ผู้เขียน หัวข้อ: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"  (อ่าน 14345 ครั้ง)

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 07:09:58 »
   ตอนไม่มี อะไรก็ต้องงด ต้องรอ เอาแค่พอเหมาะ พอมีขึ้นมา เขาพยายามหาสิ่งที่ดีให้กับลูก คิดมาเป็นเงินไม่มากจากรายได้ (แต่มันมากไปสำหรับเด็กที่ยังหาเองไม่ได้ ลองคิดดูว่าคุณเคยเห็นภาพเด็ก 3-5 ขวบเล่น iPad ของพ่อกับแม่ไม๊ นั่นแหละ คือความคุ้นเคย) จีนบางทีไม่ได้คิดว่ามันจะกลายเป็นความเคยชิน เคยได้ แล้วต้องได้
    ต้องสอนให้เขารู้จักคำว่าพอดี ผมมีทั้งลูก มีทั้งหลาน ในวัยใกล้เคียงกัน เจอทั้งแบบพ่อแม่ประเคนให้และแบบพอมีพอใช้ และแบบอัตคัตที่จะให้ ต้องดูและสอนเขาให้เข้าใจดีๆนะครับ. คหสต ล้วนๆ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 07:40:26 »
สรุปสั้นๆให้ (แต่น่าจะอยู่กระทู้ Relax นะ 555+ อ่านแล้วคิดเยอะ อิอิอิ)
1. การปลูกฝัง  -- วินัย จิตสำนึก
2. ประสบการณ์
3. *** กตัญญู ***

ส่วนตัวผม จากคนพอจะมีกิน มีฐานะ จนปัจจุบัน มีแต่หนี้สิน จ่ายดอกเดือนละ 65,000 บาท เฉพาะดอกเบี้ยนะ ไม่รวมเงินต้นที่ไม่มีปัญญา จ่ายคืนในตอนนี้ 555+

ปล. หนี้สินการค้านะครับ ไม่ใช่หนี้พนัน หรือ หนี้แบบอื่น ^_^

ออฟไลน์ 12ay13an

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 278
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 07:58:42 »
เคยผ่านชีวิตวัยรุ่นมา ครอบครัวก็ไม่ได้รวยมากฐานะปานกลาง เคยขอของอะไรจากพ่อแม่หลายอย่างแต่ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ขอมอไซตอนขึ้นม.4 ท่านก็ซื้อให้อย่างไม่ลังเล ตอนเข้ามหาลัยก็ขอรถยนต์ท่านแต่ท่านไม่ให้เราก็๋โกรธท่านแต่ตอนนั้นขับรถเป็นแล้วเพราะท่านสอนแต่ท่านก็ยังไม่ให้ท่านบอกยังไม่ถึงเวลาเราก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เคยแอบเอารถยนต์ออกมาต่างจังหวัดโดยไม่บอกท่านแล้วเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นแหละครับถึงคิดได้ ตอนแรกคิดว่าโดนด่าเละแน่ๆ กลัวมากๆตอนโทรไปบอกท่านว่ารถชน แต่คำแรกที่ท่านถามมาท่านถามว่าเราเป็นอะไรมั้ยไม่ถามถึงรถยนต์ซักคำและท่านก็รีบมายังที่เกิดเหตุทันที แค่นั้นแหละครับน้ำตาไหลออกมาทันที สำนึกผิดครับ พอกลับมาบ้านท่านไม่ได้ว่าเราแม้แต่คำเดียวเพียงแต่สอนอะไรหลายๆอย่างให้เรารู้ และก็จำมาจนถึงทุกวันนี้ จึงอยากให้พ่อแม่ทุกท่านถ้าจะสอนอะไรลูกรีบๆสอนรีบๆปลูกฝังตั้งแต่ยังเป็นเด็กเลยครับ ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป ถึงแม้ผมจะยังไม่มีครอบครัวแต่ก็เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนครับ ทุกวันนี้ทำงานหาเงินเองได้รู้เลยครับกว่าจะได้เงินมาทุกบาทมันเหนื่อยมาก เวลาเห็นใครขับรถหรูๆแพงๆก็อิจฉาอยากได้เหมือนกันแหละครับคิดว่าทำไมเราไม่มีขับแบบเค้ามั่งแต่ผมก็คิดเสมอว่า เวลาที่เราอิจฉาคนที่รวยกว่าเรา ให้เรามองคนที่คนจนและลำบากกว่าเรายังมีอีกเยอะครับ เรามีแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว  ;D 

ออฟไลน์ Marverick

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 276
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 10:13:05 »
ผมก็ใช้คำว่า"พ่อ" มาเจ็ดเดือนกว่าๆแล้วครับ

   ก่อนหน้าที่จะแต่งงานนั้น ผมก็ใช้เงินตามสบายตามประสาคนโสด หาได้..ใช้ไป..หาใหม่ ไม่ค่อยระวังตัว แต่ก็ไม่ลืมที่จะเก็บออม....แต่เมื่อแต่งงานมีครอบครัว ความคิดก็เปลี่ยนไป ความรับผิดชอบมันมากขึ้น ต้องออมมากขึ้น ลงทุนมากขึ้น ข่มใจมากขึ้น มองไปที่อนาคตเพื่อการศึกษาของลูก ค่าใช้จ่ายที่ให้คนในครอบครัวสุขสบาย

   ผมเห็นเด็กวัยรุ่นที่ยังหาเงินเองไม่ได้ แต่มีความฝันที่อยากได้รถแบรนด์หรูๆมาขับขี่เพื่ออวดความมั่งมี ..ถ้าเด็กพวกนั้นมีฐานะทางบ้านที่ดี พ่อแม่สนับสนุน คงไม่สามารถไปห้ามอะไรได้..แต่สำหรับบางคนที่มีฐานะปานกลาง ผมเชื่อว่าเมื่อทำงานหาเงินได้จะมองเป้าหมายไปที่รถก่อนอย่างอื่น

   ผมอยากจะให้น้องๆคิดใหม่ ข่มใจเรื่องรถยนต์เอาไว้บ้าง มองว่ามันคือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทาง เมื่อมีรถย่อมมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีก ผมมองว่าสิ่งแรกที่น้องๆควรจะมีคือ บ้าน ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ที่มันมีมูลค่าที่งอกเงยขึ้น ไม่เหมือนรถยนต์ที่มีค่าเสื่อมราคาตั้งแต่ถอยรถป้ายแดงออกมา

   บางครั้งสมรรถนะหรือoption ที่ดีเด่นเกินความจำเป็น มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น
   
  "การจะพูดถึงรถแพงๆ ทำไมจะพูดถึงไม่ได้? คนมีเงินซื้อก็พูดถึงในแง่เจ้าของ
คนไม่มีเงินซื้อ ก็พูดถึง เพราะชอบ เพราะใฝ่ฝันว่าสักวันมันจะได้เป็นเจ้าของ
ก็ให้พูดกันไป ........... คนรวยไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายเหมือนคนจนก็ได้
ที่มาของเงินแต่ละคนไม่เหมือนกัน". 
ผมชอบแนวคิดของคุณ Commander Cheng

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:08:06 »
น้ำตาจะไหล

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:15:37 »
ตอบในฐานะเคยเป็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวฐานะปานกลาง พอกินพอใช้
ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมกับเด็กวัยเดียวกันที่ฐานะค่อนไปทางดี ดีมาก
ไปจนถึงอภิมหาเศรษฐี ใช้ีชีวิตร่วมกันไม่ต่ำกว่า 8-10 ชั่วโมงต่อวัน
5-6วันต่อสัปดาห์ ในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ตลอด 12ปีที่ผ่านมา

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 ในบริบทที่บอกมาข้างต้น
อย่าไปโทษสังคมรอบข้างครับ ทัศนคติของเด็กจะเป็นอย่างไร
พื้นฐานอยู่ที่ครอบครัวและผู้ปกครอง ว่าสอนมาอย่างไร สอนให้เด็กคิดอย่างไร
สังคมรอบตัวหรือเพื่อนๆมีส่วนบ้าง แต่ไม่มากที่จะทำให้เปลี่ยนความคิด
ไปอย่างสิ้นเชิงได้ ต้องสอนให้เค้าคิดมีเหตุมีผล คนมีฐานะไม่จำเป็นต้องฟู่ฟ่า
ฟุ่มเฟือยเสมอไป เด็กบางคนใช้ประหยัดกว่าเด็กฐานะกลางๆอีก เพราะเค้าคิดเป็น
หรือถูกสอนมาดี อย่าไปสอนเด็กให้คิดลบกับคนรวย เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่มีวันรวย
แต่จงให้เหตุผลทำไมเค้าถึงรวย แล้วมันจะเป็นแรงผลักดันให้เค้าขยัน พยายาม
อดทน และมีเป้าหมายให้ตัวเองในชีวิตได้

ส่วนใหญ่ที่ผมเจอ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็เป็นส่วนใหญ่
ส่วนใหญ่คนที่รวยจริงๆ เราจะเป็นคนรู้เอง ว่าเค้ารวย ไม่ใช่จากการอวด

คนรวยจริง จะไม่อวด แต่คนที่อวดคือคนที่รวยไม่จริง

ออฟไลน์ grev

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 322
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:16:44 »
พื้นฐานทางสังคมมันไม่เท่ากันครับ
ผมว่าเอามาเทียบลำบากนะ
ถ้าใครมีเงินเชื่อเถอะ 100 ทั้ง 100
ไม่มีใครอยากให้ลูกลำบากทั้งนั้น
และเรื่องพวกนี้อยู่ที่การเลี้ยงดู
ปลูกฝังทัศนคติ และวิธีคิดครับ
แถวบ้านผมลูกคนมีตัง เรียนนานาชาติ
ค่าเทอมเป็นแสน แต่เวลาเจอหน้าผม
ท้้งที่ไม่ได้สนิทหรือคุ้นเคยอะไรกัน
น้องเค้ายกมือไหว้ตลอด
มารยาทดีมากๆ ทั้งที่น้องเค้าเองยังพูดไทยไม่ชัดเลย
เพื่อนอีกคนผู้หญิงบ้านมีตัง แต่พ่อมันไม่ให้ขับรถ เพราะเป็นห่วง
ก็ไม่เห็นมันจะง้องแง้งงอแงอะไร นั่งรถตู้รถเมล์ไปเรียนประจำ
จนทำงานจะ 30 ละ มันยังนั่งรถตู้รถเมล์อยู่เลย :D

ออฟไลน์ McBoyz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:48:48 »
ผมก็คนนึงที่ทางบ้านไม่ได้มีฐานะดีอะไร
ต้องทำงานเก็บเงินเอง กว่าจะออกรถเองได้ก็เรียนจบทำงานจนอายุ 27 ตอนนี้ก็มีรถมี ปีหนึ่งพอดี
เห็นเพื่อนมาหลายคน หลายแบบ ก็ไม่ได้อิจฉาอะไร คนเราต้นทุนไม่เท่ากัน
พ่อแม่ล้วนอยากให้ลูกสุขสบายกันทุกคนแหละครับ ถ้าทำได้
ผมไม่ได้อิจฉาเพื่อนคนอื่น เพราะรู้ว่าเราเลือกเกิดไม่ได้ เราไม่มี เราก็หาเองของเราได้
คนอื่นเค้ามีเยอะใช้เยอะ เราก็ไม่มีสิทธิไปว่าเค้าฟุ่มเฟือยหรอกครับ เงินทองเค้า เค้าคงหาได้เยอะเลยใช้เยอะ
ถ้าเค้าไม่มีแล้วใช้เยอะสิแปลก จะเอาจากไหนมาใช้
เราคนธรรมดา หาได้ 100 ใช้ 50 คนรวยเค้าหาได้ 10000 ใช้ 5000 ก็ไม่แปลกครับ ยังไงก็ยังเหลือเก็บ

เหมือนเราขับ eco car ขับ รถญี่ปุ่น จะไปอิจฉาคนขับ benz bmw ไปเพื่ออะไร

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:49:48 »
อยากให้เป็นกระทู้ปักหมุดจัง 5555+. ล้อเบ่นนะครับ

ผมเป็นพ่อลูกแฝดมาปีครึ่งแล้วครับ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมก็คิดเหมือน จขกท นะ
มีช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้มีน้องนิสิตหลายคนที่มาสร้างกระแสและพูดคุยถึงรถราคาแพง ผมเองก็อยากจะพูดแบบ จขกท นี่แหละ
สมัยเด็กๆ ผมเคยขอพ่อซื้อจักรยานใหม่ พ่อบอกว่า ถ้าภายในวันนี้หาเงินเองโดยไม่ต้องขอใคร ใข้ความรู้ความสามารถที่มี ได้ 20 บาท พ่อจะซื้อให้
จนถึงวันนี้ที่พ่อผมให้เงินมาก้อนนึงเอาไว้ดูแลลูกๆและเคยจะถอย f10 แต่ก็หยุด เพราะเสียดายตังค์ รายรับตอนนี้ิที่เราหามาได้ประมาณเดือนละ 100k
จะซื้อจะจ่ายอะไรยังต้องคอยระมัดระวัง จะถอยรถ SUV ซักคัน ทั้งๆที่ซื้อสดก็ได้หลายคัน แต่เราก็ต้องการรถที่คุ้มราคา และไม่แพงจนเกินไป
อยากถอย ml250 cdi, xc60 หรือ x5 แต่ก็แค่ไปดู ไปลองเช็คราคา สุดท้ายก็ไม่เอาเสียดายเงิน กว่าจะหาได้แต่ละบาทใช่เรื่องง่าย

ผมมีคนรู้จักที่รวยและใช้รถราคาแพงแต่มีทั้งนิสัยดีและนิสัยไม่น่ารัก
คนที่นิสัยดี พ่อแม่ซื้อรถราคาแพงให้ตอนเอ็นติด เขาก็รักและดูแลรถเป็นอย่างดี และตั้งใจเรียนหนังสือเพราะเขาอยากจะหาเงินเอง อยากจะขับรถสปอร์ตแต่ต้องจ่ายเอง จบแล้วก็ทำงานกับที่บ้าน และเก็บเงินเดือนที่ได้รับมาซื้อรถในฝัน เมื่อไหร่ที่เขาผ่านมาทางบางแสนก็จะมีของติดมือมาเยี่ยม มีตั้งแต่มะม่วงจากสวนหลังบ้าน จนถึงหูฉลามตากแห้งจากฮ่องกง แต่เขาใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผลมาครับ ครอบครัวเขาอบรมมาดี และไม่เคยดูถูกคนที่จนกว่าอย่างผม หรือรังเกียจรถผมเลย

อีกคนเป็นลูกเจ้าของโรงสี รวยไม่เท่าคนแรกหรอก แต่เบ่งมาก พ่อซื้อ BMW ให้ ขับไปสามเดือนเบื่อไปทำช่วงล่างและชุดแต่งหลายแสน
ขับไม่ถึงปี อยากได้คันใหม่ พ่อมันประเคนรถยุโรปให้อีกคัน ใช้เงินดุมากเลยคนนี้ แต่ที่คบกัได้เพราะเล่นดนตรีด้วยกัน ไม่รู้เกิดข้อผิดพลาดอะไร
เหมือนโรงสีมีปัญหา รถพ่อแบะรถมันหายไปทีละคัน สุดท้ายเหลือเบนซ์อีคลาสคันเดียว ตอนนี้คนคนั้นเป็นพนักงานธนาคารขับเทียน่าตัวที่แล้ว
เวลาเจอกันม้นยังโวว่าเทียน่าภายในไกล้เคียงรถสมันก่อนที่มันใช้ บลาๆๆๆ ยังติดนิสัยขี้โอ่อีกนะมรึง 555+

ดังนั้นผมว่าประเด็นนี้มันขึ้นกับทัศนคติของแต่ละคน การเลี้ยงดูของครอบครัว และการคบเพื่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2013, 11:52:39 โดย Eddy3585 »
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 12:35:24 »
ทุกท่านเขียนกันมายาวมากๆ
จนผมได้เห็นอีกหลายๆด้านของหลายๆท่าน

ผมคิดว่า อยากจะบอกเพียงแค่.....สั้นๆ


"อย่าสอนลูกให้มองคน ที่ความรวย (รวมถึงการพูดถึงคนอื่นว่า ดูคนนั้นสิ เขารวยจังเลย แบบนี้ ห้ามเด็ดขาดครับ แย่มากๆ)
แต่จงสอนลูก ให้มองคน ที่"จิตใจดี นิสัยดี Attitude ที่ดี
ควรคบเขา แต่ห้ามไปเบียดเบียนใครเขา"

แค่นั้นครับ

ออฟไลน์ unconsent

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 12:40:46 »
พ่อแม่ซ์้อรถแพงๆให้ลูกใช้นี่คือ ฟุ้งเฟ้อเหรอครับ?

ถ้ามีเงินสักร้อยล้าน ซื้อเบ้นให้ลูกตั้งแต่มหาลัย เพื่อความปลอดภัยของลูกนี่คือฟุ้งเฟ้อหรือเปล่า?? หรือต้องให้ลูกโหนรถเมล์เผื่อเจอเด็กช่างตีกัน หรือต้องให้ขึ้นรถไฟฟ้าเบียดๆ หรือต้องให้นั่งแท็กซี่ วินมอไซ?

หรือต้องให้ใช้รถญี่ปุ่นไปก่อน ทั้งๆที่เงินที่เสียเพิ่มไปไม่ได้มีผลกับเงินที่มีอยู่? แต่ได้ความปลอดภัย ได้อะไรหลายๆอย่างเพิ่ม

ต่างคนต่างวาระครับ สำหรับผมพ่อแม่เลี้ยงมาค่อนข้างสบาย แต่มั่นใจว่าวันไหนลำบากก็อยู่ได้ครับ อยากได้อะไรก็ได้จริง แต่ต้องรู้ค่าของสิ่งที่ได้มามากกว่า

ออฟไลน์ Bier

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 152
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 12:43:48 »
ทำอย่างไรก็ได้ แต่อย่าให้ผู้อื่นเดือดร้อน  ;)

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 12:52:48 »
ผมเองก็เป็นพ่อคนนะ ตอนนี้ลูก 6 ขวบกว่าละ ผมคิดว่าเป็นปกติที่ จขกท จะกังวล ผมกังวลมา 7 ปีกว่าละ ตั้งแต่แฟนท้อง โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ยุคนี้ ลูกใครเล่น ipad ไม่เป็น จะแปลกละ นี่คือโลกหมุนไปเรื่อยๆ ครับ เราต้องปรับสภาพ คุมให้เขาอยู่ในกรอบ แต่กรอบเราต้องรู้ว่าอะไรคือเหมาะ ไม่เหมาะ ผมใีลูกคนเดียว ยอมรับ สปอล์ยนิดหน่อย ด้วยความรู้สึกว่า เราก็หาเงิน ทำงานเพื่อเขาส่วนหนึ่ง อะไรที่ให้ได้จะให้ เท่าที่เห็นสมควร

ท้าวความนิดหน่อย ผมกับแฟน เราสร้างตัวมาเอง ด้วยตัวเองทั้งคู่ จาก 0 เพราะไม่เคยเอาเงินจากทางบ้านมาตั้งตัวเลย เพราะที่บ้านก็ไม่ได้รวย และพ่อผมเสียก่อนผมจบ เหลือแม่คนเดียว เพียงแค่เขาดูแลตัวเอง โดยไม่พึ่งเราผมก็สบายใจแล้วตอนนั่น หาเองดีกว่า สินสอด เงิน รถ บ้าน เราทั้งคู่ชาวยกันหามา ผมเริ่มจากเงินเดือน 9000 จนตอนนี้ขึ้นมาหลัก 2xx,xxx แฟนเริ่มทำงานหมื่นกลางๆ จนตอนนี้หาเงินได้ กว่า 2xx,xxx  ต่อเดือน ดังนั้น เราเลยไม่ลำบากตอนนี้ แต่ก็ไม่ใช่จะรวยมาก บังเอิญทัศนคติ ของผมกับฟนเหมือนกันคือ เรามีเราใช้ เก็บนิดหน่อย แต่ไม่เหนียวกับตัวเองและครอบครัว เพราะเราเชื่อว่า เงินหาใหม่ได้เสมอ หากเราขยัน ผมเห็นตัวอย่างพ่อ คิดจะเกษียรแล้วค่อยเที่ยว แล้สท่านก็เสียก่อนเกษียรปีเดียว แผนต่างๆ ไม่ได้ทำเลย ทำแต่งาน

กลับเข่าเรื่องลูก ด้วยเหตุผลนี้ หากลูกต้องการอะไรที่ไม่ลำบากมาก ผมก็จะให้ ของเล่นดีๆ 3-4000 ผมก็ซื้อ แต่ ลูกอมบาทเดียว ผมก็ไม่ให้เพราะมันไม่มีประโยชน์ ipad มีให้เล่น แต่เล่นตามเวลา เมื่อทำการบ้านนเสร็จ ซ้อมเปียโนเสร็จ ไม่ใช่เล่นอย่างเดียว อ้อ ของผมจะให้ ต่อเม่อสะสมดาวครับตามกำหนด โดยประมาณ ผมตีให้ดาวละ 200 บาท หากได้ 5 ดาวก็ซื้อของให้ 1000 บาท ประมาณนี้ ดาวมาจากการทำความดีเช่น เชื่อฟัง ช่วยทำงานบ้าน หรืออาบน้ำเอง กินข้าวเอง ทำการบ้านเอง ซ้อมเปียโนเอง โดยไม่ต้องบังคับ แบบนี้ก็ฝึกให้เขาเข้าใจว่าของไม่ได้ได้มาง่ายๆ ต้องไขว่คว้า แล้วผมก็สอนให้เขาดูราคาของ ดูเงินที่เขาเก็บได้ ตอนนี้บวกลบเลขๆด้แล้ว ก็จะคอยสอน ได้เงินวันละ 20 บาท เก็บ 10 บาท เพราะอาหารกับน้ำ โรงเรียนมีให้อยู่แล้ว หากอดใจ ไม่ซื้อขนม ก็จะเก็บได้ 10-20 บาทก็วัน 1 อาทิตย์เป็นเท่าไหร่ หากจะซื้อของราคานี้ต้องเก็บกี่วัน พอไปดูของเล่นก็สอนดูป้ายราคา เขาก็พูดเองเสมอ อูย แพงจัง แต่ก็อ้อนจนเสร็จไปหลายชิ้นละ 555

ส่วนโรงเรียน ผมไม่ให้เข้าโรงเรียนที่ต้องจ่ายแป๊ะเจี๊ยะเยอะๆ ผมว่าไร้สาระ การจบจากโรงเรียนที่ต้องเส้นตั้งแต่เข้า ผมกลัวเด็กจะเสีย อันนี้ คหสต การเรียนโรงเรียนแพงๆ ดังๆ ไม่ได้การันตี ลูกจะสำเร็จและเป็นคนดี ผมและบ้านแฟน ทุกคนก็เรียนโรงเรียนโนเนม ทุกวันนี้ก็ดีออก แต่ขอให้ได้ภาษาอังกฤษ ก็แค่นั้นเอง

อย่าฝืนกระแสครับ อย่างตอนนี้ ipad smart phone มาแรง เราสวนกระแส ไม่ให้ลูกใช้ ถามว่าดีไหม จริงๆ ดีกว่า แต่เราต้องใช้ชีวิตกับสังคม เราหลีกได้เหรอครับ เพื่อนๆ มี เขาไม่มี เดี๋ยวก็เป็นปัญหา เราสู้สอนให้เขาอยู่ร่วมกับสังคมในกรอบที่เราพอใจก็พอแล้วครับ

เรื่องรถ มีไรก็ใช้ไปลูก 555 แต่หากตอนนั้นมีปัญญา ผมก็ซื้อรถยุโรปให้นะ เพราะเราก็ต้องยอมรับ มันดีกว่า ปลอดภัยกว่าจริงๆ

ทุกอย่างเป็นความเห็นส่วนตัวครับ
S3 - F30
X1 - E84

DoNg

  • บุคคลทั่วไป
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 12:57:56 »
ผมอ่าน ก็รู้สึกดีนะครับ
กับบางคนที่มีเงิน แต่ก็ยังมีความคิดอ่านที่ดี

ผมก็ไม่ใช่ว่าคนรวยมากมาย แต่ก็ถือว่าดีในระดับ
เดียวกับคนที่หาเงินด้วยตัวเอง และในอายุเท่าๆ กัน

ผมขับรถมีราคาสูงครับ และปราถนามีรถดีๆ ครับ ไม่เถียง
ตอนนี้มีรถแพง และคันต่อไปต้องแพงและดีกว่า
แต่ทั้งหมด จากเงินของผมนะ เป็นความภูมิใจของลูกผู้ชาย

แต่อ่านข้อความของบางท่าน ผมไม่ติอะไรมาก
แต่ให้คุณจำคำพูดของตัวเองไว้

ในซักวันนึงที่คุณได้เป็นพ่อคน คุณจะมีความรู้สึกนี้มาเองโดยอัติโนมัติ

"พ่อแม่ไม่ได้คุ้มหัวจนวันตาย"

ออฟไลน์ ZEANTON.

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 13:19:35 »
ตอบในฐานะเด็กอายุ 18 ปี

ทุกอย่าง เริ่มที่การปลูกฝังและทัศนคติของคนครับ

เป็นธรรมชาติของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ส่วนใหญ่ ก็อยากให้ลูกคนตนเองสบายทั้งนั้น

ผมก็ไม่คิดที่จะขอท่านซื้อหลอกครับ แต่ว่าท่านได้กล่าวออกมาเองว่า

ถ้าเรียนมหาลัยเมื่อไหร่เขาจะซื้อให้จะได้ไปเรียนสบาย ฝนตกแดดออกจะได้ไม่ลำบาก
HILUX REVO 2.8G 4x4 SUN4X4
CITY CNG 1.5 V 
Starda TD05H 12 mm

ออฟไลน์ archian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,100
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 14:24:22 »
ผมก็เพิ่งเป็นพ่อคนเมื่อ 7 สิงหาที่ผ่านมานี้เอง 

ความตั้งใจในการเลี้ยงของผมคือ  ไม่บังคับให้ลูกเดินตามทางที่เราอยากให้เขาเดิน   แต่จะค่อยแนะนำและช่วยเหลือในเส้นทางที่ลูกเลือกเอง  ตามปัจจัยเท่าที่มีอย่างเต็มที่และถูกต้องตามลักษณะงานนั้นๆ ......

แต่ตอนนี้ต้องไปเช็ดอึลูกก่อน   อึวันละ 7 รอบ  กินทุก 3 ชั่วโมง  ตื่นเที่ยงคืน  ตีสาม  ตีห้า  ทั้งอึทั้งกินนมในเวลาเดียวกัน........... โอ้พระเจ้าาาาาาาาา  อิอิอิอิอิ

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 15:00:44 »
พ่อแม่ซ์้อรถแพงๆให้ลูกใช้นี่คือ ฟุ้งเฟ้อเหรอครับ?

ถ้ามีเงินสักร้อยล้าน ซื้อเบ้นให้ลูกตั้งแต่มหาลัย เพื่อความปลอดภัยของลูกนี่คือฟุ้งเฟ้อหรือเปล่า?? หรือต้องให้ลูกโหนรถเมล์เผื่อเจอเด็กช่างตีกัน หรือต้องให้ขึ้นรถไฟฟ้าเบียดๆ หรือต้องให้นั่งแท็กซี่ วินมอไซ?

หรือต้องให้ใช้รถญี่ปุ่นไปก่อน ทั้งๆที่เงินที่เสียเพิ่มไปไม่ได้มีผลกับเงินที่มีอยู่? แต่ได้ความปลอดภัย ได้อะไรหลายๆอย่างเพิ่ม

ต่างคนต่างวาระครับ สำหรับผมพ่อแม่เลี้ยงมาค่อนข้างสบาย แต่มั่นใจว่าวันไหนลำบากก็อยู่ได้ครับ อยากได้อะไรก็ได้จริง แต่ต้องรู้ค่าของสิ่งที่ได้มามากกว่า


ผมว่าผมชอบแนวคิดนี้นะ ใช้เงินให้พอดีกับฐานะ อย่างที่บอกจะมี1ล้าน หรือ ร้อยล้าน ยังไงก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองไว้ก่อน

จะให้ไปซื้อมอเตอไซขับ โดนชนทีนี่50-50 รอดไม่รอดเลย หรือ ถ้าเงินมีบางทีซื้อรถคันใหญ่เพื่อความปลอดภัยที่มากกว่า ขับรถคันเล็ก

จะให้โหนรถเมล์ใครๆก็ขึ้นได้ครับ แต่มันเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ลองนึกภาพขึ้นรถเมล์แบบไม่มีแอร์ตอนกลางวันดู ลงจากรถมาทีเหงื่อโซกอย่างกับอาบน้ำ

ออฟไลน์ Usavich

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 16:34:20 »
ผมถูกเลี้ยงดูมาแบบปล่อยๆ ครับ ครอบครัวมีฐานะปานกลาง ท่านบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำเลยเต็มที่ เป็นคนดีแล้วก็อย่าติดยาก็พอ

ช่วงมัธยมเงินค่าขนมผมจะได้เป็นเดือนๆ เหมือนเงินเดือนเลยครับ อยากได้อะไรเก็บเงินซื้อเอง พ่อแม่ Support แค่ที่เกี่ยวกับการศึกษา

ช่วงแรกมาเละเทะเลยครับ เพราะการที่ได้ค่าขนมเป็นเดือนๆ ช่วงค่าขนมออกจะได้เงินมาก้อนใหญ่ ทั้งเที่ยวทั้งซื้อของซะเงินทั้งเดือนหมดในอาทิตย์เดียว

ทีนี้ไม่มีเงินกินข้าวเที่ยงที่โรงเรียนครับ สุดท้ายต้องไปอ้อนขอเงินเพิ่ม เหมือนทำสัญญากู้เงินเลยครับ เดือนหน้าต้องหักเงินเดือนมาคืนกี่บาทๆ

ผมว่าผมโชคดีมากครับที่ถูกพ่อแม่สอนให้ควบคุมการใช้เงินด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กๆ มันเหมือนสอนให้เราประเมินตัวเองอยู่ตลอดว่าอะไรเหมาะสมกับฐานะเรา

เพราะถ้าผมยังขอเงินพ่อแม่ซื้ออะไรได้เรื่อยๆ ผมก็คงไม่คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้อยากจะได้อะไรแต่ละที เก็บเงินค่าขนมไปซื้อเอาเอง

ถ้าใช้เงินเกินตัวก็จะไม่มีเงินซื้อข้าวเที่ยงกิน กลายเป็นเด็กเก็บเงินเก่งไปเลยครับ

ตอนเข้ามหาลัยค่อนข้างเดินทางลำบากครับ บ้านอยู่ในเมืองก็จริง แต่อยู่ในโซนที่รถไฟฟ้าก็ไม่มี รถเมล์ไม่ผ่าน จะไปมหาลัยต้องขึ้นสองแถวอีกสองต่อ

ตัดสินใจจะอยู่หอครับ แต่พ่อแม่ไม่อยากให้ไป ท่านคงเหงา เลยยื่นข้อเสนอให้รถยนต์ผมหนึ่งคัน แลกกับการไม่อยู่หอ ขับรถไปเช้าเย็นกลับ

อยากได้รถนะครับ เท่จะตาย แต่บ้านผมฐานะปานกลาง จะซื้อรถยนต์มาให้ผมแค่ไปเรียนก็ดูเกินตัวไป ค่าใช้จ่ายด้านอื่นก็เยอะมากแล้ว ก็ยื้อกันไปๆมาๆ

สุดท้ายท่านก็แอบไปถอยมาให้คันนึงครับ เหมือนยื่นคำขาดว่ารถอยู่นี่แล้วนะ ลืมเรื่องอยู่หอไปได้เลย

ปัจจุบันอยู่ปี 4 แล้วครับ ก้มหน้าก้มตาเรียนให้ดีที่สุด ไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ตอนนี้เกรดรวมได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แล้ว

ตั้งใจเก็บเงินค่าขนมมาซื้อรถคืนจากพ่อแม่ ตอนนี้เก็บได้เกือบครึ่งคันแล้วครับ

 ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2013, 16:40:53 โดย Usavich »

ออฟไลน์ wanarat7777

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 259
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 17:08:44 »
ถ้าผมเป็นพ่อคนคงเสียใจมาก ที่พยายามส่งลูกให้ได้เรียนดีดี แต่แค่ไม่มี option เท่าคนอื่นเค้าเพราะมันทำเต็มที่แล้ว แล้วลูกก็มาว่าพ่อแม่ทำไมไม่สร้างมาให้เค้าก่อน คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ผมเกิดมาไม่รวย พยายามเต็มที่แล้วกับชีวิตไม่ได้ขึ้เกียจ แต่โอกาศและเส้นทางต่างกันกับครอบครัวคนอื่นเค้า ขอให้ลูกที่จะมาร่วมครอบครัวเดียวกัน เข้าใจว่า พ่อรักลูกนะ และพ่อพยายามแล้ว ที่มีไม่เท่าเพื่อนๆเค้า พ่อรู้ แต่เราร่วมกันสร้างได้นะลูกนะ อย่าเสียใจไปเลย ขอบคุณ Gen ME ME ME ME ที่ทำให้ผมเข้าใจว่าถ้าจะเกิดมามีลูกแบบนี้ อย่ามีดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 19:06:00 »
การจะเลี้ยงดูให้ลูกเป็นคนอย่างไร มันอยู่ที่พ่อและแม่ครับ กว่าจะใช้คำว่าพ่อและแม่ได้ก็คงต้องผ่านอะไรในชีวิตมามากมายกว่าจะถึงวันนี้ อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีที่เราได้รับได้รับตั้งแต่เด็ก เราก็ปลูกฝั่งต่อไป  อะไรที่ไม่ดีที่เคยพลาดมาเราก็นำมาเป็นบทเรียน เพราะเราอาบน้ำร้อนมาก่อน  การอบรมสั่งสอนแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป  แต่มีจุดหมายเดียวกันคือ อยากให้เขาเป็นคนดี  ลูกจะดีหรือไม่ดี มันต้องเริ่มจากพ่อและแม่เป็นอันดับเเรก ทุกช่วงวัยมีผลต่ออนาคตของเขาทั้งสิ้น มันอยู่ที่ความเข้าใจ ความรัก การดูแล และเอาใจใส่ อย่างถูกต้องนะครับ  อย่าว่าแต่เรื่องรถเลยครับ เรื่องความอยากได้ อยากมี ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ว่าเด็กรึว่าผู้ใหญ่ เสียคนมามากต่อมากแล้วครับ ถ้าไม่รู้จักการยับยั้งช่างใจ

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 19:18:26 »
จริงๆผมอยู่ในครอบครัวทีไม่รวยมากนักแต่ถูกเลียงมาอิสระครับเปนของตัวเองครับแต่อย่างน้อยพ่อกับแม่ผมไม่ได้เลียงแบบสปอยครับมันอยู่ทีว่าการเลียงดูแบบไหนมากกว่าครับถ้าเค้าชีอรถผมขอแค่มอเตอร์ไชน์ครับรถเมีอไรก็ชีอก็ได้ครับทำงานเมี่อไรก็ไปชีอได้ครับจริงๆผมก็คบกับเพีอนๆทีรวยๆอยู่ครับแต่เพีอนผมก็เข้าใจครับก็คบกันอยู่ถึงทุกวันนี้ครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 20:08:41 »
ช่วงนี้อย่างแต่งรถนะครับ ซื้อรถก็ให้คิดให้มาก กินไรก็เน้นให้อิ่มไม่ต้องหรู เอาเงินไปดูแลลูกดีกว่าครับ

ออฟไลน์ mangsarb

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 20:37:45 »
ขอฝากข้อคิดสั้นๆครับ
1) อย่าส่งลูกเรียนในสังคมที่เกินตัว
2) อยากให้เค้าเป็นยังไง ทำตัวให้เป็นตัวอย่างครับ
3) ให้เวลากับลูกมากๆครับ ไม่ใช่อยู่กับลูกแล้วต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 21:08:25 »
คนมีรถให้ลูกไม่ได้รวยทุกคน แต่ที่ให้มีรถเพราะเดินทางสาธารณะแล้วมันไม่ปลอดภัย และไม่สะดวกหรือไม่ก็มันพอๆกับค่าเดินทาง แล้วแบบนี้คงห้รถดีกว่า อีกอย่างไม่ต้องไปเจออะไรที่ไม่แน่นอนกับสิ่งแวดล้อมแบบปัจจุบัน ถ้าผมมีลูกคงให้เวลาปี 1 ในการเดินทางสาธารณะ ปี 2 ถึงจะค่อยให้รถ หรือถ้าเป็นลูกสาวคงให้ตั้งแต่ปี 1
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ me0708

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 110
  • เหนื่อยได้ แต่อย่าท้อ
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 22:19:31 »
ขอแจมในทั้ง 2 สถานะเลย(ลูกคนพอมีอันจะกิน ปัจจุบันพ่อลูกหนึ่ง)

ถ้าย้อนไปตอนเรียนมหาลัยยอมรับเลยครับว่านั่งรถเมล์หรือสองแถวเข้ามหาลัยแล้วอาย ไม่มีรถขับไปกลัวเพื่อนไม่คบ
ที่บ้ายตอนนั้นมี 300e, e36 325i mt, Toyota starlet

พ่อบอกถ้าไม่นั่งรถเมล์ไปเรียนก็ให้เอาToyota ไป ตอนนั้นเม็งแตกเลยบอกพ่อถ้าไม่ให้เอาbmไปจะไม่เรียน(รถตัวเองคือ bm )
โดนเทศน์ไปชุดใหญ่ สุดท้ายจำใจเอาพี่ต้าไป แต่ตอนไปจอด...นู้นจอดไกลๆเดินมาไม่ให้ใครเห็น(อายรถ) จนเรียนได้สักระยะถึงรู้ว่าหลายๆคนก็นั่งสองแถวเข้ามาเรียน เรามันบ้าไปเอง

ยอมรับครับว่าสิ่งที่ได้มาง่ายๆมันไม่มีคุณค่าจริงๆ เสียค่าแต่งรถ แต่งเครื่องเสียงคิดเป็นเงินเกินครึ่งล้านไปไกลอยู่ ขอเงินแม่ให้แต่พ่อด่าเราก็อ้อนแม่ก็ได้มา
มันง่าย พอแต่งจนสมอยากก็ขายซื้อคันใหม่ เอาaccord ไฟท้านสองก้อนรถดีๆป้ายแดงๆใช้ไม่นานก็ไปลง H22ฝาแดง แปลงเป็นเกียร์mt แต่งเสร็จใช้ไป3เดือนขายอีกละ

นึกถึงตอนนั้นแล้วมันน่าตบกระโหลกตััวเองจริงๆ ใช้เงินแบบว่างี่เง่าสุดๆ

ตอนนี้เป็นพ่อคนสอนลูกอย่างที่พ่อด่าเราเป๊ะๆ ไม่คิดว่าที่พ่อด่าพ่อว่าเราเราต้องเอามาสอนลูกเราเอง

ตอนนั้นพ่อเราจะรู้สึกยังไงบ้างก็ไม่รู้ จริงๆลูกคนมีตังไม่ใช่พ่อแม่ได้สอนสั่งหรือไม่อบรม แต่เด็กมันไม่เอาไหนเอง

ลองคิดดูผมบอกแม่ว่าถ้าไม่ซื้อคันใหม่ให้จะออกจากโรงเรียนไม่เรียนแล้ว (ตอนปวช) เชื่อไม๊แม่ไม่ซื้อให้จริงๆ ผมก็ออกจากโรงเรียนจริงๆดรอปเรียนไป3 ปี
แต่ไม่ได้ไปไหนนะ แม่บอกไม่เรียนก็มาทำงาน ทำงานจนแม่ยอมออกรถให้แต่ต้องสอบเทียบเอาเพื่อใช้วุฒิเข้ามหาลัย(แม่ยอมเพราะเรากะไม่เรียนจริงๆ)

แต่เชื่อไม๊ 3 ปีที่ทำงานกับแม่ได้อะไรเยอะมากๆ มากจริงๆ

จนทุกวันนี้ทำงานของตัวเองเลี้ยงลูกแบบที่จะไม่ให้เค้าเป็นแบบที่เราเคยเป็นมา แต่จะๆด้ดังหวังไม๊อันนี้คนต้องแล้วแต่เวรกรรมละมั้ง :P


ออฟไลน์ CRO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 843
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 22:53:02 »
ผมเองลูก 4 ขวบแล้วครับ ตอนแรกก็คิดแบบท่าน จขท. แหละครับคิดโน้นคิดนี้ไปเรื่อยและด้วยตัวเองเจอลูกแค่วัน ศ-อ. เพราะทำงานอยู่คนละจังหวัด ยิ่งคิดมากเข้าไปอีก แต่หลังๆก็เพลาๆไปเพราะทำใจได้เอาหลักศาสนาเข้าว่า ผมเองสอนลูกพยายามเอาหลักศาสนาพุทธเข้าไปแทรก ให้เห็นดี ชั่ว เป็นหลัก พยายามอธิบายและใช้เหตผลเยอะๆ ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กแต่ละคนมีแนวของตัวเอง เห็นมาเยอะแล้วครับ บ้านดีการศึกษาดีความคิดดีทำงานดี เจอ ญ ไม่ดีคนเดียวพังเลย -_-'  ตอนนี้ก็เลยไม่คิดมากเราก็ทำหน้าที่ของเราพยายามสอนเขาให้ถึงที่สุด แต่สุดท้ายเป็นไงก็ค่อยว่ากัน ^^

ออฟไลน์ f1rstgot

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 850
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2013, 00:48:36 »
เรื่องแบบนี้พูดยากมากครับ ทุกคนก็คงมีเหตุมีผงแตกต่างกันออกไปครับ

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2013, 01:18:47 »
ยอมรับว่าตกใจนิด ๆ เวลาพูดถึงเรื่องรถแพง  ๆ อย่าง BM benz  คนตั้งกระทู้  คนตอบ  อายุน้อย ๆ กันทั้งนั้น 
แต่มานึกอีกที  เพื่อนสนิทสมัยเรียนมันก็ขับ benz ตั้งแต่ปี 1 นี่หว่า   เราก็นั่งอยู่ประจำ 
 

ออฟไลน์ heinkelt14

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
    • อีเมล์
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2013, 14:06:06 »
จขกท มาแนวว่า พวกเด็กรวยๆพ่อแม่มีตังคุยเรื่องรถแพงๆ ซื้อรถแพงๆ โตไปมันต้องงอมืองอตีนทำไรไม่เป็นสักอย่างแน่เลย ประมานนี้ป่าวครับ

คิดว่าคนจนมันต้องประหยัดความคิดดีโหนรถเมล์ ทำงานเรียน โอ้ยย โตไปมีอนาคต ผมว่ามันก็ใช่ครับแต่ไม่ทั้งหมด

ผมทำโรงงานอุตสาหกรรมครับ ผมเห็นพนักงานหลายคนซึ่งไม่ค่อยมีตังมากนักก็สงสารครับใหม่ๆ แต่พออยู่นานๆก็รู้เองแหละครับว่าทำไม บางคนสมัยเรียนทำงานเรียน
โม้ยังงั้นยังงี้ ลำบาก ตอนมันมาทำงานสายบ้างมาบ้าง ไม่มาบ้าง เย็นสังสรรรค์ สิ้นเดือนเบิกล่วงหน้า เป็นงี้ไปเรื่อยๆแทบทุกเดือน หนักๆมีกู้นอกระบบ เค้าจะมาแทงมันหน้าโรงงาน

บอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับ คนที่อยู่ในเคสนี้ขยันไต่เต้าจนออกไปเป็นเถ้าแก่เอง ก็มีเยอะมากๆครับ ผมนับถือคนประเภทนี้มากๆ

จขกท โลกแคบไปหน่อยนะครับ

เป็นผมถ้ามีธุรกิจขนาดใหญ่ รายได้ปีละหลายร้อยล้าน มีลูกผมก็พร้อมจะซื้อ MB BMW ให้ลูกขับมากกว่าที่จะไป ยืนโหนรถเมล์ตอนเย็น เจอเด็กช่าง ประกบรถเมล์
(จากประสบการณ์ส่วนตัวครับ) และผมคงสอนให้เค้ารู้ค่าของเงินกว่าผมจะซื้อรถให้ ก็คงจะซื้อให้เมื่อวุฒิภาวะมากพอก่อนหน้านั้นมิงก็นั่งรถเมล์ไปเรียนก่อนละกันไม่ให้มัน เป็นพวกหยิบหย่ง แต่คงไมไ่ด้ซื้อให้เปล่าๆ สมัยพ่อผมซื้อรถให้ มีการทำสัญญากันครับ เรื่องการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือความประพฤติส่วนตัว

เรื่องการสั่งสอนลูก เราทำได้แค่สอนซึ่งควรทำเป็นปกติอยู่แล้วคนรวย คนจนเค้าก็น่าจะสอนลูกคล้ายกัน แต่สุดท้ายถึงสอนยังไง ถ้าในหัวมันต่อต้านมันก็มีอะไรมาขัดกับที่เราสอนได้เสมอ ของยังงี้มันอยู่ที่ว่า เค้าจะคิดเองได้เมื่อไหร่ อย่าให้มันสายเกินไป


DoNg

  • บุคคลทั่วไป
Re: ในวันที่ผมเป็น "พ่อ"
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2013, 15:16:15 »
ตอบคุณ heinkelt14 ถ้าคุณวิเคราะห์ว่าผมโลกแคบ
อ่ะ ผมจะอธิบายให้ฟังครับ

1. คือผมไม่ได้อิจฉาคนรวยครับ ผมไม่ได้เป็นคนมีปมด้อย
    คนรวยไม่มีอะไรให้อิจฉา ผมก็มีตังค์ครับ คุณคิดว่าผมตั้ง
    กระทู้แบบนี้ ผมจนเหรอ?? ปล่าวครับ ผมมี จะซื้อ BM
    ซื้อ  Benz แบบที่หลายๆ กระทู้มาตั้งกัน ผมก็ซื้อได้
    แต่ไม่เอา เพราะรำคาญกับความจุกจิก พร้อมกับศูนย์ห่วยแตก
    ปล. บ้านผมมีเบนซ์ครับ ผมรู้ ไม่ใช่องุ่นเปรี้ยว

2. ผมไม่ได้เป็นคนหลังเขา ที่มีลูกจะไม่อยากให้ลูกใช้ของดี
    ถ้าลูกเดินทางแล้วอันตราย ผมก็ซื้อให้นะ ไม่ใช่ไม่ห่วงลูก

3. คุณคิดว่าผมอายุเท่าไหร่ หน้าที่การงานอะไรครับ
    ผมไม่ใช่เด็ก และผมเป็นหัวหน้า ที่มีลูกน้องในสายงาน 40 คน
    และผู้รับเหมา, คนงานอีก 500 - 1000 กว่าคน แล้วแต่โปรเจ็ค
    ผมว่า ผมเจอคนหลากหลายนะ มากๆ ด้วย ไม่ได้นั่งเทียนอยู่หน้าคอม
    ไม่ใช่เป็นคนไม่รู้สี่รู้แปด

4. คุณเคยอ่านกระทู้หลายๆ กระทู้ในนี้รึปล่าว ที่ลูกงอแงอยากได้รถนั่นรถนี่
    ทั้งที่พ่อแม่ซื้อให้ ถ้าไม่ได้รถที่ต้องการก็จะพร้อมจะแตกหัก

5. ผมเห็นเด็กรวยๆ ในนี้ค่อนข้างฟุ่มเฟือยกันเยอะ คุณลองไปดู แค่ได้รถละมันจบกันมั๊ย
    แต่งเพิ่มอีกเป็นแสนๆ เงินพ่อมันทั้งนั้น แล้วที่ว่าจะทำงานชดใช้ให้ เมื่อเรียนจบ
    ผมเห็นว่ามีครับ แต่โคตรน้อย ส่วนใหญ่พอได้เมียละลืมหมด มันจะสำนึกกัน
    เมื่อมีเหตุร้ายๆ ให้ฉุกคิด ลองดูตอนมีความสุข ปากที่บอกว่าจะทำเพื่อพ่อแม่
    บางคน ผมว่าเอาจริงๆ มีซักกี่คน และไอ่คนประเภทนี้ ผมว่ามันไม่ตอบกระทู้นี้หรอก
    เพราะ มันกระดาก

7. ผมอยากได้ความคิดเห็นของคนที่อยู่ในสังคมที่พ่อ แม่สามารถ Support ได้เยอะ
    แล้วเค้าคิดเห็นเป็นอย่างไรกัน กับเรื่องแบบนี้ หรือคุณจะให้ไปถามลูกพวกคนที่ผมรู้จัก
    ที่มันรวยๆ ละถามว่า " พวกคุณมีพ่อรวย แล้ว คุณทำอะไรได้บ้าง " งั๊นเหรอ

8. ถ้าคุณมีลูก คุณต้องการให้ลูกคุณเป็นแบบไหน