ผู้เขียน หัวข้อ: // เห็นทีว่า ต่อจากนี้ เราอาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการทดลองอัตราสิ้นเปลือง กันแล้ว  (อ่าน 11518 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
อ่าๆ นิดนึงครับคุณจิมมี่ ความจริงถ้าจะเปลี่ยนเป็น E 10 เลยก็ได้นะฮะ..

แต่ก็นะสถิติจะต้องเก็บใหม่บ้างหรือเปล่าครับเนี่ย
..

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
แม้ว่าจะไม่ได้เติมวีพาวเวอร์เบนซินเพราะมันแพงและไม่รู้แรงคุ้มหรือเปล่า(ผมว่าไม่)
และจะเห็นด้วยกับการที่ใช้แก๊สโซฮอลเพื่อช่วยเศรษฐกิจชาติและลดมลพิษเพียงใด

ก็ไม่อยากให้วีพาวเวอร์เบนซินถูกยกเลิกขายไป ให้ขายกับรถที่จำเป็น(จริงๆจังๆ)เท่านั้นครับ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
สนับสนุน E10 95 อีกเสียงครับ  :D ;) :)

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,020
  • FF1.5SMG
ความเห็น ให้เปลี่ยน ผมว่าเกิน 90% แล้วล่ะมั้งเนี่ย  ;D

ผมก็เห็นด้วยใหเปลี่ยนครับ  8)
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
น่าเห็นใจครับ สู้ๆนะครับพี่จิม

แต่เท่าที่เคยลอง ผมว่า e10 กับ เบนซินเพียวๆ ทดสอบในระยะทาง 100 กิโล ผมว่าไม่ต่างกันมากเลย นิดเดียวจริงๆ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ koruru

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 765
    • อีเมล์
เติม คาเท๊ก ก็ได้คับ ขอให้เป็น เบนซิน 95 ก็พอ คับ - -

แต่ที่น่าเห็นใจ ที่บ้านผมมี evo6 อยู่คัน ซิบหายละทีนี้
ไม่มีปั้มน้ำมันให้เติมละ ขับออกต่างจังหวัด ไม่ได้ละ
ทำใจเลยช่วงนี้ ประกาศขายก็ขายไม่ออกอีก เห้อๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ผมมีความเห็นดังนี้

1. ถ้า J!MMY ยืนยันจะเติม 95 ต่อไป และได้ผลแม่นจริง ต้องทำให้ได้ดังต่อไปนี้
1.1 ขอให้บริษัทรถเติม 95 มาให้ได้มากกว่า 3/4 ถัง
1.2 หรือถ้าไม่งั้นต้องไม่เติมมาเลย เราไปเติมเอง เพราะถ้าบริษัทรถเติม E10 มาครึ่งถังแล้วจิมมี่ไปเติม 95 เองอีกครึ่งถัง มันย่อมไม่ให้ผลที่เที่ยงตรงเท่ากันแน่
คงมีบริษัทรถน้อยรายนักที่จะเติม 95 ให้

2. ถ้าจะเติม 95 ต่อไป มีแนวทางแบบนี้
2.1 ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันเสียแต่วันนี้ และอนาคตน้ำมัน 95 เลิกขายหมด เราจะมี Database ที่เป็น E10 เยอะกว่า
2.2 และกลับกัน ถ้า 95 ไม่เลิกขาย ก็เท่ากับว่า Data ตรงนี้เทียบกันโดยตรงไม่ได้ แต่มีความใกล้เคียงกัน และภายใน 1 Generation ของรถ เมื่อทุกรุ่นที่ลองได้ชิม E10 หมด เราก็จะหมดปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมกันไปได้

3. น้ำมันที่คนส่วนใหญ่เติม และรถเก๋งเบนซินส่วนใหญ่เติม คือ E10 ซึ่งมีราคาถูกกว่า ดังนั้นเราต้องเลือกแล้วล่ะ
3.1 เลือกน้ำมันที่ได้ผลแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่ใช้
3.2 เลือกน้ำมันเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่เป็นมา แต่ถ้า 95 ยกเลิกจริง เท่ากับว่าข้อมูลการกินน้ำมันที่ใช้ 95 เป็นเชื้อเพลิงที่ทำมาตลาด จะแปรสภาพจาก "ข้อมูลที่มีมาตรฐาน" กลายเป็น "สิ่งที่้ต้องคาดเดา"

ไม่ขอชี้ขาดว่าจะต้องทำอะไร แต่เรียงลำดับตามเหตุและผลที่มีเป็นความคิดได้อย่างที่เขียนไปครับ

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
ลองมาพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์กัน ว่ากันด้วยเรื่องมาตรฐานการเติมน้ำมัน เบนซิน 95

1. มาตรฐานการทดสอบเดิมแม่นยำน่าเชื่อถือจริงหรือไม่

ผมไม่มานั่งเขี่ยนตัวแปรต้น แปรตามนะ คุยกันเข้าใจง่ายๆ

วิธีทดสอบ

1.นำรถทดสอบมา 1 คัน ที่คิดว่ามีตัวแปรในการเติมน้ำมันน้อยที่สุด หัวจ่ายน้ำมันตัดแล้วจะผิดพลาดน้อยที่สุด โดยไม่เขย่าถัง
2.บริษัท รถยนต์ เติมโซฮอล 95 จากนั้นนำรถไปยังหัวจ่ายน้ำมัน ณ จุดทดสอบ เพื่อเติมน้ำมัน โซฮอล 95 ให้เต็มถัง
3.นำไปวิ่ง ทดสอบเส้นทางเดิม และนำรถกลับมาเติมยังหัวจ่ายเดิม คำนวณ ผลทดสอบ เป็น กม./ลิตร เช่นเดิม              (บันทึก 1.)

4.นำไปวิ่ง ทดสอบเส้นทางเดิม และนำรถกลับมาเติมยังหัวจ่ายเดิม อีกครั้ง คำนวณ ผลทดสอบ เป็น กม./ลิตร เช่นเดิม   (บันทึก 2.)
5.นำผลการทดสอบทั้งสองครั้ง มาเปรียบเทียบกัน คือ (บันทึก1. และ บันทึก2.)  ว่ารถคันเดิม ทำการเติมน้ำมันแบบเดิม ขับทดสอบแบบเดิม จะให้ผลแม่นยำจริงหรือไม่

การแปรผลการทดสอบ
หากผลทดสอบเท่ากัน หรือ มีความต่างไม่เกิน (แล้วแต่ว่าจะเอาเท่าไหร่) สมมุติ ไม่เกิน 0.2 กม./ลิตร  ถือว่า การทดสอบมีมาตรฐานแม่นยำน่าเชื่อถือในระดับนึงนำไปอ้างอิงได้

หมายเหตุ จะใช้ เบนซิน 95 ทดสอบก็ได้ โดย ขับจนไฟเหลืองเตือนแล้วค่อยไปเติม (ประมาณน้ำมันในถังเหลือราว 5 ลิตร )บวกลบ แล้วทำ 5 ขั้นตอนเช่นเดิม  แต่ไม่แนะนำเพราะจะหากจะทำการทดสอบถัดไป จะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ต้องมาคอยสลับน้ำมัน

2.น้ำมัน เบนซิน 95 และ โซฮอล 95 ให้อัตราสิ้นเปลือง แตกต่างกันจริงหรือไม่

เพื่อการประหยัด ควรทดสอบขั้นตอน 1. มาแล้ว จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆ   และ หากขั้นตอนที่ 1 เชื่อถือไม่ได้ คลาดเคลื่อนมากเกิน ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทดสอบ ทำไปก็เพี้ยนไปกันใหญ่

วิธีทดสอบ
1.นำรถทดสอบ จากการทดสอบที่ 1.  มาวิ่งให้น้ำมันเหลือน้อยที่สุด แล้วนำรถไปยังหัวจ่ายน้ำมัน ณ จุดทดสอบ เติมเบนซิน 95 ให้เต็มถัง เพื่อให้ถือว่าเป็นน้ำมัน เบนซิน 95 มากกว่า 90%
2.นำไปวิ่ง ทดสอบเส้นทางเดิม และนำรถกลับมาเติมยังหัวจ่ายเดิม คำนวณ ผลทดสอบ เป็น กม./ลิตร เช่นเดิม (บันทึก 3.)
3.นำไปวิ่ง ทดสอบเส้นทางเดิม และนำรถกลับมาเติมยังหัวจ่ายเดิม อีกครั้ง คำนวณ ผลทดสอบ เป็น กม./ลิตร เช่นเดิม   (บันทึก 4.)

การแปรผลการทดสอบ
นำผล (บันทึก 3. และ บันทึก 4.) มาเปรียบเทียบ ว่าการใช้น้ำมันเบนซิน 95 เติมนั้น ยังคงได้มาตรฐานเชื่อถือได้หรือไม่ สมมุติ อิง 0.2 กม./ลิตร เช่นเดิม หากเชื่อถือได้ ขั้นตอนถัดไป
นำผล (บันทึก 3 และ บันทึก 4.) มาหาค่าเฉลี่ย เพื่อจะได้ทราบว่า น้ำมันเบนซิน 95 ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นกม./ลิตร เท่ากับเท่าใด (บันทึก 5.)
นำผล (บันทึก 1 และ ยันทึก 2.) มาหาค่าเฉลี่ย เพื่อจะได้ทราบว่า น้ำมันโซฮอล 95 ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นกม./ลิตร เท่ากับเท่าใด (บันทึก 6.)

ทบทวนก่อน เท่ากับว่าตอนนี้ เรามีข้อมูล ที่เชื่อถือได้ ทั้งจาก น้ำมันเบนซิน 95 (บันทึก 5.) และโซฮอล 95 (บันทึก 6.) อยู่ในมือแล้ว
จากนั้น นำ (บันทึก 5.)และ(บันทึก 6.)  มาเปรียบเทียบกัน จะได้ส่วนต่างอัตราสิ้นเปลือง ระหว่าง เบนซิน 95 และโซฮอล 95 เป็น %

และแน่นอน สมมุติ ผลออกมา แตกต่างกัน 5% นั่นหมายความว่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระหว่าง เบนซิน 95 และโซฮอล 95 เท่ากับ 5%  ก็คือ โซฮอล จะวิ่งได้ระยะทางน้อยกว่า 5%
และตัวเลขนี้เราก็ จะนำไปอ้างกับตัวเลขเก่าๆ ที่เคยทำไว้ได้ ว่าหากทดสอบด้วย โซฮอล 95 แล้ว ถ้าเป็น เบนซิน 95 จะเป็นเท่าใด

สมมุติว่า การทดสอบนี้ ใช้ lancer EX ทำตัวเลข ความสิ้นเปลือง ด้วย โซฮอล 95 ได้เท่ากับ 15 กม./ลิตร และ ผลทดสอบระหว่างน้ำมัน ได้ 5%

หากจะนำไปเทียบกับ civic FD สมมุติ อัตราสิ้นเปลือง ได้ 16 กม./ลิตร  จะได้ผลคือ (16*5)/100  เท่ากับ 0.8 กม./ลิตร นั่นหมายความว่า หากนำ civic FD ซึ่งเคยเติม เบนซิน 95 มาเติม โซฮอล 95  จะได้ค่าอัตราสิ้นเปลือง ราวๆ 15.2 กม./ลิตร เพราะการเติม โซฮอล 95 รถจะ วิ่งได้ระยะทางน้อยกว่า เบนซิน 95 อยู่ 0.8 กม./ลิตร หรือ 5%


และนี่แหละครับ หากต้องการมาตรฐานจริง นำไปอ้างอิงได้ โดย ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือ ซับซ้อน ต้องทดสอบแบบนี้ และไม่ว่าจะเปลี่ยนน้ำมันอะไรอีก เป็น E 20 E85 ตัวเลขที่เคยทำมา ก็จะไม่สูญเปล่า และนำมาอ้างอิงได้ ตราบเท่าที่ยังมีคนสนใจครับ ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2010, 01:32:29 โดย YF-19 »
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,264
    • อีเมล์
ผมมีความเห็นดังนี้

1. ถ้า J!MMY ยืนยันจะเติม 95 ต่อไป และได้ผลแม่นจริง ต้องทำให้ได้ดังต่อไปนี้
1.1 ขอให้บริษัทรถเติม 95 มาให้ได้มากกว่า 3/4 ถัง
1.2 หรือถ้าไม่งั้นต้องไม่เติมมาเลย เราไปเติมเอง เพราะถ้าบริษัทรถเติม E10 มาครึ่งถังแล้วจิมมี่ไปเติม 95 เองอีกครึ่งถัง มันย่อมไม่ให้ผลที่เที่ยงตรงเท่ากันแน่
คงมีบริษัทรถน้อยรายนักที่จะเติม 95 ให้

2. ถ้าจะเติม 95 ต่อไป มีแนวทางแบบนี้
2.1 ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันเสียแต่วันนี้ และอนาคตน้ำมัน 95 เลิกขายหมด เราจะมี Database ที่เป็น E10 เยอะกว่า
2.2 และกลับกัน ถ้า 95 ไม่เลิกขาย ก็เท่ากับว่า Data ตรงนี้เทียบกันโดยตรงไม่ได้ แต่มีความใกล้เคียงกัน และภายใน 1 Generation ของรถ เมื่อทุกรุ่นที่ลองได้ชิม E10 หมด เราก็จะหมดปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมกันไปได้

3. น้ำมันที่คนส่วนใหญ่เติม และรถเก๋งเบนซินส่วนใหญ่เติม คือ E10 ซึ่งมีราคาถูกกว่า ดังนั้นเราต้องเลือกแล้วล่ะ
3.1 เลือกน้ำมันที่ได้ผลแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่ใช้
3.2 เลือกน้ำมันเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่เป็นมา แต่ถ้า 95 ยกเลิกจริง เท่ากับว่าข้อมูลการกินน้ำมันที่ใช้ 95 เป็นเชื้อเพลิงที่ทำมาตลาด จะแปรสภาพจาก "ข้อมูลที่มีมาตรฐาน" กลายเป็น "สิ่งที่้ต้องคาดเดา"

ไม่ขอชี้ขาดว่าจะต้องทำอะไร แต่เรียงลำดับตามเหตุและผลที่มีเป็นความคิดได้อย่างที่เขียนไปครับ



เห็นด้วยครับ  เพิ่มเติมนิด  ถ้าจะเอามาเทียบกัน  หมายเหตุไว้ว่าคันไหนใช้น้ำมันอะไรผมว่าคนอ่านเข้าใจได้นะ 


ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
2.2 และกลับกัน ถ้า 95 ไม่เลิกขาย ก็เท่ากับว่า Data ตรงนี้เทียบกันโดยตรงไม่ได้ แต่มีความใกล้เคียงกัน และภายใน 1 Generation ของรถ เมื่อทุกรุ่นที่ลองได้ชิม E10 หมด เราก็จะหมดปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมกันไปได้

ผมก็เห็นด้วยกับท่านผู้เกินเรื่องเกิร์ลเจเนอเรชั่นนี่แหละครับ อย่างเช่นกองทัพโตโยต้ารุ่นถัดมาก็ใช้ E10 ไปเลยก็ได้

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,143
  • I'm............................
เข้ามารับทราบคับ ไม่มีความเห็น
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ sajairokjit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
ผมมองแบบนี้นะครับ

เรื่องแรก นโยบายพลังงานของประเทศเรา สนับสนุนให้มีการใช้แก็สโซฮอลมากขึ้น (เพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน ไม่ใช่เพื่อให้น้ำมันราคาถูก)
นั่นหมายความว่า ต่อไปในภายภาคหน้า เราก็ต้องใช้  gasohol  อยู่ดี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ถึงเวลาทดสอบเราจะไปหาปั๊มที่เป็น 95 ได้ แต่เวลาใช้งานจริงคนก็เติม  gasohol  อยู่แล้ว ผลที่ออกมามันก็จะไม่ตรงกับการใช้งานจริงของคนทั่วไป (ซึ่งมันจะเป็นด้าน+หรือ - คุณจิมมี่คงพอจะทราบอยู่แล้ว)


เรื่องที่ 2 รถรุ่นใหม่ ๆ ก็ออกแบบมาให้ใช้ได้กับ น้ำมันผสมกับแอลกอฮอลอยู่แล้ว
และผู้บริโภคส่วนมากก็ใช้ gasohol 91-95 เป็นทางเลือกอยู่แล้ว
(เคยเติม v-power95 เต็มถัง 2300 บาท เอาเรื่องเลยนะครับ)
รุ่นใหม่ ก็ใช้ E85, E20 หรือ  gasohol  ทั่ว ๆ ไปได้กันเกือบทั้งหมด

มุมนี้ผมมอง 2 แบบ
2.1 ใช้ 95 ต่อไปจนกว่าจะหมดหยดสุดท้ายในไทย (ของเซลล์น่าจะยังพอเติมได้จนถึงเดือน พ.ค.) เพื่อมาตรฐานแบบที่เคยทำมา

2.2 ใช้น้ำมันตามสเปคขั้นต่ำของรถนั่น ๆ เช่น คันไหนใช้ E20 ก็เติม E20 คันไหนใช้ E85 ก็เติม E85
อันนี้ผมมองว่าได้ประโยชน์กับผู้บริโภคโดยตรง เพราะ สมมติว่า แปะโลโก้ข้างถังให้เติม E20 หรือ  gasohol  91
คนก็เติมแค่ตามสเปคข้างถังแหละครับ มีไม่เยอะหรอกครับที่จะเติม 91-95 แบบธรรมดา(จากการสอบถามเพื่อน คนใกล้ตัวที่ใช้รถ มีผมคนเดียวที่เติม v-power 95)
ยิ่งเป็นคุณสาว ๆ แล้ว เค้าไม่สนใจหรอกครับ ขอให้ราคาต่อลิตรถูกกว่าก็พอฝาถังแปะ E20 เธอก็เลี้ยวเข้าช่อง E20



2.3 (อันนี้เกินมา )เพื่ือให้ได้มาตรฐานใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งรู้เรื่องรถยนต์พอสมควร
ก็เติม  gasohol 95 เป็นหลักไปเลย ถือว่าเป็นน้ำมันตัวที่มีขายทุกปั๊ม และมองโลกในแง่ดีว่าคนเติมน้ำมันสูงกว่าสเปกขั้นต่ำ

เรามอง ปตท ว่าเลิกขายเพราะเป็นนโยบายภาครัฐ แต่..
ยักษ์ใหญ่อย่าง ตราหอย (เอกชนเต็มตัว ทำธุรกิจเพื่อกำไรเต็มร้อย) เลิกขายแล้ว
อันนี้ถ้ามองแบบคนมีตังว่า ราคาไม่สำคัญ ขอให้น้ำมันดีสุดก็พอ ลิตรละ 44 บาทกว่า ๆ ณ จุดนี้(กลุ่มนี้ไม่เยอะหรอกครับ)
ก็บ่งบอกได้ชัดเจว่า คนแทบจะไม่เติมแล้ว เราก็จะเหมือนคนทดสอบสารเคมีนำเข้าจากนอกโลก
คือคุณทำมาเอาตัวเลขสวย ๆ มาโชว์ ก็ไม่มีใครได้ใช้ หรือทำได้



แตกต่างกับตลาดมอเตอร์ไซค์ เพราะหลาย ๆ รุ่นยังคงใช้ 91 เพียว ๆ อยู่และใช้อยู่มาก
ผมหา 91 ธรรมดาเติมง่ายกว่า 95 ธรรมดาเยอะ(มากกกกก)
และคงอีกนานมาก กว่าจะเลิกขาย 91 แล้วมีแต่  gasohol


ปล. ฝากไว้ให้คิดว่า ตราดาว จะทานกระแส  gasohol  ได้นานแค่ไหน ?
ในเมื่อรถรุ่นต่อ ๆ ไปก็ใช้  gasohol  ได้หมดแล้ว และคนส่วนมาก ก็เติมแต่  gasohol  !!


ด้วยความเคารพครับ



เอ่อลืมไปอย่าง ผมเติมน้ำมันไว้ติดเครื่องรถเฉย ๆ ครับ 555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 27, 2010, 00:50:13 โดย sajairokjit »

ออฟไลน์ TheBestOrNothing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,309
เอาใจช่วยครับ พี่ Jimmy  ได้ข้อมูลดีๆจากเว็ปนี้มามากเลยครับ
การทดสอบการประหยัดน้ำมันนี้ก็สำคัญมากเลยครับ
แล้ว E250CGI จะเติมอะไรดีครับ ไม่มี V-power แล้วอะครับ  คงต้อง E10 แล้วมั้งครับ

วันก่อนรู้สึกจะเจอพี่ Jimmy ที่ MotorShow รอบ VIP ครับ  ที่บูธ Benz ครับ  พอดีผมจอง E250CGI เสร็จ ลงมาเหมือนพี่กำลังดู SLS อยู่อะครับ
แต่ไม่แน่ใจอะครับ 555+
ปล.พี่ Jimmy ใส่ชุดสีดำ คอกลม หรือป่าวครับ