ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามพี่ jimmy เเละทีมงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ford focus ครับ  (อ่าน 4226 ครั้ง)

ออฟไลน์ Suparoek.C

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
พอดี ผมหากระทู้เเสดงความคิดเห็นของFord focus ไม่เจอครับ เลยมาตั้งกระทู้ใหม่ครับ
ผมได้อ่านรีวิว ford focus ที่พี่ๆได้เขียนไว้เเล้วครับ เขียนไว้ละเอียดมากเลยครับ
พอดีผมสนใจตัว 1.8 รุ่น ambient 4 ประตู เกียร์ธรรมดาครับ
เเต่จากรีวิวที่พี่เขียนบอกว่าตัว1.8 ค่อนข้างอืด รถที่พี่ๆใช้ลองขับเป็นเกียร์ออโต้
ผมเลยอยากถามว่าพี่ๆได้เคยลองขับตัวเกียร์ธรรมดาหรือปล่าวครับ
ว่าอัตรามันอืดมากหรือปล่าวครับถ้าเทียบกับเกียร์ออโต้ครับ
เเละตัวเกียร์ธรรมดากินน้ำมันต่างจากตัวเกียร์ออโต้มากหรือปล่าวครับ
จริงๆเเล้วก็อยากได้รุ่นดีเซลเเบบที่พี่ๆบอกครับ เเต่เกินงบไปหน่อยครับ
พอดีเห็นราคาของรุ่นนี้ของค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคู่เเข่ง
เเละมันมีถุงลมกับเอบีเอส มาให้ด้วยครับ ก็เลยสนใจครับ
ไปดูที่โชว์รูมมาหลายที่เเล้วครับ เเต่ไม่มีรถให้ทดลองขับเเละให้ดูครับ
อีกอย่างผมไม่ค่อยถนัดรถเกียร์ออโต้ด้วยครับ ขับเกียร์ธรรมดามาตลอดจนรู้สึกชินเเล้วครับ
ขอบคุณพี่ jimmy เเละทีมงานล่วงหน้าครับ ขอบคุณครับ



ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
ถ้าใจชอบเกียร์ธรรมดา ก็ไม่เป็นไรครับ ยังไงมันก็ไม่อืดเท่าเกียร์ออโต้อยู่แล้ว ประหยัดกว่าด้วย(ขึ้นกับลักษณะการขับขี่) ราคาก็ถูกกว่า ความทนทานก็มากกว่า รูู้สึกจะเติมE20 ได้ด้วย
ได้ราคาดีก็ซื้อได้ครับ ไม่เป็นปัญหา สำคัญคือ ปัญหาส่วนของตัวรถ ไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่ ลองหาดูตามฟอร์ดคลับดูครับ ;D ;D ;D
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ไม่เคยลองขับเกียร์ธรรมดา

แต่เชื่อขนมกินได้ละว่า อัตราเร่งของเกียร์ธรรมดา น่าจะออกมาดีกว่า เกียร์อัตโนมัติ ครับ

ออฟไลน์ Valkilrey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 646
    • อีเมล์
ผมว่าสำหรับรถพิกัดเดียวกัน ถ้าเปลี่ยนระบบส่งกำลัง จาก AT มาเป็น MT ยังไงๆสมรรถนะอัตราเร่ง น่าจะเหนือกว่าแน่นอน (ส่วนจะกี่ % ก็ขึ้นกับคนขับ) เหมือนกับ Mazda 2 HB ที่กระทั่งคุณ J!MMY ยังบอกเลยว่าตอบสนองและอัตราเร่งของ MT ดีกว่า AT มาก ทำให้ขับสนุกมากขึ้นอีก จนหลายๆคนหันมาสนใจตัว MT กันเยอะขึ้นแล้ว

สำหรับ Focus 1.8 4Dr. MT Ambiente นั้น นอกเหนือจากอัตราเร่งที่น่าจะตอบสนองได้ดีกว่า AT คือไม่อืดแล้ว ผมว่าด้านอัตราสิ้นเปลืองก็น่าจะดีขึ้นด้วย (สมมติตัว AT ทำได้ 11 โลลิตร ตัว MT อาจได้ 11.8-12.3 ภายใต้สภาวะการขับขี่แบบเดียวกัน)

ผมเคยอ่านเจอในนิตยสารรถฉบับนึงนานมาแล้ว และมี save ตัวเลขเก็บไว้เล็กน้อย กับตัว 1.8 MT ดังนี้ครับ

0-100   ฉบับนึงบอก 11.49 ส่วนอีกฉบับ 12.36
ควอเตอร์ไมล์ ใน 18 วินาที กับ 130 km
ความเร็วสูงสุด ฉบับนึงบอก 190 อีกฉบับ 200
ด้านระยะเบรก จาก 106 km ทำได้ 51 เมตร ที่ 4.2 วินาที
อัตราสิ้นเปลือง นอกเมืองขึ้นลงเขาเล็กน้อย ไม่ระบุความเร็ว 13.8 km/l
ในเมือง จากสาธร -สุขุมวิท-รัชดา ใช้เวลา 3 ชม. ได้ 8.6 km/l (ซึ่งเป็นย่านรถเยอะมากๆ โดยที่ผมมองว่าถ้าขับบนถนนแบบไม่ติดมากๆ น่าจะได้ราวๆ 9.3-9.7)
ส่วนรอบเครื่องยนต์ ที่ 90 ใช้ 2600
ที่ 100 ใช้ 2900 สูงกว่า at พอควร

สุดท้ายก็ขอให้หารถเทสเจอนะครับ และถ้าทุกๆอย่างเป็นอย่างที่คุณคาดหวัง ก็ยินดีด้วยกับรถใหม่นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2010, 22:53:09 โดย Valkilrey »

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
ผมว่าสำหรับรถพิกัดเดียวกัน ถ้าเปลี่ยนระบบส่งกำลัง จาก AT มาเป็น MT ยังไงๆสมรรถนะอัตราเร่ง น่าจะเหนือกว่าแน่นอน (ส่วนจะกี่ % ก็ขึ้นกับคนขับ) เหมือนกับ Mazda 2 HB ที่กระทั่งคุณ J!MMY ยังบอกเลยว่าตอบสนองและอัตราเร่งของ MT ดีกว่า AT มาก ทำให้ขับสนุกมากขึ้นอีก จนหลายๆคนหันมาสนใจตัว MT กันเยอะขึ้นแล้ว

สำหรับ Focus 1.8 4Dr. MT Ambiente นั้น นอกเหนือจากอัตราเร่งที่น่าจะตอบสนองได้ดีกว่า AT คือไม่อืดแล้ว ผมว่าด้านอัตราสิ้นเปลืองก็น่าจะดีขึ้นด้วย (สมมติตัว AT ทำได้ 11 โลลิตร ตัว MT อาจได้ 11.8-12.3 ภายใต้สภาวะการขับขี่แบบเดียวกัน)

ผมเคยอ่านเจอในนิตยสารรถฉบับนึงนานมาแล้ว และมี save ตัวเลขเก็บไว้เล็กน้อย กับตัว 1.8 MT ดังนี้ครับ

0-100   ฉบับนึงบอก 11.49 ส่วนอีกฉบับ 12.36
ควอเตอร์ไมล์ ใน 18 วินาที กับ 130 km
ความเร็วสูงสุด ฉบับนึงบอก 190 อีกฉบับ 200
ด้านระยะเบรก จาก 106 km ทำได้ 51 เมตร ที่ 4.2 วินาที
อัตราสิ้นเปลือง นอกเมืองขึ้นลงเขาเล็กน้อย ไม่ระบุความเร็ว 13.8 km/l
ในเมือง จากสาธร -สุขุมวิท-รัชดา ใช้เวลา 3 ชม. ได้ 8.6 km/l (ซึ่งเป็นย่านรถเยอะมากๆ โดยที่ผมมองว่าถ้าขับบนถนนแบบไม่ติดมากๆ น่าจะได้ราวๆ 9.3-9.7)
ส่วนรอบเครื่องยนต์ ที่ 90 ใช้ 2600
ที่ 100 ใช้ 2900 สูงกว่า at พอควร

สุดท้ายก็ขอให้หารถเทสเจอนะครับ และถ้าทุกๆอย่างเป็นอย่างที่คุณคาดหวัง ก็ยินดีด้วยกับรถใหม่นะครับ

ผมอ่านฉบับเดียวกับคุณเลย
แต่ข้องใจ ว่าตกลงมันได้กี่วิกันแน่ เพราะในเนื้อบทความ กับในตารางข้างๆ มันใส่ตัวเลขไม่เท่ากัน
ก็เอาเป็นว่า 0-100 คงประมาณ 11ปลายๆ - 13 วินาทีครับ

ออฟไลน์ Suparoek.C

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
ขอบคุณพี่ๆมากครับ สำหรับทุกความคิดเห็น