เริ่มต้นคุณต้องตัดเรื่องกำแพงภาษีทิ้งไปให้หมดก่อน หรือตั้งสมมติฐานก่อนว่ารถทุกคันอยู่บนพื้นฐานภาษีเดียวกันก่อนนะครับ
ที่ออสเตรเลีย ราคารุ่น crusade ซึ่งเทียบเป็น 2.8 4wd ไม่มีชุดแต่งtrd อะไรเยอะแยะแบบที่ไทย อยู่ที่ 68000 AUD drive away ครับ ตัวนี้ถ้าเทียบกับ 2.8 4wd บ้านเราราคาทางโน้นจะแพงกว่า
แต่มีบางอย่างที่ตัวไทยไม่มี เช่น DPF และดิสก์หลัง กับ diff lock หลัง . ซึ่งระดับราคานี้มันสามารถเล่น Land cruiser Prado ที่ประกอบมาจากญี่ปุ่นได้เลย แต่ถ้าจะเล่น Prado ก็จะได้แค่ตัวเริ่มต้นหรือตัวกลางๆ
ถ้าจะรุ่นท็อปของ Prado ราคาก็ไปแตะแสน AUD ซะแล้ว แต่ว่าก็ว่าเถอะ ถ้าผมอยู่ออสแล้วต้องเลือกสองคันนี้ผมก็เลือก Prado ไม่ต้องคิดไรมากเลย
ทีนี้มาดูราคา Prado ที่ผู้นำเข้าอิสระนำมาขายในไทย ราคาก็ป้วนเปี้ยนแถวๆ 3 ปลายๆไปถึง 4 กลางๆ ในรุ่นเครื่องดีเซล 2.8 ลิตร
แล้วราคา alphard ในไทยอยู่ที่ราวๆเดียวกัน จึงคิดว่าราคาจะไปอยู่ราวๆนั้นครับ
ถ้าเอา fortuner ไปญี่ปุ่นตัวรถน่ะมันจะขายไม่ได้ เพราะที่ญี่ปุ่นเองไม่ได้นิยมรถแบบนี้ แล้วแถมเป็นเครื่องดีเซลตระกูลปิคอัพอีก และอีกเรื่องสำคัญคือ ที่นั่นมี Prado ค้ำคออยู่แล้วด้วย
และจริงๆยอด Prado ในญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้เยอะมากมายครับ
และความจริงอีกข้อที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ (ขออภัยเจ้าของ fortuner ด้วยนะครับ แต่ผมเองก็ขับรุ่นนี้อยู่เช่นกัน) คือ ประเทศเหล่านี้ยังมีคนบางกลุ่มที่มองว่า fortuner นี้เป็นรถกลุ่ม third world suv หมายถึงเป็นรถ suv เพื่อตลาดประเทศกลุ่มกำลังพัฒนา ซึ่งหลายๆคนในประเทศโลกที่ 1 จะไม่เลือกใช้ แต่ไม่เสมอไปหรอกนะ เพราะได้ข่าวที่ออสเตรเลียยอด fortuner ที่ประกอบส่งไปจากไทยก็ไหลเรื่อยๆอยู่
ทีนี้มามองกลุ่ม CRV บ้าง กลุ่มนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ราวๆ 30000 ไปจนถึง 4 หมื่นกลางๆ AUD
ข้อมูลจาก mortoring ที่เพิ่งออกข่าวเตรียมเปิดตัว CRV G5 ในออสเตรเลีย สรุปว่าทางโน้นเขาได้บล็อก 1.5 turbo ไปตัวเดียวเลย
ซึ่งถ้าดูเผินๆ ราคาตัวเริ่มต้นของ crv ที่ออสเตรเลียจะถูกกว่าราคา fortuner ที่ออสเตรเลียอยู่พอสมควรเลย
พอเห็นภาพมั้ยครับ
ผมลองเทียบ ราคา Prado กับ Alphard ในญี่ปุ่นราคาก็เท่าๆ กัน
สรุป Fortuner ขายญี่ปุ่น ก็น่าจะราคาเท่าๆ Alphard ตัวล่าง-ตัวกลางเช่นกัน
ถ้าตีว่า Australia นำเข้ารถไม่มีภาษีอะไรมาเบี่ยงเบนนัก
หรือนึกย้อนกลับ Fortuner ในต่างประเทศราคาเท่าบ้านเรา ถ้าเรานำเข้ามาไทย
ก็คูณ 3 เข้าไป ราคาก็จะประมาณ 3-4.5 ล้าน
เรื่อง 3rd world suv โยงเข้ากับเรื่องช่วงล่างดึ๋งๆ ผมว่าก็คนล่ะเรื่องกันนะครับ
ช่วงล่างไม่ดีเพราะ setting มาไม่ดี ไม่น่าโยงไปเรื่องอื่นได้ 
เห็นด้วยครับ มีหลายคนเข้าใจผิดและรังเกียจเรื่องช่วงล่างของรถพวก body on frame ว่าแชสซีทำให้รถมันไม่นิ่ม แต่มันไม่เกี่ยวกันเลยมันอยู่ที่ setting อย่างที่บอกมากกว่า รถพวกนี้เน้นใช้งานหนักและทนทึกเป็นหลัก แต่จะให้นิ่มก็ทำได้และอาจจะทำได้ดีด้วย เช่น พวก SUV Prado
ถ้า design, เครื่องยนต์ และ setting มันได้เหมือนกับ Caddy Escalade, Chevy Tahoe/Suburban, GMC Yukon, Ford Expedition etc... มันก็โอเคครับ แต่นี้มันไม่ใช่อะ ดีไซน์ พวก body on frame ในบ้านเรามันดู Ghetto มากๆ (โดยเฉพาะ Fortuner) จะทำตัวถังให้มันสูงไปถึงไหน , เครื่องยนต์สู้ไม่ได้อยู่แล้ว, setting ก็คนละชั้นกันอีก
ถ้าเงินเท่าๆกันผมว่าไปลุย Subi Forester XT ตัว JDM 280 ม้า ยังดีกว่าเยอะ
Caddy Escalade, Chevy Tahoe/Suburban, GMC Yukon, Ford Expedition เป็นรถ
full-size ครับ ส่วน SUV on frame บ้านเราเป็นแค่ mid-size ครับ ระดับมันเลยต่างกันชัดเจน
รถ full-size เป็นอะไรที่ค่ายรถต้องงัดทุกสิ่งทุกอย่างที่มีมายัดใส่แล้วไม่มีกั๊ก
SUV on frame ไม่ได้ออกแบบให้ดูอลังมาก แต่เน้นเรื่องทนทาน ลุยๆ ได้มากกว่า
แม้จะเป็น mid-size ก็อาจออกแบบสู้ Forester ที่เล็กกว่าไม่ได้ครับ
ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของ segment ล้วนๆ
