ผู้เขียน หัวข้อ: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ  (อ่าน 28365 ครั้ง)

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
สวัสดีครับ วันนี้เนื่องจากผมเอารถไปทำโช๊ค เลยได้มีโอกาสไล่ดูว่าตัวเองใช้จ่ายกับเจ้า Nissan March ไปเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
นับตั้งแต่วันที่ซื้อมา ผมอยากให้ข้อมูลนี้เป็นข้อคิดที่ดี สำหรับคนที่อยากมีรถ อาจจะเพราะความอยากได้ หรือความจำเป็นต้องมีต้องใช้ครับ
และอยากจะให้ข้อมูลแก่ผู้ผลิตว่า สำหรับการใช้รถเล็ก 1 คัน ควรปรับปรุง option แนวคิดการออกแบบอย่างไรบ้างครับ

เริ่มต้นนะครับ เจ้า Nissan March ผมซื้อมา 459,000 บาท (จ่ายค่าประกัน 1.2 หมื่น ค่าจดทะเบียน 2,700 บาท ส่วนฟิมล์ได้แถมมาฟรี ของ Hi-cool) เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ค. 2554 จดทะเบียนวันที่ 19 ส.ค. 2554 มีค่าใช้จ่ายต่อปี มีรายละเอียด ดังนี้

1. ปี 2554 มีดังนี้
1.1 วันที่ 30 ก.ค. 2554 ติดตั้งสัญญาณกันขโมย ร้านแถวบ้าน 2,500 บาท
1.2 วันที่ 6 ส.ค. 2554 ซื้อที่ครอบกันกระแทกฝาท้ายกันรอย สีดำ จากในคลับ ราคา 890 บาท
1.2 วันที่ 3 ก.ย. 2554 ที่ระยะ 1,100 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาวังหิน (ปิดไปแล้ว) ดำเนินการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และน้ำยาล้างห้องเครื่อง (83 บาท เจ็บใจ โดนหลอกครั้งแรกครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 937.86 บาท
1.3 วันที่ 28 พ.ย. 2554 ติดตั้งที่เก็บของด้านหน้าคอลโซล ที่สยามนิสสัน...สาขาเกษตร นวมินทร์ (โดนซื้อกิจการไปแล้วครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 1,079.52 บาท
รวมเป็นเงิน 5,425.38 บาท (ขอไม่รวมค่าภาษีประจำปี ปีนี้นะครับ เพราะเสียไปตอนซื้อรถแล้ว)

2. ปี 2555 มีดังนี้
2.1 วันที่ 28 ม.ค. 2555 ที่ระยะ 3,989 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 849.50 บาท
2.2 วันที่ 26 ก.ค. 2555 ที่ระยะ 8,144 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 849.50 บาท
2.3 วันที่ 6 ส.ค. 2555 ชำระค่าภาษีประจำปี 2555 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 2,896 บาท

3. ปี 2556 มีดังนี้
3.1 วันที่ 19 ม.ค. 2556 ที่ระยะ 13,227 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และน้ำยาล้างห้องเครื่อง (30 บาท โดนหลอกครั้งที่ 2 ครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 1,274.05 บาท
3.2 วันที่ 29 ก.ค. 2556 ชำระค่าภาษีประจำปี 2556 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 2,471.05 บาท

หลังจากนี้ รายการจะเยอะมาก ครับ แต่จะพูดราคาที่เด่นๆ ให้ฟังนะครับ

4. ปี 2557 มีดังนี้
4.1 วันที่ 7 ม.ค. 2557 ที่ระยะ 19,904 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาพหลโยธิน 48 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และทำการตรวจเช็คระบบเบรค ประกอบด้วย จาระบี น้ำมันเบรค น้ำยาล้างของ ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 2,435.21 บาท
4.2 รายการเคลม ประกอบด้วย เคลมแผงเบรคหลัง ผ้าเบรคหลัง ลูกปืนล้อหลัง ชุดมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ ชุดคอลย์เย็น (น้ำยา โอริง แหวนยาง) ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ รอบเดินเบา ตั้งสายพาน ฟรีหมด
4.3 วันที่ 20 พ.ค. 2557 ที่ระยะ 21,972 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาพหลโยธิน 48 เนื่องจากข้อที่ 4.2 มีการเคลมชุดคอลย์เย็น เจ้าหน้าที่จัดการใส่กรองแอร์พร้อมฝาปิดให้ ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 214 บาท (น่ารักมากครับ ขอชมเชยเลย)
4.4 วันที่ 17 ก.ค. 2557 ชำระค่าภาษีประจำปี 2557 = 1,197 บาท
4.5 วันที่ 22 ก.ย. 2557 ที่ระยะ 24,041 กิโลเมตร ที่ สีเหลือง ของ BS หลักสี่ ดำเนินการเปลี่ยนยาง Firestone TZ700 165/70 R14 จำนวน 4 เส้น ราคารวมตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ หักยากเก่า = 6,600 บาท
4.6 วันที่ 30 ก.ย. 2557 ที่ระยะ 24,569 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนโช๊คหลังแท้ 1 คู่ (1,600) ค่าแรง (200) และปิดช่องแอร์กันหนูเข้า (200) = 2,000 บาท
4.7 วันที่ 2 ต.ค. 2557 ที่ระยะ 24,580 กิโลเมตร ที่ สีเหลือง ของ BS วิภาวดี ดำเนินการเติมลมในโตรเจน 2 ปี 4 ล้อ = 200 บาท และซื้อน้ำมันเครื่อง PTT 0W-20 ที่ร้านดังแถวสายไหม (สาขาลาดพร้าว 71) หักบัตรเติมน้ำมันแล้ว = 650 บาท
4.8 วันที่ 31 ต.ต. 2557 ที่ระยะ 25,111 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 4.7 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) พร้อมกรองเทียบ (Full, 70) = 170 บาท
4.9 วันที่ 4 ธ.ค. 2557 ที่ระยะ 25,900 กิโลเมตร ที่ร้านแบตเตอรี่ดัง แถวลาดพร้าว 71 ดำเนินการเปลี่ยนแบตเตอรี่ GS Q85 (ตรงรุ่นใช้ I-stop ได้) = 2,100 บาท (รวม turn รวมไปเปลี่ยนหน้าร้าน)
รวมเป็นเงิน 15,566.21 บาท

5. ปี 2558 มีดังนี้
5.1 วันที่ 6 ม.ค. 2558 ที่ระยะ 26,936 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ NS-3 CVT ประกอบด้วย น้ำมันเกียร์ NS-3 ที่ซื้อมาจากในคลับ (1,000) ค่าแรงเปลี่ยนถ่ายและล้างแคร้งเกียร์ (200) =1,200 บาท
5.2 วันที่ 23 เม.ย. 2558 ทำการซื้อน้ำมันเครื่อง บางจาก GE Syntech E20 (5W-30) 4 ลิตร ราคา 579x2 = 1,158 บาท
5.3 วันที่ 26 พ.ค. 2558 ที่ระยะ 29,812 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) พร้อมกรองแท้ (200) และใบปัดน้ำฝน Bosch (300) = 600 บาท
5.4 ปล...ก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนเฉพาะยางปัดน้ำฝน จำนวน 2 ครั้ง แต่จำราคาไม่ได้ (ไม่เกิน 200 บาท)
5.5 วันที่ 3 ส.ค. 2558 ชำระค่าภาษีประจำปี 2558 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 4,155 บาท

6. ปี 2559 มีดังนี้
6.1 วันที่ 9 ม.ค. 2559 ดำเนินการซื้อกรองแอร์จากในคลับ 3 อัน x 120 = 360 บาท
6.2 วันที่ 10 ม.ค. 2559 ที่ระยะ 35,541 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) ไม่เปลี่ยนกรอง, ทำการสลับยางถ่วงล้อหน้า (80x2=160) เปลี่ยนกรองแอร์ตามข้อ 6.1 และเปลี่ยนหลอดไฟหรี่ (20) = 280 บาท
6.3 วันที่ 9 พ.ค. 2559 ที่ระยะ 40,055 กิโลเมตร ที่อู่ในคลับ ดำเนินการถ่ายน้ำยาหม้อน้ำ (หัวเชื้อและค่าแรง = 450), เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค (300), นำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย พร้อมกรอง (300), กรองอากาศ (200) = 1,300 บาท
6.4 วันที่ 12 มิ.ย. 2559 ที่ระยะ 40,113 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการ เปลี่ยนบูชปีกนกตัวเล็ก-ใหญ่ พร้อมอัดบูชและใส่ = 1,000 บาท และช่วง ก.ค. 2559 เปลี่ยนปัดน้ำฝน 1 คู่ = 450 บาท รวม 1,450 บาท
6.5 วันที่ 9 ก.ค. 2559 ชำระค่าภาษีประจำปี 2559 = 1,077.30 บาท
6.6 วันที่ 29 ก.ย. 2559 ที่ระยะ 43,000 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนบูชคันเกียร์แตก (นอกสถานที่) = 200 บาท
6.7 วันที่ 16 ต.ค. 2559 ดำเนินการเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนหลัง (ไม่เคยเปลี่ยนเลย) = 80 บาท
รวมเป็นเงิน 4,747.30 บาท

7. ปี 2560 มีดังนี้
7.1 วันที่ 3 ก.พ. 2560 ที่ระยะ 46,500 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ = 1,850 บาท
7.2 วันที่ 10 ม.ค. 2560 ที่ระยะ 46,600 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่อง Nissan 0W-20 พร้อมกรองแท้ที่ซื้อมาจากในคลับ = 700 บาท และค่าแรงเปลี่ยน = 100 บาท รวม 800 บาท
7.3 วันที่ 8 เม.ย. 2560 ที่ระยะ 48,100 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ NS-3 CVT พร้อมกรองเกียร์และอื่นๆ = 1,800 บาท
7.4 วันที่ 18 เม.ย. 2560 ที่ระยะ 48,300 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่ร้านแบตเตอรี่ดัง แถวลาดพร้าว 71 ดำเนินการเปลี่ยนแบตเตอรี่ GS MFX70L = 1,900 บาท (รวม turn รวมไปเปลี่ยนหน้าร้าน)
7.5 2 วันที่ 14 พ.ค. 2560 ที่ระยะ 48,799 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนโช๊คหลังแท้ 1 คู่ (1,600) ค่าแรง (200) = 1,800 บาท
รวมเป็นเงิน 8,150 บาท

รวมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ปี 2554 – 2560 วันนี้ ที่ระยะ 48,800 โดยประมาณ =5,425.38+2,896+2,471.05+15,566.21+4,155+4,747.30+8,150 = 43,410.96
ใช้มา ประมาณ 6 ปี ตกลงปีละประมาณ 7,235.16 บาทต่อปี ไม่รวมค่าประกันรถยนต์

ขอสรุปหน้าถัดไปนะครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ผมขอสรุป มีรายละเอียด ดังนี้ครับ
1. ต้องใช้เงินโดยเฉลี่ย ปีละ 7,500 บาทในการดูแลรถเล็กๆ Eco car เครื่อง 1.2

2. ปีที่ 2557 และ 2560 เป็นปีที่มีรายจ่ายสูงกว่าปกติ คือ เกิน 7,500 บาทขึ้นไป ดังนั้นในบางปี ต้องทำใจครับ
ถ้ามีค่าใช้จ่ายพวก แบตเตอรี่ ยาง โช๊ค

3. ค่าประกันรถผม ปี แรก 12,800 บาท ปีที่ 2 ประมาณ 9,000 ไล่ลงมาปัจจุบันอยู่ที่ 6,900 รวม พรบ. ครับ (ชั้น 1 ซ่อมอู่ ระบุคนขับ)

โดยรวมผมมองว่า ถ้าอยากมีรถ โปรดเตรียมค่าดูแลไว้อย่างน้อยๆ 15,000 บาทต่อปี หรือ 1,250 บาทต่อเดือนครับ (รวม ประกัน) เว้นบางปีอาจเกินไปถึง 2 หมื่นถ้ามีรายการหนักๆ

เกิน 3 ปีไปแล้ว ควรหาอู่นอกนะครับ เพราะว่าไม่งั้น ค่าใช้จ่ายจะบานปลายไปมาก โดยเฉพาะช่วง 3 ไป 4 รายจ่ายรุมมาหมดเลยครับ

แล้วก็เจ้า March ผมมีข้อดีตรงอะไหล่หลายชิ้นถูกมาก ของแท้ไม่แพง เช่น กรองเกียร์ลูกละ 200 กว่าบาทไม่แพง และออกแบบมาลดค่าใช้จ่าย เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่องรถ 3 สูบใช้เพียง 3 ลิตร

แต่ ของบางอย่างก็ไม่ทน เช่น โช๊คหลัง บางอย่างก็ทำมา overspec เกินไป เช่น แบตเตอรี่รองรับระบบ i-stop ซึ่งต้องใช้แบตลูกใหญ่ ราคาแพง

ถ้าให้ดี ค่ายรถควรปรับ อย่างรถราคา 3-5 แสนไม่เกินนี้ ถ้าเป็นไปได้

แล้วทุกท่านมีประสบการณ์หรือความคิดเห็นอย่างไรครับ

อันนี้ link ราคาอะไหล่ ที่ผมเปลี่ยนมา

มีภาพประกอบคับ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=48841.30


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2017, 22:23:29 โดย รถสีเขียว »

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ขอบคุณคุณรถสีเขียวที่แชร์ รายละเอียดให้ฟังครับ ชอบตรงจดได้ละเอียดดีมากๆ  เป็นตัวอย่างให้คนอยากมีรถได้ดี

แต่โช๊คนี่ไปไวอยู่เหมือนกันนะครับ  สองหมื่นโลทำไมโช๊คหลังไปไวจัง

ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 992
สุดยอดรายละเอียดครับ ผมเคยติดจะเก็บรายละเอียดแบบเจ้าของกระทู้ ขอปรบมือให้จริง ๆ  ดีที่มีอู่ที่รู้จักกัน ได้เคลมอะไรไปอีกหลาย ๆ อย่างก่อนหมดประกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ  ผมถือว่าถูกนะครับ สมัยก่อนผมขับ ตจว. เปลี่ยน น้ำมันเครื่ีองทุกเดือน Mobil-1 สีทอง และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบล้างเกียร์ ทุกปี เปลี่ยนน้ำมันเบรก+หม้อน้ำ+พวงมาลัย Power ทุกปี  เฉพาะค่าของเหลวก็กว่า 35,000 บาทแล้วครับ ทำต่อเนื่องมากกว่า15 ปี ค่าของเหลว+อะไหล่ที่เปลี่ยน แพงกว่ารถแล้ว เคยเปิดผ่าสูบดู ช่างตกใจ ทำไมเครื่องสะอาดอย่างนี้ ทุกวันนี้เครื่องยังเดินเรียบอยู่ แต่ไม่สามารถใช้ Mobil-1 สีทองแล้ว เพราะขึ้นราคาไปมาก

ผมเชื่อว่า ถ้าเราดูแลรถเราให้ดี ๆ รถจะดูแลเราครับ ขับรถมา 20 ปี เคยต้องโดนลากรถ เพียงครั้งเดียว ความจริงยังพอขับได้ สบายมาก แต่ด้วยความรักรถ ขอจ่ายค่ารถยกดีกว่า

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
ขแอบคุณครับ เคยจดอยู่ 3ปีแล้วก็วุ่นกับเรื่องอื่นแทน รถ eco รุ่นนี้ถือว่าดูแลไม่แพงเลยนะครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ meeuwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ละเอียดดีครับ
สรุปคือ ไม่แพงครับ :D

ผมก็จดครับ แต่ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ ใช้น้อยจัด ปีละไม่ถึงหมื่น บางปี สามพันโล  :-\

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2017, 22:20:07 โดย mamaman »

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ขอบคุณคุณรถสีเขียวที่แชร์ รายละเอียดให้ฟังครับ ชอบตรงจดได้ละเอียดดีมากๆ  เป็นตัวอย่างให้คนอยากมีรถได้ดี

แต่โช๊คนี่ไปไวอยู่เหมือนกันนะครับ  สองหมื่นโลทำไมโช๊คหลังไปไวจัง

ของเดิมผมที่เปลี่ยนรอบแรกเป็น Tokiko จากศูนย์เลยคับ

ซึ่งเราก็รู้ว่าไม่ทน ตอนผมเห็นยี่ห้อ ผมทำใจไว้แล้วคับ ว่าทนยาก

ถอดออกมาเรียบร้อยคับ ทั้งสองข้างพังไม่เหลือเลย ซึมหมด แต่ขวานี้รั่วเยอะมากคับ
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...



รถอะไรนะคับ lancer ex หรือเปล่าคับ

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...
รถรุ่นอะไรครับ

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ขนาดนี้ จขกท. ยังบอกว่าแพงเลย  :-X

ปล. แอบแซวระยะทางใช้รถ จขกท. วิ่งน้อยมากกก หลายๆ คน Maintenance ต่อปี แพงกว่านี้ x2 (ของผมประมาณ x1.5) เพราะใช้โหดกว่าเยอะ
ปล.2 กว่าจะกล่อมให้ จขกท. ใช้ 0W-20 แทน 10W-30 กึ่ง ได้ เป็นปีครับ ไม่เชื่อถามแกดู 5555
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ขนาดนี้ จขกท. ยังบอกว่าแพงเลย  :-X

ปล. แอบแซวระยะทางใช้รถ จขกท. วิ่งน้อยมากกก หลายๆ คน Maintenance ต่อปี แพงกว่านี้ x2 (ของผมประมาณ x1.5) เพราะใช้โหดกว่าเยอะ
ปล.2 กว่าจะกล่อมให้ จขกท. ใช้ 0W-20 แทน 10W-30 กึ่ง ได้ เป็นปีครับ ไม่เชื่อถามแกดู 5555

cost ต่อหน่วยคุ้มกว่า ผมยอมคับ 0W-20 ประหยัดกว่าจริง 555

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
ตาเต้เจอนาวาร่าผมไปสงสัยจะช็อคตาย 555 เช็คใหญ่4หมื่นโลถ่ายของเหลวหมดคันกำเงินไปครั้งละหมื่น นี่แบกของบางอย่างไปเองด้วยแล้วนะ เปลี่ยนยางครั้งละ2หมื่น(ล้อ 18)

ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน

พังเร็วแต่มันถูกไงครับ เทียบกับยาริสไม่ค่อยมีอะไรพังแต่โดนทีนึงถ้าอะไหล่แท้มีจุกนะครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ตาเต้เจอนาวาร่าผมไปสงสัยจะช็อคตาย 555 เช็คใหญ่4หมื่นโลถ่ายของเหลวหมดคันกำเงินไปครั้งละหมื่น นี่แบกของบางอย่างไปเองด้วยแล้วนะ เปลี่ยนยางครั้งละ2หมื่น(ล้อ 18)

ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน

พังเร็วแต่มันถูกไงครับ เทียบกับยาริสไม่ค่อยมีอะไรพังแต่โดนทีนึงถ้าอะไหล่แท้มีจุกนะครับ

คับ พังเร็วมาก แต่ถูกคับ

ผมเคยเทียบขนาดโช๊ค บูชปีกนก ของ Yaris กับ March ต่างกันเยอะเลย

บางอย่างนิสสันก็ไม่น่าทำเลย เช่น บูชแบบกลมนอน 2 ตัว โตโยต้า ใช้ตัวเดียว อีกอันเป็นแบบตั้ง มันทนกว่ามากคับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ละเอียดดีครับ
สรุปคือ ไม่แพงครับ :D

ผมก็จดครับ แต่ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ ใช้น้อยจัด ปีละไม่ถึงหมื่น บางปี สามพันโล  :-\
ขแอบคุณครับ เคยจดอยู่ 3ปีแล้วก็วุ่นกับเรื่องอื่นแทน รถ eco รุ่นนี้ถือว่าดูแลไม่แพงเลยนะครับ
สุดยอดรายละเอียดครับ ผมเคยติดจะเก็บรายละเอียดแบบเจ้าของกระทู้ ขอปรบมือให้จริง ๆ  ดีที่มีอู่ที่รู้จักกัน ได้เคลมอะไรไปอีกหลาย ๆ อย่างก่อนหมดประกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ  ผมถือว่าถูกนะครับ สมัยก่อนผมขับ ตจว. เปลี่ยน น้ำมันเครื่ีองทุกเดือน Mobil-1 สีทอง และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบล้างเกียร์ ทุกปี เปลี่ยนน้ำมันเบรก+หม้อน้ำ+พวงมาลัย Power ทุกปี  เฉพาะค่าของเหลวก็กว่า 35,000 บาทแล้วครับ ทำต่อเนื่องมากกว่า15 ปี ค่าของเหลว+อะไหล่ที่เปลี่ยน แพงกว่ารถแล้ว เคยเปิดผ่าสูบดู ช่างตกใจ ทำไมเครื่องสะอาดอย่างนี้ ทุกวันนี้เครื่องยังเดินเรียบอยู่ แต่ไม่สามารถใช้ Mobil-1 สีทองแล้ว เพราะขึ้นราคาไปมาก

ผมเชื่อว่า ถ้าเราดูแลรถเราให้ดี ๆ รถจะดูแลเราครับ ขับรถมา 20 ปี เคยต้องโดนลากรถ เพียงครั้งเดียว ความจริงยังพอขับได้ สบายมาก แต่ด้วยความรักรถ ขอจ่ายค่ารถยกดีกว่า
ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ sixaxis

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 451
    • mntkcar
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
นี่สินะถึงว่าทำไมเขาถึงปล่อยรถกันตอน 20,000 โล
แอบอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเป็น BMW มี BSI ค่าใช้จ่ายจะออกมาเป็นยังไง

ออฟไลน์ aun

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
    • อีเมล์
ขอแชร์บ้างนะครับ ถ้าแบบละเอียดๆเลย จดหมดเหมือนกันครับ เพราะจะได้รุ้ตัวเองด้วยว่าถึงระยะต้องทำอะไรบ้าง ทำอะไรไปแล้วบ้างน่ะครับ
รถผม Fiesta 1.6 Sport Plus 12/2011 วิ่งมา 190,000 กิโล
คชจ. แยกเป็น

1. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ทั้งหมด รวมยางรถยนต์ = 114,889
2. ค่าบำรุงรักษาส่วนแก๊ส = 10,800(ติดตอน 12,000 กิโล)
3. ค่าประกัน = 66,936
4. ค่าต่อภาษีประจำปี + กรมธรรม์(บางปีซื้อแยก) = 11,690
5. คชจ. อื่นๆ เช่นติดตั้งแก๊ส + บุพื้นหุ้มพวงมาลัย + ติด Stuffit + กราวด์ไวร์ + Reflash ฯลฯ = 65,935
6. ค่าล้างทำความสะอาด = 8,220 (อันนี้น่าจะเกินกว่านี้พอสมควร เพราะลืมจดหลายครั้งครับ หยวนๆ 55)
7. ค่าน้ำมัน + แก๊ส = 239,144 (ไม่เป๊ะแต่ก็เกิน 90% ครับ มีลืมบ้างเดือนแรกๆ)
8. ค่าเสื่อมราคา(คิดเล่นๆกรณีขายตอนนี้ คำนวณจากราคาเงินผ่อนนะครับ คิดว่าขายเข้าเต้นท์คงได้สองแสนนิดๆ หรือถ้วนๆ) = ประมาณ 550,000 - 600,000 บาท
ถ้าไม่รวมค่าเสื่อมทั้งหมด คิดเป็นคชจ.ต่อกิโลจะประมาณ 517,644/190,000 = ประมาณ 2.72 บาทต่อกิโล แต่ถ้ารวมค่าเสื่อมไปด้วยนี่ จะตกกิโลละ 5.6 - 5.8 บาทยังประหยัดกว่านั่งแท๊กซี่ประมาณนึงครับ ;D ;D 


ปล. รายละเอียดการบำรุงรักษาเยอะพอสมควรครับ เลยไม่แจกแจงทั้งหมด

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
นี่สินะถึงว่าทำไมเขาถึงปล่อยรถกันตอน 20,000 โล
แอบอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเป็น BMW มี BSI ค่าใช้จ่ายจะออกมาเป็นยังไง

เกิน 2 หมื่นไปค่าซ่อมเริ่มมาละคับ

เห็นชัดๆ รถศูนย์คับ
ขอแชร์บ้างนะครับ ถ้าแบบละเอียดๆเลย จดหมดเหมือนกันครับ เพราะจะได้รุ้ตัวเองด้วยว่าถึงระยะต้องทำอะไรบ้าง ทำอะไรไปแล้วบ้างน่ะครับ
รถผม Fiesta 1.6 Sport Plus 12/2011 วิ่งมา 190,000 กิโล
คชจ. แยกเป็น

1. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ทั้งหมด รวมยางรถยนต์ = 114,889
2. ค่าบำรุงรักษาส่วนแก๊ส = 10,800(ติดตอน 12,000 กิโล)
3. ค่าประกัน = 66,936
4. ค่าต่อภาษีประจำปี + กรมธรรม์(บางปีซื้อแยก) = 11,690
5. คชจ. อื่นๆ เช่นติดตั้งแก๊ส + บุพื้นหุ้มพวงมาลัย + ติด Stuffit + กราวด์ไวร์ + Reflash ฯลฯ = 65,935
6. ค่าล้างทำความสะอาด = 8,220 (อันนี้น่าจะเกินกว่านี้พอสมควร เพราะลืมจดหลายครั้งครับ หยวนๆ 55)
7. ค่าน้ำมัน + แก๊ส = 239,144 (ไม่เป๊ะแต่ก็เกิน 90% ครับ มีลืมบ้างเดือนแรกๆ)
8. ค่าเสื่อมราคา(คิดเล่นๆกรณีขายตอนนี้ คำนวณจากราคาเงินผ่อนนะครับ คิดว่าขายเข้าเต้นท์คงได้สองแสนนิดๆ หรือถ้วนๆ) = ประมาณ 550,000 - 600,000 บาท
ถ้าไม่รวมค่าเสื่อมทั้งหมด คิดเป็นคชจ.ต่อกิโลจะประมาณ 517,644/190,000 = ประมาณ 2.72 บาทต่อกิโล แต่ถ้ารวมค่าเสื่อมไปด้วยนี่ จะตกกิโลละ 5.6 - 5.8 บาทยังประหยัดกว่านั่งแท๊กซี่ประมาณนึงครับ ;D ;D 


ปล. รายละเอียดการบำรุงรักษาเยอะพอสมควรครับ เลยไม่แจกแจงทั้งหมด

วิ่งเยอะมากๆ คับ

ผมไม่รู้จะคำนวนค่าเสื่อมยังไงเลยคับ เลยไม่ได้ใส่คับ

ออฟไลน์ Trafalgar

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 819
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15Z7 MT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0G 1KD-FTV MT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

ออฟไลน์ GoatGoat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 895
ผมคิดแบบเจ้าของกระทู้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเป็นลม แค่ค่าของแต่งก็หลายแสนละ ยังไม่รวมค่าบำรุงค่าซ่อม จัดเต็มทุกรายการ ไม่เคยประหยัดกับเรื่องรถเลย

ออฟไลน์ paeybu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 627
ขอบคุณ จขกทครับ อย่ามาม่าเลยครับ เบื่อ

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

บรรทัดล่างน่ะ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน (ผมเป็นเพื่อน จขกท. นะ)

แต่หลังๆ ก็คิดต่อไปว่า แล้วผมจะไปคิดทำไม ก็เหลือแต่คอยเบรกๆ บางเรื่องที่เขาคิดย้ำๆ จะลดต้นทุนสถานเดียว
ให้ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย หรือพวกชิ้นไหนเซนซิทีฟก็คอยบอกว่า เฮ้ย เช็คด้วย หรือไปทำเพิ่มดีไหม
ส่วนเขาจะคิดหรือไม่คิดตาม เป็นสิทธิ์ของเขา... ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปออกเงินให้เขา คงบังคับกันไม่ได้

ผมมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องให้รางวัลชีวิต ด้วยการบำรุงรักษารถเพียงอย่างเดียวครับ
เพราะถึงผมเองใช้แบบ ดูแลเต็มที่ แล้วก็ใช้สมรรถนะเต็มที่ (น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดดี
ปรับปรุงแทบทุกชิ้นส่วนที่เปลี่ยนได้ แทบไม่มีอะไรสเป็กเดิม ตั้งแต่ช่วงล่างยันเครื่องเสียง) แต่เอาจริงๆ คือ
ผมใช้รถทั้งหาเงิน ขนของ และอื่นๆ โดยคำนึงแค่เฉพาะความสุขที่ผมได้จากปลายทางของการขับรถน่ะ

ถามว่าผมใช้เงินไปกะรถเยอะไหม เยอะนะ จนถึงทุกวันนี้ ไม่นับเข้าศูนย์ ค่าแต่งรถนี่แทบจะดาวน์ได้อีกคัน
กระนั้น รถสำหรับผมเป็นของใช้ ที่เดิมๆ อาจจะน่าหงุดหงิดไปสักนิด ก็แค่ปรับให้ตรงกับสไตล์และจริต
แต่ดูแลรักษาแต่พอควร ให้มันสบายพอเหมาะ ปลอดภัยสม่ำเสมอ และใช้งานได้เมื่อพร้อมจะใช้ พอแล้ว
ถึงรักรถแค่ไหน ปล่อยวางบ้างก็ได้ อย่าให้เป็นประมาณ อ่านตอบกระทู้แล้วเครียดแทน ดีกว่าครับ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
แค่เห็นก็ลายตา  marchนี่ขึ้นชื่อเรื่องอะไหล่เปราะจริงๆนะ  อย่างรถผมเองสี่ปีวิ่งแสนกว่านิด  นอกเหนืออะไหล่ที่อยู่ในระยะประกัน  ผมมีจ่ายเพิ่มแค่ชุดซ่อมเบรคอย่างเดียวประมาณ5000 นอกนั้นไม่เคยจ่ายอะไรเลยไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายตามระยะทางอะนะ

ออฟไลน์ Zachary C

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
  • Beauty is in the Eyes of the Beholder
    • อีเมล์
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นแนวทางสำหรับค่าบำรุงรักษา รถ eco car ของนิสสัน ที่น่าสนใจทีเดียว

ผมไม่แน่ใจว่า eco cars ยี่ห้ออื่นๆ ราคาจะใกล้เคียงกันไหม?  :o
Hopefully, my old grande dame, the CRV G.1, will eventually become a classic!

2017 Honda BR-V SV telematics (Amber Brown)
2015 Honda Mobilio RS telematics (Pearl White)
1998 Honda CRV EXI G1 (Metallic Bronze)

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
 ;) suzuki swift 2 ปีเมื่อเมษา ที่ผ่านมากับระยะ 46,000 km

เข้าศูนย์ 5 รอบ
1000
10000-40000
ไม่มีเคลมกับซ่อมอะไร

ตีคร่าวๆ
(2600x3)+5000 =  12800
ประกัน 12000+14000 = 38800

ครบ 60000 km ว่าจะต้องเสียค่ายาง ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ
มีแค่นี้จริงๆ



ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 992
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

ใช่ครับ เมื่อเทียบกับรถปีเดียวกันที่ศูนย์ รถผมใช้งานหนักกว่า ขับทีนึง 3-4 ชั่วโมง/วัน เสาร์+อาทิตย์ ไป ตจว. ใช้รถทุกวัน ปีละ 360วันเต็ม ๆ ยกเว้นตอนเข้าศูนย์ที่ใช้เปลี่ยนถ่ายชุดใหญ่+ซ่อมประมาณปีละ 4-5 วัน เคยเข้าศูนย์หนึ่งมีหัวหน้าช่างเดินมาดู ยังบอกเลยว่า เสียงเครื่องนิ่งมา เงียบมาก รถเข้าศูนย์มาซ่อมเป็น ร้อย ๆ คัน นาน ๆ จะเจอแบบนี้คันหนึ่ง

ผมเชื่อว่า เจ้าของกระทู้ก็รักรถมาก ๆ ครับ ถึงจดรายละเอียดได้ดีขนาดนี้ แต่ละคนมีวิธีดูแลรักษารถอาจจะแตกต่างกันบ้าง ผมชอบดูแลให้รถพร้อมใช้งานในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้าอะไรที่สามารถทำให้รถมีความสมบูรณ์ ผมทำครับ รถคันใหม่ที่จะซื้อก็เหมือนกัน ใช้ในเมือง ใช้ Fully synthetic ก็จะเปลี่ยนทุกเดือนเหมือนกัน น้ำมันเกียร์ก็  10 เดือนถึงปี เปลี่ยนแบบล้างห้องเกียร์ ไม่ต้องตามคู่มือ แต่ขอเปลี่ยนก่อน แล้วค่าแรงเท่าไร อยากคิด คิดไป เพิ่มให้ ขออย่าให้ประกันขาด

ออฟไลน์ November_beer

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 25
นิสสันมาร์ชนี่ค่าอะไหล่ กับค่าดูแลรักษารถนี่ถูกจริงๆครับคอนเฟริ์ม แต่อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกคืออะไหล่บางตัวนี่พังเร็วมาก อย่างโช๊คหลังเนี่ย พอ 30,000 โลปุ๊บพังเลย รถเพื่อนผมก็พังที่ระยะเท่านี้ และโช๊คประตูหลังก็พังเร็ว มอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกก็พังเร็วจนน่าตกใจ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น แต่พอเทียบกับราคาที่ไม่ได้แพงมากก็พอจะหยวนๆกันไป

ส่วนเรื่องการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกตินะครับ เหมือนเราจดบันทึกรายรับ รายจ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าการมีวินัยในเรื่องนี้ แปลว่าไม่รักรถ ผมคิดว่าดีซะอีกจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่าย ในการดูแลรักษารถในมือเรา คิดเป็นกี่ % ในรายได้ของเรา คุ้มหรือไม่ ผมสนับสนุนการทำเช่นนี้ครับ

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
Mazda 2 Skyactiv Diesel

วิ่งไป 79000 เข้าศูนย์ ประมาณ 8 ครั้ง เฉลี่ยครั้งละ 2200-3600 แล้วแต่รอบ Major/Minor เฉลี่ยครั้งละ 2500 *8 = 20,000

แบตเตอรี่ istop หมดไปตอน 50000 โล ค่าแบต = 2,100

ค่าประกัน+พรบ ปีแรกฟรี ปีที่ 2 15,600 ปีที่ 3 13600 = 29,200

ต่อภาษี 1800 + 1800 = 3,600

ค่าล้างรถ 250 จ้างเค้าล้างเดือนสลับกับล้างเองเดือนนึง ที่จ้างเค้าล้างเพราะจะดูดฝุ่น 24/2 * 250 = 5,000 (จริงๆถูกกว่านี้ เพราะล้าง 4 ฟรี 1 ถ้าเก็บใบเสร็จไว้ แต่บางเดือนผมขัดเคลือบด้วย เลยไม่เฉลี่ยลง)

ยางยังเหลือพอสมควร เอาเล็บจิกแล้วยังไม่แข็งด้าน แก้มไม่มีปริไม่มีฉีก ดอกยางอีกประมาณ 30-40 % ถึงจะ เสมอสะพานยาง

ผ้าเบรคเหลือ 6 มิล เป็นคนขับรถไม่ค่อยเบรค เพราะอยู่ ตจว. รถไม่ค่อยติด

อะไหล่ที่เสียยังไม่มี มีแต่บางส่วนที่ Mazda ส่ง จ.ม. มา Recall ให้เข้าไปเปลี่ยนเพราะเป็น Defect จากล็อต

รวม คชจ 20,000+2,100+29,200+3,600+5,000 = 59,900 ปัดไปเป็น 60,000 กับ รถ 24 เดือน ตกเดือนละ 2,500 บาท

คิดเป็นคชจ สิ้นเปลือง / กิโล โดยที่ไม่รวมเชื้อเพลิง ประมาณ 0.76 บาท / กิโลกรัม  60,000/79,000



ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นสมชื่อ...รถ(ลด). จริงๆ