ผู้เขียน หัวข้อ: ++ รายได้เท่านี้ ซื้อรถราคาเท่าไหร่ ถึงไม่เกินตัว ++  (อ่าน 34103 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมตอบในมุม อาจารย์มหาวิทยาลัยนะครับ
ควรซื้อเป็น d-seg หรือรถยุโรปราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆไปเลย เคสน้องชาย จขกท น่าจะประมาณผม
ผมอายุ 32 เงินเดือนรวมค่าตำแหน่งวิชาการอยู่ที่ 53000 บาท และรายรับจากทุนวิจัยที่มีส่วนค่าตอบแทนอีก 15000. ซึ่งต้อง
มีทุนวิจัยไปทุกๆปี (ของผมสะบายไปอีก 5)
อื่นๆจิปาถะไม่นับแล้วกัน
แต่ผมผ่อนบ้านด้วย และมีลูกชายแฝด ผมจะเหลือประมาณ 30000 นิดๆ ส่วนของภรรยาผมไม่คิด เก็บและเอาไว้โปะบ้านเท่านั้น

ถามว่ารถราคา 1300000-2500000 มันเกินตัวไปหรือไม่ ตอบว่าไม่หรอกครับ ข้าราชการสวัสดิการดีและมีความมั่นคงสูง
ตอนนี้ไม่ทราบว่าได้ปรับฐานคูณ 1.6 หรือยัง แต่ผมเดาว่ายังนะ เพราะฐานเงินเดือนต้องมากกว่านี้ อีก
ผมเองก็รอปรับอยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นอีกเท่าไหร่
ซื้อคันเล็กไปเดี๋ยวจะอายนิสิตนะครับ อิอิอิ ล้อเล่นนะ
อาชีพนี้นอกจากความรู้จะสำคัญแล้ว ภาพลักษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ เพราะเป็นอาจารย์มหาลัยไม่ใช่แค่สอนๆแล้วจบ
ยังมีภาระอื่นๆอีกมากนัก ซึ่งหากวิชาการเราดียุแล้วและภาพลักษณ์ก็ดีด้วยเราจะโตในสายอาชีพได้เร็วกว่านะครับ

ไม่ทราบว่าสอนที่ไหนครับ
สตาร์ทสูงมากครับ เพราะเงินประจำตำแหน่งวิชาการ+เงินเดือน เป็น 53000 และอายุเพิ่งจะ 32 ถือว่าเร็วมาก

สำหรับ จขกท.
ผมแนะนำให้เป็น C segment ตัวกลางๆ ครับ
ถ้าเอา D segment ค่าใช้จ่ายจะสูงไป

อีก 10 ปี มีเงินเก็บค่อยไปถอย D-E segment มาขับน่าจะสบาย
เพราะถึงตอนนั้นน้องคงจะมีเงินเดือน+เงินวิจัย+เงินประจำตำแหน่งวิชาการ เหยียบแสนแล้วครับ

ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้

ผมจบเอกตอนอายุ 27 ย่าง 28 หนะครับ สอนมาครบ 5 ปีพอดี การปรับเงินเดือนผมได้ที่ประมาณ 7.5 - 8.9% ทุกรอบ
และเคยมีการปรับเงินเดือนให้สมัยรัฐบาลอภิสิทธ บวกกับ สาขาวิชาผมมีค่าท๊อบอับด้วย
ตอนนี้รายเดือนผมยุที่ 4 หมื่นนิดๆ รวมค่าตำแหน่งวิชาการก็ได้ดังที่บอกหนะครับ
การจะใช้จ่ายใดๆต้องอยู่บนฐานของฐานะทางบ้าน เงินออมที่มี และรายรับที่เข้ามา

ผมอยากให้ข้อมูลน้องๆที่อ่านบอร์ดกัน และกำลังมองงานในอนาคต
ตามที่หลายๆท่านว่ามาการออมและใช้จ่ายตามที่มีนั้นถูกต้องที่สุด
แต่การพยายามพัฒนาตนเองสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่มีงานไหนรับเราที่เงินเดือนเหยียแสน
และไม่มีงานใดจ่ายเราแพงๆเพราะชงกาแฟอร่อย
ดังนั้นถ้ามีงานทำในช่วงเริ่มงานควรทุ่มเทสุดกำลัง พยายามพัฒนาตนและต้องมีผลงานที่จับต้องได้

อาชีพที่ผมทำเริ่มต้นเงินเดือนไม่สูง (ผมก็โดนพ่อตำหนิเหมือนกันว่าเรียนสูงแต่เงินเดือนน้อย)
แต่ถ้าเราขยันสอนให้ดี มีผลงานวิจัยตีพิม์ ทำบทความวิชาการ และเขียนเอกสารคู่กับการสอนตั้งแต่เริ่ม
สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราได้เพิ่มเงินเดือนสูง ทำให้เรานำมาขอตำแหน่งวิชาการได้ และเป็นหลักฐานด้านความเชี่ยวชาญ
จะทำให้ถูกเชิญไปทำงานบริการวิชาการ่ซึ่งค่าตอบแทนก็มากอยู่
ตอนนี้ผมมีลูกเล็กมีเวลาทำงานแค่จันทร์ถึงศุกร์ในเวลาราชการและตอนลูกหลับกลางคืน
แต่ผมก็พยายามให้มีผลงานออกมาได้เรื่อยๆ เพื่อหวังว่ารายรับอย่างเดียวจะมากพอสำหรับเตรียมบ้านให้ลูกคนละหลัง
ใช้จ่ายคล่องมือ และสามารถขับรถที่อยากได้ซักคัน โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนเงินเก็บและสินทรัพที่พ่อให้มา
ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดเยอะเลย ผมว่าพี่ start ได้ดีมากๆ ต่อตรีจบเอกเลย(น่าจะเป็นสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ)
start เร็ว ทำงานเร็ว

สายผมมันเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีแบบนี้ เลยไปกันช้ามากๆ ต้องต่อโท (เอกสาขานี้ก็ไม่มี ต้องไปต่อสาขาอื่น)

แต่ทุกวันนี้ งานฟรีแลนซ์ถึงเงินจะน้อย(แต่อาจมากสำหรับบางคนที่ทำ 5-6 วัน) แต่ก็พอไปได้ เพราะทำไม่กี่วัน เป็น license มากกว่า
มีเวลาเยอะเกิน  ;D ;D ;D

อยากจบเร็วๆ เหมือนพี่ ครับ จะพยายามต่อไปครับ

ออฟไลน์ Insideout

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 566
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกท่านอีกครั้งนะครับ

กระทู้นี้ อบอุ่นมากครับ


ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
ผมตอบในมุม อาจารย์มหาวิทยาลัยนะครับ
ควรซื้อเป็น d-seg หรือรถยุโรปราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆไปเลย เคสน้องชาย จขกท น่าจะประมาณผม
ผมอายุ 32 เงินเดือนรวมค่าตำแหน่งวิชาการอยู่ที่ 53000 บาท และรายรับจากทุนวิจัยที่มีส่วนค่าตอบแทนอีก 15000. ซึ่งต้อง
มีทุนวิจัยไปทุกๆปี (ของผมสะบายไปอีก 5)
อื่นๆจิปาถะไม่นับแล้วกัน
แต่ผมผ่อนบ้านด้วย และมีลูกชายแฝด ผมจะเหลือประมาณ 30000 นิดๆ ส่วนของภรรยาผมไม่คิด เก็บและเอาไว้โปะบ้านเท่านั้น

ถามว่ารถราคา 1300000-2500000 มันเกินตัวไปหรือไม่ ตอบว่าไม่หรอกครับ ข้าราชการสวัสดิการดีและมีความมั่นคงสูง
ตอนนี้ไม่ทราบว่าได้ปรับฐานคูณ 1.6 หรือยัง แต่ผมเดาว่ายังนะ เพราะฐานเงินเดือนต้องมากกว่านี้ อีก
ผมเองก็รอปรับอยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นอีกเท่าไหร่
ซื้อคันเล็กไปเดี๋ยวจะอายนิสิตนะครับ อิอิอิ ล้อเล่นนะ
อาชีพนี้นอกจากความรู้จะสำคัญแล้ว ภาพลักษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ เพราะเป็นอาจารย์มหาลัยไม่ใช่แค่สอนๆแล้วจบ
ยังมีภาระอื่นๆอีกมากนัก ซึ่งหากวิชาการเราดียุแล้วและภาพลักษณ์ก็ดีด้วยเราจะโตในสายอาชีพได้เร็วกว่านะครับ

ไม่ทราบว่าสอนที่ไหนครับ
สตาร์ทสูงมากครับ เพราะเงินประจำตำแหน่งวิชาการ+เงินเดือน เป็น 53000 และอายุเพิ่งจะ 32 ถือว่าเร็วมาก

สำหรับ จขกท.
ผมแนะนำให้เป็น C segment ตัวกลางๆ ครับ
ถ้าเอา D segment ค่าใช้จ่ายจะสูงไป

อีก 10 ปี มีเงินเก็บค่อยไปถอย D-E segment มาขับน่าจะสบาย
เพราะถึงตอนนั้นน้องคงจะมีเงินเดือน+เงินวิจัย+เงินประจำตำแหน่งวิชาการ เหยียบแสนแล้วครับ

ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้

ผมจบเอกตอนอายุ 27 ย่าง 28 หนะครับ สอนมาครบ 5 ปีพอดี การปรับเงินเดือนผมได้ที่ประมาณ 7.5 - 8.9% ทุกรอบ
และเคยมีการปรับเงินเดือนให้สมัยรัฐบาลอภิสิทธ บวกกับ สาขาวิชาผมมีค่าท๊อบอับด้วย
ตอนนี้รายเดือนผมยุที่ 4 หมื่นนิดๆ รวมค่าตำแหน่งวิชาการก็ได้ดังที่บอกหนะครับ
การจะใช้จ่ายใดๆต้องอยู่บนฐานของฐานะทางบ้าน เงินออมที่มี และรายรับที่เข้ามา

ผมอยากให้ข้อมูลน้องๆที่อ่านบอร์ดกัน และกำลังมองงานในอนาคต
ตามที่หลายๆท่านว่ามาการออมและใช้จ่ายตามที่มีนั้นถูกต้องที่สุด
แต่การพยายามพัฒนาตนเองสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่มีงานไหนรับเราที่เงินเดือนเหยียแสน
และไม่มีงานใดจ่ายเราแพงๆเพราะชงกาแฟอร่อย
ดังนั้นถ้ามีงานทำในช่วงเริ่มงานควรทุ่มเทสุดกำลัง พยายามพัฒนาตนและต้องมีผลงานที่จับต้องได้

อาชีพที่ผมทำเริ่มต้นเงินเดือนไม่สูง (ผมก็โดนพ่อตำหนิเหมือนกันว่าเรียนสูงแต่เงินเดือนน้อย)
แต่ถ้าเราขยันสอนให้ดี มีผลงานวิจัยตีพิม์ ทำบทความวิชาการ และเขียนเอกสารคู่กับการสอนตั้งแต่เริ่ม
สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราได้เพิ่มเงินเดือนสูง ทำให้เรานำมาขอตำแหน่งวิชาการได้ และเป็นหลักฐานด้านความเชี่ยวชาญ
จะทำให้ถูกเชิญไปทำงานบริการวิชาการ่ซึ่งค่าตอบแทนก็มากอยู่
ตอนนี้ผมมีลูกเล็กมีเวลาทำงานแค่จันทร์ถึงศุกร์ในเวลาราชการและตอนลูกหลับกลางคืน
แต่ผมก็พยายามให้มีผลงานออกมาได้เรื่อยๆ เพื่อหวังว่ารายรับอย่างเดียวจะมากพอสำหรับเตรียมบ้านให้ลูกคนละหลัง
ใช้จ่ายคล่องมือ และสามารถขับรถที่อยากได้ซักคัน โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนเงินเก็บและสินทรัพที่พ่อให้มา
ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดเยอะเลย ผมว่าพี่ start ได้ดีมากๆ ต่อตรีจบเอกเลย(น่าจะเป็นสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ)
start เร็ว ทำงานเร็ว

สายผมมันเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีแบบนี้ เลยไปกันช้ามากๆ ต้องต่อโท (เอกสาขานี้ก็ไม่มี ต้องไปต่อสาขาอื่น)

แต่ทุกวันนี้ งานฟรีแลนซ์ถึงเงินจะน้อย(แต่อาจมากสำหรับบางคนที่ทำ 5-6 วัน) แต่ก็พอไปได้ เพราะทำไม่กี่วัน เป็น license มากกว่า
มีเวลาเยอะเกิน  ;D ;D ;D

อยากจบเร็วๆ เหมือนพี่ ครับ จะพยายามต่อไปครับ

สู้ๆครับ
 ผมเองถือว่าโชคดีและมีบุญที่ได้ที่ปรึกษาเก่งและใจดีมาก
ผมจบมาใหม่ๆไม่มีทุนวิจัยท่านก็ออกเงินส่วนตัวให้หลายแสนบาทจนผมมีทุนท่านก็ให้ผมจ่ายค่าสารในแลบ
แต่มูลค่าที่จ่ายไม่ถึง 20% ที่ผมใช้ไปเลย ตอนนี้ผมเลยเต็มใจและอยากถ่ายทอดวิธีการที่ได้รับการสอนมา
มีอะไรอยากถามผมยินดีให้ข้อมูลครับ

แต่กระทู้ถามเรื่องซื้อรถ กลายเป็นแนะแนวอาชีพไปซะแล้ว  :D
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมตอบในมุม อาจารย์มหาวิทยาลัยนะครับ
ควรซื้อเป็น d-seg หรือรถยุโรปราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆไปเลย เคสน้องชาย จขกท น่าจะประมาณผม
ผมอายุ 32 เงินเดือนรวมค่าตำแหน่งวิชาการอยู่ที่ 53000 บาท และรายรับจากทุนวิจัยที่มีส่วนค่าตอบแทนอีก 15000. ซึ่งต้อง
มีทุนวิจัยไปทุกๆปี (ของผมสะบายไปอีก 5)
อื่นๆจิปาถะไม่นับแล้วกัน
แต่ผมผ่อนบ้านด้วย และมีลูกชายแฝด ผมจะเหลือประมาณ 30000 นิดๆ ส่วนของภรรยาผมไม่คิด เก็บและเอาไว้โปะบ้านเท่านั้น

ถามว่ารถราคา 1300000-2500000 มันเกินตัวไปหรือไม่ ตอบว่าไม่หรอกครับ ข้าราชการสวัสดิการดีและมีความมั่นคงสูง
ตอนนี้ไม่ทราบว่าได้ปรับฐานคูณ 1.6 หรือยัง แต่ผมเดาว่ายังนะ เพราะฐานเงินเดือนต้องมากกว่านี้ อีก
ผมเองก็รอปรับอยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นอีกเท่าไหร่
ซื้อคันเล็กไปเดี๋ยวจะอายนิสิตนะครับ อิอิอิ ล้อเล่นนะ
อาชีพนี้นอกจากความรู้จะสำคัญแล้ว ภาพลักษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ เพราะเป็นอาจารย์มหาลัยไม่ใช่แค่สอนๆแล้วจบ
ยังมีภาระอื่นๆอีกมากนัก ซึ่งหากวิชาการเราดียุแล้วและภาพลักษณ์ก็ดีด้วยเราจะโตในสายอาชีพได้เร็วกว่านะครับ

ไม่ทราบว่าสอนที่ไหนครับ
สตาร์ทสูงมากครับ เพราะเงินประจำตำแหน่งวิชาการ+เงินเดือน เป็น 53000 และอายุเพิ่งจะ 32 ถือว่าเร็วมาก

สำหรับ จขกท.
ผมแนะนำให้เป็น C segment ตัวกลางๆ ครับ
ถ้าเอา D segment ค่าใช้จ่ายจะสูงไป

อีก 10 ปี มีเงินเก็บค่อยไปถอย D-E segment มาขับน่าจะสบาย
เพราะถึงตอนนั้นน้องคงจะมีเงินเดือน+เงินวิจัย+เงินประจำตำแหน่งวิชาการ เหยียบแสนแล้วครับ

ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้

ผมจบเอกตอนอายุ 27 ย่าง 28 หนะครับ สอนมาครบ 5 ปีพอดี การปรับเงินเดือนผมได้ที่ประมาณ 7.5 - 8.9% ทุกรอบ
และเคยมีการปรับเงินเดือนให้สมัยรัฐบาลอภิสิทธ บวกกับ สาขาวิชาผมมีค่าท๊อบอับด้วย
ตอนนี้รายเดือนผมยุที่ 4 หมื่นนิดๆ รวมค่าตำแหน่งวิชาการก็ได้ดังที่บอกหนะครับ
การจะใช้จ่ายใดๆต้องอยู่บนฐานของฐานะทางบ้าน เงินออมที่มี และรายรับที่เข้ามา

ผมอยากให้ข้อมูลน้องๆที่อ่านบอร์ดกัน และกำลังมองงานในอนาคต
ตามที่หลายๆท่านว่ามาการออมและใช้จ่ายตามที่มีนั้นถูกต้องที่สุด
แต่การพยายามพัฒนาตนเองสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่มีงานไหนรับเราที่เงินเดือนเหยียแสน
และไม่มีงานใดจ่ายเราแพงๆเพราะชงกาแฟอร่อย
ดังนั้นถ้ามีงานทำในช่วงเริ่มงานควรทุ่มเทสุดกำลัง พยายามพัฒนาตนและต้องมีผลงานที่จับต้องได้

อาชีพที่ผมทำเริ่มต้นเงินเดือนไม่สูง (ผมก็โดนพ่อตำหนิเหมือนกันว่าเรียนสูงแต่เงินเดือนน้อย)
แต่ถ้าเราขยันสอนให้ดี มีผลงานวิจัยตีพิม์ ทำบทความวิชาการ และเขียนเอกสารคู่กับการสอนตั้งแต่เริ่ม
สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราได้เพิ่มเงินเดือนสูง ทำให้เรานำมาขอตำแหน่งวิชาการได้ และเป็นหลักฐานด้านความเชี่ยวชาญ
จะทำให้ถูกเชิญไปทำงานบริการวิชาการ่ซึ่งค่าตอบแทนก็มากอยู่
ตอนนี้ผมมีลูกเล็กมีเวลาทำงานแค่จันทร์ถึงศุกร์ในเวลาราชการและตอนลูกหลับกลางคืน
แต่ผมก็พยายามให้มีผลงานออกมาได้เรื่อยๆ เพื่อหวังว่ารายรับอย่างเดียวจะมากพอสำหรับเตรียมบ้านให้ลูกคนละหลัง
ใช้จ่ายคล่องมือ และสามารถขับรถที่อยากได้ซักคัน โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนเงินเก็บและสินทรัพที่พ่อให้มา
ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดเยอะเลย ผมว่าพี่ start ได้ดีมากๆ ต่อตรีจบเอกเลย(น่าจะเป็นสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ)
start เร็ว ทำงานเร็ว

สายผมมันเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีแบบนี้ เลยไปกันช้ามากๆ ต้องต่อโท (เอกสาขานี้ก็ไม่มี ต้องไปต่อสาขาอื่น)

แต่ทุกวันนี้ งานฟรีแลนซ์ถึงเงินจะน้อย(แต่อาจมากสำหรับบางคนที่ทำ 5-6 วัน) แต่ก็พอไปได้ เพราะทำไม่กี่วัน เป็น license มากกว่า
มีเวลาเยอะเกิน  ;D ;D ;D

อยากจบเร็วๆ เหมือนพี่ ครับ จะพยายามต่อไปครับ

สู้ๆครับ
 ผมเองถือว่าโชคดีและมีบุญที่ได้ที่ปรึกษาเก่งและใจดีมาก
ผมจบมาใหม่ๆไม่มีทุนวิจัยท่านก็ออกเงินส่วนตัวให้หลายแสนบาทจนผมมีทุนท่านก็ให้ผมจ่ายค่าสารในแลบ
แต่มูลค่าที่จ่ายไม่ถึง 20% ที่ผมใช้ไปเลย ตอนนี้ผมเลยเต็มใจและอยากถ่ายทอดวิธีการที่ได้รับการสอนมา
มีอะไรอยากถามผมยินดีให้ข้อมูลครับ

แต่กระทู้ถามเรื่องซื้อรถ กลายเป็นแนะแนวอาชีพไปซะแล้ว  :D
ขอบคุณครับ :D