ผู้เขียน หัวข้อ: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!  (อ่าน 13518 ครั้ง)

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2017, 23:07:59 »
เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยสนใจ  แต่ตอนนี้ทางรัฐก็สนับสนุน บ.รถก็มีรถดีๆออกมามากขึ้นเรื่อยๆ  คิดว่าอีกไม่เกิน5ปี น่าจะเป็นรถที่คุ้มค่าน่าใช้ แล้วหละครับ

ออฟไลน์ ariazero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 621
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2017, 23:20:28 »
ใครก็ได้ช่วยอธิบายผมทีครับ เรื่องที่ว่ามีผู้มีอิทธิพลทางน้ำมัน หรือบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่
ที่คอยสกัดกั้นไม่ให้รถไฟฟ้าได้เกิดเนี่ย  เขาทำกันยังไงครับ?

ขอคำอธิบายแบบชัด ๆ เลยนะครับ ไม่ใช่แบบคลุมเครือประเภท บีบรัฐบาล กีดกันบริษัทรถยนต์
บลา ๆ ๆ  อะไรแบบเนี้ยครับ


?_?
ก็แค่คุยกันแล้วก็บอกว่า "ไม่อยาก" คำเดียวก็จบแล้วครับ
เปิดร่างวาระ หรือ พิจารณา นี่ไม่ต้องหยิบยกมาให้เปลืองกระดาษอ่ะ
สมมุติว่าไม่มีใครห้ามใคร มันก็ไม่มีใครเริ่มเอาเข้ามาอยู่ดีครับ (ต่อให้รัฐส่งเสริมนะ....อันที่จริงรัฐก็ส่งเสริมนะ ไอ้รถไฟฟ้าของเขาอ่ะพิ่งเปิดตัวไปผมจำยี่ห้อไม่ได้จริงๆ)

แล้วถ้าเขาเปิดให้เขาเอาเข้ามา ใครอยากเอาเข้ามามั่งครับ? ผู้บริโภคหรอ? ผมว่าต้องรถซักพักเลยนะ... ตัวเรา(ผู้บริโภคนี่แหละงานช้างเล้ย) ^^/

ปัจจัยที่ 1
ผมว่าตัวเรานี่แหละไม่อยากจะใช้เอง 
ปรกติคนเราเปลี่ยนแปลงอะไรย้ากกกกยากนะครับ

คือรถยนต์ไม่ใช่มือถือ ที่จะแบบ โอ้โหหน้าจอสำผัสได้ เจ๋ง หรือ โหหหหห ยานี่รักษามะเร็งได้ เจ๋ง!!
 
สมมุติว่าเราย้ายตัวเองไปอยู่ America หรือ Japan
สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือ รถน้ำมันก็เยอะกว่ารถไฟฟ้าครับ ไม่ใช่ 50/50 แต่เป็น 80 Fuel /20 HV
เชื่อสีครับ ผู้บริโภค สมัยนี้เขาก็ อยากให้ คุณ หรือ คุณๆๆๆอีกหลายคน ไปเป็นหนูทดลอง อะไรใหม่ๆ ของรถก่อนแหละ
เช่นสมัยก่อน ซื้อ Hybrid ไป เงินก็เงินคุณ เรารอรีวิว การใช้งานจากคุณก่อนครับผม ว่ามันดีมั้ย 10 ปีผ่านไป แบตลดราคารึยัง อะไรยังไง ทำไม เมื่อไหร่ จากไหน ใคร?
เขาถึงได้รู้ว่า อ๋อ แบตแพง จุกจิก พังง่าย อยู่ในระหว่างพัฒนา 
ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ก็....เรื่องของคุณ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ (ดีนะผมไม่ได้ซื้อตอนนั้น) 
ส่วนถ้าผลลัพธ์ออกมาดี.. ก็...ราคาแพงจัง ปั้มน้อยจัง นู่นนี่นั้น เห้อ ยังไม่ซื้อละกัน เดียวมันคงมาซักวัน
ในกรณีที่คุณไม่ใช่พวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ราคาส่วนต่างรถ จะมีผลในการตัดสินใจทันที (ขนาด Gasoline กับ Diesel Body เดียวกันผู้ประกอบการรถ ยังคิดความคุ้มค้าต่อ 1 หน่วยการลงทุนของลูกค้าเลยอ่ะคุณ นี่ยังไม่รวมวันที่คุณ จัดFinance นะ^^?)

ไอ้ตรงมันมาซักวันนี้แหละครับ มาครับมันกำลังมา!!! มาแน่ๆ แต่สำหรับเรามันนาน เพราะเหตผลด้านบน
-อ้ะรอหนูทดลองก่อน
-อ้ะรอรัฐทำปั้ม
-รอให้มันมีรถที่ ราคาเหมาะสม

อ่าได้ครับ มันก็จะมาแหละ แต่มันนานหน่อย ด้วยเหตผลด้านบนครับ

ปัจจัยที่ 2

ฮัลโหล!!!! นี่ปี 2017!!! ปีที่
รถไฟฟ้ามหา ณ เธอยังสร้างไม่เสร็จในกรุงเทพฯ แล้วจังหวัตอื่นๆล่ะ (ได้ข่าวว่า เชียงใหม่ เมืองพัฒนาอันดับ 2) ยังไม่มี การคมนาคมประสิทธิภาพสูงที่ทำมาจาก พลังงานที่สะอาดเลยครับ!!!?
มันต้องใช้เวลาอีกมาก กว่าจะพัฒนา ไอ้เจ้าก้อนถ่านเนี่ยให้มัน อยู๋กับเราไปนานๆ แล้วมีราคาถูก 

สมมุติว่าตอนนี้อ่ะ รัฐบาล ลดภาษีรถยนต์ Hybrid 10% ...อะผมว่าลดเหลือ 0% เลยก็ได้นะ  ::)(ไม่รู้ว่ามีผลมากใหม เพราะเท่าที่เห็นคือไม่ใช่ลดราคาอ่ะ แต่มันคือเพิ่ม Optionแต่ไม่ลดราคา 555)
ซึ่งก็ถูกแล้ว ในแง่ธุรกิจ จะลดราคาทำไม? ในเมือ กำไรเนี่ยสามารถลงใน option ฟุ่มเฟือยได้? จะบ้าหรอ แล้วผู้ประกอบการอย่างดิฉัน ไม่มีหน้าที่รณรงค์ สร้างปั้ม EV ครับ รัฐก็ทำสี เดียวผมช่วย(ให้กำลังใจ...ทุกวันนี้ทำ CRM ให้ลูกค้าไม่โวยตอนรถมี Defect ก็เหงือกแห้งและ)

รัฐบาลถ้าจะ ทำเรื่องรถยนต์ที่เป็นการคมนาคมที่สำคัญที่สุดในประเทศไทย ไปทำ รถไฟ ที่ขับด้วยไฟฟ้าให้มันคลุมทั้งประเทศก่อนครับผม ....ว้าว เห็นนโยบายแล้ว มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ แต่โอ้โห กว่าจะมา ไหนรัฐบาลเปลี่ยนมืออีก ประท้วง หยุด หยุด ประท้วง เปลี่ยนมือกันไวกว่า 4.0...จ้าก!!!

ผมว่าผมคงโดนเรียกไป ปรับปรุงทัศนคติ หรือไม่ก็เจอ pipe bomb หน้าบ้านก่อนครับ


ปัจจัยที่ 3
สมมุติว่าไอ้ข่าว NGV นี่เป็นจริง
http://www.tnamcot.com/view/592d293ce3f8e45f4caf76b8
คือมันไม่ค่อยจะเกี่ยวแต่จะบอกว่าพลังงานทางเลือกเป็นสิ่งที่ คนจะลงทุนเปิดปั้ม จะคิดเป็นอย่างหลัง (คือถ้าจะเปิดผมก็เปิด น้ำมันก่อน ก็ตอนนี้น้ำมันมันขายได้มากกว่า อยู่แล้ว)
เหตผลมันก็อยู๋ในการลงทุนครับ ไม่ได้กำไร จะทำไปเพื่ออะไร?





เหมือนมองย้อนกลับไป ที่ Tesla เขาบอกว่าเขายอมขาดทุนเลยเพื่อให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่มะ
ผมก็เชื่อมั่นว่า Toyota ก็ทำมาก่อนแล้วด้วยนะ ไอ้ Hybrid อะไรของเขาเนี่ย
มันก็เปลี่ยนครับ มันเปลี่ยนช้าหน่อยแค่นั้น

ประเทศไทยแค่เริ่มลดภาษีHybrid นี่ก็ปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นและหาดูได้ยากในทุกๆ 1,000 ปีแล้วครับ ใจเย็นๆ เดียวมีอะไรให้ประทับใจมากกว่านี้อีก กับความลุ้นที่ว่า มันจะเกิดขึ้นจริงๆเมื่อไหร่?
คำตอบเนี่ยกลับไปสู้จุดเริ่มต้นง่ายๆว่า เมือผู้ประกอบการเห็นว่าสินค้าไหนคุ้มค่าเมือใด? เดียวเขาก็จับสินค้านั้นมาลงเองแหละครับ


ตัวอย่างมีให้ดูเยอะแยะ
เครื่อง 3.5 L ไม่มีเห็นมะ ?
Sunroof ไม่จำเป็นบางเจ้าก็ไม่สั่งเข้ามาติด
คือ Option ของเล่นบางอย่างก็ไม่ใส่มา...แต่บางทีของบางอย่างมันต้องมาแต่มันก็ไม่มาวุ้ย งงกับเขาจริงๆ แม่คุณ 
หรือ EV ที่มันไม่มาก็เหตผลนี้แหละ เหตผลเดียวกันเลย


ส่วนเรื่องลดโลกร้อน....รอไปก่อนและกัน ตอนนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ "ผลพลอยได้จากการขายรถ Hybrid" ไม่ได้ตั้งเป็นเหตผลหลักครับ

ก่อนคุณจะเห็น รถEV เต็มเมืองได้
คุณต้องเห็น การคมนาคมสาธารณะ เป็น EV ก่อน


นี่ยังไม่นับ Motocycle นะ ว่าอีกกี่ปี ? ไอ้จักรยานไฟฟ้าในประเทศจีน มันมีมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ ไม่ค่อยเห็นนิยมบ้านเราเลย?_? ทำไมล่ะ
กว่า Motocycle จะมีแบตก้อนเล็กๆ ที่เก็บแบตได้นานๆ แล้วมันหายยากนี่ โอโห ไม่อยากจะคิดผลที่ตามมา
คนงัดไปขายงี หายมั่งแหละ

โอยยย อย่าให้พูดเป็นกิโล ขนาด รถน้ำมันแท้ๆมีปัญหาผู้บริโภค ยังประท้วงแทบขาดใจ ฟ้องเข้าไป 2 3 ศาล สุดท้ายผู้ประกอบการตัดสินใจ รอจน Model change กันเลยและกัน  ::)
อ่ะถ้าไม่ทุบรถออกสื่อก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ?

เป็น อะไรที่เหมือนจะลึกซึ้งแต่อันที่จริงมันง่ายๆ เลยคือ ไม่อยาก จบ
'8X Familia, '91 TFR ,
'94 Sunny B13, '98 520i (E28), '99 Sunny B14,
'08 Vios, '08 C200, '08 Vitara
'15 Vios, '17Accord G9 MC, '17 X1 18i

ออฟไลน์ รักเธอเสมอ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,222
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2017, 23:58:31 »
เกลื่อนเมือง......?? ผมเดาว่าอีก 30 ปีอัพนะ !! หรืออาจมีเทคโนโลยีใหม่มาแทนที่แล้วก็ได้นะ

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 00:00:14 »
ผมคงไม่ซี้อละครับ เดือนๆนึงใช้รถไม่ถึง 700 กิโล
ล่าสุดจอดยาวจะเดือนนึงละ ไปบินจีน พอกลับมาก็แพ็ค 4 วัน อู่ตะเภา - ภูเก็ต - อู่ตะเภาอีก เลยไม่รู้จะซี้อมาทำไม

และผมก็ยังชอบเครื่องยนต์สันดาปอยู่ดี ต่อให้น้ำมัน 50 บาทเหมือนปี 07 - 08 ผมก็จะเติมครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 00:26:34 »
แนวโน้มเป็นไปตามนั้นครับ ในต่างประเทศจะค่อนข้างชัดเจน แต่บ้านเรายังน่าห่วงครับ

อีกเรื่องที่เคยได้ยินต่างประเทศบอกเอาไว้คือเรื่องอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้า อันนี้ไม่รู้แก้ได้ยัง

สรุป ถ้าเป็นในบ้านเรา กลัวธงไม่ขาดน่ะสิครับ  :'(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2017, 00:28:10 โดย Nonlamer »

ออฟไลน์ PAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 02:33:44 »
Hybridผมว่าไม่น่าเล่น ระบบมันซับซ้อน ทั้งเครื่องทั้งมอเตอร์  แต่ไฟฟ้าล้วนน่าเล่นมากๆดูไม่น่าจะจุกจิกเหมือนhybrid  :-*

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 02:38:26 »
เมืองนอกที่ใช่้กันเยอะๆสัดส่วนกี่%เองเทียบกับไม่มีไฟฟ้า จะฟันธงในไทยเลยหรอครับ แฮ่ !!!

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 06:36:17 »
ผมว่า  ผมไม่ทันได้เห็นแบบ"เกลื่อน"แน่ ๆ   ตายก่อน...

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,698
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 08:33:07 »
ใครก็ได้ช่วยอธิบายผมทีครับ เรื่องที่ว่ามีผู้มีอิทธิพลทางน้ำมัน หรือบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่
ที่คอยสกัดกั้นไม่ให้รถไฟฟ้าได้เกิดเนี่ย  เขาทำกันยังไงครับ?

ขอคำอธิบายแบบชัด ๆ เลยนะครับ ไม่ใช่แบบคลุมเครือประเภท บีบรัฐบาล กีดกันบริษัทรถยนต์
บลา ๆ ๆ  อะไรแบบเนี้ยครับ


?_?
ก็แค่คุยกันแล้วก็บอกว่า "ไม่อยาก" คำเดียวก็จบแล้วครับ
เปิดร่างวาระ หรือ พิจารณา นี่ไม่ต้องหยิบยกมาให้เปลืองกระดาษอ่ะ
สมมุติว่าไม่มีใครห้ามใคร มันก็ไม่มีใครเริ่มเอาเข้ามาอยู่ดีครับ (ต่อให้รัฐส่งเสริมนะ....อันที่จริงรัฐก็ส่งเสริมนะ ไอ้รถไฟฟ้าของเขาอ่ะพิ่งเปิดตัวไปผมจำยี่ห้อไม่ได้จริงๆ)

แล้วถ้าเขาเปิดให้เขาเอาเข้ามา ใครอยากเอาเข้ามามั่งครับ? ผู้บริโภคหรอ? ผมว่าต้องรถซักพักเลยนะ... ตัวเรา(ผู้บริโภคนี่แหละงานช้างเล้ย) ^^/

ปัจจัยที่ 1
ผมว่าตัวเรานี่แหละไม่อยากจะใช้เอง 
ปรกติคนเราเปลี่ยนแปลงอะไรย้ากกกกยากนะครับ

คือรถยนต์ไม่ใช่มือถือ ที่จะแบบ โอ้โหหน้าจอสำผัสได้ เจ๋ง หรือ โหหหหห ยานี่รักษามะเร็งได้ เจ๋ง!!
 
สมมุติว่าเราย้ายตัวเองไปอยู่ America หรือ Japan
สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือ รถน้ำมันก็เยอะกว่ารถไฟฟ้าครับ ไม่ใช่ 50/50 แต่เป็น 80 Fuel /20 HV
เชื่อสีครับ ผู้บริโภค สมัยนี้เขาก็ อยากให้ คุณ หรือ คุณๆๆๆอีกหลายคน ไปเป็นหนูทดลอง อะไรใหม่ๆ ของรถก่อนแหละ
เช่นสมัยก่อน ซื้อ Hybrid ไป เงินก็เงินคุณ เรารอรีวิว การใช้งานจากคุณก่อนครับผม ว่ามันดีมั้ย 10 ปีผ่านไป แบตลดราคารึยัง อะไรยังไง ทำไม เมื่อไหร่ จากไหน ใคร?
เขาถึงได้รู้ว่า อ๋อ แบตแพง จุกจิก พังง่าย อยู่ในระหว่างพัฒนา 
ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ก็....เรื่องของคุณ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ (ดีนะผมไม่ได้ซื้อตอนนั้น) 
ส่วนถ้าผลลัพธ์ออกมาดี.. ก็...ราคาแพงจัง ปั้มน้อยจัง นู่นนี่นั้น เห้อ ยังไม่ซื้อละกัน เดียวมันคงมาซักวัน
ในกรณีที่คุณไม่ใช่พวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ราคาส่วนต่างรถ จะมีผลในการตัดสินใจทันที (ขนาด Gasoline กับ Diesel Body เดียวกันผู้ประกอบการรถ ยังคิดความคุ้มค้าต่อ 1 หน่วยการลงทุนของลูกค้าเลยอ่ะคุณ นี่ยังไม่รวมวันที่คุณ จัดFinance นะ^^?)

ไอ้ตรงมันมาซักวันนี้แหละครับ มาครับมันกำลังมา!!! มาแน่ๆ แต่สำหรับเรามันนาน เพราะเหตผลด้านบน
-อ้ะรอหนูทดลองก่อน
-อ้ะรอรัฐทำปั้ม
-รอให้มันมีรถที่ ราคาเหมาะสม

อ่าได้ครับ มันก็จะมาแหละ แต่มันนานหน่อย ด้วยเหตผลด้านบนครับ

ปัจจัยที่ 2

ฮัลโหล!!!! นี่ปี 2017!!! ปีที่
รถไฟฟ้ามหา ณ เธอยังสร้างไม่เสร็จในกรุงเทพฯ แล้วจังหวัตอื่นๆล่ะ (ได้ข่าวว่า เชียงใหม่ เมืองพัฒนาอันดับ 2) ยังไม่มี การคมนาคมประสิทธิภาพสูงที่ทำมาจาก พลังงานที่สะอาดเลยครับ!!!?
มันต้องใช้เวลาอีกมาก กว่าจะพัฒนา ไอ้เจ้าก้อนถ่านเนี่ยให้มัน อยู๋กับเราไปนานๆ แล้วมีราคาถูก 

สมมุติว่าตอนนี้อ่ะ รัฐบาล ลดภาษีรถยนต์ Hybrid 10% ...อะผมว่าลดเหลือ 0% เลยก็ได้นะ  ::)(ไม่รู้ว่ามีผลมากใหม เพราะเท่าที่เห็นคือไม่ใช่ลดราคาอ่ะ แต่มันคือเพิ่ม Optionแต่ไม่ลดราคา 555)
ซึ่งก็ถูกแล้ว ในแง่ธุรกิจ จะลดราคาทำไม? ในเมือ กำไรเนี่ยสามารถลงใน option ฟุ่มเฟือยได้? จะบ้าหรอ แล้วผู้ประกอบการอย่างดิฉัน ไม่มีหน้าที่รณรงค์ สร้างปั้ม EV ครับ รัฐก็ทำสี เดียวผมช่วย(ให้กำลังใจ...ทุกวันนี้ทำ CRM ให้ลูกค้าไม่โวยตอนรถมี Defect ก็เหงือกแห้งและ)

รัฐบาลถ้าจะ ทำเรื่องรถยนต์ที่เป็นการคมนาคมที่สำคัญที่สุดในประเทศไทย ไปทำ รถไฟ ที่ขับด้วยไฟฟ้าให้มันคลุมทั้งประเทศก่อนครับผม ....ว้าว เห็นนโยบายแล้ว มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ แต่โอ้โห กว่าจะมา ไหนรัฐบาลเปลี่ยนมืออีก ประท้วง หยุด หยุด ประท้วง เปลี่ยนมือกันไวกว่า 4.0...จ้าก!!!

ผมว่าผมคงโดนเรียกไป ปรับปรุงทัศนคติ หรือไม่ก็เจอ pipe bomb หน้าบ้านก่อนครับ


ปัจจัยที่ 3
สมมุติว่าไอ้ข่าว NGV นี่เป็นจริง
http://www.tnamcot.com/view/592d293ce3f8e45f4caf76b8
คือมันไม่ค่อยจะเกี่ยวแต่จะบอกว่าพลังงานทางเลือกเป็นสิ่งที่ คนจะลงทุนเปิดปั้ม จะคิดเป็นอย่างหลัง (คือถ้าจะเปิดผมก็เปิด น้ำมันก่อน ก็ตอนนี้น้ำมันมันขายได้มากกว่า อยู่แล้ว)
เหตผลมันก็อยู๋ในการลงทุนครับ ไม่ได้กำไร จะทำไปเพื่ออะไร?





เหมือนมองย้อนกลับไป ที่ Tesla เขาบอกว่าเขายอมขาดทุนเลยเพื่อให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่มะ
ผมก็เชื่อมั่นว่า Toyota ก็ทำมาก่อนแล้วด้วยนะ ไอ้ Hybrid อะไรของเขาเนี่ย
มันก็เปลี่ยนครับ มันเปลี่ยนช้าหน่อยแค่นั้น

ประเทศไทยแค่เริ่มลดภาษีHybrid นี่ก็ปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นและหาดูได้ยากในทุกๆ 1,000 ปีแล้วครับ ใจเย็นๆ เดียวมีอะไรให้ประทับใจมากกว่านี้อีก กับความลุ้นที่ว่า มันจะเกิดขึ้นจริงๆเมื่อไหร่?
คำตอบเนี่ยกลับไปสู้จุดเริ่มต้นง่ายๆว่า เมือผู้ประกอบการเห็นว่าสินค้าไหนคุ้มค่าเมือใด? เดียวเขาก็จับสินค้านั้นมาลงเองแหละครับ


ตัวอย่างมีให้ดูเยอะแยะ
เครื่อง 3.5 L ไม่มีเห็นมะ ?
Sunroof ไม่จำเป็นบางเจ้าก็ไม่สั่งเข้ามาติด
คือ Option ของเล่นบางอย่างก็ไม่ใส่มา...แต่บางทีของบางอย่างมันต้องมาแต่มันก็ไม่มาวุ้ย งงกับเขาจริงๆ แม่คุณ 
หรือ EV ที่มันไม่มาก็เหตผลนี้แหละ เหตผลเดียวกันเลย


ส่วนเรื่องลดโลกร้อน....รอไปก่อนและกัน ตอนนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ "ผลพลอยได้จากการขายรถ Hybrid" ไม่ได้ตั้งเป็นเหตผลหลักครับ

ก่อนคุณจะเห็น รถEV เต็มเมืองได้
คุณต้องเห็น การคมนาคมสาธารณะ เป็น EV ก่อน


นี่ยังไม่นับ Motocycle นะ ว่าอีกกี่ปี ? ไอ้จักรยานไฟฟ้าในประเทศจีน มันมีมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ ไม่ค่อยเห็นนิยมบ้านเราเลย?_? ทำไมล่ะ
กว่า Motocycle จะมีแบตก้อนเล็กๆ ที่เก็บแบตได้นานๆ แล้วมันหายยากนี่ โอโห ไม่อยากจะคิดผลที่ตามมา
คนงัดไปขายงี หายมั่งแหละ

โอยยย อย่าให้พูดเป็นกิโล ขนาด รถน้ำมันแท้ๆมีปัญหาผู้บริโภค ยังประท้วงแทบขาดใจ ฟ้องเข้าไป 2 3 ศาล สุดท้ายผู้ประกอบการตัดสินใจ รอจน Model change กันเลยและกัน  ::)
อ่ะถ้าไม่ทุบรถออกสื่อก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ?

เป็น อะไรที่เหมือนจะลึกซึ้งแต่อันที่จริงมันง่ายๆ เลยคือ ไม่อยาก จบ


ขอบคุณที่ตอบนะครับ
แต่อ่านดูแล้วเหมือนจะตอบว่า การที่ EV, HV ไม่เกิด มันมาจากลูกค้าหรือคนซื้อส่วนใหญ่ยัง "ไม่อยาก"
ซึ่งโอเคครับ อันนี้เข้าใจได้ไม่ยาก ที่เห็นอยู่ปัจจุบันมันก็เป็นแบบนี้อยู่

แต่ประเด็นที่ผมสงสัยและถามคือ "ผู้มีอิทธิพลทางน้ำมัน หรือบริษัทน้ำมัน" คอยสกัดกั้นไม่ให้รถ EV, HV เกิดเนี่ย
เขาทำกันยังไง   กีดกันยังไงครับ   How ???

คืออยากรู้จริง ๆ ครับ  เห็นพูดกันมานานละ  กีดกันในระดับโลก มาจนถึงระดับประเทศเนี่ย
(หรือมันก็เป็นเพียงแค่การมองโลกในแง่ร้าย แล้ว "มโน" เป็นตุเป็นตะกันไป)

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 08:55:24 »
ส่วนตัวไม่ชอบ Hybrid ครับ รู้สึกว่าหลายระบบพัวพันกันไปหมด

ชอบเครื่องปกติ หรือถ้าในอนาคตคงใช้ EV ไปเลย เช่น Tesla ครับ
แต่ถ้าให้เลือกใช้งานจริงๆ ตราบใดที่ยังมีน้ำมันให้เติมก็ขอเครื่องปกตินี่แหละ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 09:16:31 »
สมาชิกใหม่ กระทู้แรก ด้วย มีแต่ Nissan
แบบนี้แปลว่า Nissan Note Hybrid มาแน่ๆใช่ไหมครับ ฝ่ายการตลาดออกมายืนยันเองเลย(หรือป่าวหว่า)  ::)
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 09:29:52 »
ผมว่าที่ Mazda speculate ไว้น่าสนใจครับ
ผมว่า Mazda เปรียบเสมือนปราการสุดท้ายของฝ่ายเครื่องยนต์สันดาบปกติ
เลยล่ะ เมื่อใดที่ Skyactiv ไม่มีภาคต่อหลังจากตัว Skyactiv X
ตอนนั้นแหล่ะ แสดงว่าเขามองแล้วว่า โลกนี้กำลังจะเปลี่ยน
แต่ในไทยอาจจะบวกเวลาช้าไปกว่านั้นประมาณนึง
ล่าสุดเราเห็นภาพถึงแค่ปี 2030 หรืออีก 13 ปีข้างหน้า
ซึ่ง N/A ก็ยังไม่จบสิ้น ผมว่าต้องคอยตามดูต่อไปทีละระยะ
10 ปี หรือ 5 ปี บางทีเวลาที่เราต้องเปลี่ยน ก็อาจจะมาจากการถูกบังคับ
กลายๆ ได้ จะจากทางสังคม สิ่งแวดล้อม การเมือง เศรษฐกิจ ผู้ผลิต มันมาได้
จากทุกๆ ทาง แต่เราไม่รู้มันจะมาทางไหนกันแน่เท่านั้น

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 10:02:18 »
ตราบใดที่ยังไม่ปรับปรุงเรื่องเวลาชาร์จ  ผมว่ารถ EV ยังห่างไกลจากการใช้จริงมากครับ

Tesla ตอนนี้ก็ไม่ได้ใช้ไฟฟรีแล้วนะ  ผมก็รอดูเหมือนกันว่าจะไปได้แค่ไหน

ถ้าเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่  ที่ทำฝห้เวลาชาร์จน้อยลงมาถึงเมื่อไหร่  รถไฟฟ้า ev คงได้เจอกัน

สถานีชาร์จ  ถ้าต้องรอชาร์จรถนานหลายนาที ลองนึกถึงตามปั้ม NGV ก็ได้ครับ  ว่าคิวยาวขนาดไหน 

ส่วน hybrid ผมว่าเกลื่อนนานละครับ  เพราะค่ายรถบางค่ายบีบคอบังคับขาย  แต่ด้วยความเป็นตราดาวรถหรู ขวัญใจคนไทย  ก็เลยยังขายได้  แต่ก็เจอปัญหาย้อนหลังจุกจิกเอาเรื่อง  แค่นี้เรื่องซ่อมก็ปวดหัวพอละ

ผมมองกลางๆดีกว่า   รถไฟฟ้ามันจะมาจริงๆหรือเปล่า   ในเมื่อหลายๆประเทศ  ลดการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (ประหยัดไฟเพิ่มและมีไฟฟ้าเหลือใช้น้อยลง)  การสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามันดูขัดแย้งกับทิศทางด้านพลังงานของหลายๆชาติ

เหมือนที่พี่จิมเคยพูดไว้ในรายการ  บางที  มันมองตื้นๆไม่ได้ ไฟฟ้าในบ้านเรา  มันพอหรือไม่

บางที  การกำจัดขยะแบตเตอรี่  อาจจะสร้างมลภาวะมากกว่า รถสันดาป  ตอนนี้หลายๆประเทศก็ลดสิทธิประโยชน์ของรถไฟฟ้าลงไปพอสมควร  แต่เยอรมันยังผลักดันอยู่  แต่ไม่รู้เพราะเป็นการผลักดันเพื่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศตัวเองหรือเปล่า

มองกลางๆดีกว่า   ตอนแรกคนกังวลเรื่องน้ำมันหมดโลก  ไปๆมาๆ ก็ค้นพบ shale gas , เรื่องรถไฟฟ้าบางทีผมก็ว่ายังไม่แน่นอนเสียทีเดียวหรอกครับ   การตลาดของค่ายรถไฟฟ้าบางทีผมคงเชื่อแบบฟังหูไว้หู

วิทยาศาสตร์มันไปเร็วครับ  แบตเตอรี่ที่ชาร์จไว  อาจจะเกิดขึ้น  หรืออาจจะเกิดเชื้อเพลิงชนิดใหม่ที่ก่อมลพิษน้อยมากๆมาให้ผลักดันอีก   อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้นครับ

ออฟไลน์ kenny523

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 801
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 11:17:37 »
คันนี้ 5300 USD
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2017, 11:21:15 โดย kenny523 »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 11:33:26 »
ผลประโยชน์มันบังตา หน้ามืดตามัวไปหมด พวกไดโนเสาร์กลุ่มทุนผูกขาดทั้งในประเทศกับต่างชาติรวมทั้งลิ้วล้อใน supply chain เดียวกัน ไม่ยอมง่ายๆหรอกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2017, 11:36:01 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 11:57:02 »
รถไฟฟ้ามันดีกว่ารถน้ำมันอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ถึงสนใจและเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
ผมฟังรายการพี่จิมมี่อยู่ทุกสัปดาห์ ได้ยินรถใส่ถ่านทุกสัปดาห์

แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่คำนึงถึง คือ
ระบบไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่ใช่โรงงานใหญ่ๆ ที่ต้องตรวจเช็คระบบทุกวัน มันเป็นอะไรที่ ง่อยมาก
พร้อมที่จะรวน พร้อมที่จะเสียตลอดเวลา
ยกตัวอย่างง่ายๆวิทยุรถที่มีแทบจะทุกคัน มันยังเอ๋อ ทำงานบ้างแฮงบ้าง
นี้คือระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ถ้ามันไปควบคุมทั้งรถ แค่ IC Diode รวมไปถึง Capacitor ช๊อตตัวเดียว มันพังทั้งรถเลยนะครับ
  เรื่องง่อยมันไม่ถึงกับง่อยขนาดนั้นหรอกครับ  แต่ถ้ามีอะไรมาโจมตีโลกอาจเหมือนในหนังก็ได้คือง่อยไปเลย

   
    แต่การที่เป็นระบบไฟฟ้าทั้งคัน  ให้สังเกตุการใช้งานของรถโฟลค์ลิฟท์ไฟฟ้าก็ได้     มันใช้งานได้ดีกำลังสูง สะอาดเหมาะใช้ในโรงงานหรือโกดัง  แต่พอเซอร์วิสใหญ่มันแพงมาก   หรือผ่านไประยะนึงก็หมดสภาพ  ขายยังไม่มีคนซื้อ            ซึ่งแนวคิดการทำรถยนต์แบบนี้มันยังไม่เหมาะกับบ้านเราหรือบางประเทศ  ยกเว้นประเทศพัฒนาแล้วรถยนต์มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบค่าครองชีพ   แล้วคนที่นั่นใช้รถไม่เกิน 10 ปีทิ้งรถโดยไม่คำนึงถึงราคาขายต่อหรือไม่กลัวต้องซ่อมเนื่องจากไม่ซ่อม ทิ้งอย่างเดียว   แบบนี้ก็น่าใช้ครับ

พูดถึงรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

ผมเอง ขายแบตประเภทนี้อยู่แท้ๆ
ผมไปซื้อรถมือสองสภาพดีมาใช้งาน ราคา 5 แสน
ทุกๆครั้งที่เปลี่ยนแบต ยังแอบสะอึก

น้ำมันก็เหมือนค่าเช่า
แต่ แบตเตอรี่คือการเซ้งเลย

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,698
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 12:05:36 »
ช่วยอธิบายแบบชัด ๆ ได้มั้ยครับ 

ตอบแบบกำกวมอย่างนี้นึกไม่ออกครับ ที่ว่ากลุ่มทุนผูกขาด ลิ่วล้อซับพลายเชนไม่ยอม บลา ๆ ๆ

ไม่ยอมแล้วไงครับ ????

ไม่ยอมแล้วเขาทำอะไรครับ ????

ถึงทำให้ EV เกิดไม่ได้  ช่วยอธิบายโดยละเอียดได้มั้ยครับ ถือเป็นวิทยาทานก็ละกันนะ นะนะนะ พี่ 

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 12:21:34 »
10 กว่าปีที่แล้วซื้อ estima hybrid มาใช้ เซลล์ก็บอกรถแนวนี้มาแน่ ค่าแบตถูกลงเรื่อยๆแน่นอน สุดท้ายเวลาผ่านจนถึงวันนี้ ก็ไม่เห็นจะถูกลง แถมระบบที่เกี่ยวข้องพากันเสีย ศูนย์รถเองก็รับประกันแต่แบต แต่วงจรอื่นๆต้องรับผิดชอบเอง ค่าซ่อมแพงมาก สุดท้ายกว่าจะขายออกไปได้ แทบจะตัดใจทิ้งเป็นเศษเหล็ก ขนาดเต็นท์รถยังไม่รับซื้อเลย ตอนนี้ตั้งใจเลยว่าถ้ายังมีทางเลือกอื่น ขอเลือกทางอื่นก่อนแน่นอน
555555555    ขนาดคนเล่นเวปนี้ว่าเป็นคนมีความรู้ หาข้อมูลกันเยอะมาก และมีพื้นฐานทางการเงินค่อนข้างดีแล้วนะหลายคนมีหน้าที่การงานดี การศึกษาดี ฐานะดี ทำธุรกิจส่วนตัว       ยังมาเชื่ออะไรแบบนี้กันอยู่เลย   
 
  ---   ผมสมมุติว่าราคาแบตเตอรี่ 1 แสนบาท  ต่อให้ผลิต Mass production  ออกมาได้  ราคาขายที่เป็นอะไหล่ในอนาคตจะเหลือกี่บาท ยังไงก็เกิน 7 หมื่นบาท   ต่ำกว่านี้คือต่ำกว่า 50%  คือ 5 หมื่นบาท  คือว่ามันเป็นไปได้ไหม       คนทำธุรกิจอยุ่ก็จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้    แต่หวังลม ๆ แล้งราคาแบตถูก   ถูก นี่ถูกขนาดไหนครับจึงจะซื้อรถไฮบริดหรือรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ 

 -----   อะไหล่ไฮบริด หรือ EV   มันแพงมาก และมีระยะเวลาที่ต้องเสียแน่นอนกว่ารถสันดาป  คือครบอายุมันจะหมดสภาพไปเอง   สมมุติคอมแอร์ 4-5 หมื่นบาท  ปั๊ม ABS 1 แสนกว่าบาท แร๊กพวงมาลัยไฟฟ้า 40,000 บาท   อนาคตมันก็ราคานี้ เต็มที่ราคาก็ถูกลงแค่ 20-30% หรืออาจจะแพงขึ้นอีกตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป  คือค่าวิจัยที่เพิ่มขึ้น         แต่โทษทีแต่คนละเมอกันว่า  อะไหล่มันจะถูกลง  ลูกค้าบางคนหวังว่าค่าเซอร์วิสรถประเภทนี้จะถูกลง ไม่ได้คิดบนพื้นฐานความจริงเลย  เอาอะไรมาอ้างว่าถูกลงครับ นอกจากความฝันเข้าข้างตัวเอง

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 12:57:01 »
ส่วนคำถามที่ท่านว่า บริษัทน้ำมันกับริษัทรถกีดกัน  หรือป้องกันรถ ไฟฟ้า  ขอบอกว่าไม่จริงเลย

   1. ปตท บางจาก ก็ปรับรูปแบบธุรกิจไปต่างหาก  จากปั๊มน้ำมันก็ขายไปเป็นขายไฟฟ้าไปด้วย  ทำสถานีชาร์จไฟ  ก็แค่นั้นเองเพราะถ้าอนาคตรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นบริษัทน้ำมันก้จะเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจชาร์จไฟตามสถานี โดยอาศัยทำเลปั๊มน้ำมันที่มีอยู่กับทำเลใหม่เพิ่มขึ้น     ไม่ต้องห่วงบริษัทเขากินรวบเอง    ไม่ให้ประชาชนไปลงทุนเปิดปั๊มสถานีชาร์จไฟฟ้าแข่งกับเขาหรอก   เขาจะยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาอ้างและไม่ให้สิทธิ์ดำเนินการ

  2. ค่ายรถก็อยากทำรถไฟฟ้าไม่งั้นเขาจะลงทุนทำวิจัยทำไมล่ะ  ไม่ได้ขัดขวางแต่อะไรขายได้ในช่วงเวลานี้เขาก็ขายนั่นละแต่ก็เรื่องธุรกิจเพราะบริษัทเขาทำธุรกิจก็แค่นั้นเอง   ปัจจุบันค่าย Nissan YAMAHA ก็บริจาครถให้ สมอ หรือไม่แน่ใจว่า สภาอุต เอาไปทดลองใช้งานในไทย   ความเป็นไปได้ในการขายคงอีกนานด้วยปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อ ในเมืองไทย

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 13:18:21 »
ส่วนคำถามที่ท่านว่า บริษัทน้ำมันกับริษัทรถกีดกัน  หรือป้องกันรถ ไฟฟ้า  ขอบอกว่าไม่จริงเลย

   1. ปตท บางจาก ก็ปรับรูปแบบธุรกิจไปต่างหาก  จากปั๊มน้ำมันก็ขายไปเป็นขายไฟฟ้าไปด้วย  ทำสถานีชาร์จไฟ  ก็แค่นั้นเองเพราะถ้าอนาคตรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นบริษัทน้ำมันก้จะเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจชาร์จไฟตามสถานี โดยอาศัยทำเลปั๊มน้ำมันที่มีอยู่กับทำเลใหม่เพิ่มขึ้น     ไม่ต้องห่วงบริษัทเขากินรวบเอง    ไม่ให้ประชาชนไปลงทุนเปิดปั๊มสถานีชาร์จไฟฟ้าแข่งกับเขาหรอก   เขาจะยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาอ้างและไม่ให้สิทธิ์ดำเนินการ

  2. ค่ายรถก็อยากทำรถไฟฟ้าไม่งั้นเขาจะลงทุนทำวิจัยทำไมล่ะ  ไม่ได้ขัดขวางแต่อะไรขายได้ในช่วงเวลานี้เขาก็ขายนั่นละแต่ก็เรื่องธุรกิจเพราะบริษัทเขาทำธุรกิจก็แค่นั้นเอง   ปัจจุบันค่าย Nissan YAMAHA ก็บริจาครถให้ สมอ หรือไม่แน่ใจว่า สภาอุต เอาไปทดลองใช้งานในไทย   ความเป็นไปได้ในการขายคงอีกนานด้วยปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อ ในเมืองไทย

เห็นด้วยครับ
และที่เขาช้า ก็เพราะกำลังหาช่องทำเงินในธุรกิจใหม่มากกว่า
ที่ว่าขัดขวางก็อาจจะส่วนหนึ่ง ยังไม่ลงล็อค แต่ยังไงๆ
กลุ่ม top 5 ที่เป็นผู้มีอำนาจเงินและครอบครองทรัพยากรส่วนใหญ่ของประเทศ
ก็ต้องลงมาทำปั้มไฟฟ้าหรืออะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าแน่ หนึ่งในนั้นก็ ปตท. แน่นอน

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 15:02:05 »
จากสถานการณ์ การตลาดตอนนี้    ผมมีความเชื่อว่า     นิสสัน อีเพาเว้อ   กับ MG6  ใหม่  จะตั้งราคาขายไม่แพง   รอดูครับ  อีก2ปี  เมื่อ2ตัวนี้ เปิดราคาออกมาแล้ว  พวกเราอาจจะได้คำตอบ   ...แต่ยังไงก็ไม่เกลื่อนเมืองหรอกครับ  แค่เริ่มต้นเท่านั้น

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,587
  • may the force lead your way ...
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 17:05:19 »
พวกคุณกำลังมาผิดทางกันหมด  ;D

อาวุธของประเทศด้านการค้าก็คือกำหนดกรอบของกฎหมาย และกำแพงภาษี
แต่ถ้าผลประโยชน์ของยักษ์ใหญ่ที่อยู่ภายในหละ?

ดูจากขนาดตัวถังรถอีโคคาร์ที่ระบุในกฎหมาย รึจะขนาด taxi ที่กำหนดไว้
ก็ต้องยอมรับกันหละ ว่าผู้ผลิตรายใหญ่มีความเกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทางพวกนี้

ยังไม่พูดถึงพวกได้รับผลประโยชน์จากการลงทุน ด้านภาษี หรือส่งออก
ที่จะต้องมีแพลนส่งให้รัฐรับรู้ตัวเลขประมาณการเหมือนที่ได้ยินมาก็ 3 ปีล่วงหน้าอย่างน้อย

ส่วนเทคโนโลยี ถ้าไม่มีแมสโปรดักชั่นของรายใหญ่มารองรับ
การนำมาใช้จริงของรายย่อยก็ยิ่งยากด้านราคา
ผมว่าข้อนี้ต่างหากที่คล้ายการกีดกันของรายใหญ่

ดูจากอีลอน มัสก์ ที่มีอิทธิพลด้านแบตรถยนต์ว่าในช่วง 3-5 ปีจะไปได้ถึงไหน?
ขนาดต่างประเทศทั้งดันทั้งผลักทั้งลาก ยังได้ประมาณที่เห็นๆกัน

ส่วนตัวมองว่ารถ ev ยังคงเหมาะกับการใช้ในเมืองเป็นหลักมากกว่า
รอให้ทางลูกรังหมดประเทศก่อน ถึงจะเหมาะใช้รถ ev กันแพร่หลายอย่างจริงจัง  8)
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 17:10:04 »
พวกคุณกำลังมาผิดทางกันหมด  ;D

อาวุธของประเทศด้านการค้าก็คือกำหนดกรอบของกฎหมาย และกำแพงภาษี
แต่ถ้าผลประโยชน์ของยักษ์ใหญ่ที่อยู่ภายในหละ?

ดูจากขนาดตัวถังรถอีโคคาร์ที่ระบุในกฎหมาย รึจะขนาด taxi ที่กำหนดไว้
ก็ต้องยอมรับกันหละ ว่าผู้ผลิตรายใหญ่มีความเกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทางพวกนี้

ยังไม่พูดถึงพวกได้รับผลประโยชน์จากการลงทุน ด้านภาษี หรือส่งออก
ที่จะต้องมีแพลนส่งให้รัฐรับรู้ตัวเลขประมาณการเหมือนที่ได้ยินมาก็ 3 ปีล่วงหน้าอย่างน้อย

ส่วนเทคโนโลยี ถ้าไม่มีแมสโปรดักชั่นของรายใหญ่มารองรับ
การนำมาใช้จริงของรายย่อยก็ยิ่งยากด้านราคา
ผมว่าข้อนี้ต่างหากที่คล้ายการกีดกันของรายใหญ่

ดูจากอีลอน มัสก์ ที่มีอิทธิพลด้านแบตรถยนต์ว่าในช่วง 3-5 ปีจะไปได้ถึงไหน?
ขนาดต่างประเทศทั้งดันทั้งผลักทั้งลาก ยังได้ประมาณที่เห็นๆกัน

ส่วนตัวมองว่ารถ ev ยังคงเหมาะกับการใช้ในเมืองเป็นหลักมากกว่า
รอให้ทางลูกรังหมดประเทศก่อน ถึงจะเหมาะใช้รถ ev กันแพร่หลายอย่างจริงจัง  8)

protectionism คือตัวถ่วงความเจริญ

ผมว่าต้องรอให้พวกไดโนเสาร์ลูกรังล้าหลัง หมดเจนหมดจากประเทศนี้ไปก่อน ประเทศถึงเริ่มมีโอกาสฟื้นฟูพัฒนาได้

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 17:17:14 »
เจ๋งแบบพรีอุส คอยดูละกัน  ;) ;) ;)

กระแสแรงให้ตาย แต่คนที่ซื้อเชื่อเถอะไม่มาก
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,698
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 17:43:50 »
พวกคุณกำลังมาผิดทางกันหมด  ;D

อาวุธของประเทศด้านการค้าก็คือกำหนดกรอบของกฎหมาย และกำแพงภาษี
แต่ถ้าผลประโยชน์ของยักษ์ใหญ่ที่อยู่ภายในหละ?

ดูจากขนาดตัวถังรถอีโคคาร์ที่ระบุในกฎหมาย รึจะขนาด taxi ที่กำหนดไว้
ก็ต้องยอมรับกันหละ ว่าผู้ผลิตรายใหญ่มีความเกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทางพวกนี้

ยังไม่พูดถึงพวกได้รับผลประโยชน์จากการลงทุน ด้านภาษี หรือส่งออก
ที่จะต้องมีแพลนส่งให้รัฐรับรู้ตัวเลขประมาณการเหมือนที่ได้ยินมาก็ 3 ปีล่วงหน้าอย่างน้อย

ส่วนเทคโนโลยี ถ้าไม่มีแมสโปรดักชั่นของรายใหญ่มารองรับ
การนำมาใช้จริงของรายย่อยก็ยิ่งยากด้านราคา
ผมว่าข้อนี้ต่างหากที่คล้ายการกีดกันของรายใหญ่

ดูจากอีลอน มัสก์ ที่มีอิทธิพลด้านแบตรถยนต์ว่าในช่วง 3-5 ปีจะไปได้ถึงไหน?
ขนาดต่างประเทศทั้งดันทั้งผลักทั้งลาก ยังได้ประมาณที่เห็นๆกัน

ส่วนตัวมองว่ารถ ev ยังคงเหมาะกับการใช้ในเมืองเป็นหลักมากกว่า
รอให้ทางลูกรังหมดประเทศก่อน ถึงจะเหมาะใช้รถ ev กันแพร่หลายอย่างจริงจัง  8)

ขอบคุณครับ พอเห็นภาพบางส่วนขึ้นมาบ้าง

ถ้าในแง่กรอบกฏหมาย และกำแพงภาษี อันนี้ผมว่าหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศเรา
ก็ออกกฏหมายและปรับลดภาษีให้เอื้ออำนวยต่อรถ EV และ HV แล้ว

ส่วนในแง่เทคโนโลยี และต้นทุนในแง่ของ mass production ก็คงเป็นเรื่องที่ว่ารายใหญ่นั้น
ย่อมได้เปรียบจริง ๆ  นั่นแหละครับ ตราบเท่าที่รายใหญ่ยังไม่ลงมาเล่น ราคาแบบแมสก็คงยังไม่เกิด
ตลาดก็ยังคงเป็นส่วนของเฉพาะกลุ่มไป

แต่มองดูแล้วก็ยังไม่เห็นว่าผู้มีอิทธิพลทางด้านน้ำมันและบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จะมีบทบาทอะไรใน 2 ส่วนนี้ครับ


ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 17:59:53 »
ให้อ่านทางของรัฐบาล
ตอนนี้รัฐกำลังหืดขึ้นคอเนื่องจากไม่สามารหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจ
อะไรได้เลย ซึ่งการลงทุนตูมๆ ของรัฐก็มีผลต่อ GDP แค่ 5-10%
เท่านั้น

เกี่ยวกับเรื่องรถไฟฟ้า รัฐไม่ได้มองไกลไปถึงว่าอีกหน่อยไฟฟ้าจะ
มีไม่พอใช้เพราะรถไฟฟ้า แต่มองแค่ว่า ต้องการให้นักลงทุนมีโอกาส
เปิดตลาดรถ EV/Hybrid ให้มากขึ้น เพราะจะได้มีเงินลงทุนไหลเข้า
มาช่วยได้บ้าง อัตราภาษีใหม่ก็เลยผ่านออกมาช่วยตรงนี้ เท่าที่ทำได้
ณ ตรงนี้

ส่วนค่ายไหนจะขายแพงเท่าเดิมเพื่อเอากำไรเพิ่ม หรือจะลดราคาให้
Hybrid แพร่หลายขึ้น ก็แล้วแต่จะเลือกทางเดินตามวิสัยทัศน์ของแต่ละค่าย
แต่รัฐยังไม่ได้คิดหวังขนาดหวังให้ ไทยเป็นจ้าวรถไฟฟ้าแบบจีน แค่อยากได้เงิน
มาลงทุนเฉพาะหน้า ไม่งั้นคงจัดการเรื่อง zoning หรือกำหนดค่ามลพิษโหดๆ

รัฐก็เข้าใจว่าทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะการทำให้คนจำนวนมากต้องเสียเงินผ่อนรถใหม่
จากจากนโยบายบังคับใดๆ เคยเกิดผลเสียหายมาแล้วจากสมัยโครงการรถคันแรก
เรื่องการจะ Zoning หรือการบังคับด้วยภาษีแรงๆ ตามค่ามลพิษจึงไม่ตอบโจทย์
ตรงนี้

ตอนนี้ตัว Top ของ Ativ ราคาเท่ารถ J M/T โล้นๆ ของ Vios ตรงนี้บอกได้
ว่า ทุกคนกำลังต้องการเรียกกำลังซื้อของคนกลับมา และตอนนี้ก็มี pro unlimited
เยอะไปหมดทุกวงการ ดังนั้นจึงบอกได้อีกอย่างว่า ค่ายรถตอนนี้ไม่ได้ focus กับ
รถไฟฟ้าหรือ Hybrid ในเมืองไทยเท่ากับการเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์
 ณ ตอนนี้ให้ได้ก่อน

แต่โปรเจ็คอย่าง Note e-power ก็น่าสนใจ ตรงที่มันไม่ใช่ Hybrid ทั่วๆ ไป
และอันที่จริง Nissan ก็ควรหลีกเลี่ยงคำการตลาดว่าเป็น Hybrid ด้วยซ้ำ
e-power เหมือนเป็นรถไฟฟ้า ที่เติมน้ำมันในการขับเคลื่อน ดูเหมือนจะเป็น
สะพานข้ามไปสู่ยุค EV ได้มากกว่าพวก Hybrid ซะอีก แต่ก็ยากที่จะรู้ได้ว่า
จะสามารถเอาชนะตลาดที่ซึมๆ แบบนี้ได้หรือไม่ Toyota ก็สกัดคู่แข่งไปแล้วด้วย
option ความปลอดภัยเต็มพิกัดตั้งแต่รุ่น J eco ซึ่งจริงๆ แล้ว เมื่อกี้ผมไปนั่ง
เทียบกับ Note มา (อยู่ seacon ตอนนี้) คุณภาพและ feeling ตัว Note ดีกว่า
เยอะ เพราะมันเป็นรถที่เกิดมากับตลาดญี่ปุ่นด้วย ส่วน Ativ ที่ดูด้อยกว่าก็เอา
ทุนไปลงที่ Airbag และระบบความปลอดภัยแทน

การมาของ Ativ พร้อมสเป็คแบบนี้ก็พอทำให้ Toyota สบายใจได้ว่า
ไม่มีรุ่นไหนมาทำให้ตลาดใหญ่ของบริษัทสะเทือนได้ครับ

ตอนนี้ผมก็รักพี่เสียดายน้องมากๆ คือ Ativ นั้นถูก คุ้ม ปลอดภัย ส่วน
Note ก็รถดี (ที่โลกลืม) สำหรับคนที่ไม่ได้มองรถแคบๆ แบบ Mazda
นะครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,587
  • may the force lead your way ...
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 18:05:50 »
พวกคุณกำลังมาผิดทางกันหมด  ;D

อาวุธของประเทศด้านการค้าก็คือกำหนดกรอบของกฎหมาย และกำแพงภาษี
แต่ถ้าผลประโยชน์ของยักษ์ใหญ่ที่อยู่ภายในหละ?

ดูจากขนาดตัวถังรถอีโคคาร์ที่ระบุในกฎหมาย รึจะขนาด taxi ที่กำหนดไว้
ก็ต้องยอมรับกันหละ ว่าผู้ผลิตรายใหญ่มีความเกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทางพวกนี้

ยังไม่พูดถึงพวกได้รับผลประโยชน์จากการลงทุน ด้านภาษี หรือส่งออก
ที่จะต้องมีแพลนส่งให้รัฐรับรู้ตัวเลขประมาณการเหมือนที่ได้ยินมาก็ 3 ปีล่วงหน้าอย่างน้อย

ส่วนเทคโนโลยี ถ้าไม่มีแมสโปรดักชั่นของรายใหญ่มารองรับ
การนำมาใช้จริงของรายย่อยก็ยิ่งยากด้านราคา
ผมว่าข้อนี้ต่างหากที่คล้ายการกีดกันของรายใหญ่

ดูจากอีลอน มัสก์ ที่มีอิทธิพลด้านแบตรถยนต์ว่าในช่วง 3-5 ปีจะไปได้ถึงไหน?
ขนาดต่างประเทศทั้งดันทั้งผลักทั้งลาก ยังได้ประมาณที่เห็นๆกัน

ส่วนตัวมองว่ารถ ev ยังคงเหมาะกับการใช้ในเมืองเป็นหลักมากกว่า
รอให้ทางลูกรังหมดประเทศก่อน ถึงจะเหมาะใช้รถ ev กันแพร่หลายอย่างจริงจัง  8)

ขอบคุณครับ พอเห็นภาพบางส่วนขึ้นมาบ้าง

ถ้าในแง่กรอบกฏหมาย และกำแพงภาษี อันนี้ผมว่าหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศเรา
ก็ออกกฏหมายและปรับลดภาษีให้เอื้ออำนวยต่อรถ EV และ HV แล้ว

ส่วนในแง่เทคโนโลยี และต้นทุนในแง่ของ mass production ก็คงเป็นเรื่องที่ว่ารายใหญ่นั้น
ย่อมได้เปรียบจริง ๆ  นั่นแหละครับ ตราบเท่าที่รายใหญ่ยังไม่ลงมาเล่น ราคาแบบแมสก็คงยังไม่เกิด
ตลาดก็ยังคงเป็นส่วนของเฉพาะกลุ่มไป

แต่มองดูแล้วก็ยังไม่เห็นว่าผู้มีอิทธิพลทางด้านน้ำมันและบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จะมีบทบาทอะไรใน 2 ส่วนนี้ครับ

อันนี้คุยกันเล่นๆนะครับ  :)
บ.น้ำมันในไทย เทียบระดับโลกก็ยังเป็นแค่รายยุ่ย (รายใหญ่ ย่อม ย่อย ยุ่ย)

ตอนนี้กำแพงที่กีดกัน shale gas ยังอยู่ที่ 70 us
ผู้ส่งออกน้ำมันก็ยังคงจับมือกันไม่ให้ราคาสูงจน shale gas ได้เกิด
เชื้อเพลิงน้ำมันถึงยังอยู่อีกพักใหญ่ๆๆ
(*คือมองว่าขนาดเชื่อเพลิงทดแทนแบบ shale gas ยังเกิดไม่ได้เลย
จึงต้องมาดูประเด็นถัดๆมาเพิ่มเข้าไปอีก)

ฉะนั้นกำแพงตัวหลักๆของการกีดกัน ev ผมมองว่ายังคงเป็นเทคโนโลยีของมันเอง
กับนิสัยการใช้งานของคนทั่วไปมากกว่าครับ

ตราบใดที่ยังใช้เวลาชาร์จไม่เร็วไปกว่าเวลาที่ใช้เติมน้ำมันตอนนี้
กับการใช้งานของคนทั่วไปที่ยังคงเข้าหาเส้นทางที่สะดวก ง่าย และรวดเร็วกว่า (ถูกกว่าด้วย)
คงยังไม่สามารถเกิดได้เต็มตัวแน่นวล

ซึ่งปัจจัยด้านราคาเชื้อเพลิงที่ผู้ส่งออกน้ำมันรวมตัวกันกำหนด
คงกำลังวางแผนรับมือกันน่าดูหละครับ กับทิศทางที่กำลังจะมาถึง
ก็จะคล้ายกีดกันทางอ้อมใหญ่ๆกันเลยทีเดียว

พอคนเริ่มลดการใช้น้ำมัน --> ทำราคาน้ำมันถูกลง --> คนกลับมาใช้น้ำมัน
--> คนผลิตแบตเตอรี่แมสเกิดไม่ได้ --> เลี้ยงราคาน้ำมัน

แบต ก็ได้แต่รอเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกในราคาที่ถูกลงนี่หละครับ รอดูกันไป  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2017, 18:13:47 โดย punn »
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,328
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 18:12:23 »
ในอนาคตมันไม่แน่นอนครับ ไม่อยากไปฟันธงอะไรไว้ก่อนครับ แต่ที่พอจะเดาๆได้รถไฟฟ้า ต้องใช้เวลาในการชาร์จแบตนานอยู่นะครับ  มันไม่ได้สะดวกสบายเหมือนเติมน้ำมันที่ใช้เวลา 5-10 นาทีก็เต็มถัง ถ้าเกิดมีรถ ไฟฟ้าวิ่งการเกลื่อนเมืองจริงๆ เรื่องแหล่งไฟฟ้าก็สำคัญครับ จะเอาแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากไหนรองรับกับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 18:38:24 »
ผมว่ามันมาเร็วกว่าที่ทุกคนคิดแน่ๆ เริ่มจากรถแพงๆ ในรถยุโรป

แล้วก็ดีเซก ญี่ปุ่น แล้วก็  ppv 

อีกหน่อยก็กินหมดแล้ว

รอแปบเดียว5 -10 ปีวิ่งกันเกลือน

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,479
Re: รถHybrid และ รถEV จะวิ่งเกลื่อนเมืองแน่นอน ฟันธง!
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2017, 19:08:54 »
ใครก็ได้ช่วยอธิบายผมทีครับ เรื่องที่ว่ามีผู้มีอิทธิพลทางน้ำมัน หรือบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่
ที่คอยสกัดกั้นไม่ให้รถไฟฟ้าได้เกิดเนี่ย  เขาทำกันยังไงครับ?

ขอคำอธิบายแบบชัด ๆ เลยนะครับ ไม่ใช่แบบคลุมเครือประเภท บีบรัฐบาล กีดกันบริษัทรถยนต์
บลา ๆ ๆ  อะไรแบบเนี้ยครับ
อยากถามแบบนี้เหมือนกัน เผื่อมีผู้รู้จริงมีแจงให้ฟังได้ 55