครั้งมันมีค่ากำไร ค่าการตลาดอะไรเยอะแยะที่มันนอกเหนือจากมูลค่าของตัวรถเองหลายแสน ถ้ารู้ว่าจะใช้ไม่นานแล้วขายทิ้งน่าจะลองดูมือสองสภาพดีจะเหมาะสมกว่า อีโคคาร์แล่นน้อยที่ขายทิ้งเพราะรับค่าผ่อนไม่ไหวแต่รีบออกเพราะกลัวเสียสิทธ์ผมว่ามีเยอะนา ค่าเปลี่ยนอะไหล่โน่นนี่ผมว่ามันยังถูกมาหากต้องเทียบกับราคารถเก่าที่โดนหักไปตอนขายต่อกับที่ต้องเพิ่มตอนซื้อใหม่ เห็นด้วยกับที่ว่าเรื่องรถอย่าไปลงทุนกับมันมากครับ ซื้อใหม่เรื่อยๆทุกๆ4ปีก็เหมือนเรากลายเป็นหนูปั่นจักรให้ค่ายรถเอาเงินเราไปอยู่เรื่อยๆ เก็บเงินไปใช้กับเรื่องอื่นๆดีกว่า  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
สำหรับผมไม่เปลืองนะ รถสมัยนี้พอได้ 5 ปี เริ่มมีซ่อม
ถ้าไม่เกิน 5 ปี ส่วนใหญ่แค่เข้าศูนย์ถ่ายน้ำมันเครื่อง อะไหล่สิ้นเปลืองบางตัว สบาย ๆ

บ้านเมียผม เปลี่ยนรถแต่ละคันไม่เกิน 4 ปี ไม่ถึง 70,000 กม. เปลืองสุดๆ
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
ต้องลองคิดดูครับว่า ไปทำงานวันล่ะกี่กิโล ใช้น้ำมันกี่ลิตร ทำงานปีล่ะกี่วัน กลับดึกรถไม่ติด ประมาณนี้ครับ แล้วเราจะรู้ว่าคุ้มหรือไม่คุ้มครับ
สำหรับรถใช้ 3-4 แล้วขายทิ้งไม่ถือว่าสิ้นเปลื้องนะครับ ยิ่งรถราคาไม่สูง ค่าเสื่อมก็ไม่สูงตาม แต่ % ที่เสียไปอาจจะเท่ากันครับ
ขออนุญาตินะครับ จขกท. ทำงานเป็นผู้สอบบัญชีอ๋อครับ เพิ่งรู้ว่างานหนักขนาดนี้

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
ถ้าคนใช้งานมันจริงๆ ใช้ทุกวัน 4-5 ปีมันคุ้มแล้วครับ ต่อจากนั้นรายการซ่อมจะมาแล้ว




ออฟไลน์ applebees

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
KPMG ที่เอ็มไพร เหรอครับ ^^

ซื้อไปเลยครับ 3-4 ปี แต่หากจะซื้อ eco car ต้องอย่าลืมว่าเงินคืนภาษีที่คุณได้มานั้น มีข้อกำหนดว่าต้องเป็นเจ้าของรถ 5 ปีนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2012, 12:18:16 โดย applebees »

ออฟไลน์ Sykes

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 286
ขอนอกเรื่องนิดนึง
ทำ Big Four ไม่น่ามีที่จอดรถให้นะคับ อย่างดีที่สุดคือต้องมาวนรถทุกๆกี่ ชม. นี่แหละคับ (หรือข้อมูลผมอาจตกหล่นก็ขออภัยคับ)
ลองตรวจสอบให้ดีก่อน เพราะอาจจะเปลี่ยนโจทย์เป็น "หารถขับมาจอดแถว BTS แล้วนั่งต่อมาทำงาน" ก็ได้คับ

อีกอย่างเพื่อนผมที่ทำออดิทแถวนั้น ในปีนึงถือว่าได้เข้าออฟฟิศน้อยมากคับ
ส่วนมากจะไปอยู่ออฟฟิศลูกค้าซะมากกว่า อาจกลายเป็นว่าคุณ YenChar จะไม่ค่อยได้เข้าเมืองในเวลาธรรมดาก็ได้คับ

ปล. ทำงานมาแล้วสองปี ผมว่าเรารุ่นๆเดียวกันแน่เลยคับ
"The things you own, end up owning you" - Tyler Durden

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
ที่บ้านผมใช้รถแต่ละคันเฉลี่ยที่ 5-7 ปีก็เปลี่ยนครับ ยกเว้นบางคันที่รักจริง ๆ ก็ลากยาวมาจนวันนี้

บางคันตัวรถยังดี แต่เครื่องไม่ไหว ก็ถ้ารักอยู่ ยอมลงทุนเปลี่ยนเครื่องครับ แล้วแต่กรณีไป

ส่วนรถกระบะที่สวนส้ม ใช้มากสุดก็ 5 ปีครับ รถใช้งานทุกวันพอเกินกว่า 5 ปี ค่ารักษาพยาบาลมันจะค่อนข้างเยอะ

จึงยอมขายตัดหรือเอาไปแลกที่ศูนย์ เพื่อเอาคันใหม่ออกมาตะบี้ตะบันต่อ ไม่ได้ฟุ่มเฟือยนะครับ เพียงแต่มันคุ้มกว่าที่จะเก็บไว้

แม่ผมพูดตลอด ซื้อรถมาใช้จนคุ้มแล้วก็เปลี่ยนเถอะ อย่าปล่อยให้พังก่อนเปลี่ยน มันไม่คุ้ม ;D
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ gouisoul

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 81
    • อีเมล์
ผมว่า ok เลย คับ เทคโยโลยีมันไกลเร็วมาก ลองมองรถ 5-4 ปีก่อน
7-10 km /l มาตอนนี้ 16up ขนาดใหญ่ ขึ้น ความปลอดภัย อีก
ถ้า 4-5 ปี aec เปิดอีก ดีไหมดี ได้มาทํางานแถว หนองคาย
ออก รถที่ลาว ก็ได้

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ถ้ามันยังใช้ได้แล้วเรารัก ใช้มันไปเถอะครับ

วัฐจักรของรถยนต์ ตกรุ่นมั่ง เก่ามั่ง ธรรมดาอย่าไปคิดมาก

เอาที่ใจรักชอบ มีความสุขกับในสิ่งที่เราต้องการ

แล้วเราจะมีความสุขครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
เปลี่ยนก็ดีนะ ข้อดีคือ
1. ตัดความกังวลเรื่องการซ่อมได้เยอะรถใช้งานทุกวันต้องมาซ่อมบ่อยๆเสียเวลาพักผ่อนเอา
2. เอารุ่นที่ได้คืนภาษีประหยัดตังไปอีกเยอะ
3. ในเมืองคันใหญ่กว่าใช่สบาย คันเล็กกว่าสะดวก ซอกแซกง่าย จะเลี้ยว จอด ยูเทิร์นง่ายกว่าเยอะ

ถ้าเป็นรถ 5-7 ปี จะเชียร์ให้เปลี่ยนมากกว่าเพราะใช้ไปอีก 5 ปีเป็น 10 ปีราคาก็ตกเยอะเหมือนกันพอๆกับใช้ป้ายแดงมา 5 ปี แต่รถ 10 ปีใช้เป็น 15 ปี ตกไม่มากเท่าไหร่ ไม่ลองหาทางโจมตียึดวีออสคืนหล่ะครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
จริงๆเป็นนักบัญชีน่าจะตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าใครนะครับ ว่าคุ้มไม่คุ้ม ในแง่เหตุผล แต่อารมณ์อีกเรื่อง

คำแนะนำคือซื้อมาใช้ระยะ3-4ปี หามือ2 พวกวีออสมาใช้น่าจะคุ้มกว่า เลือกปีใหม่ๆรถยังไม่มีปัญหาหรอก ยิ่งช่วงรถคันแรกราคายิ่งตก พอขายเป็นมือ3 ราคาจะไม่ตกเท่ามือ1ขายเป็นมือ2 เพราะรถคันแรกต้องถือครอง5ปี

ออฟไลน์ Dek Prade

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 129
ทำงานใจกลางเมือง ย่านสีลม สาทร
March จะบริโภคอยู่ที่ 11-12 กม/ลิตร แน่นอน
พอใช้ไปแล้ว 3 ปี น่าจะขายต่อได้ที่ราคา60-70%

แต่ในระยะ 3 ปีนี้ สบายใจเรื่องซ่อม ไปได้เลย (โอกาสมีต้องจ่ายเอง แต่น้อยมาก  เพราะยังเครมฟรีๆได้)

ค่าใช้จ่าย ค่าประกันชั้น1 ราคาไม่เกิน 1.5หมื่นบาท
ค่าบำรุงรักษาเชคตามระยะทุก 1 หมื่นโล ก็ราวๆ 800-2000 บาท
แบตฯลูกละ 2 พัน ต้นๆ
พรบ.+ภาษีประจำปี ไม่เกิน 2 พันบาท
รวมๆแล้ว ก็น่าจะถูกกว่ารถขนาดใหญ่ที่คุณใช้อยู่

น่าจะพอทำให้คำนวณได้ว่า  3 ปี จะมีรายจ่ายเท่าไหร่ ได้ไม่ยาก

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
มือ 2 เถอะครับ แล้วจับติดแก้ส  :D
H.

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
KPMG ที่เอ็มไพร เหรอครับ ^^

ซื้อไปเลยครับ 3-4 ปี แต่หากจะซื้อ eco car ต้องอย่าลืมว่าเงินคืนภาษีที่คุณได้มานั้น มีข้อกำหนดว่าต้องเป็นเจ้าของรถ 5 ปีนะครับ

ไม่ใช่ครับ แต่เป็นคู่แข่ง ไม่ขอบอกล่ะกันนะครับ หุๆ
ตอนนี้ก็ทำแถวๆนี้เหมือนกันครับ แต่สายสำนักงานบัญชี เป็นงานบริการแทนที่จะทำบัญชี
ผมเบื่อมากๆครับ เป็นเหมือนทั้งนักบัญชี ทั้งบริการ ทั้งการตลาด เหอะๆ

ขอนอกเรื่องนิดนึง
ทำ Big Four ไม่น่ามีที่จอดรถให้นะคับ อย่างดีที่สุดคือต้องมาวนรถทุกๆกี่ ชม. นี่แหละคับ (หรือข้อมูลผมอาจตกหล่นก็ขออภัยคับ)
ลองตรวจสอบให้ดีก่อน เพราะอาจจะเปลี่ยนโจทย์เป็น "หารถขับมาจอดแถว BTS แล้วนั่งต่อมาทำงาน" ก็ได้คับ

อีกอย่างเพื่อนผมที่ทำออดิทแถวนั้น ในปีนึงถือว่าได้เข้าออฟฟิศน้อยมากคับ
ส่วนมากจะไปอยู่ออฟฟิศลูกค้าซะมากกว่า อาจกลายเป็นว่าคุณ YenChar จะไม่ค่อยได้เข้าเมืองในเวลาธรรมดาก็ได้คับ

ปล. ทำงานมาแล้วสองปี ผมว่าเรารุ่นๆเดียวกันแน่เลยคับ

ขอบคุณที่แนะนำครับ

คือ คุณแฟนผมทำอยู่ Big4 เหมือนกันครับ
ปีๆนึงเข้าออฟฟิศบ่อยอยู่เหมือนกัน แถมเป็นสายงาน Bank ไปไหนไม่ไกลครับ
บางทีต้องเข้ามาเคลียร์งานในออฟฟิศตอนเย็นด้วยซ้ำครับ

กะว่าจะให้เค้าใช้ด้วย รถคงได้วิ่งบ่อยๆครับ
มีอีกประเด็นคือ แท๊กซี่หายากมากๆครับ เล่นตัวก็สารพัด คงแชร์กันใช้
ถ้าเป็นแคมรี่ แฟนผมขับไม่ได้เลยครับ นั่งเป็นคุณนายอย่างเดียวไม่ยอมขับ ไม่อยากให้นั่งแท๊กซี่ แต่จะรับส่งก็ไม่ไหว
เคยจอด BTS แล้วไม่เวริค์ครับ กระจกมองข้างหายบ้าง โดนเกี่ยว โดนเฉี่ยว
แถมช่องก็เล็กครับ ยิ่งเจอพวกจอดขวาง เซ็งครับ
คิดว่า เงินเดือนตอนนี้สู้ไหวแล้วเรื่องค่าจอด ไม่มีภาระอะไร เลยคิดว่าถึงเวลาล่ะครับ

น่าจะรุ่นๆเดียวกันนะครับ ^^

ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำครับ

ออฟไลน์ chaiz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
    • อีเมล์
เปลี่ยนเลยครับ ประหยัด คล่องตัว ไม่ต้องกลัวเรื่องซ่อม

ออฟไลน์ Kubota

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 207
    • .
ก็ปกตินะครับ คิดซะว่าเช่ารถ
เหมาะสำหรับคนขี้เกียจซ่อม ไม่อยากจุกจิก
5 ปี ผ่อนหมด ขายเอาเงินไปดาวน์คันไหม่แล้วผ่อนต่อ
แต่ก็คำนวนเรื่องรายได้ ค่้าใช้จ่ายต่างๆไว้ด้วยอะคับ ไม่ให้หนักเกินไป
แต่ถ้ารับค่าใช้จ่ายไม่ไหวก็ มือสองซื้อสด แล้วไปทำให้จบๆ ดีกว่า

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
ซื้อ eco car ตอนนี้ มันคุ้มแสนคุ้ม  ซื้อไปเถอะ
เป็นนักบัญชีน่าจะเข้าใจ   ใช้ 5  ปี  มันก็เหมือนตัดค่าเสื่อมปีละ 20 เปอร์เซ็น
5 ปีเหลือ 0  แต่จริง ๆ แล้ว  ถึงตอนนั้นขายก็ยังได้เงินมากอยู่

ของบางอย่างตัดค่าเสื่อมมากกว่านี้อีก   อย่างอุปกรณ์ด้าน IT บางอย่างตัดค่าเสื่อมปีละ 30-40 เปอร์เซ็น



ออฟไลน์ Sykes

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 286
KPMG ที่เอ็มไพร เหรอครับ ^^

ซื้อไปเลยครับ 3-4 ปี แต่หากจะซื้อ eco car ต้องอย่าลืมว่าเงินคืนภาษีที่คุณได้มานั้น มีข้อกำหนดว่าต้องเป็นเจ้าของรถ 5 ปีนะครับ

ไม่ใช่ครับ แต่เป็นคู่แข่ง ไม่ขอบอกล่ะกันนะครับ หุๆ
ตอนนี้ก็ทำแถวๆนี้เหมือนกันครับ แต่สายสำนักงานบัญชี เป็นงานบริการแทนที่จะทำบัญชี
ผมเบื่อมากๆครับ เป็นเหมือนทั้งนักบัญชี ทั้งบริการ ทั้งการตลาด เหอะๆ

ขอนอกเรื่องนิดนึง
ทำ Big Four ไม่น่ามีที่จอดรถให้นะคับ อย่างดีที่สุดคือต้องมาวนรถทุกๆกี่ ชม. นี่แหละคับ (หรือข้อมูลผมอาจตกหล่นก็ขออภัยคับ)
ลองตรวจสอบให้ดีก่อน เพราะอาจจะเปลี่ยนโจทย์เป็น "หารถขับมาจอดแถว BTS แล้วนั่งต่อมาทำงาน" ก็ได้คับ

อีกอย่างเพื่อนผมที่ทำออดิทแถวนั้น ในปีนึงถือว่าได้เข้าออฟฟิศน้อยมากคับ
ส่วนมากจะไปอยู่ออฟฟิศลูกค้าซะมากกว่า อาจกลายเป็นว่าคุณ YenChar จะไม่ค่อยได้เข้าเมืองในเวลาธรรมดาก็ได้คับ

ปล. ทำงานมาแล้วสองปี ผมว่าเรารุ่นๆเดียวกันแน่เลยคับ

ขอบคุณที่แนะนำครับ

คือ คุณแฟนผมทำอยู่ Big4 เหมือนกันครับ
ปีๆนึงเข้าออฟฟิศบ่อยอยู่เหมือนกัน แถมเป็นสายงาน Bank ไปไหนไม่ไกลครับ
บางทีต้องเข้ามาเคลียร์งานในออฟฟิศตอนเย็นด้วยซ้ำครับ

กะว่าจะให้เค้าใช้ด้วย รถคงได้วิ่งบ่อยๆครับ
มีอีกประเด็นคือ แท๊กซี่หายากมากๆครับ เล่นตัวก็สารพัด คงแชร์กันใช้
ถ้าเป็นแคมรี่ แฟนผมขับไม่ได้เลยครับ นั่งเป็นคุณนายอย่างเดียวไม่ยอมขับ ไม่อยากให้นั่งแท๊กซี่ แต่จะรับส่งก็ไม่ไหว
เคยจอด BTS แล้วไม่เวริค์ครับ กระจกมองข้างหายบ้าง โดนเกี่ยว โดนเฉี่ยว
แถมช่องก็เล็กครับ ยิ่งเจอพวกจอดขวาง เซ็งครับ
คิดว่า เงินเดือนตอนนี้สู้ไหวแล้วเรื่องค่าจอด ไม่มีภาระอะไร เลยคิดว่าถึงเวลาล่ะครับ

น่าจะรุ่นๆเดียวกันนะครับ ^^

ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำครับ

ถ้าได้สาย Finance ก็ดีคับ น่าจะวิ่งอยู่แต่ในเมือง
ตอนผมฝึกงานโดนจับไปสาย Manu. ไปมาเกือบทุกนิคมแล้วคับ

ส่วนเรื่องรถ ผมว่าแค่ได้ความสบายใจว่ารถใหม่ ปัญหาอะไรจุกจิกคงไม่ค่อยมี เท่านี้ก็คุ้มแล้วคับ  ;)
อีกอย่าง เห็นจะให้แฟนขับด้วย รถใหม่ ชัวร์กว่าเห็นๆคับ
"The things you own, end up owning you" - Tyler Durden

ออฟไลน์ puo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 547
รบกวนขอความเห็นครับ

ปล3. เล็งๆ มาร์ชรุ่น V ไว้ครับ เอาไว้ขับอย่างเดียวจริงๆ

ขอบคุณครับ



ขออนุญาตออกความคิดเห็นนะครับ
- รถเก่า10ปีจะมีค่าซ่อมบำรุงตามมา แต่ถ้ารถใหม่อีโค่ จะได้เปรียบหาที่จอดได้ง่าย เลี้ยวคล่อง ยิ่งใน กทม.แล้ว ท่านจะขับง่ายกว่ารถใหญ่ครับ
- ไม่รอดูค่ายH  4ประตู หรือสวิฟดูเหรอครับ    (ที่แนะนำเห็นเป็นเครื่อง4สูบ น่าจะทนกับรถติด และควบคุมอาการสั่นของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าสามสูบ  สวิฟช่วงล่างดีแต่เหนื่อยใจศูนย์บริการอาจบริการได้ไม่เพียงพอกับลูกค้า  ส่วนค่ายH  ตัว4ประตูน่าจะมีอะไรดีกว่าตัว5ประตูเด่นเรื่องศูนย์บริการประทับใจ แล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ หรือถ้าท่านตัดสินใจแล้ว ก็จัดไปครับ... ;D )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2012, 16:54:11 โดย puo »

ออฟไลน์ streetballza

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
    • อีเมล์
ความคิดผม ผมว่าคุณน่าจะใช้คุ้มเลยหล่ะครับ เปลี่ยนเลยครับ ผมยังอยากได้เลยตอนนี้ ;D

ออฟไลน์ 1_series_1

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
แนะนำรถเล็ก+ศูนย์บริการดีครับ เนื่องจากคุณต้องไปตรวจลูกค้าข้างนอกตลอด ไม่ค่อยได้อยู่บริษัทหรอกครับ
หรือถ้าหากว่าสายงานคุณต้องออกต่างจังหวัดบ่อย แนะนำรถใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ O นะครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
เปลืองแน่นอนครับ เพราะ รถคันหนึ่งใช้งานได้มากกว่า 4-5ปี แน่นอนครับ
แต่ส่วนใหญ่ คนที่เปลี่ยนบ่อยเพราะ ไม่อยากซ่อม ไม่อยากกังวลว่าอะไรจะเสียเมื่อไหร่
แต่สิ่งหนึ่งต้องเข้าใจว่า รถสมัยใหม่ระบบต่างๆมากขึ้น ความคงทนย่อมลดลง
บางทีรถที่ทนอาจจะไม่ใช่รถยุโรปที่เหล็กแข็งๆ แต่เป็นรถที่มีระบบ electronic น้อยชิ้น มีระบบกลไกลมาก

สำหรับผมเป็นคนใช้รถนาน ดังนั้น รถอะไรที่เราชอบ ขับแล้ว happy ไม่ต้องฟังคนอื่นมากว่าคันไหนดี ราคาขายต่อมาพิจารณาเป็นอันดับหลังๆ
หรือ ซื้อรถที่มี technology สูง แต่เป็นยี้ห้อตลาด ใช้จนหมดประกัน แล้วเปลี่ยนใหม่

Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ nex7

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 88
    • อีเมล์
ถ้าใช้ยาว ๆ ซื้อพรีอูสไฮบริดจ์ก็ได้รถที่ประหยัดน้ำมัน ใช้ได้นานเกิน 3-4 ปี หรืออาจมองเป็น suv อย่าง capativa ดีเซล กินเฉลี่ย 10-12 km/lite ก็ถือว่าประหยัดในระดับนึง และไม่ต้องเปลี่ยนรถบ่อย ๆ ครับ