ผู้เขียน หัวข้อ: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย  (อ่าน 12280 ครั้ง)

ออฟไลน์ tiger12r

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 744
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 16:14:52 »
หหันมาผลิตแค่กะบะให้ดีที่สุดปัญหาน้อยที่สุดก็เพียงพอแล้ว ดูอีซุซุเป็นตัวอย่างสิ  ยังอยู่ได้เลย  8) 8)
Wave100s->VIGO PreCab->VigoChamp4x4->CivicFC & REVO ROCCO4x4

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 18:50:32 »
 8) 8) 8)...ทุกคนที่เคยขับ ฟอร์ดทุกรุ่น หากพูดถึงการ handling จะพูดคล้ายกันว่าเกาะถนน เบรคดี กว่ารถญี่ปุ่นเยอะ แต่พอพูดถึงการบริการหลังการขาย ก็พูดเสียงเดียวกันเช่นกันว่า lousy สุดๆ  นั่นคือตัวฆ่า ฟอร์ด ในไทยตัวจริง  ดังนั้นหากไม่สามารถทำให้คนไทยประทับใจในบริการได้  ไม่ว่าสินค้าจะดีแค่ไหน ก็ม้วนเสื่อกลับบ้านไปเฮอะ เราไม่อาลัยอาวรณ์ด้วยหรอก หรือจะขอแก้มือก็ลองแถลงมา :-X

ออฟไลน์ TrippleA

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 22:27:08 »
อ่านหัวข้อแล้วตกใจ 

ผมแปลเองอีกทีจากข่าวต้นเรื่อง


-----------------------------------------------------
ฟอร์ด ออสเตรเลีย ยังไม่ยืนยันถึงสถานการณ์ของรถเล็กอย่าง เฟียสต้า แม้ว่าจะเปิดตัวไป 6 เดือนก่อนหน้าที่ยุโรป

เป็นการพูดขณะที่เปิดตัวรถ ฟอร์ด ทรานซิสต์ โดยฟอร์ด ซีอีโอ ออสเตรเลีย แกรแฮม วิคแม่น ในเรื่องแผนงานการเปิดตัวของ เฟียสต้าและโฟกัสในอนาคต

"เรายังไม่ได้พูดถึงเฟียสต้าตัวใหม่มากนัก รวมถึงโฟกัส และเมื่อเราพร้อมก็จะบอกกล่าวอีกครั้งนึง"

ข่าวลือก็เนื่องการจากผลิตเฟียสต้าในประเทศไทยยังไม่ได้ผลิตเฟียสต้าตัวใหม่  และการนำเข้าจากยุโรปก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ทางธุรกิจ

สถานการณ์ของโฟกัสตัวใหม่ก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกัน เนื่องจากข่าวการผลิตโฟกัสที่จีนและส่งกลับไปยังอเมริกาและยุโรป อย่างไรก็ตามรถที่สมรรถนะสูงกว่าอย่าง  Fiesta ST, Focus ST and Focus RS  ก็จะยังผลิตในเยอรมันต่อไป

อย่างไรก็ตาม วิคเม่น กล่าวว่าประเด็นการเปิดตัวรถในอนาคต อาจจะเป็นเรื่องอ่อนไหวกลยุทธ์ธุรกิจในการกล่าวถึงเปิดตัวรถสู่ตลาด และตอนนี้ก็มุ่งมั่นกับโมเดลรถที่มีอยู่ในมือและจะไม่คาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า


แล้วก็เป็นข่าวถึงตัวเลขที่ลดลงของรถเล็กรวมถึงเฟียสต้า และทำให้  Fiat Punto, Hyundai i20 and Nissan Almera ก็จะหยุดทำตลาดในปีนี้เช่นกัน


จากนั้นก็พูดถึงโฟกัสที่ตัวเลขที่ยังสดใสในออสเตรเลีย ที่ขายไป 2635  ใน 5 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ปี 2013 ขายได้ถึง 19,180 และปีที่ผ่านมาขายได้เพียง 6783 (อันนี้ถ้าดูตัวเลขก็จะตกใจ แต่สรุปคือปีที่เปิดตัวขายได้เท่านั้นและตอนนี้ปลายโมเดลยังมียอดขายเท่านี้)

-----------------------------------------------------------

ตามข่าวผมว่าเป็นการคาดการณ์กันเอง เพราะตลาดรถเล็กตกกันถ้วนหน้าในออส และไม่มีข่าวอะไรยืนยันว่าจะหยุดผลิตในบ้านเราเลย (มีแต่ข่าวไปผลิตในจีนซึ่งจีนเองก็ขายดีมากไม่แปลกที่เขาจะไปโฟกัสที่โน่นและส่งออกด้วยบางส่วน)  เพียงแต่บ้านเรายังไม่ผลิตตัวใหม่เช่นกัน (จริงๆ ผมคิดว่าบ้านเราอาจจะหยุดผลิตไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะหยุดชั่วคราวเนื่องจากรถในสต๊อคเยอะ) ตอนนี้ไลน์ผลิตก็ผลิตรุ่นอื่นๆ ไปนั่นแหละ

บ้านเราเป็นแหล่งผลิตรถของโลก พร้อมทั้งฝีมือ วัสดุ ซัพพลายเออร์ ขนาดว่าชิ้นส่วนรถยนต์ยังส่งออกไปแหล่งผลิตอื่นๆ อีกทั่วโลก  และอย่าลืมว่าเฟียสต้าทำใน AAT ซึ่งตอนนี้ก็ Mazda และ Ford เกือบจะแยกกันแล้ว

ผมก็คาดการณ์เองเช่นกันว่าไทยจะเป็นแหล่งผลิตรถพวงมาลัยขวาป้อนตลาดโลกนอก EU ต่อไป แต่อาจจะนำเข้า Parts บางส่วนจากจีนมากขึ้นในอนาคต (ก็ย้ายมาจากยุโรปนั่นแหละ เพราะ parts รถเก๋งฟอร์ดจำนวนมากที่ทำในยุโรปนำเข้ามาประกอบ) แต่ชิ้นส่วนตัวถังยังคงประกอบบ้านเราเหมือนเดิมเพื่อประโยชน์ทางภาษี

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 23:11:50 »
สำหรับผม Fiesta จะผลิตหรือไม่ ไม่เสียดายเลย
แต่เสียดายมากถ้าเจ้านี้จะไม่ผลิต มันเป็น B Crossover SUV ที่หน้าหล่อสุดๆ ที่สุดแล้ว
ในย่านราคาที่ไม่กระโดดไปทับ C segment car ถ้า Ford จะมาทุ่มกับเจ้านี้แทนก็ไม่เลว





ส่วน Focus รุ่นนี้น่าจะหล่อที่สุด สุดท้ายแล้ว (ขาดแค่ไฟหน้าไม่หล่อเท่านั้น)

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 03:44:15 »

-----------------------------------------------------------

ตามข่าวผมว่าเป็นการคาดการณ์กันเอง เพราะตลาดรถเล็กตกกันถ้วนหน้าในออส และไม่มีข่าวอะไรยืนยันว่าจะหยุดผลิตในบ้านเราเลย (มีแต่ข่าวไปผลิตในจีนซึ่งจีนเองก็ขายดีมากไม่แปลกที่เขาจะไปโฟกัสที่โน่นและส่งออกด้วยบางส่วน)  เพียงแต่บ้านเรายังไม่ผลิตตัวใหม่เช่นกัน (จริงๆ ผมคิดว่าบ้านเราอาจจะหยุดผลิตไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะหยุดชั่วคราวเนื่องจากรถในสต๊อคเยอะ) ตอนนี้ไลน์ผลิตก็ผลิตรุ่นอื่นๆ ไปนั่นแหละ

บ้านเราเป็นแหล่งผลิตรถของโลก พร้อมทั้งฝีมือ วัสดุ ซัพพลายเออร์ ขนาดว่าชิ้นส่วนรถยนต์ยังส่งออกไปแหล่งผลิตอื่นๆ อีกทั่วโลก  และอย่าลืมว่าเฟียสต้าทำใน AAT ซึ่งตอนนี้ก็ Mazda และ Ford เกือบจะแยกกันแล้ว

ผมก็คาดการณ์เองเช่นกันว่าไทยจะเป็นแหล่งผลิตรถพวงมาลัยขวาป้อนตลาดโลกนอก EU ต่อไป แต่อาจจะนำเข้า Parts บางส่วนจากจีนมากขึ้นในอนาคต (ก็ย้ายมาจากยุโรปนั่นแหละ เพราะ parts รถเก๋งฟอร์ดจำนวนมากที่ทำในยุโรปนำเข้ามาประกอบ) แต่ชิ้นส่วนตัวถังยังคงประกอบบ้านเราเหมือนเดิมเพื่อประโยชน์ทางภาษี

ผมก็คิดไว้แบบนี้ครับ มันคือการคาดเดาอยู่  ยังไงไทยที่คือโรงงานเพื่อ Asia+Pacific ไม่รวมจีนอยู่แล้ว
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 622
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 07:42:17 »
อันนี้ต้องโทษ ford global เพราะต่างประเทศ เจ้า dual clutch แห้งรุ่นเล็ก 150DCT ก็มีปัญหา เป็นผม ถ้ารู้ว่ามีปัญหาขนาดนี้ เปลี่ยนเกียร์ใหม่เป็น torque ธรรมดาไปเลย ชื่อเสีย มันกู้คืนยาก ต่อไปใครซือฟอร์ด ก็คงจำภาพเกียร์พัง เพียงแต่ที่มันขายดีในยุโรป เพราะที่โน่นใช้เกียร์ธรรมดาเยอะ

แต่ ผมว่าถ้า vw มา ก็คงจบคล้าย ford เพราะรถสวย ขับดี แต่ เกียร์ dual cluth ตัวแห้ง DQ200 7 speeds ที่มักใช้ในพวกเครื่องเล็กๆ ของ vw เมืองนอกก็มีพังเป็นระยะๆ ละ แล้วก็ยังไม่เห็น action ของ vw global ด้วย
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 07:52:21 »
ใช้ Focus 2.0L GDi อยู่ คงได้ใช้ยาวอีกแล้ว.. ::) ::)
Mondeo 17-18ปี ,Escape ถึงปัจจุบันก็ 14ปี 8)

ที่ใช้มาFord ..Mondeo,Focus ที่ต้นกำเนิดออกแบบโดยFordยุโรป(เยอรมัน)เป็นรถที่ดีในแง่การประกอบ การออกแบบ วัสดุ
รายละเอียดหยุมหยิมตัวยึดส่วนประกอบตัวถัง/ลดเสียงรบกวน

แต่Escapeที่ประกอบฟิลิปปินส์ ต้นกำเนิดจากอเมริกา วัสดุไม่ค่อยดีนัก

Focus ได้ใช้งานอยู่แถวปริมณฑลนอก กทม.นี่ ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
ใช้ดีทีเดียวในด้านสมรรถนะ ประหยัดน้ำมันดีด้วย
เกียร์powershiftที่หลายคนไม่ชอบ ผมกลับชอบในแง่การถ่ายทอดกำลังและประหยัดเชื้อเพลิง
แม้จะมีปัญหาการออกแบบชิ้นส่วนของระบบเกียร์หลายอย่าง –ตั้งแต่ซีลเกียร์, TCM, ชุดคลัทช์
ซึ่งสุดท้ายก็ปรับปรุงแก้ไขจนจบ(อย่างยาวนาน)

แต่ที่ทำให้ยอดขายตกลงดิ่งเหว จากชื่อเสียงที่เสียหายอย่างหนัก คงจะเป็นเรื่องเกียร์powershift
ที่Ford อาจจะรับมือกับปัญหากับลูกค้าได้ไม่ดีนัก (น่าจะสู้แบบบริษัทญี่ปุ่นไม่ได้)
Fordสู้ตายตามนโยบาย ไม่ยอมซื้อรถคืนตามข้อเสนอ จนปรับปรุงชิ้นส่วนที่มีปัญหาจบลงหมด
คสบ.ก็ไม่สามารถเอาผิดให้ซื้อรถคืนได้
เมื่อพิสูจน์กันโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถที่เป็นคนกลาง ก็ไม่ได้น่ากลัวแบบสิ่งที่เล่าลือ
(แตกต่างจากChevroletที่เคยเจอตกในสภาพเดียวกัน)

แต่การที่ข่าวคราว เล่นออกสื่อทีวี/หนังสือพิมพ์กันหลายรอบ สื่อโซเชี่ยลต่างๆอีกมากมายก่ายกองซะขนาดนั้น
Brandเสียหายไปเยอะ แม้คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยใช้Fordเลย เข้าไปฝังใจด้วยความระแวงความกลัวยี่ห้อนี้เพิ่มขึ้น
ดั่งหลายคนแม้ในเว็บอาจเขียนว่าชอบคุณสมบัติตัวรถอ็อบชั่นรถ แต่เวลาซื้อจริงเลือกยี่ห้อเจ้าตลาดดีกว่า

จะไปโทษว่าศูนย์บริการเป็นตัวปัญหาหลักที่สำคัญสุดที่ทำให้Fordในประเทศไทยย่ำแย่ก็คงไม่ใช่
เพราะยอดขายของRangerก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย และก็ยังต้องใช้บริการในศูนย์ โดยเฉพาะในระยะรับประกัน
ยิ่งรถรุ่นใหม่ไฮเทค ต้องใช้เครื่องมือศูนย์ฯ ถ้าศูนย์แย่มากๆคงขายยาก
ไม่น่าจะยอดขายเพิ่มได้เท่านี้แล้ว



.......ถ้าในที่สุดเป็นความจริงดังข่าว....
จะเป็นเรื่องน่าเศร้าหรือไม่?  ก็ไม่น่าจะขนาดนั้น เพราะเป็นเรื่องของการค้าตลาดเสรี ที่มีอยู่มีไป
ตลาดนี้หาย อาจมีตลาดอื่นขึ้น สินค้านี้หาย สินค้าใหม่อาจมีขึ้นมา

ส่วนทางเลือก รถสมรรถนะดี ปลอดภัยสูง สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ที่ให้ค่าความคุ้มค่ามากๆก็คงลดไปหนึ่ง
รถยุโรปอื่นๆก็ทดแทนได้ แต่ต้องแลกจ่ายมากขึ้น ค่าดูแลมากขึ้น ปัญหาเล็กๆน้อยๆก็อาจมากกว่าFord
ด้วยซ้ำ แต่รถpremiumไม่ค่อยมีใครจะบ่นโวยวายมากนัก

ที่น่าเสียดายก็ตรงเรื่องการแข่งขันแบบตลาดเสรีมากกว่า ทีตลาดMassในบ้านเรานั้น Fordจะเป็นผู้นำต้นๆในการทำให้
มีการพัฒนาคุณภาพตัวรถและเพิ่มอ็อบชั่นต่างๆเพิ่มความปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม
จนยี่ห้ออื่นๆรวมทั้งเจ้าตลาดจำต้องเพิ่มตามด้วยตามกลไกการแข่งขันแบบตลาดเสรีนี้
(แน่ล่ะสัดส่วนกำไรย่อมลดลง) แต่ผลประโยชน์ตกกับผู้บริโภค
ซึ่งแต่ก่อนหลายคนก็ตะโกนปาวๆว่า...ไม่จำเป็น ไม่ต้องใส่มา ไม่อยากเผื่อเสียต้องซ่อม
เท่าที่จำได้ตลาดรถMass น่าจะเป็นเจ้าแรก
/ ขยายเวลารับประกันรถจากหนึ่งปี  เป็น 3ปี/100,000กิโล
/ เปลี่ยนกระจกปิกอัพทุกรุ่น จาก Temper เป็น กระจกLaminate
/ ปิกอัพ 12 วาล์ว (แต่ก่อน 8 วาล์ว)
/ประตูแค้ป แบบตู้กับข้าว
อื่นๆ ก็เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เพิ่มหลากหลายก่อนยี่ห้ออื่นๆ  ฯลฯ

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันดุๆก็ยังมี Honda ที่มีแนวทางในการให้อ็อบชั่นต่างๆเพิ่มแบบเดียวกัน
สุดท้ายทำให้ผู้บริโภคได้ผลประโยชน์ ได้รถที่ดี อ็อบชั่นเหมาะสมไปทุกๆยี่ห้อ ไม่โดนเอาเปรียบเกินไปนัก
ตามแนวทางกลไกการแข่งขันแบบการค้าเสรี

Toyota Thailand เป็นเจ้าแรก ที่ขยายการรับประกันคุณภาพตัวรถยนต์เป็น 3ปี / 100,000 กม.
ในเมืองไทยครับ น่าจะราวๆ ปี 1997-1998 ประมาณนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นส่วนใหญ่จะรับประกัน
อยู่ที่ 2 ปี / 50,000 กม. ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าเป็นการรับประกันที่สูงกว่าในญี่ปุ่นเสียอีกครับ

แล้วหลังจากนั้นรถยี่ห้ออื่นๆ ก็ค่อยทะยอยปรับการรับประกันตามกันมา

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 09:13:32 »
Ford ต้องพิจารณาแล้ว คุ้มไมกับ Fiesta & Focus มีปัญหาตลอด และแก้ปัญหาจบแบบสมบูรณ์สักที
ตัวรถ และ Handing ดีตามนั้นครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 10:18:43 »
เหมือนที่ตอบในกระทู้เชฟ

ทำต่อเถอะครับ เอารุ่นเดิมมา big minor ไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครว่า
เรื่องรูปทรงรถมันก็สมส่วนคงที่มาตั้งแต่ปี 2010 ราวๆ นั้น ที่เปลี่ยนก็
ไปเปลี่ยนแค่รูปลักษณ์ นอกในให้คนจำว่าเป็นตัวเดิมไม่ได้ก็พอ พื้นฐานมันก็ขับดี
ของมันอยู่แล้ว

Toyota ขาย Fortuner ตัวแรกถล่มทลาย ยังอุตส่าห์เขียม เอารุ่นเก่ามาแต่ง
หน้าทาปากใหม่เลย แถมตัดระบบขับสี่ฟูลทม์อีก ไม่มีใครว่าสักคน (ตอนแรกๆ มีบ่นบ้าง)
สำหรับตลาดไทย ทำรถเก๋งต่อก็ยังมีอนาคตนะครับ เน้นให้มันดูโฉบเฉี่ยวหวือหวาก็จบแล้ว
ส่วน part เนื่องจากเอาตัวเก่ามาทำ ก็ต้องทำให้มั่นใจได้แล้วว่าทนทานยอดเยี่ยม

งบที่จะเอาไปฟูลโมเดล ผมว่าเอาไปทำกับพวกรถทรง suv พอ เพราะเทรนด์ตลาดมันดูคุ้มที่
จะเสี่ยง

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 11:38:46 »
ใช้ Focus 2.0L GDi อยู่ คงได้ใช้ยาวอีกแล้ว.. ::) ::)
Mondeo 17-18ปี ,Escape ถึงปัจจุบันก็ 14ปี 8)

ที่ใช้มาFord ..Mondeo,Focus ที่ต้นกำเนิดออกแบบโดยFordยุโรป(เยอรมัน)เป็นรถที่ดีในแง่การประกอบ การออกแบบ วัสดุ
รายละเอียดหยุมหยิมตัวยึดส่วนประกอบตัวถัง/ลดเสียงรบกวน

แต่Escapeที่ประกอบฟิลิปปินส์ ต้นกำเนิดจากอเมริกา วัสดุไม่ค่อยดีนัก

Focus ได้ใช้งานอยู่แถวปริมณฑลนอก กทม.นี่ ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
ใช้ดีทีเดียวในด้านสมรรถนะ ประหยัดน้ำมันดีด้วย
เกียร์powershiftที่หลายคนไม่ชอบ ผมกลับชอบในแง่การถ่ายทอดกำลังและประหยัดเชื้อเพลิง
แม้จะมีปัญหาการออกแบบชิ้นส่วนของระบบเกียร์หลายอย่าง –ตั้งแต่ซีลเกียร์, TCM, ชุดคลัทช์
ซึ่งสุดท้ายก็ปรับปรุงแก้ไขจนจบ(อย่างยาวนาน)

แต่ที่ทำให้ยอดขายตกลงดิ่งเหว จากชื่อเสียงที่เสียหายอย่างหนัก คงจะเป็นเรื่องเกียร์powershift
ที่Ford อาจจะรับมือกับปัญหากับลูกค้าได้ไม่ดีนัก (น่าจะสู้แบบบริษัทญี่ปุ่นไม่ได้)
Fordสู้ตายตามนโยบาย ไม่ยอมซื้อรถคืนตามข้อเสนอ จนปรับปรุงชิ้นส่วนที่มีปัญหาจบลงหมด
คสบ.ก็ไม่สามารถเอาผิดให้ซื้อรถคืนได้
เมื่อพิสูจน์กันโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถที่เป็นคนกลาง ก็ไม่ได้น่ากลัวแบบสิ่งที่เล่าลือ
(แตกต่างจากChevroletที่เคยเจอตกในสภาพเดียวกัน)

แต่การที่ข่าวคราว เล่นออกสื่อทีวี/หนังสือพิมพ์กันหลายรอบ สื่อโซเชี่ยลต่างๆอีกมากมายก่ายกองซะขนาดนั้น
Brandเสียหายไปเยอะ แม้คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยใช้Fordเลย เข้าไปฝังใจด้วยความระแวงความกลัวยี่ห้อนี้เพิ่มขึ้น
ดั่งหลายคนแม้ในเว็บอาจเขียนว่าชอบคุณสมบัติตัวรถอ็อบชั่นรถ แต่เวลาซื้อจริงเลือกยี่ห้อเจ้าตลาดดีกว่า

จะไปโทษว่าศูนย์บริการเป็นตัวปัญหาหลักที่สำคัญสุดที่ทำให้Fordในประเทศไทยย่ำแย่ก็คงไม่ใช่
เพราะยอดขายของRangerก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย และก็ยังต้องใช้บริการในศูนย์ โดยเฉพาะในระยะรับประกัน
ยิ่งรถรุ่นใหม่ไฮเทค ต้องใช้เครื่องมือศูนย์ฯ ถ้าศูนย์แย่มากๆคงขายยาก
ไม่น่าจะยอดขายเพิ่มได้เท่านี้แล้ว



.......ถ้าในที่สุดเป็นความจริงดังข่าว....
จะเป็นเรื่องน่าเศร้าหรือไม่?  ก็ไม่น่าจะขนาดนั้น เพราะเป็นเรื่องของการค้าตลาดเสรี ที่มีอยู่มีไป
ตลาดนี้หาย อาจมีตลาดอื่นขึ้น สินค้านี้หาย สินค้าใหม่อาจมีขึ้นมา

ส่วนทางเลือก รถสมรรถนะดี ปลอดภัยสูง สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ที่ให้ค่าความคุ้มค่ามากๆก็คงลดไปหนึ่ง
รถยุโรปอื่นๆก็ทดแทนได้ แต่ต้องแลกจ่ายมากขึ้น ค่าดูแลมากขึ้น ปัญหาเล็กๆน้อยๆก็อาจมากกว่าFord
ด้วยซ้ำ แต่รถpremiumไม่ค่อยมีใครจะบ่นโวยวายมากนัก

ที่น่าเสียดายก็ตรงเรื่องการแข่งขันแบบตลาดเสรีมากกว่า ทีตลาดMassในบ้านเรานั้น Fordจะเป็นผู้นำต้นๆในการทำให้
มีการพัฒนาคุณภาพตัวรถและเพิ่มอ็อบชั่นต่างๆเพิ่มความปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม
จนยี่ห้ออื่นๆรวมทั้งเจ้าตลาดจำต้องเพิ่มตามด้วยตามกลไกการแข่งขันแบบตลาดเสรีนี้
(แน่ล่ะสัดส่วนกำไรย่อมลดลง) แต่ผลประโยชน์ตกกับผู้บริโภค
ซึ่งแต่ก่อนหลายคนก็ตะโกนปาวๆว่า...ไม่จำเป็น ไม่ต้องใส่มา ไม่อยากเผื่อเสียต้องซ่อม
เท่าที่จำได้ตลาดรถMass น่าจะเป็นเจ้าแรก
/ ขยายเวลารับประกันรถจากหนึ่งปี  เป็น 3ปี/100,000กิโล
/ เปลี่ยนกระจกปิกอัพทุกรุ่น จาก Temper เป็น กระจกLaminate
/ ปิกอัพ 12 วาล์ว (แต่ก่อน 8 วาล์ว)
/ประตูแค้ป แบบตู้กับข้าว
อื่นๆ ก็เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เพิ่มหลากหลายก่อนยี่ห้ออื่นๆ  ฯลฯ

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันดุๆก็ยังมี Honda ที่มีแนวทางในการให้อ็อบชั่นต่างๆเพิ่มแบบเดียวกัน
สุดท้ายทำให้ผู้บริโภคได้ผลประโยชน์ ได้รถที่ดี อ็อบชั่นเหมาะสมไปทุกๆยี่ห้อ ไม่โดนเอาเปรียบเกินไปนัก
ตามแนวทางกลไกการแข่งขันแบบการค้าเสรี

Toyota Thailand เป็นเจ้าแรก ที่ขยายการรับประกันคุณภาพตัวรถยนต์เป็น 3ปี / 100,000 กม.
ในเมืองไทยครับ น่าจะราวๆ ปี 1997-1998 ประมาณนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นส่วนใหญ่จะรับประกัน
อยู่ที่ 2 ปี / 50,000 กม. ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าเป็นการรับประกันที่สูงกว่าในญี่ปุ่นเสียอีกครับ

แล้วหลังจากนั้นรถยี่ห้ออื่นๆ ก็ค่อยทะยอยปรับการรับประกันตามกันมา

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ลองไปค้นหาข้อมูลเก่า ที่หาค่อนข้างยาก

ใช่เลยครับ Toyota เป็นเจ้าแรกที่ขยายรับประกันเป็น 3ปี/100000กิโล เริ่มตั้งแต่ 21 กันยายน 2543 (ปี คศ.2000)
http://www.ryt9.com/s/prg/269071

Ford เริ่มตั้งแต่ 22 กันยายน 2543
http://www.ryt9.com/s/prg/247677

ออฟไลน์ oatekung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
    • อีเมล์
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 12:00:41 »
ขายแต่กระบะกับ เอเวอเรสก็อยู่ได้ ไม่จุกจิกนะเท่าที่อ่านในคลับ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: น่าเศร้า Fiesta & Focus ได้เวลาบอกลาไทย
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 19:22:59 »
อันนี้ต้องโทษ ford global เพราะต่างประเทศ เจ้า dual clutch แห้งรุ่นเล็ก 150DCT ก็มีปัญหา เป็นผม ถ้ารู้ว่ามีปัญหาขนาดนี้ เปลี่ยนเกียร์ใหม่เป็น torque ธรรมดาไปเลย ชื่อเสีย มันกู้คืนยาก ต่อไปใครซือฟอร์ด ก็คงจำภาพเกียร์พัง เพียงแต่ที่มันขายดีในยุโรป เพราะที่โน่นใช้เกียร์ธรรมดาเยอะ

แต่ ผมว่าถ้า vw มา ก็คงจบคล้าย ford เพราะรถสวย ขับดี แต่ เกียร์ dual cluth ตัวแห้ง DQ200 7 speeds ที่มักใช้ในพวกเครื่องเล็กๆ ของ vw เมืองนอกก็มีพังเป็นระยะๆ ละ แล้วก็ยังไม่เห็น action ของ vw global ด้วย

อยากทราบตรงนี้ครับ
ต่างประเทศ เจ้า dual clutch แห้งรุ่นเล็ก 150DCT ก็มีปัญหา

คือข่าวไหนครับ มีอ้างอิงป่ะครับ
6DCT150 หรือครับ ใช้ในฟอร์ดรุ่นไหนครับ
หรือเขียนผิด 6dct250 รึป่าวครับ

เพราะถ้า 6dct150 ผมตามข่าวมา มันยังพัฒนาไม่เสร็จเลยนะครับ (ข่าวบอกว่า ปี18)
และไม่มีข้อความตรงไหนที่โยงว่าฟอร์ดจะใช้6cdt150 เลย