ผู้เขียน หัวข้อ: Review : Toyota Altis 1.8E E85 ของคนที่คาดหวังในตัวของมันมากเกินไป  (อ่าน 96631 ครั้ง)

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Review Toyota Altis 1.8E E85 ของคนที่คาดหวังในตัวของมันมากเกินไป
  
      ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอสวัสดีท่านสมาชิกและผู้อ่านHLMทุกๆท่านนะครับ ในวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสรถToyota Altis 1.8E เรียกได้ว่าขับและนั่งจนรู้อาการมันเป็นอย่างดี เรื่องของเรื่องก็คือพี่ชายที่ผมรู้จักมาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แล้วได้เช่ารถของทางHertz เอาไว้แต่ที่นี่ล็อคไว้เลยบอกว่าจะเอาCivic FB และจองล่วงหน้าไว้ค่อนข้างนานแต่ปรากฏว่ารถไม่มีคิวทั้งๆที่ก็เห็นจอดอยู่ที่ลานก็งงๆอยู่ แต่แล้ว!!! กลับได้Altis 1.8E มันไม่ได้พิเศษไรกับตัวรถมันหรอกครับ แต่ที่น่าพิเศษ คือเป็นรถใหม่ที่ยังไม่มีป้ายทะเบียน!! วิ่งไปแค่ 127กิโลเมตร นั้นหมายถึงพวกผมเป็นคนได้ใช้รถคันนี้คนแรก 555เรียกได้ว่าเปิดซิงรถกันเลยที่เดียว.....ผมเนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมทริปตลอดทาง ก็ได้ทั้งขับทั้งนั่ง ขึ้นดอยอินทนนท์ ขับทางเรียบ ในเมืองรถติด และใช้ความเร็วเรียกได้ว่าครบทุกสถานการณ์ แต่แล้วเอาจริงๆตอนแรกๆที่บ้านผมก็สนใจรถC-seg อยู่ครับ ก็เลยดูๆAltis,Civic,Slyphy,MZ3,EX เรียกได้ว่าสนใจอยู่พอดีและมีรถในตัวเลือกให้ได้ลองพอดีด้วยครับ แต่แล้วเมื่อลองเสร็จผลเป็นไงรอดูตอนท้ายรีวิวกันนะครับ ....
(รูปทั้งหมดถ่ายจากIphone4 อาจจะมีบ้างรูปที่มีลายละเอียดไม่ดี ก็ขออภัยด้วยนะครับ)
  
 

      
      Altisโฉมนี้อย่างที่รู้กัน โฉมแรกเป็นโฉมที่อะไรๆก็ดูไม่ลงตัวนักทั้งพวงมาลัยที่เบาเกินไป ช่วงล่างที่นิ่มเกินไป แล้วก็มาถึงช่วงMinorchange โดยจับยัดเครื่องระบบDual-VVT-i มาให้นั้นเองหรือวาล์วแปรผันคู่ไอดีและไอเสีย พร้อมเกียร์CVT 7SP ในรุ่น1.8และ1.6 ส่วน1.6ก็จะเป็นเครื่องDual-VVT-I เกียร์ยัง4สปีดบ้านๆอยู่ครับ แล้วที่นี่ในตัวล่าสุดโตโยต้าก็พึ่งได้ปรับโฉมเมื่อปลายปี2012 อีกเล็กน้อยคือสามารถเติมน้ำมันE85ได้ นั้นคือรุ่นที่ผมกำลังจะรีวิวการเปลี่ยนแปลง ก็จะเป็นกระจังหน้าที่ยืมรุ่นพี่อย่าง 2.0Vมาใส่นั้นเองครับ (ข้อมูลตรงนี้ถ้าผิดตรงไหนแย้งได้นะครับพอดีเขียนเท่าที่รู้) อันนี้ก็น่าจะพอเป็นที่มาได้นิดๆหน่อยๆสำหรับคนที่ยัง งงๆ กับโฉมของมันอยู่....เข้าเรื่องกับตัวเลยก็แล้วกัน


ภายนอก
    ความจริงก็ไม่อยากจะบ่นอะไรมากในหัวข้อนี้เพราะว่าแต่หละคนตาก็ไม่เหมือนกัน สมองก็ไม่เหมือนกัน จะให้ชอบเหมือนกันก็คงจะแปลกๆอยู่ ข้อนี้ขอพูดในส่วนของความรู้สึกส่วนตัวของผมเองนะครับ  ลายเส้นของตัวรถซึ่งผมไม่รู้สิผมกับรู้สึกว่าสมัยนี้โตโยต้ามักจะทำรถเล็กๆให้เหมือนรถใหญ่ๆของเขาอย่างCamry ซึ่งถ้ามองๆกันแล้วเส้นสายของAltisโฉมนี้ก็ใกล้ๆกับ Camry ACV 40 อยู่เหมือนกัน


 
ด้านหน้า กระจังหน้าลายใหม่(สำหรับรุ่น1.8) สีดำซึ่งก็ดูแล้วน่าจะลดต้นทุน5555 แต่ใส่มาก็ทำให้ดูดีสปอร์ตขึ้นพริวขึ้นอยู่เหมือนกันครับ ชุดโคมไฟหน้าเส้นสายทำให้ดูพริวเข้ากับกันชนและบอดี้ของรถ ซึ้งสิ่งที่น่าติสำหรับชุดไฟอันนี้มาก คือไฟสูงความกว้างของมุมที่ให้น้อยมากครับ



ด้านข้าง ไม่มีอะไรมากครับ เล่นเส้นสายจากหน้ารถไปสู่หลังรถ เรียนแบบรุ่นพี่อย่างแคมรี่ แต่ว่าในรุ่นE1 ขึ้นไปจะมีสเกริต์ใส่มาให้เพื่อลดความแก่และทำให้ดูสปอร์ตขึ้นมานิสสสนึง ส่วนล้อแม็ก ยังเหมือนเดิมครับ ใครอยู่กทม.เห็นTaxi ก็คงจะคุ้นกับมันหรือไม่ก็มองตอนรถติดจนเบื่อเพราะมันก็คือวงเดียวกันนั้นเองขนาด195/65/R15 ใส่แล้วก็ดูโอเคครับ ไม่สวยไมน่าเกลียด ล้างง่ายดี แต่ในเมื่อเป็นรุ่น1.8 ลึกๆก็อยากเห็นลายที่ดูดีกว่านี้ครับ


 
ด้านหลัง ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นมากมายเหมือนกันครับ ก็จะมีกันชนหลังที่ด้านล่างทำให้ดูพริวขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน่อยแล้วก็มีรีเฟล็กเตอร์สะท้อนแซงมาให้ตอนกลางคืนครับ แล้วก็มีเซนเซอร์ขี้บ่นของโตโยต้าเวลาถอยมาให้ด้วยครับ (อุปกรณ์พวกนี้เป็นมาตรฐานของรถยุคนี้ที่ต้องมีอยู่แล้ว)


 
ส่วนชุดไฟหลังที่เป็นหลอดแบบLED แล้วมีติ่งห้อยมาให้นิดนึงครับ แสงถ้าอยู่คันหลังถือว่าเห็นชัดเจนดีครับ และไม่แยงตาเหมือนLED คันอื่น ส่วนความสวนงามแล้วแต่บุคคลจะพิจารณาก็แล้วกัน


 
ภายนอกก็จบสักที่....ของผมก็บ่นๆไปตามความคิดของผู้เขียนครับ แต่ท่านผู้อ่านจะชอบหรือไม่ชอบแบบไหนอยู่ที่ตัวท่านครับ  ส่วนการเข้าออกรถคงไม่ขอพูดถึงนะครับเพราะว่าสรีระของแต่หละคนจะดีก็ควรไปลองเองนะครับส่วนสำหรับผมไม่มีปัญหาครับ นน.70 ส่วนสูง 165 ++ ประมาณนั้นครับ เรื่องเบาะขออธิบายแบบไม่ยาวนักนะครับ

เบาะคู่หน้านั่งสบายดีครับ แต่ติดแค่ตรงที่พิงหัวผมกับรู้สึกดันๆเล็กน้อยแต่สำหรับผมแล้วใช้ได้อยู่ แต่ปัญหาคือ ที่วางแขนมันวางไม่ได้ โคตรเมื่อยเลยผมเป็นคนติดวางแขนมากเวลานั่งข้างคนขับ หรือเวลาขับเองรถติดๆก็จะวางแขนไว้ที่วางแขน ไอนี่วางไม่ได้(เกิดอะไรขึ้น??)จะให้วางที่ขอบกระจกก็ดุสูงเกินสรีระของมนุษย์คนไทยไปหน่อย ยังดีนะที่คอนโซลกลางยังพอวางแขนได้อยู่ อีกสิ่งที่น่าคิคคือ รถเกียร์ออโต้ที่วางขาซ้ายหายไปไหน?? คือจะบอกว่านู่นๆบวมๆจากพื้นรถเป็นที่วางเท้าผมว่าวัสดุชิ้นนั้นดูไม่Make sense ที่จะใช้ในการวางของแค่นี้ขอเหอะใส่มาเถอะครับ รถยุคปี96 อย่างปาเจโร่ ยังใสมาให้เลย



ด้านเบาะหลัง ปัญหาคล้ายๆเบาะหน้าคือ วางแขนไม่ได้ ใครขึ้นแท็กซี่ก็ลองๆดูก็ได้นะครับ 5555 ส่วนตัวเบาะเอง ต้นขาและพื้นที่เหนือศรีษะผมไม่มีปัญหา มีแต่ปัญหาคือ เบาะตั้งชั่นมากไปสักนิสสนึงครับ


 
ภายใน หัวข้อนี้คงจะอธิบายในส่วนของฟั่งชั่นการใช้งานมากกว่านะครับ


 
เริ่มจากคอนโซลกลางก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ ไล่จากบนก็คงเป็นแอร์ที่หน้าตาคงเหมือนกันทุกรุ่น แต่สิ่งที่น่าชมเชยคือไฟฉุกเฉินสามารถกดได้ง่าย โดยที่เวลากดไม่จำเป็นต้องละสายตาจากท้องถนน ร้องลงมาก็เครื่องเสียงที่เสียงจะบอกตรงๆว่ามันก็คือToyota ผมไม่ได้หูทองนะ แต่เนื้อของเสียงมันไม่มีมวลเลยครับ เบสออกก็จริงนะครับ แหลมมาเยอะใสๆก็จริงแต่เสียงกลาง มวลของเสียงมันอยู่ไหน? (อันนี้ก็แล้วแต่หูแต่ควรลองฟังเอง) เครื่องเสียงมีระบบASL มาให้ก็คือเพิ่มเสียงตามความเร็วรถนั้นเอง  แต่ที่น่าด่าชิบหายในงานนี้ คือมันไม่มีUSB!!! นี่มันยุค2013แล้วนะครับพี่โต จะให้ผมใช้3.5MMก็แปลกๆ สาย3.5แต่หละเส้นแถบจะรัดคอคนขับได้เลยนะนั้น และที่สำคัญคือมันทำให้คนที่ใช้มือถือฟังเพลงอย่างผมวุ่นวายมากกในการใช้ ทั้งชารจ์ทั้งจะฟังเพลง เพราะฉนั่นวิธีแก้ปัญหาก็คือการWrite MP3 ลงในซีดี(เป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่สะดวกสบายของยุคไอที) ส่วนใครต้องการชารจ์ไอโฟนก็หาสายชาร์จมาจิ้มกับช่องจุดบุหรี่กันเอาเองนะครับ  ข้อนี้สำหรับคนอย่างผมที่ใช้มือถือเยอะๆ และต้องการไรที่ง่ายๆ ขอติเลยจริงๆ โตโยต้าควรจะใส่มาได้แล้ว!! Honda City ยังมีเลยไม่ต้องไปไหนไกลVigo ยังมีให้นี้Altisนะเว้ยเฮ้ย!! (เสียงจากผู้ที่เกือบจะได้เป็นลูกค้าโตโยต้า แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง ณ จุดนนี้เหมือนกัน) มันดูเป็นเรื่องเล็กๆแต่เราใช้อยู่ทุกวันมันก็ดูเป็นปัญหาขึ้นมาได้เหมือนกัน ส่วนพวงมาลัย เป็นแบบยูรีเทนครับการใช้งานก็ดีโอเคครับ จับได้สบายดีไม่มีข้อติ แต่อีกที่ๆน่าติคือ สวิสต์ควบคุมกระจกมองข้าง ในตอนกลางคืนไม่มีแซงโพล่มาให้เลย เข้าใจว่าคล่ำได้แต่ว่าบางครั้งตอนใช้ตอนกลางคืน จะกดแล้วหาไม่เจอเงิบได้เหมือนกันครับ อย่างน้อยขอแสงตรงปุ่มพับอย่างเดียวก็ได้ครับ


 
ส่วนการควบคุมเครื่องปรับอากาศ เรื่องความเย็นยังไงโตโยต้าโคตรแชมป์ เปิดแปปๆๆเย็นมากครับ ข้อเสียจะเยอะยังไงแต่วันที่อากาศร้อนๆเข้ามานั่งในรถคันนี้ก็อาจจะพอมีใจให้มันได้บ้าง 555...การใช้งานใช้ได้ง่ายครับ แบ่งปุ่มปรับอุณหภมิและพัดลมชุดเจนดีครับ แต่น่าเสียดายไฟที่เป็นเหมือนคิ้วสีส้ม กับติดแค่เส้ยเดียวถ้าคุณไม่ได้เปิดไล่ฝ่าหน้าและหลัง นั้นคือคุณจะไม่เห้นความสวยงามของมันเลยครับ .....แต่การใช้งานอะกดปุ่มไรต่างๆมันง่ายจริงครับ แต่ว่าหน้าจอเอาจริงๆทั้งพัดลมและอุณหภมิน่าจะมาอยู่ในถบเดียวกันไม่น่ามีกลมๆมากั้นเนื่องจากจะได้มองเห็นได้สะดวกกว่านี้ครับ ข้างล่างจากชุดปรับอากาศก็ช่องAUX แล้วก็รูเปล่าๆ ทำรอUSBมาใส่มั้งครับ...เห็นแล้วอยากเจาะเอง 5555


 
คันเกียร์ การใช้งานโอเคครับเป็นเกียร์แบบ คันบันได มีบวกลบมาให้ แต่ติดตรงเวลาเล่น+ - ฐานของคันเกียร์ดูเหมือนคันเกียร์ของMidnightเลยครับ 555 โยกแรงๆรถตัวเองกลัวพังน่าดูครับความสวยงามแล้วแต่คนครับ รสนิยมไม่เหมือนกัน
 


มาตรวัด ในคันนี้เป็นเกรด E ซึ่งมาตรวัดจะเหมือนในร่น J ครับมี จอMID มาให้ มีทั้งอัตราสิ้นเปลื้องRealtimeและAVG,Speed AVG, ระยะเวลาในการขับขี่,ระยะทางที่สามารถขับขี่ต่อไปได้,นาฬิกา (ผมเล่นไม่ทุกอันครับ แต่ข้อมูลส่วนนี่อ้างอิงมาจากโบรชัวร์ของทางToyotaครับ) มาตรวั้ดตัวนี้ผมกลับมองว่าเป้นมาตรวัดที่มองได้ง่ายมาก จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ แซงสีส้มตอนกลางคืนไม่แยงตา ต่างกับหน้าปัดในรุ่นG-V ที่เป็นออฟตริตรอน มันหรูและก็สวยอยู่แต่การใช้งานจจริงๆผมว่ามันไม่เวรคิ์ครับ ข้อนี้ยกให้ใช้ง่ายครับ
 


การเข้าออกรถ ใช้กุญแจสหกรณ์ของโตโยต้าเช่นเคยครับ


 

มาดูกันที่สมรรถนะดีกว่าครับ

ในAltis ตัวนี้เป็นตัว 1.8 ใช้เครื่องยนต์2ZR-FE 4สูบเรียง พ่วงDual-VVTi แรงม้าสูงสุด140/6400รอบ ส่วนแรงบิตอยู่ที่ 176.4 N-M /4000 รอบ พ่วงด้วยเกียร์CVT ล็อคอัตราทดพูเลย์ไว้7จังหวะ พร้อมบวก+ - ที่พอให้ความสนุกได้นิสสนึง คันเร่งคันนี้เป็นแบบคันเร่งไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วครับ แต่การตอบสนองไม่ดีเลย์เหยียบเป็นมาครับงานนี้ มาดูความรู้สึกการขับขี่ดีกว่าครับ

 

เครื่องยนต์ตัวนี้จะเอาจริงๆ ในความรู้สึกของผม2ZR ไม่ใช่เครื่องที่อืด ตัวเครื่องมีแรงพละกำลังมาให้เยอะอยู่ครับแต่เมื่อจับคู่กับเกียร์CVT บางครั้งการขับขี่ดูไม่ร้าวใจหนัก(ข้อนี้พอเข้าใจนะเพราะCVT) คันนี้ถ้าเหยียบเต็มตีนออกตัวไปเลยแรงๆ เครื่อง1.8มันทำงานได้ดี เกียร์CVTไล่ลื่นดีครับ แถมยังมีการทำตัวแอบเลี่ยนแบบเกียร์เฟืองคือ มีการเปลี่ยนรอบให้เห็นอย่างชัดเจน ถ้าเปลี่ยนเข้าโหมดM จะรู้สึกมีแรงดึงเล็กๆให้เล็กๆครับ เรืองอัตราเร่งไม่ได้จับเวลามานะครับแต่จากความรู้สึกก็ไวพอสมควรครับ ส่วนความเร็วที่ขับในการทดลองอยู่ในช่วง 100-140กม./ชม. ถนนมันไม่ค่อยเอื้อสักเท่าไรแต่ก็เป็นช่วงความเร็วที่คนธรรมดาใช้กัน การขับขี่อัตราเร่งแซงช่วงทางเรียบในช่วงที่ผมขับทำได้ดีเลยหละครับ การออกตัวแซงยาวๆเปรี้ยวได้นิดๆกับเครื่องยนต์ตัวนี้ไหลลื่นดีมากครับ เมื่อจับคู่กับเกียร์CVT แต่ช่วงที่ผมไม่ได้ขับคือช่วงที่พี่ผมขับในการขึ้นดอยอินทนนท์ ต้องการการเร่งแซงรถคันข้างหน้าที่ฉับพลัน(ใครเคยขึ้นดอยนี้จะรู้จังหวะดีๆยาวๆมันมีน้อยครับ) ตอนนั้นเป็นช่วงที่พี่ผมขับแบบเหยียบมิดตบเกียร์เพื่อจะเร่งเเซงให้พ้น แต่สิ่งที่ตะลึงมันไม่ได้เกิดขึ้นตอนทางราบสิครับมันดันมาเกิดขึ้นบนดอยที่เราต้องการเรียกพลังอย่างเต็มที่รถเหมือนไม่มีอาการพยายามออกตัวดีดออกไปจนลากไปถึง5พันรอบถึงจะรู้สึกมีแรงพุ่งมาให้ใช้เหมือนมีอะไรมาดึงหลังเอาไว้แบบบอกไม่ถูก นี้มันอะไรกัน??? มันเป็นคำถามที่หาคำตอบได้ยากแบบงงๆๆเหมือนกูเหยียบติดเหล็กแล้วน่าจะทำตัวให้รู้ว่าคนขับรีบบนะ แต่มันกับไม่เป็นอย่างงั้น(จุดนี้ก็บอกกล่าวให้ฟังนะครับ และมีจังหวะนึงรถติดตรงตีนดอยทางไม่ชั่นเลยแต่ไอนี่ใส่เกียร์Dไว้ มันไหลถอยหลังได้ ซึ่งมันไม่ควรจะไหลเลยด้วยซำ้สำหรับความชั่นแค่นิดหน่อย และเป็นรถใหม่ระบบเกียร์น่าจะมีการถ่ายทอดกำลังได้อย่างเต็มที่อยู่) แต่ถ้าสำหรับผมที่ได้ขับในช่วงถนนปกติแล้วเรียกได้ว่าคนที่ขับรถแก่ๆอย่างA33ได้มาขับรถรุ่นใหม่แบบนี้ ก็รู้สึกดีกดสนุกเหมือนกันครับ คันเร่งถ้าขับในเมืองใครไม่ชินจะรู้สึกว่ามันพุ่งมาก เพราะว่าเหยียบไปไม่ถึง1/2ของคันเร่งรถจะคิดดาวน์เปลี่ยนต่ำแหน่งพูเลย์ให้เลยครับ  ในส่วนของโหมด+- การใช้งานไม่มีการดีเลย์ อย่างที่พบในCamry ACV40 ที่บางครั้งเหมือนนิสๆๆนึงคือตบแล้วกูขอคิดนิดนึง ….
 


ระบบช่วงล่าง
ข้อนี้ผมขอจัดเต็มหน่อยครับ จุดนี้ผมหวังไว้มากเพราะได้ยินว่าปรับปรุงแล้ว การขับขี่ในเมืองยอมรับว่าขับง่ายนิ่มนวลดีครับ แต่ว่าเมื่อคุณผ่านท่อน้ำ Bumper ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปเหมือนมันไม่ซับแรงกระแทกเลย มันตึงตังเอามากครับ เมื่อใช้ความเร็วสูงช่วง100-130 การขับขี่ทางเรียบๆดูจะเป็นไรที่มีความสุขนะครับ แต่เมื่อผ่านทางที่ดูไม่ค่อยเรียบนัก รอยต่อถนนแลดูทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะว่าช่วงล่างดูไม่นิ่งและดูไม่เก็บแรงสั่นสะเทือนเอาซะเลยและแสดงอาการดิ้นๆเวลาผ่านรอยต่อถนนหรือลงคอสะพาน  เข้าใจว่าเป็นTorsion Beam แต่!!! ทำไมChev Cruze ยังสร้างศรัทธาให้คนหันมาชอบช่วงล่างของเขาได้ ซึ่งก็เป็นคานแข็งเหมือนกัน แต่ทำไมToyota ถึงไม่สามารถทำให้รถของเขา เขาสู่ใจของคนที่ชอบขับรถได้เลย ...จุดนี้ผมหวังจะเห็นการพัฒนาของโตโยต้าต่อๆไปนะครับ

ระบบพวงมาลัย
ข้อนี้ขับในเมืองสบายดีครับมีความเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าคือเบา คล่องตัวดีระยะฟรีเมื่อขับทางไกลรู้สึกได้ว่ามีพอประมาณให้เป็นรถที่ขับแล้วดูสบายๆๆ ไม่เลี้ยวปุ้ป หันหัวปัปอันนั้นก็เกินไป  แต่ทุกอย่างมันจบ เมื่อเจอกับช่วงล่างชุดนี้วิ่งเร็วๆความเร็วสูง ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจสักเท่าไรเหมือนพวงมาลัยจะไม่นิ่งทั้งๆที่เอาจริงๆมันนิ่งแต่มันมาจากช่วงล่างที่แลดูไม่มั่นคงนัก เมื่อไรโตโยต้าจะสร้างศรัทธาให้ผมได้สักที่เรื่องช่วงล่าง ตอนแรกๆคิดว่าจะดีแล้วนะ ขับยาวๆจริงๆ เฟลเลย  

เบรก
เบรก ถ้าถามตัวผมการหยุดระยะต่างๆทำได้ดีในเกรดรถเท่านี้ แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบคือความรู้สึกของแป้นเบรกคือเบรกค่อนข้างตื้นเหยียบไปไม่เยอะดึงกันซะเร็วไว หัวทิ่มทันใด ข้อนี้คงต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันนานสักหน่อย เพราะปกติผมขับA33 เหยียบจะดูลึกๆแต่มั่นคงดูดเท้าดีครับ แต่ไอนี่ดูตื้นๆไปสักหน่อย(เบรกอาจจะยังไม่พ้นรันอินของมัน แต่อาการของมันก็น่าจะมีส่วนจากพื้นฐานของการเซ็ตติ้ง)

อัตราความสิ้นเปลื้อง


 
ข้อนี้รถยังอยู่ในช่วงรันอิน แต่สำหรับผมได้จับ ในช่วงขึ้นดอยอินททนนท์พอดี  ถังนี่รวมถึงการขึ้นดอยนะครับวิ้งไป 286.4กิโล เติมกลับไป 32 กิโล ตัวเลขออกมา8.95 กม./ล. ถือว่าดูไม่เลวร้ายเลยครับขึ้นดอยลากรอบ แซงเป็นระยะ(แต่รถบนดอยก็โคตรติด ขึ้น8โมงลงมาได้15.00 )  ส่วนทางราบความเร็วเฉลี่ย 100-130 เร่งแซงพอสมควรครับ ในมาตรวัดMIDแจ้งว่า9.2กม./ล. เรียกได้ว่าไม่โม้จนน่าเกลียดครับ
สรุป

 

เป็นรถที่ตอนแรกๆเอาจริงๆคุณพ่อเสนอมาให้เพราะเป็นToyota แต่ก่อนที่บ้านเคยใช้AE101 แล้วรู้สึกดีใข้อยู่3-4ปี แต่เป็นรถที่ดีเลยหละครับ  อะไหล่ตามตลาดเยอะก็เลยกลับมามองอัลติส รู้สึกแอบผิดหวัง  ส่วนเรื่องการออกแบบผมเฉยๆนะภายในใช้งานง่าย แต่ว่าการจัดวางตำแหน่งในการนั่งไม่ค่อยดีสักเท่าไร เครื่องยนต์แรงขับสนุกพอตัวแต่เมื่อต้องการพลังสูงๆกับต้องใช้เวลาที่กว่าจะเอาออกมาได้ค่อนข้างนาน ระบบช่วงล่าง+เบรก ผิดหวังเยอะเลยหละครับ

สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
1.ขายต่อราคาดี ตามแนวToyota
2.อะไหล่หาง่ายเมื่อมันเก่า
3.เครื่องยนต์มีพละกำลังดีในการใช้ความเร็วทั่วไป
4.คอนโซลใช้งานง่าย
5.ดูจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลื้องดูแล้วมีภาพของความประหยัดอยู่พอสมควรครับ
ข้อเสีย
1.ช่วงล่างซับแรงกระเทือนแย่
2.เบรคตื้นจนเกินไป
3.เครื่องยนต์กำลังดีก็จริง แต่บางเวลาต้องการเรียกใช้แรงๆเร็วๆทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลยครับ
4.ภายในพลาสติกดู ป็อกแป็กไปหน่อย
5.วางแขนข้างประตูไม่ได้ ,เบาะหลังชั่นไปสักหน่อย
6.ไม่มีช่องเสียบUSB มาให้ในรถ ราคาเท่านี้ ยุค2013แล้วนะครับ

ทั้งหมดที่รีวิวิมานั้น ไม่ได้ต้องการใส่ไข่ ตีฟองอะไรนะครับ แต่เป็นประสบการณ์ที่ผมพบเจอมาเองกับตัว  ไม่ใช่ว่าเป็นรถที่ไม่ดี แต่มันอาจจะเป็นรถที่ไม่เข้ากับสไตล์ผม ควรไปลองเองเลยครับ “อย่ามัวแต่เสียเวลามาอ่านรีวิว อย่าคิดจะไปเทสที่0..ถ้าคุณอยากรู้ต้อง "เช่าขับเอง "  สักวันสองวันเกินพอครับ.”  สนใจรถคันไหน ออกทริปตจว.หรือจะลองเช่าขับ ก็ลองดูครับ ได้รู้อาการของรถเลยจริงๆว่ามันเป็นยังไง สำหรับผมแล้วมันยังไม่ถูกตัดจากตัวเลือกรถในกลุ่มC-segของผม แต่มันจะไปอยู่เป็นลำดับสุดท้ายสำหรับผมครับ
ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่าน ที่อ่านจนจบ และก็ขอบคุณพื้นที่บอร์ดHLM ที่เอื้อเฟื้อพ.ท.ให้ ทำรีวิวในครับนี้นะครับ

(แสดงความเห็นได้ตามอัธยาศัย ครับ ถ้าใครใช้Altis รุ่นนี้อยู่อ่านแล้วไม่พอใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ แต่การรีวิวครั้งนี้เป็นการรีวิวที่ มาจากความคิดความรู้สึกของผมที่ได้สัมผัสครับผม ขอบคุณมากครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2013, 19:26:49 โดย T_Nis »

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
รีวิวเจ๋งเลยครับเขียนละเอียดดี

ผมเพิ่งเช่ามาเหมือนกัน Corolla 1.8 LE เกียร์ออโต้ 4 สปีด

ที่นี่มีรูเสียบ USB ครับ รีโมทเปิดฝาท้ายได้ด้วย

แอบชอบอยู่เหมือนกัน แต่เสร็จแล้วได้ไปเปลี่ยนเป็น Chevy Cruze 1.4 Turbo ดันหลงรักเจ้านี่มากกว่า 55
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
รีวิวเยี่ยมเลยครับ
ขอบคุณครับ

Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

promt

  • บุคคลทั่วไป
โลเกชั่นที่ถ่ายอยู่ในหมุ่บ้านอรสิรินรึเปล่าครับ

รถดีครับ แต่ไม่ใช่สไตล์ผมเหมือนกัน

อีกอย่าง เบื่อเซลล์ของโตโยต้านครพิงค์ ไม่มีเจ้าๆๆ ให้ได้ยินเลย

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
รีวิวเจ๋งเลยครับเขียนละเอียดดี

ผมเพิ่งเช่ามาเหมือนกัน Corolla 1.8 LE เกียร์ออโต้ 4 สปีด

ที่นี่มีรูเสียบ USB ครับ รีโมทเปิดฝาท้ายได้ด้วย

แอบชอบอยู่เหมือนกัน แต่เสร็จแล้วได้ไปเปลี่ยนเป็น Chevy Cruze 1.4 Turbo ดันหลงรักเจ้านี่มากกว่า 55
ขอบคุณมากครับ
ที่นี่ผมคิดว่าถ้ามีตัวปรับโฉมอีกก็คงจะยัดUSB เขามาให้เหมือนกันมั่งครับ55 เห็นมีช่องให้เหลืออยู่....Cruze 1.4 Turbo รถพวกเครื่องเล็กอัดเทอร์โบ เสียดายจริงๆครับที่C-seg เมืองไทยทำไมไม่เอามาทำตลาดกัน :)
รีวิวเยี่ยมเลยครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับคำชมมากครับ  :)
โลเกชั่นที่ถ่ายอยู่ในหมุ่บ้านอรสิรินรึเปล่าครับ

รถดีครับ แต่ไม่ใช่สไตล์ผมเหมือนกัน

อีกอย่าง เบื่อเซลล์ของโตโยต้านครพิงค์ ไม่มีเจ้าๆๆ ให้ได้ยินเลย
ขอบคุณครับ
ของผมLocation ถ่ายอยู่ที่หมู่บ้าน Grand Village ดอยสะเก็ด ครับ พอดีแวะเข้าไปทำธุระดูบ้านพอดีครับ เห็นโล่งๆสวยดีเลยจัดสักหน่อย
ใช่ครับ อย่างที่ผมบอกว่ารถไม่ใช่ไม่ดี แต่มันไม่เข้ากับสไตล์ของเรา สำหรับผมแล้วยังมีอีกหลายคันในกลุ่มCseg ถึงจะเคยนั่งเเล้ว แต่ก็คงต้องไปลอง
สัมผัสรถในกลุ่มC-segให้มากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย และลดอคติต่างๆลงให้น้อยที่สุดเพราะว่าปกติที่บ้านใช้แต่รถกลุ่มD-segครับ บ้างครั้งลงไปขับไซส์ที่เล็กกว่าพูด
ตรงๆความสบายมันต่างกันพอสมควรเลยหละครับ .... :)
 

ออฟไลน์ oatz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
รีวิวเยี่ยมเลยครับ  ;D
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ HamooNgun

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 74
  • มือใหม่หัดขับ น้อมรับคำชี้แนะ ^_^
ผมใช้ Altis 1.8G ( mc 2010 ) อยู่ครับ เสียดายที่รีบซื้อไปหน่อย ถ้ารออีกสักครึ่งปี  ก็ได้ 1.8G ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม 20,000 เลย  หุหุ

อ่านแล้วชอบนะครับ เพราะวิจารณ์ได้ตรงดี โดยเฉพาะ การวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย นั้นผมเห็นด้วยครับ แต่มีประเด็นที่จะเสริมดังนี้

 "3.เครื่องยนต์กำลังดีก็จริง แต่บางเวลาต้องการเรียกใช้แรงๆเร็วๆทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลยครับ " ตรงนี้ผมว่า  เจ้าของกระทู้น่าจะสไตล์ซิ่งหรือเปล่าครับ          ( แซว)  จากที่ผมใช้มาปีกว่า  ผมว่าเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์น่าจะเป็นจุดแข็งของ Altis เลยนะครับ  โดยเฉพาะจังหวะเร่งแซงสุดยอดมาก ซึ่งจะสอดคล้องกับ Review ของพี่ Jimmy ที่มีการเปรียบเทียบ ความเร็ว  0-100 และ 80-120  จะพบว่าเป็นเจ้าพิกัดในรถญี่ปุ่นเครื่อง  1.8 เลยทีเดียว

"6.ไม่มีช่องเสียบUSB มาให้ในรถ ราคาเท่านี้ ยุค2013แล้วนะครับ"  เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และเมื่อเอาไปเทียบกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง civic 1.8 ( รุ่นราคา 909,000 บาท)  จะพบว่า   ในราคาที่ใกล้เคียงกัน civic ดูจะให้ Option ที่น่าพอใจกว่า ( ไฟตัดหมอก  ครูสคอนโทรล สเกิตหน้า-หลัง   และ สปอยเลอร์ )

สรุป  ในส่วนตัวผม จากที่ใช้มา 1 ปี แม้จะไม่ใช่รถที่ดีที่สุด แต่ก็เหมาะกับพฤติกรรมการขับของผมมากที่สุด  เพราะผมไม่ชอบขับซิ่ง จะใช้ความแรงแค่ตอนจะเร่งแซง  เวลาไปไหนมาไหน มักจะไปกัน 3-5 คน จึงต้องการรถเก๋งแนวครอบครัวมากกว่า Altis 1.8g สำหรับผมจึง Happy ครับ ห้องโดยสารนั่งสบาย พละกำลังเครื่องยนต์กำลังดี  ^^ 
มือใหม่หัดขับ น้อมรับคำชี้แนะ ^_^  มีเจ้าม้าศึก Altis 1.8G  ( mc2010 ) เป็นพาหนะ

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
รีวิวเยี่ยมเลยครับ  ;D
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ :)

[/quote]
ผมใช้ Altis 1.8G ( mc 2010 ) อยู่ครับ เสียดายที่รีบซื้อไปหน่อย ถ้ารออีกสักครึ่งปี  ก็ได้ 1.8G ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม 20,000 เลย  หุหุ

อ่านแล้วชอบนะครับ เพราะวิจารณ์ได้ตรงดี โดยเฉพาะ การวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย นั้นผมเห็นด้วยครับ แต่มีประเด็นที่จะเสริมดังนี้

 "3.เครื่องยนต์กำลังดีก็จริง แต่บางเวลาต้องการเรียกใช้แรงๆเร็วๆทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลยครับ " ตรงนี้ผมว่า  เจ้าของกระทู้น่าจะสไตล์ซิ่งหรือเปล่าครับ          ( แซว)  จากที่ผมใช้มาปีกว่า  ผมว่าเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์น่าจะเป็นจุดแข็งของ Altis เลยนะครับ  โดยเฉพาะจังหวะเร่งแซงสุดยอดมาก ซึ่งจะสอดคล้องกับ Review ของพี่ Jimmy ที่มีการเปรียบเทียบ ความเร็ว  0-100 และ 80-120  จะพบว่าเป็นเจ้าพิกัดในรถญี่ปุ่นเครื่อง  1.8 เลยทีเดียว

"6.ไม่มีช่องเสียบUSB มาให้ในรถ ราคาเท่านี้ ยุค2013แล้วนะครับ"  เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และเมื่อเอาไปเทียบกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง civic 1.8 ( รุ่นราคา 909,000 บาท)  จะพบว่า   ในราคาที่ใกล้เคียงกัน civic ดูจะให้ Option ที่น่าพอใจกว่า ( ไฟตัดหมอก  ครูสคอนโทรล สเกิตหน้า-หลัง   และ สปอยเลอร์ )

สรุป  ในส่วนตัวผม จากที่ใช้มา 1 ปี แม้จะไม่ใช่รถที่ดีที่สุด แต่ก็เหมาะกับพฤติกรรมการขับของผมมากที่สุด  เพราะผมไม่ชอบขับซิ่ง จะใช้ความแรงแค่ตอนจะเร่งแซง  เวลาไปไหนมาไหน มักจะไปกัน 3-5 คน จึงต้องการรถเก๋งแนวครอบครัวมากกว่า Altis 1.8g สำหรับผมจึง Happy ครับ ห้องโดยสารนั่งสบาย พละกำลังเครื่องยนต์กำลังดี  ^^
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำชมและการร่วมแชร์ประสบการ์ณความคิดเห็นครับโดยส่วนตัวชอบการแสดงความคิดในรูปแบบนี้มากครับ เป็นการแชร์ความคิดในมุมที่อาจจะมองต่างกันบ้างทำให้ผู้อ่านสมาชิกท่านอื่นได้เห็นแนวคิดที่ไม่เหมือนกันครับ
โดยส่วนตัวผมไม่ได้ขับซิ่งนะครับ555+ แต่เป็นคนข้บรถแบบตีนหนักตอนออกตัวกับไม่ชอบให้ใครจี้ก้้น สำหรับAltis1.8อย่างที่ได้เขียนไว้เลยครับ ตัวเครื่ งแรงดีครับวิ่งทางตรงการเร่งแซงทำได้ราบรื่นและเร็วดี แต่สิ่งที่ไม่น่ารักของมันคือในบ้างจังหวะ มันดันเร่งไม่ค่อยขึ้นต้องใช้รอบที่สูงมากๆๆ เพราะตอนที่ผมนั่งแต่พี่ขับแซงกันแบบเต็มเท้าแต่รถกับไม่เร่งให้เท่าที่ควร จนต้องลากรอบสูงมากๆ เล่นทำเอาคนขับคนนั่งเสียวไปตามกัน แต่ช่วงเวลาอื่นยอมรับเลยว่าเครื่องมันเปรี้ยวได้นิดๆครับ55 ในช่วง0-100 จากความรู้สึกไหวพอควรเลยหละครับ(พอดีไม่ได้จับเวลามาครับเลยยึดความรู้สึกเอาครับ) ในSegment เดียวกันสำหรับผมคงต้องขอลองขับอีกหลายคันเลยหละครับ...:). ยังๆไงก็ขอขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นมากครับ  :)

ออฟไลน์ HamooNgun

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 74
  • มือใหม่หัดขับ น้อมรับคำชี้แนะ ^_^
           อีกประเด็นที่เห็นด้วยนะครับ คือเรื่อง พวงมาลัย และ ที่วางแขนฝั่งขวาของคนขับ โดยปกติบ้านผมอยู่ จังหวัดปทุมธานี ครับ ขับรถจากกรุงเทพระยะทางไม่ไกลมากจึงไม่เคยใส่ใจกับประเด็นนี้ แต่พอเริ่มขับรถไปเที่ยวไกลๆแหละครับ ถึงจะเริ่มรู้สึก ล่าสุดผมพาที่บ้านไปเที่ยวระยอง แบบ ไปเช้า เย็นกลับ ใช้เส้นทางบูรพาวิถี และ เลี่ยงเมือง ครับ   สิ่งที่พบได้ชัดเจนคือ พวงมาลัยแม้ว่าจะหนืดขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ยังถือว่าเบาอยู่ดี  เวลาขับที่ความเร็วประมาณ 140 km จะต้องเกร็งมือเพื่อจับพวงมาลัย  ในขณะที่วางแขนฝั่งขวาก็วางไม่ได้อีก วันนั้นขับไปกลับวันเดียว ระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร  ยอมรับว่าเมื่อยแขนมาก โดยเฉพาะแขนขวา ต้องคอยแวะปั้มเพื่อพัก อยู่เรื่อย  แต่ข้อดีที่ผมพบแบบ บังเอิญคือ ช่วงล่างครับ แม้เวลาขับในเมืองจะดูแข็งกระด้าง แต่กลายเป็นว่าพอขับรอบนอกกรุงเทพ ที่ความเร็ว 120-140 km กลับรู้สึกว่ามันมั่นคงใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ออกอาการยวบ หรือ ท้ายย้วย

           ถ้าเจ้าของกระทู้ยังไม่เจอรถที่ใช่ ผมแนะนำให้รอดู Corolla modelchange 2014 ครับ ผมว่าน่าสนใจ และจะดีกว่า รุ่น altis mc 2010 แน่นอน  เพราะการที่ altis mc 2010 สามารถชุบชีวิต corolla ให้ดูมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง  และช่วงเวลาที่ผ่านมา คู่แข่งอย่าง  ฮอนด้าซีวิค   นิสสันซิลฟี  และ ฟอร์ดโฟกัส ได้มีการแก้ไขเช่นเดียวกัน  เช่น ซีวิคพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันกว่า   ซิลฟีมีห้องโดยสารที่หรูหรากว่า  และ ฟอร์ดโฟกัส ที่มีอุปกรณ์ไฮเทคเหนือกว่า     ดังนั้น Toyota จึงไม่ยอมแน่ และจะต้องสร้าง Corolla modelchange 2014 ให้ฉีกหนีคู่แข่งที่กล่าวมาแน่นอนครับ ^^
มือใหม่หัดขับ น้อมรับคำชี้แนะ ^_^  มีเจ้าม้าศึก Altis 1.8G  ( mc2010 ) เป็นพาหนะ

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
สิ่งที่รุ่นนี้ ของแท้ต้องมีแร็ครั่ว ยอยพวงมาลัยฝืด นอกจากนั่งเมื่อย ออฟชั่นขาด ๆ ไม่สามารถดูนาฬิกาพร้อมข้อมูลอื่นได้
นอกนั้นก็ถือว่า เป็นรุ่นที่แรง นุ่ม ประหยัด แบบพี่โฬม ขับสนุกเหมือนกันนะ แบบคุณอั้ม จริง ๆ ช่วงล่างตึงตังแถมเหมือนกับไม่เกาะถนน
แต่จริง ๆ เกาะดีกว่าที่คิดครับ ผมขับเส้นดอยขุนตาลก่อนเข้าเชียงใหม่ ซัดเกิน 120 ได้เกือบทุกโค้ง
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ Do!phinz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 128
  • อยากได้รถคันแรกในชีวิตไวๆ
    • อีเมล์
Re: Review : Toyota Altis 1.8E E85 ของคนที่คาดหวังในตัวของมันมากเกินไป
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2013, 03:40:23 »
ขอบคุณสำหรับ Review ครับท่าน

ออฟไลน์ ponggu52

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ ครับ