หลังจากเปิดตัวขายในจำนวนจำกัด พร้อมเผยราคาในงานมอเตอร์โชว์ (2,549,000 บาท) ในปัจจุบันทราบว่าล่าสุดหลังจบงานยังมีรถเหลืออยู่ แต่ไม่ทราบรุ่นว่าเป็น S60/V60 อย่างละกี่คัน แต่น่าจะเหลือไม่ถึง 10 คันแล้ว ณ จุดนี้
นี่คือ Volvo S60T5 รุ่นธรรมดาที่ถูกนำมาตกแต่งเพิ่มเติม ภายนอก มีกันชนหน้า/หลัง สเกิร์ต ตูดเป็ดหลัง และล้อ 19 นิ้วของ Polestar ซึ่งล้อลายนี้ไม่มีให้เลือกในแคตตาล็อกของแต่งของ Volvo ส่วนภายในนั้นเหมือนรุ่นธรรมดามาก มีแค่หัวเกียร์ Polestar โลโก้สีฟ้า ในขณะที่ส่วนประกอบเกี่ยวขับความแรงนั้น ก็มีกล่องจูนโดย Polestar กรองอากาศแบบ High-flow ใส่แทนกรองเดิมในกล่อง และชุดท่อสปอร์ตของ Polestar ทั้งหมดนี้ทำให้แรงม้าเพิ่มจาก 220 เป็น 245 แรงม้า ซึ่งได้มาจากการนำแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรให้ลากต่อได้รอบสูงกว่าเดิมเล็กน้อย
ถ้าคุณซื้อ S60T5 ธรรมดามาใส่ของแต่งให้ได้ใกล้เคียงกับรถคันนี้ คุณต้องจ่ายเงินรวมตัวรถไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อนำราคาของ T5 Polestar Performance มาดูจะพบว่าคุณเซฟเงินไปเกือบแสนบาท และได้รถ Limited Edition ที่ทั้งประเทศมี 14 คัน (นับเฉพาะ S60)
ในการลองขับ พบว่าถึงจะมี 245 แรงม้า แต่ทว่าน้ำหนักตัวทะลุ 1.6 ตัน ใกล้เคียงกับ Lexus IS200t F-Sport และหนักกว่า BMW 320i/320d ทำให้มันทำตัวเลขได้ไม่ไวอย่างที่คิด ถ้าคิดจะเอาไปฆ่า Scirocco/Golf GTi/CLA250 คุณลืมไปได้เลยครับ แม้ว่าพอเข้าช่วงความเร็วปลายม้า 245 ตัวจะช่วยดันให้รถไปได้ไวขึ้น และแพ้แค่ IS200t ก็ตาม
ช่วงล่าง..ถ้าคุณคิดว่ามันจะแข็งขึ้นนิดๆเหมือนรถซีดานรุ่น "พยายามจะสปอร์ต" ทั่วไป..คุณคิดผิดครับ ช่วงล่างจาก Polestar ที่เขาเคลมว่าแข็งขึ้นแค่ 15-20% เอาเข้าจริงผมว่ามันเกินนั้นไปเยอะครับ นิสัยของช่วงล่างนั้นถ้าหลอกผมว่าไปเอาสตรัทปรับเกลียวสปอร์ตจากยุโรปมาใส่ผมก็เชื่อ โช้ครุ่นนี้ถ้าให้ปู่ให้ย่านั่งมีโดนตัดจากกองมรดกแน่นอนเพราะมันแข็ง แข็งจนบางครั้งเวลาผมขับบนถนนขรุขระมากๆยังปวดเชิงกรานจังหวะบัมพ์..แต่ก็ยังดีว่ามันเป็นการบัมพ์หนักๆแน่นๆ เน้นๆทีเดียวจบ ไม่ได้แข็งแบบกระเด้งดีด
แต่พอใช้ความเร็วสัก 120 ขึ้นไป เหมือนช่วงล่างจะอยู่ในแดนสุขาวดีของมัน มันนิ่ง มั่น แบบหาตัวจับยาก เมื่อโยกเปลี่ยนเลนแรงๆก็ไม่ออกอาการเสียว ผมลองหักเปลี่ยนเลนซ้ายขวาแรงๆที่ 130 ก็ยังไม่ออกอาการ สะบัดพวงมาลัยที่ 140 ยางเพิ่งจะร้องเหมือนรถทั่วไปสะบัดที่ 100 ส่วนการทรงตัวที่ความเร็วสูง ไม่ต้องห่วง 200 ยังนิ่ง และน่าจะเป็นรถซาลูนราคาไม่เกิน 3.5 ล้านที่วิ่งทางตรงนิ่งที่สุดในขณะนี้
คุณอาจจะถามว่า แล้ว WRX/WRX STi ล่ะ? ช่วงล่างพวกนั้นแข็งเหมือนกันครับ แต่จังหวะ Rebound โช้คของ Subaru จะแพ้ถนนที่ขรุขระเป็นลอน ตัวรถจะดิ้นชัดเจนกว่า Volvo ที่เก็บอาการได้อยู่หมัด
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ทำลายความสนุกอยู่บ้าง พวงมาลัยของมันทดมาสำหรับการขับบนไฮเวย์ ดังนั้นอัตราทดจึงเฉื่อยไม่ต่างกับรถบ้านอย่าง Nissan Tiida ของผม วิ่งตรงๆเร็วๆมันก็ดี แต่เวลาขับเล่นโค้งบนภูเขา ความสนุกห่างไกลจาก Mini และ WRX มาก นอกจากนี้การเป็นรถขับหน้าที่น้ำหนักตัว 1.6 ตันทำให้เวลาเข้าโค้งแคบ เร็ว แรง อาการอันเดอร์จะออกชัดเจน ในโค้งเดียวกัน ความเร็วเท่ากัน WRX ผ่านไปเหมือนเล่นโป้งแปะกับเด็กและ 320d LCI มีเสียงยาง แต่หน้ารถวิ่งตรงแนวกว่า
ส่วนเวลาที่คุณไม่ได้ออกรบกับใคร มันก็คือ Volvo สมัยใหม่คันหนึ่งที่มีอุปกรณ์ครบครัน (ยกเว้นระบบนำทาง) เบาะนั่งสบายตัว ไม่เน้นมาดเบาะรถแข่ง ไม่ดันข้างดันขามากนัก พวงมาลัยปรับหนืดได้ 3 ระดับ ซึ่งระดับเบาสุดผู้หญิงขับได้สบาย หน้าปัดเป็นจอ TFT ลูกเล่นเยอะ จอกลาง Multifunction ปรับการทำงานระบบความปลอดภัยและระบบอื่นๆของตัวรถแบบใช้ Software ได้คุ้ม BMW และ Lexus น่าจะมาดูเป็นตัวอย่างไว้หน่อยก็ดี
ระบบ Adaptive Cruise Control ทำงานได้น่าทึ่ง แค่เซ็ตความเร็วที่ต้องการ รถจะรักษาความเร็วให้ มีรถช้า->เบรก ทางโล่ง-> ข้างหน้ารถหยุด ->หยุดให้ แต่ไม่ได้หยุดนุ่มนัก ให้นึกถึงคนได้ใบขับขี่ใหม่ที่ขับค่อนข้างเร็ว ถ้ารถข้างหน้าเลื่อนออกภายใน 2 วิ -> ไปต่อ วิ่งตามคันหน้า รักษาระยะให้เอง ถ้าหยุดกับที่นานเกิน 2 วิ -> ระบบจะตัดการทำงาน แต่คาเบรกไว้ให้ เวลาจะไปต่อก็กด Cruise
ใช้การได้ดี สบายมาก แต่ต้องระวังเวลารถเบียดจากด้านข้างเอาไว้ให้มาก เพราะเรดาร์จะมองไม่เห็น ต่อให้เป็นรถเชิดชัยทัวร์ก็ตาม
สรุป
Volvo สไตล์วัยรุ่น ท่อดัง ช่วงล่างปึ้กแน่นมั่น ความแรงยังไม่มากอย่างที่หวัง พวงมาลัยกับบาลานซ์ของรถยังสู้พวกขับหลังไม่ได้ แต่ดูราคาเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้แล้วน่าสน แต่ป่านนี้น่าจะเหลือให้ซื้อไม่กี่คัน
Alternative Choice
ถ้าคุณอยากได้แรงแบบนี้ แต่ถูกกว่าและนั่งสบายขึ้น รุ่น T5 ตัวธรรมดาบวกกล่องจูน จบที่งบราว 2.3 ล้านและเผลอวิ่งทางตรงจะแรงกว่า T5 Polestar ล้อ 19 คันนี้เสียอีก
