เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..
ผมออกรถ เครื่องพันห้า มาหนึ่งคัน เดือน ธ.ค. ปี 53 เงินเดือนแค่ 12000 พอได้เบี้ยเลี้ยงอื่นๆ มาช่วยชีวิตหน่อย อีกไม่เกิน 3000 บาท ต่อเดือน..
ออกรถป้ายแดง กู้หน่วยงานมา ผ่อนเดือน 4800 ค่าเช่าห้องอีก 3000 ต่อเดือน
ระยะทางระหว่าง ห้อง ไปที่ทำงาน ไป-กลับ 16 กม. แต่วิ่งกินข้าวด้วย ใช้รถประมาณ ไม่เกิน 30 กม. ต่อวัน (จันทร์-ศุกร์)
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด มีเที่ยวบ้าง เที่ยวก็ระยะทางไม่น่าเกิน 300 กม. แต่ไม่ได้เที่ยวทุกอาทิตย์
วิ่งใช้งานได้สัก 1 หมื่นโล ชักไม่ไหวค่าน้ำมัน ยิ่งในเมืองกรุงฯ ช่วงนั้นค่าน้ำมัน ตกเดือนล่ะประมาณ 3 - 4 พันบาท
เลยติดแก๊ส ช่วงกลางปี 54..
ช่วงที่ใช้งานแก๊ส มาถึงทุกวันนี้ มีเงินเก็บ มีเงินแต่งรถ ทั้งๆ ที่เงินเดือนยังไม่สูงมาก (ยอมรับว่าเกินตัวครับ แต่ใจชอบการแต่งบ้าง)
แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลมากขึ้น ต้องเข้าศูนย์ฯรถ และอู่แก๊ส เพื่อเช็คตรวจสอบ..
มาถึงช่วงนี้ ปี 56 การใช้งานแก๊ส ก็ยังปกติอยู่ ผมมองว่า วิ่งช้าๆ วิ่งในเมือง มีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เหมาะกับการติดแก๊สดี..
แต่ ณ ตอนนี้ เงินเดือน เริ่มสูงหน่อยแล้ว.. มานั่งคิด รู้งี้ไม่ติดดีกว่า เพราะเหนื่อยดูแลครับ และถึงแม้ว่า มันต้องพังก่อน รถน้ำมัน แต่ก็นะ คงไม่ใช่คันสุดท้ายในชีวิตครับ
ความเห็นส่วนตัวผม(คนเดียว) นะ.. รถวิ่งน้อย วิ่งทางใกล้ รถติด เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ในระยะทางยาวๆ การติดแก๊ส ผมกลับมองว่า เหมาะครับ.. รถไม่ได้ใช้ความร้อนสูง (ถึงแม้บางท่าน จะบอกว่า จอดแช่นั้นแหละความร้อนขึ้นก็ตาม ผมมองว่า ก็ยังดีกว่า วิ่ง 140 up แล้วระยะทางไกลๆ)
ถ้าอยู่ ตจว. ผมคงไม่ติด เพราะรถไม่ติด ถึงแม้วิ่งระยะทางไกลไปทำงาน วิ่งคงที่ก็ประหยัดพอควรแล้ว (แต่ถ้าวิ่งไกล แล้วแลกกับตัวเงินที่ได้ เช่น เป็นเซลส์ ก็คุ้มครับติดจะดีกว่า)
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ