ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนแนะนำเปลี่ยนหน้ายาง New City เป็น 205/45/17 ขอคำแนะนำคุณ JIMMY&Commander C  (อ่าน 17621 ครั้ง)

ออฟไลน์ HandsomeTing

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
  • You'll never walk alone
    • อีเมล์
พอดีกำลังจะได้เจ้า New City 2010 รุ่น V (ABS) สีดำ มาครอบครอง เพื่อนแนะนำว่า "ยางที่ติดมากับรถ หน้ายางแคบนะ น่าจะเปลี่ยนหน้ายางจากของเดิม  เป็น 205/45/17 (เหอๆ ถือโอกาสเปลี่ยนเป็นแม๊กขอบ 17 ด้วย)  จะช่วยให้เกาะถนนมากขึ้น  ช่วยให้มั่นใจในการขับขี่มากขึ้น  ถ้ามีงบฯ ก็เปลี่ยนไปเลยก็ดีนะ"  คุณ JIMMY&Commander Cheng มีข้อแนะนำบ้างไหมครับ  เนื่องจากเป็นรถคันแรก  แม้จะศึกษามาบ้าง แต่ก็ไม่ชัวร์  เลยขอรบกวน  คุณ JIMMY&Commander Cheng และทุกท่านที่เข้ามาอ่าน  ช่วยไขข้อข้องใจด้วยครับ  จะเป็นความกรุณาอย่างสูงครับ  ขอบคุณล่วงหน้าครับ :)

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
ไม่ใช่ทั้งสอง่านนั้นตอบได้มั้ยอ่ะคับ  ;D

ตามความเห็นผม ก่อนอื่นเลย ถ้าจะเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้น  ควรคำนวนความสูงโดยรวมของยางให้เท่าเดิมครับ เพื่อไม่ให้ไมล์รถเพี้ยน ส่วนถ้าถามว่าจะคำนวนได้อย่างไรก็ต้องดูจากเลขข้างยาง เช่น 205/50 R17   เลข 205 เป็นความกว้างหน้ายางมีหน่วยเป็น mm  เลข 50 เป็น % ความสูง เมื่อนำ 205 x 50% ก็จะได้วามสูงของแก้มยางครับ ผมเคยทำ File เอาไว้คำนวนโดยใส่ตัวเลขต่างๆ เข้าไป มันก็จะมีผลลัพท์ว่า ยางนี้สูงรวมเท่าไหร่ เอาไว้ในเวป http://www.mazda3thailand.com/index.php/topic,1643.0.html ยังงัยลองไปใช้ดูก็ได้ครับ

ส่วนข้อดี ข้อเสียนั้น ผมว่าก็มีทั้ง 2 อย่าง

ข้อดีก็ รถจะดูสวยขึ้น, เกาะถนนมากขึ้นเนื่องจากหน้ายางท่กว้างขึ้น และแก้มยางที่บางลด การบิดตัวของยางเวลาเข้าโค้งก็ลดลง

ข้อเสียก็ เรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่น่าจะมากขึ้น เพราะการที่หน้ายางมากขึ้นก็มีผลกับเรื่องแรงต้านทาน, ช่วงล่างต้องรับภาระหนักขึ้น เนื่องจากแก้มยางที่เตี้ยลง อันนี้รวมถึงความนิ่มนวลของรถด้วยครับ

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
อยากเกาะขึ้น ไม่จำเป็นต้องใส่ล้อใหญ่ๆ หน้ากว้างๆ เสมอไป
หาล้อ 15 + ยางเทพดีกว่า
ใส่แล้วสบายใจ ซิ่งได้ไม่ต้องกลัวดุ้ง

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
ลองขับรถเดิมๆดูก่อนดีมั๊ย ยางติดรถห่วยๆนั่นแหละ แล้วค่อยตอบตัวเองว่าพอใจหรือไม่ ถ้าไม่พอใจค่อยหาเรื่องเสียตังค์ก็ยังไม่สาย
ถ้าไม่ิคิดมากก็เปลี่ยนแค่ยางก็พอหน้ากว้างกว่าเดิมเล็กน้อยก็เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งนี้ถ้าขับโหดๆซิ่งๆ เลือกยางที่เกรดสูงนิดนึงก็เพียงพอครับ
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ HandsomeTing

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
  • You'll never walk alone
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านครับ (อิอิ ทุกท่านที่อ่าน รบกวนแนะนำด้วยครับ)

แหม ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ  เข้ามาเช็คตลอดว่าจะมีใครมาช่วยตอบให้ไหม

ขออีกนิดนะครับ 

มียี่ห้อไหน  พอจะแนะนำกันบ้างครับ  สำหรับเจ้า New City ตัวนี้  เรื่องราคา ณ ปัจจุบัน ไม่ทราบไม่เป็นไรครับ จะลองหาดูจากเว็บเอา  แต่อยากทราบยี่ห้อที่ดีๆ  ที่ใช้แล้วไม่ค่อยมีปัญหา  มีบางศูนย์นะครับที่เค้าบอกว่า ถ้าจะเปลี่ยนเลย เค้าให้เส้นละ 1,000 บาท ส่วนต่างก็จ่ายเพิ่มเอา  ประมาณนั้นครับ

รบกวนอีกครั้งนะครับ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
รถจะอืดขึ้นคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.294% จากของเดิมๆ ครับ เฉพาะวัดจากตัวยางนะครับโดยตั้งสมมติฐานว่า น้ำหนักล้อใหม่กับล้อเก่าเท่ากันเป๊ะ
แต่ถ้าล้อใหม่+ยางมีน้ำหนักที่มากกว่าล้อเก่า+ยางเก่า สมมติ 1 กิโลกรัม จะเท่ากับว่ารถบรรทุกหนักขึ้น 15 กิโล รวมทั้งสี่ล้อก็ 60 กิโลกรัม อันนี้เป็นค่า unsprung weight
ดังนั้นรถจะอืดขึ้นเพราะเหมือนมีคนที่มองไม่เห็นนั่งเพิ่มอยู่บนรถตลอดเวลา (ผีรึเปล่าเนี่ย 555)

สรุปหากต้องการเปลี่ยนล้อใหม่เป็น 205-45-17 สามารถทำได้ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกแต่อย่างใด (ยกเว้นคำนวณแล้วอืดกว่าเดิมมากกว่า 3%)  เพียงแต่จะอืดขึ้นเล็กน้อย
ขนาดล้อที่สามารถเปลี่ยนได้แล้วได้ความเร็วใกล้เคียงล้อของโรงงานยังมีอีก 2 เบอร์ที่จะดูหล่อขึ้นได้แถมได้ความเร็วเพิ่มไม่อืดลงเหมือนเบอร์เพื่อนคุณคือ
195-45-17 (ได้เร็วขึ้น 0.207%), 195-50-16 (ความเร็วขึ้นไปอีก 1.186%)

ส่วนการเลือกล้อถ้าเป็นไปได้พยายามหาล้อที่น้ำหนักใกล้เคียงหรือเบากว่าเดิมจะมีผลช่วยให้สปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหากหนักกว่าเดิม จะทำให้อืดขึ้นอีกมหาศาล เพราะต้องคูณ 15 เท่า
ทั้งสี่ล้อ (เฮื้อก!!) มาสด้า 2 ยังพยายามแทบตามเพื่อที่จะให้รีดน้ำหนักรถให้น้อยลงกว่ารุ่นเดิม 100 กิโล แต่ถ้าเกิดคุณไปใช้แม็คที่หนักกว่าเดิมซัก 2 โลต่อวง มีหวัง น้ำหนักจะถ่วงคุณ
เพิ่มอีก 120 กิโล อืดขึ้นแน่นอนเหมือนพ่วงถังก๊าซ NGV อยู่บนรถตลอดเวลา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยคุณได้นะครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2010, 22:24:45 โดย ned »

ออฟไลน์ penalty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Ingenieur
รถจะอืดขึ้นคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.294% จากของเดิมๆ ครับ เฉพาะวัดจากตัวยางนะครับโดยตั้งสมมติฐานว่า น้ำหนักล้อใหม่กับล้อเก่าเท่ากันเป๊ะ
แต่ถ้าล้อใหม่+ยางมีน้ำหนักที่มากกว่าล้อเก่า+ยางเก่า สมมติ 1 กิโลกรัม จะเท่ากับว่ารถบรรทุกหนักขึ้น 15 กิโล รวมทั้งสี่ล้อก็ 60 กิโลกรัม อันนี้เป็นค่า unsprung weight
ดังนั้นรถจะอืดขึ้นเพราะเหมือนมีคนที่มองไม่เห็นนั่งเพิ่มอยู่บนรถตลอดเวลา (ผีรึเปล่าเนี่ย 555)

สรุปหากต้องการเปลี่ยนล้อใหม่เป็น 205-45-17 สามารถทำได้ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกแต่อย่างใด (ยกเว้นคำนวณแล้วอืดกว่าเดิมมากกว่า 3%)  เพียงแต่จะอืดขึ้นเล็กน้อย
ขนาดล้อที่สามารถเปลี่ยนได้แล้วได้ความเร็วใกล้เคียงล้อของโรงงานยังมีอีก 2 เบอร์ที่จะดูหล่อขึ้นได้แถมได้ความเร็วเพิ่มไม่อืดลงเหมือนเบอร์เพื่อนคุณคือ
195-45-17 (ได้เร็วขึ้น 0.207%), 195-50-16 (ความเร็วขึ้นไปอีก 1.186%)

ส่วนการเลือกล้อถ้าเป็นไปได้พยายามหาล้อที่น้ำหนักใกล้เคียงหรือเบากว่าเดิมจะมีผลช่วยให้สปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหากหนักกว่าเดิม จะทำให้อืดขึ้นอีกมหาศาล เพราะต้องคูณ 15 เท่า
ทั้งสี่ล้อ (เฮื้อก!!) มาสด้า 2 ยังพยายามแทบตามเพื่อที่จะให้รีดน้ำหนักรถให้น้อยลงกว่ารุ่นเดิม 100 กิโล แต่ถ้าเกิดคุณไปใช้แม็คที่หนักกว่าเดิมซัก 2 โลต่อวง มีหวัง น้ำหนักจะถ่วงคุณ
เพิ่มอีก 120 กิโล อืดขึ้นแน่นอนเหมือนพ่วงถังก๊าซ NGV อยู่บนรถตลอดเวลา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยคุณได้นะครับ

Factor ตัวคูณ 15 เอามาจากไหนครับ
ผมพอเข้าใจเรื่อง Inertia / Moment of Inertia รวมทั้งการย้ายมวล
แต่ 15 มันเยอะไปในความคิดผม
If God did not build it, an Engineer did.

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ในกระทู้นี้หลายท่านได้ตอบในสิ่งที่จำเป็นไว้หมดแล้วครับ ผมคงไม่ต้องเสริมจุดไหนอีก สำหรับตัวยางนั้นผมไม่เคยเอาขอบ 17 มาใช้ด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ใช้ Toyo T-1R ขอบ 15 นิ้วซึ่งยังวิ่งมาไม่ถึง 5000โลเลย แต่ความเกาะถนนและการรีดน้ำ กับราคา ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าครับ

 แต่ดูท่าแล้วเจ้าของกระทู้อยากเปลี่ยนแม็กเพราะใจนึงก็อยากได้ความเท่ห์ ดูบึก แน่น ก็ลองเลือกล้อขนาด 17 นิ้วใส่ดู ลาย 4 รู 100นี่มีให้เลือกมากมายครับ ที่สำคัญคือถ้าไม่ได้เอาแม็กญี่ปุ่นแท้ ก็ให้เอายี่ห้อที่มีความน่าไว้ใจ เพราะคุณจะใส่กับยางที่บางมาก ล้อบางรุ่นที่ยี่ห้อไม่คุ้นตา ควรลองเอาชื่อไปค้นใน Google ดูก่อนว่าเคยมีคนพบวิกฤติการณ์แม็กแตกแบบที่ไม่ควรจะเกิดกันบ้างหรือไม่

เดี๋ยวนี้ Enkei นำล้อลายใหม่ๆออกมาทำตลาดเยอะขึ้น Lenso ก็มีลายที่ขายกันมาแต่เดิม ความทนทานนั้นผมลองเจอมากับตัวเองจนใช้ของเขามาเป็นชุดที่สองแล้ว Yachiyoda และ J-Z Wheel ก็ทนทานไว้ใจได้ครับ

ยี่ห้ออื่นๆที่ยังไม่เคยลองก็มีอีกเยอะ เห็นว่ามียี่ห้อ Apex Wheel ที่เพื่อนผมบางคนใช้ก็บอกว่าโอเคดีไม่มีปัญหา


รถท่านเจ้าของกระทู้สีอะไร? อยากแต่งสไตล์ไหน? บางคนแต่งแบบ Minimalism ใช้ล้อขอบ 15 นิ้วน้ำหนักเบาๆ ยาง 195/55 หรือ 195/50 ล้อเบา เล็ก มันไม่กินแรงเครื่องดี Apex Wheel หรือ Rota ลาย Spoon ห้าแฉกสีดำ ก็สามารถเข้ากับตัวรถได้มากสีและดูดุดันใช้ได้

หรือถ้าเป็นขอบ 17 ตัวเลือกไม่ได้มีน้อยลงเลย Lenso Raiden Project D ก็มีดีไซน์โอเคกับรูปแบบห้าก้านธรรมดาและมีสีให้เลือกมาก น้ำหนักของล้อตัวนี้จะไม่หนักเท่ารุ่น Samurai Series แต่ถ้าอยากได้เบาจริง Lenso จะมีรุ่น S2Light ขอบ 17 ซึ่งนับว่าเบาจริงครับ แต่ดีไซน์นี้ออกมานาน อาจจะเริ่มล้าสมัยแล้ว

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
รถจะอืดขึ้นคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.294% จากของเดิมๆ ครับ เฉพาะวัดจากตัวยางนะครับโดยตั้งสมมติฐานว่า น้ำหนักล้อใหม่กับล้อเก่าเท่ากันเป๊ะ
แต่ถ้าล้อใหม่+ยางมีน้ำหนักที่มากกว่าล้อเก่า+ยางเก่า สมมติ 1 กิโลกรัม จะเท่ากับว่ารถบรรทุกหนักขึ้น 15 กิโล รวมทั้งสี่ล้อก็ 60 กิโลกรัม อันนี้เป็นค่า unsprung weight
ดังนั้นรถจะอืดขึ้นเพราะเหมือนมีคนที่มองไม่เห็นนั่งเพิ่มอยู่บนรถตลอดเวลา (ผีรึเปล่าเนี่ย 555)

สรุปหากต้องการเปลี่ยนล้อใหม่เป็น 205-45-17 สามารถทำได้ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกแต่อย่างใด (ยกเว้นคำนวณแล้วอืดกว่าเดิมมากกว่า 3%)  เพียงแต่จะอืดขึ้นเล็กน้อย
ขนาดล้อที่สามารถเปลี่ยนได้แล้วได้ความเร็วใกล้เคียงล้อของโรงงานยังมีอีก 2 เบอร์ที่จะดูหล่อขึ้นได้แถมได้ความเร็วเพิ่มไม่อืดลงเหมือนเบอร์เพื่อนคุณคือ
195-45-17 (ได้เร็วขึ้น 0.207%), 195-50-16 (ความเร็วขึ้นไปอีก 1.186%)

ส่วนการเลือกล้อถ้าเป็นไปได้พยายามหาล้อที่น้ำหนักใกล้เคียงหรือเบากว่าเดิมจะมีผลช่วยให้สปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหากหนักกว่าเดิม จะทำให้อืดขึ้นอีกมหาศาล เพราะต้องคูณ 15 เท่า
ทั้งสี่ล้อ (เฮื้อก!!) มาสด้า 2 ยังพยายามแทบตามเพื่อที่จะให้รีดน้ำหนักรถให้น้อยลงกว่ารุ่นเดิม 100 กิโล แต่ถ้าเกิดคุณไปใช้แม็คที่หนักกว่าเดิมซัก 2 โลต่อวง มีหวัง น้ำหนักจะถ่วงคุณ
เพิ่มอีก 120 กิโล อืดขึ้นแน่นอนเหมือนพ่วงถังก๊าซ NGV อยู่บนรถตลอดเวลา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยคุณได้นะครับ

Factor ตัวคูณ 15 เอามาจากไหนครับ
ผมพอเข้าใจเรื่อง Inertia / Moment of Inertia รวมทั้งการย้ายมวล
แต่ 15 มันเยอะไปในความคิดผม

1 Kg unsprung weight = 15 Kg weight on car
หรือ
1 kg adds 15 kg of unsprung mass to each corner

ถ้าน้ำหนักล้อยางเพิ่มขี้น 1 กก. เท่ากับมีน้ำหนักบนรถเพิ่มขึ้น 15 กก.

ส่วนในด้านของแอโรไดแนมิก
ลด unsprung mass ได้ 1 กิโลเท่ากับลดน้ำหนักบนตัวรถ 8 กิโลกรัม
a reduction in weight of 1 kg on the unsprung mass is equivalent to a reduction of 8 kg on the car overall

ที่จริงมันเป็นค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะเกี่ยวกับ mass ของรถด้วย และไม่ได้คูณ 15 ตลอด แต่
ส่วนใหญ่ น้ำหนักที่เพิ่มใต้สปริงจะอยู่ที่ 10-15 เท่าของน้ำหนักที่รถแบกน้ำหนักเพิ่มเหนือสปริง
ทำให้ความคล่องตัวลดลง เหมือนสูญเสียแรงม้าไป

ออฟไลน์ HandsomeTing

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
  • You'll never walk alone
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านมากครับ

ได้ความรู้และไอเดียเพิ่มเยอะเลย  จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนซะทีเดียว เพียงแต่ไม่แน่ใจเท่านั้นเองครับ เพราะเพื่อนแนะนำ  อีกอย่างเพื่อนเป็นคนชอบแต่งรถด้วย  เลยแนะนำ ถ้ามีงบฯ ก็เปลี่ยนเลย

บอกตรงๆ อยากได้แค่คำแนะนำเล็กๆน้อยๆ เพื่อความมั่นใจ  ไม่คาดว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดีมากๆ จากทุกท่านที่ตอบกระทู้นี้  เฮ้อ  โล่งใจ  ไม่ผิดหวังครับที่เข้ามาเว็บแห่งนี้

บอกตรงๆ อีกครั้งครับ  "อบอุ่นครับ"

ออฟไลน์ penalty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Ingenieur
รถจะอืดขึ้นคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.294% จากของเดิมๆ ครับ เฉพาะวัดจากตัวยางนะครับโดยตั้งสมมติฐานว่า น้ำหนักล้อใหม่กับล้อเก่าเท่ากันเป๊ะ
แต่ถ้าล้อใหม่+ยางมีน้ำหนักที่มากกว่าล้อเก่า+ยางเก่า สมมติ 1 กิโลกรัม จะเท่ากับว่ารถบรรทุกหนักขึ้น 15 กิโล รวมทั้งสี่ล้อก็ 60 กิโลกรัม อันนี้เป็นค่า unsprung weight
ดังนั้นรถจะอืดขึ้นเพราะเหมือนมีคนที่มองไม่เห็นนั่งเพิ่มอยู่บนรถตลอดเวลา (ผีรึเปล่าเนี่ย 555)

สรุปหากต้องการเปลี่ยนล้อใหม่เป็น 205-45-17 สามารถทำได้ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกแต่อย่างใด (ยกเว้นคำนวณแล้วอืดกว่าเดิมมากกว่า 3%)  เพียงแต่จะอืดขึ้นเล็กน้อย
ขนาดล้อที่สามารถเปลี่ยนได้แล้วได้ความเร็วใกล้เคียงล้อของโรงงานยังมีอีก 2 เบอร์ที่จะดูหล่อขึ้นได้แถมได้ความเร็วเพิ่มไม่อืดลงเหมือนเบอร์เพื่อนคุณคือ
195-45-17 (ได้เร็วขึ้น 0.207%), 195-50-16 (ความเร็วขึ้นไปอีก 1.186%)

ส่วนการเลือกล้อถ้าเป็นไปได้พยายามหาล้อที่น้ำหนักใกล้เคียงหรือเบากว่าเดิมจะมีผลช่วยให้สปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหากหนักกว่าเดิม จะทำให้อืดขึ้นอีกมหาศาล เพราะต้องคูณ 15 เท่า
ทั้งสี่ล้อ (เฮื้อก!!) มาสด้า 2 ยังพยายามแทบตามเพื่อที่จะให้รีดน้ำหนักรถให้น้อยลงกว่ารุ่นเดิม 100 กิโล แต่ถ้าเกิดคุณไปใช้แม็คที่หนักกว่าเดิมซัก 2 โลต่อวง มีหวัง น้ำหนักจะถ่วงคุณ
เพิ่มอีก 120 กิโล อืดขึ้นแน่นอนเหมือนพ่วงถังก๊าซ NGV อยู่บนรถตลอดเวลา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยคุณได้นะครับ

Factor ตัวคูณ 15 เอามาจากไหนครับ
ผมพอเข้าใจเรื่อง Inertia / Moment of Inertia รวมทั้งการย้ายมวล
แต่ 15 มันเยอะไปในความคิดผม

1 Kg unsprung weight = 15 Kg weight on car
หรือ
1 kg adds 15 kg of unsprung mass to each corner

ถ้าน้ำหนักล้อยางเพิ่มขี้น 1 กก. เท่ากับมีน้ำหนักบนรถเพิ่มขึ้น 15 กก.

ส่วนในด้านของแอโรไดแนมิก
ลด unsprung mass ได้ 1 กิโลเท่ากับลดน้ำหนักบนตัวรถ 8 กิโลกรัม
a reduction in weight of 1 kg on the unsprung mass is equivalent to a reduction of 8 kg on the car overall

ที่จริงมันเป็นค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะเกี่ยวกับ mass ของรถด้วย และไม่ได้คูณ 15 ตลอด แต่
ส่วนใหญ่ น้ำหนักที่เพิ่มใต้สปริงจะอยู่ที่ 10-15 เท่าของน้ำหนักที่รถแบกน้ำหนักเพิ่มเหนือสปริง
ทำให้ความคล่องตัวลดลง เหมือนสูญเสียแรงม้าไป


อย่างที่บอกครับ ผมเข้าใจหลักการ ว่ามันต้องมีตัวคูณ และเท่าที่ศึกษามา ตัวคูณไม่ใกล้เคียง 10-15 แน่นอนครับ
ดังนั้นขอที่มาด้วยครับ เพราะที่คุณอธิบายมาอาจจะเป็นเรื่องอื่นเช่น Vibration / Vehicle Dynamics แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ Inertia / Moment of Inertia ในการฉุดลาก
อีกอย่าง Aerodynamic Coefficients เป็นเรื่องของ Mach number / Reynolds number / Geometry / AOA / etc แต่ไม่เกี่ยวกับมวล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 13:05:25 โดย penalty »
If God did not build it, an Engineer did.

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
รถจะอืดขึ้นคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.294% จากของเดิมๆ ครับ เฉพาะวัดจากตัวยางนะครับโดยตั้งสมมติฐานว่า น้ำหนักล้อใหม่กับล้อเก่าเท่ากันเป๊ะ
แต่ถ้าล้อใหม่+ยางมีน้ำหนักที่มากกว่าล้อเก่า+ยางเก่า สมมติ 1 กิโลกรัม จะเท่ากับว่ารถบรรทุกหนักขึ้น 15 กิโล รวมทั้งสี่ล้อก็ 60 กิโลกรัม อันนี้เป็นค่า unsprung weight
ดังนั้นรถจะอืดขึ้นเพราะเหมือนมีคนที่มองไม่เห็นนั่งเพิ่มอยู่บนรถตลอดเวลา (ผีรึเปล่าเนี่ย 555)

สรุปหากต้องการเปลี่ยนล้อใหม่เป็น 205-45-17 สามารถทำได้ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกแต่อย่างใด (ยกเว้นคำนวณแล้วอืดกว่าเดิมมากกว่า 3%)  เพียงแต่จะอืดขึ้นเล็กน้อย
ขนาดล้อที่สามารถเปลี่ยนได้แล้วได้ความเร็วใกล้เคียงล้อของโรงงานยังมีอีก 2 เบอร์ที่จะดูหล่อขึ้นได้แถมได้ความเร็วเพิ่มไม่อืดลงเหมือนเบอร์เพื่อนคุณคือ
195-45-17 (ได้เร็วขึ้น 0.207%), 195-50-16 (ความเร็วขึ้นไปอีก 1.186%)

ส่วนการเลือกล้อถ้าเป็นไปได้พยายามหาล้อที่น้ำหนักใกล้เคียงหรือเบากว่าเดิมจะมีผลช่วยให้สปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหากหนักกว่าเดิม จะทำให้อืดขึ้นอีกมหาศาล เพราะต้องคูณ 15 เท่า
ทั้งสี่ล้อ (เฮื้อก!!) มาสด้า 2 ยังพยายามแทบตามเพื่อที่จะให้รีดน้ำหนักรถให้น้อยลงกว่ารุ่นเดิม 100 กิโล แต่ถ้าเกิดคุณไปใช้แม็คที่หนักกว่าเดิมซัก 2 โลต่อวง มีหวัง น้ำหนักจะถ่วงคุณ
เพิ่มอีก 120 กิโล อืดขึ้นแน่นอนเหมือนพ่วงถังก๊าซ NGV อยู่บนรถตลอดเวลา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยคุณได้นะครับ

Factor ตัวคูณ 15 เอามาจากไหนครับ
ผมพอเข้าใจเรื่อง Inertia / Moment of Inertia รวมทั้งการย้ายมวล
แต่ 15 มันเยอะไปในความคิดผม

1 Kg unsprung weight = 15 Kg weight on car
หรือ
1 kg adds 15 kg of unsprung mass to each corner

ถ้าน้ำหนักล้อยางเพิ่มขี้น 1 กก. เท่ากับมีน้ำหนักบนรถเพิ่มขึ้น 15 กก.

ส่วนในด้านของแอโรไดแนมิก
ลด unsprung mass ได้ 1 กิโลเท่ากับลดน้ำหนักบนตัวรถ 8 กิโลกรัม
a reduction in weight of 1 kg on the unsprung mass is equivalent to a reduction of 8 kg on the car overall

ที่จริงมันเป็นค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะเกี่ยวกับ mass ของรถด้วย และไม่ได้คูณ 15 ตลอด แต่
ส่วนใหญ่ น้ำหนักที่เพิ่มใต้สปริงจะอยู่ที่ 10-15 เท่าของน้ำหนักที่รถแบกน้ำหนักเพิ่มเหนือสปริง
ทำให้ความคล่องตัวลดลง เหมือนสูญเสียแรงม้าไป


อย่างที่บอกครับ ผมเข้าใจหลักการ ว่ามันต้องมีตัวคูณ และเท่าที่ศึกษามา ตัวคูณไม่ใกล้เคียง 15 แน่นอนครับ
ดังนั้น ขอที่มาด้วยครับ เพราะที่คุณอธิบายมา อาจจะเป็นเรื่องอื่น แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ Inertia / Moment of Inertia
อีกอย่าง Aerodynamic Coefficients เป็นเรื่องของ Mach number / Reynolds number / Geometry / AOA / etc แต่ไม่เกี่ยวกับมวล

เรื่องวิธีการคำนวณผมไม่รู้ครับ ผมจบเศรษฐศาสต์ แต่เพื่อนๆ ผมที่อยู่วิศวะเค้าเรียนเรื่องนี้กันหมด
ผมก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องที่มาเท่าไรนัก เพียงแต่ปัจจุบันนี้เวลาที่เราจะเปลี่ยนล้อ ไม่ค่อยมีใครสนใจ
เรื่อง unsprung weight กัน ในขณะที่ต่างประเทศเค้าบ้าเรื่องนี้กัน ทุกคนล้วนพูดถึงตัวคูณ ซึ่งมันมีอยู่จริงๆ
แต่คิดว่าตัวแปรมันเยอะมาก ซึ่งปกติก็ตีกันไป 10-15 เท่า คนใช้งานจริงๆ ไม่มีใครมาตั้งสูตรคำนวณกันจริงๆ จังๆ
แต่เพราะน้ำหนักตัวนี้มันมีตัวคูณ ฉะนั้นผมจึงเห็นว่าบ้านเราน่าจะให้ความสำคัญกับมันบ้าง และถ้าเป็นไปได้
คุณควรหาน้ำหนักที่ใกล้เคียง หรือน้อยกว่าเดิมนั้นจะดีที่สุดครับ นี่คือ message ที่ผมอยากจะบอกกับ จขกท
และคนอื่นๆ ที่เผื่อจะไม่เคยได้ยินเรื่อง unsprung weight ผมว่าถ้าคำถามที่คุณถามผมคุณรู้ สูตรกับตัวคูณจริงๆ
ก็น่าจะมาแชร์ร่วมกันนะ แต่ในความรู้สึกของผมคิดว่าผมเป็นไปได้ที่น้ำหนักตรงนั้นมันผลักดันให้ต้องใช้แรงบิด
มากขึ้นเป็นพิเศษหลายเท่าจนผู้ขับสามารถรับรู้ได้เลยว่ามันอืดขึ้น



ออฟไลน์ penalty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Ingenieur
ถูกต้องครับ ผมเห็นด้วยที่บอกว่าเรื่องของ Moment of Inertia ของล้อเป็นเรื่องสำคัญ
ผมเคยอ่านผ่านตา และคำนวนคร่าวๆ ตัวคูณที่ได้จะอยู่แถวๆหลักหน่วย ไม่ถึงสิบ
ผมเลยสงสัยถึงที่มาที่ไป เพื่อจะได้ศึกษาเพิ่มเติม เพราะในจุดนี้ ผมก็ให้ความสำคัญเช่นกัน
เพียงแต่ว่าล้อ Forged มันแพงเกินเอื้อมไปหน่อย

สำหรับคุณ จขกท
ถ้าเป็นผม ผมคงแค่ไปหาล้อขอบ 16 เดิมๆของตัว SV มาใส่แค่นั้นแหละครับ ถูกดี หน้ายางกว้างกว่าเดิมหน่อย

ขอโทษด้วยที่พาออกทะเล
If God did not build it, an Engineer did.

ออฟไลน์ อืม...นะ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
  • Spirit of the "R"
ตอนแรกว่าจะเข้ามาแนะนำ
แต่ตอนนี้กลายเป็นเข้ามาเก็บเกี่ยว
ความรู้เยอะดีแฮะกระทู้นี้ ขอบคุณทุกท่านด้วยคนครับ
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1

ออฟไลน์ HandsomeTing

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
  • You'll never walk alone
    • อีเมล์
ถูกต้องครับ ผมเห็นด้วยที่บอกว่าเรื่องของ Moment of Inertia ของล้อเป็นเรื่องสำคัญ
ผมเคยอ่านผ่านตา และคำนวนคร่าวๆ ตัวคูณที่ได้จะอยู่แถวๆหลักหน่วย ไม่ถึงสิบ
ผมเลยสงสัยถึงที่มาที่ไป เพื่อจะได้ศึกษาเพิ่มเติม เพราะในจุดนี้ ผมก็ให้ความสำคัญเช่นกัน
เพียงแต่ว่าล้อ Forged มันแพงเกินเอื้อมไปหน่อย

สำหรับคุณ จขกท
ถ้าเป็นผม ผมคงแค่ไปหาล้อขอบ 16 เดิมๆของตัว SV มาใส่แค่นั้นแหละครับ ถูกดี หน้ายางกว้างกว่าเดิมหน่อย

ขอโทษด้วยที่พาออกทะเล


ไม่รู้สึกว่าออกทะเลเลยครับ  กลับได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นเยอะเลย  ความที่จะมีรถเป็นของตัวเอง  ก็เริ่มศึกษาตัวมันมากขึ้น  มีอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยแนะนำเลยครับ

สำหรับท่าน "อืม...นะ" แนะนำมาเถอะครับ  อยากรู้ๆๆ  สุภาษิตที่ว่า "ตีเหล็ก  ต้องตีตอนร้อน"  ตอนนี้กำลังใช้ได้กับตัวผมเองเลยครับ  อิอิอิ ;D ;D