ผู้เขียน หัวข้อ: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD  (อ่าน 29889 ครั้ง)

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
สวัสดีสมาชิก HLM ทุกท่านครับ น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมมาลอง Review ในห้องนี้ หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ครับ

เดิมทีเนื่องจากผมกำลังมองหายางกลุ่ม Touring กึ่ง Performance (บ้านเราเรียกยาง comfort กับยาง sport) มาทดแทนยาง Continental MC5 ที่ติดรถมาประมาณ 25000 กิโลเมตร
ที่ต้องเปลี่ยนยางทั้งที่ระยะพึ่งวิ่งไปไม่นานเนื่องจากไปโดนตะปูตำมา 2 เส้น (ป่ะไป 1 เส้น อีกเส้นเป็นเหล็กยาวฝั่งอยู่แต่ไม่รั่ว) และมีอาการบวมที่แก้มยางอีก 1 เส้น จึงตัดสินใจว่าเปลี่ยนยี่ห้อดูบ้าง

เดิมที่ผมสนใจยาง Goodyear Asymmatric 2 แต่เจ้าเดิมที่จำหน่ายยางรุ่นนี้ไม่นำเข้ามาแล้ว โดยมียี่ห้อ Vredestein มาจำหน่ายแทน และมีรุ่น Ultrac satin ที่มีไซด์ใกล้เคียงกับยางเดิม

ผมจึงลองค้นหาข้อมูลโดนเริ่มจากเวปภาษาไทยและส่วนหนึ่งจากเวปนี้ด้วย ความเห็นส่วนใหญ่ออกไปในแนวทางว่าดูเป็นยางยี่ห้อ No name ที่ยังไม่น่าคบหาเท่าไหร่ บางความเห็นมองว่าเป็นยางเกรด Budget ไม่น่าใช้งานได้ปลอดภัยเสียด้วยซ้ำไป ผมจึงลองดูตามเวปต่างประเทศและเวปที่มีการทดสอบยาง จึงพบว่าเป็นยางที่มีชื่อเสียงในยุโรป นิยมใช้กับรถ Super car และรถจากสำนักแต่งต่างๆเช่น Carlsson Mercedes, Hamann BMW หรือใช้จับคู่กับล้อ HRE สำหรับ Performance Package เป็นต้น ผลทดสอบยางหลายๆรุ่นก็อยู่ในเกณท์ที่ดีถึงดีมาก ผมจึงตัดสินใจที่จะลองใช้ยางยี่ห้อนี้

ข้อมูลยางที่ใช้
Vredestein --- Ultrac Satin
หน้ายาง 215/55/17 97ํY (ไซส์ติดรถเดิม 225/55/17 )
ผลิต : 0216 Netherlands  นับจากวันที่เปลี่ยนก็ 1 ปีพอดี
Traction AA
Treadwear 280
ลมยางตลอดการใช้งาน 32-34 มีเพียงบางครั้งเติม 35

ใน review นี้ผมจะเปรียบเทียบกับ Continental Contimax MC5 กับรถ Subaru XV (Fulltime AWD) ซึ่งเป็นยางติดรถเดิมเป็นหลักครับ
และอาจจะมีบางประเด็นเทียบกับยางที่เคยใช้อย่าง Bridgestone GR90 และ Michelin Primacy 3 ST แต่ใส่รถคันอื่นอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2017, 01:38:13 โดย akewizard »

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 00:26:09 »
At First Sight........

หลังจากที่เปลี่ยนยางแล้วโดยทางร้านเติมลมมาให้ 32 ทุกล้อ สัมผัสแรกที่ล้อวิ่งลงถนนรู้สึกเหมือนยางมันแข็งกว่ายางเดิม เมื่อวิ่งไปบนถนนที่เป็นคอนกรีตเก่าสลับกับรอยป่ะยางมะตอยแล้วรับรู้ความสะเทือนและความหยาบของผิวถนนได้ชัดเจน ตรงรอยต่อถนนหรือวิ่งผ่านฝาท่อก็รู้สึกตึงตังหน่อยๆ หลังจากที่ออกจากร้านแล้วก็วิ่งจากอ้อมน้อยผ่านเพชรเกษม,วิ่งเข้าถนนวงแหวนตะวันตกเพื่อไปออกนครอินทร์ผ่านงามวงวานศ์เข้าเกษตรนวมินทร์เพื่อไปขึ้นทางด่วน,ไปลงวงแหวนตะวันออกเพื่อวิ่งเข้าบ้านนั้น ได้ผ่านหลายๆสภาพถนนแล้วสรุปโดยรวมได้ว่ายางแข็งและกระเทือนกว่าเดิมชัดเจน มีช่วงที่ขึ้นทางด่วนผมลองวิ่งด้วยความเร็วที่สูงขึ้นประมาณ 160-170 อัดโค้งช่วงวัชรพล รู้สึกว่ารถไม่ค่อยนิ่งเท่าที่ควรเมือเทียบกับ MC5 เดิม  วันนั้นผมล้มตัวลงนอนพร้อมประเด็นคาใจว่า.....คิดถูกรึเปล่านะที่ยอมเสียตังค์ซื้อยางแพงแต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจ

เช้าถัดมาวันจันทร์ขับรถจากบ้านเพื่อไปทำงาน แต่คราวนี้ความรู้สึกต่างจากเมื่อวาน...
เมื่อวิ่งไปตามถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางก็ยังรู้สึกถึงความหยาบผิวถนนเหมือนปกติ แต่การซับแรงสะเทือนตามรอยต่อถนนหรือฝาท่อหรือรอยต่อที่เป็นรอยปูดดีขึ้นกว่าเดิมแบบชัดเจนมาก จากที่รู้สึกตึงตังกลับการเป็นรู้สึกแค่ตึงๆส่งผ่านมาให้รู้สึกแค่เบาๆเหมือนใส่ลูกโป่งที่ล้อแทนยางอย่างงั้นเลย ทั้งที่มันก็เป็นยางเส้นเดิม....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2017, 14:27:28 โดย akewizard »

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 01:03:20 »
เปรียบเทียบ Performance ในภาพรวมหลังจากใช้มาเกิน 10,000 กิโลเมตร

การเกาะถนนแห้ง :
ภาพรวมถือว่าเกาะถนนแห้งดี เกาะถนนดีกว่า Conti MC5 โดยเฉพาะเมื่อลองเข้าโค้งที่มีรัศมีแคบบนเส้นทางที่ขับประจำ พบว่าสามารถทำความเร็วได้มากกว่าเดิม 20-30 Km/h แล้วถึงเริ่มมีอาการ Understeer หรือเริ่มออกอาการแถออกนอกแนวโค้ง แก้มยางเหมือนจะแข็งกว่า MC5 นิดหน่อยที่ลมยาง 32-34 ทำให้ออกอาการย้วยน้อยกว่า...แต่ก็ยังแสดงอาการอยู่พอสมควรเมื่อไปเจอโค้งที่ผิวถนนไม่เรียบ

ระยะเบรคบนถนนแห้งจากความรู้สึกพอๆกันกับ MC5 ไม่พบอาการเบรคแล้วไถลหรือระยะเบรคไกลเกินจากที่กะไว้

การวิ่งเมื่อใช้ความเร็วสูงรู้สึกรถนิ่งขึ้นกว่าตอนเปลี่ยนยางใหม่ๆ น่าจะเป็นเพราะยาง run-in จนแนบกับผิวถนนแล้ว แต่ก็ยังมีอาการหวิวนิดๆเมื่อเทียบกับ MC5 เดิม ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะการลดหน้ายางลงจาก 225 เหลือ 215 จึงทำให้ความเสถียรมันลดลงบ้าง (ที่ต้องลดขนาดลงเนื่องจากไซด์ยางตรงรุ่นเดิมหมด)

การเกาะถนนเปียก:
ถ้าเป็นถนนที่ไม่มีแอ่งน้ำขังก็ถือว่า Ultrac Satin เป็นยางที่ขับบนถนนเปียกได้อย่างมั่นใจพอสมควร ผมลองวิ่งลองเข้าโค้งด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับตอนถนนแห้งได้ แต่จะมีอาการลื่นบ้างสำหรับถนนที่ไม่เคยเจอฝนมานานแล้วเพิ่งมีฝนตกเพราะผิวถนนจะมีคราบลื่นๆจากฝุ่นที่ผสมกับน้ำ โดยเฉพาะถนนที่ผิวเป็นยางมะตอยเรียบๆ

แต่ถ้าเป็นถนนที่มีแอ่งน้ำขังที่น้ำลึกหน่อยแล้ววิ่งมาเกิน 100-110 Km/h รถจะมีอาการเป๋โผล่มาชัดเจน ซึ่งเมื่อเทียบกับ MC5 เดิมแล้วยางเดิมแสดงอาการเป๋น้อยกว่าเมื่อวิ่งลุยน้ำขัง

ระยะเบรคบนถนนเปียกวัดจากความรู้สึกใกล้เคียงกับตอนถนนแห้ง ยังไม่เจออาการเบรคแล้วไถลหรือต้องใช้ระยะเบรคมากเกินปกติ ซึ่งต่างจาก MC5 ที่เวลาเจอถนนยางมะตอยผิวเรียบๆแล้วถ้าเบรคหนักๆจะมีอาการไถลชัดเจน

การซับแรงกระเทือน :
ยางรุ่นนี้ประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าจอดรถไว้ไม่ได้วิ่งไปไหน 2-3 วัน พอขับออกมาใหม่ๆจะรู้สึกว่ายางแข็งกระเทือน แต่พอขับไปสักระยะเกิน 20 km แล้วจอดรถไปทำธุระเสร็จพอขึ้นมาขับรถใหม่จะรู้ว่ามันนุ่มขึ้นมาชัดเจน การเก็บรอยต่อถนนหรือรอยปูดต่างๆจะรู้สึกแค่ตึงๆเบาๆ แต่ความหยาบจากผิวถนนยังคงรู้สึกอย่างชัดเจนเช่นเดิม ซึ่งต่างจากยางที่เคยใช้อย่าง Conti MC5 หรือ BS GR90 ที่เก็บความหยาบจากผิวถนนได้ดีแต่เวลาวิ่งผ่านรอยต่อถนนหรือรอยปูดตามฝาท่อแล้วรู้สึกตึงตังกว่า (ยางที่กล่าวถึงใช้แก้มยาง 55 เหมือนกันหมด)

ถ้าเทียบกับ Michelin Primacy 3ST จะรู้สึกว่านิสัยยางจะคล้ายๆกัน คือเก็บความหยาบจากผิวถนนได้ไม่ค่อยเนียนเหมือนกัน แต่การเก็บรอยปูดรอยต่อถนน Ultrac satin จะให้ความรู้สึกเนียนกว่า Primacy 3ST หน่อย

ความเงียบ :
Ultrac Satin เป็นยางที่ไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่ เสียงดังกว่า MC5 ที่ยางยังใหม่อยู่ (แต่ถ้าใช้เกิน 10000 KM ยาง MC5 จะเสียงดังกว่า) เสียงยังดังกว่า BS GR90 และ Primacy 3ST ด้วย แต่ดูจากลายดอกยางที่คล้ายยางสปอร์ตบางรุ่นอย่าง Pilot Sport4 หรือ Asymmatric3 ที่เน้นพิ้นที่หน้ายางเยอะก็พอจะเดาได้ว่าเสียงไม่น่าจะเงียบเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2017, 01:41:20 โดย akewizard »

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 01:22:08 »
บทสรุปส่วนตัวสำหรับยางรุ่นนี้นะครับ

ข้อดี
- ถนนแห้งเกาะดี ดีกว่ายางกลุ่มเดียวกันที่เป็นเกรดกลางๆอย่าง Conti MC5 (และอาจจะดีกว่า GR90 หน่อยๆด้วย)
- เกาะถนนเปียกใกล้เคียงกับตอนถนนแห้ง แต่เจอแอ่งน้ำแล้วอย่าขับเร็วเพราะออกอาการเป๋ง่าย (ความเร็วที่ยังปลอดภัยอยู่ไม่ควรเกิน 100-110 km/h)
- อัดโค้งแล้วย้วยน้อยกว่า Conti MC5, BS GR90, MS Primacy 3 ST เทียบกับความหนาแก้มยาง 55 เหมือนกัน
- การซับแรงสะเทือนถือว่าดีเป็นที่น่าพอใจมาก ให้ความรู้สึกแปลกใหม่จากยางอื่นที่เคยใช้
- ราคาพอๆกันกับยางเกรดระดับเดียวกัน แต่ไม่แพงโด่เหมือน BS
- ความทนทานที่ระยะเกิน 10000 Km สภาพยางยังปกติดี ไม่พบร่องรอยผิดปกติใดๆ
- เป็นยางประหยัดน้ำมันและได้ Euro label ในระดับ A ลืมภาพเดิมๆไปได้เลยว่าเป็นยางประหยัดน้ำมันแล้วจะไม่เกาะถนน

ข้อด้อย
- เหมือนจะเหินน้ำง่ายไปหน่อยนึง อย่าใช้ความเร็วสูงเกินไปตอนลุยแอ่งน้ำ
- เสียงไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่เมื่อเทียบกับยาง Premium ด้วยกัน แต่ไม่ดังขนาดยาง sport
- หาซื้อลำบาก ยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่
- อย่าคาดหวังว่ามันจะทำหน้าที่ได้ดีเหมือนยาง Sport เพราะตัวมันเองยังถือว่าเป็นยาง touring หรือยาง comfort นั่นเอง

ผมมองว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มองหายางแบบกึ่ง sport ที่อยากได้การเกาะถนนหน่อยแต่ยังไม่กล้าไปเล่นยาง Sport เต็มตัว ขับรถไม่เร็วจัด มีเล่นโค้งบ้างมุดบ้างนิดหน่อย
ยางรุ่นนี้ส่วนใหญ่ทำมาสำหรับล้อ 17-19 นิ้วจึงเหมาะกับรถที่เป็นรถนั่งระดับกลางขึ้นไปหรือรถที่ใช้ล้อใหญ่หน่อย หากเป็นล้อที่เล็กกว่านี้อาจจะต้องมองเป็นรุ่นอื่นแทน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2017, 01:58:20 โดย akewizard »

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 01:34:35 »
ส่งท้ายด้วยของแถมผลทดสอบยาง Vredsetein - Ultrac satin ครับเมื่อเทียบกับยางระดับหัวแถวของยุโรปซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาง Performance ของ AMS Tyre Test อ้างอิงจากเวป Tyrereview.co.uk
คุณสมบัติบางด้านถือว่าทำได้ดีสูสีเลยทีเดียว.....

ขอจบการ Review ไว้เท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
หากมีคำถามก็ทิ้งไว้นะครับ ผมไม่ได้เข้ามาห้องนี้บ่อยจะพยายามเข้ามาตอบให้ภายใน 1-2 วัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2017, 01:36:08 โดย akewizard »

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 13:55:55 »
ยี่ห้อแปลกใหม่ดีครับ

ออฟไลน์ JRL

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2017, 07:11:31 »
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวครับ

เคยมีพี่ท่านนึง (ที่ผมแวะไปดูฝาฯ carbon fiber) ก็แนะนำยางรุ่นนี้
ไม่แน่ใจว่า ใช่ จขกท. หรือเปล่า 

ยังไง ถ้าผมทักผิดคน  ต้องขออภัยด้วยนะครับ  :)

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2017, 07:34:04 »
คุณ Ake ลองลดลมยางมาเหลือ 29 ดูครับ

ส่วนตัวผมลองใช้ ลมยาง 29 ตั้งแต่ MC5 จนตอนนี้เปลี่ยนมา 3ST รู้สึกดีกว่าตอนเติม 32-33 เยอะมากครับ พวกถนนซีเมนต์ กับรอยต่อตะเข็บต่างๆ เบาลงเยอะไม่ขึ้นมาที่ห้องโดยสารเลยครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
Re: Review : ยาง Vredestein --- Ultrac Satin หลังระยะทางเกิน 10000 km กับรถ AWD
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2017, 21:14:30 »
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวครับ

เคยมีพี่ท่านนึง (ที่ผมแวะไปดูฝาฯ carbon fiber) ก็แนะนำยางรุ่นนี้
ไม่แน่ใจว่า ใช่ จขกท. หรือเปล่า 

ยังไง ถ้าผมทักผิดคน  ต้องขออภัยด้วยนะครับ  :)

น่าจะคนละคนกันครับ 8)



คุณ Ake ลองลดลมยางมาเหลือ 29 ดูครับ

ส่วนตัวผมลองใช้ ลมยาง 29 ตั้งแต่ MC5 จนตอนนี้เปลี่ยนมา 3ST รู้สึกดีกว่าตอนเติม 32-33 เยอะมากครับ พวกถนนซีเมนต์ กับรอยต่อตะเข็บต่างๆ เบาลงเยอะไม่ขึ้นมาที่ห้องโดยสารเลยครับ

ถ้าได้กลับไปใช้ MC5 อีก จะลองทำตามแนะนำนะครับ 8)