ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาขับรถลุยน้ำท่วม ต้องปิดแอร์ ...แต่เปิดพัดลมได้มั้ยครับ หรือต้องปิดพัดลมด้วย  (อ่าน 12751 ครั้ง)

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยครับ ตกนิดเดียวน้ำท่วมถนนแล้ว

อ่านเจอตามเวปต่างๆ จะมี trick ในการขับลุยน้ำท่วมว่า " ให้ปิดแอร์ " (บอกแค่ปิดแอร์อย่างเดียวครับ ไม่ได้พูดถึงพัดลมเลย)
เพราะถ้าเปิดแอร์ขับลุยน้ำท่วมเนี่ย พัดลมจะทำงานๆ ดูดเอาน้ำท่วมเข้ามาในห้องเครื่อง ปั่นป่วนไปหมด

เลยอยากถามพี่ๆว่า
เวลาขับรถลุยน้ำท่วมเนี่ย ปิดแอร์ แล้วเปิดพัดลมได้มั้ยครับ (เพราะอากาศในรถจะร้อนอบอ้าวมาก ๆๆ ) หรือต้องปิดพัดลมด้วย
ผมไม่ทราบว่า พัดลมแอร์ ที่เค้าพูดถึง กับ พัดลมที่เป่าลมเข้าหน้าเรา มันคืออันเดียวกันรึเปล่า


ขอบคุณคร้าบบ  ;D ;D ;D 

ออฟไลน์ dunghill

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 316
จริงๆ ปิดแอร์ นี่ถ้ารถมีปุ่ม A/C ก็ปิด แค่ A/C ก็ได้มั้งครับ เข้าใจว่าที่ให้ปิดแอร์เพื่อป้องกันน้ำที่กระฉอกเข้ารังผึ้งแอร์แล้วพัดลมแอร์ที่ทำงานจะปัดเป่าเอาน้ำขึ้นมาโดนจานจ่ายบ้างสายไฟบ้าง อาจทำให้เครื่องเดินสะดุดและดับกลางน้ำได้ในที่สุด อีกสาเหตุก็น่าจะเป็นเรื่องคอมแอร์ ถ้าจุ่มน้ำแล้วปั่นทำงานงานด้วยก็เกรงว่าจะกลับบ้างเก่าไว รวมถึงกำลังเครื่องที่ลุยน้ำถ้าปิดแอร์ก็จะได้กำลังเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วย สรุป ปิด A/C ก็น่าจะพอ แต่ถ้ารถไม่มีปุ่ม A/C ก็ไม่มีทางเลือกครับ ต้องปิดแอร์อยู่ดีนั่นแหละ ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำท่วม ไม่มากก็น้อยต้องขับลุยน้ำกันแน่ๆ ระมัดระวังด้วยครับ
HondaCity 03'
Mazda 323 Astina 91'
HondaCity 12'

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
จริงๆ ปิดแอร์ นี่ถ้ารถมีปุ่ม A/C ก็ปิด แค่ A/C ก็ได้มั้งครับ เข้าใจว่าที่ให้ปิดแอร์เพื่อป้องกันน้ำที่กระฉอกเข้ารังผึ้งแอร์แล้วพัดลมแอร์ที่ทำงานจะปัดเป่าเอาน้ำขึ้นมาโดนจานจ่ายบ้างสายไฟบ้าง อาจทำให้เครื่องเดินสะดุดและดับกลางน้ำได้ในที่สุด อีกสาเหตุก็น่าจะเป็นเรื่องคอมแอร์ ถ้าจุ่มน้ำแล้วปั่นทำงานงานด้วยก็เกรงว่าจะกลับบ้างเก่าไว รวมถึงกำลังเครื่องที่ลุยน้ำถ้าปิดแอร์ก็จะได้กำลังเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วย สรุป ปิด A/C ก็น่าจะพอ แต่ถ้ารถไม่มีปุ่ม A/C ก็ไม่มีทางเลือกครับ ต้องปิดแอร์อยู่ดีนั่นแหละ ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำท่วม ไม่มากก็น้อยต้องขับลุยน้ำกันแน่ๆ ระมัดระวังด้วยครับ

รถผม ปุ่ม A/C กับ ลูกบิดพัดลม อยู่แยกกันครับ

อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปลุยน้ำท่วมมา ผมกดปิด A/C , แต่บิดพัดลมซะแรงสุดเลย  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ E-OOD

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
    • อีเมล์
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,434
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ

ตามนี้เลยครับ จริงๆ แค่ใบพัดตีกับน้ำเฉยๆ ก็มีโอกาสแตกได้ครับ

แต่ก็ใช้ว่าปิด A/C แล้ว พัดลมหม้อน้ำจะไม่ทำงาน แต่ % การทำงานมันจะน้อยลง

ถ้าจังหวะโป๊ะเชะ หม้อน้ำมันอุณหภูมิสูง พัดลมทำงาน เจอน้ำท่วมสูง ใบพัดใช้งานมานาน กรอบระโหยโรยรา ก็ Jack Pot

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
ถ้าฝนตกไม่หนักมาก แง้มกระจกก็พอช่วยได้
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ ^Yimm@^

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
วันก่อนเจอฝนหนักมากๆ น้ำท่วมขังสูงพอตัว จะปิดแอร์ตลอดก็ไม่ได้เพราะกระจะขึ้นฝ้าทั้งคัน
เลยต้องเปิดๆปิดๆ ใครพอทราบบ้างว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง

ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
ปิดa/cไม่ได้ทำให้พัดลมหมอน้ำดับเสมอไป (พอมันร้อนได้ที่มันก็หมุนอยู่ดีครับยิ่งรถยุโรปมันจะหมุนตลอด)ที่เค้าให้ปิดส่วนนึงเวลาขับลุยน้ำลึกๆบางครั้งเครื่องมันจะเกือบดับ(ท่อไอเสียจมน้ำ) การปิดa/c ทำให้ภาระโหลดของเครื่องยนต์ลดลงทำให้เครื่องดับยาก

ออฟไลน์ domo24

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 261
ถ้าขับลุยในระยะไม่ถึงขอบสเกริตหรือกันชนหน้า ไม่จำเป็นต้องปิดก็ได้ครับ แต่ถ้าหากลุยไปในที่เกินตัวรถแล้ว ทางที่ดีคือ ปิดแอร์ดีกว่าครับ เพราะว่าพัดลมมันจะปัดน้ำที่เข้ามาให้ห้องเครื่อง อาจจะทำให้พัดน้ำเข้าห้องและใบพัดแตกอีกด้วย ในตอนที่น้ำกระฉอกมาหน้ารถ
BMW 318i e36 94'
Benz C220 Elegance 94'
Toyota AE100 96'
Toyota Prado lc90 00'
Toyota VX100 06'
Toyota Altis 10'
Chevrolet Cruze 12'
Chevrolet Captiva 13'
Toyata Yaris 15'

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้
หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ



ตามนี้เลยครับ จริงๆ แค่ใบพัดตีกับน้ำเฉยๆ ก็มีโอกาสแตกได้ครับ

แต่ก็ใช้ว่าปิด A/C แล้ว พัดลมหม้อน้ำจะไม่ทำงาน แต่ % การทำงานมันจะน้อยลง

ถ้าจังหวะโป๊ะเชะ หม้อน้ำมันอุณหภูมิสูง พัดลมทำงาน เจอน้ำท่วมสูง ใบพัดใช้งานมานาน กรอบระโหยโรยรา ก็ Jack Pot



ถ้าขับลุยในระยะไม่ถึงขอบสเกริตหรือกันชนหน้า ไม่จำเป็นต้องปิดก็ได้ครับ แต่ถ้าหากลุยไปในที่เกินตัวรถแล้ว ทางที่ดีคือ ปิดแอร์ดีกว่าครับ เพราะว่าพัดลมมันจะปัดน้ำที่เข้ามาให้ห้องเครื่อง อาจจะทำให้พัดน้ำเข้าห้องและใบพัดแตกอีกด้วย ในตอนที่น้ำกระฉอกมาหน้ารถ


สรุปก็คือ ที่เค้าแนะนำให้ปิด A/C เนี่ย เพราะมันจะทำให้ พัดลมหม้อน้ำ ทำงานน้อยลง
ซึ่งพัดลมหม้อน้ำ เนี่ย ไม่เกี่ยวอะไรกับ พัดลมที่เป่าลมเข้าหน้าเราในรถ ใช่มั้ยครับ  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ไม่รู้นะ ผมปิดแอร์ไปเลยอะครับ ละแง้มกระจกเอา

ออฟไลน์ artzzz001

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 278
ปิดแอร์ เปิดจก กลัวฝนสาดเอากันสาดคลองถมใส่ จบ

ออฟไลน์ dunghill

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 316
ปิดเลยชัวร์สุด อย่าง city พัดลมแอร์อยู่หลังหม้อน้ำ แต่อย่าง astina popup ผม พัดลมแอร์อยู่หน้าแผงแอร์ ถ้าปิด a/c พัดลมจะไม่ทำงานเลย (สงสัยรถโบราณเกิน)
แต่เอาสบายรถก็ปิดแอร์ซะ แต่ถ้าปิดขณะฝนตก นานๆ ก็ระวังฝ้าเกาะที่กระจกจนมองไม่เห็นจะอันตรายขึ้นไปอีกนะครับ  เคยแอร์เสียทีนึง ขับขึ้นทางด่วนมองไม่เห็นต้องเปิดกระจกยอมเปียก ไม่งั้นก็ต้องจอดรอจนกว่าฝนจะหยุดตก
HondaCity 03'
Mazda 323 Astina 91'
HondaCity 12'

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
ถ้าเป็นรถกระบะหรือรถที่ใช้พัดลมแบบหมุนจากเครื่องยนต์โดยตรงไม่ต้องปิดแอร์ก็ได้ เพราะยังไงพัดลมมันก็ทำงานตลอดเวลาตีน้ำกระจุยอยู่ดีไม่มีผลอะไรเลย

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
วันก่อนเจอฝนหนักมากๆ น้ำท่วมขังสูงพอตัว จะปิดแอร์ตลอดก็ไม่ได้เพราะกระจะขึ้นฝ้าทั้งคัน
เลยต้องเปิดๆปิดๆ ใครพอทราบบ้างว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง

ตามความเข้าใจของผมเอง ในช่วงเจอฝนตก

ถ้าฝ้าขึ้นกรจะด้านในรถ เพราะอากาศ ข้างนอกรถ เย็นกว่าในรถมาก
แก้โดย
1 เปิดแอร์ให้เย็นมากขึ้น แต่จะหนาวหน่อย ถ้าเป็นคนขี้หนาว ก็หันช่องแอร์ไม่ให้โดนเรา
2 ปิดความเย็นแอร์ ลดกระจกลง จะทุกบาน หรือไม่ทุกบานก็ได้

ถ้าฝ้าขึ้นกระจก นอกรถ
แก้โดย ลดความเย็นแอร์ในรถ

ผมเคยลองเช่นนี้มาก่อน แล้วได้ผล หลังจากที่ใช้รถใหม่ ๆ ยังไม่รู้ เลยต้องจอดรถ เดินเอาผ้าเช็ดกระจกมาแล้ว อายมาก