นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้น้ำมันใน 6 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค.-มิ.ย.) ว่า การใช้น้ำมันในภาพรวมปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิด ทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลเป็นผลมาจากทิศทางน้ำมันที่มีราคาถูกลงและในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปริมาณการใช้น้ำมันทรงตัว หรือปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนักสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว 3% ทั้งนี้การใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่ 25.77 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 14.04% สาเหตุหนึ่งมาจากผู้ใช้รถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และเอ็นจีวี ได้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันที่มีราคาถูกลงมากขึ้น รวมถึงปัจจัยจากการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 24.63 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนใหญ่มีอัตราการใช้ที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกชนิด ยกเว้นอี 85 ที่มีการใช้คงที่อยู่ที่วันละ 870,000 ลิตรต่อวัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่มียอดการใช้อยู่ที่ระดับ 900,000 ลิตรต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ถูกลงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไม่กังวลในเรื่องราคาจึงเลือกเติมอี 20 มากกว่า ในขณะที่การใช้ดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 61 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 2.69% เป็นผลจากราคาที่ถูกลงทำลายสถิติหลายครั้ง ล่าสุดมีราคาอยู่ที่ 23.29 บาทต่อลิตร รวมถึงมีปริมาณรถยนต์ที่ใช้ดีเซลเป็นเชื้อเพลิง มีปริมาณเพิ่มขึ้น 4.53%
สำหรับนโยบายการปรับลดสำรองน้ำมันสำเร็จรูป จาก 6% เหลือ 1% ธพ.คงจะดำเนินการแบบขั้นบันได 4 ช่วง เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันได้มีเวลาในการปรับตัว โดยช่วงแรกวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะปรับลดสำรองน้ำมันจาก 6% เป็น 5% วันที่ 1 ก.ย. ปรับลดจาก 5% เป็น 4% และวันที่ 1 ต.ค.ปรับลดจาก 4% เป็น 2% ในขณะที่กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป
การสำรองน้ำมันจะเหลือเพียง 1% ล่าสุด ธพ.ได้ประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนผสมของไบโอดีเซล (บี 100) ในน้ำมันดีเซลจากไม่ต่ำกว่า 6% เป็นไม่ต่ำกว่า 6.5% และไม่เกินกว่า 7% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. ได้ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบให้เพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 8,000 ตัน คือจากเดิมใช้เดือนละ 76,000 ตัน เป็น 84,000 ตัน
การใช้แอลพีจี ขณะนี้พบว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 18.53 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.58% โดยการใช้ในภาคขนส่งลดลง 7.71% เฉลี่ยอยู่ที่ 4.92 ล้าน กก.ต่อวัน ภาคครัวเรือนลดลง 6.02%เฉลี่ยอยู่ที่ 5.72 ล้าน กก.ต่อวัน ในขณะที่การนำเข้าแอลพีจีปรับลดลงเฉลี่ยมาอยู่ที่เดือนละ 100,000 ตัน จากเดิม 180,000 ตัน.
ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/515056 ครับ