ผมตอบในมุม อาจารย์มหาวิทยาลัยนะครับ
ควรซื้อเป็น d-seg หรือรถยุโรปราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆไปเลย เคสน้องชาย จขกท น่าจะประมาณผม
ผมอายุ 32 เงินเดือนรวมค่าตำแหน่งวิชาการอยู่ที่ 53000 บาท และรายรับจากทุนวิจัยที่มีส่วนค่าตอบแทนอีก 15000. ซึ่งต้อง
มีทุนวิจัยไปทุกๆปี (ของผมสะบายไปอีก 5)
อื่นๆจิปาถะไม่นับแล้วกัน
แต่ผมผ่อนบ้านด้วย และมีลูกชายแฝด ผมจะเหลือประมาณ 30000 นิดๆ ส่วนของภรรยาผมไม่คิด เก็บและเอาไว้โปะบ้านเท่านั้น
ถามว่ารถราคา 1300000-2500000 มันเกินตัวไปหรือไม่ ตอบว่าไม่หรอกครับ ข้าราชการสวัสดิการดีและมีความมั่นคงสูง
ตอนนี้ไม่ทราบว่าได้ปรับฐานคูณ 1.6 หรือยัง แต่ผมเดาว่ายังนะ เพราะฐานเงินเดือนต้องมากกว่านี้ อีก
ผมเองก็รอปรับอยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นอีกเท่าไหร่
ซื้อคันเล็กไปเดี๋ยวจะอายนิสิตนะครับ อิอิอิ ล้อเล่นนะ
อาชีพนี้นอกจากความรู้จะสำคัญแล้ว ภาพลักษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ เพราะเป็นอาจารย์มหาลัยไม่ใช่แค่สอนๆแล้วจบ
ยังมีภาระอื่นๆอีกมากนัก ซึ่งหากวิชาการเราดียุแล้วและภาพลักษณ์ก็ดีด้วยเราจะโตในสายอาชีพได้เร็วกว่านะครับ
ไม่ทราบว่าสอนที่ไหนครับ
สตาร์ทสูงมากครับ เพราะเงินประจำตำแหน่งวิชาการ+เงินเดือน เป็น 53000 และอายุเพิ่งจะ 32 ถือว่าเร็วมาก
สำหรับ จขกท.
ผมแนะนำให้เป็น C segment ตัวกลางๆ ครับ
ถ้าเอา D segment ค่าใช้จ่ายจะสูงไป
อีก 10 ปี มีเงินเก็บค่อยไปถอย D-E segment มาขับน่าจะสบาย
เพราะถึงตอนนั้นน้องคงจะมีเงินเดือน+เงินวิจัย+เงินประจำตำแหน่งวิชาการ เหยียบแสนแล้วครับ
ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้
ผมจบเอกตอนอายุ 27 ย่าง 28 หนะครับ สอนมาครบ 5 ปีพอดี การปรับเงินเดือนผมได้ที่ประมาณ 7.5 - 8.9% ทุกรอบ
และเคยมีการปรับเงินเดือนให้สมัยรัฐบาลอภิสิทธ บวกกับ สาขาวิชาผมมีค่าท๊อบอับด้วย
ตอนนี้รายเดือนผมยุที่ 4 หมื่นนิดๆ รวมค่าตำแหน่งวิชาการก็ได้ดังที่บอกหนะครับ
การจะใช้จ่ายใดๆต้องอยู่บนฐานของฐานะทางบ้าน เงินออมที่มี และรายรับที่เข้ามา
ผมอยากให้ข้อมูลน้องๆที่อ่านบอร์ดกัน และกำลังมองงานในอนาคต
ตามที่หลายๆท่านว่ามาการออมและใช้จ่ายตามที่มีนั้นถูกต้องที่สุด
แต่การพยายามพัฒนาตนเองสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่มีงานไหนรับเราที่เงินเดือนเหยียแสน
และไม่มีงานใดจ่ายเราแพงๆเพราะชงกาแฟอร่อย
ดังนั้นถ้ามีงานทำในช่วงเริ่มงานควรทุ่มเทสุดกำลัง พยายามพัฒนาตนและต้องมีผลงานที่จับต้องได้
อาชีพที่ผมทำเริ่มต้นเงินเดือนไม่สูง (ผมก็โดนพ่อตำหนิเหมือนกันว่าเรียนสูงแต่เงินเดือนน้อย)
แต่ถ้าเราขยันสอนให้ดี มีผลงานวิจัยตีพิม์ ทำบทความวิชาการ และเขียนเอกสารคู่กับการสอนตั้งแต่เริ่ม
สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราได้เพิ่มเงินเดือนสูง ทำให้เรานำมาขอตำแหน่งวิชาการได้ และเป็นหลักฐานด้านความเชี่ยวชาญ
จะทำให้ถูกเชิญไปทำงานบริการวิชาการ่ซึ่งค่าตอบแทนก็มากอยู่
ตอนนี้ผมมีลูกเล็กมีเวลาทำงานแค่จันทร์ถึงศุกร์ในเวลาราชการและตอนลูกหลับกลางคืน
แต่ผมก็พยายามให้มีผลงานออกมาได้เรื่อยๆ เพื่อหวังว่ารายรับอย่างเดียวจะมากพอสำหรับเตรียมบ้านให้ลูกคนละหลัง
ใช้จ่ายคล่องมือ และสามารถขับรถที่อยากได้ซักคัน โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนเงินเก็บและสินทรัพที่พ่อให้มา
ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดเยอะเลย ผมว่าพี่ start ได้ดีมากๆ ต่อตรีจบเอกเลย(น่าจะเป็นสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ)
start เร็ว ทำงานเร็ว
สายผมมันเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีแบบนี้ เลยไปกันช้ามากๆ ต้องต่อโท (เอกสาขานี้ก็ไม่มี ต้องไปต่อสาขาอื่น)
แต่ทุกวันนี้ งานฟรีแลนซ์ถึงเงินจะน้อย(แต่อาจมากสำหรับบางคนที่ทำ 5-6 วัน) แต่ก็พอไปได้ เพราะทำไม่กี่วัน เป็น license มากกว่า
มีเวลาเยอะเกิน
อยากจบเร็วๆ เหมือนพี่ ครับ จะพยายามต่อไปครับ
สู้ๆครับ
ผมเองถือว่าโชคดีและมีบุญที่ได้ที่ปรึกษาเก่งและใจดีมาก
ผมจบมาใหม่ๆไม่มีทุนวิจัยท่านก็ออกเงินส่วนตัวให้หลายแสนบาทจนผมมีทุนท่านก็ให้ผมจ่ายค่าสารในแลบ
แต่มูลค่าที่จ่ายไม่ถึง 20% ที่ผมใช้ไปเลย ตอนนี้ผมเลยเต็มใจและอยากถ่ายทอดวิธีการที่ได้รับการสอนมา
มีอะไรอยากถามผมยินดีให้ข้อมูลครับ
แต่กระทู้ถามเรื่องซื้อรถ กลายเป็นแนะแนวอาชีพไปซะแล้ว