เมื่อเช้าวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน เครื่องบินที่ผลิตโดยญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกมุ่งหน้ายังน่านฟ้าเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งจังหวัดไอชิ โดยมีอากาศยานของกองกำลังป้องกันตนเองแห่งญี่ปุ่นบินประกบไปด้วย MRJ กลับมาลงจอดในเวลาประมาณ 90 นาทีต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นการบินทดสอบการควบคุมพื้นฐาน เช่น การทะยานขึ้น การลดระดับลง และการเลี้ยว มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสตรีส์ ซึ่งเป็นผู้สร้างเครื่องบินขับไล่ซีโรในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หวังว่าเครื่องบินโดยสารมูลค่าราวๆ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะช่วยให้ทางบริษัทแย่งบัลลังก์ผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกมาจากบอมบาร์เดียร์ อิงก์ ของแคนาดา และเป็นรองเพียงเอ็มบราเออร์ เอสเอ ของบราซิลเท่านั้น
เครื่องบินแบบเทอร์โบพร็อบ มิตซูบิชิ รีเจอเนิล เจ็ต คือเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ลำแรกของญี่ปุ่นนับตั้งแต่เคยนำ YS-11 เครื่องบินเทอร์โบพร็อบ 64 ที่นั่งเข้าสู่การบริการเมื่อ 50 ปีก่อน
มิตซูบิชิ รีเจอเนิล เจ็ต ฝูงแรกมีกำหนดส่งมอบแก่ เอเอ็นเอ โฮลดิ้ง สายการบินใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน 2017 และที่สุดแล้ว มิตซูบิชิ มีเป้าหมายขายเครื่องบินรุ่นนี้มากกว่า 2,000 ลำ ในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องบินขนาดเล็ก มาจากเจ้าตลาดปัจจุบันอย่างบอมบาร์เดียร์
จนถึงตอนนี้ทาง มิตซูบิชิได้รับคำสั่งซื้อแล้ว 223 ลำ โดยล่าสุดมาจากเจแปน แอร์ไลน์ส ที่สั่งซื้อ 32 ลำในเดือนมกราคม ขณะที่คำสั่งซื้องวดใหญ่ที่สุดมาจากสกายเวสต์ ฮิงก์ สายการบินระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ ที่สั่งซื้อสูงสุดถึง 200 ลำ
มิตซูบิชิบอกว่า MRJ กินน้ำมันน้อยกว่าเครื่องบินขนาดเล็กอื่นๆ ถึง 5 เท่า จากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตโดยแพรตต์ แอนด์ วิตนีย์ บริษัทลูกของยูไนเต็ด เทคโยโลยีส์ คอร์ป ขณะที่เหล่าผู้ผลิตเครื่องบินอื่นๆ ทั่วโลกก็กำลังเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันนี้
ความพยายามครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ของญี่ปุ่นในการวางสถานะตนเองในฐานะผู้ผลิตเครื่องบินต้องจบลงด้วยความล้มเหลว โดยเครื่องบิน YS-11 ซึ่งสร้างขึ้นจากการร่วมทุนของบริษัทต่างๆ ในนั้นรวมถึง มิตซูบิชิ เฮฟวี่ มีอันต้องพบจุดจบหลังผลิตได้เพียง 182 ลำ
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวช่วยผลักดันให้ มิตซูบิชิ เฮฟวี และบริษัทอื่นๆ หล่อหลอมความร่วมมือกับโบอิ้ง โค เปลี่ยนตนเองเข้าสู่ซัพพลายเออร์สำคัญและพันธมิตรของผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติหรัฐฯ และช่วยกอบกู้อุตสาหกรรมอากาศยานของประเทศที่เคยล้มครืนไปหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
MRJ ของมิตซูบิชิซึ่งเหมาะสำหรับการบินทั้งระยะสั้นและระยะกลางในภูมิภาค มีทั้งรุ่น 70 และ 90 ที่นั่ง ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโตเกียวและกลุ่มบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่ง รวมถึงโตโยต้า โดยมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาราวๆ 180,000 ล้านเยน
Cr.
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000125679 Youtube.com/Channel/AirlineFlyer
