แผงควบคุมตรงประตูด้านคนขับ มีปุ่ม Central Lock สวิตช์ปรับกระจกมองข้าง โดยปรับด้วยไฟฟ้าและพับเก็บด้วยไฟฟ้า กระจกหน้าต่างไฟฟ้า Power Windows ทุกบาน เป็นแบบ Auto เลื่อนขึ้นลงเฉพาะด้านคนขับ และยังมีระบบ Jam Protection ดีดกลับเมื่อมีสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ (ต่างกับรุ่น 2.4 Q ที่เป็นแบบ All Auto เลื่อนขึ้นลงได้ทุกบาน โดยกดหรือดึงงัดสวิชต์ขึ้นเพียงครั้งเดียว) นอกจากนี้ยังมีปุ่มล็อกสวิตช์กระจกไฟฟ้ามาให้ด้วย
ชุดมาตรวัด ของ Camry ACV31 จะมีให้เลือก 2 แบบคือแบบธรรมดาไม่เรืองแสง เหมือนที่เห็นอยู่ในรูป (เฉพาะ 2.0 G และ 2.0 E) ฟอนต์เป็นสีขาว เข็มเป็นสีแดง ผมว่าเป็นมาตรวัดที่อ่านง่าย สบายตาในยามค่ำคืน ด้านล่างจะเป็น Trip Metre ตั้งได้ทั้งแบบธรรมดาและแบบ Trip A Trip B ส่วนรุ่น 2.4 จะเป็นมาตรวัดแบบเรืองแสง Optiron เปลี่ยนสีได้ 3สี ฟ้าอะความารีนบลู เขียวเอเมอรัลกรีน และเหลืองอำพัน
คอนโซลกลางด้านบนจะมีจอแสดงผลข้อมูลแบบ Multi Information Display (2.0 E ไม่ได้ติดตั้งจอมาให้) ประกอบด้วย
-นาฬิกาและอุณหภูมิภายนอก
-อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบ Real Time
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเฉลี่ย
-ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือภายในถัง
-ความเร็วเฉลี่ย
-ระยะเวลาที่ขับขี่
โดยด้านซ้ายของจอจะมีจอแสดงการทำงานของเซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอด (มีเฉพาะรุ่น 2.4)
ชุดเครื่องเสียงของ Camry ทุกรุ่น จะเป็นแบบ วิทยุ AM/FM เล่นแผ่น CD / MP3 ได้ 6 แผ่น ซึ่งรถสมัยใหม่หา CD 6 แผ่นได้ยากมาก ยังไม่มีช่องเสียบ AUX และ USB มาให้ ติดตั้งลำโพง 6 ชิ้น พร้อมระบบ Circle Surround (ยกเว้น 2.0 E เป็น CD 1 แผ่น เล่นไฟล์ MP3 ไม่ได้ ติดตั้ง 4 ลำโพง) คุณภาพเสียงจากที่ฟังเพลงหลายๆแนวมาก็รู้สึกว่ากลางๆไม่ถึงกับดีมากนัก ยิ่งถ้าใช้โหมด Surround คุณภาพเสียงก็ดีขึ้นมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น ส่วนจอ DVD และระบบนำทางเป็นอุปกรณ์เสริม
เครื่องปรับอากาศแบบ Digital มีโหมด Auto ไม่แยกซ้าย-ขวา ปุ่มใช้งานง่ายมาก ระบบไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีฮีตเตอร์ด้วยนะ โดยหากอุณหภูมิภายนอกต่ำกว่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ระบบจะเป่าลมอุ่นออกมาให้ ซึ่งตอนเอามาใช้ใหม่ๆ ตอนขับอยู่งงว่า ทำไมแอร์ช่องกลางไม่มีลมเย็นๆออกมา ยิ่งช่องแอร์ด้านซ้ายขวาก็ไม่มีลมออกมา ผมก็เลยข้าใจผิดนึกว่าแอร์เสีย แต่สักพักพอมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ Toyota กั๊กฮีตเตอร์ในแอร์ Digital ในรถรุ่นเล็กกับรถ IMV ผมเลยโล่งใจว่าที่แท้ Toyota ก็มีฮีตเตอร์ให้กับ Camry นี่เอง นอกจากนี้การติดตั้งไฟฉุกเฉินให้อยู่ใกล้มือคนขับนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทำให้คลำหากดปุ่มได้อย่างรวดเร็วเวลาเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่น เบรกกะทันหันหรือตอนแย่งที่จอดรถกันในห้าง ด้านซ้ายกลมๆเป็นไฟสถานะระบบสัญญาณกันขโมย ซึ่งติดตั้งให้ทุกรุ่นยกเว้น 2.0 E (รุ่นนี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก Option แทบจะโล้นเท่า Corolla Altis 1.8 E แล้วนะ)
ด้านล่างในรุ่น 2.4 Q จะมีปุ่มให้ 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม TRC off ปุ่มกลาง ไว้ควบคุมม่านบังแดดหลังไฟฟ้า และปุ่มสุดท้ายเป็นปุ่มควบคุมระบบ ECT กดแล้วระบบจะเปลี่ยนเกียร์ให้ที่รอบสูงขึ้น ซึ่งรุ่นอื่นๆจะมีแค่ปุ่ม ECT เท่านั้น
ใต้ปุ่มจะมีกล่องเก็บของตรงคอนโซลกลาง ขยับลงมาหน่อยจะเป็นที่จุดบุหรี่และที่เขี่ยบุหรี่ ด้านข้างคันเกียร์จะเป็นที่วางของกระกระจุ๊กกระจิ๊กพวกเศษเหรียญ ถัดลงมาจากเป็นที่วางแก้ว วางได้ทั้งขวดน้ำ แก้วน้ำอัดลม แก้วกาแฟร้อนๆ ฯลฯ เสียดายคันนี้มีที่วางแก้ววางขวดน้ำน้อยไปหน่อย เวลาเดินทางกันหลายคนค่อนข้างลำบากพอสมควร
ระหว่างเบาะคู่หน้ามีกล่องเก็บของ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ฝาปิดหุ้มหนังใช้วางแขนได้ แต่เลื่อนหน้า-หลังไม่ได้ การเปิดฝานั้นแค่ใช้นิ้วกดปลดล็อคแล้วดึงขึ้นเบาๆ ฝาปิดจะยกตัวขึ้นเอง ด้านในนั้นบุสักหลาดให้ทั้ง 2 ชั้น ชั้นล่างมีขนาดใหญ่มากพร้อมช่องต่อปลั๊กไฟสำรอง
กล่องเก็บของด้านผู้โดยสารด้านหน้านั้นฝาปิดสามารถล็อคได้ มีระบบหน่วงให้ฝาปิดปล่อยตัวลงมาช้าๆ (Air Damped) ภายในขนาดใหญ่ จุของได้เยอะพอสมควร แต่ที่น่าชื่นชมคือภายในบุด้วยสักหลาดทั้งหมด ลดเสียงกระทบกันของสิ่งของภายในได้เป็นอย่างดี
ลองสังเกตตรงคอนโซลกลางนะครับ รถคันนี้จะมีแต่ที่เก็บของไม่มีเบรกมือ ถ้าใครถามถึงเบรกมือ ก็หาไม่ยากครับ Camry ตั้งแต่รุ่นนี้เป็นต้นไปได้ย้ายเบรกมือไปอยู่ที่แป้นเท้าด้านซ้าย (ใช้เท้าซ้ายเหยียบ) วิธีใช้เบรกมือนั้นง่ายมากๆ (เขียนไว้เผื่อคนที่ซื้อ Camry รุ่นนี้มือ 2 มาจะได้เข้าใจการใช้เบรกมือ) ถ้าจะใช้เบรกมือก็เหยียบไปให้ลึกจนรู้สึกว่ากลไกมันล็อค พอล็อคแล้วเราก็ถอยเท้าออกมาจากแป้น แต่ถ้าอยากจะปลดเบรกมือก็เหยียบให้ลึกจนรู้สึกว่ากลไกมันปลดล็อค พอมันปลดล็อคเราก็ถอยเท้าออกจากแป้นมาได้เลย