ผู้เขียน หัวข้อ: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED  (อ่าน 9412 ครั้ง)

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 13:04:15 »
จากที่เราๆ ท่านๆ สักเกตุมาสักช่วง 5 ปีมานี้ จะเห็นได้ว่า เทรนของรถ จะเน้นการใช้ไฟเป็นแบบ LED มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Daylight , ไฟหน้า , ไฟท้าย, ไฟตัดหมอก เป็นต้น

แต่เท่าที่สังเกตุ เหมือนกับว่า ความทนทาน หรือ อายุการใช้งาน มันสั้นกว่า หลอดใส้ หลอก halogen หรือ HID หรือป่าว??

เพราะเท่าที่เห็น มีอาการ ขาด ดับ เหลือง ไม่สว่าง ในรถหลายๆ คัน เช่น
- ไฟท้าย camry acv41 ขาดเยอะมาก เห็นคันติดครบยากมาก บนถนน
- ไฟ Daylight ของ PJS ก็มีทั้งขาด ทั้งเหลือง ทั้งไม่สว่าง
- accord g9 mc หมาดๆ ป้ายยังแดงๆ กันอยู่เลย ยังไฟ Daylight ทั้งขาดทั้งเส้น ขาดครึ่งเดียว หรือติดเฉพาะตรงมุม เห็นวิ่งบนถนน แทบทุกวัน
- ล่าสุดเห็น c class ไฟ Daylight ติดข้างเดียว

ซึ่งทั้งหมด จะเป็นแบบที่เป็น LED Tube ทั้งนั้น ที่มีปัญหา ส่วนที่เป็น LED เม็ดๆ หรือเป็น LED bar light ไม่ค่อยเห็นขาด

พอเห็นแบบนี้ ปัญหาคือ แล้วถ้าหมดประกัน หรือ ต้องเปลี่ยน ต้องซ่อม เข้าใจว่าน่าจะยกเปลี่ยนทั้งโคม เปลี่ยนเฉพาะจุด หรือ เฉพาะเม็ดที่เสียไม่ได้ ค่าใช้จ่าย หรือ ภาระ ตกมาหาผู้บริโภค มันใช่สิ่งถูกต้อง หรือ เหมาะสม หรือป่าว

ผู้บริโภค หรือ คนที่สนใจเรื่องรถ อย่างเราๆ คิดยังไง

 :( :(

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 13:08:27 »
ผมชอบแบบเดิมๆๆนะ เสียก็เปลี่ยนแค่หลอดที่เหลือหลอดไม่กี่บาท

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,390
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 13:33:35 »
แล้วคุณๆ ไม่รู้หรอว่า กำลังโดนผู้ผลิตหลอกแดกเงิน ค่าซ่อมไฟ เปลี่ยนไฟ LED ราคาแพงๆอยู่...

ยกตัวอย่าง เม็ด LED ไฟท้าย ต้นทุน เม็ดละ 3-4 บาท หาซื้อได้ทั่วไปตามร้าน อะไหล่ อิเล็กทรอนิกส์


ส่วนของไฟหน้า ไฟตัดหมอกก็ขนาดใหญ่ ขึ้นมาอีกหน่อย


เม็ด LED รูปร่าง รูปทรงก็ต่างกันไปแล้วแต่ยีห้อ รุ่น
ส่วนใหญ่ที่แกะโครมมา แล้วเจอเป็นแบบเม็ด 4 เหลี่ยมซะส่วนใหญ่

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 14:35:22 »
ราคามันมีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือแหล่งจ่ายไฟที่ต้องแปลงจากแรงดัน 12 Vdc กับ เม็ดหลอด

ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่แหล่งจ่ายไฟ เพราะ LED จริงๆ ใช้ได้นานมาก ซึ่งในรถที่เป็นของเฉพาะ

ตั่งราคาเท่าไหร่ก็ต้องจ่าย มิฉะนั้น ต้องไปหาของแปลงมาติดแทน

ออฟไลน์ โบตั๋น

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 15:00:12 »
ผมชอบสังเกตไฟท้ายรถบนนถนนรุ่นต่างๆ
เคยเห็นรุ่น camry acv40 ตัวก่อนไมเนอที่ไฟท้าย led แผงเป็นเม็ดกลมๆ ผ่านตาหลายคันยังไม่มีคันไหนขาดเลย
ที่บ้านมี camry hybrid acv40 ขาดแหว่งกัน2ข้าง และเป็นกันทั้งเมืองโตโยต้ายังไม่เคลมเปลี่ยนให้
ชอบไฟท้ายแบบ LED Tube แต่ถ้ามันเปลี่ยนหลอดง่ายเหมือนหลอดใส้ก็จะดีมาก
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 27, 2017, 15:04:42 โดย โบตั๋น »

ออฟไลน์ xcalibur

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 377
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 16:15:03 »
ผมชอบสังเกตไฟท้ายรถบนนถนนรุ่นต่างๆ
เคยเห็นรุ่น camry acv40 ตัวก่อนไมเนอที่ไฟท้าย led แผงเป็นเม็ดกลมๆ ผ่านตาหลายคันยังไม่มีคันไหนขาดเลย
ที่บ้านมี camry hybrid acv40 ขาดแหว่งกัน2ข้าง และเป็นกันทั้งเมืองโตโยต้ายังไม่เคลมเปลี่ยนให้
ชอบไฟท้ายแบบ LED Tube แต่ถ้ามันเปลี่ยนหลอดง่ายเหมือนหลอดใส้ก็จะดีมาก

ACV40 2.4V ยังไม่เคยขาดเหมือนกันครับ ตั้งแต่ปี 07
แต่ 41 เห็นแหว่งไม่ครบเหลี่ยมกันหลายคันมาก

ส่วนตัวชอบไฟกลมมากกว่า มันสว่างกว่าตัว 41

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 17:51:48 »
แล้วคุณๆ ไม่รู้หรอว่า กำลังโดนผู้ผลิตหลอกแดกเงิน ค่าซ่อมไฟ เปลี่ยนไฟ LED ราคาแพงๆอยู่...

ยกตัวอย่าง เม็ด LED ไฟท้าย ต้นทุน เม็ดละ 3-4 บาท หาซื้อได้ทั่วไปตามร้าน อะไหล่ อิเล็กทรอนิกส์


ส่วนของไฟหน้า ไฟตัดหมอกก็ขนาดใหญ่ ขึ้นมาอีกหน่อย


เม็ด LED รูปร่าง รูปทรงก็ต่างกันไปแล้วแต่ยีห้อ รุ่น
ส่วนใหญ่ที่แกะโครมมา แล้วเจอเป็นแบบเม็ด 4 เหลี่ยมซะส่วนใหญ่

จริงๆ ผมรู้ครับว่า ราคาตัวหลอด หรือ เม็ด LED มันไม่ได้แพง ยิ่งถ้าเราไปเดินๆ ซื้อตามครองถม หรือ บ้านหม้อ หรือ ตามร้านอิเลคโทรนิค ทั่วไป ราคาหลอดมันไม่กี่บาท

แต่พอมาเป็นที่เฉพาะๆ ขึ้นมา บวกกับผู้บริโภคทั่วไป ไม่มีเชิงช่าง หรือ ต่อให้พอ DIY เป็น ก็ไม่อยากรื้อไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ออกมาซ่อมเอง ทำเอง หรอกครับ เป็นผม ผมก็ไม่ทำ

จะบอกว่าแบรนด์ ญี่ปุ่น(แต่เห็น c class เป็น เลยนึกว่าไม่น่าเฉพาะญี่ปุ่นล่ะ) ใช้วัสดุต้นทุนต่ำ กับพวกหลอดไฟ LED พวกนี้ ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะขนาดไฟท้าย Jazz GD หรือไฟท้าย Altis ก่อนตัวปัจจุบัน ที่ไฟท้าย LED เป็นรูป ดอกจันทร์(*) ไม่รู้เรียกโฉมอะไร หรือพวกไฟ daylight พวก G9 ก่อน MC หรือ Sylphy Teana ยังไม่ค่อย(ไม่เคย) เห็นว่ามันจะขาด หรือ แหว่ง ทั้งๆ ออกนานแล้ว ผมยังไม่ค่อยเห็นมันขาดเลย

รวมๆ เลยไม่แน่ใจว่า ลดต้นทุน ใช้ของต้นทุนต่ำลง(กว่าของที่ออกมาก่อน) หรือ ว่ายังไง เทคโนโลยี ใหม่กว่า แต่ อายุสั้นลง หรือเป็นปัญหาเรื่อง tube อายุสั้นกว่าแบบ เม็ดๆ อันนี้น่าคิด

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 18:09:16 »
  หลอดแบบเดิมๆก็ดูแลง่าย แต่หลอด LED ก็ได้ความสวยงามและความแสบตามาเพิ่ม แถมดูเป็นรถรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยี ยิ่งเป็น tube ยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าหลอดขาด คิดว่าซ่อมคงไม่ซ่อม แต่ขายของใหม่ทั้งชุด แพงแน่นอน เดี๋ยวนี้รถที่ใช้ไฟหลอดธรรมดาจะโดนมองว่าเป็นรถถูก แต่มันดูแลง่าย ราคาสบายกระเป๋าดีจริงๆ แถมไม่แสบตาอีก ถึงจะมาจากโรงงานก็จริง แต่ LED ทั้งหน้าและหลังมันแสบตาทั้งนั้น ไม่เกี่ยวว่าจะเฉพาะ new fortuner นะครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ khin7710

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 09:30:53 »
ถ้าทำให้เปลี่ยนเป็นเม็ดๆให้เปลี่ยนเองได้โดยไม่ต้องบัดกรีก็ดีนะ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 11:07:43 »
  หลอดแบบเดิมๆก็ดูแลง่าย แต่หลอด LED ก็ได้ความสวยงามและความแสบตามาเพิ่ม แถมดูเป็นรถรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยี ยิ่งเป็น tube ยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าหลอดขาด คิดว่าซ่อมคงไม่ซ่อม แต่ขายของใหม่ทั้งชุด แพงแน่นอน เดี๋ยวนี้รถที่ใช้ไฟหลอดธรรมดาจะโดนมองว่าเป็นรถถูก แต่มันดูแลง่าย ราคาสบายกระเป๋าดีจริงๆ แถมไม่แสบตาอีก ถึงจะมาจากโรงงานก็จริง แต่ LED ทั้งหน้าและหลังมันแสบตาทั้งนั้น ไม่เกี่ยวว่าจะเฉพาะ new fortuner นะครับ

ของ Fortuner ไม่แน่ใจว่า ที่มันสาด เพราะตำแหน่งของไฟหน้า มันอยู่สูงหรือป่าวน่ะ

แต่ที่แน่ๆ มันแยงตามาก ไม่ว่าจะโดนขับตามตูด ไฟส่องเข้ารถ ภายในรถสว่างทั้งคัน บางที ผมก็ปรับกระจกมองหลัง/มองข้าง ส่องกลับ รำคาญสุดๆ หรือผิดที่ผมขับเก๋ง?? หรือ ขับสวนกันมา ก็สาด จริงๆ

ออฟไลน์ BoringZee

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 228
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 11:44:01 »
LED ใช่ว่าจะซ่อมไม่ได้นะครับแต่แค่เพียงชาวบ้านที่อุปกรณ์ไม่พร้อม เลยทำไม่ได้แค่นะครับไปถ้าไปให้ร้านประดับยนต์ที่เอาอุปกรณ์พร้อมซ่อมได้สบาย แล้วใครบอกว่า LED เสียยากนี่ผมของเถียงหน่อยนะครับ LED เสียง่ายไม่ต่างกับหรอกใส้เลยครับ เป็นหลอกที่ไม่ทนต่อแรกกระทบที่หนักๆ แต่เนื่องจากตัวหลอดนั้นมีน้ำหนักที่เบาเลยช่วยรถปัญหานี้ได้บางส่วน แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะครับ ส่วนที่บอกว่าอายุใช้งานยาวนานกว่าหลอดใส้ อันนี้จริงนะครับ แต่นะครับแต่ แสงที่ออกมาก็มีการ drop ลงตลอดเวลานะครับ โดยตัวหลอดอาจจะมีแสง แต่แสงที่ออกมาไม่สว่างหรือความสว่างลดลงเรื่อยๆ นับจากวันแรกที่ใช้งาน

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 09:29:54 »
ไฟ Daylight ของ PJS ก็มีทั้งขาดและออกสีเหลืองนิดๆ และไม่สว่าง อันนี้เห็นบ่อยมากและเยอะ

LED Tube มันได้สวยจริงๆ
แต่ชอบแบบ LED เม็ดๆ มากกว่าครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 11:31:38 »
LED Tube นอกจากดูสวย ผมว่ามันช่วยเรื่องแสงแยงตาได้ดีกว่า การเกลี่ยแสงที่ไม่ส่องมาตรงๆ ทำให้รถคันอื่นแสบตาน้อยกว่ามาก ถ้าจำ Benz W212 โฉมแรกไฟเบรค LED ที่ด่ากันทั้งเมืองได้ นั่นแหละหลอด LED แบบเม็ดลำแสงพิฆาต

ส่วนตัวเห็นยังใช้ LED แบบเม็ดกับไฟเบรค คงเพราะตอบสนองต่อการติดๆ ดับๆ ได้ดีกว่า LED Tube ติดตั้งกันแค่ 4-5 ดวงสว่างพอแล้ว ไม่ต้องเรียงเป็นแผงเยอะให้แสบตา

ส่วน Tube ญี่ปุ่นนี่อนาคตจะกลายเป็นภาระของลูกค้าแบบ Camry ยุคนั้นไหมหนอ โรงงานทำพิษ หมดประกันก็จ่ายเอง
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 11:40:20 »
ผมใช้ ไฟท้ายled แบบจุดๆ ไม่เคยมีปัญหาหลอดขาดเลย jazz teana dmax ก็ไม่ขาดนะ และผมก็ไม่ค่อยเห็นคันอื่นมีปัญหา แต่แคมรี่เห็นบ่อยเลย

แต่หลอดไฟเบรคธรรมดาดวงที่3ของ dmax ไปตั้งแต่2-3ปีแรกแล้ว

ผมว่าน่าจะขึ้นกับสเปกและการลดต้นทุน รุ่นไหนเป็นก็เป็นรุ่นไหนไม่เป็นก็ไม่เจอนะ

ออฟไลน์ intania68

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 12:33:39 »
แต่ผมเกลียดมากเลยกับพวกที่เอาหลอด Led มาใส่โคม แบบสะท้อนแสงธรรมดา คือ
1. แสงจาก Led ไม่ได้สะท้อนกับตัวโคม ทำให้ มันสว่างมากๆ เป็นจุดเดียวเล็กๆ ไม่ใด้กระจายแสงไปทั่วโคมเหมือนหลอดใส้ธรรมดา แสบตามาก
2. เกีอบทุกรายมักจะดัดแปลงเป็นระบบไฟกระพริบเมื่อ เบรค คนขับตามหลังรำคาญมาก เพราะมันไม่ได้กระพริบเฉพาะเวลาเบรคฉุกเฉินเท่านั้น แต่กระพริบทุกครั่งที่เบรค นึกถึงตอน รถค่อยๆ ขยับ เวลารถติด นี้เท่ากับ กระพริบตลอดเวลาเลย
3.  จากขัอสอง แม้จะไม่ใช่เวลาเบรค แต่ พวกนี้มักใช้วงจรถูกๆ คุณภาพต่ำต่อพ่วง ใช้ระบบ PWM ไม่ใช่ระบบ Current Regulate  ทำให้มันกระพริบตลอดเวลาแม้ไม่ได้เบรค  อาจจะมองตรงๆ ไม่รู้สึก แต่เวลากวาดสายตา ไปตามถนนจะเห็นมัน กระพริบ เป็น จุดๆ เป็นทาง  น่ารำคาญมาก และทุกวันนี้ก็เห็นคนทำตามกันมากขึ้นทุกวันๆ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: ว่าด้วยเรื่องไฟ LED
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2017, 12:53:15 »
แต่ผมเกลียดมากเลยกับพวกที่เอาหลอด Led มาใส่โคม แบบสะท้อนแสงธรรมดา คือ
1. แสงจาก Led ไม่ได้สะท้อนกับตัวโคม ทำให้ มันสว่างมากๆ เป็นจุดเดียวเล็กๆ ไม่ใด้กระจายแสงไปทั่วโคมเหมือนหลอดใส้ธรรมดา แสบตามาก
2. เกีอบทุกรายมักจะดัดแปลงเป็นระบบไฟกระพริบเมื่อ เบรค คนขับตามหลังรำคาญมาก เพราะมันไม่ได้กระพริบเฉพาะเวลาเบรคฉุกเฉินเท่านั้น แต่กระพริบทุกครั่งที่เบรค นึกถึงตอน รถค่อยๆ ขยับ เวลารถติด นี้เท่ากับ กระพริบตลอดเวลาเลย
3.  จากขัอสอง แม้จะไม่ใช่เวลาเบรค แต่ พวกนี้มักใช้วงจรถูกๆ คุณภาพต่ำต่อพ่วง ใช้ระบบ PWM ไม่ใช่ระบบ Current Regulate  ทำให้มันกระพริบตลอดเวลาแม้ไม่ได้เบรค  อาจจะมองตรงๆ ไม่รู้สึก แต่เวลากวาดสายตา ไปตามถนนจะเห็นมัน กระพริบ เป็น จุดๆ เป็นทาง  น่ารำคาญมาก และทุกวันนี้ก็เห็นคนทำตามกันมากขึ้นทุกวันๆ

ข้อ 2 คิดเหมือนกันน่ะ ไม่รู้เทรนมาจากไหน ไฟท้าย ไฟหรี่สีฟ้าๆ และก็ไฟเบรคกระพริบๆ เนี่ยะ