ผู้เขียน หัวข้อ: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล  (อ่าน 47237 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 08:39:27 »
เช่นเดิมกับ User'sVoice ของผม รูปน้อย ข้อมูลไม่เยอะ ไม่ชอบก็ผ่านไป ไม่ต้องดราม่าครับ

6 ปีกว่าๆแล้ว กับ Honda Jazz GE คันนี้

ถ้าเป็นเด็ก หกขวบ เราจะยังจำเขาตอนแบเบาะแรกเกิด ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงตอนหิว ตอนจะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม พาไปทำวัคซีน ความวุ่นวายตอนแรกเกิดที่เหมือนกับเมื่อวานนี้

สำหรับรถยนต์ก็คงคล้าย ๆ กัน ยังจำอารมณ์ตอนไปรับรถใหม่ๆ ได้ดี ไปดมกลิ่นใหม่ๆของพลาสติกของผ้าหุ้มเบาะ สภาพห้องเครื่องที่สด ๆ ไร้ฝุ่น

จะต่างกันก็ตรงที่เด็กหกขวบความน่ารักน่าชังเริ่มจะหมดไป กลายเป็นเด็กพูดเก่งที่เรามองเห็นว่าสักวันจะกลายเป็นผู้ใหญ่อุจจาระเหม็นๆคนนึงเหมือน ๆเราที่เราไม่น่ารักน่าหยิกเหมือนก่อน ซึ่งสำหรับรถยนต์ ถ้ามันยังน่ารักน่าหยิกมันก็คงเป็นแบบนั้นตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้

Jazz GE ไม่ใช่ตัวเลือกที่ผมจะซื้อแน่ ๆ เพราะราคาค่าตัว 6 แสนกับรถคันเล็ก ๆ นี่ ผมต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะผมเกิดในยุกที่่เงิน หกแสนบาทกว่า ๆซื้อ Hyundai Tiburon 2.0 ได้คันนึง หรือจะมองไป MX5 NA ก็แค่แปดแสนกว่า Nissan NX Coupe ก็ห้าแสน หรือ Civic สามประตูคันละสามแสน

ภาพราคารถญี่ปุ่นคันน้อยยังฝังหัวผม แล้วยิ่งต้องไปอยู่เมืองนอกเมืองนากับเขาได้เห็นว่าราคารถบ้านเมืองอื่นมันแทบจะไม่ปรับขึ้นมากมาย Hyundai Tiburon $15,000 เมื่อปี 97 พอปลายปี 2008 รุ่นใหม่ก็ยังขายแค่ $16,000  มันยิ่งตอกย้ำว่า รถหกแสนคันน้อยนี่ ช่างแพงอะไรแบบนี้

แต่ความคิดนี้ไม่ได้เกิดกับชายหนุ่มวัย22 ปีที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ พ่อมีตังซื้อรถให้ เดินมาถามผมว่าHonda Jazz ดีไหม ผมก็ตอบแบบที่"ฟังเขามา" ว่ามันก็ไม่ได้ขี้เหร่นี่หว่า ผ่านไปไม่นานเจ้าของก็เรียกให้ไปดูรถวันรับรถ รับๆ รถมาแบบรู้ชะตาว่า นี่เราจะมีภาระต้องดูแลรถเพิ่มคันนึงแล้วเหรอเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2016, 10:05:58 โดย Jae »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 09:04:34 »
การออกแบบภายนอก ผมยอมรับเลยว่าสวย เป็นหนึ่งในรถฮอนด้าที่ผมชอบเลยล่ะ มีแค่ไฟหน้าขอบตาดูช้ำ ๆที่มองแล้วไม่ชอบเท่าไหร่แค่นั้นเอง ถามในฐานคนที่ไม่ใช้เจ้าของรถเอง ก็เรียกว่ารับได้ล่ะ

การขับขี่ ร่อน กระด้าง เหมือน ๆ กับรถขนาดเดียวกันนี้แทบทุกคันในตลาดที่ได้ขับมา จะหาความสบายก็ต่อเมื่อพื้นถนนราบเรียบได้ เข้าโค้งก็เหมือนรถขับหน้าคันอื่น ๆ ที่ฐานล้อไม่ยาวนัก วงเลี้ยวแอบกว้างเกินตัวไปอยู่บ้าง พวงมาลัยไฟฟ้าก็ทดมาแบบไว ๆ เน้นขับในเมืองซะมากเลย ทำให้เวลาออกถนนใหญ่ต้องใช้สมาธมากกว่าพลังในการควมคุมมาก ถึงจะใส่ยางหน้ากว้างแก้มเตี้ยก็ทำได้เพียงเพิ่มเสียงบดถนนให้เข้ามามากกว่าเดิมแค่นั้นเอง เบรคทีก็หน้าทิ่มท้ายปัดได้ง่าย ๆหากไม่ถนัดกัน เสมือนดังว่า ABS กับ ดิสก์สี่ล้อที่ให้มามีแค่ประดับไว้ในห้องเครื่องและดุมล้อเท่านั้นเอง ไม่ได้กระจายแรงให้มันสมดุลควบคุมเวลาเบรคกระทันหันสักเท่าไหร่ บางครั้งเบรคจนล้อสี่ล้อไถลไปแค่นั้นเอง หรือเพราะผมไปเทียบกับระบบเบรคคันอื่น ๆทีมี ASC มาให้ด้วยนะมันก็เลยดูไม่ดีซะอย่างนั้นไป

อัตราสิ้นเปลือง

ถ้าเทียบกับ March Yaris 1.2 ก็คงต้องบอกว่ายังห่างชั้นกันอยู่มาก ถึงน้ำหนักรถจะทำมาไกล้ๆ กันแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองในช่วงเวลา 6 ปีกว่า ๆนี้ดีกว่าMarch Yaris ได้เลย ถ้าขับไม่เกิน 100 นอกเมืองตามสภาพจราจรเหมือนกัน จะกินกว่า Eco Car อยู่ 10-20% เลยทีเดียว แต่ที่ได้มาชดเชยก็คงเป็นอัตราเร่งทีดีกว่า

 
จุกจิกในเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ

ผมว่ารถHonda นี่มันจุกจิกจริง ถึงตัวเครื่องยนต์จะทนทาน รับประทานน้ำมันน้อย เกียร์อัตโนมัติห้าสปีดนุ่มนวลพอได้ แต่อุปกรณ์และชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่อยู่กับตัวรถไม่ได้ทนทานอะไรมากมาย

เข็มน้ำมันบางทีไม่ขึ้นแกะมาซ่อมหายได้เองอีกแปลกดี

พัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่องอายุสั้นมากสีาหมื่นโลเสีย

ลูกปืนล้อ สี่หมื่นโลก็หอนเป็นสุนัขในฤดูผสมพันธุ์ มันจะเริ่มดังจากล้อหลัง ซ้ายที ขวาที และมาล้อหน้าจนครบสี่ล้อ ไม่รู้ว่า NTN นี่ เขาทำอะไรกับลูกปืนล้อ ถึงได้มีอายุแสนสั้น จัดของใหม่ไปถึงจะกลับมาเงียบเรียบร้อยดี แถมแอบเงียบกว่าของเดิมใหม่ ๆ อีกนะ ผ่อนคันเร่งปล่อยไหล เสียงหอนที่เคยมีหายไปอย่างน่าประหลาด

ก้านปรับเปาะที่เสียง่าย ๆ อ่อนแอเกินแรงมือของคนตัวใหญ่ที่เป็นนักยกน้ำหนักเก่าแก่ ยกทีทำเอาก้านยกหักติดมือมาด้วย เลยต้องถอดเบาะมาซ่อมแซมกันซักหน่อย

ซีลข้างเครื่อง ไม่รู้เพราะน้ำมันเครื่องศูนย์ หรือเพราะ น้ำมันเกียร์ศูนย์ ที่ทำให้น้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันเกียร์มันซึมออก แต่ดีกว่าในประกันเลยจัดไปสองตัว แก้ปัญหาซีลระหว่างเครื่องและเกียร์ หยุดซึมได้

หลอดไฟหรี่ ขาดตอนอายุรถได้ไม่นาน เห็นว่าเปลี่ยนเองไม่ยาก หลอดละ 10 บาท จะขับไปศูนย์ก็ไม่คุ้มค่าน้ำมันละ เลยต้องจับเปลี่ยนไป สองข้างอายุไม่นานครับ เปิดก็ไม่บ่อย แต่หรอยเงินไป 20 แล้ว

ก้านยกเบรคมือ กับรถแค่สามปี มีอาการเริ่มเหนี่ยว อาจจะขาดน้ำยาป้องกันแดดหรือไรไม่ทราบ ถลอกไปหมด เหมือนกับรถสิบกว่าปีซะงั้น

แบตเตอรี่ลูกขนาดเล็กมาก โอเค ราคาถูกจริง 700 บาทได้แบตใหม่ แต่เปิดไฟหน้าพอแอร์ตัดไฟวูบ ๆ ออกตัวเบา ๆ ช่วงแอร์ตัดก็วูบ เลยต้องจัดแบตลูกโต เอาถาดหุ้มออก ปัญหาถึงจะดูน้อยลงไป

โช๊ครั่ว ไม่อยู่ในประกัน ต้องจ่ายเอง เลขไมล์แค่สามหมื่น เสียไปต้นนึง อ๊ะ ยกให้เป็นDefect ในการผลิต คิดซะว่า 2000 ค่าโช๊คนี่ฟาดเคราะห์ไป

หลอดไฟหน้าปัทม์และปุ่มควบคุม มันเริ่มจากปุ่ม AC ก่อน ที่เวลาเปิดไฟหรี่ ไฟภายในสวิทช์จะติด พอไฟมันเสีย หากกดปิด AC ไป ตอนมืด ๆจะหาปุ่ม AC ไม่เจอเอาซะงั้น แล้วสุดท้ายตัวไฟแสดงสถานะว่าAC ทำงานก็จะดับลงไปด้วย เหมือนจูงมือกันกลับบ้านเก่าซะอย่างนั้น พอซักพัก ไฟสวิทช์ตั้งความเย็น ไฟเลือนอากาศภายนอก ก็จะดับลงตาม ๆ กันไปอีกเช่นกัน เฮ้ย มันจะเอาหลอดห่วย ๆมาใส่ที่มีอายุแค่สองสามปีเองเหรอนี่ ต้องมาคอยรื้อใส่กันใหม่

ถ้าจะบอกเครื่องยนต์ทนทานผมเองก็ไม่กล้าพูดเต็มปากหากมีแค่เจ้าคันนี้คันเดียว เพราะปีแรกที่ได้รถคันนี้มา เจ้าของรถก็สอบชิงทุนไปอยู่ญี่ปุ่นยังไม่กลับจนถึงวันนี้ ทำให้เลขไมล์รถไม่ได้แตะ 6 หมื่นโล เพราะส่วนใหญ่คุณน้าพ่อของเจ้าของรถหรือคนจ่ายตังซื้อก็มีรถอีกคันชับ ผมก็ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงให้เท่านั้นเอง แต่จากประสพการณ์คนรอบ ๆ ตัว City เครื่องเดียวกัน มันบอกไว้อย่างนั้นว่าเครื่องตัวนี้เกียร์ตัวนี้ เกิน 4 แสนโลได้สบาย ๆ หากดูแลดี

เครื่องเสียงติดรถ

ที่เป็นแบบBuilt In ถ้ามีโอกาศได้เปลี่ยนหลอดไฟชุดควบคุมแอร์ คงได้ถอดวิทยุออกมา จะเห็นเจ้าปลั๊ก USB ทิ้งลอย ๆ ไว้ไม่ได้เสียบ นี่มันจะงกไปไหนฟระฮอนด้า แค่เอาสายUSB ที่ต้นทุนไม่ถึงสิบบาทมาเสียบแล้วลูกค้าจะใช้ USB ได้ จะทำให้ระบบเศรษฐกิจภายในองค์กรล่มสลายเลยหรือ ? มันอะไรกัน ?



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2016, 18:20:35 โดย Jae »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 10:04:32 »
พอมองรวม ๆ แล้ว ถึงการใช้งาน ถ้าไม่นับพวกจุกจิก มันก็เป็นรถที่ใช้งานได้ดีไม่งอแงอะไรมากมาย ตอบสนองการขับขี่จากจุดเอไปจุดบีได้ สามารถใช้เป็นรถที่ขับไปพักผ่อนไกล ๆได้ ประหยัดน้ำมันพอตัว พับเบาะนอนหงายไปกับเบาะหลัง หรือจะพับเบาะหลังลงมาใส่ของบรรทุกก็ได้ การเก็บเสียงไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคแต่ก็ดีกว่าอีโคคาร์ในปัจจุบันอยู่นิดหน่อย

สามปีกว่า ๆ ที่เจ้าของเอามาจอดให้ดูแล ขับไปไหนมาไหนบ้าง  ไม่ถึงกับรัก ไม่ถึงกับชัง มีส่วนที่ชอบบ้าง มีส่วนที่ไม่ชอบบ้าง จนถึงวันทีเจ้าของรถตัดสินใจว่าคงไม่กลับมาไทย ให้จัดการเรื่องขายรถให้ ก็เรียกว่าเป็นรถที่ดีครับ ไม่แปลกใจลงขายสองวันก็มัดจำเงินแล้ว เต๊นท์รถโทรตอมอย่างผึ้งตอมกระปุกน้ำหวานร้านขายน้ำแข็งใส

เทียบกับ GK รุ่นปัจจุบัน เรียกว่าไม่แปลกใจว่าทำGK ยากแค่ไหน เพราะจะให้ดีกว่า GE มันยากจริง ๆ สำหรับรถที่ต้นทุนต่ำแต่ต้องการกำไรเยอะ ๆแบบนี้ ประกอบกับ ยี่ห้อHonda ตั้งขายเท่าไหร่ ก็มีคนซื้อถ้าไม่ได้ตั้งแพงกว่ารถป้ายแดงครับ

หวังว่าคงได้ประโยชน์จากการอ่านครับ

ออฟไลน์ Silverliner

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 84
    • อีเมล์
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 11:03:34 »
ปรบมือให้สำหรับการแบ่งปันครับ
รถตระกูลนี้มันกลายเป็นตำนานละครับ
ไม่รู้ว่ายอดขายรวมๆทุกรุ่นในโลกนี้เท่าไหร่แล้ว

แม้นว่าจะกระด้าง แต่ผมไม่ถือ คิดเสียว่าดีกว่ายวบยาบ
นั่งสบายเกินตัวทั้งหน้าหลัง เข้าออกง่ายเพราะแทบไม่ต้องก้ม
ขับง่ายจอดง่าย ทัศวิสัยแจ่มรอบคัน
แอร์เย็น ค่าบำรุงรักษาต่ำ ค่ายางไม่แพง
จุของสุดๆ

จะเอาอะไรมากมายกับรถราคาถูกสำหรับประชาชนทั่วไป

อย่างน้อยนี่ก็เป็นรถคันที่ประธานบริษัทแห่งหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ใช้ประจำ
ขับเอง  ดูแลเอง  ในขณะที่ให้ลูกน้องขับเบ๊นซ์ บีเอ็ม แคมรี่

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 15:43:57 »
ระหว่าง March Jazz GE กับ Yaris

คุณ Jae ชอบรถคันไหนมากกว่ากันคับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 16:28:02 »
ระหว่าง March Jazz GE กับ Yaris

คุณ Jae ชอบรถคันไหนมากกว่ากันคับ

ผมชอบดีไซน์แจ๊ซ
อัตราสิ้นเปลืองมาร์ช
การควบคุมช่วงล่างYaris
 แต่ไม่ชอบความแข็งกระด้างของตัวไหนทั้งนั้น

ถ้าซื้อคันเดียวผมก็ซื้อมาร์ช เพราะดูแลง่ายสุดครับ รถพวกนี้เวลาเสียก็พอๆกัน พัดลมแจ๊ซ ผมลืมเขียนไปว่าเปลี่ยนตอนสี่หมื่นกว่าโลเหมือนกัน สองตัวแล้ว แต่มาร์ชใช้ตัวเดียวแกะซ่อมได้อีก ยาริสยังไม่ทราบชะตากรรมต่อไป

ยาริสเกลียดมันตอนขึ้นทางชันมากๆ ลุ้นเหงื่อแตกทุกที ถ้าเอาไปไหนต้องขึ้นเนินจะไม่พาไปด้วยแน่ๆ กับรำคาาญเสียงเวลาหมุนพวงมาลัยดังฝืดๆ

นานาจิตตังครับของแบบนี้

ออฟไลน์ jkdragon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 177
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 16:48:46 »
คิดถึงเจ้า ge รถคันแรกในชีวิตของผมเลยครับ ซื้อเพราะแฟนกำลังจะมีลูกคนแรก ใช้มา 5 ปี ส่งต่อให้น้องแฟนใช้อีก 2 ปี ยังไม่เคยได้ซ่อมใหญ่เลยสักครั้ง  ถือว่าทนครับ ของผมไม่จุกจิกครับ ใช้มา 5 ปี ไม่มีอาการอะไรที่ต้องเอาเข้าศูนย์ให้แก้ไขเลยสักครั้งเดียว ถือว่าโชคดีที่ได้รถไม่มีปัญหา

ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 579
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 16:52:36 »
ผมเคยขับ Jazz GE
เป็น รถแฟน บริษัทให้ใช้  ใช้ตั้งแต่ออกป้ายแดง
แฟนผม ใช้ไม่ถนอม
แต่ใช้ 3 ปี จนถึง 70,000 km  ไม่มีอะไรเสียเลย ไม่จุกจิกเลย แม้ว่า จะไม่ถนอม เพราะ รถบริษัท
maintain อย่างเดียว น้ำมันเครื่องก็ใช้แบบถูกๆ
เครื่องกันไม่สั่น แบบ Accord นิ่งจนถึง 70,000 km

ผมได้ขับบ่อย  การขับขี่ เกิน 110 km/h  ให้ระวัง ถ้าเปลี่ยนเลนเร็วๆ  มันไม่ได้เรื่อง แต่ก็ใช้ได้กับคนขับเรื่อยๆ ไม่ซิ่ง
กินน้ำมันในเมือง แบบรถติดหนักๆ ในสีลม  11-12 km/l  กดเช็คตลอด 3 ปี
แล้ว ก็ขายทิ้งไปแล้ว  ไม่มีอะไรติดใจ แต่ก็ไม่ได้เข็ด

จากนั้น ก็มี March อีกคัน ที่ น้องแฟนใช้  ใช้ไม่ทันไร  จากป้ายแดง  เครื่อง สั่นอย่างกับแท็กซี่เก่าๆ (เครื่อง 3 สูบ)
แต่ข้างในกว้าง นั่งสบายเหมือนกัน   ใช้ไปก็ขายทิ้ง  ไม่ติดใจ และ ไม่กลับไปใช้ nissan อีกต่อไป
ที่บ้าน ใช้ nissan ป้ายแดงมา 3 คัน หลังจากคันที่ 3 เข็ดตลอดกาล

ปล.  รถแฟนผม  จอดในร่มเป็นส่วนใหญ่  ไม่ตากแดด  มันอาจจะทนทานกว่า  รถตากแดดทั้งวัน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2016, 17:02:19 โดย peterW »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 19:56:24 »
ผมเคยขับ Jazz GE
เป็น รถแฟน บริษัทให้ใช้  .........

ปล.  รถแฟนผม  จอดในร่มเป็นส่วนใหญ่  ไม่ตากแดด  มันอาจจะทนทานกว่า  รถตากแดดทั้งวัน

ใช่เลยครับรถคันนี้ปีแรกจอดตากแดดวันละแปดชั่วโมง แต่พอหลังจากนั้นเก็บเข้าโรงจอด

ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2016, 22:30:03 »
ใช้งานน้อยมากๆเลยครับ ประมาณปีละหมื่นโลป่ะคับเนี่ย (ดูจากรูปเลขไมล์)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,334
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 07:36:28 »
เคยใช้อยู่ครับ ยืมบ้านญาติมาใช้ เวลาเอารถตัวเองเข้าอู่

ช่วงล่างกระด้างจริงๆ ต่างจาก City/ FD/ Freed ที่ผมเคยขับเลย

City ที่ออกมา Gen เดียวกัน ก็ไม่กระด้างเหมือน Jazz

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 10:27:34 »
ใช้งานน้อยมากๆเลยครับ ประมาณปีละหมื่นโลป่ะคับเนี่ย (ดูจากรูปเลขไมล์)

ปีแรกสองหมื่นห้าพันโลครับ อีกสามหมื่นโลนี่ 5ปีหลังครับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2016, 05:38:21 »
ก็พอโอเคอยู่นะครับ

ออฟไลน์ tubtup

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
    • อีเมล์
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 13:05:30 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
ผมยังอยากหา JP มือสองมาใช้เลยครับ
ติดที่ราคาอยู่บนดอยไม่ยอมลงมาสักที 555

ออฟไลน์ GaB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
  • #StickShiftLife
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 18:49:42 »
ผมเองใช้ GE อยู่เหมือนกัน แต่เป็นตัว Hybrid ครับ ตอนนี้ครบ 8 หมื่นกม.แล้ว มีเปลี่ยนอย่างเดียวคือแบ็ตหน้ารถกับเข้าศูนย์ฯตามระยะปกติ กับถูกเรียกกลับไปให้เปลี่ยนเซนเซอร์แอร์แบ็คตามที่ Honda ออกมาประกาศ คันนี้ตอนเช็ค 8 หมื่นกม.มีเปลี่ยนกรองเบนซินไป (เช็ค 8 หมื่นกม. เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง+กรอง น้ำมันเกียร์ กรองเบนซิน หมดค่าใช้จ่ายไป 4 พันกว่าบาท เป็นการเข้าศูนย์ฯที่แพงที่สุดตั้งแต่ใช้คันนี้มา) ส่วนอาการที่เวลาคอมฯแอร์ทำงาน ในตัว Hybrid ไฟหน้า-ไฟท้ายจะไม่กระพริบเหมือนตัวธรรมดาครับ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน

ส่วนปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ผมเจอในคันนี้มาคือ
- เวลาวิ่งลุยฝนแล้วน้ำมันกระเซ็นออกมาเป็นคราบจากช่องเติมน้ำมัน ให้ศูนย์ฯแก้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนป้ายแดง (คงแก้ง่ายๆด้วยการยาซิลิโคนหรืออะไรทำนองนี้ แต่แก้ได้จบก็พอใจแล้ว)
- เซนเซอร์ถอยหลังเพี้ยน เป็นตอนใช้มาประมาณ 2 ปีกว่า ไม่รู้เพราะมันชื้นหรืออะไร อาการคือร้องเตือนทั้งๆที่ไม่มีอะไรอยู่ข้างหลัง แต่ใช้ไปใช้มา อยู่ดีๆก็กลับมาปกติ
- ช่องเป่าแอร์ลงเท้าค้าง (ตัว Hybrid จะได้แอร์แบบ Auto มา ผมไม่แน่ใจว่ากลไกข้างในจะเหมือนตัวธรรมดามั้ย) เป็นตอนอายุ 3 ปีกว่าๆ อาการคือ พอกดเป่าหน้า+เท้าไว้ แล้วจะกดให้กลับมาเป่าหน้าอย่างเดียว ช่องที่เป่าเท้ามันยังเป่าอยู่ด้วย ทำให้แอร์เป่าหน้าได้ไม่เต็มที่ (รุ่นนี้ถ้าเปิดเป่าหน้า+เท้า มันจะเป่าเท้ามากกว่าหน้า) ตอนแรกจะเอาเข้าศูนย์ฯแล้ว แต่ไปๆมาๆก็หายเองซะงั้น แต่ผมก็ไม่ได้กดเป่าเท้าอีกเลยกลัวมันค้างอีก

จาก Jazz GD มา GE มันดีขึ้นแบบรู้สึกได้ แต่พอจาก GE มา GK ส่วนตัวผมว่ามันเหมือนถอยหลังลงนิดๆยังไงไม่รู้ เช่น เบรกหลังรุ่นธรรมดาจากดิสก์มาเป็นดรัม (อาจจะไม่ได้แย่ลงในเรื่องสมรรถนะ แต่มันแย่ลงในความรู้สึก) พวกที่วางแก้วบนคอนโซลจากที่มี 2 ฝั่งก็เหลือฝั่งคนขับฝั่งเดียว (นี้เป็นข้อดีที่ผมชอบมากๆในตัว GE) เป็นต้น

ทุกวันนี้ผมเองยังมีความคิดว่า GE ตัวผลิตญี่ปุ่น ยังดูน่าใช้กว่า GK SV+ อีกครับ


ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,982
Re: User's Voice : Honda Jazz GE กับหกปีกว่าๆที่ต้องดูแล
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2016, 09:31:43 »
รถท่านผมว่าค่อนค่างจุกจิกนะครับ
ผม City 2012 ขับมา 4ตอนนี้ใช้ไป 1.3 แสน
อะไหล่ที่เปลี่ยนไปคือยาง กับแบตตารี่ครับ นอกนั้นก็เข้าศูนย์ตามระยะ
แต่คิดว่าจากนี้ไปคงเริ่อมมีอาการต้องเปลี่ยนจุกจิกบ้างแล้วครับ