ผู้เขียน หัวข้อ: รถเครื่องเบนซิน ถ้าซื้อมาแล้วติดแก็ส มันจะอันตรายหรือปล่าวครับ  (อ่าน 5310 ครั้ง)

ออฟไลน์ moomoo3

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
    • อีเมล์
คือผมไม่เคยใช้รถติดแก็ส เลยอยากถามเพื่อนๆในคลับว่า ถ้าจะซื้อรถเบนซินแล้วนำมาติดแก็ส จะมีความเสี่ยงอะไรบ้าง (นอกจากความประหยัด) อย่างเช่น กลิ่นแก็สเข้าในรถ หรือ แก็สรั่ว และอะไรก็ได้ที่อยู่ในความเสี่ยงอะครับ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยครับ ขอบคุณทุกความเห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

  ติดตั้งอู่ที่ได้มาตราฐาน   เข้า check ตามระยะ  ก็ไม่มีอะไร

  ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
ขับรถใน กทม. หันซ้ายแท๊กซี่ หันขวาสามล้อ ตามหลังรถสิบล้อถัง NGV คันละ 8 ถัง วิ่งกันเกลื่อนถนน

ติดแก๊สทั้งนั้นแหละครับพี่น้อง..........

ติดตั้งหาเจ้าที่ดีๆ งานและอุปกรณ์ดีๆ ไม่ไก่กา
เราใช้ก็ศึกษาวิธีดูแลให้ดีๆ เช็ค + เปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองตามระยะเค้า

ก็แฮปปี้แล้วครับ

ออฟไลน์ B@S!C

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
  • สมาชิกใหม่ครับ
    • อีเมล์
แก็ส (สำหรับผม)ไม่อันตรายแม้แต่นิดเดียว แค่หาอู่ที่เก่งๆ ทำงานเรียบร้อย (ซึ่งแต่ละอู่อาจจะชำนาญยี่ห้อต่างกันไป)  แค่นี้ก็ใช้เพลินแล้วล่ะครับ

ขับรถประมาทยังอันตรายกว่าใช้แก็สนะผมว่า  ;D

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์

  ติดตั้งอู่ที่ได้มาตราฐาน   เข้า check ตามระยะ  ก็ไม่มีอะไร

  ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

ตามนั้นครับ รถผมก้ใช้แก้สมาแสนกว่าโลแล้ว (รถยุโรป) มีปัญหาประปราย แต่ก้แค่ ดูแลตามระยะนั่นแหละ
ยิ่งถ้าเป็นรถตลาด ยิ่งไม่มีปัญหาเลยครับ แต่ก้ต้องทำใจว่า รถบางยี่ห้อมันก้ไม่ค่อยทนแก้สเท่าไหร่

ออฟไลน์ aoddy1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
    • อีเมล์
ถ้าเคยนั่งแท๊กซี่แล้วเฉยๆ แนะนำติดได้เลยครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
จากกระทู้รถ 7 ที่นั่ง ดีเซล & เบนซิน ของคุณ
แปลว่าคงเลือกเบนซินแล้วสินะครับ สเตปต่อไปเลยถามเรื่องติดแก๊ส

มันอยู่ที่หลายๆปัจจัยครับ

1. หน่วยก้านของรถรุ่นนั้นๆ พื้นฐาน ตำแหน่ง ความเหมาะสม
2. หน่วยก้านของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะฝาสูบ วาลว์ทั้งหลาย
3. ความชำนาญของช่าง และยี่ห้อชุดแก๊ส

..............

1. ถ้ารถรุ่นนั้นพื้นฐานดี ผมหมายถึงตำแหน่งวางถัง สปริง โช๊คอัพ
ถ้าเลือกได้ รถ 7 ที่นั่ง ที่ติดแก๊สแล้วโอเค คงต้องไปติดใต้ท้องรถ ตรงข้างๆท่อไอเสีย
ทีนี้ คุณก็ต้องมาดูว่า ติดแล้วท้ายห้อยมั้ย ต้องเสริมยางรองสปริง หรือสเปเซอร์มั้ย
ตรงข้อแรก ผมว่า รถทุกคันทำได้และหายห่วงครับ

2. หน่วยก้านของเครื่องยนต์
ดูก่อน ว่าเลือกรถอะไร เครื่องยนต์บล๊อคอะไร ทนแก๊สขนาดไหน
จะรู้ว่าทนแก๊ส ต้องดู Feedback จากผู้ใช้งานจริงในคลับของรถรุ่นนั้นๆ
ดูว่าต้องตั้งวาลว์บ่อยมั้ย ใครมีปัญหาอะไรบ้าง ปัญหาไหนที่เจอบ่อยๆ รับได้มั้ย??

3. ช่าง กับยี่ห้อแก๊ส

เกิน 80% ของความ"จบ" อยู่ที่ช่างครับ ช่างเก่ง จูนเก่ง เอาใจใส่ จบเลย
เลือกอู่ดีๆ ที่ชื่อเสียงดีๆครับ ดู Feedback จากในเวป หรือหาคนแนะนำล่ะกันครับ
ยี่ห้อแก๊ส AG AC Energy อะไรก็ตาม เลือกได้ตามใจ
ประเด็นสำคัญคืออู่ที่ติดตั้ง และความเอาใจใส่ของช่าง

..........................
พยายามเลือกอู่ที่ต้องนัดล่วงหน้าครับ และทำทีล่ะคัน หรือ 2-3 คันต่อวันก็พอ
เพราะช่างจะมีเวลาใส่ใจในจุดต่างๆมากขึ้น และหลังติด เข้าเช็คตามระยะ
รวมถึงหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติเอง คอยเช็ครอยรั่ว กลิ่น เสียง น้ำในหม้อน้ำ และิตอนขับอย่าลากรอบสูงๆ
แค่นี้แหละครับ

ออฟไลน์ ID-4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • อีเมล์
รถผม ติดแก๊สตอน 300000 กิโล ใช้ถึง 860000 กิโล รวมแล้วใช้แก็ส 560000 กิโล เปลี่ยนชุดแก๊สยกชุดเมื่อใช้ไปทุกๆ 150000 กิโล ไม่เคยฟิตเครื่องครับ 150 กิโล/ชั่วโมง ก็ยังไปถึง
เพิ่งขายรถไป เสียดายมาก

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
อุปกรณ์และช่างทีมีมาตรฐานสำคัญที่สุดครับ

ไม่ใช่เรื่องราคา ( รบกวนคำนึงถึงตรงนี้ด้วยครับ)

รับรองใช้ได้ยาววววว ดูแลรักษาดีๆ ไม่มีปัญหาครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Thor.1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 557
แก็ส (สำหรับผม)ไม่อันตรายแม้แต่นิดเดียว แค่หาอู่ที่เก่งๆ ทำงานเรียบร้อย (ซึ่งแต่ละอู่อาจจะชำนาญยี่ห้อต่างกันไป)  แค่นี้ก็ใช้เพลินแล้วล่ะครับ

ขับรถประมาทยังอันตรายกว่าใช้แก็สนะผมว่า  ;D


  ชอบบบบบบบบบ.............. ;D



  รถแท๊กซี่+รถตู้โดยสาร+รถตุ๊กๆ+รถบรรทุกวิ่งงานทั้งใหญ่และเล็ก เอาแค่ในกทม.และปริมณฑล

  ผมว่ารวมๆกันวันนึงวิ่งมากกว่ารถที่ใช้น้ำมัน(เหมารวมทั้งเบนซิน/ดีเซลให้ด้วย)ทั้งประเทศรวมกันซะอีก


   จะมีไฟไหม้-รวน-พังบ้างผมว่าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วน้อยมากๆ ที่จะเกิดเหตุอันตราย

   แต่พอเกิดเหตุทีก็ลงหน้า1ว่า  " รถติดแก๊สไฟไหม้ "


   ทีกลับบ้านไปทำครัวด้วยแก๊สปิคนิค "จุดไฟบนถังแก๊ส" ไม่ยักคิดกลัวกัน.........
:P

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ติดเถอะครับ ความปลอดภัย สูงกว่าน้ำมันเยอะ(ไม่เกี่ยวกับดีเซล)   ผมยกตัวอย่างให้ดู  หากเป็นน้ำมัน เปิดกุญแจ on  ปั๊มติ๊กทำงานรอที่หัวฉีดแล้ว  รถเครื่องดับ กุญแจยัง on  ปั๊มติ๊กยังปั๊มไปหัวฉีด  ...ฉีด ๆ ๆๆๆ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยกเว้นฟิวส์ขาด..เวลาไฟลุก คนรีบลงรถ ลืมปิดกุญแจ  มันก็ฉีดเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟลุกได้ต่อตลอด.....ส่วนแก๊ส  เปิดกุญแจ on  มันก็ไม่จ่ายแก๊ส(หากไม่บังคับ)   เครื่องดับ  กุญแจยังเปิด on  มันก็ตัดการจ่าย... ตัววัดอุณหภูมิหม้อต้ม หรือหัวฉีด ผิดปกติ มันก็ตัดการจ่าย.....  แมป(แรงดูดท่อร่วม เปรียบเทียบกับแก๊สแรงดันต่ำผิดปกติ)มันก็ไม่จ่าย......  ระบบมันปลอดภัยสุด ๆ อยู่แล้วครับ  มีกี่คัน ผมจับติดหมด ยกเว้น ดีเซล ไม่ติดครับ...ส่วนยี่ห้อ ส่วนมากทัดเทียมกัน อยู่ที่ฝีมือมากกว่า.ครับ

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
ตุ๊กตุ๊กวิ่งขึ้นสะพานถังกระแทกพื้นโป๊กๆยังไม่เป็นไรเลยครับ และ ผมว่าตุ๊กตุ๊กที่เคยระเบิดน่าจะมีแค่ในหนังองค์บากภาคแรกและหนังฝรั่งไม่กี่เรื่องที่มาถ่ายบ้านเราครับ

สรุปคือ
- รถสภาพดี
- ช่างติดแก๊สเก่ง
ปลอดภัยครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
รถบ้านผมบางคันใช้มา 5-6 ปียังปกติครับ

้ต้องคอยเช็คบ่อยๆ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าตอนนี้คนใช้แก๊สเยอะไปจนมีคนเอามาอ้างว่าทำให้แก๊ซต้องนำเข้า


เลิกใช้กันไปเถอะครับ อย่ามาใช้ ใครไม่ได้ใช้ก็ไม่ต้องคิดติด ใช้แล้วอันตราย เหม็น อะไรก็ว่าไป ผมไม่แนะนำเลย

ยิ่งคนใช้เยอะ คนที่ใช้อยู่ก็ลำบากครับ  :P

ผมก็ใช้

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ปัจจัยเรื่องความปลอดภัย
อยู่ที่อุปกรณ์ที่เลือกใช้ ฝีมือช่างที่ติด และสุดท้ายการหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ (จะด้วยการเช็คระยะเป็นประจำ หรือสังเกตอาการ)

รถติดแก๊สมันก็คือการดัดแปลงสภาพอย่างหนึ่ง จะให้ปลอดภัยเหมือนออกมาจากโรงงานเลย มันก็คงจะเทียบไม่ได้ เนื่องจากรถที่ออกมาจากโรงงาน ยังไงผู้ผลิตก็ต้องวิจัย รวมถึงพัฒนาออกมาสมบูรณ์กว่าอยู่แล้ว

ถ้าอยากประหยัดก็ติดเลยครับ ไม่ต้องกลัวเรื่องไฟไหม้หรอกครับ ถ้าเช็คสม่ำเสมอ


ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ใช้ปกติมันไม่อันตรายหรอกครับ ใช้ได้ แต่เวลาเกิดอุบัติเหตุบางทีมันซ้ำเติมเหตุการณ์ให้ร้ายแรงกว่าเดิมได้ถ้าเราติดตั้งมาไม่ได้มาตรฐาน ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องพลังงานล้วนๆ
H.

ออฟไลน์ lemon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • อีเมล์
             ผมก้อเพิ่งติดแก๊สได้ 2 เดือนครับ หลังจากใช้น้ำมันมาปีนึง หลังจากหาข้อมูลซักพัก (แหล่งข้อมูล ที่ดีที่สุดก็ในเวบคลับรถที่เราจะติดนั้นหล่ะครับ ทั้งปัญหาต่างๆ และ อู่ที่นิยมใช้บริการ)
ปล.บอกได้คำเดียวว่า รู้ยังงี้ติดตั้งนานแล้ว ;D

ออฟไลน์ moomoo3

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกความเห็นครับ แบบนี้คงจะไม่ยากในการตัดสินใจแล้วครับ

ออฟไลน์ DEAR[^,^]

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
ขอแนะนำเพิ่มนะครับ เอากรณีตัวอย่างของผมเอง คือติดตั้งแล้วไม่จบ เพราะอู่ลดต้นทุนโดยการลดสเปกหม้อต้มแก๊ส ทำให้รถผมใช้งานในรอบสูงได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประมาณว่าปลายหายนั่นเองอัดมากๆตัดเป็นน้ำมันเองที่5พันรอบเพราะแรงดันไม่พอหัวทิ่มเลยครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมไม่รู้ว่าพี่เลือกรถอะไรเครื่องยนต์เท่าไหร่แรงม้ามากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้ละเอียดด้วยนะครับว่าตรงกับรถยนต์ที่ใช้หรือเปล่า...

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
ใช้คำว่าปลอดภัยน้อยกว่ารถธรรมดาดีกว่าครับ

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ขอแนะนำเพิ่มนะครับ เอากรณีตัวอย่างของผมเอง คือติดตั้งแล้วไม่จบ เพราะอู่ลดต้นทุนโดยการลดสเปกหม้อต้มแก๊ส ทำให้รถผมใช้งานในรอบสูงได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประมาณว่าปลายหายนั่นเองอัดมากๆตัดเป็นน้ำมันเองที่5พันรอบเพราะแรงดันไม่พอหัวทิ่มเลยครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมไม่รู้ว่าพี่เลือกรถอะไรเครื่องยนต์เท่าไหร่แรงม้ามากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้ละเอียดด้วยนะครับว่าตรงกับรถยนต์ที่ใช้หรือเปล่า...
อาจจะไม่เป็นแบบที่คุณเข้าใจก็ได้ครับ  โปรแกรม สามารถสั่งได้ว่า รอบสูงกว่าเท่าไรให้ใช้น้ำมัน ต่ำเท่าไรใช้น้ำมัน  หรือใช้น้ำมันผสมกับแก๊สที่รอบเครื่องประมาณไหนขึ้นไปก็ได้.. อยู่ที่คนจูนครับ แต่ หากรถคุณม้าเกินกว่า170 ม้า  ต้องเพิ่มขนาดหม้อต้มให้รองรับม้าด้วย อย่างที่คุณเข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ

ออฟไลน์ DEAR[^,^]

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
ขอแนะนำเพิ่มนะครับ เอากรณีตัวอย่างของผมเอง คือติดตั้งแล้วไม่จบ เพราะอู่ลดต้นทุนโดยการลดสเปกหม้อต้มแก๊ส ทำให้รถผมใช้งานในรอบสูงได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประมาณว่าปลายหายนั่นเองอัดมากๆตัดเป็นน้ำมันเองที่5พันรอบเพราะแรงดันไม่พอหัวทิ่มเลยครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมไม่รู้ว่าพี่เลือกรถอะไรเครื่องยนต์เท่าไหร่แรงม้ามากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้ละเอียดด้วยนะครับว่าตรงกับรถยนต์ที่ใช้หรือเปล่า...
อาจจะไม่เป็นแบบที่คุณเข้าใจก็ได้ครับ  โปรแกรม สามารถสั่งได้ว่า รอบสูงกว่าเท่าไรให้ใช้น้ำมัน ต่ำเท่าไรใช้น้ำมัน  หรือใช้น้ำมันผสมกับแก๊สที่รอบเครื่องประมาณไหนขึ้นไปก็ได้.. อยู่ที่คนจูนครับ แต่ หากรถคุณม้าเกินกว่า170 ม้า  ต้องเพิ่มขนาดหม้อต้มให้รองรับม้าด้วย อย่างที่คุณเข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ
ขอบคุณครับ
รถผมอู่ไม่ได้ตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้ครับ เร่งรอบสูงขนาดไหนก็ใช้แก๊สตลอดเวลาครับผม

ออฟไลน์ lemon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • อีเมล์
ขอแนะนำเพิ่มนะครับ เอากรณีตัวอย่างของผมเอง คือติดตั้งแล้วไม่จบ เพราะอู่ลดต้นทุนโดยการลดสเปกหม้อต้มแก๊ส ทำให้รถผมใช้งานในรอบสูงได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประมาณว่าปลายหายนั่นเองอัดมากๆตัดเป็นน้ำมันเองที่5พันรอบเพราะแรงดันไม่พอหัวทิ่มเลยครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมไม่รู้ว่าพี่เลือกรถอะไรเครื่องยนต์เท่าไหร่แรงม้ามากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้ละเอียดด้วยนะครับว่าตรงกับรถยนต์ที่ใช้หรือเปล่า...
อาจจะไม่เป็นแบบที่คุณเข้าใจก็ได้ครับ  โปรแกรม สามารถสั่งได้ว่า รอบสูงกว่าเท่าไรให้ใช้น้ำมัน ต่ำเท่าไรใช้น้ำมัน  หรือใช้น้ำมันผสมกับแก๊สที่รอบเครื่องประมาณไหนขึ้นไปก็ได้.. อยู่ที่คนจูนครับ แต่ หากรถคุณม้าเกินกว่า170 ม้า  ต้องเพิ่มขนาดหม้อต้มให้รองรับม้าด้วย อย่างที่คุณเข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ
ขอบคุณครับ
รถผมอู่ไม่ได้ตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้ครับ เร่งรอบสูงขนาดไหนก็ใช้แก๊สตลอดเวลาครับผม

ผมว่า ช่างตั้งใจจูนให้รอบสูงแล้วตัดเป็นน้ำมันนะครับ เพราะว่่าการใช้รอบสูงๆและต่อเนื่อง ถ้าใชแก๊สเป็นเชื้อเพลิงจะมีความร้อนสะสมมากกว่าน้ำมันซึ่งไม่ดีกับระบบเครื่องยนต์ แต่ว่าการตัดกลับเป็นน้ำมันนั้นควรจะราบเรียบไม่น่าจะสะดุดจนหัวทิ่ม อาจจะแค่พอรู้สึกได้ ผมว่ายังไงน่าจะหาอู่ที่จูนดีๆๆได้ครับ

ออฟไลน์ dunghill

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 316
จากกระทู้รถ 7 ที่นั่ง ดีเซล & เบนซิน ของคุณ
แปลว่าคงเลือกเบนซินแล้วสินะครับ สเตปต่อไปเลยถามเรื่องติดแก๊ส

มันอยู่ที่หลายๆปัจจัยครับ

1. หน่วยก้านของรถรุ่นนั้นๆ พื้นฐาน ตำแหน่ง ความเหมาะสม
2. หน่วยก้านของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะฝาสูบ วาลว์ทั้งหลาย
3. ความชำนาญของช่าง และยี่ห้อชุดแก๊ส

..............

1. ถ้ารถรุ่นนั้นพื้นฐานดี ผมหมายถึงตำแหน่งวางถัง สปริง โช๊คอัพ
ถ้าเลือกได้ รถ 7 ที่นั่ง ที่ติดแก๊สแล้วโอเค คงต้องไปติดใต้ท้องรถ ตรงข้างๆท่อไอเสีย
ทีนี้ คุณก็ต้องมาดูว่า ติดแล้วท้ายห้อยมั้ย ต้องเสริมยางรองสปริง หรือสเปเซอร์มั้ย
ตรงข้อแรก ผมว่า รถทุกคันทำได้และหายห่วงครับ

2. หน่วยก้านของเครื่องยนต์
ดูก่อน ว่าเลือกรถอะไร เครื่องยนต์บล๊อคอะไร ทนแก๊สขนาดไหน
จะรู้ว่าทนแก๊ส ต้องดู Feedback จากผู้ใช้งานจริงในคลับของรถรุ่นนั้นๆ
ดูว่าต้องตั้งวาลว์บ่อยมั้ย ใครมีปัญหาอะไรบ้าง ปัญหาไหนที่เจอบ่อยๆ รับได้มั้ย??

3. ช่าง กับยี่ห้อแก๊ส

เกิน 80% ของความ"จบ" อยู่ที่ช่างครับ ช่างเก่ง จูนเก่ง เอาใจใส่ จบเลย
เลือกอู่ดีๆ ที่ชื่อเสียงดีๆครับ ดู Feedback จากในเวป หรือหาคนแนะนำล่ะกันครับ
ยี่ห้อแก๊ส AG AC Energy อะไรก็ตาม เลือกได้ตามใจ
ประเด็นสำคัญคืออู่ที่ติดตั้ง และความเอาใจใส่ของช่าง

..........................
พยายามเลือกอู่ที่ต้องนัดล่วงหน้าครับ และทำทีล่ะคัน หรือ 2-3 คันต่อวันก็พอ
เพราะช่างจะมีเวลาใส่ใจในจุดต่างๆมากขึ้น และหลังติด เข้าเช็คตามระยะ
รวมถึงหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติเอง คอยเช็ครอยรั่ว กลิ่น เสียง น้ำในหม้อน้ำ และิตอนขับอย่าลากรอบสูงๆ
แค่นี้แหละครับ

ขออนุญาติเพิ่มเติมนะครับ นอกจากพื้นฐานรถ ช่างและอู่ รวมถึงอุปกรณ์แก็สที่ดีแล้ว คนใช้งานคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดด้วยครับ

คนใช้รถที่ติดแก็สควรจะต้องมีความฉุกคิด และย้ำคิดย้ำทำมากขึ้น เอ่อฟังดูแล้วเหมือนโรคจิตรเลยนะครับ แต่ผมหมายถึง ถ้าคุณรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติจะต้องไม่ปล่อยเลยตามเลย ต้องดูและหาต้นเหตุทันที เช่นมีกลิ่นแก็ส จากปกติไม่เคยได้กลิ่น คุณจะต้องหาต้นตอทันที หรือถ้าปกติมีได้กลิ่นบ้าง(อาจจะมีการจูนแก็สมาก หรือ แก็สหนา ทำให้มีกลิ่นออกจากท่อ) อันนี้ปกติ แต่ถ้ากลิ่นไม่ได้มาจากท่อ มาจากที่อื่น เช่นท่อ ถัง ข้อต่อต่างๆ ก็ต้องหยุดใช้แก็ส และแก้ไข ถ้าแก้ไขเองไม่ได้ก็ไปร้านที่ติดตั้งมาครับ

รวมทั้งการดูแลรักษา อย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีควรกลับไปให้ร้านติดตั้งตรวจระบบ ท่อ ข้อต่อ ต่างๆ (ในกรณีที่ทำไม่เป็น)
นี่คือข้อควรระวังเพิ่มเติมจากการใช้แก็ส เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อ่อมีอีกอย่างคือ กรองอากาศ น้ำมันเครื่อง หัวเทียน พยายามเปลี่ยนให้เร็วขึ้นกว่าปกติ และใช้สลับน้ำมันบ้าง รวมทั้งให้มีน้ำมันเหลือในถังซัก 1 ใน 3 เป็นอย่างน้อย ... มีไรอีกป่าวหว่า แค่นี้มั้งครับ
HondaCity 03'
Mazda 323 Astina 91'
HondaCity 12'

ออฟไลน์ DEAR[^,^]

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
ขอแนะนำเพิ่มนะครับ เอากรณีตัวอย่างของผมเอง คือติดตั้งแล้วไม่จบ เพราะอู่ลดต้นทุนโดยการลดสเปกหม้อต้มแก๊ส ทำให้รถผมใช้งานในรอบสูงได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประมาณว่าปลายหายนั่นเองอัดมากๆตัดเป็นน้ำมันเองที่5พันรอบเพราะแรงดันไม่พอหัวทิ่มเลยครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมไม่รู้ว่าพี่เลือกรถอะไรเครื่องยนต์เท่าไหร่แรงม้ามากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้ละเอียดด้วยนะครับว่าตรงกับรถยนต์ที่ใช้หรือเปล่า...
อาจจะไม่เป็นแบบที่คุณเข้าใจก็ได้ครับ  โปรแกรม สามารถสั่งได้ว่า รอบสูงกว่าเท่าไรให้ใช้น้ำมัน ต่ำเท่าไรใช้น้ำมัน  หรือใช้น้ำมันผสมกับแก๊สที่รอบเครื่องประมาณไหนขึ้นไปก็ได้.. อยู่ที่คนจูนครับ แต่ หากรถคุณม้าเกินกว่า170 ม้า  ต้องเพิ่มขนาดหม้อต้มให้รองรับม้าด้วย อย่างที่คุณเข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ
ขอบคุณครับ
รถผมอู่ไม่ได้ตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้ครับ เร่งรอบสูงขนาดไหนก็ใช้แก๊สตลอดเวลาครับผม

ผมว่า ช่างตั้งใจจูนให้รอบสูงแล้วตัดเป็นน้ำมันนะครับ เพราะว่่าการใช้รอบสูงๆและต่อเนื่อง ถ้าใชแก๊สเป็นเชื้อเพลิงจะมีความร้อนสะสมมากกว่าน้ำมันซึ่งไม่ดีกับระบบเครื่องยนต์ แต่ว่าการตัดกลับเป็นน้ำมันนั้นควรจะราบเรียบไม่น่าจะสะดุดจนหัวทิ่ม อาจจะแค่พอรู้สึกได้ ผมว่ายังไงน่าจะหาอู่ที่จูนดีๆๆได้ครับ
ขอบคุณครับ แต่เอาเป็นว่าพี่เจ้าของกระทู้อย่าลืมสำรวจสเปกของหม้อต้มแก๊สและอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าเหมาะสมต่อรถยนต์ของตนเองด้วยหรือเปล่านะครับ :D ส่วนกรณีของผมไม่ได้ตั้งให้ตัดเป็นน้ำมันขณะรอบสูงครับ ลากไปกระแทก Redline จนEcu ของรถตัดเปลี่ยนเกียร์ ก็ยังไม่ตัดเป็นน้ำมันครับ นอกจากอัดมากๆ คือเหยียบมิดซ้ำไปเรื่อยๆ หวังว่าจะนึกภาพออกนะครับ ช่างที่นั่งไปกับผมก็บอกว่าเพราะแรงดันไม่พอครับ เลยต้องเปลี่ยนหม้อต้ม ชัดเจนนะครับ