เป็นเรื่องของพัฒนาการด้านเทคโนโลยยี่รถ
คงไปหยุดยั้งไว้ไม่ได้ แต่มันช่วยอำนวยความสะดวก
ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
แม้แต่อุปกรณ์ที่ไม่ใช่เน้นเพื่อความสะดวกไฮเทค ที่ไม่ได้เน้นข่วยเรื่องความปลอดภัยเป็นวัตถุประสงค์หลัก
ก็ทำให้เราเหนื่อยล้าช้าลง สมาธิขับขี่ดีขึ้นปลอดภัยขึ้น
เช่น ทีปัดน้ำฝนอัตโนมัติ แต่ก่อนเคยขับรถขณะฝนตกหนัก/เบา สลับกันไป ไหนจะต้องคอยปรับความเร็วทีปัดน้ำฝน
เปลี่ยนไปมาน่ารำคาญ แล้วถ้าต้องเปิดไฟเลี้ยวหรือแซงด้วย สมาธิที่ต้องมากกว่าปกติเมื่อต้องควบคุมรถขณะฝนตก สมาธิเลือกใช้มือปรับเลือกทั้งสองอย่าง เฮ้อ...เวียนหัวดี พอมีที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่ตั้งไว้ตลอดเวลาจนลืมไปเลย แต่สบายขึ้นเยอะ ฝนตกเมื่อไรจัดการให้เสร็จ
อีกอันไฟหน้าอัตโนมัติ ค่ำลงก็จัดการให้เรียบร้อย ยิ่งในเมืองเดี๋ยวนี้ไฟถนนสว่างจนลืมเปิดไฟกันหลายคัน
บางอย่างผมก็อยากให้มัน Manual อยู่นะครับ....
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำได้ของ Fortuner ตัวก่อน ปรับตามความสูงรถและการบรรทุกน้ำหนักได้ พอเป็นตัวใหม่ไฟหน้าอัตโนมัติแถมยังส่องมุมเงยแยงตารถคันหน้า ปรับก็ไม่ได้
อีกอันคือโหมด Acc-on-start ของกุญแจระบบบิด มันสามารถเลือกเปิดแค่ Acc เพื่อเปิดวิทยุอย่างเดียวได้ระหว่างจอดรอ เคยใช้ keyless ของ Prius แล้วมันไม่มีโหมดนี้ มีแค่ดับเครื่องกับสตาร์ทเครื่อง (หรือจริงๆแล้วมันเปิดวิทยุได้เลยโดยไม่ต้องกด start)
อันแรกไม่น่าใช่ความผิดของระบบอัตโนมัติ น่าจะเป็นความผิดของToyotaมากกว่าที่ไม่ใส่มาให้เรียบร้อย
ส่วนอย่างที่สอง รถผมเปิดon ก็เปิดวิทยุฟังได้ แต่สักพักก็ปิดตัดไฟเองไม่ให้ฟังนานเพื่อประหยัดไฟครับ