1.ถ้าBMW 5ปีแรก คงไม่เท่าไรครับ เพราะมีBSI
2.ราคารถแพงกว่า ภาพลักษณ์แบรนด์แพงกว่า อะไหล่ ค่าบำรุง แพงเป็นเงาตามตัวครับ
จะเสียง่ายกว่าไหม อันนี้ตอบยากครับ ไม่อยากใช้คำว่าเสียอ่ะครับ อาจจะจุกจิกกว่าเพราะระบบไฟที่ซับซ้อนครับ แต่มันก้ไม่ได้จุกจิกง่ายขนาดนั้นครับ
จากเดิมบ้านผมใช้มาแต่ Honda,Mitsu,Toyota,Nissan ตอนนี้มีรถยุโรปคันแรกในบ้านครับ มองไปหลายยี่ห้อทั้งBenz,BMW สุดท้ายมาปลงใจที่Volvoครับ
ค่าบำรุงรักษาตอนนี้ ยังอยู่ในประกันครับ เลยไม่ค่อยหนักใจ น้ำมันเครื่องเปลี่ยนทุก25000กิโลเมตร ไม่ไหวครับ
ตอนครบ10000โล ผมสมัครใจเข้าไปเปลี่ยนเองที่ศูนย์ ต้องเสียเงินเอง
น้ำมันเครื่องดีเซล สังเคราะห์100% Castrol ขายลิตรละ 680บาท รถผมใช้7ลิตรนะ คูณ7เข้าไป
กรองน้ำมันเครื่อง310 บาท (อันนี้รับได้ ไม่แพง)
แล้วยังมีซีลฝาน้ำมันเครื่อง กับแหวนน๊อตรูถ่ายอีก ซึ่งไม่กี่บาทเองครับ
ฟรีค่าแรง เพราะอยู่ในประกัน
บิลออกมา5พันกว่าบาท ฮ่วย
หลังจากครั้งนั้น ผมเลยเอาไปเปลี่ยนที่อู่นอกแทนครับ ซื้อนมค.ที่ปั๊ม เป็นMobil1 แกลลอน6ลิตร+ขวดเล็ก1ลิตร รวมๆแล้ว2800บาทกว่าๆ เอาไปที่อู่นอกแถวรามอินทรา คิดค่าแรง200บาท
ประหยัดได้หลายขุมครับ ไว้ถึงเวลาเซอวิส ค่อยเข้าไปทำฟรีที่ศูนย์
ผมว่ารถยุโรปดีกว่ารถญี่ปุ่นตรงที่ศูนย์ด้วยครับ Volvoเวลาจะเคลมอะไร เคลมโคตรง่ายเลยครับ
ก่อนหมดประกันผมว่าจะเคลมยางขอบประตูรอบคันไปเลย (วอลโว่ชอบใช้วัสดุรักษาสิ่งแวดล้อมครับ อะไหล่บางชิ้นเลยไม่ค่อยทน)
ส่วนตัวถ้าจะให้แนะนำ ถ้าคุณไม่ได้ชื่นชอบอะไรในBenzเป็นพิเศษ ผมว่า เอา320dครับ รถเก๋งดีเซลเป็นอะไรที่ใช้แล้วสุขใจ
แรง+ประหยัดไปด้วยกันได้