****เชิญพบกับ USER's REVIEW HYUNDAI COUPE ครับ****

[YF-19]

     “รถสปอร์ต” คำๆนี้ ติดอยู่ในใจผมมาตั้งแต่สมัยเด็ก สำหรับผมรถสปอร์ตต้องมีสองประตู และ ต้องสวย
สวยยังไง? ถ้าจะอธิบายคงจะได้ประมาณว่ารูปทรงเรียวยาว หรือจะเรียกว่ารูปทรงแบบลิ่มก็พอไหว
อะไรหนอที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมชอบรถสวยๆ “Ferrari F40”
โปสเตอร์ ที่ติดบนเพดานห้องผมสมัยเด็กนั่นเอง(ที่ติดบนเพดาน เพื่อจะได้นอนมองมันประจำนั่นเอง)

       วันเวลาผ่านไป เมื่อผมจะมีรถเป็นของตัวเองซักคัน ผมก็อยากให้เข้าใกล้จุดที่ตัวเองเคยวาดฝันไว้ในสมัยเด็ก
เท่าที่จะทำได้นั่นเอง แต่โลกความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย ราคารถสปอร์ตในเมืองไทยมันช่างแพงสุดกู่เกินราคาจริงไปมากโข
แถมยังมีให้เลือกไม่กี่รุ่น

[YF-19]

     จนกระทั่งวันนึงปลายปี 2007 ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งแรกของผม
จำได้ว่าวันนั้น NISSAN นำ 350Z มาจอดแสดง แถมด้วยป้ายราคาถึง 4.95 ล้านบาท ทำให้ผมถึงกับตัดใจ
     “คงไม่ได้หรอก  รถสปอร์ตเนี่ย คงต้องซื้อแอคคอร์ดใช้ไปก่อนอีกสิบปีค่อยว่ากัน” ว่าแล้วก็เดินต่อ
จนถึงบูท "PEUGEOT"  นำ 207CC มาแสดงด้วยราคาเปิดตัว 1.9 ล้านบาท  นี่แหละ!!! ได้รถสปอร์ตล่ะทีนี้
ถึงจะเล็กไปนิดและสวยแค่ครึ่งคันหน้าก็ตาม  อย่างน้อยก็มีดีกรีรถยุโรปละนะ

[YF-19]

      แต่ โชคชะตาก็นำทางให้ผมได้เดินไปพบกับ บูทรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง
ที่ชื่อว่า    “HYUNDAI”    แถมป้ายราคา1.649 ล้านบาท บ้าไปแล้ว!!!!
สวยมากถึงมากที่สุด(ในสายตาผม)ราคาแค่เนี้ย สองล้าน ผมก็จ่าย!!!(รูปจากมือถืออันเก่าไม่ชัดนัก)



     ในตอนนั้น ผมคิดถึงคำๆนึง “รักแรกพบ” ใช่เลยมันอธิบายความรู้สึกได้ตรงมากๆ
.........ว่าแต่............ HYUNDAI เนี่ย มันยี่ห้ออะไรฟะ ไม่เห็นรู้จักเลย คงต้องหาข้อมูลก่อน
ตามภาษิตว่า “ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ดูให้แน่ดูถึงยาย” และผลคือ ไม่มีข้อมูลภาษาไทย..เอาล่ะสิ แล้วจะซื้อได้ไงเนี่ย
     จนวันนึงก็มีบทความรีวิว รถรุ่นนี้จากคนผู้หนึ่งที่ชื่อ J!MMY และจากนั้น หนังสือรถยนต์ทุกเจ้า ก็เริ่มทยอยลงรีวิวรถรุ่นนี้กันอย่างเมามัน
ผมซื้อทุกเล่มที่มีรีวิว รอดูตลาดว่ายี่ห้อนี้จะไปรอดไหม และผลสรุปคือ รอดแน่นอน อย่างน้อยก็ใน 5 ปีนี้

[YF-19]

     ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจไปสู่ขอสาวเจ้าคนงาม นามว่า  “HYUNDAI COUPE”



     โอ้ ชื่อเธอช่างจืดชืดอะไรเช่นนี้ ราวกับ ชื่อไทยๆว่า   “สมหญิง หรือ สมชาย” อะไรเทือกนั้นเลย

ฮุนได คู้ป (หรือคูเป้ ที่บ้านเราเรียก)  เป็นผลงานจากประเทศเกาหลี ที่กระแสกำลังแรงในช่วงนี้ ชื่อดั้งเดิมของมันคือ TIBURON ที่แปลว่าฉลาม
เจ้าตัว ฮุนไดคูเป้ นี่ก็ถือเป็น Generation ที่ 3 แล้ว และจะเป็น Gen สุดท้าย ของสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่มี minor,model change อีก(เท่าที่ทราบในตอนนี้)
และถูกแทนที่ด้วย สปอร์ตขับหลังพลังแรง อย่าง HYUNDAI GENESIS COUPE ไปเรียบร้อยแล้ว

[YF-19]

เอาล่ะ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ตอนนี้มันก็อยู่ในมือผมแล้ว คันสีแดงเพลิงนี่เอง



จุดเด่น ของฮุนไดคูเป้ก็คือ รูปทรงภายนอกนั่นเอง รูปทรงสวยเพรียวแบบทรงลิ่ม มีความโค้งมนปนเหลี่ยมสัน รับกันตั้งแต่ หน้ารถไปจดท้าย

[YF-19]

ไฟหน้า ตามสมัยนิยม อยู่ในโคมสีดำ ดูดุดัน  โฉบเฉี่ยว เรียกว่าอะไรนะ HID XENON บลาๆๆ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เหอๆ



และไฟท้ายซึ่งทำเป็นโคมดำรับกันกับด้านหน้า

[YF-19]

หลังคาซันรูฟ ที่สามารถเปิดรับลมได้ นอกจากนั้นยังทำให้คุณสามารถเปิดแอร์ นอนหลับในรถ ได้อย่างปลอดภัย
ไม่ต้องกลัวคาร์บอนไดออกไซด์สะสมที่จะทำให้คุณเดี้ยงคารถ หรือคอยกังวลกับประตูข้างเพราะต้องเปิดกระจกลงเล็กน้อย 



แผงบังแดด เปิดปิดด้วยมือครับ

[อันตัวข้าฯนี้มีนามว่า"หมู"]

F5 รัวๆๆๆๆๆ

[YF-19]

ซันรูฟยามฝนตก ช่วงนี้มือเริ่มสั่นแล้ว หนาว ถ่ายตั้งแต่แดดออกจนฝนตก ภาพอาจไม่ชัด



แมกซ์เดิมติดรถยนต์ ขนาด 215/45 R 17 ลวดลายพอไหว ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยน พร้อมยางคุณภาพดีใช้ได้จาก
DUNLOP SP SPORT LM 703 เงียบดีไม่มีหอน เกาะถนนดีทีเดียว บนถนนแห้งอยากจะให้คำว่า “ประเสริฐ”
แต่ให้ไม่ได้เพราะยังไม่เคยลองยางที่ดีกว่านี้ แต่แพ้น้ำ ขับหน้าฝนลงแอ่งน้ำตามถนน มีแฉลบให้เห็นบ้าง
การรีดน้ำยังไม่ดีเท่าที่ควร

[YF-19]

ท่อไอเสียออกสอง แต่งเสียงท่ออีกต่างหากคำรามให้เหมือนว่าจะแรงแต่..อ่านในหมวดทดสอบการขับขี่ครับ
สังเกตว่าฝนตกก็ยังถ่ายรูปอยู่ ตั้งใจเอามาให้ชมกัน บ้าบอดีจริงๆผมเนี่ย

[YF-19]

     มาดูภายในบ้างครับ การตกแต่งคอนโซลดูแข็งทื่อ เดิมจะยิ่งดูไม่ได้ แต่ของผมได้ลายเคฟลาร์ บวกกับเบาะหนังสีดำ
เดินด้ายแดงก็เลยยังดูดีได้หน่อย   
     ด้วยความที่มันเป็นพลาสติกค่อนข้างเยอะ ที่แผงประตูข้างจะมีเสียงก๊อกแก็กให้ได้ยินบ้าง ตามอุณหภูมิ ร้อนไปเย็นไปก็จะเกิดการบิดตัวและส่งเสียงเล็กน้อย
แม้เป็นรถสปอร์ตแต่ชาวพุทธ อย่างเราก็ยังต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรถอยู่ดี



 สังเกตที่เสา A ทั้งลาดเอียงทั้งหนา กลับรถทีโยกกันคอหักบดบังทัศนะวิสัยจริงๆ

       

[YF-19]

เสา C ยิ่งแล้วใหญ่ บอดสนิท มืดแปดด้าน ทำใจครับ รถแบบนี้เพื่อรูปทรงที่สวยงามภายนอก ก็ต้องแลกมาด้วยมุมอับประมาณนี้
    “ไม่เสียสละชัยชนะไม่เกิดครับ” อย่ายึดติดมาก ใช้นานๆก็ชินเอง



เบาะหลังพอนั่งได้ สูงไม่เกิน 170 ก็โอเค สาวไทยนั่งได้สบาย เบาะหน้าขวาพับลง ส่วนเบาะหน้าซ้ายเอนไปเยอะนะครับ
ที่วางขาพอมี ผมสูง 180 ก็นั่งได้ แต่ไม่สบายเท่านั้นเอง

[YF-19]

แผงประตูข้างครับ



ยามค่ำคืนไฟแสงสีน้ำเงินสุดโปรดของผม (แต่ไม่โปรดคุณ J!MMY อิๆ ขอซักดอก) ขอบโครเมียมวาววับ
 เคฟลาร์ก็สวย

[YF-19]

     พูดไปเยอะแล้วเหลืออะไรอีกล่ะเนี่ย อืม ขนาดและมิติตัวรถมาดูกันครับ



     ตัดจากโบรชัวร์ครับ ง่ายดีไม่มีมั่ว สังเกตความกว้างครับ 1.760 เมตรเท่ากับTOYOTA ALTIS แต่ความสูงเพียง 1.330 เมตรเท่านั้น
ทำให้มันดูแบนและเตี้ยพอสมควรทีเดียว ลองดูรูปเทียบครับ

[methus zaa]

ผมว่ารูปน้อยไปนะครับ

[YF-19]

    ****ได้เวลาทดสอบสมรรถนะและการขับขี่กันบ้างครับ****

ในตลาดโลก เจ้าฮุนไดคูเป้นี้จะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 บล็อกด้วยกัน ตามสเปคนี้นะครับ



แต่ที่นำมาจำหน่ายบ้านเรานั้น มีเพียงรุ่น 2.0 หรือ 2,000 ซีซี เท่านั้นครับ มีแรงม้า ให้ 143 ตัว
และแรงบิดที่ 186 นิวตันเมตร น่าเสียดายรุ่น V6 2,700 cc จริงๆ ครับ ที่ไม่นำเข้ามา
 

[YF-19]

    ลองดูกราฟแรงม้าและแรงบิดจากโรงงานกันบ้างครับ



     ทางด้านซ้าย หน่วยเป็น กิโลวัตต์ นะครับ ไม่ใช่ แรงม้า เทียบได้ตามตารางด้านบนครับ
แรงม้าจะมาสูงสุดที่ 6,000 รอบต่อนาทีครับ กราฟมาเรื่อยๆ ตามรอบเครื่องยนต์ ส่วนแรงบิด ประมาณ 150 นิวตันเมตร
ก็จะมาที่รอบเครื่อง 1,000 กว่าๆครับ ส่วนช่วงที่รอบเครื่องยนต์ให้แรงบิด ราวๆ 90% จะอยู่แถวๆ 2,800 รอบขึ้นไปครับ
     นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์จะตอบสนองได้ดีในช่วงนี้ครับ ถ้าต่ำกว่านี้เรี่ยวแรงจะยังไม่มากครับ แต่ก็ไม่น้อยเพราะยังไงก็ยังสมราคาเครื่อง 2,000 ซีซีครับ
น้อยสุดก็ยัง พอๆกับแรงบิดสูงสุดของ ฮอนด้าแจ๊ซครับ

[YF-19]

    มาดูเกียร์กันบ้างครับ



สังเกตว่า เกียร์อัตโนมัติมันมีแค่ 4 จังหวะครับ ส่วนจะล่งผลยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ

ลองมาดูอัตราเร่งกันก่อนครับ

     ขับเปิดแอร์ ไม่เลี้ยงรอบ น้ำหนักผู้ขับ สองคน ประมาณ 140 กิโลกรัมครับ (70+70)
****อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.****

     เฉลี่ยอยู่ที่   10.92 วินาทีครับ

****อัตราเร่ง 80-120 กม./ชม.****

     เฉลี่ยอยู่ที่   7.84 วินาทีครับ

****ความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์ครับ****

     เกียร์ 1............62
     เกียร์ 2..........115
     เกียร์ 3..........165
     เกียร์ 4..........208

****ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ครับ 208 กม./ชม. ครับ ที่เกียร์ 4 ****

[YF-19]

      จากตัวเลขที่เห็น ก็บอกได้ครับว่าความแรง ก็พอๆกันกับรถ เครื่อง 2.0 บ้านๆ นั่นแหละ
แรงกว่าเครื่อง 1.8 แน่นอน ส่วนจะเทียบกับใครผมไม่ทราบ ยังไงซะเข็มไมล์มันแข็งอ่อนไม่เท่ากันซักคัน
อยากรู้จริงๆ ต้องเอามาวิ่งเทียบอัดคลิปกันดูถึงจะรู้ ขนาดเครื่องวัดที่ว่ามาตรฐาน ยังทดสอบมาไม่เห็นเท่ากันสักเจ้า



     ถึงแม้ตัวเลขจะออกมาดูดี แต่ไหงหลายคนถึงบอกว่ามันอืด แน่นอนครับผมรู้คำตอบ

[YF-19]

     "เกียร์ครับ" มันเป็นเกียร์อัตโนมัติ แค่ 4 จังหวะ และการทดเกียร์ 1-3 เนี่ยทำได้ดี ต่อเนื่องในขณะที่ เกียร์ 4 กลับทดไว้ห้อยมาก
เทียบแล้วประมาณว่าใช้รอบเครื่องที่ต่ำที่สุดที่จะทำให้รถวิ่งได้  นั่นหมายความว่าหากคุณกำลัง
ขับเฉื่อยๆ ไล่รอบไปเรื่อยๆ จนถึงเกียร์ 4 คุณจะรู้สึกว่ารถไม่มีแรง ก็แหงล่ะครับ ความเร็ว 65+ มันก็ตัดขึ้นเกียร์ 4 แล้ว รอบเครื่องอยู่แถวๆ 2,000 นิดๆ
แล้วมันจะเอาแรงมาจากไหน
    เท่านั้นไม่พอ หากคุณเหยียบคันเร่ง ไม่ถึง 1ใน3 มันก็จะยังไม่ยอมตัดเป็นเกียร์ 3 หรือ 2 มันจะคาอยู่ที่เกียร์ 4 และไล่รอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเกิน 2,800 รอบ นั่นแหละ
รถถึงจะมีแรงต่อเนื่องดังเดิม



     นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำเวลาได้ดี แต่ขับเอื่อยๆ เหมือนจะไม่มีแรง สาเหตุจากเกียร์ล้วนๆ
ว่าแต่มันแย่มากเลยเหรอ?
     ก็เปล่าหรอกครับ ถ้าคุณรู้จักมันดี วิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือ เหยียบลึกหน่อยครับ ให้มันตัดเกียร์ต่ำ  หรือ ใช้ไอ้ที่มันให้
มาครับ เกียร์ บวกลบ ทิปโทรนิกนั่นเอง ผลักไปด้านข้างและลดเกียร์ลงครับ  มันก็จะแรงดีดังเดิมแล้วล่ะ

[Racing Revolution]

จบแล้วหรอครับ ทำไมจบดื้อๆแบบนี้ล่ะ อ่านกำลังเพลินเลย มีอีกเปล่าครับ ดีครับ อยากให้เพื่อนๆในบอร์ดคนอื่นๆทำกันมั่งครับ

[Ruksadindan]

ใช้ +- แหละครับ

[YF-19]

      เอาล่ะครับ ถึงแม้เกียร์จะบ้าๆบอๆไปซักหน่อย แต่ถ้าคุณปรับตัวได้มันก็เร็วได้ดังใจครับ
และสิ่งที่ดีเยี่ยมของรถคันนี้คือ ช่วงล่างครับ ช่วงล่างหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัตมีคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ส่วนด้านหลัง เป็นแบบ Dual Link มีคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง



ให้การตอบสนองที่ดีครับ แข็งพอสมควร(แข็งกว่า BMW Z4 ,320d,VOLVO S60) แต่ไม่กระด้างมาก ดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนใช้ได้ครับ
 เปรียบ ได้กับการกระทืบลงไปบนยางลบดีๆสักก้อนครับ ไม่ถึงกับสะท้านและไม่ดีดเด้งกลับ การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงทำได้ดี
เสียแต่มีความรู้สึก understeer อยู่ พอควรครับ ตามประสารถขับล้อหน้า หากรู้สึกจะเลี้ยวไม่ค่อยเข้า ยกคันเร่งซักนิดครับ มันจะกลับมาอยู่ในการควบคุมอย่างง่ายดาย 
การขับทางตรงให้ความรู้สึกมั่นคง จะขับ 120 หรือ 180 ไม่ได้แตกต่างกันเลย มันยังคงนิ่งสนิท มีเพียงเสียงลม และ เสียงเครื่องเท่านั้น ที่ดังขึ้นมา 

[YF-19]

    พวงมาลัยหนักในความเร็วต่ำ (หนักกว่า BMW 320d แน่นอน)  ในความเร็วสูง พวงมาลัยจะเบาลงเล็กน้อย และมีระยะฟรีเพิ่มมากขึ้น
แต่ไม่มากนัก ประมาณ 0.5 เซนติเมตรซึ่งยังคงให้ความมั่นใจได้ดี แต่...ปล่อยมือตลอดไม่ได้ครับ รถมีอาการกินซ้ายนิดๆ (และรู้สึกว่าจะเป็นทุกคัน ทุกรุ่นที่ขายในตอนนี้ด้วย)
 วางฝ่ามือบนพวงมาลัยเบาๆครับ มันก็จะวิ่งได้อย่างเหมาะสม

    เบรกให้การตอบสนองที่ดีครับ นุ่มเท้ากำลังดี ไม่ตื้นมาก มาพร้อม ABS,BA,EBD ครบเซ็ตกันเลย  เมื่อเหยียบเบรกจะไม่มีการหน้าทิ่มกันเด็ดขาด
การกระจายแรงเบรกสู่ล้อทำได้ดี รถจะมีการยุบตัวลงไปแทบทั้งคัน มีเพียงแรงเฉื่อยที่จะทำให้คุณโยกตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเท่านั้น

[YF-19]

     ที่น่าแปลกใจอีกเรื่องคือ การเก็บเสียงครับ ประตูไร้เสากรอบทำให้การเก็บเสียงแย่ลงครับ รวมกับซันรูฟเข้าไปอีก ก็ยิ่งน่าจะเก็บเสียงไม่ดี
หากใช้ความเร็วต่ำกับรถติดหากมอเตอร์ไซค์ วิ่งผ่านพร้อมพูดดังๆ ก็ได้ยินเสียงแล้วครับ แต่พอขับรถเร็วๆ แม้ความเร็ว 140 กม./ชม. ก็ยังสามารถพูดคุยกันได้ปกติ
เสียงลมผ่านตัวถัง มีน้อยมาก ยกเว้นเปิดแผงบังแดดซันรูฟ อันนั้นก็จะได้ยินที่ความเร็วต่ำกว่านี้หน่อย

[YF-19]

    ****อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง****
    ไม่ได้ทำอย่างเป็นทางการนะครับ แต่จากการใช้งานเป็นประจำนี่แหละ
หากรถติดสาหัส วิ่งนิด ไหลหน่อย ตัวเลขอยู่แถวๆ 8 กม./ลิตรครับ
หากวิ่งเลี้ยงไมล์ แถวๆ 110-120 กม./ชม. จะได้ตัวเลขประมาณ 13 กม./ลิตรครับ
หากวิ่งแบบเต็มสูบ 160-180 ตลอดทางกลับบ้านต่างจังหวัด ร่วม 400 กม. จะได้ตัวเลข ประมาณ 10 กม./ลิตรครับ

    ****ทิ้งท้ายก่อนจบครับ****



     ก็นับเป็นความบังเอิญอย่างมากครับ กับการได้มาพบกันกับคูเป้นี้จนได้เป็นเจ้าของ
เมื่อก่อนเคยคิดครับว่ามันจะทำให้คนหมั่นไส้หรือเปล่า คนจะมองว่าเราอีโก้สูงไม่น่าคบหรือเปล่า แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นครับ

[YF-19]

      ตลอด 6 เดือน ที่ได้อยู่กับรถคันนี้มา  มีรอยยิ้มจากผู้ร่วมทาง หรือตามท้องถนนมากมายที่มีความเป็นมิตรให้
ซึ่งใจนึงผมคิดว่ารถแบบนี้ไม่ได้มีมากมายนัก การที่เราขับผ่านก็สามารถสร้างความประทับใจให้เขาเหล่านั้น
     เป็นการแบ่งปันความสุขเล็กๆของเราให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่คิดฝันว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเด็กที่มักจะยืนดูรถผมแล้วพูดกันว่า
รถสวยจัง เท่ห์จัง หรือ ผู้ใหญ่ ที่หยิบมือถือมาเก็บภาพไว้ แล้วชูนิ้วโป้งให้ ซึ่งพบเหตุการณ์แบบนี้อยู่เป็นประจำ  
      ผมคงไม่บอกให้คุณๆ ไปหาซื้อรถแบบนี้มาเหมือนผม แต่ที่ผมอยากสื่อ คือ ความสุข เราสามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นได้  ความสุขของคุณๆ ที่ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร
 "บางทีมันอาจจะทำให้ใครบางคนกำลังยิ้มอยู่ก็เป็นได้"

                        ******ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันครับ ติชมสอบถามกันได้ครับ*****





                        ****** FINISH ******

[อันตัวข้าฯนี้มีนามว่า"หมู"]

จบแล้วเหรอครับกำลังมันเลย

สนุกดีครับ รถก็สวยดีครับ ตอนมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนั้นผมก็ไปลุกๆนั่งๆอยู่หลายรอบครับ

[Nioka]

รถสวยดีครับ ^^

อ่านเพลินแล้วก็ได้ความรู้สึกจากผู้ใช้จริงๆ

เหมือนได้ไปขับเองเลย คิคิ

รูปน่าจะเพิ่มอีกนิดกำลังเพลินอยากดูอีก

สงสัยไปอ่านคอมเม้น คุณจิมมี่

ที่บอกว่า1รูปควรบรรยาย หลายๆจุดไปเลยเพื่อความกระชับหรือป่าว ^^

[YF-19]

โห มันสั้นไปหน่อยมั้ยครับ รูปพวงมาลัย หน้าปัด เบาะหน้า แทบไม่มีให้เห็นเลย จบกันดื้อ อย่างนี้เรยหรอครับพี่

     ส่วนตัวนะครับ พี่มีรูปที่ถ่ายมาเพื่อการนี้ มากถึง 500+ รูปทีเดียว ใจจริงก็อยากลงให้หมดครับ เพียงแต่ พี่เองก็ไม่ได้
มีเวลามากนัก ในการคัดสรร และเลือกรูปที่ทุกคนจะชอบกันได้ทั้งหมด  ส่วนนึง พี่คิดว่า รายละเอียดภายในที่มากเกินไป
     สำหรับรถแบบนี้ อาจสร้างความน่าเบื่อให้ผู้อ่านมากกว่า ก็มันไม่ใช่รถที่ทำมาให้ทุกคนใช้ครับ รายละเอียดเบาะดีไม่ดี นุ่มไม่นุ่ม
มีปรับดันหลังหรือไม่ ก็เลยไม่ได้ใส่มาในที่นี้ครับ และพอลองโพสจริงแล้ว มันใช้เวลานานกว่าที่คิดมากทีเดียว กลัวจะเบื่อกันซะก่อน
หากมีโอกาส คราวหน้าจะแก้ตัวใหม่ให้ละเอียดกว่านี้ครับ ส่วนในครั้งนี้ พี่คิดว่าการวางตำแหน่ง บทความมันลงตัวแล้ว เลยขอไม่แก้ไขถ้าไม่จำเป็นครับ
     ขอบคุณครับ